ภูเขาอากากิ ตำนานขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ ธรรมชาติแห่งกุนมะ

ที่ญี่ปุ่นมีภูเขาไฟที่สงบแต่ยังคงความยิ่งใหญ่และงดงาม หนึ่งในนั้นคือ ภูเขาอากากิ (赤城山, Akagi-yama หรือที่คนญี่ปุ่นมักเรียกกันว่า Akagi-san) ขุนเขาที่เป็นดั่งสัญลักษณ์และจิตวิญญาณของจังหวัดกุนมะ (Gunma Prefecture) ประเทศญี่ปุ่น ที่นี่ไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทางของนักปีนเขา แต่ยังเป็นสถานที่เที่ยวธรรมชาติ ญี่ปุ่น ที่เต็มไปด้วยเรื่องราว ประวัติศาสตร์ ความเชื่อ และความงามทางธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล เชิญชวนให้ทุกคนได้มาสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร

รีวิวเที่ยวภูเขาอากากิสำหรับผู้เขียนแล้ว ภูเขาอากางิไม่ใช่แค่ภูเขาสูง แต่เป็นเหมือนผืนผ้าใบขนาดใหญ่ที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ความงามเอาไว้ในทุกตารางนิ้ว ตั้งแต่ทะเลสาบโอโนะ (Lake Ono) สีครามบนปากปล่องภูเขาไฟ ไปจนถึงศาลเจ้าอากากิ (Akagi Shrine) เก่าแก่ที่ซ่อนตัวอยู่อย่างสงบ 

Artralux จะพาคุณไปสำรวจทุกแง่มุมของภูเขาอากากิ ให้คุณได้รู้จักและตกหลุมรักขุนเขาแห่งนี้เหมือนที่ผู้เขียนรู้สึก

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

ประวัติความเป็นมา ตำนานแห่งขุนเขาศักดิ์สิทธิ์ และ ภูเขาไฟอากากิ

ภูเขาอากากิเป็นหนึ่งในโจโมซันซัง (Jomo Sanzan) หรือสามภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์และมีชื่อเสียงของกุนมะ ร่วมกับภูเขาฮารุนะ (Mt. Haruna) และภูเขาเมียวกิ (Mt. Myogi) ที่นี่คือภูเขาไฟสลับชั้น (Stratovolcano) ที่สงบแล้ว มีประวัติศาสตร์ยาวนานเกี่ยวพันกับความเชื่อและศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งศาลเจ้าอากากิซึ่งมีตำนานเล่าขาน ประวัติศาลเจ้าอากากิแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี เป็นที่รู้จักจากประตูโทริอิสามขาที่หายาก และเป็นจุดเสริมพลัง (power spot) ที่เชื่อกันว่าให้โชคลาภและความสำเร็จ ทำให้ภูเขาแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนเคารพบูชามานับศตวรรษ

แม้ภูเขาไฟอากากิจะสงบไปนานแล้ว แต่ร่องรอยของการปะทุในอดีตได้สร้างภูมิประเทศอันน่าทึ่ง ทั้งทะเลสาบบนปากปล่องภูเขาไฟ (Caldera) และยอดเขาหลายแห่งที่ทอดตัวสลับซับซ้อน กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ดึงดูดผู้คนมาจนถึงปัจจุบัน

ภูเขาอากากิ อยู่ที่ไหน?

ที่ตั้ง 

ภูเขาอากากิตั้งอยู่ทางตอนเหนือของที่ราบคันโต (Kanto Plain) ครอบคลุมพื้นที่หลายเมืองในจังหวัดกุนมะ โดยจุดศูนย์กลางและแหล่งท่องเที่ยวหลักจะอยู่ใกล้กับเมืองมาเอะบาชิ (Maebashi)

ภูมิประเทศ

ลักษณะเด่นคือ แอ่งภูเขาไฟรูปกระจาด (Caldera) ขนาดใหญ่ ที่เกิดจากการยุบตัวหลังการปะทุครั้งใหญ่ กลายเป็นที่ตั้งของทะเลสาบโอโนะ (Lake Ono หรือ Oonuma) ทะเลสาบหลักที่เปรียบเสมือนหัวใจของภูเขา และทะเลสาบโคโนะ (Lake Ko’ono หรือ Konuma) ที่มีขนาดเล็กกว่า นอกจากนี้ยังมียอดเขาคุโรบิ (Mt. Kurobi) เป็นยอดที่สูงที่สุด 1,828 เมตร และยอดเขาอื่น ๆ ให้ได้พิชิต ซึ่งที่นี่ยังเป็นเป็นเส้นทางปีนเขาญี่ปุ่นที่น่าสนใจ (ข้อมูลจาก ภูเขาอะคะกิ – JNTO)

สภาพอากาศ

อากาศภูเขาอากากิเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลอย่างชัดเจน

• ฤดูใบไม้ผลิ (เมษายน – พฤษภาคม) 

อากาศเย็นสบาย ดอกไม้นานาพันธุ์เริ่มผลิบาน รวมถึงซากุระสายพันธุ์ภูเขา

• ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) 

อากาศเย็นกว่าพื้นราบ เหมาะแก่การหลบร้อน

• ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน) 

ไฮไลท์สำคัญ! ใบไม้เปลี่ยนสี กุนมะ ที่นี่งดงามตระการตา อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การเดินป่า และยังเป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ภูเขาอากากิที่ดีที่สุดอีกด้วย

• ฤดูหนาว (ธันวาคม – มีนาคม) 

สัมผัสภูเขาอากากิ หน้าหนาวที่หนาวเย็น มีหิมะปกคลุมทะเลสาบโอโนะกลายเป็นน้ำแข็ง สามารถตกปลาทะเลสาบโอโนะ (ปลาวาคาซากิ) ผ่านช่องน้ำแข็งได้

ข้อมูลสำคัญสำหรับการเดินทาง

ที่อยู่

Fujimimachi Akagisan, มะเอะบะชิ จังหวัดกุมมะ 371-0101 ญี่ปุ่น

แผนที่เดินทางไป Mt. Akagi Google Maps

ราคาค่าตั๋ว

• ค่าเข้าภูเขาอากากิโดยทั่วไปไม่มีค่าเข้าชม
• อาจมีค่าใช้จ่ายสำหรับค่าจอดรถในบางพื้นที่
• ค่าเข้าชมสถานที่เฉพาะ หรือค่าเช่าอุปกรณ์กิจกรรมต่าง ๆ
• ค่าโดยสารรถประจำทาง

เวลาทำการ 

• พื้นที่ธรรมชาติบนภูเขาอากากิ เปิดไหม? 

ภูเขาอากากิเปิดให้เข้าชมได้ตลอดเวลาโดยไม่มีเวลาเปิด-ปิดที่ตายตัว เช่น เส้นทางเดินป่ารอบทะเลสาบโอนุมะ และจุดชมวิวต่าง ๆ บนภูเขาอากากิ สามารถเข้าชมได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังเรื่องสภาพอากาศและแสงสว่าง โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนและฤดูหนาว

• ศาลเจ้าอากากิ 

โดยทั่วไปเปิดตั้งแต่เช้าถึงเย็น เปิดทำการตั้งแต่ 9:00 น. ถึง 16:00 น. หรือ 17:00 น. เวลาอาจแตกต่างกันควรตรวจสอบที่เว็บไซต์ทางการ The official website for Akagi Jinja Shrine in Tokyo ก่อนไป 

• ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (Akagi Visitor Center) มีเวลาเปิด – ปิดทำการ (ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุด)
• ร้านค้าและร้านอาหาร มีเวลาเปิด-ปิดเฉพาะ

วิธีการเดินทาง ภูเขาอากากิ เดินทางยังไง?

โดยรถยนต์ส่วนตัว 

• เดินโดยรถยนต์ส่วนตัวเป็นวิธีที่สะดวกที่สุด สามารถขับรถขึ้นไปยังบริเวณทะเลสาบโอโนะได้เลย มีที่จอดรถให้บริการหลายจุด เส้นทางขึ้นเขาที่แฟน ๆ Initial D รู้จักดี มีความสวยงาม แต่ค่อนข้างคดเคี้ยว ควรขับขี่ด้วยความระมัดระวัง

โดยระบบขนส่งสาธารณะจากโตเกียวไปภูเขาอากากิ

• เดินทางไปยังสถานีรถไฟ นั่งรถไฟ JR ไปลงที่สถานี Maebashi Station หรือสถานี Shibukawa Station
• ต่อรถประจำทาง จากสถานี Maebashi หรือ Shibukawa จะมีรถประจำทางสาย Kanetsu Kotsu Bus วิ่งขึ้นไปยังบริเวณทะเลสาบโอโนะและศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบนภูเขาอากากิ

ข้อควรระวัง! ตารางเวลารถประจำทางอาจมีน้อยและเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องตรวจสอบตารางเวลาล่าสุดก่อนเดินทาง

เสน่ห์ที่ไม่ควรมองข้าม กิจกรรมน่าทำที่ภูเขาอากากิ และข้อมูลที่น่าสนใจ

• ศาลเจ้าอากากิบนคาบสมุทร หนึ่งในภาพจำคือศาลเจ้าอากากิ (Akagi Shrine) ที่ตั้งอยู่บนคาบสมุทรเล็ก ๆ ในทะเลสาบโอโนะมีสะพานสีแดงสด เป็นจุดถ่ายรูปที่งดงาม
• ความงามของทะเลสาบ ทะเลสาบโอโนะ และโคโนะเปรียบดั่งกระจกเงา กิจกรรมยอดนิยมคือการเช่าเรือถีบ หรือเดินเล่นริมทะเลสาบ
• สวรรค์ของนักเดินป่า มีเส้นทางเดินป่าหลากหลาย ตั้งแต่ทางเดินริมทะเลสาบ ไปจนถึงเส้นทางพิชิตยอดเขาคุโรบิ (Mt. Kurobi)

• จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีชั้นยอด ในฤดูใบไม้ร่วง ทั่วทั้งภูเขาจะงดงามด้วยสีสัน เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ภูเขาอากากิที่ห้ามพลาด
• ตำนาน Initial D ถนนขึ้นภูเขาอากากิ คือหนึ่งในสนามประลองความเร็วอันโด่งดังใน Initial D การได้มาเยือนจึงเป็นเหมือนการตามรอยตำนาน
• กิจกรรมฤดูหนาว เมื่อทะเลสาบโอโนะกลายเป็นน้ำแข็ง การตกปลาทะเลสาบโอโนะ (Wakasagi) เป็นกิจกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) ตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับ การเที่ยวภูเขาอากากิ

• ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเที่ยวภูเขาอากากิคือเมื่อไหร่?
  • ขึ้นอยู่กับความชอบ ในฤดูใบไม้ร่วง (ต.ค. – พ.ย.) นิยมที่สุดสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสี กุนมะที่ภูเขาอากากิ, ฤดูหนาว (ม.ค. – ก.พ.) สำหรับสัมผัสหิมะและตกปลาทะเลสาบโอโนะ, ฤดูใบไม้ผลิ (เม.ย. – พ.ค.) ชมดอกไม้, ฤดูร้อน (มิ.ย. – ส.ค.) อากาศเย็นสบาย
• ภูเขาอากากิ เดินทางยังไง จากโตเกียว?
  • นั่งรถไฟ Shinkansen หรือ JR ปกติมาลงที่สถานี Maebashi หรือ Takasaki แล้วต่อรถไฟ JR Ryomo Line ไป Maebashi จากนั้นต่อรถบัส Kanetsu Kotsu การเช่ารถขับเองจากโตเกียวก็เป็นทางเลือกที่สะดวกเช่นกัน
• เที่ยวภูเขาอากากิ 1 วัน เพียงพอไหม?
  • สำหรับการเที่ยวชมรอบ ๆ ทะเลสาบโอโนะ, ศาลเจ้าอากากิ และจุดชมวิวหลัก ๆ เที่ยวภูเขาอากากิ 1 วัน ถือว่าเพียงพอ แต่หากต้องการเดินป่าขึ้นยอดเขา หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ อาจต้องใช้เวลามากขึ้น

• มี ที่พักใกล้ภูเขาอากากิ ไหม?
  • มีเรียวกังและโรงแรมบางแห่งให้บริการบริเวณรอบทะเลสาบโอโนะ แต่ตัวเลือกอาจไม่มากนัก การพักในเมืองมาเอะบาชิแล้วเดินทางมาเที่ยวแบบวันเดียวก็เป็นที่นิยม
• ภูเขาอากากิ เปิดไหม มีเวลาทำการอย่างไร?
  • พื้นที่ธรรมชาติเปิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่สิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ศาลเจ้า, ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว, ร้านค้า มีเวลาเปิด – ปิดทำการ ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดก่อนไป โดยเฉพาะรถบัสที่มีตารางเวลาจำกัดและอาจงดให้บริการในบางฤดู

สรุป ภูเขาอากากิกุนมะ

ภูเขาอากากิ (Akagi-san) ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แต่เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความสงบ การได้มาเที่ยวกุนมะ และสัมผัสที่นี่เปรียบเสมือนการได้ชาร์จพลังชีวิตท่ามกลางอ้อมกอดของขุนเขาและสายน้ำ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักผจญภัย ผู้แสวงหาความสงบ หรือผู้ที่ชื่นชอบการเที่ยวธรรมชาติ ญี่ปุ่น Artralux เชื่อว่าภูเขาอากากิจะมอบประสบการณ์และความทรงจำอันล้ำค่าให้คุณได้อย่างแน่นอน ลองเปิดใจมาสัมผัสเสน่ห์ที่ยากจะลืมเลือนของขุนเขาแห่งจังหวัดกุนมะแห่งนี้ดูสักครั้ง

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)

📞 | 02-047-0083

💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42