คุณเคยรู้สึกไหมว่าการเดินทอดน่องไปตามริมน้ำใสไหลเย็น พร้อมกับสัมผัสความสงบและเรื่องราวที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นประสบการณ์ที่เติมเต็มจิตใจได้อย่างลึกซึ้ง? ถ้าคำตอบคือใช่ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับทางเดินริเวอร์วอล์ค นาราบิ จิโซ (Narabi Jizo River Walk Nikko) ในเมืองนิกโก้ จังหวัดโทจิกิ ประเทศญี่ปุ่น สถานที่ที่ไม่ได้มีแค่ความสวยงามทางธรรมชาติ แต่ยังเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ ความเชื่อ และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ญี่ปุ่นที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกเดินทางสู่โลกแห่งความสงบและเรื่องราวของนาราบิ จิโซไปพร้อมกัน
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
ประวัติความเป็นมานาราบิ จิโซ ร่องรอยแห่งศรัทธาที่สืบทอดจากอดีต
ประวัติความเป็นมานาราบิ จิโซ (Narabi Jizo) หรือที่แปลว่า “พระโพธิสัตว์จิโซ เรียงราย” นั้น มีความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) ว่ากันว่าพระเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อคุ้มครองนักเดินทางและเด็ก ๆ ที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร โดยชาวบ้านจะนำหินมาแกะสลักเป็นรูปพระจิโซและนำมาวางเรียงรายไว้ริมแม่น้ำ เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลและขอพรให้ดวงวิญญาณเหล่านั้นได้ไปสู่สุคติ
- ในภาษาอังกฤษ บางครั้งอาจเรียกว่า Jizo Statues Nikko หรือใช้คำว่า Jizo Statues Nikko history เมื่อพูดถึงประวัติความเป็นมาของพระจิโซกลุ่มนี้
- ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากแวะมาทำ รีวิวเที่ยว Nikko Narabi Jizo เพื่อบอกเล่าประสบการณ์และความประทับใจต่อพระโพธิสัตว์จิโซที่เรียงรายอยู่ริมแม่น้ำ
สิ่งที่น่าสนใจคือ เดิมทีจำนวนของพระจิโซไม่ได้มีมากมายเท่าปัจจุบัน แต่ด้วยความเชื่อและความศรัทธาที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีผู้คนนำพระจิโซมาวางเพิ่มเติมอยู่เรื่อย ๆ จนกลายเป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน
พระโพธิสัตว์จิโซ ความสำคัญทางวัฒนธรรมและศาสนา
ในศาสนาพุทธนิกายมหายาน ซึ่งเป็นนิกายหลักในญี่ปุ่น พระโพธิสัตว์จิโซ (Jizo Bodhisattva) เป็นที่เคารพสักการะอย่างกว้างขวาง โดยเชื่อกันว่าเป็นผู้ที่คอยช่วยเหลือสรรพสัตว์ทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ผู้เดินทาง และผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก พระจิโซมักถูกแสดงภาพในรูปของพระสงฆ์ สวมจีวร และถือไม้เท้ากับลูกแก้ว
- ผ้ากันเปื้อนสีแดงที่เรามักเห็นบนพระจิโซ ริมแม่น้ำ ญี่ปุ่นมีความหมายถึงความปรารถนาที่จะปกป้องเด็ก ๆ และแสดงถึงความรักความห่วงใยของผู้ที่นำมาถวาย
เว็บไซต์ทางการ Nikko Official Guide
ที่ตั้ง ภูมิประเทศ และสภาพอากาศ สวรรค์แห่งธรรมชาติในอ้อมกอดขุนเขา
ที่ตั้ง
ทางเดินริเวอร์วอล์ค นาราบิ จิโซ ตั้งอยู่ในเมืองนิกโก้ จังหวัดโทจิกิ ซึ่งหลายคนยกให้เป็นนิกโก้ ที่เที่ยวใกล้โตเกียว ที่สามารถเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นได้แบบเช้าไปเย็นกลับ (มีคนสงสัยกันบ่อย ๆ ว่า นิกโก้ เที่ยววันเดียวได้ไหม คำตอบคือทำได้สบายมาก) โดยทางเดินแห่งนี้จะเลียบไปตามริมแม่น้ำคานะยะ (Kanaya River) น้ำใสเย็นตลอดปี
