หากใครมีโอกาสได้มาเยือนไอซ์แลนด์ ต้องบอกว่าที่นี่คืออีกหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำที่ไม่ควรพลาดนั่นก็คือ บลูลากูน สปาบ่อน้ำพุร้อนสุดหรูที่ติดอันดับ TOP 10 ของโลก ที่ให้คุณได้ผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการเดินทาง บทความนี้จะพาทุกคนมาทำความรู้จัก บลูลากูนไอซ์แลนด์ ให้มากขึ้นไปอีกขั้น จะมีอะไรบ้างมารับชมกันได้เลย
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
ที่มาของบลูลากูน
หลายคนอาจเข้าใจว่า บลูลากูน บ่อน้ำแร่สีฟ้าใส คือสปาจากธรรมชาติ แต่ที่จริงแล้ว ที่นี่คือสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นมาด้วยความบังเอิญจากการก่อสร้างโรงผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Svartsengi Geothermal Power plant) ในปี 1976 ทำให้ บลูลากูน ถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ตอนนั้น โดยน้ำที่อยู่ในบ่อมีส่วนผสมของแร่ธาตุที่ดีต่อผิวพรรณ มีสรรพคุณช่วยทำให้ผ่อนคลาย อาทิ ซิลิกา (Silica) และสาหร่าย (Algae) ซึ่งทำให้ทะเลสาบกลายเป็นสีฟ้าเปล่งประกายสวยงาม และยังมีโคลนที่อยู่รอบ ๆ ทะเลสาบที่สามารถนำมาพอกตามหน้า ตามตัว ที่จะทำให้คุณจะได้สัมผัสถึงความสดชื่น อีกทั้งยังช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก
บลูลากูน อยู่ที่ไหนในไอซ์แลนด์?
ไม่ว่าคุณจะมาแช่ตัวก่อนเดิบลูลากูนนทางเข้าหรือออกจากไอซ์แลนด์ บ่อน้ำแร่บลูลากูน พร้อมให้บริการทุกคนที่มาเยือน ที่นี่ตั้งอยู่ระหว่างเมือง Reykjavík (เรคยาวิก) และสนามบินนานาชาติ Keflavik International Airport เดินทางสะดวกด้วยรถบัสรับส่งจากที่สนามบิน
บลูลากูนไอซ์แลนด์ ราคาเท่าไหร่ เปิด – ปิด กี่โมง?
มาไอซ์แลนด์ทั้งที การได้มาผ่อนคลายแช่ตัวในบ่อน้ำแร่ธรรมชาติขนาดใหญ่ยักษ์ ในบรรยากาศแบบเป็นส่วนตัว ที่บลูลากูนนั้นนับได้ว่าเป็นคุณค่าที่คุณคู่ควร สำหรับใครที่อยากจะไปแช่น้ำร้อนที่นี่ สามารถไปได้ช่วงไหน ราคาค่าบริการเท่าไหร่ เรามีคำตอบ
1.บลูลากูนราคาเท่าไหร่?
สำหรับค่าเข้าไปผ่อนคลายใน บลูลากูน จะมีให้เลือก 3 ประเภท โดยราคาเริ่มต้นที่ท่านละ 8,490 ISK (โครนาไอซ์แลนด์) เป็นเงินไทยประมาณ 2,150 บาท สำหรับเด็กอายุระหว่าง 2-13 ปี ถ้ามากับผู้ใหญ่ จะไม่เสียค่าบริการ
2.บลูลากูนเปิดกี่โมง?
สำหรับเวลาเปิด – ปิด ของบลูลากูน จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล แต่สามารถมาได้ตลอดทั้งปี อยู่ที่ว่าใครจะมาช่วงไหน หากว่าคุณมาเที่ยวช่วงเดือน มกราคม – พฤษภาคม จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 09.00 – 21.00 น. ส่วนใครที่มาช่วงเดือนมิถุนายน จะเปิดให้บริการ 08.00 – 22.00 น. แต่ถ้ามาช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม เปิดตั้งแต่ 8.00 – 23.00 น. กันยายน – ตุลาคม เปิดตั้งแต่ 8.00 – 21.00 น. และ พฤศจิกายน – ธันวาคม เปิดตั้งแต่ 8.00 – 20.00 น.
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
น้ำพุร้อนบลูลากูน แตกต่างจากออนเซ็น อย่างไร?
