ดื่มด่ำทิวทัศน์งดงามให้กลิ่นอายบรรยากาศยุโรปกับจอร์เจีย ‘ดินแดนไข่มุกแห่งคอเคซัส’

 

สำหรับใครที่ต้องการสัมผัสวิวทิวทัศน์ และ ความงดงามทางธรรมชาติ ที่ให้บรรยากาศเหมือนได้ไปเที่ยวประเทศยุโรปแต่ไม่ต้องใช้เวลาเดินทางไกล เราขอแนะนำ ประเทศจอร์เจีย (Georgia) หรือ สาธารณรัฐจอร์เจียซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเทศท่องเที่ยวที่หากมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยืยน ต้องไปให้ได้สักครั้งในชีวิต สำหรับสาเหตุที่ว่าทำไมถึงต้องเป็นประเทศจอร์เจีย ‘ดินแดนไข่มุกแห่งคอเคซัส’ นั้น ทาง Artralux ผู้นำด้านการเดินทางที่มีบริการตั้งแต่ รับยื่นวีซ่า วางแผนการเดินทาง รับจัดกรุ๊ปส่วนตัวเที่ยวต่างประเทศ และบริการอื่นๆ อีกมากมายจะเผยคำตอบให้ทุกคนได้รู้ผ่านบทความนี้กัน

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

 

 

ชวนรู้จักเทือกเขาคอเคซัสผ่านมุมมองของประเทศที่มีชื่อว่าจอร์เจีย

เทือกเขาคอเคซัส (Caucasus) หนึ่งในเทือกเขาที่มีความสวยงาม และพาดผ่านหลายประเทศ และประเทศที่มียอดเขาสวยงามพาดผ่านและน่าสนใจมากที่สุดได้แก่ ประเทศจอร์เจีย นั่นเอง ซึ่งความพิเศษของประเทศจอร์เจียไม่ได้มีแค่นั้น ประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่สุดขอบทวีปเอเชีย บนจุดตัดระหว่างทวีปยุโรปตะวันออก และ เอเชียตะวันตก ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้นักท่องเที่ยวจึงมองฉายาให้กับประเทศจอร์เจีย ไม่ว่าจะเป็น “ดินแดนสวรรค์แห่งเทือกเขาคอเคซัส” หรือ “ไข่มุกแห่งคอเคซัส” และฉายาอื่นๆ อีกมากมายนั่นเอง

 

อย่างไรก็ดี สำหรับใครที่มีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวประเทศจอร์เจียและได้ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับคอเคซัสมาก่อนจะพบว่า คอเคซัส เป็นเทือกเขาสูงที่ตัดผ่านสถานที่ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นประเทศจอร์เจีย ประเทศรัสเซีย ประเทศอาร์เมเนีย และประเทศอาเซอร์ไบจาน รวมถึงสถานที่สำคัญต่างๆ อย่าง ภูเขาเอลบรุส (Mount Elbrus) ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาคอร์เคซัสและอยู่ใกล้กับประเทศจอร์เจีย เป็นต้น

 

 

กิจกรรมที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะไปเยือนคอเคซัส

เนื่องด้วยคอเคซัสเป็นเทือกเขาสูงขนาดใหญ่จึงทำให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางในฝัน (Final Destination) ของใครหลายคนโดยเฉพาะเหล่านักท่องเที่ยวสายลุยที่ชื่นชอบการผจญภัยเป็นชีวิตจิตใจ บอกได้เลยว่าไม่ควรพลาดสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะมีกิจกรรมต่างๆ รอคอยให้ทุกคนได้เข้าร่วมอยู่อย่างเช่น การเดินเทรคกิ้ง (Trekking), การปีนเขา (Hiking), หรือการเล่นสกี (Skiing) เป็นต้น ทั้งนี้ เราขอแนะนำเพิ่มเติมว่าสำหรับคนที่ชื่นชอบการเดินทางในแบบเทรคกิ้งหรือปีนเขาให้ไปในช่วงซัมเมอร์หรือประมาณเดือนกันยายนจะดีทีสุด เนื่องจากสภาพอากาศที่อบอุ่นไม่ร้อนจนเกินไปและท้องฟ้าแจ่มใส ในขณะที่ใครที่ชื่นชอบอากาศหนาวเย็นและอยากทำกิจกรรมเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด (Snowboard) เราขอแนะนำให้ไปช่วงปลายปีซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวที่มีอากาศเย็นสบายแถมทุกคนยังมีโอกาสได้สัมผัสกับหิมะอีกด้วย

 

 

แนะนำสถานที่เที่ยวต่างๆ ในประเทศจอร์เจีย ‘ดินแดนไข่มุกแห่งคอเคซัส’

นอกจากกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปยังคอเคซัสแล้ว เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศจอร์เจีย ซึ่งอยู่ติดกับเทือกเขาคอเคซัสเองก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นสถทางธรรมชาติ เชิงประวัติศาสตร์ หรือ ในเมืองหลวงก็ตาม ต่างเต็มไปด้วยเสน่ห์ และ ความน่าสนใจที่มีเอกลักษณ์บ่งบอกความเป็นประเทศจอร์เจียอย่างชัดเจน อีกทั้งเกี่ยวกับสภาพบ้านเรือน และ สถาปัตยกรรมต่างๆ ในประเทศจอร์เจียที่มีการผสมผสานสถาปัตยกรรมจากยุคสมัยต่างๆ เช่น โบสถ์ และ วิหารในจอร์เจีย ซึ่งต่างได้รับอิทธิพลของศิลปะมาจากยุคเมโสโปเตเมีย, โรมัน, นาโปเลีย, เปอร์เซีย ไปจนถึง ยุคของศิลปะตะวันออกกลาง เป็นต้น ทำให้จอร์เจียถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งใน Bucket List ของนักท่องเที่ยวหลายคนที่อยากมาเยือนดินแดนแห่งไข่มุกคอเคซัสก็ว่าได้ โดยเราได้คัดเอาสถานที่เที่ยวส่วนหนึ่งในจอร์เจียมาฝากกันตามลิสต์เหล่านี้

 

 

บาทูมิ (Batumi)

เมืองบาทูมิ เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศจอร์เจีย ซึ่งมีกลิ่นอายความเป็นเมืองร่วมสมัยอย่างเต็มเปี่ยมด้วยบรรยากาศของตัวเมืองที่มีความเก่าแก่แฝงความเป็นยุโรปสุดคลาสสิกในขณะเดียวกันก็ยังมีความทันสมัยเป็นอย่างยิ่งเพราะเมืองบาทูมิเป็นเมืองในจอร์เจียที่มีที่ตั้งตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาคอเคซัสติดริมฝั่งทะเลดำ จึงเหมาะแก่การมาพักตากอากาศ อีกทั้งที่นี่มีทั้งชายหาดสวย ๆ ให้เดินเล่น พร้อมมุมถ่ายภาพสวยๆ อีกด้วย อีกทั้งในเมืองแห่งนี้ยังสถานที่เที่ยวไฮไลท์สำคัญต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ป้อมปราการโกนิโอ (Gonio Fortress) ป้อมที่เก่าแก่ที่สุดในจอร์เจีย, ประติมากรรมความรักของอลีและนีโน (Ali and Nino Statue) อนุสาวรีย์คู่รักหญิงชาย ที่สร้างจากเหล็ก สูง 8 เมตร ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กและไอคอนิกของเมืองแห่งนี้, หอคอยตัวอักษร (Alphabetic Tower), บาทูมิยุโรปสแควร์ (Batumi Europe Square), และมหาวิหารแห่งการประสูติของพระแม่มารี (Holy Mother Virgin Nativity Cathedral) เป็นต้น

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

 

 

ทบิลิซี (Tbilisi)

สถานที่ท่องเที่ยวจอร์เจียที่ต้องไปเยี่ยมเยืยนหากมาเที่ยวจอร์เจีย (Georgia) ดินแดนไข่มุกแห่งคอเคซัสคงหนีไม่พ้นเมืองหลวงอย่างทบิลิซีที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์สถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนที่มีสีสันสดใส และ ผังเมืองแบบโบราณ ที่ยังคงรักษาความเก่าแก่ของศิลปะยุโรปในยุคต่างๆ ไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ตั้งแต่ในยุคเรเนอซองค์, ยุคโบซาร์ ไปจนถึงยุคโมเดิร์นยุโรป บอกได้คำเดียวว่าตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวทุกคนอย่างแน่นอน ยกตัวอย่างสถานที่เที่ยวในเมืองทบิลิซี เช่น ป้อมนาริกาลา (Narikala Fortress) เป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ที่มีมาตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 4, มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ทบิลิซี (Holy Trinity Cathedral of Tbilisi), หรือถนนรุสทาเวลี (Rustaveli Avenue) เป็นต้น

