“หุบเขานรก” หลายคนอาจจินตนาการถึงสถานที่เงียบเหงา เต็มไปด้วยควันและไอร้อนลึกลับ ชวนให้นึกถึงตำนานความเชื่อท้องถิ่นที่น่าสะพรึงกลัว แต่แท้จริงแล้ว “หุบเขานรกจิโงคุดานิ (Jigokudani Hell Valley)” คือผลงานอันน่าทึ่งของธรรมชาติที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และ ธรรมชาติและธรณีวิทยา ลึกซึ้ง จนกลายเป็นจุดสนใจของนักวิจัยและผู้ที่หลงใหลในความพิศวงของโลกเรา
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
“หุบเขานรกจิโงคุดานิ” อยู่ที่ไหนในญี่ปุ่น?
หลายคนอาจสงสัยว่า “หุบเขานรกจิโงคุดานิ” อยู่ที่ไหนในญี่ปุ่น คำตอบคือ ตั้งอยู่ในเมือง โนโบริเบ็ตสึ (Noboribetsu) จังหวัด ฮอกไกโด ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในภูมิภาคที่มี ภูเขาไฟในฮอกไกโด หลายแห่ง และเต็มไปด้วย ธารน้ำพุร้อน ชนิดต่าง ๆ
ที่อยู่ 無番地 Noboribetsuonsencho, Noboribetsu, Hokkaido 059-0551 ญี่ปุ่น
แผนที่เดินทางไปหุบเขานรกจิโงคุดานิ Google Maps
ประวัติความเป็นมาของหุบเขานรกจิโงคุดานิ “ดินแดนเหนือจริง”
ชนพื้นเมืองไอนุ (Ainu) และตำนานวิญญาณ
พื้นที่ของ หุบเขานรกจิโงคุดานิ เคยอยู่ในอาณาบริเวณที่ชาวไอนุ (Ainu) อาศัย พวกเขาเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เป็น “ดินแดนแห่งวิญญาณ” ซึ่งมีไอน้ำพวยพุ่งจากใต้พิภพตลอดเวลา บ่งบอกถึงพลังของธรรมชาติที่มหาศาล ชาวไอนุเชื่อว่าภูเขา น้ำ และไฟ ล้วนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
กำเนิดจากภูเขาไฟในฮอกไกโด
จุดเด่นทางภูมิศาสตร์ของที่นี่เกิดจากภูเขาไฟที่เคยปะทุในอดีต จนกลายเป็นหลุมปากปล่องขนาดใหญ่ และยังคงปลดปล่อยความร้อนกับแร่ธาตุอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทำให้สถานที่แห่งนี้มีความสวยงามและน่าพิศวงในเวลาเดียวกัน
ความเชื่อและตำนานของคนไอนุเกี่ยวกับดินแดนวิญญาณ
ตำนานโบราณของคนท้องถิ่นยังเล่าขานถึงภูติผี ผู้มาโปรดสัตว์ตกนรก และมังกรในไอร้อน นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าขนหัวลุกมากมายที่ถูกถ่ายทอดผ่าน วัฒนธรรมญี่ปุ่น ช่วยเติมสีสันและความลึกลับให้หุบเขานรกแห่งนี้อย่างยิ่ง
ที่ตั้งและภูมิทัศน์สุดอลังการ
“หุบเขานรกจิโงคุดานิ” กับตำนานโบราณที่คนไม่ค่อยรู้ ไม่ได้มีแค่ฉายาเก๋ ๆ เท่านั้น แต่ยังมี ภูมิทัศน์แปลกตา ที่เกิดจากการทำงานของแร่ธาตุกับความร้อนใต้พิภพ
- บ่อกำมะถัน และ กลิ่นกำมะถัน
ถ้าได้มาเห็น บ่อกำมะถัน ที่มีไอสีขาวขุ่นลอยขึ้นมาตลอดทั้งวัน พร้อมกลิ่นฉุนเฉพาะตัว เชื่อว่าหลายคนอาจตกใจในครั้งแรก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันคือความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ - พื้นดินอุดมด้วยแร่ธาตุ
แร่ธาตุที่ปลดปล่อยออกมาจากใต้พิภพได้ทำให้สภาพดินและอากาศในบริเวณนี้แตกต่างจากพื้นที่อื่น ๆ และทำให้สามารถพบพืชชนิดพิเศษที่ปรับตัวเข้ากับดินกำมะถันได้
- บ่อน้ำพุร้อนหลากสี
หุบเขานรกจิโงคุดานิไม่ได้มีดีแค่บ่อกำมะถันที่ปล่อยไอขาวขุ่น แต่ยังมีบ่อน้ำพุร้อนหลากสีสัน ทั้งฟ้าและเขียวสดใส ที่เกิดจากการสะท้อนของแสงอาทิตย์กับแร่ธาตุในน้ำ สร้างภาพที่ทั้งงดงามและน่าตื่นตา - พืชพันธุ์นักสู้
พืชในหุบเขานรกจิโงคุดานิเป็นนักสู้ตัวจริง เช่น มอสส์และไลเคน ที่สามารถอยู่รอดในดินกรดจัดและอุดมไปด้วยแร่ธาตุ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ร้อนและแห้งแล้งอย่างไม่น่าเชื่อ
Tips ถ้าอยากสัมผัสความอัศจรรย์ ควรลองเดินเล่นบน ทางเดินไม้ชมวิว ที่จัดไว้รอบบริเวณ จะเห็นวิว ภูมิทัศน์แปลกตา จนเข้าใจได้เลยว่าทำไมที่นี่จึงได้ชื่อว่า “นรก” บนดิน
ราคาค่าตั๋วและเวลาทำการ
ค่าใช้จ่ายในการแช่ออนเซ็นที่หุบเขานรกจิโงคุดานิ
โดยทั่วไปไม่มี ค่าธรรมเนียม สำหรับการเดินสำรวจเส้นทางหลัก อย่างไรก็ตาม หากต้องการใช้บริการ แช่ออนเซ็น ในโรงแรมหรือรีสอร์ตบางแห่งซึ่งใช้น้ำจากแหล่ง น้ำแร่บำบัด อันเลื่องชื่อ ก็อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (ราคาจะแตกต่างกันไปแต่ละสถานที่)
เวลาทำการ
เปิดให้เข้าชมได้ตลอดทั้งปี แต่ควรมาเยี่ยมชมในช่วงกลางวันเพื่อความปลอดภัยและเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจน ในฤดูหนาว สภาพอากาศ อาจส่งผลให้บางเส้นทางถูกปิดได้ ไฟส่องสว่างที่หอสังเกตการณ์จะเปิดถึงประมาณ 23.00 น. แม้พื้นที่จะเปิดตลอดเวลา แต่หากอยากสัมผัสความงดงามของจิโกกุดานิ ขอแนะนำให้มาเยือนก่อนพระอาทิตย์ตก เพื่อชมทิวทัศน์ที่งดงามที่สุดในแสงธรรมชาติ
เว็บไซต์ทางการของหุบเขานรกจิโงคุดานิ
คำถามน่ารู้
ทำไมบ่อกำมะถันที่โนโบริเบ็ตสึถึงได้ชื่อว่า “นรก”?
คำตอบสั้น ๆ คือเพราะหมอกควันและไอร้อนที่ปะทุขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง จนคล้ายกับฉากในนิทานหรือตำนานโลกหลังความตายของคนโบราณ
รีวิวเดินทางสู่โลกหลังความตาย หุบเขานรกจิโงคุดานิ
แม้ชื่อจะดูน่ากลัว แต่การเดินทางมายัง “หุบเขานรกจิโงคุดานิ” จริง ๆ แล้วสะดวกกว่าที่คิด
รถไฟและรถบัส
- จากสถานี ซัปโปโร (Sapporo) มายังสถานี JR Noboribetsu ใช้เวลาประมาณ 1 – 1.5 ชั่วโมง (ข้อมูลจาก หุบเขานรกโนโบริเบ็ทสึ JNTO)
- ต่อรถบัสท้องถิ่นหรือแท็กซี่อีกประมาณ 15 นาที
รถยนต์ส่วนตัว
- ขับรถจากซัปโปโรมายัง โนโบริเบ็ตสึ (Noboribetsu) ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง มีที่จอดรถใกล้บริเวณหุบเขา ค่าจอดอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
เคล็ดลับที่ควรรู้
- มีลานจอดรถจิโกกุดานิอยู่ห่างจากจุดชมวิวเพียง 1 นาทีเดินถึง ค่าจอดรถ 500 เยน โดยมีบริการตั๋วร่วมสำหรับลานจอดรถโอยูนุมะ (เฉพาะฤดูอื่นที่ไม่ใช่ฤดูหนาว) อย่างไรก็ตาม ตั๋วนี้ไม่สามารถใช้ได้หลังจากออกจากลานจอดแล้ว ดังนั้นควรวางแผนการเดินทางให้ดี!
- “สัมผัสพลังธรรมชาติจากกำมะถันในหุบเขานรกจิโงคุดานิ” อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อม ทั้งรองเท้าสวมสบายและกล้องถ่ายรูป เพราะมุมถ่ายภาพสวย ๆ ในลักษณะ ภูเขาไฟในฮอกไกโด แบบนี้หาที่อื่นได้ยาก
สิ่งที่ซ่อนอยู่ใน “หุบเขานรกจิโงคุดานิ” ที่คนไม่ค่อยรู้
- ผลการศึกษาทางธรณีวิทยาเกี่ยวกับภูเขาไฟในโนโบริเบ็ตสึ
นักธรณีวิทยามักเข้ามาศึกษาองค์ประกอบของแร่ธาตุและความร้อนใต้พิภพ เพื่อประเมินความเสี่ยงและเข้าใจการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก - ระบบนิเวศเฉพาะถิ่น
ด้วย พื้นดินอุดมด้วยแร่ธาตุ ทำให้พืชบางชนิดที่ปรับตัวกับสภาพดินที่เป็นกำมะถันรุนแรงได้เติบโตอยู่เท่านั้น ถือเป็นพื้นที่ศึกษาระบบนิเวศสุดพิเศษ - น้ำแร่บำบัด
คนท้องถิ่นเชื่อว่า น้ำแร่บำบัด จากหุบเขานรกแห่งนี้ ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อและโรคผิวหนังได้ จึงนิยมมา แช่ออนเซ็น เพื่อผ่อนคลายและดูแลสุขภาพ
รวมเรื่องเล่าขนหัวลุกของหุบเขานรกจิโงคุดานิ
มีตำนานมากมายเล่าถึงภูติผีในไอร้อน รวมถึง “วิญญาณที่ยังไม่สงบ” ซึ่งถูกขังไว้ในบ่อกำมะถัน แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเชื่อเพื่อสร้างสีสันให้แก่นักท่องเที่ยว และไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน
การเตรียมตัวและสิ่งที่ต้องรู้ก่อนมาเยือน “จิโงคุดานิ”
- ควรสวมรองเท้าที่กระชับและกันลื่น เพราะพื้นที่บางช่วงอาจเปียกชื้นจากน้ำแร่ร้อน
- ถ้าอยากถ่ายภาพหมอกควันแบบสวย ๆ แนะนำให้มาตอนเช้าหรือช่วงเย็นที่อากาศเย็นกว่า จะเห็นควันลอยเด่นชัด
- หากกลิ่นกำมะถันเข้มข้นเกินไป ควรพกหน้ากากหรือผ้าปิดจมูกมาด้วย
- เสื้อผ้า อากาศที่นี่แปรปรวน ควรพกเสื้อกันหนาว เสื้อแขนยาว หรือเสื้อกันฝนเพื่อความอุ่นใจ
- ครีมกันแดด แม้อากาศเย็น แต่แสงแดดแรงไม่แพ้กัน อย่าลืมป้องกันผิวด้วยครีมกันแดด
- ขวดน้ำ การเดินสำรวจต้องใช้พลังงาน อย่าลืมพกน้ำติดตัวเพื่อเติมความสดชื่นตลอดวัน
อุณหภูมิของบ่อน้ำพุร้อนที่หุบเขานรกจิโงคุดานิ โดยทั่วไปอาจสูงถึง 80 – 100 องศาเซลเซียสในบางบ่อ จึงไม่แนะนำให้ลงไปสัมผัสโดยตรง
สรุป เกินกว่าคำว่า “นรก” คือความอัศจรรย์แห่งธรรมชาติ
“หุบเขานรกจิโงคุดานิ” ไม่ได้มีดีแค่ความแปลกตา แต่ยังอัดแน่นไปด้วยข้อมูลเชิง ธรรมชาติและธรณีวิทยา ประวัติศาสตร์ของ ชนพื้นเมืองไอนุ (Ainu) และความผูกพันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ สอดแทรกตำนานความเชื่อท้องถิ่นและ วัฒนธรรมญี่ปุ่น เอาไว้ในทุกอณู ตั้งแต่เรื่องราวโบราณจนถึงการค้นคว้าทางวิชาการในปัจจุบัน
(FAQ) คำถามที่พบบ่อย
Q1: ทำไมบ่อกำมะถันที่โนโบริเบ็ตสึถึงได้ชื่อว่า “นรก”
A: เนื่องจากควันและไอร้อนที่พวยพุ่งออกมาตลอดเวลา คล้ายฉากในตำนานโลกหลังความตายของญี่ปุ่น ทำให้ผู้คนเรียกติดปากว่า “หุบเขานรก”
Q2: ค่าใช้จ่ายในการแช่ออนเซ็นที่หุบเขานรกจิโงคุดานิ มีรายละเอียดอย่างไร?
A: โดยทั่วไป การเดินชมเส้นทางหลักไม่มีค่าใช้จ่าย แต่หากต้องการใช้บริการแช่ออนเซ็นหรือเยี่ยมชมสถานที่อื่น ๆ ในโรงแรม/รีสอร์ตจะมีค่าใช้จ่ายแตกต่างกันไป
Q3: การเตรียมตัวและสิ่งที่ต้องรู้ก่อนมาเยือน “จิโงคุดานิ” มีอะไรบ้าง?
A: ควรเตรียมรองเท้าเดินสบาย พกหน้ากากหรือผ้าปิดจมูกหากไม่ชินกับกลิ่นกำมะถัน และตรวจสอบสภาพอากาศหรือเส้นทางปิดในฤดูหนาวล่วงหน้า
หากมีโอกาส ขอเชิญคุณมาลอง รีวิวเดินทางสู่โลกหลังความตาย หุบเขานรกจิโงคุดานิ ด้วยตัวเอง แล้วจะพบว่า ที่นี่ไม่ใช่ “นรก” อย่างที่ใครเข้าใจ แต่เป็นดินแดนที่สะท้อนถึง พลังของธรรมชาติ และเสน่ห์ของ ภูเขาไฟในฮอกไกโด ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ที่ไหนในโลก
เคยรู้สึกไหมว่าโปรแกรมท่องเที่ยวที่มีอยู่ทั่วไปไม่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ? ไม่ว่าจะเป็นแผนการเดินทางที่อัดแน่นจนเหนื่อยเกินไป หรือสถานที่ที่ไม่ตรงใจคุณ Artralux เข้าใจปัญหานี้ดี เราจึงสร้างบริการจัดโปรแกรมท่องเที่ยวที่ให้คุณเป็นคนกำหนดทุกอย่างได้เอง เพื่อให้การเดินทางของคุณพิเศษและสมบูรณ์แบบที่สุด
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42