ประเทศญี่ปุ่นนับเป็นอีกประเทศที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกเพราะไม่ว่าจะเป็นศิลปวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว อาหาร หรือผู้คนก็มีแรงดึงดูดให้มีคนสนใจไปเยี่ยมเยือนอย่างมากและญี่ปุ่นยังเป็นประเทศที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีอีกด้วย วันนี้เราจะพาไปรู้จักเทศกาลต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่นที่ถูกจัดขึ้นตามฤดูกาลทั้ง 4 เผื่อใครที่ได้ไปในช่วงเวลานั้นๆ จะได้ไปเข้าร่วมเก็บบรรยากาศของเทศกาลญี่ปุ่นแท้ๆ ให้เป็นความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิต
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
ฤดูกาลทั้ง 4 ของประเทศญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่นมีฤดูกาลที่ต่างจากประเทศไทยเพราะมีทั้งหมด 4 ฤดูกาล แบ่งตามสภาพอากาศที่เกิดขึ้นช่วงนั้นๆ ในเวลา 12 เดือน ดังนี้
1.ฤดูหนาว (冬 ฟุยุ )
ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ อากาศที่หนาวที่สุดของญี่ปุ่นตามสถิติที่ได้บันทึกไว้เคยหนาวถึง -8 องศา ที่เมืองซัปโปโร เมืองเหนือสุดของญี่ปุ่นนั้นเอง ในแถบเมืองหลวงอย่างเมืองโตเกียวมีอุณหภูมิต่ำสุดถึง 2 องศาเลยทีเดียว
2.ฤดูใบไม้ผลิ (春 ฮารุ)
มีนาคม – พฤษภาคม หน้าฤดูใบไม้ผลิเป็นเทศกาลท่องเที่ยวญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้เพราะนอกจากอากาศที่จะดีเป็นพิเศษไม่หนาวไม่ร้อนจนเกินไปแล้วยังมีการผลิบานของดอกไม้มากมายและที่มีชื่อเสียงทั่วโลกคือ ซากุระ นั่นเอง
3.ฤดูร้อน (夏 นัตสึ)
อุณหภูมิความร้อนในประเทศญี่ปุ่นจัดว่าไม่ร้อนมาก สูงสุดเพียง 32 – 34 องศาเท่านั้นเอง ในเดือนมิถุนายน – สิงหาคม ความร้อนไม่พุ่งสูงเหมือนประเทศไทยที่หน้าร้อนจะมีอุณหภูมิสูงถือเกือบ 40 – 45 องศาในบางจังหวัดเลยทีเดียว
4.ฤดูใบไม้ร่วง (秋 อะคิ )
ช่วงเดือนกันยายน – พฤศจิกายน ฤดูที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของสีใบไม้ พืชต่างๆ จะสลัดใบเก่าทิ้งเพื่อลดการใช้พลังงานและเก็บสารอาหารไว้ใช้ในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง
เทศกาลน่าเที่ยวในแต่ละฤดูกาล
นอกจากบรรยากาศที่แตกต่างกันของฤดูกาลทั้ง 4 แล้ว ยังมีเทศกาลญี่ปุ่น (祭 Matsuri) ที่ได้จัดขึ้นเวียนไปตามฤดูกาลต่างๆ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง สังสรรค์หรือปัดความชั่วร้าย เทศกาลต่างๆ เหล่านั้นมีความแตกต่างกันไปตามแถบเมืองทั้งฝั่งคันโตและคันไซ วันนี้เรารวบรวมเทศกาลน่าเที่ยวเหล่านั้นมาดังนี้
เทศกาลในฤดูร้อน
เมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนแต่ละเมืองก็เริ่มที่จะมีเทศกาลงานวัดญี่ปุ่น งานดอกไม้ไฟจัดขึ้นเป็นเทศกาลเด่นๆ จัดขึ้นแทบจะทุกเมืองของญี่ปุ่น ในงานวัดก็จะมีกิจกรรมมากมายให้ได้เลือกทำกันไม่ว่าจะเป็น อาหารการกิน การละเล่นต่างๆ มีการแสดงแสงสีของดอกไม้ไฟรูปแบบต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวและชาวเมืองได้รับชม นอกจากงานวัดและงานดอกไม้ไฟแล้วฤดูร้อนยังมีเทศกาลที่น่าสนใจอื่นๆ อีก ยกตัวอย่างเช่น
1.เทศกาลทานาบาตะ
เทศกาลที่เฉลิมฉลองในโอกาสที่หนุ่มเลี้ยงวัวและเทพธิดาทอผ้าได้เวียนครบในรอบ 1 ปี ในวันนี้จะมีการจัดตกแต่งต้นไผ่เพื่อให้ผู้คนได้ห้อยคำอธิษฐานขอพรจากโอริฮิเมะที่เชื่อกันว่าจะดลบันดาลให้พรที่ผู้คนขอให้สมปรารถนา นอกจากต้นไผ่ห้อยคำอธิษฐานที่สามารถพบเห็นได้มากมายในหลายๆ ที่ในญี่ปุ่นแล้วยังมีการประดับตกแต่งไฟมากมายนับเป็นเทศกาลที่เป็นสีสันของหน้าร้อนของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เทศกาลนี้จะมีขึ้นในวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี
2.เทศกาลอาโอโมริเนบุตะ
เทศกาลชมโคมไฟจะถูกจัดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี เอกลักษณ์ของเทศกาลนี้คือการเคลื่อนรถที่มีเนบุตะหรือโคมไฟรูปตุ๊กตาคาบูกิขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างตามตำนานเทพของญี่ปุ่นที่นำขึ้นเรือแห่ไปรอบอ่าวอาโอโมริท่ามกลางดอกไม้ไฟที่สว่างไสวสวยงามบนท้องฟ้ารวมทั้งดนตรีที่ครึกครื้นตลอดงาน เทศกาลที่ถูกจัดขึ้นมาเพื่อให้ชาวเมืองได้ภาวนาขอพรให้สุขภาพแข็งแรงห่างโรคภัยเป็นเทศกาลที่มีเฉพาะเมืองอาโอโมริเท่านั้น
3.เทศกาลโอบ้ง
เป็นเทศกาลโคมไฟที่จัดให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว จะมีการเฉลิมฉลองต้อนรับดวงวิญญาณของบรรพบุรุษที่จะได้กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดและนำความสุข สนุกสนานมาให้ลูกหลาน ในเทศกาลนี้จะมีการเต้นรำโอบ้งที่มีจังหวะที่ครึกครื้นสนุกสนาน วันสุดท้ายของเทศกาลจะมีการจุดไฟโอคุริบิ ลอยลงแม่น้ำเป็นดวงไฟที่ส่งบรรพบุรุษกลับไปยังปรโลก จัดขึ้นในเดือนสิงหาคมที่เป็นวันหยุดยาวฤดูร้อนของประเทศญี่ปุ่น
เทศกาลในฤดูใบไม้ร่วง
ฤดูใบไม้ร่วงจัดเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยว แต่ละพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่นก็จะมีเทศกาลที่ถูกจัดขึ้นมาแตกต่างกันไป นอกจากเทศกาลที่จัดขึ้นมาเพื่อชมความสวยงามของการเปลี่ยนสีของใบไม้แล้วก็มีเทศกาลที่น่าสนใจอีกมาก ยกตัวอย่างเช่น
1.โทริโนะอิจิ เทศกาลแห่งความรุ่งเรือง
เทศกาลที่ถูกจัดขึ้นที่โตเกียว เทศกาลที่ถูกจัดขึ้นเพื่อขอพรให้การเก็บเกี่ยวผลผลิตในฤดูใบไม้ร่วงให้ผ่านไปด้วยดีและยังเป็นเทศกาลขอพรให้ค้าขายดี การเงินรุ่งเรือง จุดเด่นคือจะมีการประดับตกแต่งเพื่อต้อนรับโชคลาภที่เรียกว่า คุมาดะ มีลักษณะคล้ายคราดไม้ไผ่ที่มีจำหน่ายในงาน ความหมายของมันคือ “กวาดความสุขเข้าหาตัว” ผู้คนมากมายจึงเลือกซื้อหาเพื่อใช้ประดับบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคล
2.ชิจิโกะซัง เทศกาลอวยพรเด็กผู้หญิง
ชิจิ โกะ ซัง คือเลข 7 5 3 เทศกาลนี้จะเป็นการเฉลิมฉลองของเด็กหญิงอายุครบ 3 ปี 5 ปี และ 7 ปี สมัยก่อนจะมีการจัดขึ้นในวันที่ 15 พฤศจิกายนของทุกปีแต่ช่วงหลังได้มีการเปลี่ยนแปลงเป็นวันไหนก็ได้ที่สะดวกในเดือนพฤศจิกายนแทน เทศกาลนี้จัดเป็นเทศกาลที่น่ารักมากๆ ของญี่ปุ่นเพราะเด็กผู้หญิงที่อายุครบ 3 5 7 และเด็กชายที่มีอายุครบ 5 ปีจะแต่งตัวด้วยชุดออกงานของญี่ปุ่นเพื่อไปไหว้พระขอพรให้เติบโตอย่างแข็งแรงในช่วงเดือนนี้ก็จะมีเด็กผู้หญิงและเด็กผู้ชายแต่งตัวน่ารักเดินเต็มเมืองไปหมดเลย
3.เทศกาลมหาผีและปีศาจ หรือ Shibuya Halloween
เทศกาลที่จัดขึ้นในเขตชิบุยะ เมืองโตเกียว เป็นเทศกาลที่เปิดโอกาสให้วัยรุ่นได้มาแต่งตัวเลียนแบบผีเพื่อสนุกสุดเหวี่ยงอย่างเต็มที่ งานถูกจัดขึ้นมาแบบยิ่งใหญ่อลังการไม่ต่างจากเทศกาลฮาโลวีนในแถบตะวันตกเลย นับเป็นอีกเทศกาลที่ชาวญี่ปุ่นได้จัดขึ้นมาเพื่อเป็นสีสันของเมืองท่องเที่ยวอย่างโตเกียว
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
เทศกาลในฤดูหนาว
ในฤดูหนาวญี่ปุ่นจะมีเทศกาลหิมะเกิดขึ้นหลายพื้นที่ ที่มีชื่อเสียงที่สุดเห็นจะเป็นที่ซัปโปโร เกาะฮอกไกโด เมืองเหนือสุดของประเทศที่จะมีเทศกาลฤดูหนาวจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการ นอกจากนี้ยังมีเทศกาลฤดูหนาวที่น่าไปเยี่ยมชมสักครั้งอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น
1.เทศกาลน้ำแข็งทะเลสาบชิโคะสึ เมืองชิโตะเสะ
อีกเมืองของเกาะฮอกไกโดที่มีการจัดเทศกาลน้ำแข็งแต่จะแตกต่างจากงานเทศกาลแกะสลักน้ำแข็งของทางซัปโปโร เทศกาลที่เมืองชิโตะเสะจะเป็นการแสดงความสวยงามของน้ำแข็งที่เกิดจากการพ่นน้ำที่สูบมาจากทะเลสาบชิโคะสึ ทะเลสาบที่มีน้ำที่ได้ชื่อว่ามีน้ำที่ใสบริสุทธิ์อย่างมากผ่านสปริงเกอร์แล้วปล่อยให้กลายเป็นน้ำแข็งที่สวยงาม เทศกาลเปิดให้มีการเข้าชมทั้งกลางวันและกลางคืน นอกจากการแสดงประติมากรรมน้ำแข็งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์แล้วยังมีเครื่องเล่นมากมายที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาจากน้ำแข็งเพื่อให้เด็กๆ ได้เที่ยวเล่นอย่างสนุกสนานอีกด้วย
2.เทศกาลหิมะโยโคเทะคะมะคุระ
กลางเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี เทศกาลนี้จะถูกจัดขึ้นที่เมืองโยโคเทะ จังหวัดอะคิตะ เทศกาลที่มีการสืบสานมามากกว่า 450 ปีเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อสักการบูชาเทพเจ้าน้ำแข็งในช่วงเทศกาลปีใหม่ ในงานจะมีการประดับตกแต่งด้วย คะมะคุระหรือกระท่อมหิมะ ที่เปิดให้ผู้เข้าชมได้เข้าไปเพื่อขอพระกับเทพเจ้าหิมะให้ดูแลรักษาครอบครัวให้มีความสุข
3.เทศกาลเทียนประดับภาพวาดของดินแดนไอซุ
