โตเกียวสกายทรี (tokyo skytree) อีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ไม่ควรพลาดสำหรับสายถ่ายรูป และนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจ แน่นอนว่าที่นี่อาจจะเป็นสถานที่ใหม่ที่หลาย ๆ คนนั้นยังไม่คุ้นเคย ว่าหากมาที่นี่นั้นจะต้องเดินทางไปยังไง และมีกิจกรรมใดบ้างที่น่าสนใจ
โดยในปี 2024 นี้ทาง artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำ จะมารีวิวเกี่ยวกับโตเกียวสกายทรีกันแบบละเอียดให้กับทุกท่านกัน ไม่ว่าจะเป็น วิธีการเดินทาง, ราคาตั๋วค่าเข้าใช้บริการ, กิจกรรมต่าง ๆ ที่ไม่ควรพลาด, และประวัติข้อมูลของที่นี่ เราได้รวบรวมทุกอย่างที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับที่นี่ไว้หมดแล้ว จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ไปรับชมกันได้เลย
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
ประวัติของ tokyo skytree
โตเกียวสกายทรี (tokyo skytree) ชาวญี่ปุ่นนั้นจะรู้จักกันในชื่อของหอคอยการสื่อสาร และจุดชมวิวที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นในปัจจุบันนี้ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของโตเกียว โตเกียวสกายทรีได้ก่อสร้างในปี 2008 และเปิดให้บริการในปี 2012 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบสนองความต้องการในการสื่อสารทางโทรทัศน์ และวิทยุที่มีคุณภาพสูงในเขตคันโต้ หอคอยนี้ถูกออกแบบให้มีความสูงถึง 634 เมตร เพื่อเป็นจุดส่งสัญญาณที่มีประสิทธิภาพ และทำหน้าที่เป็นจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ความสูง 634 เมตร ของ Tokyo Skytree ยังมีความหมายพิเศษที่แฝงอยู่ด้วย โดยเลข “634” ในภาษาญี่ปุ่นสามารถออกเสียงได้ว่า “มุซาชิ (Mu-sa-shi)” ซึ่งเป็นชื่อของพื้นที่เก่าในโตเกียว ดีไซน์ของ Tokyo Skytree ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแนวคิดของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นและแนวคิดสมัยใหม่ โดยมีรูปทรงเหมือนดาบซามูไรและพุ่มไม้แบบญี่ปุ่น ทำให้มันไม่เพียงแค่เป็นสัญลักษณ์ของเทคโนโลยีเท่านั้นแต่ยังรวมถึงวัฒนธรรมญี่ปุ่นด้วย
Tokyo Skytree ไม่เพียงแต่เป็นที่ตั้งของอาคารสูงที่ให้บริการด้านการสื่อสารเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยว ร้านค้า ร้านอาหาร และจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวของกรุงโตเกียวได้ 360 องศา ทำให้เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดสำหรับใครที่มาเยือนเมืองโตเกียวอีกด้วยนั่นเอง
วิธีการเดินทางไป tokyo skytree
เดินทางโดยรถไฟ
- สถานี Tokyo Skytree เชื่อมต่อโดยตรงกับสาย Tobu Skytree Line ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่จะนำคุณไปยัง Tokyo Skytree โดยตรงจากหลายพื้นที่ในโตเกียว เช่น จากสถานี Asakusa ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที
- สถานี Oshiage (Skytree) สถานีนี้เชื่อมต่อกับหลายสาย ได้แก่ Tokyo Metro Hanzomon Line, Toei Asakusa Line, และ Keisei Oshiage Line สถานีนี้อยู่ห่างจาก Tokyo Skytree เพียงแค่เดินเท้าสั้น ๆ ทำให้สะดวกสำหรับผู้ที่มาจากพื้นที่อื่น ๆ ในโตเกียว
เดินทางโดยรถประจำทาง
- รถประจำทางต่างๆ ของ Toei Bus และรถประจำทางอื่น ๆ ให้บริการระหว่าง Tokyo Skytree กับหลายพื้นที่ในโตเกียว โดยมีป้ายหยุดอยู่ใกล้กับ Tokyo Skytree ซึ่งทำให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการเดินทาง
โดยรถแท็กซี่หรือรถยนต์ส่วนตัว
- หากคุณต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น การใช้รถแท็กซี่หรือรถยนต์ส่วนตัวเป็นตัวเลือกที่ดี โดยเฉพาะหากคุณเดินทางมากับครอบครัวหรือมีสัมภาระมากมาย คุณสามารถใช้บริการรถแท็กซี่จากที่ใดก็ได้ในโตเกียวเพื่อไปยัง Tokyo Skytree ได้อย่างง่ายดาย
ราคาตั๋วเข้าชม Tokyo Skytree
สำหรับราคาตั๋วเข้าชมของ Tokyo Skytree จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับชั้นที่คุณต้องการเข้าชม แต่หากอยากชมทั้ง 2 ชั้นก็จะมีราคาพิเศษให้ด้วยนะ โดยแต่ละชั้นจะมีราคาค่าตั๋วดังต่อไปนี้
ชั้น Tembo Deck (350 เมตร)
- ผู้ใหญ่ 2,100 เยน หรือประมาณ 500 บาท/คน
- เด็กอายุ 12-17 ปี 1,550 เยน หรือประมาณ 370 บาท/คน
- เด็กอายุ 6-11 ปี 950 เยน หรือประมาณ 230 บาท/คน
- เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีเข้าชมฟรี
ชั้น Tembo Galleria (450 เมตร)
- ผู้ใหญ่: 3,100 เยน หรือประมาณ 730 บาท/คน
- เด็กอายุ 12-17 ปี 2,350 เยน หรือประมาณ 560 บาท/คน
- เด็กอายุ 6-11 ปี 1,450 เยน หรือประมาณ 350 บาท/คน
การซื้อตั๋วรวมทั้งสองชั้นที่ Tokyo Skytree คือชั้น Tembo Deck และ Tembo Galleria มีราคาดังนี้
- ผู้ใหญ่ 4,000 เยน หรือประมาณ 1,000 บาท/คน
- เด็กอายุ 12-17 ปี 3,000 เยน หรือประมาณ 700 บาท/คน
- เด็กอายุ 6-11 ปี 1,800 เยน หรือประมาณ 430 บาท/คน
ด้วยราคานี้จะช่วยให้คุณสามารถเข้าชมทั้งชั้นการชมวิวที่ 350 เมตรและ 450 เมตร โดยจะได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ของกรุงโตเกียวได้จากมุมสูงสุด รวมถึงเพลิดเพลินกับการชมเมืองจากมุมกว้างและสวยงามอีกด้วย
ชั้น Tembo Deck ของ Tokyo Skytree มีอะไรน่าสนใจบ้าง
ชั้น Tembo Deck ที่ Tokyo Skytree เป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในกรุงโตเกียว ตั้งอยู่ที่ความสูง 350 เมตรจากพื้นดิน ที่ชั้นนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดชมวิวเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยกิจกรรม และแหล่งท่องเที่ยวที่จะทำให้การมาเยือนของคุณคุ้มค่าและน่าจดจำอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีความน่าสนใจอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น
จุดชมวิวแบบพาโนรามา
ที่ชั้น Tembo Deck จะมีหน้าต่างกระจกขนาดใหญ่ที่ให้คุณชมวิว 360 องศาของกรุงโตเกีย วและบริเวณโดยรอบ ในวันที่อากาศแจ่มใส คุณสามารถมองเห็นได้ไกลถึงภูเขาไฟฟูจิ ทำให้ชั้นนี้เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเมือง
ร้านค้าและร้านอาหาร
บนชั้น Tembo Deck มีร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าที่ระลึก และของขวัญมากมายที่เกี่ยวข้องกับ Tokyo Skytree และญี่ปุ่น รวมถึงร้านอาหารที่คุณสามารถลิ้มลองอาหารจานพิเศษพร้อมกับชมวิวเมืองที่ไม่เหมือนใครจากความสูงมากกว่า 350 เมตร
กิจกรรมและนิทรรศการ
นอกจากจะเป็นจุดชมวิวแล้ว Tembo Deck ยังมีนิทรรศการที่นำเสนอเรื่องราว และวิวัฒนาการของ Tokyo Skytree และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ใช้ในการก่อสร้างหอคอย ซึ่งจะทำให้ผู้เยี่ยมชมได้เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับการก่อสร้าง และประวัติของสถานที่แห่งนี้
จุดถ่ายรูป
ที่นี่นั้นมีจุดถ่ายรูปหลายจุดที่ออกแบบมาให้ผู้เยี่ยมชมสามารถเก็บภาพทิวทัศน์ที่งดงามของโตเกียว ทำให้ทุกคนที่มาเยือนสามารถนำภาพความทรงจำไปกับตนเอง และไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน
ชั้น Tembo Galleria ของ Tokyo Skytree มีอะไรน่าสนใจบ้าง
ชั้น Tembo Galleria ที่ Tokyo Skytree เป็นจุดชมวิวที่ตั้งอยู่ในระดับความสูงที่สุดที่ 450 เมตร ทำให้เป็นหนึ่งในจุดที่สูงที่สุดที่สาธารณชนสามารถเข้าถึงได้ในหอคอยแห่งนี้ และมีเสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครจากมุมมองที่สามารถมองเห็นวิว 360 องศาของกรุงโตเกียว และพื้นที่โดยรอบได้อย่างกว้างขวาง
ทิวทัศน์ที่หาที่เปรียบไม่ได้
ที่ชั้น Tembo Galleria, ผู้เยี่ยมชมจะได้สัมผัสกับทิวทัศน์ที่เหนือกว่า ที่นี่มีเส้นทางเดินที่เรียกว่า “Spiral Skywalk” ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเวียนขึ้นไปรอบ ๆ ทำให้คุณสามารถเดินขึ้นไปเรื่อย ๆ ขณะชมวิวทิวทัศน์ของเมืองโตเกียวที่ค่อยๆ เปิดเผยตัวเมื่อคุณเดินขึ้นไปสูงขึ้น จนถึงจุดสูงสุดที่ 451.2 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดที่สาธารณะจะสามารถเข้าถึงได้นั่นเอง
ความงามทางสถาปัตยกรรม
การออกแบบภายในของชั้น Tembo Galleria มีความโดดเด่นด้วยโครงสร้างกระจก และโลหะที่ทำให้สถานที่แห่งนี้ดูทันสมัย และสะดุดตา ความโปร่งโล่งของกระจกทำให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้โดยไม่มีสิ่งกีดขวาง ให้คุณได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของเมืองโตเกียวจากมุมสูง
กิจกรรมและจุดถ่ายภาพ
บนชั้น Tembo Galleria มีจุดถ่ายภาพหลายจุดที่เตรียมไว้ให้ผู้เยี่ยมชมได้ถ่ายรูปคู่กับวิวของเมืองโตเกียว เพื่อเก็บความทรงจำน่าประทับใจกลับบ้าน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษในโอกาสต่าง ๆ ที่จัดขึ้นบนชั้นนี้ เช่น นิทรรศการศิลปะชั่วคราว หรือกิจกรรมฉลองเทศกาลต่าง ๆ ที่จะถูกจัดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
ร้านค้าและร้านอาหาร
หลังจากเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ และการถ่ายรูปแล้ว ผู้เยี่ยมชมสามารถหยุดพักที่ร้านค้า และร้านอาหารที่มีบริการอาหารว่าง และเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลาย ช่วยให้คุณได้พักผ่อนหลังจากการเดินทางขึ้นมาถึงจุดชมวิวที่สูงที่สุดนี้
กิจกรรมอื่น ๆ ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่ Tokyo Skytree
1. ช็อปปิ้งที่ Tokyo Solamachi
Tokyo Solamachi เป็นศูนย์การค้าที่ตั้งอยู่ตรงฐานของ Tokyo Skytree มีร้านค้ามากกว่า 300 ร้านที่ขายสินค้ามากมายตั้งแต่แฟชั่นไปจนถึงของที่ระลึกและผลิตภัณฑ์ญี่ปุ่นแท้
2. เยี่ยมชม Sumida Aquarium
ตั้งอยู่ภายในโครงการของ Tokyo Skytree Town เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีสัตว์น้ำมากมายให้ชม รวมถึงการจัดแสดงปะการัง และแสงที่สวยงาม
3. สัมผัสประสบการณ์ด้านวัฒนธรรมที่พิพิธภัณฑ์ไปรษณีย์ของญี่ปุ่น Postal Museum
พิพิธภัณฑ์ postal museum ตั้งอยู่ในโซนเดียวกับอควาเรียม นำเสนอประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมการไปรษณีย์ของญี่ปุ่นผ่านการแสดงที่ทันสมัย และสื่ออินเทอร์แอคทีฟ
ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้เลยที่ : https://www.tokyo-skytree.jp/en/
สุดท้ายนี้หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกท่านที่ได้มาท่องเที่ยวที่เมืองโตเกียว และแน่นอนว่าหากคุณต้องการท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไร ทาง Artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำของไทย มาพร้อมกับบริการจัดทริปท่องเที่ยวแบบส่วนตัว เพียงแค่คุณบอกมาว่าอยากไปที่ไหน อยากทำอะไรบ้าง เราพร้อมออกแบบเส้นทางเที่ยวตามใจผู้เดินทาง บริการของเราครอบคลุมทุกรายละเอียดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนการเดินทาง, จองตั๋วเครื่องบิน – กิจกรรมท่องเที่ยว รวมไปจนถึงที่พักต่าง ๆ
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว