วัดคิโยมิสึ หรือ วัดน้ำใส (Kiyomizu Temple) มรดกโลกของญี่ปุ่น กลางเกียวโต 2024

kiyomizu temple

 

วัดคิโยมิสึ หรือ วัดน้ำใส (Kiyomizu Temple) สถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นไฮไลท์ของเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นมรดกโลกอีกด้วย ที่ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยว หรือคนญี่ปุ่นต่างต้องเดินทางไปชื่นชมความสวยงามซากุระ กันแทบทุกฤดู โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสี และหน้าหนาว ถือเป็น Destination สำคัญสำหรับทริปท่องเที่ยวที่เกียวโตนั่น คือ การได้มาขอพร ซื้อเครื่องราง และชมความยิ่งใหญ่ขององค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ 1000 กร และเทพเอบิสึ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง

แน่นอนว่านอกจากวิวทิวทัศน์ที่นักท่องเที่ยวหลายคนต่างบรรยายเป็นเสียงเดียวกันว่า “breathtaking” และสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณของตัววัดซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบันแล้ว ในวันนี้ทาง Artralux ผู้นำด้านการเดินทางที่บริการตั้งแต่ รับยื่นวีซ่า วางแผนการเดินทาง รับจัดกรุ๊ปส่วนตัว และบริการท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย จะพาไปยังสถานที่วัดคิโยมิสึ (Kiyomizu Temple) ที่มาพร้อมประวัติความเป็นมาอันน่าสนใจ พร้อมกิจกรรมไฮไลท์ต่างๆ ห้ามพลาด ซึ่งถ้าพร้อมแล้วก็ตามไปดูกันเลย

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

ประวัติวัดคิโยมิสึ กว่าจะเป็นสมบัติชาติญี่ปุ่น

วัดคิโยมิสึ (Kiyomizudera Temple 清水寺) มาจากคำภาษาญี่ปุ่นที่มีความหมายว่า “น้ำบริสุทธิ์” ทั้งนี้เนื่องจากที่ภายในวัดมีน้ำ 3 สาย ไหลผ่าน โดยทั้ง 3 สายนี่เอง ได้ไหลลงมาจากจุดเดียวกันนั้นคือ น้ำตกโอโตวะ (Otowa Waterfall) ซึ่งขึ้นชื่อว่ามีความบริสุทธิ์ ตัวน้ำมีความใสสะอาด ทำให้ชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อว่าหากได้ดื่มน้ำที่มาจากน้ำตกโอโตวะจะสามารถปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีออกจากตัวผู้ดื่มน้ำ

นอกจากนี้ น้ำทั้ง 3 สายยังมีความศักดิ์ศิทธิ์ต่างกันไป โดย 

  • ทางน้ำสายที่ 1 สำหรับผู้ที่ต้องการขอพรเรื่องการศึกษา และ ความสำเร็จ 
  • ทางน้ำสายที่ 2 สำหรับผู้ที่ต้องการขอพรในเรื่องความรัก 
  • ทางน้ำสายที่ 3 สำหรับผู้ที่อยากมีอายุยืนนาน และ มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง 

วัดคิโยมิสึ หรือ วัดน้ำใส เป็นวัดที่มีความเก่าแก่มากที่สุดอีกแห่งของญี่ปุ่น ตัววัดถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 778 หรือในพ.ศ. 1321 โดยตระกูลโตกุกาว่า (Tokugawa clan) 

 

วัดคิโยมิสึ

สิ่งที่ทำให้วัดคิโยมิสึมีความแตกต่างจากวัดอื่น คือ เทคนิค และวัสดุที่ใช้ในการสร้าง โดยไฮไลท์ของวัดคิโยมิสึ อยู่ที่อาคารไม้ขนาดใหญ่ซึ่งถูกสร้างด้วยไม้ทั้งหมด ในส่วนของบริเวณเสาค้ำระเบียงที่ยื่นออกมาจากตัวอาคารนั้น จะเป็นไม้ขนาดใหญ่ ที่สร้างด้วยการใช้เทคนิคการเข้าลิ่มไม้ตามภูมิปัญญาญี่ปุ่น โดยไม่ใช่ตะปูสักดอก  และด้วยความสูงที่อยู่สูงจากพื้นดินกว่า 13 เมตร บวกกับตัวระเบียงที่ถูกยื่นออกมานอกตัวอาคาร ทำให้ผู้มาเยือนได้เห็นวิวโตเกียว และ ธรรมชาติที่สวยงามโดยรอบตัววัด จึงไม่แปลกใจที่วัดน้ำใสเกียวโตแห่งนี้ ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากทางองค์การยูเนสโก ในฐานะส่วนหนึ่งของอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์เมืองเกียวโต

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

ไฮไลท์และกิจกรรมที่วัดคิโยมิสึเกียวโต

Cr.Japan and More

ทั้งภายใน และ ภายนอกของวัดคิโยมิสึ มีสถานที่ชมวิว ศาลา และศาลเจ้าให้นักท่องเที่ยวได้สักการะ และขอพร ซื้อเครื่องรางตลอดทาง โดยภายในวัดจะมีอาคารหลักๆ ทั้งหมด 9 อาคาร ซึ่งต่างมีเสน่ห์ และความงามของสถาปัตยกรรมที่ต่างกันออกไป  

บรรยากาศของ จะไม่เหมือนกับวัดญี่ปุ่น หรือวัดจีนทั่วไป เมื่อคุณเดินเข้ามาในตัววัด จะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสวนญี่ปุ่นขนาดใหญ่ ให้คุณสัมผัสถึงความศักดิ์สิทธิ์ของวัด และธรรมชาติที่สวยงามของญี่ปุ่นไปพร้อมๆ กัน

วิธีเดินทาง วัดคิโยมิสึ ไปได้ยังไงบ้าง

การเดินทางเข้าชมวัดคิโยมิสึ ถ้ามาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี จะสวยมากๆ มีเวลาเปิดให้เข้าชมตั้งแต่ 06:00 – 18:00 น.  คุณสามารถเดินทางมาจากสถานีเกียวโตได้เลย เพียงนั่งรถไฟสาย Keihan Line ไปลงที่สถานี Kiyomizu Gojo ก็สามารถเดินทางเข้าเที่ยวชมวัดคิโยมิสึกันได้เลย

เดินทางเข้าวัดคิโยมิสึจาก “เส้นทางสายกาน้ำชา” 

เส้นทางที่ใช้ในการเดินเข้าวัดเองเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่สร้างเสน่ห์ให้แก่วัดน้ำใสแห่งเมืองเกียวโตแห่งนี้ โดยทางเดินจะถูกรายล้อมไปด้วยร้านขายของ ทั้งของฝาก และสินค้า OTOP เครื่องรางต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับแพ็คเกจสวยๆ มากมาย 

และถนนเส้นนี้เอง มีชื่อเรียกว่า “เส้นทางสายน้ำกา” เนื่องจากในอดีต ทั้งสองข้างถนนรายล้อมไปด้วยร้านขายน้ำชา และ ถ้วยเซรามิกของคิโยมิสึ นั่นเอง

 

วัดคิโยมิสึ

 

ชื่มชมแลนด์มาร์ก ภายในวัดคิโยมิสึ

ภายในวัดคิโยมิสึ มีแลนด์มาร์กที่ต้องไปชื่นชมความยิ่งใหญ่หลายที่ ซึ่งแต่ละที่มีเรื่องราว และ สถาปัตยกรรมที่ต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น 

  • ประตูนิโอะมอน (Nio-mon)  ซึ่งเป็นซุ้มประตูทางเข้าหลักของวัด มีความสูงกว่า 14 เมตร และมีความกว้างขนาด 5 x 10 เมตร เป็ฯประตูที่ครั้งหนึ่งเคยถูกไฟไหม้ในช่วงสงครามในปี ค.ศ. 1467-1477

 

วัดคิโยมิสึ

 

  • ศาลเจ้าจิชู (Jishu-jinja) เป็นศาลเจ้าแห่งความรัก ภายในศาลเจ้ามีก้อนหินแห่งความรัก 2 ก้อน ซึ่งทั้ง 2 ก้อน มีระยะห่างอยู่ที่ 18 เมตร ซึ่งหากคุณสามารถเดินหลับตาจากหินก้อนที่ 1 ไปยังหินก้อนที่ 2 ได้โดยไม่หลงทาง คุณจะสมหวังในความรักนั่นเอง 
  • ฮอนโดะ (Hondo) หรือ อาคารไม้ขนาดใหญ่ซึ่งเป็นไฮไลท์ของวัดคิโยมิสึ ตัวอาคารสร้างด้วยไม้และตั้งอยู่บนไหล่เขาโอตาวะ (Mt. Otowa) ซึ่งด้วยความสูงจากพื้นดิน 13 เมตร ทำให้อาคารฮอนโดะกลายเป็นจุดชมวิวที่ดีมากๆ สามารถมองเห็นเมืองเกียวโตทั้งเมือง และ หากมองดีๆ คุณสามารถเห็น Kyoto Tower ได้จากที่นี่อีกด้วย 

การเสี่ยงเซียมซีตามศาลเจ้า 

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญ และ ต้องทำทุกครั้งหากมีโอกาสมาเยี่ยมชมวัดน้ำใสเกียวโต คือการเสี่ยงเซียมซี ซึ่งการเสี่ยงเซียมซี มีชื่อเรียกที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า Omikuji โดยคำทำนายจากการเสี่ยงเซียมซีจะมาในรูปแบบกระดาษ ซึ่งหากได้คำทำนายที่ไม่เป็นโชค คุณสามารถนำคำทำนายมาผูกไว้กับเสา และ ฝากไว้ที่วัด ถือเป็นการทิ้งโชคร้าย และ ให้เทพเจ้าดูแลแทนนั่นเอง 

มุมถ่ายรูปสวยๆ ภายในวัดคิโยมิสึ 

นอกจากที่นักท่องเที่ยวจะมาขอพรเทพเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้วัดคิโยมิสึโด่งดังไปทั่วโลก คือวิวอันสวยงาม และ น่าประทับใจภายในตัววัด ซึ่งแต่ละฤดู จะให้บรรยากาศที่แตกต่างกันราวกับอยู่คนละที่ 

 

บรรยากาศไม้เปลี่ยนสีที่วัดน้ำใส

 

หากคุณอยากได้รูปถ่ายบรรยากาศสีสันสดใส แนะนำให้ไปเที่ยววัดน้ำใสเกียวโตในช่วงฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม-พฤษภาคม) เพราะจะเป็นช่วงที่ดอกซากุระเบ่งบานมากที่สุด และด้วยความที่ตัววัดรายล้อมเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ แน่นอนว่าในฤดูใบไม้ผลิ วัดคิโยมิสึจะกลายเป็นวัดที่เต็มไปด้วยดอกซากุระสีชมพูบานสะพรั่ง ราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายแน่นอน

สำหรับคนที่อยากชื่นชมใบไม้สีแดงที่เรียงตัวราวกับคลื่นที่แดงก่ำจากระเบียงวัดที่อาคารฮอนโดะ แนะนำให้ไปในช่วงปลายเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน  ซึ่งตรงกับฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่น 

วัดคิโยมึสึ ( Kiyomizu Temple) หรือ วัดน้ำใส เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสมบัติของชาติญี่ปุ่น ไม่เพียงแต่ที่วัดคิโยมิสึจะเป็นสถานที่พึ่งทางจิตใจของชาวญี่ปุ่นแล้ว สถาปัตยกรรมที่งดงามของวัดเองนั้น จะทำให้คุณได้รู้สึกเหมือนได้หลุดเข้าไปในยุคโบราณของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว 

 

สำหรับผู้เดินทางท่านไหนที่อยากจะเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวที่เมืองเกียวโต เมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่นอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าคุณอยากจะไปเยี่ยมเยียนยิ่งใหญ่ และ ความงดงามของวัดคิโยมิสึ, ชื่นชมธรรมชาติอันน่าทึ่งของป่าไผ่อาราชิยาม่า (Arashiyama) หรือ อยากไปดูความอัศจรรย์ของเสาประตูสีแดงที่เรียงตัวกันข้างหลังศาลเจ้าจิ้กจอง ทางทีมงาน Artralux เรามีบริการสร้างสรรค์ทริปการเดินทางไปเกียวโต ที่ให้คุณได้กำหนดเส้นทางการเดินทางของคุณอย่างเต็มที่ เพื่อให้คุณมีความสุขกับการท่องเที่ยวมากที่สุด สนใจติดต่อ Artralux ได้ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า) 

 

สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)  

📞 | 02-047-0083

💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

 

SHARES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า