 

 

มิชเคห์ตา (Mtskheta)

แนะนำที่เที่ยวติดเทือกเขาคอเคซัสอย่างมิชเคห์ตา (Mtskheta) อดีตเมืองหลวงของประเทศจอร์เจียในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 3 – 5 โดยเมืองเล็กๆ แห่งนี้จะอยู่ห่างจาก ทบิลิซี เมืองหลวงปัจจุบันประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และอนุสรณ์สถานทางวัฒนธรรมหลายแห่ง อีกทั้งยังได้รับการยอมรับในฐานะเมืองมรดกโลกที่สำคัญจากองค์การยูเนสโก (UNESCO) อีกด้วย โดยไฮไลท์ที่เที่ยวที่สำคัญได้แก่ วิหารสเวติสโคเวลี (Svetitskhoveli Cathedral), อารามจวารี (Jvari monastery), และโบสถ์เกอร์เกตี้ (Gergeti Trinity Church) ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

 

 

อุชกูลลี (Ushguli)

อุชกูลลีเป็นหมู่บ้านที่อยู่ในเขตชุมชนเล็ก ๆ บนแนวเทือกเขาคอเคซัส Ushguli (อุชกูลลิ) หมู่บ้านที่ได้ชื่อว่าเป็นชุมชนที่อยู่สูงที่สุดในทวีปยุโรป ณ ความสูงกว่า 2,100 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล โดยผู้คนในชุมชนของหมู่บ้านอุชกูลลีมีผู้อาศัยอยู่ประมาณ 300 คน โดยใครที่มาเที่ยวดินแดนคอเคซัสแห่งนี้จะสัมผัสได้ถึงเสน่ห์วิถีชีวิตของผู้คนในหมู่บ้านที่มีความเรียบง่ายและยังคงรักษาวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน

 

 

คูทายสิ (Kutaisi)

ปิดท้ายกันด้วยเมืองจอร์เจียเล็กๆ ที่ติดกับเทือกเขาคอเคซัสอย่าง Kutaisi (คุไทซี) เมืองที่มีความเจริญเป็นอันดับสองรองจากกรุงทบิลิซีซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเมืองอุพลิสชิเค่ (Uplistsikhe) และเมืองเมสเทีย (Mestia) ซึ่งมีสถานที่ที่น่าสนใจมากมาย เช่น มหาวิหารบากราติ (Bagrati Cathedral) ซึ่งเป็นโบสถ์ที่เงียบสงบและสวยงามตั้งอยู่บนเนินเขาที่มีจุดเด่นคือไม้กางเขนขนาดใหญ่ รวมถึงอารามจีลาติ (Gelati Monastery) โบสถ์เก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1106 และเป็นสถานที่ที่องค์การยูเนสโกได้ทำการประกาศให้อารามแห่งนี้ขึ้นเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 1994 อีกด้วย ซึ่งใครที่ชื่นชอบเดินทางท่องที่ยวสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ละก็ รับรองว่าเมืองนี้ตอบโจทย์ความต้องการเดินทางของคุณอย่างแน่นอน

 

ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขาคอเคซัส หรือจอร์เจียก็ดี ทั้งสองสถานที่นี้ต่างมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งในฐานะหนึ่งในสถานที่เที่ยวที่น่าสนใจและได้รับความนิยมจากเหล่านักเดินทางมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยใครที่มาเยือนเทือกเขาคอเคซัส เราแนะนำกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆ เช่น การเดินเทรคกิ้ง ปีนเขา หรือเล่นสกี ในขณะที่หากมาเที่ยวประเทศจอร์เจีย เมืองต่างๆ อย่าง บาทูมิ ทบิลิซี มิชเคห์ตา หรือคูทายสิก็จัดเป็นสถานที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาดเช่นกัน ซึ่งใครที่กำลังผู้ช่วยวางแผนท่องเที่ยวหรืออยากจัดกรุ๊ปส่วนตัว สามารถติดต่อ Artralux เพื่อให้เราได้จัดทริปสุดพิเศษให้แก่ท่าน

 

สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)

📞 | 02-047-0083

💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว