การขอวีซ่าอเมริกานั้น หลายคนต่างบอกกันเป็นเสียงเดียวกันว่าวีซ่าอเมริกานั้นขอยาก เนื่องจากสหรัฐอเมริกานั้นมีนโยบายที่ค่อนข้างเข้มงวดในการคัดกรองคนเข้าประเทศ หลายคนที่ได้เข้าไปในประเทศอเมริกาแล้วมักจะโดดวีซ่าเพื่อทำงานอย่างผิดกฎหมาย ทำให้ทางสถานทูตสหรัฐอเมริกามักปฏิเสธการยื่นวีซ่าของใครหลายคนที่มีหลักฐานไม่ชัดเจนเพียงพอ
แม้ว่าอเมริกาจะเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่าขอวีซ่ายาก แต่คุณก็อาจยื่นวีซ่าอเมริกาผ่านได้อย่างฉลุยหากเตรียมเอกสารอย่างครบถ้วนจนได้รับความน่าเชื่อถือจากทางสถานทูต ในฐานะที่ Artralux เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการยื่นวีซ่ามาอย่างยาวนาน เราจึงได้รวบรวมขั้นตอนการขอ เอกสารที่จำเป็น, ค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกา, ระยะเวลาในการยื่น รวมไปจนถึงเคล็ดลับการสัมภาษณ์วีซ่า เพื่อให้คุณมั่นใจว่าการขอวีซ่าครั้งนี้ ต้องผ่านแน่นอน!
สำหรับใครที่ต้องการยื่นวีซ่าประเทศอเมริกา แล้วคิดว่าการสมัครและการจัดเตรียมเอกสารนั้นยุ่งยากเกินไป หรือมีข้อสงสัยมากมาย กลัวว่าจะทำเรื่องขอวีซ่าแล้วไม่ผ่าน Artralux ขอนำเสนอบริการช่วยคุณยื่นวีซ่าอเมริกา 2024 ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าแบบไหน เราก็จะช่วยให้คำแนะนำและสมัครให้กับคุณ เพื่อเพิ่มโอกาสให้คุณยื่นวีซ่าผ่านได้ง่ายขึ้น
แอดไลน์ สอบถามบริการยื่นวีซ่า
วีซ่าอเมริกาคืออะไร ทำไมต้องขอวีซ่า?
วีซ่า หรือ Visa คือหนังสืออนุญาตที่จะเป็นเสมือนใบผ่านทางให้เราเดินทางไปยังประเทศนั้น ๆ ได้ สำหรับบางประเทศที่มีนโยบายคัดกรองคนเข้าประเทศเข้มงวดอย่างประเทศสหรัฐอเมริกาก็จะต้องใช้วีซ่าในการเดินทางเข้าประเทศนั่นเอง ทั้งนี้วีซ่าอเมริกาจะออกโดยสถานทูตอเมริกาโดยตรง ซึ่งปัจจัยในการออกวีซ่านั้นจะขึ้นกับดุลยพินิจของทางสถานทูต หากสถานทูตอเมริกาเห็นว่าผู้ที่ทำเรื่องขอยื่นวีซ่านั้นให้หลักฐานมาไม่ครบ หรือหลักฐานไม่มีความน่าเชื่อถือ ก็มีอำนาจที่จะปฏิเสธการออกวีซ่าอเมริกาให้กับคุณ
จะเห็นได้ว่าหากคุณต้องการจะเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยว ไปเรียนต่อ ไปทำงาน หรือไปอยู่อาศัยเป็นระยะเวลานาน ก็ต้องทำเรื่องขอวีซ่าทั้งสิ้น และเนื่องด้วยการขอวีซ่าเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าไม่อยากให้การเข้าประเทศสหรัฐอเมริกามีอุปสรรค เราขอแนะนำให้คุณยื่นเรื่องทำวีซ่าอเมริกาก่อนการเดินทางประมาณ 2 เดือน ก่อนเดินทาง เพื่อให้มีเวลายื่นเอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติมหากสถานทูตร้องขอ
วีซ่าอเมริกา มีกี่ประเภท?
ก่อนที่เราจะทำเรื่องยื่นวีซ่าเราจำเป็นต้องศึกษาประเภทของวีซ่าให้เข้าใจเสียก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าเรายื่นวีซ่าถูกประเภทตรงกับวัตถุประสงค์ในการเดินทางจริงๆ โดยประเภทวีซ่าอเมริกา แบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. วีซ่าอเมริกาแบบชั่วคราว (Non-Immigrant Visa)
เป็นวีซ่าแบบชั่วคราว จะเป็นวีซ่าสำหรับผู้เดินทางที่มีจุดประสงค์บางอย่างโดยเฉพาะ ได้แก่ การท่องเที่ยว การเรียนต่อ การทำธุรกิจ และ การพำนักอยู่ที่อเมริกาในระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้น การยื่นวีซ่า และ การสัมภาษณ์ จำเป็นต้องทำให้เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าเรามีวัตถุประสงค์ในการพำนักที่อเมริกาเพียงแค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เมื่อถึงเวลาวีซ่าหมดอายุเราก็จะต้องเดินทางกลับประเทศไทย ดังนั้นวีซ่าชั่วคราวจะเป็นวีซ่าที่คนเรามักคุ้นเคยและทำกันมากที่สุด
วีซ่าอเมริกาแบบชั่วคราวแบ่งออกเป็นตามวัตถุประสงค์ได้ดังนี้
- วีซ่าท่องเที่ยวและวีซ่าเยี่ยมเยียน (B-2) เป็นวีซ่าที่ออกมาเพื่อเดินทางไปเที่ยวอเมริกา ไปเยี่ยมญาติที่อาศัยอยู่ในอเมริกา เข้ารับการรักษาด้านการแพทย์ และการเข้าร่วมงานการกุศล
- วีซ่าธุรกิจ (B-1) สำหรับการเดินทางเข้าประเทศเพื่อเดินทางไปประกอบธุรกิจ การประชุมธุรกิจ สัมมนาด้านการศึกษา การจัดการสินทรัพย์ หรือต่อรองสัญญา
- วีซ่าอเมริกาสำหรับทำงาน สำหรับการเดินทางไปทำงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะแบ่งย่อยออกเป็น
-
- วีซ่าอาชีพผู้ชำนาญการพิเศษ (H-1B)
- วีซ่าทำงานชั่วคราวสำหรับประเทศคู่ค้าตามสนธิสัญญา (H-1B1)
- วีซ่าเกษตรกรตามฤดูกาล (H-2A)
- วีซ่าแรงงานผู้เชี่ยวชาญ/ไม่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน (H-2B)
- วีซ่าสำหรับการฝึกงาน (H-3)
- วีซ่าผู้ติดตาม เช่นบุตร หรือคู่สมรสผู้ทำงาน (H-4)
- วีซ่าสำหรับการย้ายไปทำงานชั่วคราวภายใต้บริษัทที่อยู่ในเครือเดียวกัน (L-1)
- วีซ่าผู้ติดตาม เช่นบุตร หรือคู่สมรสผู้ทำงานของวีซ่าประเภท L-1 (L-2)
- วีซ่าสำหรับบุคคลที่มีความสามารถพิเศษ ด้านศิลปะ กีฬา ธุรกิจ การศึกษา ฯลฯ (O)
- วีซ่าสำหรับศิลปินหรือผู้ให้ความบันเทิง (P)
- วีซ่าสำหรับโครงการแลกเปลี่ยนตามสายอาชีพงาน (Q)
- วีซ่าอเมริกาสำหรับการเรียนหรือการเข้ารับศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะแบ่งออกเป็นดังนี้
-
- วีซ่าสำหรับเข้ารับการศึกษาทั่วไปตามสถานศึกษาที่ผ่านการรับรอง (F-1) เช่น มหาวิทยาลัย โรงเรียน โรงเรียนสอนภาษา เป็นต้น
- วีซ่าสำหรับการเรียนในสาขาวิชาชีพ หรือการศึกษาอื่น ๆ ที่นอกจากด้านวิชาการ (M-1)
- วีซ่าสำหรับนักเรียนในโครงการแลกเปลี่ยน (J)
- วีซ่าสำหรับผ่านแดน กรณีที่ต้องเดินทางไปยังที่อื่นโดยมีความจำเป็นต้องผ่านประเทศอเมริกา
- วีซ่าสำหรับผู้ค้าหรือนักลงทุนตามสนธิสัญญา (E1, E2)
- วีซ่าสำหรับวีซ่าผู้เผยแผ่ศาสนา (R)
- วีซ่าสำหรับผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชน (I)
2. วีซ่าอเมริกาแบบถาวร (Immigrant Visa)
วีซ่าแบบถาวรเป็นวีซ่าสำหรับผู้ที่มีความประสงค์จะย้ายถิ่นฐานไปอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกาแบบถาวร อาจจะย้ายไปทำงานประจำที่อเมริกา หรืออาจย้ายไปสร้างครอบครัวเป็นพลเมืองที่อเมริกา ผู้ที่ขอยื่นวีซ่าประเภทนี้จะต้องได้รับการอนุมัติคำร้องจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติ (USCIS) ถึงจะยื่นวีซ่าอเมริกาประเภทนี้ได้ และผู้อพยพไปอยู่จะต้องได้รับการสนับสนุนจากพลเมืองสหรัฐอเมริกา หรือญาติใกล้ชิดผู้พำนักถาวรตามกฎหมาย หรือผู้ที่คาดว่าจะเป็นนายจ้างในสหรัฐด้วยเช่นกัน
แอดไลน์ สอบถามบริการยื่นวีซ่า
8 ขั้นตอนการยื่นวีซ่าอเมริกา 2024 อัพเดทล่าสุด!
สำหรับการขอวีซ่าอเมริกานั้น เริ่มต้นให้สำรวจตนเองก่อนว่าต้องการเดินทางเข้าอเมริกาด้วยวัตถุประสงค์ใด แล้วทำตามขั้นตอนและยื่นหลักฐานตามวีซ่าประเภทนั้น ๆ ซึ่งเราได้สรุปข้อมูลและขั้นตอนต่าง ๆ สำหรับการขอยื่นวีซ่ามาแล้ว ดังนี้
- ศึกษาข้อมูลและคุณสมบัติของการยื่นวีซ่าอเมริกาตามเว็บไซต์ ustraveldocs แล้วเลือกกดอ่านรายละเอียดตามประเภทวีซ่าที่คุณจะร้องขอ
- กรอกแบบคำร้องขอวีซ่าชั่วคราว (DS-160) ที่เว็บไซต์ https://ceac.state.gov/genniv/ ใส่รายละเอียดให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ได้แก่ เลือกสถานทูตหรือสถานกงสุลที่ท่านจะไปทำการยื่นและสัมภาษณ์การขอทำวีซ่า พร้อมกรอกข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ เป็นภาษาอังกฤษ (ชื่อ-นามสกุล, เพศ, สถานภาพ, วันเดือนปีเกิด, ที่อยู่, สัญชาติ, เลขบัตรประชาชน) จากนั้นอัปโหลดรูปถ่ายที่ถ่ายไว้ไม่เกินหกเดือน
- เมื่อกรอกข้อมูลทั้งหมดผ่านแล้ว ระบบจะสร้างหน้ายืนยันซึ่งมีบาร์โค้ดที่ประกอบด้วยทั้งตัวอักษรและตัวเลข
- สร้างโปรไฟล์ส่วนตัว ที่เว็บไซต์ ustraveldocs (เพื่อทำการชำระเงินและยืนยันการนัดสัมภาษณ์ วีซ่าอเมริกา)
- เมื่อกรอกข้อมูลทั้งหมดแล้วระบบจะให้ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า ซึ่งคุณสามารถเลือกวิธีชำระได้ตามสะดวก เมื่อชำระเงินแล้วให้เก็บ Virtual Account ID พร้อมสลิปการชำระเงินตัวจริง ไว้เป็นหลักฐานในการจองนัดสัมภาษณ์วีซ่า
- หลังจากชำระเงินเรียบร้อยแล้วระบบจะขึ้นให้คุณสามารถนัดจองเวลาสัมภาษณ์ทำวีซ่าอเมริกาได้ ซึ่งคุณสามารถดูวันเวลาว่างได้ตามตารางที่แสดงให้เห็น และให้เลือกนัดตามวันว่างที่สถานทูตกำหนด
- เดินทางไปสัมภาษณ์วีซ่าที่สถานทูต หรือ กงสุลอเมริกาในไทย ตามวันและเวลาที่ท่านได้ลงระบบจองไว้ โดยนำเอกสารและหลักฐานประกอบการสัมภาษณ์ไปให้ครบ (สามารถเช็กเอกสารที่ต้องใช้ตามหัวข้อด้านล่าง)
- หากคุณผ่านการสัมภาษณ์วีซ่า คุณจะยังไม่ได้รับวีซ่าทันทีในวันนั้น แต่ทางสถานทูตจะเก็บหนังสือเดินทางของคุณไว้ และจะส่งหนังสือเดินทางคืนพร้อมกับวีซ่าไปให้คุณผ่านทางไปรษณีย์ สำหรับท่านใดที่สัมภาษณ์ไม่ผ่านทางสถานทูตจะคืนหนังสือเดินทางให้คุณในทันที
หมายเหตุ – ค่าธรรมเนียมวีซ่าไม่สามารถขอคืน และ ไม่สามารถโอนเปลี่ยนให้ผู้อื่นได้ในทุกกรณี
ขอวีซ่าอเมริกา เอกสารต้องใช้อะไรบ้าง?
เมื่อถึงเวลานัดสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา ใช้คุณเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนทั้งตัวจริงและสำเนาดังนี้
- ใบสมัคร DS 160 หรือ แบบฟอร์มขอวีซ่าอเมริกาออนไลน์
- ใบนัดสัมภาษณ์วีซ่า Appointment Confirmation
- หนังสือเดินทาง (อายุมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป ถ้ามีเล่มเก่าให้นำมาด้วยให้หมด)
- บัตรประชาชนไทย/ สำเนาบัตร ประชาชน/ สำเนาทะเบียนบ้าน
- สเตทเมนท์ธนาคาร ย้อนหลัง 6-12 เดือน
- หนังสือรับรองการเงิน Bank letter
- รูปถ่าย 2 ใบ ขนาด 2×2 นิ้ว หน้าตรง เห็นใบหน้าชัด ไม่สวมเครื่องประดับ
- ใบเสร็จการชำระเงินค่าธรรมเนียมวีซ่าตัวจริง
- แผนการเดินทาง หลักฐานการจองโรงแรมที่พัก ตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับ
- เอกสารสินทรัพย์ (ถ้ามี)
- ใบจดทะเบียนสมรสหรือใบหย่า รวมถึงใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ในกรณีที่มี)
- หนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ (กรณีที่มีผู้เยาว์เดินทางไปต่างด้วย)
เอกสารแนบเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในการขอวีซ่าอเมริกา ดังนี้
- กรณีที่ท่านเป็นพนักงานประจำบริษัทเอกชน ให้ใช้หนังสือรับรองการทำงาน, สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน
- กรณีที่ท่านเป็นข้าราชการ ให้ใช้หนังสือรับรองการทำงาน, สำเนาบัตรข้าราชการ,
- กรณีที่ท่านประกอบธุรกิจส่วนตัว ให้ใช้หนังสือรับรองบริษัท, ใบจดทะเบียนการค้า, รูปถ่ายร้านค้าที่มีผู้ขอในรูป
- กรณีที่เป็นนักเรียน ให้ใช้หนังสือรับรองการเป็นนักเรียนหรือนักศึกษาที่ออกโดยสถาบัน
หากท่านเตรียมเอกสารไม่ครบถ้วนในวันสัมภาษณ์ คำร้องขอวีซ่าก็จะล่าช้ากว่าปกติ ดังนั้นเราแนะนำให้เตรียมเอกสารไว้ให้ครบ ทั้งนี้เอกสารทั้งหมดไม่จำเป็นต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสารสามารถเข้าใจภาษาไทยได้เป็นอย่างดี
แอดไลน์ สอบถามบริการยื่นวีซ่า
ขั้นตอนการสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา
ปัจจุบัน มีไม่กี่ประเทศที่ผู้ยื่นวีซ่าต้องสัมภาษณ์กับเจ้าหน้าที่สถานทูตโดยตรง ซึ่งสถานทูตอเมริกายังคงเป็นหนึ่งในนั้น เมื่อกรอกแบบคำร้องขอวีซ่าชั่วคราว (DS-160) พร้อมกับยื่นนัดวันสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาแล้ว ขั้นต่อไปจะเป็นขั้นตอนที่สำคัญชื่อสุดก็คือการสัมภาษณ์ ซึ่งต้องบอกเลยว่าจะได้วีซ่าหรือไม่ได้ก็จะอยู่ในขั้นตอนนี้นั่นเอง แม้ว่าการขอวีซ่าจากอเมริกาจะเป็นเรื่องยาก แต่เราจะขอแนะแนวทางการสัมภาษณ์กับทุกท่านเพื่อเพิ่มโอกาสให้ยื่นวีซ่าผ่านง่ายขึ้นดังนี้
- เตรียมเอกสารมาให้ครบถ้วน แต่งกายให้เรียบร้อยตามสากลนิยม ถูกกาลเทศะ ไม่สวมเครื่องประดับเยอะ
- เดินทางมายังสถานที่นัดสัมภาษณ์ตามวันและเวลาที่กำหนด โดยควรมาถึงสถานทูตก่อนเวลานัด 15 นาที
- เข้าสู่มาตรการตรวจสอบความปลอดภัยของสถานทูต ตรวจสอบผ่านเครื่องสแกนโลหะ และฝากอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดไว้กับทางเจ้าหน้าที่ ด้วยเหตุนี้จึงแนะนำว่าควรนำแต่สิ่งของที่จำเป็นมาเท่านั้น
- ติดต่อเจ้าหน้าที่ประจำผู้ดูแลการสัมภาษณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบหนังสือเดินทาง
- เข้าไปรอในห้องรับรองการสัมภาษณ์ จากนั้นติดต่อเจ้าหน้าที่ช่อง 11-15 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร
- พิมพ์ลายนิ้วมือทั้งสองข้าง หลังจากพิมพ์ลายนิ้วมือแล้ว ให้ติดต่อที่ช่อง 10 สำหรับการยืนยันลายนิ้วมือ
- รอคิวเรียกสัมภาษณ์กับทางเจ้าหน้าที่ โดยการสัมภาษณ์นั้นจะใช้เวลาประมาณ 3 – 5 นาที ซึ่งต้องสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด
- การสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาจะรู้ผลทันทีในวันสัมภาษณ์
ตัวอย่างคำถามการสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา
- เจ้าหน้าที่ให้แนะนำตนเอง บอกชื่อ นามสกุล อายุ กับทางเจ้าหน้าที่
- เจ้าหน้าที่จะถามถึงสถานะของคุณตอนนี้ว่าทำอะไรอยู่ ทำงานอะไร หรือเรียนอยู่ที่ไหน ให้ตอบไปตรง ๆ
- เจ้าหน้าที่จะถามถึงวัตถุประสงค์ในการขอวีซ่าอเมริกา ซึ่งจะเป็นไปตามประเภทวีซ่าที่ท่านขอ เช่น วีซ่า B-1 / B-2 มักจะถามถึงวัตถุประสงค์ในการเดินทางแท้จริง ในส่วนของวีซ่า F1 จะถามถึงสถาบันการศึกษาในปัจจุบัน หลักสูตรที่ไปเรียน วันเริ่มเรียน และ วันเรียนจบ รวมไปจนถึงเป้าหมายหลังจากสำเร็จการศึกษา
- หากคุณอยู่ในวัยทำงาน เจ้าหน้าที่อาจถามเรื่องลักษณะการทำงานของคุณ แผนงาน หน้าที่ความรับผิดชอบ สถานะทางการเงิน หรือถ้าคุณทำธุรกิจส่วนตัว เจ้าหน้าที่จะสอบถามข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกิจการของคุณ เช่น บริษัทมีพนักงานกี่คน มีกี่แผนก สภาพคล่องทางธุรกิจ กิจการทำมานานเท่าใดแล้ว เป็นต้น
- บางครั้งเจ้าหน้าที่จะสอบถามว่ามีญาติอาศัยอยู่ที่อเมริกาหรือไม่ หากมีญาติทำอาชีพอะไรและอยู่เมืองไหน ซึ่งแนะนำให้ตอบตามตรง
- บางครั้งเจ้าหน้าที่จะถามเกี่ยวกับเพื่อร่วมเดินทางของคุณ ว่าเดินทางคนเดียวหรือไปเป็นหมู่คณะ ให้ตอบไปตามตรง
- หากเป็นการขอวีซ่าอเมริกา ท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่จะสอบถามถึงแผนการเดินทางของคุณ เดินทางไปเมืองไหน เมื่อไหร่ เที่ยวที่ไหนบ้าง วันเวลาเดินทางไปและกลับ รวมถึงถามเกี่ยวกับว่าคุณเคยเดินทางไปเที่ยวประเทศไหนมาบ้าง ก็ให้เล่าการท่องเที่ยวของคุณไป
- กรณีที่มีคนเป็นสปอนเซอร์ค่าใช้จ่ายให้ เจ้าหน้าที่จะถามสาเหตุของการเป็นสปอนเซอร์
ทั้งนี้คุณสามารถอ่านบทความตัวอย่างการสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาอย่างละเอียดได้ ซึ่ง Artralux ได้รวบรวมมาให้แล้ว
ข้อแนะนำการสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา
- ควรตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมา เพราะทางเจ้าหน้าที่เขารู้ข้อมูลประวัติของคุณเป็นอย่างดี อยากมีการปกปิดเจ้าหน้าที่ย่อมรู้แน่นอน
- ตอบคำถามให้ตรงกับข้อมูลที่คุณกรอกในใบ DS160
- พยายามตอบคำถามด้วยความมั่นใจ ชัดเจน ไม่ประหม่า เพราะทางเจ้าหน้าที่ต้องการความเชื่อมั่นในสถานะของคุณ ว่าคุณมีความประสงค์ที่จะเดินทางไปอเมริกาและเดินทางกลับตามกำหนด
- หากไม่เข้าใจที่เจ้าหน้าที่ถามควรขอให้ทางเจ้าหน้าที่ถามใหม่ อย่าเสี่ยงตอบมั่วซั่วไป หากคุณโชคดีอาจเจอเจ้าหน้าที่คนอเมริกันที่พูดภาษาไทยได้
- ผู้ที่ขอวีซ่าอเมริกาเพศหญิงที่เดินทางคนเดียว และไม่เคยมีประวัติเดินทางไปไหนมาก่อน อาจถูกปฏิเสธการทำวีซ่า เพราะทางเจ้าหน้าที่อาจสันนิษฐานว่าเดินทางมาทำงานผิดกฎหมาย
- การขอวีซ่าอเมริกาจะผ่านหรือไม่ผ่านนั้น ขึ้นกับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ หากหลักฐานครบถ้วน หลักฐานน่าเชื่อถือ มีประวัติสภาพคล่องทางการเมืองดี และตอบคำถามได้เป็นอย่างดี ก็จะมีโอกาสผ่านสูง
แอดไลน์ สอบถามบริการยื่นวีซ่า
คำถามและข้อสงสัยที่พบบ่อยเมื่อขอวีซ่าอเมริกา
หากขอวีซ่าอเมริกาไม่ผ่าน จะต้องทำอย่างไร?
สำหรับผู้ที่ถูกสถานทูตปฏิเสธการให้วีซ่า สามารถทำเรื่องยื่นขอวีซ่าได้ใหม่อีกครั้ง โดยคุณต้องแสดงหลักฐานที่น่าเชื่อถือกว่าเดิม เพื่อให้ทางสถานทูตเกิดความเชื่อมั่นในตัวคุณมากขึ้น หากคุณถูกปฏิเสธวีซ่าเนื่องจากเอกสารไม่ครบก็สามารถทำเรื่องยื่นวีซ่าใหม่โดยเพิ่มเติมเอกสารที่ขาดหายไปได้เช่นกัน ทั้งนี้สำหรับการขอวีซ่าครั้งใหม่ ผู้ขอวีซ่าอเมริกาจะต้องทำเรื่องขอยื่นใหม่ตั้งแต่ต้น ทั้งการกรอกแบบฟอร์ม DS 160 ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่า และนัดวันสัมภาษณ์ใหม่ แต่ข้อควรจำไว้ก็คือหากขอยื่นใหม่แต่หลักฐานยังคงไม่น่าเชื่อถือเพียงพอ ทางสถานทูตก็มีโอกาสสูงที่จะปฏิเสธการให้วีซ่าอีกครั้ง
ขอวีซ่าอเมริกา ราคาค่าธรรมเนียมเท่าไหร่?
ราคาค่าธรรมเนียมวีซ่านั้น จะขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินไทยกับเงิน US ดอลลาร์ หรือเรียกได้ว่า ราคาค่าธรรมเนียมวีซ่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อีกทั้งค่าธรรมเนียมยังขึ้นกับประเภทของวีซ่าที่คุณขอด้วย ดังนั้นเราจึงแนะนำให้คุณเช็กราคาค่าธรรมเนียมวีซ่าอเมริกาจากเว็บไซต์ทางการในการสมัครยื่นวีซ่า แต่ ณ ปัจจุบันนี้ วีซ่าอเมริกา ท่องเที่ยว วีซ่าธุรกิจ วีซ่านักเรียน จะมีค่าธรรมเนียมอยู่ 185 ดอลลาร์ หรือประมาณ 6,660 บาท (ข้อมูล ณ เดือน มกราคม 2024) เช็กที่เว็บไซต์ ustraveldocs
การขอวีซ่าอเมริกาแบบเร่งด่วนคืออะไร?
เป็นการขอทำวีซ่าเพื่อเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาในกรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน เช่น มีความจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการรักษาจากแพทย์ มีความจำเป็นที่จะต้องเข้าร่วมงานพิธีศพในอเมริกาหรือนำร่างญาติคนสำคัญกลับสู่อเมริกา การเดินทางธุรกิจแบบเร่งด่วนโดยไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า เป็นต้น ซึ่งคุณจะต้องมีหลักฐานยืนยันความเร่งด่วนด้วย รวมถึงตอนสัมภาษณ์ต้องตอบคำถามตามสาเหตุของการขอวีซ่าแบบเร่งด่วนให้ถูกต้องตามความเป็นจริง
หลังจากสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาผ่านแล้ว ต้องใช้กี่วันถึงจะได้วีซ่า?
โดยปกติแล้วทางสถานทูตจะส่งหนังสือเดินทางกลับมาพร้อมวีซ่าประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากวันสัมภาษณ์เสร็จสิ้น แต่ทั้งนี้ระยะเวลาอาจช้าหรือเร็วกว่านั้นขึ้นกับการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ ข้อมูลของผู้สมัคร และการจัดส่งโดยไปรษณีย์ไทย ซึ่งทางสถานทูตจะจัดส่งหนังสือเดินทางและวีซ่าตามที่อยู่ที่ผู้ขอได้ให้ข้อมูลไว้ตอนสัมภาษณ์ ข้อพึงระวังคือทางไปรษณีย์จะเก็บหนังสือเดินทางไว้เพียง 7 วันเท่านั้น หากไม่มีการรับ ทางไปรษณีย์จะทิ้งใบแจ้งเตือนไว้ ซึ่งคุณต้องไปรับเอง ณ ที่ทำการไปรษณีย์
หากจองนัดสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาไว้แล้ว สามารถเลื่อนวันนัดสัมภาษณ์ได้หรือไม่?
ผู้สมัครขอวีซ่าสามารถเปลี่ยนแปลงวันนัดสัมภาษณ์ได้ 2 ครั้ง (รวมทั้งการยกเลิกและการเลื่อนนัด) หากทำการเลื่อนวันนัดครบแล้ว จะต้องเริ่มต้นสมัครและจ่ายค่าธรรมเนียมวีซ่าใหม่อีกครั้ง และทำการนัดสัมภาษณ์ในครั้งถัดไป ดังนั้นเราจึงขอแนะนำให้ท่านวางแผนการสัมภาษณ์วีซ่าให้ดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลาและเสียเงินค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ยื่นทำวีซ่าอเมริกา สามารถนัดสัมภาษณ์ได้ที่ไหนบ้าง?
สำหรับในประเทศไทยนั้น คุณสามารถยื่นขอวีซ่าและเข้าไปสัมภาษณ์ได้สองที่ ได้แก่
- สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย (กรุงเทพฯ) โดยตั้งอยู่ที่ 95 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตประทุมวัน กรุงเทพฯ
- สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกาประจำเชียงใหม่ โดยตั้งอยู่ที่ 387 ถนนวิชยานนท์ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมือง เชียงใหม่ 50300
ขอวีซ่าอเมริกา ยากไหม?
ขอกล่าวตามตรงว่าการขอวีซ่าอเมริกา 2024 นั้น ถือว่ายากกว่าหลาย ๆ ประเทศ เพราะนโยบายการคัดกรองคนเข้าประเทศ แต่ทั้งนี้การขอวีซ่านั้นไม่ใช่เรื่องยากเกินไปหากคุณมีหลักฐานครบถ้วนและน่าเชื่อถือ รวมถึงมีการตอบคำถามขณะสัมภาษณ์ได้อย่างถูกต้องตรงไปตรงมา สามารถแสดงเจตจำนงว่าเราเดินทางเข้าประเทศไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้จริง ๆ และหากเจ้าหน้าที่เชื่อถือเราการขอวีซ่าก็จะไม่ยากเกินความสามารถของคุณ
ประเทศอเมริกาเป็นดินแดนเสรีภาพ ที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะในทางท่องเที่ยว ศึกษาต่อ หรือ ทำธุรกิจ ด้วยพื้นที่ของประเทศที่กว้างขวาง เต็มไปด้วยแลนด์มาร์กโด่งดัง เทคโนโลยีทันสมัย และ ค่าครองชีพที่ไม่แพง จึงไม่แปลกใจที่อเมริกา เป็นประเทศที่สร้างโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ให้แก่ใครหลายคน
สำหรับผู้เดินทางท่านไหนที่กำลังมองหาตัวช่วย ทาง Artralux เรามี บริการยื่นวีซ่า พร้อมช่วยคุณยื่นขอวีซ่าอเมริกา 2024ตั้งแต่ต้นจนจบ ให้คุณได้วางแพลนเที่ยวอย่างไร้กังวล สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42