“เที่ยวออสเตรียดีไหมนะ” “ประเทศออสเตรียสวยไหม” “มีอะไรน่าเที่ยวบ้าง” “คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือไม่” เชื่อว่าหากคุณคลิกเข้ามาอ่านบทความนี้ คำถามเหล่านี้คงจะเป็นคำถามที่คิดกันไม่ตก และ อยากได้คำตอบมากที่สุดกันใช่ไหมคะ ขอตอบตรงนี้เลยว่า แม้ว่าประเทศออสเตรีย จะไม่ใช่ประเทศท่องเที่ยวในทวีปยุโรปที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เหมือนอย่างประเทศฝรั่งเศส อิตาลี หรือ สเปน แต่รู็หรือไม่ว่าประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับจากการท่องเที่ยวออสเตรียนั้น หาไม่ได้จากที่ไหนในโลกแน่นอน
ประเทศออสเตรีย หรือ ชื่อเต็มๆ สาธารณรัฐออสเตรีย เป็นประเทศที่เปรียบเสมือนหัวใจของยุโรปก็ว่าได้ ทั้งนี้เนื่องจากประเทศนี้ ตั้งอยู่ใจกลางยุโรป ไม่ทางออกสู่ทะเล และ โอบล้อมไปด้วยประเทศท่องเที่ยวชื่อดังของยุโรป โดยทางตอนเหนือติดกับประเทศเยอรมนีและสาธารณรัฐเช็ก ทางตอนใต้ติดกับประเทศสโลวีเนียและประเทศอิตาลี ส่วนในทางตะวันออกจรดสโลวาเกียและฮังการี และทางตะวันตกจรดสวิตเซอร์แลนด์และลิกเตนสไตน์ ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อย ที่เริ่มเดินทางทัวร์ยุโรป จากประเทศออสเตรีย จากนั้นจึงใช้วีซ่าเชงเก้นเพื่อเดินทางไปเที่ยวในประเทศใกล้เคียง
อย่างไรก็ตาม ประเทศออสเตรียไม่ใช่แค่ทางผ่าน เพราะ ประเทศขนาดเล็กแห่งนี้ ขึ้นชื่อเรื่องทัศนียภาพทางธรรมชาติที่งดงาม ซึ่งมากกว่า 60 % ของพื้นที่ประเทศ เป็นเทือกเขา และ ป่าไม้ จนทำให้ประเทศออสเตรีย ได้รับสมยานามว่าเป็น “ดินแดนแห่งเทือกเขา และ ลำธาร” นอกจากธรรมขาติที่งดงามแล้ว ตึก บ้านเรือน และ อาคารในประเทศออสเตรีย ยังมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปโบราณราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายอย่างไงอย่างนั้น
เพื่อให้การเดินทางท่องเที่ยวออสเตรียของคุณสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าใคร Artralux บริษัทท่องเที่ยวชั้นนำของไทย จึงได้รวบรวม 10 ที่เที่ยวออสเตรีย ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดหากมีโอกาสได้มาเยือนประเทศออสเตรียแห่งนี้ ซึ่ง 10 ที่เที่ยวนี่จะมีที่ไหนบ้างนั้น เราไปดูพร้อมๆ กันเลย!
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
10 ที่เที่ยวออสเตรีย คัดมาแล้ว สวยตรงปกแน่นอน!
ประเทศออสเตรีย (Austria) เป็นประเทศขนาดเล็ก ที่มากไปด้วยเสน่ห์ ไม่ว่าจะในทางทัศนียภาพทางธรรมชาติที่งดงาม ตัวประเทศโอบล้อมไปด้วยเทือกเขาแอลป์ซึ่งถูกปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปี และ ทะเลสาบหลายสายที่ไหลผ่านแทบจะทุกตัวเมือง แม้ว่าประเทศนี้จะไม่มีทางออกสู่ทะเล นอกจากธรรมชาติที่งดงามแล้ว สื่องที่ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวออสเตรียกันปีละหลายล้านคนนั้น หนีไม่พ้น ความสวยงาม และ น่ารักของหมู่บ้านขนาดเล็กที่มาพร้อมกับสีสันที่สดใส และ สถาปัตยกรรมยุโรปสุดคลาสสิคที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวออสเตรียทั้ง 10 ที่นี้ คือ แลนด์มาร์กที่คุณไม่ควรพลาด!
1. VIENNA กรุงเวียนนา
หากให้เลือกสถานที่ท่องเที่ยวออสเตรียมาหนึ่งที่ ที่บอกเลยว่าหากไม่ได้ไป ถือว่ามาไม่ถึง เราขอเลือกเป็นกรุงเวียนนา (Vienna) ซึ่งเป็นเมืองหลวง และ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศออสเตรีย ซึ่งแม้ว่าเวียนนาจะเป็นเมืองหลวง เต็มไปด้วยตึกสูง และ เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศออสเตรีย แต่ที่แห่งนี้ก็ไม่ทิ้งเสน่ห์ความเป็นออสเตรียไปแม้แต่น้อย เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ของเวียนนานั้นเป็นภูเขา อีกทั้งยังมีแม่น้ำดานูบไหลผ่านเมือง เกิดเป็นทัศนียภาพเมืองที่สวยงามราวกับเทพนิยาย
นอกจากความสวยงามของธรรมชาติแล้ว เมืองเวียนนายังเต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปโบราณจากหลายยุคสมัย โดยพื้นที่บางส่วนของเมืองยังคงปูถนนด้วยหิน และ มีรถม้าวิ่งรับส่งผู้คนในเมืองอยู่ ทำให้ร้านค้าสมัยใหม่ในปัจจุบัน อย่างเช่น ร้านกาแฟสตาร์บัค (Starbuck) หรือ ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ต่างพากันออกแบบร้านค้าให้กลมกลื่นเข้าไปกับบรรยากาศเมือง เกิดเป็นภาพเมืองที่สวยงามราวกับภาพวาดอย่างไรอย่างนั้น
ที่สำคัญเมืองเวียนนา ก็ได้รับการแต่งตั้งจาก Economist Intelligence Unit ในหัวข้อ The Global Liveability Index 2022 หรือ ‘ดัชนีความน่าอยู่ทั่วโลกปี 2022’ ให้เป็นเมืองที่มีดัชนีความน่าอยู่มากที่สุดในโลกอีกด้วย เพราะทั้งโครงสรา้งพื้นฐานเมือง ระบบขนส่งสาธารณะ บริการสุขภาพ การศึกษา รวมไปจนถึง วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ต่างได้รับคะแนนเต็มร้อยทั้งนั้น
2. HOFBURG PALACE พระราชวังฮอฟบวร์ก
หากเดินทางมาท่องเที่ยวออสเตรีย ณ เมืองเวียนนา สถานที่ท่องเที่ยวที่ควรจะอยู่ในลิสต์อันดับหนึ่งของคุณนั้น คือ พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) ซึ่งเป็นพระราชวังที่เก่าแก่ และ ใหญ๋ที่สุดแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป หรือ ของโลกเลยก็ว่าได้ โดยพระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1275 และ ได้ถูกใช้เป็นที่พระทัปของพระราชวงศ์ฮอฟบวร์ก ตั้งแต่กษัตริย์องค์แรก ยันองค์สุดท้าย ก่อนที่ออสเตรียจะเปลี่ยนระบบการปกครองมาเป็นแบบสาธารณรัฐออสเตรียในเวลาต่อมา
ความยิ่งใหญ่ของพระราชวังฮอฟบวร์ก ที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างอ้าปากค้างกันไปเป็นตามๆ กันนั้น คือ พระราชวังแห่งนี้ ประกอบไปด้วยปีกอาคารทั้งหมด 18 ส่วน และ มีห้องภายในวังมากกว่า 2,000 ห้อง โดดเด่นด้วย จัตุรัสมิคาเอลเล่อ ที่วางเด่นเป็นสง่าอยู่ด้านหน้าวัง ปัจจุบัน พระราชวังแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่พำนักทางการของประธานาธิปดีออสเตรีย และ มีบางส่วนถูกจัดเป็นพิพิภัณฑ์เพื่อจัดแสดงพระคลังสมบัติหลวง วัตถุโบราณ เครื่องประดับ ชุดเครื่องเงิน และ อีกมากมาย ซึ่งต่างสะท้อนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ฮอฟบวร์ก และ ประเทศออสเตรีย โดยส่วนของวังที่อนุญาติให้นักท่องเที่ยวเข้าชมมีดังนี้
- พิพิธภัณฑ์ซีซี (Si Si Musuem)
- ห้องพัก 19 ห้อง (Imperial Apartment)
- คอลเลกชันเงิน (Sliver Collection)
ค่าเข้าชมพระราชวังงฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) อยู่ที่ 16 ยูโรต่อท่าน และ เปิดให้เข้าชมในทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 – 17:00 นาฬิกา
3. AUSTRIA NATIONAL LIBRARY หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย
หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย หรือ Austrian National Library แห่งนี้ เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวออสเตรีย ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกตั้งหน้าตั้งตาเดินทางไปชมความอลังการ ซึ่งแม้ว่าคุณจะไม่ใช่คนรักการอ่าน หรือ เป็นคนที่หลงใหลในกลิ่นของหนังสือ รับรองว่าเมื่อคุณก้าวเข้ามาที่หอสมุดแห่งนี้ คุณจะอยากคว้าหนังสือสักเล่มมาอ่านอย่างแน่นอน โดยหอสมุดแห่งนี้ ตั้งอยู่ภายในพระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace) ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้า Charles ที่ 6 เพื่อใช้เป็นหอสมุดแห่งพระราชสำนักในคตวรรษที่ 18
หอสมุดแห่งชาติออสเตรีย เป็นหอสมุดที่เก็บรวบรวมหนังสือมากที่สุดในประเทศออสเตรีย มีหนังสือที่เรียงรายตามชั้นวางหนังสือมากถึง 200,000 เล่ม และ มีคอลเลคชันหนังสือที่ทำจากทองคำมากกว่า 15,000 เล่มเลยทีเดียว นอกจากนี้หอสมุดนี้ ยังมีความใหญ่โตมากที่สุดในยุโรปอีกด้วย ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่แผลนมาเที่ยวออสเตรียทั้งที ห้ามพลาดเข้าชมความยิ่งใหญ่ของหอสมุดแห่งนี้เป็นอันขาด จุดเด่นของหอสมุดแห่งนี้อยู่ที่ State Hall ที่ถูกสร้างด้วยหินอ่อน หลังคาเป็นทรงโดมโค้ง ตกแต่งด้วยภาพจิตกรรมฝาผนัง และ รูปปั้นแกะสลักสไตล์กรีกโบราณอย่างงดงาม
4. ST. STEPHEN’S CATHEDRAL มหาวิหารเซนต์สตีเฟน
มหาวิหารเซนต์สตีเฟน เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กท่องเที่ยวออสเตรีย ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกมากที่สุด โดยมหาวิหารเซนต์สตีเฟนแห่งนี้ ตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัสสเตฟาน ในกรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิค หอคอยเป็นทรงแหล่ม ด้านบนของยอดประดับด้วยมงกุฏทองคำกับเหยี่ยวคู่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์ฮับสบวร์กของประเทศออสเตรีย อีกทั้งยังประดับประดาหลังคาด้วยกระเบื้องเคลือบสีสันสดใสถึง 230,000 แผ่น ซึ่งเป็นกระเบื้องแบบโมเสคทำเป็นลวดลายตราแผ่นดินของเมืองเวียนนา และ นกอินทรีย์ 2 หั ดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวออสเตรียได้เป็นอย่างมาก มหาวิหารเซนต์สตีเฟนแห่งนี้มีความเก่าแก่ ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 12 และได้ถูกบูรณะบำรุงอีกครั้งหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากได้รับความเสียหาย และ ถูกไฟไหม้นั่นเอง
ในส่วนของด้านในก็มีความงดงาม แล ะยิ่งใหญ่ไม่แพ้กับสถาปัตยกรรมด้านนอกแต่อย่างใด โดยแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ มหาวิหารส่วนกลาง, หอคอยทางทิศใต้, สุสานของบุคคลสำคัญ และ ในส่วนของหอระฆังทางทิศเหนือที่ประกอบไปด้วยจำนวนระฆังทั้งหมด 22 ใบด้วยกัน ซึ่งส่วนที่เป็นไฮไลท์ของมหาวิหารแห่งนี้ คือ แท่นบูชา โดยแท่านบูชาที่ใหญ่ที่สุดนั้น คือ แท่นบูชา Wiener Neustädter และ ท่านบูชาสูง High Altar ที่ทำด้วยหินอ่อนสีดำ มีการแกะสลักหินอย่างประณีต และ งดงาม เป็นอย่างมาก
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
5. KARTNER STREET คาร์ทเนอร์สตรีท
ยังคงอยู่กันที่กรุงเวียนนากับอีกหนึ่งถนนคนเดินที่สายชอปปิ้ง และ คนรักการท่องเที่ยวในเชิง City ต้องไม่พลาด ซึ่งถนนที่สวยที่สุด และ ครึกครักไปด้วยผู้คนมากที่สุดในกรุงเวียนนาจะเป็ฯที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก ถนนคาร์ทเนอร์สตรีท ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อระหว่างวงแหวนริงสตราเซ่ กับจัตุรัสสเตฟานเข้าด้วยกัน ซึ่งความน่าทึ่งของถนนเส้นนี้ คือ จะไม่อนุญาติในรถยนต์ หรือ รถสาธารณะใดๆ ขับผ่านเข้ามาแต่อย่างใด ซึ่งนอกจากการเดินเท้าแล้ว ยังมีบริการรถม้านั่งให้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย เรียกได้ว่า ได้บรรยากาศการชอปปิ้งบนถนนที่คลาสสิคสุดๆ เลยทีเดียว
ถนนเส้นนี้รายล้อมไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ และ ผับบาร์มากมาย ซึ่งต่างก็มีการออกแบบสถาปัตยกรรมร้านให้เข้ากับสาปัตยกรรมสไตล์ศยุโรปโบราณอีกด้วย โดยหากคุณวางแผนเดินทางมาเที่ยวออสเตรีย Artralux แนะนำให้เดินทางมาที่ย่านนี้ในช่วงเดือน กรกฎาคม เนื่องจากเป็นช่วงที่ร้านค้าแทบจะทุกร้านลดราคาไม่ต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย
6. HALLSTATT ฮอลสตัท
แลนด์มาร์กที่เที่ยวออสเตรีย อีกหนึ่งแห่งที่ได้รับความนิยม และ ต้องไปเยี่ยมเยือนนั้น คือ เมืองฮอลสตัท (Hallstatt) เมืองมรดกโลกขนาดเล็ก สีสันสดใส ริมทะเลสาบ ที่ได้ชื่อว่าสวยงามมากที่สุดในโลก โดยเมืองแห่งนี้มีจุดเด่นอยู่ที่สถปัตยกรรมของอาคาร และ บ้านเรือน ที่ยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมยุโรปดั้งเดิมไว้ตั้งแต่ในสมัยอดีต ซึ่งด้วยความที่หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขา ทำให้บ้านแต่ละหลังถูกวางซ้อนกันเป็นระดับและหันหน้าเข้าหาทะเลสาบ เกิดเป็นทัศนียภาพที่งดงาม ตัวหมู่บ้านโอบล้อมไปด้วยเทือกเขา และ มีทะเลสาบขนาดใหญ่ไหลผ่าน ซึ่งนอกจากการเดินเล่นชมความน่ารักของหมู่บ้านแห่งนี้แล้ว ในหมู่บ้านยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้สนุกกันทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือกับฝูงหงส์ขาว การปีนเขา ปั่นจักรยาน รวมไปจนถึงการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะ และ วัฒนธรรมประจำหมู้บ้าน
นอกจากนี้ หมู่บ้านแห่งนี้ยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศออสเตรีย เพราะที่แห่งนี้เอง เป็นสถานที่ผลิตเกลือโบราณที่เก่าแก่ และ ใหญ่ที่สุดของประเทศ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นกระเช้าลอยฟ้าเพื่อเข้าชมเหมืองผลิตเกลือที่มีอายุร่วม 7,000 ปี ได้อีกด้วย
7. SALZBURG ซาลซ์บูร์ก
หากถามว่าเที่ยวออสเตรียเดือนไหนดี ให้ได้บรรยากาศความเป็นยุโรปมากที่สุด แบบชนิดที่ว่าไปแล้วคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ที่เสียไป เราแนะนำให้ท่าเดินทางไปเที่ยวออสเตรียในช่วงหน้าหนาว หรือ ในช่วงเดือนธันวาคม – เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเมืองที่ดีที่สุดในการเที่ยวออสเตรียหน้าหนาวนั้น คงจะเป็นเมืองไหนไปไม่ได้นอกเหนือจากเมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศออสเตรีย โดยเมืองนี้มีทัศนียภาพเหมาะแก่การเดินทางมาเที่ยวหน้าหนาวเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเมืองนี้ตั้งอยู่ในบริเวณเชิงเขาทางทิศตะวันออกของเทือกเขาแอลป์ ดังนั้นจึงมีวิวเทือกเขาแอลป์เป็นวิวตั้งเด่นสง่าอยู่ด้านหลังเมืองอย่างงดงาม และ มีแม่น้ำซาลซัค (Salzach River) ไหลตัดผ่านเมือง ซึ่งในหน้าหนาว เทือกเขาแอลป์จะถูกปกคลุมด้วยหิมะ และ แม่น้ำซาลซัค จะเป,ี่ยนเป็นธารน้ำแข็งอย่างงดงาม
เมืองซาลซ์บูร์ก (Salzburg) เป็นเมืองที่ตัวอาคาร และ บ้านเรือน มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมแบบแบบบาโรก (Barogue) อันทรงคุณค่า ที่ได้เก็บรักษา และ อนุรักษณ์ไว้ตั้งแต่สมัยอดีต จวบจนปัจจุบัน เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์มากมาย ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้นั้น คือ บ้านเกิดโมสาร์ท (Mozart Geburtshaus) หรือ ที่นักท่องเที่ยวออสเตรีย รู้จักกันในนามอาคารสีเหลืองหมายเลข 9 นั่นเอง โดยอาคารสีเหลืองแห่งนี้ เป็นบ้านที่โมสาร์ทพักอาศัยร่วม 20 ปี ภายใน จัดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชื่นชม มีการจัดแสดงเครื่องดนตรีที่โมสาร์ทเคยใช้ ไม่ว่าจะเป็น ไวโอลิน และ เปียโน
8. GROSSGLOCKNER ALPINE ถนนที่สวยงามที่สุดในออสเตรีย
มาถึงแลนด์มาร์กท่องเที่ยวออสเตรีย คนเดียว สำหรับสายลุย ที่เรียกได้ว่าใช้ความเชี่ยวชาญในการขับรถอย่างเดียวเอาไม่อยู่ จะต้องมีความใจถึงด้วยนั้น คือ การเดินทางบนถนนที่ชื่อว่า “GROSSGLOCKNER ALPINE” ซึ่งเป็นถนนที่ขึ้นชื่อว่างดงาม และ สูงที่สุดในประเทศออสเตรีย โดนอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลอยู่ที่ประมาณ 3,798 เมตรจากระดับน้ำทะเล โดยมีเส้นทางรวมยาวกว่า 49 กิโลเมตร โดยจุดหมายปลายทางของถนนเส้นนี้คือ หมู่บ้านชนบทออสเตรียเล็กๆ ที่ชื่อว่า Heiligenblut am Grossglockner ซึ่งหากถามว่าเที่ยวออสเตรีย เดือนไหนดี สำหรับการเดินทางด้วยการขับรถผจญภัยบนถนนเส้น Grossglockner Alpine เราแนะนำเป็นในช่วงหน้าหนาว เพราะในช่วงที่ทั้งสองข้างทางถนน จะเต็มไปด้วยหิมะขาวใส เป็นประสบการณ์การขับท่ามกลางหิมะที่ปลอดภัย และ หาไม่ได้จากที่ไหน
ซึ่งเมื่อคุณเดินทางมาจบที่จุดหมายปลายทางเมือง Heiligenblut am Grossglockner เป็นที่เรียบร้อย คุณจะเห็นโบสถ์ St Vincent Church ซึ่งเป็ยโบสถ์ท่ามกลางหุบเขา รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมโบราณ เหมือนกับเป็นโบสถ์ลึกลับที่ถูกซ้อนท่ามกลางธรรวมชาติอย่างไรอย่างนั้น
9. GRAZ เมืองกราซ
เมืองกราซ (Graz) เป็นเมืองที่ใหญ่เป็าอันดับสองรองลงมาจากกรุงเวียนนาเป็ฯอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเที่ยวออสเตรีย ซึ่งเมืองแห่งนี้ เปรียบเสมือนเมืองการศึกษา เต็มไปด้วยมหาวิทยาลัยมี่มีชื่อเสียง และ นักศึกษาอาศัยอยู่ทั่วเมือง จุดเด่นของเมืองที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเมืองกันปีละหลายล้านคนนั้น หนีไม่พ้น สถาปัตยกรรมของบ้านเรือน และ อาคารภายในตัวเมือง ซึ่งมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น โกธิค เรอเนสซองซ์ และบาโรก เรียกได้ว่า แค่เดินเที่ยวชมเมือง แค่นี้ก็ฟินแล้ว
โดยแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง คือ หอนาฬิกา Schloßberg ซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองก็ว่าได้ ซึ่งหอนาฬิกาแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเนินเขา เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นมาบนยอดเขา คุณจะสามารถมองเห็นวิวเมืองกราซทั้งเมือง พร้อมกับวิวแม่น้ำ Mur ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ไหลตัดผ่านตัวเมือง ได้อีกด้วย นอกจากเจ้าตัวแลนด์มาร์กหอฬิกาดังกล่าวแล้ว บริเวณลานเมืองเก่า Hauptplaz ก็เป็นอีกหนึ่งที่ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด กลางลานมีน้ำพุ ประดับประดาด้วยประติมากรรมกรีกโบราณ ตั้งอยู่หน้าศาลาว่าการประจำจังหวัด Rathaus อย่างงดงาม
10. ALPBACH หมู่บ้านอัลพ์บัช
ส่งท้ายที่เที่ยวออสเตรียกันที่หมู่บ้านชนบทที่สวยที่สุดในประเทศออสเตรียกับหมู่บ้านอัลพ์บัช (Alpbach) ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆ เต็มไปด้วยทุ้งหญ้า โอบล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์ เต็มไปด้วยมวลดอกไม้แสนสวย ซึ่งหากเดินทางมาท่องเที่ยวออสเตรียในฤดูร้อน คุณจะได้สัมผัสกับความสดใส และ ความเขียวขจีของหมุ่บ้านแห่งนี้ และในทางตรงกันข้าม หากมาท่องเที่ยวในหน้าหนาว ทุ่งหญ้าเหล่านี้จะกลายเปลี่ยนเป็นพื้นที่สีขาวโพลน ปกคลุมไปด้วยหิมะทั่วทั้งเมือง
นอกเหนือจากบรรยากาศหมู่บ้านที่งดงาม และ สถาปัตยกรรมทรงไม้ที่ได้รับการอนุรักษณ์มาอย่างยาวนานแล้ว หมู่บ้านแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมท่องเที่ยวมากมาย ซึ่งหากถามว่าเที่ยวออสเตรีย เดือนไหนดี ในหน้าร้อน นักท่องเที่ยว จะนิยมเดินป่า ขึ้นเขา หรือ นั่งกระเช้าลอยฟ้าเพื่อชมวิวเมืองอันงดงาม และหากเดินทางมาเที่ยวในหน้าหนาว นักท่องเที่ยวจะนิยมเล่นกีฬาหน้าหนาว และ เดินทางไปพักผ่อนกันที่ Ski Juwel Alpbachtal Wildschönau ซึ่งเป็นสกีรีสอร์ทชื่อดังของอัลพ์บัชนั่นเอง
คำถามท่องเที่ยวออสเตรียยอดฮิต
ไปเที่ยวออสเตรีย งบเท่าไร
การเดินทางไปท่องเที่ยวออสเตรียนั้น นักท่องเที่ยวต้องเตรียมเงินสกุลยูโร ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ในประเทศออสเตรียในปัจจุบัน ซึ่งอัตราเงินยูโรในปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 36-40 บาทต่อ 1 ยูโร ในส่วนของค่าใช้จ่ายโดยประมาณในการท่องเที่ยวออสเตรียด้วยตัวเอง อยู่ที่ประมาณ 148 ยูโร หรือ 5,600 บาทต่อวัน เนื่องจากค่าอาหารต่อวัน (รวมกันทั้ง 3 มื้อ) จะอยู่ที่ประมาณ 37 ยูโร หรือ 1,500 บาทไทย และ ค่าเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะโดยรถไฟอยู่ที่วันละประมาณ 25 ยูโร หรือ 950 บาท
ดังนั้น หากคุณมีความประสงค์ที่จะท่องเที่ยวออสเตรีย 7 วัน นักท่องเที่ยวจะต้องเตรียมเงินไปประมาณ 30,000 – 50,000 บาท โดยจำนวนเงินนี้ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน และ โรงแรม
ไปเที่ยวออสเตรีย ต้องทำยังไง ใช้วีซ่าอะไร
การเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศออสเตรีย นักท่องเที่ยวจะต้องทำการยื่นวีซ่าออสเตรีย หรือ วีซ่าเชงเก้น ซึ่งขั้นตอนการยื่นวีซ่านั้น ไม่ยาก นัทก่องเที่ยวจะต้องทำการจองคิวยื่นวีซ่ากับทางวีเอฟเอสโกลบอล (VFS Global) จากนั้นเดินทางไปยื่นเอกสารที่จำเป็น จากนั้นรอผลการยื่น 10-14 วันทำการ
การที่นักท่องเที่ยวถือวีซ่าเก้น ประเทศออสเตรีย นักท่องทเี่ยวสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศยุโรปประเทศใหล้เคียงได้โดยไม่ต้องทำการขอวีซ่าใดๆ เพิ่มเติม (ภายในระยะเวลา 90 วัน)
เที่ยวออสเตรียด้วยตัวเองยากไหม
ที่เที่ยวออสเตรียด้วยตัวเองนั้น ไม่ยากเลย ทั้งนี้เนื่องจากออสเตรียเต็มไปด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่ครอบคลุมทั่วทุกส่วนของประเทศ และ มีความหลากหลาย เช่น U-Bahn (รถไฟใต้ดิน), Schnellbahn or S-Bahn (รถไฟพื้นเมือง) Straßenbahn (รถราง) และ Autobus (รถบัส) โดยระบบขนส่งสาธารณะที่ได้รับความนิยม สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวออสเตรียด้วยตัวเอง คือ การเดินทางด้วยรถไฟ
เพื่อความสะดวกสบาย นักท่องเที่ยวนิยมถือบัตร Eurail Austria Pass ซึ่งเป็นบัตรบริการรถไฟความเร็วสูงหรือรถไฟภูมิภาคที่ให้บริการภายใต้ ÖBB, ROeEE/GYSEV และ Westbahn สามารถเดินทางด้วยรถไฟภายในประเทศได้แบบไม่จำกัดเที่ยว เพียงแค่เลือกวัน ที่ต้องใช้ในการเดินทาง เช่น 3, 4, 5, 6, 7 หรือ 8 วัน นั่นเอง
นักท่องเที่ยวคนไหนที่มีความต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวออสเตรีย หรือ ไปทัวร์ออสเตรีย เพื่อไปดื่มด่ำบรรยากาศธรรมชาติอันงดงาม และ สถาปัตยกรรมยุโรปสุดคลาสิกด้วยตาของตัวเอง แต่ไม่รู็ว่าจะต้องเริ่มต้นทำการวางแผนโรปกรมท่องเที่ยวจากตรงไหน ไปกี่วัน จองตั๋วเครื่องงินยังไง หรือ นอนพักโรงแรมไหน เลือกเที่ยวให้ Artralux ดูแล ด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวร่วม 10 ปี Artralux สามารถจัดสรรค์โปรแกรมท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวได้อย่างยืดหยุ่น ไม่ว่าคุณอยากจะเที่ยวที่ไหนในออสเตรีย นอนโรงแรมระดับไหน หรือ บินสายการบินอะไร เราสามารถจัดการใก้ได้อย่างไม่มีข้อแม้
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
