“Hakodate Factory” หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า “โกดังอิฐแดง” เป็นหนึ่งใน สถานที่ท่องเที่ยวฮาโกดาเตะ ซึ่งสะท้อนตัวตนของ เมืองฮาโกดาเตะ ได้อย่างชัดเจน หากคุณเคยได้ยินชื่อนี้ในฐานะจุดเช็คอินถ่ายรูปสวย ๆ แล้วละก็ ขอให้ลองก้าวลึกลงไปอีกขั้น เพราะแท้จริงแล้ว สถานที่แห่งนี้เป็นมากกว่า “มุมถ่ายรูป” หากแต่เป็นพื้นที่ทางวัฒนธรรมที่บอกเล่าเรื่องราวความรุ่งเรืองของ เมืองท่าสำคัญของญี่ปุ่น แห่งนี้ในอดีต
ความโดดเด่นของ อาคารอิฐแดง ที่นี่อยู่ที่ สถาปัตยกรรมยุคเมจิ ซึ่งผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นกับกลิ่นอายตะวันตกอย่างลงตัว จนกลายเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศ รวมถึงผู้สนใจ ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น และวัฒนธรรมในยุคโบราณ ได้มาเยือนเพื่อสัมผัสความพิเศษเหล่านี้ด้วยตาตัวเอง
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
ย้อนรอยประวัติศาสตร์ กำเนิดโกดังอิฐแดงกับยุคทองของเมืองท่า

ยุคเปิดเมืองฮาโกดาเตะสู่โลกกว้าง
ฮาโกดาเตะ เป็นหนึ่งใน เมืองท่าเก่าแก่ของญี่ปุ่นที่ยังคงเสน่ห์ไว้อย่างเต็มเปี่ยม โดยเคยเปิดต้อนรับชาวต่างชาติในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 หลังการลงนามสนธิสัญญาหลายฉบับระหว่างญี่ปุ่นกับชาติตะวันตก ทำให้เมืองนี้กลายเป็นจุดเชื่อมต่อการค้าและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอย่างคึกคัก ผู้คนจากหลากหลายประเทศเดินทางเข้ามา ตั้งแต่นักธุรกิจ พ่อค้า นักเดินทาง ตลอดจนเหล่านักเผยแพร่ศาสนา ย่านโกดังเก่า ริม ท่าเรือฮาโกดาเตะ จึงเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว (ข้อมูลจาก Hakodate วิกกิพีเดีย)
กำเนิดโกดังอิฐแดง

ด้วยความเฟื่องฟูของการค้าทางทะเล จำเป็นต้องมีสถานที่เก็บสินค้าเพื่อรองรับปริมาณทรัพยากรที่มากขึ้น โกดังอิฐแดงจึงถูกสร้างขึ้นด้วยเทคนิคการก่ออิฐแนวตะวันตก ผนวกกับความรู้และทักษะของช่างชาวญี่ปุ่น จนเกิดเป็นอาคารจำนวนหลายหลังที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้อิฐสีแดงเพื่อความแข็งแรงและปกป้องสินค้าจากสภาพอากาศหนาวเย็น หรือการออกแบบภายในที่คำนึงถึงการระบายอากาศและความสะดวกในการขนถ่ายสินค้า
โครงข่ายเศรษฐกิจและบทบาทที่ซ่อนอยู่
แม้ในปัจจุบันจะเหลือโกดังอิฐแดงให้เห็นเพียงไม่กี่หลัง แต่ความจริงแล้ว ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นเครือข่ายอาคารโกดังจำนวนมากที่ทอดตัวเรียงรายตลอดแนวอ่าว โดยแต่ละอาคารทำหน้าที่ต่างกันออกไป เช่น บางหลังเก็บสินค้าในประเทศ บางหลังใช้เก็บสินค้านำเข้าอย่างไวน์หรือข้าวสาลี และบางหลังเป็นศูนย์รวมการขายส่ง พัฒนาต่อจนกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของเมือง และปัจจุบัน ได้รับการปรับโฉมเป็น แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม สำคัญที่บ่งบอกถึง สถานที่ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น อย่างแท้จริง
ที่ตั้งสุดโรแมนติก เดินเล่นเลียบอ่าวฮาโกดาเตะ
ฮาโกดาเตะ (函館市 Hakodate-shi) เมืองท่าสำคัญบนเกาะฮอกไกโด ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกเรียกว่า “Hakodadi” แห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตย่อยโอชิมะ และยังเป็นเมืองหลวงของเขตดังกล่าว ด้วยพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 677.86 ตารางกิโลเมตร ฮาโกดาเตะไม่เพียงแต่มีบทบาทสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แต่ยังครองตำแหน่งเมืองใหญ่อันดับสามของฮอกไกโด รองจากซัปโปโรและอาซาฮิกาวะ (ข้อมูลจาก Hakodate วิกกิพีเดีย)
เมื่อพูดถึง Hakodate Factory สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ “ทัศนียภาพรอบด้าน” เพราะที่นี่ตั้งอยู่ใกล้ Hakodate Bay Area ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดชีวิตและวัฒนธรรมของเมือง การได้เดินเล่นชิล ๆ ริมทะเล (วิวทะเลญี่ปุ่น) สูดอากาศเย็น ๆ พร้อมชม โกดังอิฐแดง ขนาดใหญ่ที่สะท้อนแสงแดดอ่อน ๆ ในช่วงเช้า หรือไฟประดับอันงดงามในยามค่ำคืน คือประสบการณ์ที่หลายคนประทับใจและอยากกลับมาเยือนซ้ำ
นอกจากนี้ บริเวณรอบ ๆ อ่าวยังมี ร้านอาหารโกดังอิฐแดง ที่เสิร์ฟเมนูปลาสด ๆ คาเฟ่บรรยากาศดี (หรือที่หลายคนเรียกว่า คาเฟ่ฮาโกดาเตะ) สไตล์ญี่ปุ่นผสมตะวันตก รวมถึงร้านขายของที่ระลึกที่มีดีไซน์เก๋ ๆ หากเดินลึกเข้าไปใน ย่านเมืองเก่า (Motomachi) คุณอาจได้พบกับโบสถ์ยุโรป อาคารสไตล์ตะวันตก และมุมถ่ายรูปที่จะเติมเต็มทริปการสำรวจเมืองได้อย่างสมบูรณ์แบบ เว็บไซต์ทางการของ Hakodate Factory
ค่าเข้าชมคุ้มเกินคาด จ่ายน้อยแต่ได้ประสบการณ์ใหญ่
เข้าโซนสาธารณะ ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
หลายคนอาจคิดว่าพื้นที่สวย ๆ แบบนี้ต้องมีค่าเข้าชมราคาแพง แต่ที่ Hakodate Factory กลับเปิดพื้นที่สาธารณะให้ทุกคนได้มาเดินเล่น ถ่ายรูป หรือชมวิวอ่าวได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย คุณจึงสามารถซึมซับบรรยากาศและเรื่องราวทาง ประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ได้อย่างเต็มอิ่ม
พิพิธภัณฑ์และนิทรรศการพิเศษ
อย่างไรก็ตาม ในโกดังบางหลังซึ่งถูกปรับปรุงเป็น พิพิธภัณฑ์โกดังอิฐแดง หรือโซนจัดแสดงนิทรรศการเฉพาะเรื่อง เช่น งานศิลปะร่วมสมัย หรือการเล่าเรื่องเชิงลึกเกี่ยวกับการเปิดเมืองท่า อาจมีการเก็บค่าเข้าชมในอัตราประมาณ 300 – 1,000 เยน ซึ่งนับว่าคุ้มค่าไม่น้อย หากคุณอยากเข้าใจตัวตนของฮาโกดาเตะให้ชัดเจนขึ้น หรือต้องการชม งานศิลปะและนิทรรศการที่จัดแสดงในโกดังอิฐแดง ซึ่งจัดหมุนเวียนแทบตลอดทั้งปี
ค่าเข้าชมอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามช่วงเวลาและประเภทของนิทรรศการ ดังนั้น ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดก่อนเดินทาง เว็บไซต์ทางการของพิพิธภัณฑ์โกดังอิฐแดง
เวลาทำการที่ยืดหยุ่น แวะเมื่อไหร่ก็เจอความสนุก
เวลามาตรฐานของโกดังและร้านค้า
ส่วนใหญ่แล้ว ร้านค้า ร้านอาหาร และโซนจัดกิจกรรมภายใน Hakodate Factory จะเปิดให้บริการตั้งแต่ 10:00 – 19:00 น. ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมในการเดินชมแสงสวย ๆ ของเมือง ตั้งแต่ช่วงกลางวันยาวไปจนถึงยามพลบค่ำ
ช่วงเทศกาลและฤดูกาลท่องเที่ยว
ในช่วงเทศกาลหรือฤดูกาลท่องเที่ยว เช่น ช่วงเทศกาลหิมะ (Winter Festival) หรือเทศกาลคริสต์มาส บางร้านหรือโซนกิจกรรมอาจขยายเวลาปิดให้ดึกขึ้นถึง 21:00 น. เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมถึงอำนวยความสะดวกให้คุณได้เพลิดเพลินกับ งานเทศกาลในโกดังอิฐแดง เช่น งานแสดงดนตรีกลางแจ้ง การตกแต่งไฟประดับ (Illumination) หรือมินิคอนเสิร์ตที่จัดภายในโกดัง
Tips ส่วนตัว หากคุณมีร้านอาหารหรือร้านขายของที่ระลึกเป้าหมายในใจ ควรเช็กรายละเอียดเวลาทำการล่วงหน้า เพราะบางร้านอาจมีตารางเวลาปิด-เปิดที่แตกต่างจากร้านอื่น
วิถีเดินทางสไตล์คนท้องถิ่น รถราง บัส หรือเท้า ก็สะดวกทุกแบบ

ที่อยู่ 12-12 Toyokawacho, Hakodate, Hokkaido 040-0065 ญี่ปุ่น
Google Maps
- รถราง (Tram) ขวัญใจนักเดินทาง
วิธีการเดินทางไปยัง Hakodate Factory จากสถานี JR Hakodate การนั่งรถรางเป็นเอกลักษณ์ของ การเดินทางในฮาโกดาเตะ ที่ยังคงใช้ระบบขนส่งสายเก่าแก่ได้อย่างน่ารักและมีเสน่ห์ จากสถานี JR Hakodate คุณสามารถนั่งรถรางมาลงที่ป้าย “Jujigai” หรือ “Suehiro-cho” แล้วเดินอีกประมาณ 5 -10 นาทีก็จะพบกับ ย่านโกดังเก่า ได้อย่างง่ายดาย
- รถบัส ง่ายและครอบคลุม
หากคุณพักอยู่ในย่านตัวเมืองฮาโกดาเตะและไม่อยากนั่งรถราง ก็สามารถขึ้นรถบัสท้องถิ่นที่วิ่งผ่านท่าเรือได้เช่นกัน ค่าโดยสารค่อนข้างย่อมเยา และเส้นทางยังครอบคลุม แหล่งช้อปปิ้งฮาโกดาเตะ และสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองอีกด้วย

- แท็กซี่ สะดวกสบายสำหรับกลุ่มใหญ่
สำหรับผู้ที่เดินทางเป็นครอบครัวหรือเป็นกลุ่ม การเรียกแท็กซี่จากสถานี JR Hakodate ก็เป็นทางเลือกที่ดี ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที (ขึ้นอยู่กับสภาพจราจร) และไม่ต้องกังวลเรื่องเปลี่ยนรถหรือรอรอบรถในวันที่อากาศอาจไม่เป็นใจ
- เดินเท้า สัมผัสชีวิตเมืองแบบใกล้ชิด
ฮาโกดาเตะ เมืองแห่งประวัติศาสตร์และโกดังอิฐแดง เป็นเมืองที่มีเสน่ห์ในการเดินเล่น เพราะระยะทางไม่ไกลเกินไปและยังมีอาคารโบราณให้ชมเป็นระยะ หากอากาศดีและคุณอยากเก็บเกี่ยวบรรยากาศให้เต็มอิ่ม สามารถเดินจากสถานี JR Hakodate มา Hakodate Factory ได้เลย ใช้เวลาราว 20-30 นาที โดยอาจแวะชม สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในย่านท่าเรือฮาโกดาเตะ ย่านเมืองเก่า (Motomachi), โบสถ์รัสเซีย, โบสถ์คาทอลิก และสวนสาธารณะต่าง ๆ ไปด้วย
ซ่อนความเก่าในความทันสมัย เสน่ห์และมุมมองส่วนตัว

โกดังอิฐแดงที่ยังคง “หายใจ”
ทุกครั้งที่ได้มาเยือน Hakodate Factory สิ่งที่ประทับใจคือ “ความมีชีวิต” ของ ย่านโกดังเก่า แห่งนี้ ถึงแม้ตัวอาคารจะมีอายุนับร้อยปี แต่ก็ยังได้รับการดูแลอย่างดี ปรับปรุงให้เหมาะกับการใช้งานยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหารและคาเฟ่แนะนำใน Hakodate Factory ร้านขายของที่ระลึก หรือแกลเลอรีงานศิลปะขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ภายใน
พื้นที่แห่งการทดลองและสร้างสรรค์
หลายครั้งที่โกดังหลังหนึ่งถูกใช้เป็นพื้นที่ทดลองจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นงานแสดงดนตรีสด งานคราฟต์มาร์เก็ต รวมถึงเวิร์กช็อปเกี่ยวกับงานฝีมือท้องถิ่น คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวจึงสามารถมาร่วมแลกเปลี่ยนไอเดียและพูดคุยกันได้แบบสบาย ๆ ซึ่งส่งเสริมให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งชุมนุมที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาแทบทุกช่วงเวลา
รีวิวโกดังอิฐแดง ฮาโกดาเตะ กับบรรยากาศสุดคลาสสิก ความรู้สึกส่วนตัวและแรงบันดาลใจ
สำหรับผู้เขียนแล้ว สิ่งที่น่าดึงดูดใจที่สุดคือการได้เห็นผู้คนในพื้นที่ใช้โกดังอิฐแดงเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน บ้างก็แค่มานั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือริมน้ำ บ้างก็มาช้อปปิ้งของฝากจากช่างฝีมือท้องถิ่น หรือบางคนก็มาเดินออกกำลังกายยามเช้า ชวนให้รู้สึกว่า “มรดก” แห่งนี้ไม่ได้ถูกทิ้งไว้ให้เป็นเพียงของเก่า แต่กลับถูกนำมาใช้และปรับตัวตามยุคสมัย ตอกย้ำแนวคิด Urban Regeneration ที่ประสบความสำเร็จ
เหตุผลที่ “ควรค่าแก่การรู้จัก” สถานที่ประวัติศาสตร์ที่ยังมีชีวิตในย่านโกดังอิฐแดง

- ประวัติศาสตร์ที่มีชีวิต
หากอยากเข้าใจญี่ปุ่นยุคเปิดประเทศว่ามีหน้าตาและวิถีชีวิตอย่างไร โกดังอิฐแดง จุดถ่ายรูปที่ห้ามพลาดในฮาโกดาเตะ แห่งนี้จะทำให้คุณเห็นร่องรอยของการค้าและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมตะวันตก-ญี่ปุ่นได้อย่างชัดเจน - สถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ เที่ยวฮาโกดาเตะ ฤดูหนาว กับวิวสวยใน Hakodate Factory
อาคารอิฐแดง เหล่านี้หายากในญี่ปุ่น บ่งบอกถึงเทคนิคก่อสร้างยุคเก่าที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตก บวกกับทักษะของช่างญี่ปุ่นเพื่อปรับให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศหนาวเย็น ซึ่งจะมีการจัดงานเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลหิมะ ซึ่งคุณจะได้เห็นการประดับไฟสวยงาม - กิจกรรมไม่รู้จบ
ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ งานวัฒนธรรม งานเทศกาลอาหาร หรือกิจกรรมครอบครัว บริเวณนี้จัดหมุนเวียนกันตลอดทั้งปี เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสด้านต่าง ๆ ของ เที่ยวญี่ปุ่น แบบเจาะลึก - แรงบันดาลใจที่ตีคู่ไปกับสายลมทะเล
บรรยากาศเงียบสงบเมื่อมองไปยังทะเล แต่ก็แฝงความคึกคักด้วยเหล่าผู้คนและกิจกรรมในโกดังอิฐแดง เมื่อสองสิ่งนี้ผสานกันอย่างลงตัว ก็เกิดเป็นแรงบันดาลใจอันแสนพิเศษ - การปรับตัวสู่ปัจจุบันอย่างยั่งยืน
พื้นที่แห่งนี้ไม่ใช่เพียงอนุรักษ์อาคารเก่า แต่ยังปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน สร้างความต่อเนื่องของชุมชน โดยที่ไม่ลืมรากเหง้าทางประวัติศาสตร์
สรุปส่งท้าย พื้นที่เดียวที่เชื่อมอดีตและปัจจุบันไว้อย่างกลมกลืน
เมื่อมองภาพรวม “Hakodate Factory” อาจดูเป็นแลนด์มาร์กเช็คอินธรรมดา แต่หากลองแวะเวียนมาสัมผัสด้วยสายตาและหัวใจ คุณจะค้นพบว่าสถานที่แห่งนี้คือ “คลังประสบการณ์” ที่ผสานอดีตและปัจจุบันไว้ได้อย่างแยบยล ทั้งในแง่ประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตคนท้องถิ่น
โกดังอิฐแดงเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงอาคารเก่าทรงคุณค่าทางสถาปัตยกรรม แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งการเปิดรับวัฒนธรรมต่างชาติของญี่ปุ่นในยุคเมจิ เป็นตัวอย่างของการฟื้นฟูเมือง (Urban Regeneration) และเป็นสถานที่ซึ่งดึงดูดผู้คนหลากหลายวัย ให้มาทำกิจกรรมพักผ่อนหรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้พร้อมกัน
FAQ คำถามที่พบบ่อย
- Q “แนะนำการเที่ยว Hakodate Factory สำหรับสายประวัติศาสตร์”
A หากคุณเป็นสายประวัติศาสตร์ ลองเข้าชม พิพิธภัณฑ์โกดังอิฐแดง ที่จะพาคุณย้อนเวลากลับไปสู่ยุคเมจิ รวมถึงนิทรรศการที่บอกเล่าการเปิดเมืองท่าสู่ต่างชาติในอดีต - Q “รีวิวเที่ยวโกดังอิฐแดง Hakodate Factory พร้อมภาพบรรยากาศ”
A คุณสามารถเก็บภาพมุมเก๋ ๆ ของ อาคารอิฐแดง ริมทะเล และแวะชิมอาหารทะเลสด ๆ ใน ร้านอาหารโกดังอิฐแดง ที่มีให้เลือกหลากหลาย โอกาสถ่ายภาพสวย ๆ จึงมีอยู่ทุกจุด - Q “อาหารทะเลสด ๆ ในร้านโกดังอิฐแดง Hakodate Factory มีอะไรบ้าง”
A อาหารทะเลสด ๆ ในโกดังอิฐแดงนั้นมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นปู ฮอกไกโดสคัลลอป (หอยเชลล์) ซูชิสด ๆ หรือแม้แต่ราเมงทะเลที่หลายคนติดใจ - Q “ประสบการณ์การเที่ยวโกดังอิฐแดงฮาโกดาเตะในหนึ่งวัน”
A เริ่มต้นด้วยการเดินทางโดย รถราง (Tram) จากสถานี JR Hakodate มาลงที่ป้ายใกล้ Hakodate Bay Area เที่ยวชมโกดังอิฐแดง ถ่ายรูปสวย ๆ ชิมอาหาร และปิดท้ายด้วยเดินเล่นเมืองเก่า (Motomachi) ก่อนกลับ - Q “เที่ยวชม Hakodate Bay Area ย่านโกดังอิฐแดงในฤดูใบไม้ผลิ”
A ฤดูใบไม้ผลิเป็นอีกช่วงที่อากาศกำลังสบาย คุณจะได้เห็นดอกซากุระบานในบางจุด รอบ ๆ ท่าเรือก็จะมีการจัดงานเทศกาลดอกไม้เพิ่มสีสันให้เมือง ยิ่งทำให้การเดินเล่นริมอ่าวเพลิดเพลินมากขึ้น
หากคุณคือคนที่ชอบผสมผสานการเรียนรู้กับ สถานที่ท่องเที่ยวแนววัฒนธรรมในญี่ปุ่นที่ไม่ควรพลาด ฮาโกดาเตะและ โกดังอิฐแดง แห่งนี้ก็เหมาะอย่างยิ่งที่จะปักหมุดในลิสต์จุดหมายปลายทางของคุณ เพราะที่นี่คือภาพสะท้อนแห่งการบรรจบกันของสถาปัตยกรรมเก่าที่แข็งแกร่งและการปรับตัวใหม่ที่ลงตัว ท่ามกลาง วิวทะเลญี่ปุ่น อันสวยงาม
หากมีโอกาส เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้ลองมา “เดิน” ด้วยตัวเอง จัดทริปท่องเที่ยวตามใจคุณไปกับ Artralux แล้วคุณจะตกหลุมรักมนตร์เสน่ห์ของ Hakodate Factory แบบถอนตัวไม่ขึ้น
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42