ฮอกไกโด (Hokkaido) เกาะทางเหนือสุดของญี่ปุ่น ไม่เพียงเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติและอาหารทะเล แต่ยังเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความลับที่น่าสนใจที่คนส่วนใหญ่อาจไม่เคยรู้มาก่อน ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจฮอกไกโดในมุมที่ลึกขึ้น ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา ภูมิประเทศ สภาพอากาศ ไปจนถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่จนทำให้ฮอกไกโดแตกต่างจากที่อื่นในญี่ปุ่น
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
ประวัติความเป็นมาของฮอกไกโด จากดินแดนชาวไอนุสู่ศูนย์กลางทางวัฒนธรรม

ฮอกไกโดไม่เพียงเป็นเกาะที่สวยงามทางธรรมชาติ แต่ยังมีประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งและน่าสนใจ ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน ก่อนที่ฮอกไกโดจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการในยุคเมจิ (ค.ศ. 1868) ดินแดนแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวไอนุ (Ainu) ชนพื้นเมืองที่มีวัฒนธรรมและภาษาที่แตกต่างจากชาวญี่ปุ่นโดยสิ้นเชิง
ชาวไอนุ เจ้าของดินแดนดั้งเดิม

ชาวไอนุเป็นกลุ่มชนที่อาศัยอยู่ในฮอกไกโดและบางส่วนของเกาะซาฮาลินและคูริล (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย) พวกเขามีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง เป็นนักล่าสัตว์และหาปลาที่มีความชำนาญ เชื่อในการเคารพสัตว์และพืช โดยเฉพาะหมี “คามุย” หรือเทพเจ้า ซึ่งถือเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ในวัฒนธรรมไอนุ ชาวไอนุมีภาษาของตัวเองซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับภาษาญี่ปุ่น และวัฒนธรรมไอนุมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมีงานหัตถกรรม ประเพณีการร้องเพลงและการเต้นรำที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น การเต้นรำ “ยูการ์” (Yukar) ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องราวผ่านบทเพลง

ต่อมา เมื่อญี่ปุ่นเริ่มขยายอำนาจเข้ามาในฮอกไกโดในช่วงยุคเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) และยุคเมจิ (ค.ศ. 1868-1912) ชาวไอนุถูกบังคับให้ละทิ้งวัฒนธรรมดั้งเดิมและกลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมญี่ปุ่นสมัยใหม่ แม้ว่าปัจจุบันชาวไอนุจะเหลือจำนวนไม่มาก แต่รัฐบาลญี่ปุ่นและองค์กรต่าง ๆ ได้เริ่มฟื้นฟูและอนุรักษ์วัฒนธรรมไอนุมากขึ้น เช่น การสร้างพิพิธภัณฑ์ไอนุที่ชิราโออิ (Shiraoi) และการส่งเสริมให้ชาวไอนุมีส่วนร่วมในสังคมมากขึ้น
ยุคเมจิ การพัฒนาฮอกไกโดสู่ความเป็นญี่ปุ่นสมัยใหม่

ในยุคเมจิ ฮอกไกโดถูกมองว่าเป็นดินแดนใหม่ที่มีศักยภาพในการพัฒนา รัฐบาลญี่ปุ่นส่งเสริมให้ชาวญี่ปุ่นจากเกาะฮอนชูอพยพมาสร้างเมืองและทำเกษตรกรรมในฮอกไกโด นี่คือจุดเริ่มต้นของการสร้างเมืองสำคัญอย่างซัปโปโร (Sapporo) ซึ่งถูกออกแบบโดยวิศวกรชาวอเมริกันและมีโครงสร้างเมืองที่ทันสมัย
หนึ่งในบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาฮอกไกโดคือ ดร. วิลเลียม เอส. คลาร์ก (William S. Clark) นักวิชาการชาวอเมริกันที่มาสอนเกษตรกรรมที่วิทยาลัยเกษตรซัปโปโร (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยฮอกไกโด) คำพูดของเขาที่ว่า “Boys, be ambitious!” ยังคงเป็นคำขวัญที่โด่งดังและเป็นแรงบันดาลใจให้คนญี่ปุ่นจนถึงทุกวันนี้
ฮอกไกโดในยุคปัจจุบัน ความสมดุลระหว่างความทันสมัยและธรรมชาติ

ปัจจุบัน ฮอกไกโดเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น ทั้งในด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม เมืองซัปโปโรเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่มีชีวิตชีวา ในขณะที่พื้นที่ชนบทยังคงรักษาความสวยงามของธรรมชาติไว้ได้อย่างสมบูรณ์ ฮอกไกโดยังเป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของญี่ปุ่น โดยเฉพาะนม เนื้อวัว และอาหารทะเล
นอกจากนี้ ฮอกไกโดยังเป็นตัวอย่างของการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมและสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว การฟื้นฟูวัฒนธรรมไอนุและการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมทำให้ฮอกไกโดเป็นดินแดนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเป็นจุดหมายปลายทางที่ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและนักวิจัยจากทั่วโลก
ที่ตั้งและภูมิประเทศ ธรรมชาติที่หลากหลายและอุดมสมบูรณ์

ฮอกไกโดตั้งอยู่ทางเหนือสุดของญี่ปุ่น มีพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 83,453 ตารางกิโลเมตร (ข้อมูลจาก ฮอกไกโด-วิกิพีเดีย) ทำให้เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของญี่ปุ่น (รองจากฮอนชู) ภูมิประเทศของฮอกไกโดมีความหลากหลายอย่างน่าประทับใจ ตั้งแต่เทือกเขาสูง ทะเลสาบใสสะอาด ป่าไม้กว้างใหญ่ ไปจนถึงที่ราบสูงและชายฝั่งทะเลที่สวยงาม
หนึ่งในจุดเด่นของฮอกไกโดคือ อุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง (Daisetsuzan National Park) ซึ่งเป็นอุทยานที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นที่รู้จักในฐานะ “หลังคาของฮอกไกโด” เพราะมีภูเขาสูงหลายแห่ง รวมถึงภูเขา Asahidake ที่สูงที่สุดในเกาะ นอกจากนี้ยังมี ทะเลสาบโทยะ (Lake Toya) และ ทะเลสาบชิค็อตสึ (Lake Shikotsu) ซึ่งเป็นทะเลสาบที่เกิดจากภูเขาไฟและมีน้ำใสจนมองเห็นพื้นล่างได้
สภาพอากาศ ฤดูกาลที่ชัดเจนและสวยงาม

ฮอกไกโดมีสภาพอากาศที่แตกต่างจากส่วนอื่นของญี่ปุ่น เนื่องจากอยู่ใกล้กับรัสเซียและได้รับอิทธิพลจากลมหนาวจากไซบีเรีย ฤดูหนาวที่นี่ยาวนานและมีหิมะตกหนัก ทำให้ฮอกไกโดเป็นสวรรค์ของนักเล่นสกีและสโนว์บอร์ด โดยเฉพาะที่เมืองนิเซโกะ (Niseko) และฟูราโน่ (Furano)
ฤดูร้อนของฮอกไกโดค่อนข้างเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 20-25 องศาเซลเซียส ทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการเดินป่าและชมทุ่งดอกไม้ เช่น ทุ่งลาเวนเดอร์ที่ฟูราโน่ และทุ่งดอกไม้ป่าในอุทยานแห่งชาติชิค็อตสึ-โทยะ
วิธีการเดินทาง การเชื่อมต่อที่สะดวกสบาย

การเดินทางไปฮอกไกโดไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป จากประเทศไทย คุณสามารถบินตรงไปยังสนามบินชินชิโตเซะ (New Chitose Airport) ซึ่งเป็นสนามบินหลักของฮอกไกโด โดยใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง จากนั้นสามารถใช้รถไฟหรือรถบัสเพื่อเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ ในฮอกไกโด นอกจากนี้ในฮอกไกโดก็ยังมีสนามบินอื่น ๆ ที่ให้บริการอีกด้วย เช่น สนามบินฮาโกดาเตะ และสนามบินอาซาฮิกาวะ
ส่วนระบบขนส่งสาธารณะในฮอกไกโดค่อนข้างสะดวกสบาย โดยเฉพาะรถไฟ JR Hokkaido ที่เชื่อมต่อเมืองสำคัญ ๆ เช่น ซัปโปโร ฮาโกดาเตะ (Hakodate) และอาซาฮิกาวะ (Asahikawa) นอกจากนี้ยังมีรถเช่าให้บริการสำหรับผู้ที่ต้องการสำรวจเกาะด้วยตนเอง และยังมีรถไฟด่วนพิเศษ (Limited Express) ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังเมืองที่สำคัญในออกไกโด เช่น ซัปโปโร ฮาโกดาเตะ และอาซาฮิกาวะ และยังสามารถใช้ Japan Rail Pass นับว่าเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าเลยทีเดียว
แผนที่เดินทางไปฮอกไกโด Google Maps
เมืองสำคัญและสถานที่ท่องเที่ยว
- ซัปโปโร (Sapporo)

เมืองหลวงของฮอกไกโดและศูนย์กลางทางวัฒนธรรม โดดเด่นด้วยสวนโอโดริ (Odori Park) พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร เทศกาลหิมะซัปโปโรที่จัดขึ้นทุกเดือนกุมภาพันธ์ โรงงานช็อกโกแลตชิโรอิโคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park) ตลาดนิโจ (Nijo Market) และสวนโมเอเรนุมะ (Moerenuma Park)
- ฮาโกดาเตะ (Hakodate)

เมืองท่าที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ขึ้นชื่อด้วยทิวทัศน์ยามค่ำคืนจากภูเขา Hakodate ตลาดอาหารทะเล Hakodate Morning Market ป้อมโงเรียวกะคุ (Fort Goryokaku) และย่านโกดังอิฐแดงคาเนโมริ (Kanemori Red Brick Warehouse)
- ฟูราโน่ (Furano)

เมืองแห่งทุ่งดอกไม้และไร่องุ่น เป็นแหล่งผลิตไวน์และน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียง และยังมีกิจกรรมกลางแจ้งอื่น ๆ อีกด้วย เช่น เดินป่า ขี่จักรยาน และล่องแก่ง
- อาซาฮิกาวะ (Asahikawa)

เมืองที่ขึ้นชื่อด้วยสวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo) และเป็นประตูสู่อุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ศิลปะอาซาฮิกาวะ และโรงกลั่นเหล้าสาเก
ข้อมูลที่น่าสนใจที่คนไม่ค่อยรู้
- ฮอกไกโดคือแหล่งผลิตนมและผลิตภัณฑ์นมที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น นม เนย และไอศกรีมจากฮอกไกโดมีรสชาติที่หอมมันและเป็นที่นิยมทั่วประเทศ (ข้อมูลจาก JNTO)
- ฮอกไกโดมีฤดูใบไม้ผลิที่สั้นแต่สวยงามมาก โดยเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติชิค็อตสึ-โทยะ ซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้ป่าและนกนานาชนิด
- ชาวไอนุยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ แม้จะได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมญี่ปุ่นสมัยใหม่ แต่ชาวไอนุยังคงมีพิธีกรรมและภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
- ฤดูร้อนคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยือนฮอกไกโด แม้หลายคนจะนึกถึงฮอกไกโดในฐานะจุดหมายปลายทางสำหรับเล่นสกี แต่จริงๆ แล้วฤดูร้อนของฮอกไกโดก็สวยงามไม่แพ้กัน โดยเฉพาะทุ่งดอกไม้และเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลโยซาโกะอิ (Yosakoi Soran Festival) ในซัปโปโร
- ฮอกไกโดมีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นมากที่สุดในญี่ปุ่น ภูเขาเมะอะคังและภูเขาโชวะชินซัง (Mount Showa Shinzan) เป็นตัวอย่างของภูเขาไฟที่ยังมีพลัง และคุณสามารถเห็นไอน้ำพวยพุ่งได้จากระยะใกล้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับฮอกไกโด

1. ฤดูไหนดีที่สุดสำหรับเที่ยวฮอกไกโด?
ฮอกไกโดมีเสน่ห์ในทุกฤดู แต่ฤดูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ฤดูหนาว สำหรับการเล่นสกีและชมเทศกาลหิมะซัปโปโร และ ฤดูร้อน สำหรับการชมทุ่งดอกไม้และธรรมชาติที่สวยงาม
2. ซัปโปโรมีอะไรน่าสนใจบ้าง?
ซัปโปโรเป็นเมืองหลวงของฮอกไกโดและมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น สวนโอโดริ พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร และตลาดนาจิ ซึ่งขึ้นชื่อด้วยอาหารทะเลฮอกไกโด
3. อาหารแนะนำในฮอกไกโดมีอะไรบ้าง?
อาหารทะเลฮอกไกโด เช่น ปู ปลาแซลมอน และหอยเชลล์ เป็นสิ่งที่ต้องลอง นอกจากนี้ยังมีราเมงซัปโปโรและซุปแกงกะหรี่ที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่
4. ควรใช้ JR Pass ฮอกไกโดไหม?
หากคุณวางแผนเดินทางหลายเมืองในฮอกไกโด การใช้ JR Pass ฮอกไกโดจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก เพราะครอบคลุมการเดินทางด้วยรถไฟทั่วเกาะ
5. เทศกาลสำคัญของฮอกไกโดที่ไม่ควรพลาดมีอะไรบ้าง?
เทศกาลหิมะซัปโปโรในเดือนกุมภาพันธ์และเทศกาลดอกไม้ไฟที่ทะเลสาบโทยะในฤดูร้อน เป็นสองเทศกาลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
แนะนำแผนเที่ยวฮอกไกโด 5 วัน 4 คืน

วันแรก เดินทางถึงสนามบินชินชิโตเซะ และเดินทางเข้าสู่ซัปโปโร เริ่มต้นด้วยการเที่ยวชมสวนโอโดริและตลาดนาจิ
วันที่สอง เดินทางไปฮาโกดาเตะ ชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนจากภูเขา Hakodate และเที่ยวชมตลาดอาหารทะเล
วันที่สาม เดินทางไปฟูราโน่ ชมทุ่งลาเวนเดอร์และไร่องุ่น
วันที่สี่ เดินทางไปอาซาฮิกาวะ เที่ยวชมสวนสัตว์อาซาฮิยามะและอุทยานแห่งชาติไดเซ็ตสึซัง
วันที่ห้า เดินทางกลับซัปโปโร ช้อปปิ้งและเตรียมตัวกลับ
สรุป ฮอกไกโดมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด
ฮอกไกโดไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทางสำหรับการท่องเที่ยว แต่เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ การมาเยือนฮอกไกโดคือการได้สัมผัสกับอีกด้านของญี่ปุ่น ที่แตกต่างจากโตเกียวหรือเกียวโต แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความน่าสนใจที่ไม่ควรพลาด
หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การเดินทางที่แตกต่างและมีคุณค่า ฮอกไกโดคือคำตอบที่คุณตามหา ไม่ว่าจะเป็นฤดูหนาวที่เต็มไปด้วยหิมะขาวโพลน หรือฤดูร้อนที่สดใสด้วยทุ่งดอกไม้สีสันสดใส ฮอกไกโดพร้อมต้อนรับคุณด้วยธรรมชาติและวัฒนธรรมที่ไม่มีที่ไหนเหมือน ใช้ Artralux ช่วยวางแผนท่องเที่ยวที่คุณออกแบบเองได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลกับปัญหาจุกจิก ไม่ว่าจะเป็นที่พักไหนดี ร้านอาหารร้านไหนอร่อย หรือที่เที่ยวที่ไหนดี ปรึกษาเราวันนี้แล้วไปเที่ยวกัน
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42