เทศกาลที่เพียงแค่ได้ยินชื่อก็คิดถึงบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติก เพราะมีเทียนที่จุดอยู่ท่ามกลางหิมะจำนวนมากที่ตกอยู่ทั่วเมือง เทศกาลยิ่งใหญ่ของจังหวัดฟุคุชิมะ ที่จะจัดอยู่ที่ปราสาทซึรุงะ หรือปราสาทนกกระเรียนและสวนโอยะคุ เทศกาลนี้มีอายุยาวนานมาตั้งแต่อดีตจนตอนนี้ก็เกือบ 500 ปีแล้ว โดยที่จะมีการวาดภาพลงบทแท่งเทียนที่จะถูกวาดเป็นรูปดอกไม้และพืชพันธุ์ต่างๆ ลงไปด้วยช่างฝีมือและประดับตกแต่งอยู่ทั่วบริเวณปราสาทซึรุงะที่จะจัดงานธีม “ความเคลื่อนไหว” และที่สวนโอยะคุจะถูกจัดขึ้นในธีม “ความเงียบสงบ”
เทศกาลในฤดูใบไม้ผลิ
ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้หลั่งไหลมาที่ประเทศญี่ปุ่นเพื่อชมความสวยงามของดอกซากุระที่จะเบ่งบานทั่วประเทศ นอกจากเทศกาลฮานาบิที่จัดขึ้นทุกเมืองแล้วยังมีเทศกาลอื่นๆ อีกเช่น
1.เทศกาลอินุยามะ
เทศกาลที่เก่าแก่ยาวนานมากกว่า 370 ปี และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมจากยูเนสโก เทศกาลนี้จะมีการแห่เกี๊ยวหรือคนญี่ปุ่นเรียกว่ารถดาชิที่มีขนาดสวยโดดเด่นถึง 8 เมตร ขบวนแห่ที่จะแห่รอบปราสาทอินุยามะ ในจังหวัดไอจิ สองข้างทางเต็มไปด้วยทิวทัศน์ของดอกซากุระทั้งสองข้างทาง
2.เทศกาลมิยาโกะโอโดริ
เทศกาลสำหรับคนที่หลงใหลในมนตร์เสน่ห์ของเกอิชาจะพลาดไม่ได้กับเทศกาลนี้เพราะจะมีการแสดงของเกอิชาและไมโกะจากย่าน กิอง ในเมืองเกียวโต การแสดงจะเป็นการร่ายรำของเหล่าไมโกะที่พร้อมเพรียงสวยงามอย่างไม่มีหยุดพัก การแสดงจะมีการกำหนดทุกปีว่าจัดขึ้นที่ไหนและเทศกาลนี้เป็นเทศกาลที่ต้องเสียค่าเข้าชมเพราะเป็นเทศกาลที่เฉพาะถิ่นจริงๆ
3.เทศกาลยาบุซาเมะชินจิ
เทศกาลที่จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 3 พฤษภาคมของทุกปี ที่ศาลเจ้าชิโมกาโมะ ที่เกี่ยวโต เป็นอีกเทศกาลที่ถ้าได้เข้าร่วมแล้วจะรู้สึกถึงจิตวิญญาณของนักรบของญี่ปุ่นอย่างซามุไรอย่างใกล้ชิด เทศกาลนี้จะมีชายหนุ่มใส่ชุดขุนนางขี่ม้าและยิงธนูในตรงเป้า เทศกาลนี้มีก่อนเทศกาลอาโออิที่จัดขึ้นที่เกียวโตเช่นกันทั้งสองเทศกาลเป็นเทศกาลที่แสดงถึงมนตร์เสน่ห์ในด้านหนึ่งของประเทศญี่ปุ่นได้อย่างสวยงาม
นอกจากเทศกาลที่ได้หยิบยกมาเล่านี้แล้วแต่ละฤดูกาลยังมีเทศกาลที่จัดเป็นไฮไลท์เด็ดๆ ของญี่ปุ่นอีกมากมายรอให้คุณไปเที่ยวชม ทุกเทศกาลมีเสน่ห์และความสวยงามละเอียดอ่อนของชาวญี่ปุ่นสอดแทรกเข้าไปอย่างประณีต
Artralux พร้อมสร้างทริปสุดพิเศษที่จะพาคุณบินลัดฟ้าไปสัมผัสเสน่ห์และความสนุกสนานของเทศกาลแต่ละฤดูของประเทศญี่ปุ่น ด้วยการเดินทางที่แสนสะดวกสบายด้วยบริการเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว และบริการรถลีมูซีน พร้อมบริการที่พักพูลวิลล่าอันสวยงามหรูหราและการบริการตามความต้องการอื่นๆ ที่เราพร้อมให้บริการ
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว