ถ้ามีเวลาท่องเที่ยวรอบโลกสัก 10 วัน รับรองได้ว่าประเทศฝรั่งเศส จะต้องอยู่ในรายการ “ประเทศที่ต้องไปสักครั้งในชีวิต” อย่างแน่นอน เมืองที่รายล้อมไปด้วยสถานที่ที่มีเอกลักษณ์ บรรยากาศโรแมนติก และยังมีความหลากหลายของแฟชั่นให้คุณได้ตื่นตาตื่นใจ นอกจากที่กล่าวมาแล้วปฏิเสธไม่ได้ว่า “หอไอเฟล” เป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งที่ทำให้คิดถึงประเทศฝรั่งเศส หากใครไปแล้วไม่มีรูปถ่ายที่หอไอเฟลถือว่ายังไปไม่ถึง วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องหอไอเฟลพร้อมแนะนำกิจกรรมดีๆ ให้คุณได้รู้ก่อนที่จะเดินทางไปฝรั่งเศสกัน
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
ประวัติความเป็นมาของหอไอเฟล
ก่อนที่จะมีการก่อสร้างเกิดขึ้นคณะกรรมการการก่อสร้างต้องผ่านเสียงคัดค้านของชาวปารีสมากมายด้วยเหตุผลที่ว่า “เป็นประติมากรรมที่ไม่เหมาะกับเมืองอันสวยงามอย่างปารีส” เพราะการออกแบบที่อาศัยหลักต้านลมของวิทยาศาสตร์มาคำนวณจึงทำให้รูปลักษณ์ที่ออกมานั้นค่อนข้างจะแปลกไปสักหน่อยในสมัยนั้น กว่าจะสามารถเริ่มต้นการก่อสร้างได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
หอไอเฟลสร้างเมื่อ วันที่ 28 มกราคม 1887 ใช้เวลาสร้าง 2 ปี 2 เดือน 5 วัน และมีการจัดพิธีเปิดขึ้นในวันที่ 31 มีนาคม 1889 ในการก่อสร้างทางรัฐได้คัดเลือก กุสตาฟ ไอเฟล วิศวกรและสถาปนิกที่ผลงานโดดเด่นและมีชื่อเสียงอย่างมากในยุคนั้นเป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง โดยเหตุผลของการสร้างนั้นเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี แห่งการปฏิวัติของประเทศฝรั่งเศส ประติมากรรมที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่และความสำเร็จทางด้านอุตสาหกรรมเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ
หอไอเฟล มีความสูงเท่าไร?
ประติมากรรมหอไอเฟล ตั้งอยู่ ณ ณ ช็องเดอมาร์ บริเวณแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส ความสูงของหอไอเฟลนั้นมีความสูงถึง 324 เมตร เท่ากับตึก 81 ชั้น บันไดทั้งหมด 1,710 ขั้น เคยครองอันดับสิ่งก่อสร้างที่มีความสูงมากที่สุดในโลก จนอาคารไควสเลอร์ ในนิวยอร์กล้มแชมป์ในปี 1930 โดยที่ความสูงเหล่านั้นถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
1. ส่วนฐาน
ส่วนที่จะมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมมากที่สุด ภายใต้ฐานของหอไอเฟลจะมีการขายของที่ระลึกต่างๆ ของฝรั่งเศส ซึ่งแอบดีใจที่คนขายของที่ระลึกที่นี่พูดภาษาไทยได้ด้วย แสดงว่านักท่องเที่ยวไทยมาเยี่ยมชมเยอะเลยทีเดียว ส่วนฐานยังเป็นส่วนที่มีช่องทางซื้อตั๋วเพื่อขึ้นไปชมหอไอเฟลอยู่ด้วย
2. ส่วนกลาง
ส่วนที่ถัดขึ้นมาจากส่วนฐานเป็นส่วนที่มีความสวยงามอย่างมาก บรรยากาศดีเพราะมีการเปิดโล่งให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมวิว ส่วนกลางหอไอเฟลสามารถที่จะเดินขึ้นบันไดมาเพื่อเยี่ยมชมได้เลยไม่ต้องเสียค่าตั๋ว
3. ส่วนยอด
มาถึงจุดที่สูงที่สุดของหอไอเฟล ส่วนนี้ต้องใช้ลิฟต์ขึ้นมา โดยที่แต่ละชั้นจะมีราคาค่าเข้าชมต่างกัน ยิ่งสูงก็จะยิ่งมีราคาเพิ่มมากขึ้น แนะนำให้จองผ่านช่องทางออนไลน์มาจะดีกว่าเพราะราคาจะถูกกว่าซื้อที่โซนฐานของหอไอเฟล
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
หอไอเฟลมีสีอะไร?
สีของหอไอเฟลมีการเปลี่ยนแปลงตามระยะเวลาของการบูรณะในช่วงเวลานั้นๆ สีที่ผ่านมาของหอไอเฟลคือสีน้ำตาลแต่จะเป็นเฉดสีที่แตกต่างกัน โดยที่ด้านบนสุดเป็นส่วนที่เข้มที่สุด ไล่โทนสีอ่อนลงมาเรื่อยๆ จนถึงด้านล่าง ที่ต้องทำแบบนี้เพราะเมื่อมองผ่านหมอกในชั้นบรรยากาศจะทำให้มองเห็นหอไอเฟลเป็นสีเดียวกัน ก่อนหน้านั้นเคยทาสีแดงและเหลืองสดมาแล้วด้วย และกำลังจะมีโครงการทาเป็นสีเป็นสีเหลืองทองเพื่อแสดงถึงปีทองของประเทศฝรั่งเศสในการเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกโลกในปี 2024 ที่จะถึงนี้ด้วย
แนะนำร้านอาหารบนหอไอเฟล
อีกหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆ คือการรับประทานอาหารบนหอไอเฟลนั่นเอง เพราะนอกจากอาหารเลิศรสที่เปิดให้บริการแล้ว ทุกร้านยังได้รับการการันตีเลยว่าเป็นร้านที่มีวิวสวยของเมืองปารีสเป็นของแถม ให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศระดับ 5 ดาวผ่านหน้าต่างร้านที่ตั้งอยู่บนหอไอเฟลอย่างชัดเจน ร้านอาหารที่จะเอามาแนะนำ ได้แก่
Le Jules Veme
ร้านอาหารมิชลินสตาร์ 1 ดาวที่อยู่บริเวณชั้น 2 ของหอไอเฟล ร้านอาหารฝรั่งเศสที่มีสไตล์สุดหรูหรา เมนูอาหารแบบฟิวชั่นที่มีมาให้เลือกรับประทานทั้งแบบเซตและจานเดียว อาหารจานเด็ดที่เราจะเอามาแนะนำคือ Langoustines เมนูที่เอากุ้งตัวโตที่มีถิ่นกำเนิดแค่ในแถบยุโรปมาย่างและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ตกแต่งอย่างมีสไตล์เสิร์ฟพร้อมซอสสูตรพิเศษของทางร้านที่ดึงเอารสชาติของกุ้งออกมาได้อย่างลงตัว การเข้ามารับประทานที่นี่แนะนำให้จองคิวก่อนจะดีกว่าเพราะคิวยาวข้ามปีกันเลยทีเดียว
58 Tour Eiffel
ร้านต่อมาที่เราจะแนะนำ เป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่ชั้น 1 ของหอไอเฟล อาหารทุกจานปรุงด้วยความพิถีพิถันและมีศิลปะในการตกแต่งจาน ร้านที่เหมาะมากที่คู่รักจะมาสวีทกัน อาหารที่เสิร์ฟในแต่ละวันจะมีสองช่วงคือ มื้อกลางวันจะเสิร์ฟตั้งแต่เวลา 12.00-13.30 น. ของทุกวัน เซตอาหารที่ชื่อว่า Chic Picnic ในเซตจะมีอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก ขนมหวานรวมถึงเครื่องดื่มให้เลือกจะเป็นไวน์หรือเบียร์ก็สามารถแจ้งทางร้านได้เลย ราคาเริ่มต้นประมาณ 90 ยูโร อีกเซตจะเป็นมื้อดินเนอร์ที่จัดเสิร์ฟเวลา 18.30 น. และ 21.00 น. มีเซตอาหารช่วงเวลาละ 3 เซตให้คุณได้เลือกรับประทาน เมนูเด็ดคือ ฟัวร์กราส์ ต้นตำรับฝรั่งเศสแท้ๆ ที่มาถึงถิ่นแล้วต้องลอง มาพร้อมปลาค็อดย่างที่จัดมากับผักตามฤดูกาลปรุงในซุปหอยเป็นรสชาติที่ดั้งเดิมและกลมกล่อมมากๆ เลย
สร้างประสบการณ์ท่องยุโรปไปกับเที่ยวบินที่แสนจะ Luxury ไม่ว่าจะเป็นเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส หรือประเทศอื่นๆ สามารถติดต่อมาที่ Artralux เพื่อสร้างทริปเดินทางท่องเที่ยวต่างๆ เช่น เที่ยวดูไบ และ เที่ยวยุโรปตะวันออก ที่คุณจะต้องได้รับความประทับใจกับการเดินทางสุด Exculsive ที่เราจะจัดสรรให้การเดินทางของคุณสะดวกสบายและน่าจดจำไปอีกนาน
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว