แสงเหนือ สิ่งมหัศจรรย์บนฝากฟ้า

เรื่องราวน่ารู้ก่อนออก “ล่าแสงเหนือ” กับ 5 ประเทศดูแสงเหนือยอดนิยม

แสงเหนือ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เหมือนเป็นรางวัลในการเดินทางท่องเที่ยวของมนุษย์ ความสวยงามที่ต้องตามล่าเพื่อให้ได้ภาพที่สวยงามน่าประทับใจ ที่หลายคนออกเดินทางล่าแสงเหนือเพื่อที่จะได้พูดว่าครั้งหนึ่งในชีวิตได้เดินทางไปเห็นด้วยตาตัวเอง สถานที่ใดที่จะทำให้การเดินทางล่าแสงเหนือไม่สูญเปล่า การจะล่าแสงเหนือนั้นมีวิธีเตรียมตัวอย่างไร มีอะไรที่ควรรู้ก่อนออกเดินทางไหม บทความนี้เราจะมาเล่าให้ฟัง ซึ่งหากทุกท่านอยากออกไปล่าแสงเหนือ ทาง artralux ยินดีให้คำปรึกษาในการเดินทางท่องเที่ยวแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น จัดทัวร์ ทริปส่วนตัว ทำวีซ่า และอื่น ๆ อีกมากมาย

จัดทริปเที่ยว

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

แสงเหนือคืออะไร?

แสงเหนือ หรือ Aurora Borealis นั้นเกิดจากอนุภาคของดวงอาทิตย์ที่เดินทางเข้ามาสู่สนามแม่เหล็กของโลก ซึ่งมีการแตกตัวที่ชั้นบรรยากาศจนเกิดเป็นแสงสีต่าง ๆ หลายสี แสงสีเหล่านั้นจะล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าเปรียบเสมือนผ้าพลิ้วปลิวไสวตามสายลมซึ่งทำให้มีความสวยงามเป็นอย่างมาก โดยสีที่จะปรากฏนั้นขึ้นอยู่กับการปรับเร่งของอนุภาคดวงอาทิตย์โดยสีที่มีการปรับเร่งสูงที่สุดจะปรากฏเป็นสีเขียวเข้ม รองลงมาก็จะมีสีเขียวซีด สีแดง สีฟ้า สีม่วง สีขาว ตามลำดับ

โดยที่แสงเหนือจะพบเห็นได้มากที่สุดในประเทศพื้นที่แถบขั้วโลกเหนือตั้งแต่ 60 องศาเหนือลงมา นอกจากแสงเหนือแล้ว ยังมีแสงใต้ หรือ Aurora Australis ที่เกิดจากอนุภาคของดวงอาทิตย์ที่เดินทางมาทำปฏิกิริยาที่ชั้นบรรยากาศโลกในระยะ 60 องศาใต้อีกด้วย

แสงเหนือ สีเขียว ปรากฎช่วงกลางคืน

ประเทศไทยสามารถมองเห็นแสงเหนือได้ไหม?

พื้นที่ประเทศใกล้เส้นศูนย์สูตรอย่างประเทศไทยของเราก็มีโอกาสในการเกิดแสงเหนือเช่นเดียวกันโดยพื้นที่ประเทศแทบนี้มีโอกาสเกิดแสงเหนือได้ 1 ครั้งในรอบ 2,000 ปี นับเป็นโอกาสการเกิดแสงเหนือที่แทบจะเป็น 0 ในช่วงอายุคนปกติก็ว่าได้ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติทั้งสองอย่างนี้เป็นที่กล่าวขานกันในหมู่นักท่องเที่ยวแนวผจญภัยว่า “ต้องเห็นสักครั้งในชีวิต” เพราะการที่จะมองเห็นแสงเหนือนั้นไม่เพียงแต่ต้องเดินทางไปยังประเทศขั้วโลกเท่านั้นยังต้องมีปัจจัยหลายอย่างถึงจะสามารถมองเห็นได้ นักท่องเที่ยวจึงมักจะเรียกทริปการเดินทางไปดูแสงเหนือ ว่า “การตามล่าแสงเหนือ”

 

แสงเหนือ

 

ช่วงเวลาและสถานที่ที่สามารถมองเห็นแสงเหนือได้มากที่สุด

อย่างที่กล่าวมาแล้วในข้างต้นแสงเหนือไม่ได้จะมองเห็นกันง่าย ๆ ก่อนการเดินทางนักท่องเที่ยวจำเป็นต้องรู้หลักพื้นฐานในการเดินทางมาชมแสงเหนือเสียก่อน ยกตัวอย่างเช่น

  • แสงเหนือ จะมีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุดในเดือน กันยายน – เมษายน ประเทศในแทบขั้วโลกใต้จะตรงกับช่วงปลายของฤดูใบไม้ร่วง ต้นฤดูใบไม้ผลินั่นเอง
  • เวลาของการเกิดแสงเหนือที่มักจะเห็นได้ชัดที่สุดคือช่วง 22.00 – 24.00 น.
  • ในวันที่ท้องฟ้าเปิดมีเมฆน้อยจะสามารถมองเห็นแสงเหนือได้อย่างชัดเจน
  • จะมองเห็นแสงเหนือได้ง่ายในสถานที่ๆ มีแสงสว่างจากไฟฟ้าน้อย ดังนั้นสถานที่เช่นนอกเมือง หรือ ชานเมือง จึงมักจะมีโอกาสเห็นแสงเหนือได้มากกว่า
  • ประเทศแถบขั้วโลกเหนือจะปรากฏแสงเหนือให้เห็นมากกว่าประเทศแถบเส้นศูนย์สูตร

 

แสงเหนือ

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

5 ประเทศที่นิยมไปล่าแสงเหนือ

ประเทศในแทบขั้วโลกเหนือเป็นประเทศที่เหมาะกับการตามล่าหาแสงเหนือมากที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ทุกประเทศที่จะสามารถเห็นแสงเหนือได้อย่างชัดเจน ดังนั้นเราจึงยก 5 ประเทศที่มีโอกาสได้เห็นแสงเหนือชัดเจนมาแนะนำกัน

1. ประเทศรัสเซีย

ประเทศที่มีเมืองสวยงาม ค่าครองชีพไม่สูงและคนไทยไม่ต้องขอวีซ่าก็สามารถเดินทางไปได้ ซึ่งสามารถอยู่ได้นานถึง 30 วัน และยังเป็นสถานที่ล่าแสงเหนือที่เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มีงบประมาณจำกัด นอกจากไปล่าแสงเหนือแล้วด้วยงบประมาณไม่เกิน 40,000 บาทก็ยังสามารถเที่ยวสถานที่เที่ยวอื่นๆ ได้อีกด้วย โดย เมือง มูรมานสก์ คือพิกัดที่นักท่องเที่ยวเดินทางไปล่าแสงเหนือในช่วงปลายเดือนตุลาคม – มีนาคม โดยช่วงที่จะเห็นแสงเหนือได้ชัดเจนที่สุดมักจะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์

2. ประเทศไอซ์แลนด์

ประเทศที่คุณสามารถมองเห็นแสงเหนือในไอซ์แลนด์ได้เกือบทุกที่นอกเมืองหลวง ซึ่งสามารถมองเห็นแสงเหนือได้มากที่สุดถึง 8 ครั้งต่อเดือนอย่างเช่น ในเขตอุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ หรือเมืองทางตอนเหนือของไอซ์แลนด์ บริเวณนี้จะมีช่วงเวลากลางคืนยาวนานกว่าเวลากลางวันทำให้โอกาสในการเห็นแสงเหนือมีมากขึ้น วิวทิวทัศน์ที่จะเป็นฉากหลังให้แสงเหนือของคุณก็มีให้เลือกได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการนั่งเรือล่าแสงเหนือแล้วถ่ายภาพแสงเหนือที่เต้นระบำอยู่เหนือน่านน้ำ หรือจะเป็นแสงเหนือที่คุณขับรถออกนอกเมืองไปเยี่ยมชมด้วยตัวคุณเองก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี ช่วงเวลาที่สามารถเดินทางไปชมแสงเหนือได้คือช่วงเดือนกันยายน-เมษายนของทุก ๆ ปี

3. ประเทศฟินแลนด์

ประเทศฟินแลนด์ ที่มี Hotel Aurora เปิดให้บริการนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมแสงเหนือฟินแลนด์โดยเฉพาะเป็นโรงแรมที่มีสัญญาณเตือนให้นักท่องเที่ยวได้ออกมาดูแสงเหนือซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็มักจะไม่ผิดหวังเมื่อเดินทางมาที่นี่ โดยเมืองที่เหมาะในการดูแสงเหนือคือ Luosto, Nellim, Utsjoki, Ivalo, Kakslauttanen, Lapland และช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินทางมาล่าแสงเหนือคือช่วงสิงหาคม – เมษายนของทุกปี

4. ประเทศนอร์เวย์

ประเทศนอร์เวย์ที่น่าอยู่เป็นอันดับ 1 ของโลก นอกจากชีวิตประชากรจะมีคุณภาพสูงแล้วยังเป็นประเทศที่สามารถเห็นแสงเหนือได้อย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือ Hurtigruten ไปรอบ ๆ ชายฝั่งเพื่อเก็บภาพความประทับใจของแสงเหนือในนอร์เวย์ หรือเดินทางไปยัง Svalbard, Alta, Svalbard, Finnmark ในช่วงเดือนกันยายน –มีนาคม รับรองไม่ผิดหวังกับการล่าแสงเหนืออย่างแน่นอน