- นิกโก้เป็นเมืองที่โดดเด่นด้วยธรรมชาติครบครัน ทั้งภูเขา ป่าไม้ น้ำตก และแม่น้ำใสสะอาด จึงกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวญี่ปุ่นยอดนิยม
- ผู้ที่ต้องการเที่ยวโทจิกิ มักจะรวม “นิกโก้” ไว้ในลิสต์ เพราะนอกจากบรรยากาศดี ยังมีแหล่งวัดและศาลเจ้านิกโก้ที่สำคัญหลายแห่ง
- สภาพอากาศแบ่งออกเป็น 4 ฤดู แต่ช่วงไฮไลต์คือฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น (ประมาณปลายกันยายน – พฤศจิกายน) ที่ใบไม้ทั่วนิกโก้จะเปลี่ยนเป็นสีแดง เหลือง ส้ม สวยงามมาก และยังมีนักท่องเที่ยวตามหาจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี นิกโก้ทั้งในตัวเมืองและรอบนอก
- ที่อยู่ Nikko, Tochigi 321-1415 ญี่ปุ่น
ประสบการณ์ที่แตกต่างกันในแต่ละฤดูกาล
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ คุณจะได้สัมผัสกับความสดใสของดอกซากุระที่บานสะพรั่งริมทางเดินริเวอร์วอล์ค นาราบิ จิโซ ในฤดูร้อนต้นไม้เขียวขจีจะมอบความร่มรื่นและความเย็นสบาย ส่วนในฤดูใบไม้ร่วง ญี่ปุ่นใบไม้หลากสีจะสร้างบรรยากาศที่โรแมนติกและน่าประทับใจ และในฤดูหนาวหิมะที่ปกคลุมจะเปลี่ยนให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์
ความคิดเห็นส่วนตัว ผู้เขียนเคยไปเยือนนิกโก้ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่นบอกเลยว่าบรรยากาศนั้นสวยงามราวกับภาพวาด ใบไม้สีแดง เหลือง ส้ม ตัดกับสีเขียวของต้นสน และสายน้ำใสเย็น ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกแห่งความฝัน
วิธีเดินทางไปนาราบิ จิโซ จากโตเกียว แนะนำการเดินทางที่สะดวก
การเดินทางไปยังทางเดินริเวอร์วอล์ค นาราบิ จิโซ สามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับจุดเริ่มต้นของคุณ สำหรับใครที่สงสัยว่าวิธีเดินทางไปนาราบิ จิโซ จากโตเกียวสามารถเดินทางได้ดังนี้
จากโตเกียว
- รถไฟ ขึ้นรถไฟ JR หรือ Tobu Railway ไปยังสถานีนิกโก้ จากนั้นต่อรถบัสไปยังป้ายที่ใกล้กับทางเดินริเวอร์วอล์ค
- รถยนต์ ขับรถจากโตเกียวไปยังนิกโก้ ใช้ทางด่วนประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง
จากสถานีนิกโก้
- รถบัส ขึ้นรถบัส Tobu Bus ที่มุ่งหน้าไปยังโซนวัดและศาลเจ้า (Nikko World Heritage Area) และลงที่ป้าย Tamozawa (田母沢) จากนั้นเดินเท้าอีกประมาณ 10 – 15 นาทีผ่านย่านที่อยู่อาศัยไปยังทางเดินริเวอร์วอล์ค
- แท็กซี่ สามารถเรียกแท็กซี่จากสถานีนิกโก้ไปยังทางเดินริเวอร์วอล์คได้ ใช้เวลาประมาณ 5 – 10 นาที
คำแนะนำ การใช้รถบัสเป็นวิธีที่สะดวกและประหยัดที่สุดในการเดินทางภายในเมืองนิกโก้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการเยี่ยมชมวัดและศาลเจ้านิกโก้ อื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงด้วย
แผนที่เดินทางไป Narabi Jizo River Walk Nikko Google Maps
รีวิวเที่ยว Nikko Narabi Jizo เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงลึก
หลายคนที่มาเที่ยวนิกโก้เลือกที่จะเริ่มต้นจากย่านนี้ เนื่องจากบรรยากาศสงบและสวยงาม เหมาะสำหรับเดินผ่อนคลาย ไม่ว่าจะช่วงไหนของปี คุณก็จะได้เห็นทัศนียภาพที่เปลี่ยนไปในแต่ละฤดูกาล
- เที่ยวญี่ปุ่นช่วงไหนดี นิกโก้? คำถามยอดนิยมก็คือฤดูใบไม้ผลิ (ชมซากุระ) กับช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น (ชมใบไม้แดง) เพราะอากาศกำลังพอดีและทิวทัศน์สวยงาม
- หากมาช่วงหิมะตก ในช่วงเมืองนิกโก้หน้าหนาว รีวิวจากนักท่องเที่ยวมักจะรีวิวว่าเป็นอีกบรรยากาศที่เงียบสงบและมีหิมะโปรยปรายตามขอบแม่น้ำ
สถานที่ถ่ายรูปสวยในนิกโก้ เก็บความประทับใจริมแม่น้ำ
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ถ่ายรูปสวยในนิกโก้ เพื่อเก็บภาพความประทับใจไว้ลงโซเชียล ที่นี่ถือว่าเป็นอีกจุดที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสีและฤดูหนาว เนื่องจากมีความสวยงามแบบไม่ซ้ำใคร
- อย่าลืมหา จุดถ่ายรูปใบไม้แดง นิกโก้ ดี ๆ เพื่อให้ได้ภาพมุมกว้างของพระจิโซริมแม่น้ำคู่กับฉากหลังของใบไม้สีสวย
- การเดินถ่ายรูปเล่นในช่วงเช้าตรู่หรือตอนเย็น จะได้แสงที่นุ่มนวลและบรรยากาศสุดโรแมนติก
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เปิดโผ Nikko World Heritage
เมื่อมาเยือนทางเดินริเวอร์วอล์ค นาราบิ จิโซแล้ว อย่าพลาดไปเยี่ยมชมสถานที่ชื่อดังที่อยู่ไม่ไกลกัน ได้แก่
- Kanmangafuchi Abyss (คังมันกาฟุจิ) อีกจุดหนึ่งที่มี Jizo Statues เรียงรายมากมาย ใครสนใจพลังศรัทธาคล้าย ๆ กับที่ Narabi Jizo ก็ต้องมาดู
- Shinkyo Bridge สะพานโค้งสีแดงสดที่ทอดข้ามแม่น้ำ เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของ Nikko World Heritage
- Toshogu Shrine หรือที่คนไทยเรียกว่าศาลเจ้านิกโก้โทโชกุ เป็นวัดและศาลเจ้านิกโก้เก่าแก่และอลังการ จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
- Chuzenji Lake ทะเลสาบที่โอบล้อมด้วยภูเขา อากาศดีตลอดปี
- Kegon Falls น้ำตกสวยระดับตำนาน สูงถึง 97 เมตร
- Edo Wonderland Nikko หรือ Edo Wonderland Nikko Edomura หมู่บ้านจำลองยุคเอโดะที่ให้คุณสัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นโบราณได้อย่างเต็มอิ่ม
ทั้งหมดนี้สามารถจัดเป็น Nikko itinerary 1 day แบบเต็ม ๆ ได้ไม่ยาก ถ้าต้องการไปครบทุกจุดควรเริ่มต้นแต่เช้า หรือถ้าคุณมีเวลาเพิ่ม แนะนำให้อยู่สัก 2 วันเพื่อเก็บบรรยากาศให้คุ้ม
เคล็ดลับและข้อควรปฏิบัติเมื่อเที่ยวนิกโก้
- ช่วงเวลาที่ดีที่สุด หากไม่อยากเจอคนเยอะ แนะนำให้ไปช่วงเช้าตรู่ หรือบ่ายแก่ ๆ
- สิ่งที่ควรนำติดตัว รองเท้าสบาย ๆ น้ำดื่ม และกล้องถ่ายรูป
- ข้อควรระวัง ควรให้ความเคารพสถานที่ไหว้พระขอพร นิกโก้ในวัดหรือศาลเจ้าต่าง ๆ อย่างเหมาะสม
- บรรยากาศการเที่ยว สำหรับคนที่สงสัยว่านิกโก้ เที่ยววันเดียวได้ไหม คำตอบคือได้ แต่ถ้ามีเวลามากขึ้น จะสามารถแวะชมที่ต่าง ๆ ได้อย่างละเอียด
นิกโก้ ควรพักที่ไหนดี? ที่พักหลากหลายสไตล์
หากคุณอยากสัมผัสบรรยากาศนิกโก้แบบเต็มอิ่มมากขึ้น ลองพิจารณาว่าจะพักค้างคืนสัก 1 – 2 คืน
- มีที่พักตั้งแต่โรงแรมหรู เรียวกัง (Ryokan) แบบญี่ปุ่นแท้ ไปจนถึงโฮสเทลราคาประหยัด
- บางที่พักตั้งอยู่ริมน้ำ มองออกไปเห็นวิว แม่น้ำคานะยะ (Kanaya River) หรือใกล้แหล่ง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ญี่ปุ่น ซึ่งช่วยให้ทริปของคุณสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
- สำหรับคำถามที่ว่า นิกโก้ ควรพักที่ไหนดี แนะนำให้เลือกที่พักใกล้สถานีรถไฟหรือป้ายรถบัสหลัก ๆ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
ตำนานท้องถิ่นและความเชื่อ เสน่ห์ที่ยังคงอยู่
แม้จะไม่มีตำนานที่เป็นลายลักษณ์อักษรเกี่ยวกับ Narabi Jizo อย่างชัดเจน แต่ชาวบ้านเชื่อในบารมีของ “พระจิโซ” มาตลอด จึงไม่แปลกที่ยังคงมีการนำพระจิโซมาตั้งเพิ่มเรื่อย ๆ ตามความศรัทธา
- บ้างก็เชื่อว่าหากใครทุกข์ใจหรือมีปัญหาในชีวิต เมื่อมาสักการะพระโพธิสัตว์จิโซและขอพร จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นหรือพบหนทางแก้ไข
- จึงไม่น่าแปลกใจที่คนญี่ปุ่นจำนวนมากแวะมาทำบุญหรือขอพรที่นี่ จนกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ญี่ปุ่นที่ใครผ่านไปก็อยากแวะ
อาหารและวัฒนธรรมการกินในนิกโก้
หลังจากเดินเล่นจนทั่ว ทางเดินริเวอร์วอล์ค นาราบิ จิโซ คุณอาจอยากลองอาหารท้องถิ่นของนิกโก้ที่ขึ้นชื่อ เช่น
- ยูบะ (Yuba) ผลิตภัณฑ์จากนมถั่วเหลือง ที่นิยมนำไปทำซาชิมิหรือต้มในน้ำซุป
- โซบะ (Soba) เส้นบัควีทคุณภาพดี หาทานได้ทั่วไปในนิกโก้
- Tochigi Beef เนื้อวัวเกรดดีจากจังหวัดโทจิกิ
- สาเก สาเกท้องถิ่นรสดี ไม่ควรพลาดหากคุณอยากลองเครื่องดื่มแบบญี่ปุ่นแท้
FAQ ถาม – ตอบ น่ารู้ก่อนเดินทาง
- เที่ยวญี่ปุ่นช่วงไหนดี นิกโก้?
- โดยทั่วไป ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่นและฤดูใบไม้ผลิที่ดอกซากุระบานจะสวยงามที่สุด แต่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
- นิกโก้ เที่ยวเอง ไม่ยาก จริงไหม?
- จริง! การเดินทางสะดวกด้วยรถไฟ JR หรือ Tobu Railway และมีรถบัสวิ่งทั่วเมือง
- นิกโก้ เที่ยววันเดียวได้ไหม?
- ได้ แต่ควรเตรียมตัวให้ดี เพราะมีหลายจุดน่าสนใจ เช่น Shinkyo Bridge, Toshogu Shrine, Chuzenji Lake, และ Kegon Falls หากมีเวลาเพิ่มแนะนำให้พักค้างคืนเพื่อเก็บบรรยากาศ
- Nikko itinerary 1 day ควรจัดยังไง?
- เริ่มตั้งแต่เช้า แวะ ทางเดินริเวอร์วอล์ค นาราบิ จิโซ หรือ Kanmangafuchi Abyss (คังมันกาฟุจิ) จากนั้นไป Toshogu Shrine และปิดท้ายที่ Shinkyo Bridge หรือ Edo Wonderland Nikko แล้วแต่ความสนใจ
- นิกโก้ ควรพักที่ไหนดี?
- เลือกที่พักใกล้สถานีหรือป้ายรถบัสใหญ่ ๆ จะสะดวกต่อการเดินทางท่องเที่ยวในวันถัดไป
บทสรุป มนต์ขลังแห่งนิกโก้ที่รอให้คุณมาสัมผัส
ทางเดินริเวอร์วอล์ค นาราบิ จิโซ (Narabi Jizo River Walk Nikko) คือความลงตัวของธรรมชาติและศรัทธาที่ผสานกันอย่างกลมกลืน สำหรับใครที่อยาก เที่ยวนิกโก้ เพื่อสัมผัสบรรยากาศเย็นสบาย และอยากเข้าถึงแก่นแท้ของ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ญี่ปุ่น ที่ฝังรากลึกในวัฒนธรรมญี่ปุ่น Artralux ขอบอกเลยว่าที่นี่เป็นจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด มาร่วมเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวเชิงลึก เที่ยวญี่ปุ่นแบบได้ทั้งธรรมชาติและจิตวิญญาณ วางแผนเดินทางได้เลย แล้วคุณจะรู้ว่ามนต์เสน่ห์แห่งนิกโก้นั้น “ประทับใจ” และคุ้มค่าแก่การมาเยือนเพียงใด!
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลที่ครอบคลุม ทั้งด้านประวัติศาสตร์ ศาสนา การเดินทาง และเคล็ดลับต่าง ๆ สำหรับการมาเยือนทางเดินริเวอร์วอล์ค นาราบิ จิโซแบบจัดเต็ม แล้วเจอกันใหม่ในรีวิวเที่ยว Nikko Narabi Jizo หรือการผจญภัยครั้งต่อไปในประเทศญี่ปุ่นของคุณ
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42