โอฮิระซัง (Ohirasan Prefectural Natural Park) ในจังหวัดโทชิงิ คือคำตอบสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจที่สมบูรณ์แบบ ที่นี่เปรียบเสมือนโอเอซิสสีเขียวชอุ่มที่ตั้งอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม พร้อมมอบประสบการณ์ เที่ยวญี่ปุ่นธรรมชาติ ที่จะตราตรึงในความทรงจำของคุณ
จังหวัดโทชิงิ ไม่ได้มีเพียงมรดกโลกอย่างนิกโก้เท่านั้น แต่ยังซุกซ่อนความงามทางธรรมชาติอันน่าทึ่งไว้อีกมากมาย และภูเขาโอฮิระ (Mount Ōhira) ซึ่งเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งนี้ ก็คือหนึ่งในเพชรเม็ดงามที่ได้รับการเจียระไนอย่างพิถีพิถัน การได้รับประกาศให้เป็น “อุทยานธรรมชาติประจำจังหวัด” ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2498 (ค.ศ. 1955) ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นการยืนยันถึงคุณค่าและความสำคัญของระบบนิเวศและความงามทางภูมิทัศน์อันโดดเด่น ที่นี่คือผืนป่าที่มีชีวิต คือจุดนัดพบของฤดูกาลที่หมุนเวียนเปลี่ยนผ่าน และคือจุดชมวิวที่เปิดโลกทัศน์ของคุณให้กว้างไกลกว่าเดิม เตรียมหัวใจของคุณให้พร้อม แล้วออกเดินทางไปสัมผัสเสน่ห์ที่แท้จริงของ อุทยานธรรมชาติโอฮิระซัง ด้วยกัน
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
มนต์สะกดแห่งฤดูใบไม้ผลิ ทะเลซากุระบานสะพรั่ง ณ โอฮิระซัง
เมื่อสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิพัดมาถึง (ราวต้นเดือนเมษายน) อุทยานธรรมชาติโอฮิระซัง จะถูกปลุกให้ตื่นจากห้วงนิทราฤดูหนาว แปลงโฉมเป็นดินแดนแห่งความฝันสีชมพูด้วยต้นซากุระกว่า 4,000 ต้น ที่พร้อมใจกันอวดดอกบานสะพรั่งทั่วทั้งภูเขา ลองจินตนาการถึงภาพเนินเขาทั้งลูกที่ถูกปกคลุมไปด้วยพรมสีชมพูอ่อนหวาน ตัดกับสีฟ้าใสของท้องฟ้า มันคือภาพที่งดงามเกินกว่าคำบรรยายใดๆ
ไฮไลท์เด็ดที่ทำให้ที่นี่โด่งดังและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ คือ “อุโมงค์ซากุระ” (Sakura Tunnel) อันเลื่องชื่อ ที่ทอดยาวกว่า 2 กิโลเมตรตามถนนสายชมวิวจากเชิงเขาขึ้นไป กิ่งก้านของต้นซากุระโซเมอิโยชิโนะ (Somei Yoshino) และซากุระป่าหลากหลายสายพันธุ์ที่ปลูกเรียงรายสองฝั่งถนน ต่างโน้มกิ่งเข้าหากัน ประสานเป็นซุ้มโค้งธรรมชาติเหนือศีรษะ การได้เดินเท้าหรือขับรถยนต์ช้าๆ ลอดผ่านอุโมงค์ดอกไม้แห่งนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินทางผ่านดินแดนเทพนิยาย แสงแดดอ่อนๆ ที่ส่องลอดผ่านกลีบดอกสีชมพู ยิ่งเพิ่มบรรยากาศความโรแมนติกและความสุขใจ
แม้จะไม่มีข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับเทศกาลใหญ่โตที่มีร้านค้ามากมายเหมือนจุดอื่นๆ แต่ในช่วงพีค บรรยากาศจะเต็มไปด้วยผู้คนที่มาพักผ่อนหย่อนใจ บ้างก็ปูเสื่อนั่งชมดอกไม้ (ฮานามิ) บ้างก็มาถ่ายรูปเก็บความประทับใจ เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของผู้คนผสมผสานกับความงามของธรรมชาติ สร้างพลังบวกและความรู้สึกดีๆ ให้กับผู้มาเยือน หากคุณกำลังมองหาจุดชม ซากุระ โทชิงิ ที่งดงามติดอันดับและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โอฮิระซังคือคำตอบที่ไม่ควรมองข้าม (อย่าลืมตรวจสอบพยากรณ์ซากุระบานล่วงหน้า เพราะช่วงเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในแต่ละปี)
ตำนานมีชีวิต โนชิดาเระซากุระ ซากุระพันปี กิ่งย้อยงามสง่า
ท่ามกลางทะเลซากุระกว่าสี่พันต้น ยังมีดาวเด่นอีกหนึ่งดวงที่ยืนหยัดผ่านกาลเวลามานานหลายศตวรรษ นั่นคือ ต้น “โนชิดาเระซากุระ” (Noshidare Zakura) หรือ ซากุระพันธุ์กิ่งย้อยโบราณ ที่มีอายุยืนยาวกว่า 370 ปี ต้นซากุระเก่าแก่ต้นนี้ไม่ได้เป็นเพียงพยานแห่งประวัติศาสตร์ แต่ยังเปี่ยมไปด้วยความงามอันน่าเกรงขามและอ่อนช้อยในเวลาเดียวกัน
ด้วยความสูงตระหง่านถึง 9 เมตร และลำต้นที่แข็งแกร่ง กว้างถึง 2.5 เมตร แผ่กิ่งก้านสาขาที่โค้งย้อยลงมาอย่างสง่างามราวกับม่านน้ำตกสีชมพูอ่อน ในยามที่ดอกซากุระเบ่งบานเต็มที่ กิ่งก้านเหล่านี้จะประดับประดาไปด้วยพวงดอกไม้เล็กๆ นับพันนับหมื่นดอก สร้างภาพที่งดงามจับใจ การได้ยืนอยู่ใต้ร่มเงาของต้นซากุระโบราณต้นนี้ สัมผัสกลิ่นหอมอ่อนๆ และชื่นชมความงามที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายยุคสมัย เป็นประสบการณ์ที่ลึกซึ้งและน่าประทับใจอย่างยิ่ง ที่นี่จึงกลายเป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม ที่ทุกคนอยากมาเก็บภาพคู่กับตำนานที่มีชีวิตต้นนี้ไว้เป็นที่ระลึก
โอฮิระซังหลากฤดู พรมดอกไม้งามและความงามแห่งใบไม้เปลี่ยนสี
เสน่ห์ของ อุทยานธรรมชาติโอฮิระซัง ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ช่วงฤดูซากุระบานเท่านั้น แต่ที่นี่ยังคงเผยความงามอันหลากหลายให้ได้ชื่นชมตลอดทั้งปี เปรียบได้กับการเข้าร่วม เทศกาลดอกไม้ญี่ปุ่น ที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปไม่รู้จบ
- พฤษภาคม – พรมดอกอาซาเลียหลากสี เมื่อกลีบซากุระร่วงโรยไป ก็ถึงเวลาของ “ดอกอาซาเลีย” (Azaleas) หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อ กุหลาบพันปี ที่จะมาแต่งแต้มสีสันสดใส ทั้งชมพู แดง ม่วง ขาว ให้กับเนินเขา เปลี่ยนทิวทัศน์ให้ดูมีชีวิตชีวาราวกับผืนพรมดอกไม้ผืนยักษ์
- ปลายมิถุนายน – กลางกรกฎาคม – เนินเขาแห่งไฮเดรนเยีย ย่างเข้าสู่ฤดูฝน คือช่วงเวลาของ “ดอกไฮเดรนเยีย” (Hydrangeas) หรือ อาจิไซ ดอกไม้รูปทรงกลมช่อใหญ่ ที่จะเบ่งบานอวดสีสันตั้งแต่สีฟ้าอ่อน ฟ้าคราม ไปจนถึงม่วงและชมพู โดยเฉพาะบริเวณ “เนินไฮเดรนเยีย” ที่ดอกไม้จะบานสะพรั่งพร้อมกัน สร้างภาพที่งดงามน่าอัศจรรย์ ชวนให้เดินเล่นถ่ายรูปท่ามกลางสายหมอกบางๆ
- ฤดูใบไม้ร่วง (ตุลาคม – พฤศจิกายน) – มนต์เสน่ห์แห่งใบไม้เปลี่ยนสี เมื่อลมหนาวเริ่มพัดมาเยือน ถึงเวลาที่ผืนป่าบนภูเขาโอฮิระจะผลัดเปลี่ยนอาภรณ์เป็นสีสันอันอบอุ่น ใบของต้นเมเปิล (Momiji) และต้นไม้อื่นๆ จะพร้อมใจกันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง ส้มสด และแดงเพลิง สร้างทัศนียภาพที่งดงามราวกับภาพวาดสีน้ำมัน การเดินป่าชมใบไม้เปลี่ยนสี หรือที่เรียกว่า “โมมิจิการิ” (Momijigari) ในช่วงนี้ เป็นกิจกรรมยอดนิยมที่ให้ทั้งความเพลิดเพลินและความสงบทางใจ
จุดชมวิวเคนชินไดระ เปิดม่านสู่ทัศนียภาพหลักล้าน “มัตสึชิมะบนบก”
การเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาโอฮิระ (ซึ่งสามารถขับรถขึ้นไปได้เกือบถึง หรือจะเลือกเดินเท้าสำหรับผู้ที่รักการผจญภัย) จะนำคุณไปสู่ จุดชมวิวเคนชินไดร(Kenshin-daira) ไฮไลท์สำคัญที่เปรียบเสมือนมงกุฎยอดเพชรของอุทยานแห่งนี้ เตรียมกล้องของคุณให้พร้อม เพราะวิวที่คุณจะได้เห็นจากจุดนี้ คือทัศนียภาพแบบพาโนรามา 360 องศา อันน่าทึ่งของ “ที่ราบคันโต” (Kanto Plain) อันกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นทั้งอู่ข้าวอู่น้ำและที่ตั้งของมหานครโตเกียว
สิ่งที่ทำให้เคนชินไดระพิเศษยิ่งกว่าจุดชมวิวอื่นๆ คือสมญานาม “มัตสึชิมะบนบก” (Matsushima on Land) ซึ่งเปรียบเทียบความงามของทิวทัศน์ที่นี่กับ “อ่าวมัตสึชิมะ” หนึ่งในสามทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น (Nihon Sankei) ซึ่งโด่งดังเรื่องหมู่เกาะเล็กๆ ที่ปกคลุมด้วยทิวสน ในวันที่สภาพอากาศเป็นใจ โดยเฉพาะช่วงเช้าหลังฝนตก หรือวันที่มีความชื้นสูง จะเกิดปรากฏการณ์ “ทะเลหมอก” (Unkai) ลอยปกคลุมหุบเขาเบื้องล่าง ทำให้ยอดเขาเล็กๆ ดูเหมือนเกาะที่ลอยเด่นอยู่เหนือปุยเมฆสีขาว สร้างภาพที่งดงามลึกลับราวกับภาพวาดพู่กันจีนโบราณ
และในวันที่ท้องฟ้าสดใส ปราศจากเมฆหมอกบดบัง ทัศนียภาพจะเปิดกว้างไปไกลสุดขอบฟ้า คุณสามารถมองเห็น “ภูเขาสึคุบะ” (Mount Tsukuba) ที่มีรูปทรงโดดเด่นทางทิศตะวันออก หากมองไปทางทิศใต้ จะเห็นเงาของตึกสูงระฟ้าในกรุงโตเกียวเป็นประกายระยิบระยับอยู่ไกลๆ และที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด คือการได้เห็นยอดทรงกรวยอันสง่างามของ “ภูเขาไฟฟูจิ” สัญลักษณ์อันเป็นนิรันดร์ของญี่ปุ่น ตั้งตระหง่านอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เป็นภาพแห่งความประทับใจที่จะเติมเต็มทริปของคุณให้สมบูรณ์แบบ
การเดินทางสู่โอฮิระซัง วางแผนง่ายๆ จากโตเกียวและเมืองใกล้เคียง
แม้จะตั้งอยู่ในจังหวัดโทชิงิ การเดินทางไปยัง อุทยานธรรมชาติโอฮิระซัง นั้นสะดวกสบายกว่าที่คิด สามารถวางแผนเป็นทริปหนึ่งวันจากโตเกียวได้อย่างสบายๆ
- โดยรถไฟ + แท็กซี่ (แนะนำสำหรับความสะดวก)
- เส้นทางที่ 1 จากโตเกียว นั่งรถไฟ JR สายหลัก หรือ Shinkansen ไปยังสถานี Oyama จากนั้นต่อรถไฟ JR สายเรียวโม (JR Ryomo Line) ไปลงที่สถานีโอฮิระชิตะ (Ohirashita Station – 大平下駅) (ตรวจสอบตารางรถไฟ JR Ryomo Line เนื่องจากอาจมีรอบไม่ถี่นัก) สำหรับผู้ถือ JR Pass สามารถใช้กับรถไฟ JR ได้
- เส้นทางที่ 2 นั่งรถไฟสาย Tobu จากสถานี Asakusa ในโตเกียว (ใช้ Tobu Nikko Line) ไปลงที่สถานีโทชิงิ (Tochigi Station – 栃木駅) ซึ่งสถานีนี้มีรถไฟ JR Ryomo Line ผ่านด้วยเช่นกัน
- จากสถานีสู่ตัวอุทยาน เมื่อถึงสถานีโอฮิระชิตะ หรือ สถานีโทชิงิ ทางเลือกที่สะดวกที่สุดคือการใช้บริการรถแท็กซี่ แจ้งจุดหมายปลายทางว่า “Ohirasan Jinja” (ศาลเจ้าโอฮิระซัง ซึ่งเป็นจุดหลักบนเขา) หรือ “Kenshin-daira” (จุดชมวิว) อาจเตรียมชื่อสถานที่ภาษาญี่ปุ่น (大平山神社 หรือ 謙信平) ให้คนขับดูเพื่อความชัดเจน ระยะทางประมาณ 10 นาที ค่าโดยสารประมาณ 1,500 – 2,000 เยน (ราว 350 – 470 บาท อัตราแลกเปลี่ยน ณ เม.ย. 2025 อาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบอีกครั้ง) ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรและจุดหมายปลายทางที่แน่นอนบนเขา
- โดยรถยนต์ส่วนตัว
- หากคุณเช่ารถขับ การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็เป็นทางเลือกที่ดี สามารถใช้ GPS นำทางไปยัง “Ohirasan Prefectural Natural Park” หรือ “Kenshin-daira Viewpoint” ได้โดยตรง หากมาจากโตเกียว อาจต้องใช้ทางด่วน (มีค่าผ่านทาง)
- คำเตือนสำคัญ มีที่จอดรถให้บริการในบริเวณอุทยานฯ และใกล้จุดชมวิว แต่ ในช่วงฤดูท่องเที่ยวสำคัญ โดยเฉพาะช่วง ซากุระบาน (ต้นเมษายน) และช่วงใบไม้เปลี่ยนสี (พฤศจิกายน) ที่จอดรถจะ เต็มเร็วมาก และอาจต้องรอคิวนาน หรือไม่มีที่จอดเลย แนะนำให้เดินทางไปถึงแต่เช้ามากๆ (ก่อน 8-9 โมงเช้า) หรือหลีกเลี่ยงการขับรถมาในวันหยุดสุดสัปดาห์ช่วงพีค การใช้บริการขนส่งสาธารณะและแท็กซี่อาจเป็นทางเลือกที่สะดวกและลดความกังวลได้มากกว่า
เตรียมตัวให้พร้อม เคล็ดลับ บอกหมด สำหรับการพิชิตโอฮิระซัง
เพื่อให้การมาเยือน อุทยานธรรมชาติโอฮิระซัง ของคุณราบรื่นและน่าประทับใจที่สุด ลองดูเคล็ดลับเหล่านี้
- ค่าเข้าชม ย้ำอีกครั้งว่า เข้าชมฟรี ไม่ต้องเสียเงินค่าตั๋วเข้าอุทยานฯ
- ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชม (ภายในวัน) หากต้องการหลีกเลี่ยงฝูงชนและได้แสงสวยๆ สำหรับถ่ายภาพ แนะนำให้ไปถึง ช่วงเช้า (ก่อน 10 โมง) โดยเฉพาะในวันหยุดหรือช่วงเทศกาล ช่วงบ่ายแก่ๆ ใกล้พระอาทิตย์ตกก็ให้บรรยากาศที่สวยงามไปอีกแบบ (ตรวจสอบเวลาเปิดปิดของสถานที่อำนวยความสะดวกต่างๆ ถ้ามี)
- การแต่งกาย
- รองเท้า สำคัญที่สุด สวมรองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าสำหรับเดินที่ใส่สบายและยึดเกาะได้ดี เพราะต้องเดินชมในพื้นที่ธรรมชาติ มีทางลาดชันและขั้นบันไดบ้าง
- เสื้อผ้า แต่งกายตามสภาพอากาศ ควรเช็คพยากรณ์อากาศล่วงหน้า แนะนำให้แต่งกายเป็นชั้นๆ (layering) เพื่อให้สามารถถอดหรือใส่เพิ่มได้ตามอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงระหว่างวัน
- อุปกรณ์เสริม หมวก แว่นกันแดด ครีมกันแดด (แม้ในวันที่มีเมฆ) และร่ม (เผื่อฝนตก) เป็นสิ่งที่มีประโยชน์
- อาหารและเครื่องดื่ม ภายในบริเวณอุทยานฯ อาจมีร้านค้าหรือคาเฟ่เล็กๆ ให้บริการ (โดยเฉพาะใกล้ศาลเจ้าหรือจุดชมวิว) แต่ตัวเลือกอาจไม่มากนัก แนะนำให้ เตรียมน้ำดื่มและอาหารว่าง/อาหารกลางวันง่ายๆ ไปเอง เพื่อความสะดวกและประหยัด สามารถหาสถานที่เงียบสงบนั่งปิกนิกท่ามกลางธรรมชาติได้ (แต่อย่าลืมรักษาความสะอาด) หรือวางแผนไปทานอาหารในตัวเมืองโทชิงิหลังเที่ยวชมเสร็จ
- ห้องน้ำ มีห้องน้ำสาธารณะให้บริการตามจุดสำคัญในอุทยานฯ สภาพความสะอาดโดยทั่วไปได้มาตรฐานญี่ปุ่น
- การเดินทางสำหรับผู้สูงอายุ/เด็กเล็ก/ผู้ใช้รถเข็น พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเส้นทางธรรมชาติ มีทางลาดชันและขั้นบันได การเดินทางด้วยรถเข็นอาจไม่สะดวกนักในหลายๆ จุด แต่บริเวณจุดชมวิวเคนชินไดระ (ถ้าขับรถขึ้นไปถึง) อาจพอเข้าถึงได้บ้าง ควรวางแผนและประเมินสภาพร่างกายของผู้ร่วมเดินทาง
- เคล็ดลับการถ่ายภาพ ช่วงเช้าและช่วงบ่ายแก่ๆ ให้แสงที่นุ่มนวลสวยงาม ลองหามุมมองที่แตกต่าง เช่น ถ่ายภาพผ่านกิ่งซากุระ หรือใช้เลนส์มุมกว้างเพื่อเก็บภาพพาโนรามา
- มารยาทและข้อควรปฏิบัติ
- เคารพธรรมชาติ ไม่เด็ดดอกไม้ ไม่หักกิ่งไม้ ไม่ทิ้งขยะ (นำขยะทั้งหมดกลับไปทิ้งในที่ที่จัดไว้ หรือนำกลับโรงแรม)
- รักษาความสงบ ไม่ส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่นและสัตว์ป่า
- ปฏิบัติตามป้ายเตือนหรือคำแนะนำต่างๆ
เสน่ห์เมืองเก่าโทชิงิ เติมเต็มทริปโอฮิระซัง
ไหนๆ ก็เดินทางมาถึงจังหวัดโทชิงิแล้ว หากมีเวลาเหลือหลังจากดื่มด่ำกับธรรมชาติบนภูเขาโอฮิระ อย่าพลาดโอกาสแวะไปสัมผัสเสน่ห์ของ “เมืองโทชิงิ” (Tochigi City) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานี Tochigi เมืองนี้มีบรรยากาศที่แตกต่างจากโตเกียวอย่างสิ้นเชิง ด้วยกลิ่นอายของเมืองเก่าที่ยังคงอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
ไฮไลท์ของเมืองโทชิงิคือ ย่าน “คุระโนะมาจิ” (Kuranomachi) หรือ “เมืองแห่งโกดัง” ที่เรียงรายไปด้วยอาคารโกดังเก่าแก่ (Kura) สไตล์ดั้งเดิมสีขาวดำริมคลอง ซึ่งในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางการค้าที่รุ่งเรือง ปัจจุบัน โกดังเหล่านี้ได้รับการปรับปรุงให้กลายเป็นร้านค้าเก๋ๆ ร้านอาหาร คาเฟ่ พิพิธภัณฑ์ และแกลเลอรี่ศิลปะ การเดินเล่นเลียบริมคลอง ชมสถาปัตยกรรมโบราณ หรือจะลองนั่งเรือชมวิวเอื่อยๆ ก็เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายและได้บรรยากาศย้อนยุคไปอีกแบบ การแวะเที่ยวเมืองโทชิงิจะช่วยเติมเต็มทริป เที่ยวญี่ปุ่นธรรมชาติ ของคุณให้มีมิติทางวัฒนธรรมเพิ่มขึ้น และทำให้การเดินทางมายังภูมิภาคนี้คุ้มค่ายิ่งขึ้น
ที่มาของข้อมูล : https://www.pref.tochigi.lg.jp/d04/eco/shizenkankyou/shizen/ohira.html
สรุป ทำไมโอฮิระซังคือเดสติเนชั่น “เที่ยวญี่ปุ่นธรรมชาติ” ที่ต้องปักหมุด
อุทยานธรรมชาติโอฮิระซัง ไม่ใช่เพียงจุดแวะพัก แต่คือจุดหมายปลายทางที่มอบประสบการณ์อันล้ำค่า ตอบโจทย์นักเดินทางชาวไทยที่แสวงหาความงามอันบริสุทธิ์ของธรรมชาติ และนี่คือเหตุผลที่คุณควรปักหมุดที่นี่ไว้ในแผนการเดินทางครั้งต่อไป
- ความงามที่จับต้องได้ทุกฤดู ไม่ว่าคุณจะหลงรักสีชมพูหวานของซากุระ ชอบความสดใสของอาซาเลียและไฮเดรนเยีย หรือดื่มด่ำกับความโรแมนติกของใบไม้เปลี่ยนสี โอฮิระซังมีภาพความงามรอคุณอยู่เสมอ
- วิวพาโนรามาหลักล้าน จุดชมวิวเคนชินไดร คือรางวัลของการเดินทาง ที่จะเปิดประสบการณ์การชมวิวทิวทัศน์อันกว้างไกลสุดสายตา พร้อมโอกาสพิเศษในการเห็นภูเขาไฟฟูจิ
- การเดินทางที่สะดวกสบาย ตำแหน่งที่ตั้งไม่ไกลจากโตเกียว ทำให้สามารถวางแผนเป็นทริปหนึ่งวันได้อย่างง่ายดาย หรือจะพักค้างคืนเพื่อซึมซับบรรยากาศก็ยอดเยี่ยม
- คุณค่าที่ประเมินไม่ได้ (และเข้าชมฟรี) การได้สัมผัสธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ความสงบ และความงามทางสายตา เป็นการลงทุนทางความสุขที่คุ้มค่า โดยไม่ต้องเสียค่าเข้าชม
- การพักผ่อนที่แท้จริง หลีกหนีความเร่งรีบของเมืองใหญ่ มาสูดอากาศบริสุทธิ์ เดินเล่นท่ามกลางแมกไม้ และปล่อยใจให้ผ่อนคลายไปกับธรรมชาติบำบัด
- เหมาะกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเดินทางคนเดียว คู่รัก หรือครอบครัว (ที่เด็กๆ โตพอจะเดินได้) โอฮิระซังมอบความสุขและความทรงจำดีๆ ให้กับทุกคน
ไอเดียทริปหนึ่งวันจากโตเกียว
- เช้าตรู่ เดินทางจากโตเกียวโดยรถไฟ (JR หรือ Tobu)
- สายๆ ถึงสถานี Tochigi/Ohirashita ต่อแท็กซี่ขึ้นไปยังอุทยานฯ เริ่มต้นสำรวจ เดินชมธรรมชาติ ถ่ายรูป
- เที่ยง หามุมสงบปิกนิก หรือแวะร้านอาหารเล็กๆ บนเขา (ถ้ามี)
- บ่าย ขึ้นไปยังจุดชมวิวเคนชินไดระ ดื่มด่ำกับทัศนียภาพ
- บ่ายแก่ๆ เดินทางลงจากเขา แวะเดินเล่นย่านเมืองเก่าคุระโนะมาจิในเมืองโทชิงิ
- เย็น เดินทางกลับโตเกียว
การเดินทางสู่ อุทยานธรรมชาติโอฮิระซัง และสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในญี่ปุ่น จะกลายเป็นเรื่องง่ายและน่าประทับใจยิ่งขึ้น เมื่อคุณมีผู้ช่วยที่เชี่ยวชาญ
ต้องการวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นที่ผสมผสานทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม และกิจกรรมที่ตรงใจคุณใช่ไหม? การมีผู้เชี่ยวชาญช่วยออกแบบการเดินทางส่วนตัวก็เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยม
Artralux พร้อมให้บริการออกแบบแพ็คเกจท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะคุณ ทีมงานมืออาชีพของเราจะช่วยสร้างสรรค์ตารางการเดินทางและกิจกรรมที่เหมาะสมกับความสนใจและงบประมาณของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการตามหาจุดชมซากุระลับ การแช่ออนเซ็นท่ามกลางหิมะ หรือการลิ้มลองอาหารท้องถิ่นรสเลิศ เราพร้อมทำให้ทริปญี่ปุ่นของคุณเป็นการเดินทางที่สุขสบาย คุ้มค่า และน่าประทับใจที่สุด
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42