5. กรีนแลนด์

ประเทศที่มีทิวทัศน์สวยงามและยังสามารถมองเห็นแสงเหนือได้เกือบทั่วประเทศ โดยจุดที่ดีที่สุดอยู่ที่ Kulusuk, Ammassalik, Kuuk การเดินทางมากรีนแลนด์อาจจะต้องมีขั้นตอนในการขอวีซ่าแต่ต้องมาขอที่ประเทศเดนมาร์กเพราะกรีนแลนด์ยังเป็นดินแดนปกครองของแดนมาร์กอยู่ ช่วงเวลาที่สามารถเยี่ยมชมแสงเหนือคือช่วงสิงหาคม – เมษายนของทุกปี

กิจกรรมในทริปล่าแสงเหนือ

นอกจากการเดินทางไปล่าแสงเหนือแล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ระหว่างทริปได้ เช่น

  • การเที่ยวชมสถานที่สำคัญ ๆ ของประเทศที่เดินทางไป
  • การเล่นกีฬาฤดูหนาวเช่น สกีหิมะ หรือ สเกตน้ำแข็ง
  • การตกปลาใต้น้ำแข็ง ซึ่งบางที่มีแพ็กเกจเช่าอุปกรณ์ตกปลาพร้อมบริการทำอาหารให้ด้วย
  • นั่งล้อเลื่อนที่ถูกลากโดยเจ้าหมาแสนน่ารักอย่างไซบีเรียน ฮัสกี

การเตรียมตัวก่อนไปล่าแสงเหนือ

นักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปล่าแสงเหนือจำเป็นต้องฟิตร่างกายให้แข็งแรงเนื่องจากการเดินทางจะอยู่ในประเทศแทบยุโรปที่มีอากาศหนาวเย็นและควรต้องเตรียมตัวในด้านต่าง ๆ ดังนี้

  1. เช็กสภาพอากาศเพื่อเตรียมเครื่องแต่งกายอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือรองเท้าสำหรับเดินบนหิมะหรือธารน้ำแข็ง
  2. จัดเตรียมอุปกรณ์เก็บภาพเช่นกล้อง DSLR เพื่อเก็บภาพแสงเหนือได้อย่างชัดเจน สมาทโฟนอาจจะไม่สามารถเก็บภาพที่สวยงามได้มากพอเพื่อไม่ให้เสียเที่ยวควรจะต้องเตรียมกล้องอย่างดีไปจะดีกว่า
  3. ทำความเข้าใจกับสภาพอากาศ การล่าแสงเหนือค่อนข้างจะต้องอาศัยโชคช่วยเพราะไม่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนทุกวัน ดังนั้นการฟังข้อมูลสภาพอากาศของพื้นที่ที่คุณจะเดินทางไปล่วงหน้าก็ช่วยเพิ่มโอกาสในการเห็นแสงเหนือได้มากขึ้น
  4. การวางแผนท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็น ที่พัก การเดินทาง งบประมาณหรือช่วงเวลาก็สำคัญไม่ควรไปโดยที่ไม่มีการวางแผนเพราะอาจจะทำให้พลาดการชมแสงเหนือได้

การล่าแสงเหนือเป็นการท่องเที่ยวที่ค่อนข้างจะต้องอาศัยดวงในการเดินทาง ด้วยสภาพอากาศที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ในแต่ละวัน นักท่องเที่ยวบางท่านไม่สามารถที่จะมองเห็นแสงเหนือในทริปได้เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นการเตรียมตัวและหาข้อมูลก่อนเดินทางจึงมีความสำคัญ หรือการขอคำแนะนำจากคนพื้นที่ที่จะไปก็สามารถช่วยให้โอกาสการตามล่าแสงเหนือสำเร็จมากขึ้น เผื่อเวลาให้การเดินทางอย่างเหมาะสมเพื่อที่จะไม่รีบเร่งเกินไป เพื่อดื่มด่ำกับความสวยงามของปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้ได้อย่างเต็มที่

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่อยากพลาดโอกาสชมแสงเหนือและไม่ถนัดในการวางแผนด้วยตัวเอง สามารถหาทัวร์ล่าแสงเหนือได้โดยเฉพาะติดต่อมาที่ Artralux ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบทริปพิเศษ เพื่อสร้างการเดินทางชมแสงเหนือที่ประทับใจไม่รู้ลืม พร้อมบริการไพรเวท เจ็ท ให้ Artralux เป็นคนพาคุณผจญภัยเพียงติดต่อมาก็ก้าวเข้าใกล้แสงเหนือมากขึ้นอีกก้าวแล้ว

สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)

📞 | 02-047-0083

💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

SHARES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า