มหาวิทยาลัยฮอกไกโด

พาย้อนรอยอดีต มหาวิทยาลัยฮอกไกโด สู่วิจัยล้ำสมัย บรรยากาศสุดโรแมนติก

เมื่อเอ่ยถึง การศึกษาในญี่ปุ่น หลายคนอาจนึกถึง สถาบันการศึกษาชั้นนำ อย่างโตเกียวหรือเกียวโตเป็นหลัก แต่ใน ภาคเหนือของญี่ปุ่น ยังมีอีกหนึ่งสถาบันที่ทรงอิทธิพลและน่าสนใจไม่แพ้ใคร นั่นคือ “มหาวิทยาลัยฮอกไกโด” หรือ Hokkaido University ซึ่งตั้งอยู่ใจกลาง ซัปโปโร (Sapporo) เมืองหลวงแห่งเกาะฮอกไกโด บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกตั้งแต่ต้นกำเนิดของสถาบันอันเก่าแก่แห่งนี้ ไปจนถึงข้อสงสัยมากมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งเรื่อง ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ วิธีเดินทาง รวมถึงบรรยากาศที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

ประวัติความเป็นมาจาก Sapporo Agricultural College สู่ Hokkaido University

ภายในโกดัประวัติความเป็นมา Sapporo Agricultural College
ภายในโกดัประวัติความเป็นมา Sapporo Agricultural College

“ประวัติความเป็นมาของ Sapporo Agricultural College ในยุคเปิดประเทศญี่ปุ่น” คือหนึ่งในคำถามยอดฮิตของผู้ที่สนใจเจาะลึกเรื่องราวของมหาวิทยาลัยฮอกไกโด เพราะในปี ค.ศ. 1876 (พ.ศ. 2419) รัฐบาลญี่ปุ่นได้ก่อตั้งวิทยาลัยเกษตรขนาดเล็กนาม Sapporo Agricultural College เพื่อผลักดัน การวิจัยด้านเกษตร ตามแนวคิดที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตก ช่วงเวลาดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของญี่ปุ่น ทำให้สถาบันแห่งนี้กลายเป็นศูนย์ วิจัยและพัฒนา (R&D) สำคัญทางการเกษตร (ข้อมูลจาก มหาวิทยาลัยฮกไกโด วิกิพีเดีย)

ต่อมา 1 เมษายน ค.ศ. 1918 วิทยาลัยได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็น “มหาวิทยาลัยฮอกไกโด” ที่เรารู้จักในปัจจุบัน โดยได้ขยายหลักสูตรไปสู่หลากหลายสาขาวิชา อาทิ วิศวกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของ National Seven Universities ซึ่งเป็นเครือข่าย สถาบันการศึกษาชั้นนำ ที่มีชื่อเสียงในระดับสากล

ฉันรู้สึกทึ่งกับ “การเปิดรับนักศึกษาต่างชาติของมหาวิทยาลัยฮอกไกโด” ในอดีต เพราะเมื่อย้อนมองไปในยุคที่ญี่ปุ่นยังเปิดประเทศไม่นาน การผสมผสานองค์ความรู้จากต่างประเทศเข้ากับการเกษตรและวัฒนธรรมญี่ปุ่น ถือเป็นเรื่องท้าทายและกล้าหาญอย่างยิ่ง

ที่ตั้งหัวใจของซัปโปโร ใกล้ชิดธรรมชาติภาคเหนือของญี่ปุ่น

หากมีใครถามว่า “มหาวิทยาลัยฮอกไกโด ตั้งอยู่ในจังหวัดอะไร” คำตอบก็คือ จังหวัดฮอกไกโด (Hokkaido) ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง ซัปโปโร (Sapporo) พื้นที่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางของ การศึกษาระดับอุดมศึกษาในญี่ปุ่น ในภูมิภาคเหนือ มีสถาบันที่โดดเด่นหลายแห่ง แต่หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ Hokkaido University ซึ่งอยู่ใกล้ สถานีรถไฟซัปโปโร เพียง 5 – 10 นาที ทำให้ การเดินทางไปมหาวิทยาลัยฮอกไกโด เป็นเรื่องง่ายและสะดวกมาก

ที่อยู่ 

5 Chome Kita 8 Jonishi, Kita Ward, Sapporo, Hokkaido 060-0808 ญี่ปุ่น

Google Maps

Hokkaido University 

มหาวิทยาลัยฮอกไกโด
มหาวิทยาลัยฮอกไกโด

วิธีเดินทางจากสถานีซัปโปโรไปยังมหาวิทยาลัยฮอกไกโดให้สะดวกที่สุด

  • รถไฟ JR ลงที่สถานี Sapporo Station แล้วเดินต่อเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงมหาวิทยาลัย
  • รถบัสสาธารณะ เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ย่านอื่นของซัปโปโร ตรวจสอบเส้นทางผ่านแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ของ Sapporo City Transportation
  • แท็กซี่ เร็ว สะดวก แต่ค่าใช้จ่ายสูงกว่า

ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ และเวลาทำการพิพิธภัณฑ์

Hokkaido University Museum
Hokkaido University Museum

ภายในมหาวิทยาลัยฮอกไกโดมี Hokkaido University Museum พิพิธภัณฑ์หลักที่บอกเล่าเรื่องราวของงานวิจัย องค์ความรู้ และประวัติศาสตร์ของสถาบันแห่งนี้ สามารถเข้าชมได้ ฟรี ไม่มีค่าตั๋ว แต่ในศูนย์แสดงผลงานวิจัยพิเศษหรืออีเวนต์ (ถ้ามี) บางงานอาจมีการเก็บค่าใช้จ่ายเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับลักษณะของกิจกรรมหรือทุนสนับสนุน

ให้ผู้คนสัมผัสความน่าทึ่งของคอลเลกชันตัวอย่างและเอกสารทางวิชาการกว่า 3 ล้านชิ้น ที่ถูกเก็บรักษาและศึกษาอย่างพิถีพิถัน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีไฮไลต์จัดแสดงที่หลากหลาย ตั้งแต่ โครงกระดูกโฮลสไตน์ขนาดใหญ่ ไปจนถึง หุ่นจำลองช้างแมมมอธเท่าขนาดจริง

อีกหนึ่งจุดเด่นคือ “ห้องจัดแสดงที่รับความรู้สึกได้” ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ชมสัมผัสตัวอย่างด้วยมือ พร้อมเรียนรู้วิธีการทำงานของ เครื่องวัดแผ่นดินไหว และสำหรับผู้ที่หลงใหลในงานวิจัย ยังสามารถเยี่ยมชม “มิวเซี่ยมแล็บ” เพื่อสำรวจการทำงานเบื้องหลังของนักวิทยาศาสตร์ได้อย่างใกล้ชิด

โครงกระดูกโฮลสไตน์ขนาดใหญ่
โครงกระดูกโฮลสไตน์ขนาดใหญ่

ทั้งหมดนี้ทำให้พิพิธภัณฑ์ของมหาวิทยาลัยฮอกไกโดเป็นมากกว่าสถานที่จัดแสดง แต่เป็นพื้นที่ที่ผสานความรู้และความน่าตื่นตาตื่นใจไว้ในที่เดียว

การเดินชมพื้นที่รอบ ๆ ของ Hokkaido University ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่สำหรับ Hokkaido University Museum ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์หลักของมหาวิทยาลัย หลายคนสงสัยว่า “ค่าเข้าชม Hokkaido University Museum เท่าไหร่” คำตอบคือ ฟรี! โดยจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 10.00 – 17.00 น. (อาจปรับเปลี่ยนตามฤดูกาล) และปิดทำการทุกวันจันทร์กับวันหยุดนักขัตฤกษ์บางวัน สามรถตรวจสอบได้จาก เว็บไซต์ทางการของมหาวิทยาลัยฮอกไกโด

สำหรับผู้เขียนคิดว่าการที่ทางมหาวิทยาลัยเปิดให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟรี สะท้อนถึงปรัชญาในการเป็น สถาบันการศึกษาชั้นนำ ที่ต้องการส่งเสริมความรู้ให้คนทั่วไป ซึ่งต่างจากการแปลงสภาพเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว

รีวิวบรรยากาศจากฤดูร้อนจรดฤดูหนาว

มหาวิทยาลัยฮอกไกโด ช่วงฤดูหนาว
มหาวิทยาลัยฮอกไกโด ช่วงฤดูหนาว

มีคนจำนวนไม่น้อยที่ค้นหาข้อมูลในหัวข้อ “รีวิวบรรยากาศรอบมหาวิทยาลัยฮอกไกโด ช่วงฤดูหนาว” เพราะในฤดูหิมะที่นี่จะกลายเป็นภาพสีขาวโพลนสุดโรแมนติก บางครั้งคุณจะเห็นนักศึกษาและนักวิจัยเดินตัดหิมะอย่างขะมักเขม้น ซึ่งให้อารมณ์ที่แตกต่างจากช่วงฤดูร้อนที่เขียวขจี สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย วัฒนธรรมองค์กรมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น จะพบว่า ทั้งอาจารย์และเจ้าหน้าที่ต่างให้ความสำคัญกับสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ ทำให้บรรยากาศการทำงานและการวิจัยดูผ่อนคลายแบบมืออาชีพ

ชีวิตนักศึกษาที่นี่ เป็นอย่างไร?

นักศึกษาต่างชาติในมหาวิทยาลัยฮอกไกโด
นักศึกษาต่างชาติในมหาวิทยาลัยฮอกไกโด

ชีวิตนักศึกษาต่างชาติในมหาวิทยาลัยฮอกไกโดเป็นอย่างไร” คือคำถามที่มักเกิดขึ้นกับใครหลายคนที่อยากมา เรียนต่อญี่ปุ่น สำหรับที่นี่ คุณจะได้สัมผัสความเป็นสากลของมหาวิทยาลัย ทั้งหลักสูตรนานาชาติและเพื่อน ๆ จากหลากหลายประเทศ แถมยังได้เรียนรู้ ประวัติศาสตร์ของฮอกไกโด ควบคู่ไปกับโลกวิชาการสมัยใหม่ ในขณะเดียวกันก็ได้พัฒนาทักษะการปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศและวัฒนธรรมใหม่ ๆ

ผู้เขียนเคยพูดคุยกับนักศึกษาต่างชาติที่มาเรียนที่มหาวิทยาลัยฮอกไกโด หลายคนบอกว่า ที่นี่เปิดกว้างทางความคิด และสนับสนุนงาน วิจัยและพัฒนา (R&D) ที่หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็น การวิจัยด้านเกษตร วิทยาศาสตร์สุขภาพ หรือเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม

ทำไมมหาวิทยาลัยฮอกไกโดถึงเป็นสถาบันวิจัยชั้นนำของญี่ปุ่น?

วัฒนธรรมองค์กรมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น

คำตอบส่วนหนึ่งคือการสนับสนุน คณะและหลักสูตรเด่นของมหาวิทยาลัยฮอกไกโด โดยเฉพาะในสาขาที่เกี่ยวข้องกับภูมิอากาศหนาวเย็น เช่น การวิจัยโรคติดเชื้อในสภาพอากาศเย็น และการพัฒนาพันธุ์พืชที่ทนทาน อีกทั้งสถาบันยังให้ความสำคัญกับ วัฒนธรรมองค์กรมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น ที่เน้นการทำงานเป็นทีม และการแชร์ความรู้ร่วมกัน เมื่อบวกกับสิ่งแวดล้อมที่สงบและเอื้อต่อการเรียนรู้ ทำให้ที่นี่กลายเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับผู้ที่สนใจมาทำงานวิจัยในหลากหลายแขนง

เคล็ดลับการเตรียมตัวก่อนเรียนต่อมหาวิทยาลัยฮอกไกโด

Ginkgo avenue at Hokkaido University

นอกจากเรื่องภาษาและการปรับตัว หลายคนยังถามว่า “ควรเลือกช่วงเวลาไหนในการเข้าชมมหาวิทยาลัยฮอกไกโด” หรือ “เคล็ดลับการเตรียมตัวก่อนเรียนต่อมหาวิทยาลัยฮอกไกโด” หากเป็นการมาสำรวจบรรยากาศก่อนตัดสินใจสมัคร คุณอาจเลือกฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อน เพราะสภาพอากาศจะค่อนข้างสบาย สามารถเดินชมรอบมหาวิทยาลัยได้เต็มที่ อีกทั้งยังตรงกับช่วงเปิดภาคเรียน ทำให้พบปะผู้คนในมหาวิทยาลัยได้มากขึ้น

คำถามที่น่าสนใจ

  • “พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยฮอกไกโดมีอะไรน่าสนใจบ้าง”

 การจัดแสดงประวัติศาสตร์ งานวิจัยเก่าแก่ และนวัตกรรมใหม่ ๆ

  • “คณะและหลักสูตรเด่นของมหาวิทยาลัยฮอกไกโด”

มุ่งเน้นวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ เกษตรกรรม และสังคมศาสตร์

  • “ทำไมมหาวิทยาลัยฮอกไกโดถึงเป็นสถาบันวิจัยชั้นนำของญี่ปุ่น”

เพราะการบูรณาการองค์ความรู้กับสิ่งแวดล้อมแบบเฉพาะเจาะจงในภูมิภาคเหนือนั่นเอง

มหาวิทยาลัยฮอกไกโด แรงบันดาลใจจากอดีตสู่อนาคต

apporo Agricultural College Dairy Farm, one of Important Cultural Properties of Japan, in Sapporo City, Hokkaido, Japan
apporo Agricultural College Dairy Farm, one of Important Cultural Properties of Japan, in Sapporo City, Hokkaido, Japan

มหาวิทยาลัยฮอกไกโด มิได้เป็นเพียงจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยว แต่คือศูนย์กลางของ “การศึกษาระดับอุดมศึกษาในญี่ปุ่น” และเป็นแหล่ง วิจัยและพัฒนา (R&D) ชั้นเลิศที่มีความร่วมมือทั้งในและนอกประเทศ ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการ “เรียนต่อญี่ปุ่น” ในสาขาที่หลากหลาย และผู้ที่แสวงหาประสบการณ์ชีวิตใน ภาคเหนือของญี่ปุ่น ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

สำหรับผู้เขียนแล้ว มหาวิทยาลัยฮอกไกโดคือห้องทดลองมีชีวิต ที่ผสานความเก่าแก่ของ Sapporo Agricultural College เข้ากับนวัตกรรมยุคใหม่ได้อย่างลงตัว จนนับได้ว่าเป็น สถาบันการศึกษาชั้นนำ และเป็นสมาชิกคนสำคัญใน National Seven Universities หากใครกำลังลังเลว่าจะมาที่นี่ดีไหม ฉันคิดว่าแค่ได้มาชมบรรยากาศจริง ๆ คุณก็จะเข้าใจแล้วว่า ทำไมสถาบันแห่งนี้จึงเป็นแรงดึงดูดของคนรุ่นใหม่ที่สนใจทั้งการวิจัยและการเรียนรู้อย่างแท้จริง

คำถามที่พบบ่อย

Hokkaido University
bike park near cherry in Hokkaido University
  1. “วิธีเดินทางจากสถานีซัปโปโรไปยังมหาวิทยาลัยฮอกไกโดให้สะดวกที่สุด”
    • JR หรือเดินเท้าเพียง 5-10 นาที หากพักใกล้สถานี
  2. “พิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยฮอกไกโดมีอะไรน่าสนใจบ้าง”
    • นิทรรศการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์มหาวิทยาลัย และงานวิจัยสำคัญ
  3. “ควรเลือกช่วงเวลาไหนในการเข้าชมมหาวิทยาลัยฮอกไกโด”
    • ฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อน จะเห็นความเขียวขจีและผู้คนคึกคัก
  4. “เคล็ดลับการเตรียมตัวก่อนเรียนต่อมหาวิทยาลัยฮอกไกโด”
    • ฝึกทักษะภาษา เตรียมพร้อมรับสภาพอากาศหนาว และศึกษาข้อมูลหลักสูตรล่วงหน้า
  5. “ชีวิตนักศึกษาต่างชาติในมหาวิทยาลัยฮอกไกโดเป็นอย่างไร”
    • ได้สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นของแท้ พร้อมโอกาสทำวิจัยในสภาพแวดล้อมระดับโลก

สรุปท้ายบทความ

มหาวิทยาลัยฮอกไกโด

ด้วยประวัติศาสตร์ที่หยั่งรากลึกมาตั้งแต่ยุคเปิดประเทศ ผสานกับความก้าวหน้าทาง การวิจัยและพัฒนา (R&D) อย่างไม่หยุดยั้ง มหาวิทยาลัยฮอกไกโด จึงกลายเป็นศูนย์กลางวิชาการแห่งสำคัญที่เหล่านักศึกษาต่างชาติต่างใฝ่ฝัน ใครที่กำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ใน วัฒนธรรมองค์กรมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น พร้อมบรรยากาศสบาย ๆ แบบเมืองซัปโปโร ห้ามพลาดที่นี่อย่างเด็ดขาด เพราะนี่คืออีกหนึ่งหน้าของ การศึกษาในญี่ปุ่น ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้คุณอย่างไม่รู้จบ

หากอยากไปสัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติกที่มหาวิทยาลับฮอกไกโดแบบราบเรียบไม่ยุ่งยาก ให้คุณลืมการวางแผนที่ยุ่งเหยิงไปได้เลย Artralux ช่วยดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดการเส้นทางไปจนถึงการจองตั๋ว คุณแค่บอกความต้องการ ส่วนที่เหลือเราจัดการให้ ท่องเที่ยวอย่างมีความสุขไปกับเรา

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)

📞 | 02-047-0083

💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42

SHARES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า