ถ้าจะถามว่า บลูลากูน มีความแตกต่างจากการแช่น้ำร้อนในออนเซ็นอย่างไร อย่างแรกเลยคือ น้ำร้อนคนละแบบ รวมถึง การมาแช่น้ำที่บลูลากูนก็ไม่ต้องรู้สึกเขินอายแก้ผ้าก่อนลง เพราะว่าที่นี่มีข้อบังคับว่าต้องใส่ชุดว่ายน้ำก่อนลงสระ และจำเป็นต้องอาบน้ำให้สะอาดเสียก่อน เนื่องจากน้ำในทะเลสาบไม่มีคลอรีน ซึ่งอุณหภูมิของน้ำในบ่อจะอยู่ที่ 39 องศาเซลเซียส อีกทั้งน้ำในบลูลากูนจะมีการเปลี่ยนหมุนเวียนในทุก ๆ 48 ชม. ทำให้ทุกคนได้มั่นใจว่า ที่นี่สะอาด และได้สุขภาพที่ดี
นอกจากบลูลากูน ไอซ์แลนด์ มีอะไรน่าเที่ยวอีกบ้าง?
เปิดวาร์ปที่เที่ยวอีกมากมายในไอซ์แลนด์ หลังจากที่เราได้ผ่อนคลายด้วยการแช่บ่อน้ำร้อนบลูลากูนแล้ว ก็ได้เวลาไปเที่ยวกันต่อ เพราะที่เมืองหลวงของไอซ์แลนด์อย่าง Reykjavík (เรคยาวิก) ยังมีสถานที่สวย ๆ ให้เที่ยวชมมากมาย อีกทั้งผู้คนก็ไม่พลุกพล่านอย่างที่คิด
1.น้ำพุร้อน Gunnuhver
สะพานน้ำพุร้อนที่อยู่ใกล้กับบลูลากูน ที่นี่จะมีบ่อโคลนที่ร้อนเกินกว่าจะสัมผัสได้ โดยที่นี่เป็นเขตความร้อนใต้พิภพที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป โดยบริเวณใกล้เคียงของ Gunnuhver จะมีน้ำพุของน้ำร้อนใต้พิภพพุ่งออกมาจากพื้นดินจำนวนมหาศาล
2.บ่อน้ำร้อน Sky Lagoon
บ่อน้ำร้อนแห่งใหม่ในไอซ์แลนด์ ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อปี 2021 ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือคาร์สเนส ห่างจากตัวเมืองเรกยาวิก ที่จะให้คุณได้ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจไปกับบ่อน้ำร้อนที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ปล่องภูเขาไฟ พร้อมดื่มด่ำกับทัศนียภาพของมหาสมุทรแอตแลนติก แบบไม่มีอะไรมากั้น และถ้าโชคดีคุณอาจจะได้เห็นแสงเหนือยามค่ำคืนอีกด้วย เป็นการพักผ่อนหลังเมื่อยล้าจากการทำงานที่ดี เจอแบบนี้หายเหนื่อยเลย
3.โบสถ์ Hallgrímskirkja
ที่นี่คือโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1945 แต่แล้วเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1986 ตัวโบสถ์สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมแนว อิมเพรสชั่นนิสม์ (Impressionism) มีความสูงถึง 74.5 เมตร ชื่อโบสถ์ตั้งตามพระในศาสนาคริสต์ บริเวณด้านหน้าโบสถ์มีอนุสาวรีย์ของเลฟร์ อีริกสัน ยืนตระหง่าน ซึ่งในประวัติศาสตร์ไอซ์แลนด์ถือว่าวาเลฟร์ เป็นชาวนอสร์ชาติยุโรปคนแรกที่ไปเหยียบดินแดนแถบอเมริกาเหนือซึ่งรวมถึงกรีนแลนด์ด้วย ซึ่งนอกจากเป็นศาสนสถานแล้ว โบสถ์แห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่เราสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของเมืองเรคยาวิกอีกด้วย
4.Perlan สัญลักษณ์แห่งเรคยาวิก
ที่นี่ถือได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่ไม่มีชาวไอซ์แลนด์คนไหนไม่รู้จักเพราะถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเรคยาวิก เพอร์แลน (Perlan) เป็นอาคารขนาดใหญ่ ด้านบนเป็นรูปทรงคล้ายลูกโลกครึ่งวง ตั้งอยู่บนเนินเขา มีความสูงเท่ากับอาคาร 5 ชั้น
สัมผัสประสบการณ์ แช่สปาติดอันดับ TOP 10 ของโลกที่ Blue Lagoon และอีกหลายสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในไอซ์แลนด์ ติดต่อเรา Artralux เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการเดินทางสุด Exclusive ดั่ง แพคเกจ ไอซ์แลนด์ เราพร้อมทำให้ทริปการเดินทางของคุณน่าประทับใจไม่รู้ลืม
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว