“กรีซ (Greece)” หนึ่งในประเทศท่องเที่ยวในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก นักท่องเที่ยวทราบดีว่าประเทศกรีซ เป็นดินแดนแห่งอารยธรรมกรีกโบราณ, กรีซนั้น คือ สถานที่ตั้งของสถาปัตยกรรม และ ศิลปะร่วมสมัย ที่สวยงามมากที่สุดอีกแห่งของโลก และ ที่ประเทศกรีซ แห่งนี้นี่เอง คือ แหล่งรวมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และ วัฒนธรรมต้นกำเนิดกรีกโบราณ จนได้มีสถานที่ในประเทศกรีซที่ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลก (World Hersitage Site) จาก UNESCO กว่า 18 แห่ง
“It takes a lifetime for someone to discover Greece, but it only takes an instant to fall in love with her” เป็นคำกล่าวของคุณ Henry Miller นักกวีชื่อดัง ซึ่งได้สรุปนิยามประเทศกรีซไว้ได้อย่างดีเยี่ยม เพราะไม่ว่าคุณจะก้าวขาไปที่ใดในกรีซ คุณจะได้เรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์, ตื่นตะลึงไปกับความงดงามทางธรรมชาติ, และ พบเจอกับสถาปัตยกรรมบ้านเรือนที่ชวนให้จดจำ ทั้งหมดนี้ คือเหตุผลที่ทำไมนักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างหลงรักประเทศกรีซ และ เป็นเหตุผลที่คุณควรเดินทางไปสัมผัสประเทศกรีซให้ได้สักครั้งในชีวิต
วันนี้ Artralux ขอนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศกรีซ ที่เรียกได้ว่าหากไม่ได้ไปเยี่ยมชมให้เห็นด้วยตาตัวเอง ถือว่าคุณมาไม่ถึงกรีซ และหากหากนักเดินทางท่านไหน ที่กำลังตามหาทัวร์กรีซดีๆ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน – พฤศจิกายน) ทาง Artralux เรามาพร้อมกับทัวร์กรีซ “Grand Greece Miracle” ที่จะพาคุณไปเยืยนประเทศกรีซ พร้อมเที่ยวชมแลนด์มาร์คชื่อดังในกรีซกว่า 20 แห่งแบบไม่มีตกหล่น ในเวลาถึง 10 วัน แน่นอนว่าทัวร์กรีซของเรา ไม่ได้มีแค่รายการที่เที่ยวยอดนิยมของกรีซเท่าน้ั้น เรามาพร้อมกับที่เที่ยว Hidden Gem ที่นักท่องเที่ยวอาจไม่เคยเห็นมาก่อน แต่กลับงดงามมากๆ จะมีที่ไหนกันบ้าง เรามาดูกันเลย
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
คัดมาแล้ว! ที่เที่ยวประเทศกรีซ (Greece) แนะนำที่ต้องไป
ปฏิเสธไม่ได้ว่า “ประเทศกรีซ (Greee)” หรือชื่อทางการ “สาธารณรัฐเฮลเลนิก” เป็นประเทศท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอีกแห่งของโลก เนื่องจากกรีซ รายล้อมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นรากฐานของอารยธรรมกรีกโบราณ หรือ รากฐานของความเป็นมนุษย์ในปัจจุบัน
หากพูดถึงเสน่ห์ของกรีซที่แตกต่างจากประเทศอื่น นอกจากความสวยงามของสถาปัตยกรรมบ้านเรือน และ โบราณสถานต่างๆ แล้ว กรีซเป็นประเทศที่มีภูมิประเทศเชิงธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด ทั้งนี้เพราะประเทศกรีซ เกิดจากการรวมตัวของเกาะมากกว่า 6,000 เกาะ ทำให้ไม่มีส่วนใดในประเทศที่อยู่ห่างจากทะเลมากกว่า 137 กิโลเมตร นอกจากนี้กว่า 80% ของพื้นที่ในประเทศทั้งหมดนั้น คือ ภูเขา ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แล้ว กรีซ ยังเป็นดินแดนที่เผยความงดงามทางธรรมชาติของท้องทะเล และ ภูเขาได้ดีที่สุดในทวีปยุโรป
โดยที่เที่ยวกรีซ ที่ต้องไปเยี่ยมชม หากคุณได้มีโอกาสมาเที่ยว หรือ มาทัวร์กรีซ นั้น มีดังต่อไปนี้
1. ซานโตรินี่ กรีซ (Santorini): เกาะในฝันกลางทะเลที่คนทั้งโลกหลงรัก
หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในกรีซ ที่เด็กประถมก็รู้จัก อีกทั้งยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้ชื่อว่าของจริงสวยกว่าในรูปเป็นล้านเท่านั้น หนีไม่พ้น “ซานโตรินี่ กรีซ (Santorini)”
“ซานโตรินี่ กรีซ (Santorini)” หรือ ที่หลายคนรู้จักกันในนาม “เกาะธีรา (Thera)” เป็นหมู่เกาะขนาดเล็ก ทางตอนใต้ของประเทศกรีซ ตั้งอยู่กลางทะเลอีเจี้ยน (Aegean Sea) นอกจากเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนคุมโทนสีฟ้า – ขาว แล้ว เกาะซานโตรินี่ กรีซ ยังถือเป็นสถานที่ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย
บนเกาะซานโตรินี่ กรีซ มีจำนวนหมู่บ้านกว่า 20 หมู่บ้าน และ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอย่างเช่น หุบเขา มากมาย แต่หมู่บ้านที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญ คือ “หมู่บ้านเอีย (Oia)” ซึ่งมีลักษณะเด่นคือ การออกแบบทางสถาปัตยกรรมด้วยหลังคาทรงกลม และ บ้านทรงเหลี่ยม ทาสีฟ้า และ สีขาว สลับกันไป ซึ่งเปรียบเสมือนหาดทรายสีขาว และ ท้องทะเลสีฟ้า ถือเป็นอีกหนึ่ง Destination ไอคอนิกในการมาเที่ยวกรีซก็ว่าได้
หากมาทัวร์กรีซ นิยมให้มาในช่วงเดือน ตุลาคม เนื่องจากเป็นช่วงที่อากาศกำลังดี ไม่ร้อน และ ไม่เย็นจนเกินไป ซึ่งทัวร์กรีซ “Grand Greece Miracle” ของเรา จะจัดขึ้นในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาทองสำหรับการท่องเที่ยวที่กรีซเลยทีเดียว
2. อะโครโพลิส เอเธนส์ (Acropolis): สมบัติล้ำค่าของวัฒนธรรมกรีกโบราณ
“อะโครโพลิส เอเธนส์” หรือ “Acropolis of Athens” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในกรีซ ที่ให้คุณได้เรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และ ร่องรอยความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรกรีกโบราณอย่างแท้จริง
คำว่า “อะโครโพลิส” หมายถึง “ป้อมปราการ” ซึ่งจริงๆ แล้ว ในกรีซ มีอะโครโพลิสอยู่มากมายหลายแห่ง แต่อะโครโพลิสที่มีชื่อเสียง และได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลกจาก UNESCO นั้น คือ “อะโครโพลิสแห่งเอเธนส์” ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาสูงของกรุงเอเธนส์ เมืองหลวงของกรีซ
จุดเด่นของอะโครโพลิสเอเธนส์ คือ สิ่งก่อสร้างโบราณสถาน และ วิหารโบราณมากมายที่อยู่ภายใน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของอารยธรรมกรีกโบราณในสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็น วิหารพาร์เธนอน, โรงละครยิ่งใหญ่ 2 แห่ง เช่น Theatre of Atticus กับ Theatre of Dionysus, และ ที่พลาดไม่ได้เลย คือ วิหารเทพี Nike ซึ่งเป็นเทพเจ้ากรีซ แห่งชัยชนะ และเป็นที่มาของการตั้งชื่อแบรนด์กีฬา Nike ที่เรารู้จักกันดี
3. วิหารโพไซดอน (Temple of Poseidon): อนุสรณ์ ตำนานเทพเจ้ากรีซ
วิหารโพไซดอน (Temple of Poseidon) เป็นอีกหนึ่งมหาวิหารที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศกรีซ เป็นวิหารที่ตั้งอยู่ริมหน้าฝาเมืองเอเธนส์ และ มีอายุยาวนานมากกว่า 1,000 ปี ในอดีต วิหารแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นที่บวงสรวงของชาวประมงกรีซ ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางลงทะเล เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ดังนั้น มหาวิหารแห่งนี้ จึงมีชื่อเรียกว่า “มหาวิหารโพไซดอน” ซึ่งเป็นชื่อของเทพเจ้า ตัวแทนแห่งท้องทะเลของชาวกรีซ หรือ “มหาวิหารเนปจูน” ซึ่งเป็นชื่อเทพเจ้าแห่งท้องทะเลในภาษาละตินนั่นเอง
4. เมทิออรา (The Great Meteoron monastery): นครลอยฟ้าแห่งกรีซ
เมทิออรา (The Great Meteoron monastery) หรือ หมู่บ้านลอยฟ้า เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของประเทศกรีซ ที่พลาดไม่ได้ โดยสถานที่แห่งนี้ ตั้งอยู่ที่เมืองคาลัมบาก้า (Kalambaka) ตอนกลางของประเทศกรีซ และตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงชันขนาดใหญ่ของเมือง
ลักษณะที่ตั้งของเมทิออรานี่เอง เป็นปัจจุยที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เนื่องจาก เมทิออรา ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงซึ่งมีความสูง-ต่ำสลับกันไป ความไม่เท่ากับดังกล่าว เกิดจากการกัดกร่อนทางธรรมชาติเป็นเวลานับหลายร้อยปีในอดีต ไม่ว่าจะเป็นการกัดกร่อนของแร่ธาตุ ฝน ลม ไปจนถึงแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นเสน่ห์ และ ทัศนียภาพที่หาไม่ได้จากที่ไหนในโลก
เมทิออรา เป็นที่ตั้งของวัดอารามนักบวชชาวคริสต์นิกายออร์ทอดอกซ์ (Orthodox Church) กว่า 6 แห่ง (แต่เดิมเคยมีถึง 20 แห่ง แต่ได้เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา) ซึ่งการสร้างวัดอารามบนเทือกเขานั้น ตรงกับความเชื่อที่ว่า หากสร้างอารามไว้ในที่สูง คุณจะได้ใกล้ชิดกับพระเจ้ามากขึ้นนั่นเอง
ซึ่งความน่าทึ่งของ เมทิออรา (The Great Meteoron monastery) อยู่ที่เรื่องราวความเป็นมา โดยในอดีตได้มีนักบวชชาวคริสต์คนหนึ่ง ต้องการที่จะก่อสร้างอารามบนเทือกเขา ด้วยวัตถุประสงค์ในการสร้างอารามศาสนาคริสต์บนที่สูง เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับพระเจ้า อีกทั้งยังเพื่อป้องกันการรุกรานของศาสนาอื่นๆ เขาจึงได้ใช้เชือก คานชักขึ้น-ลง และ บันไดปีน ในการขนย้ายเครื่องมือ และ สิ่งก่อสร้าง เพื่อก่อสร้างอารามบนเทือกเขาให้ได้นั่นเอง นอกจากเรื่องราวที่น่าทึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวกรีซแห่งนี้แล้ว วิวทิวทัศน์ก็สวยงามไม่แพ้กัน เมทิออรา รายล้อมไปด้วยป่าเขา และ ภูเขาสูงชั้น และ บริเวณเชิงเขา ยังมีหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อว่า คาลัมบาก้าอีกด้วย
5. เกาะมิคอนอส (Mykonos): ไข่มุกแห่งทะเลอีเจี้ยน ประเทศกรีซ
เชื่อว่าหลายคนที่มาท่องเที่ยวประเทศกรีซ หรือ มาทัวร์กรีซ ต่างมีจุดประสงค์เดียวกัน คือการได้มาดื่มด่ำกับบรรยากาศของทะเลสีฟ้าใส และ หาดทรายสีขาว ซึ่งหากคุณเป็นอีกคนที่อยากจะมาสัมผัสลมทะเลอิเจียนแห่งกรีซ และ แสงแดดอันอบอุ่นบนริมชายหาดเหนือน้ำทะเลสีฟ้าใส แล้วละก็ “เกาะมิคอนอส (Mykonos)” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นไฮไลท์ประเทศกรีซ ที่พลาดไม่ได้
“เกาะมิโคนอส (Mykonos)” เป็นเมืองพักตากอากาศที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศกรีซ จุดเด่นของเกาะที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้แก่ ทะเลสีฟ้า ที่เรียกได้ว่าใสแจ๋วแบบ Cystal Clear ก็ว่าได้ ซึ่งความใสสะอาดของน้ำทะเลนั้น ได้ตัดกับหาดทรายสีขาวบริสุทธิ์ ได้อย่างงดงาม นอกจากนี้บนเกาะมิโคนอส ยังมีชายหาดมากกว่า 23 แห่ง กระจัดกระจายอยู่รอบๆ เกาะ โดยหาดที่นักท่องเที่ยวนิมไปเยี่ยมชม ได้แก่ หาด Panormos, หาด Agios Sostis, หาด Platis Gialos และ หาด Paradise นอกจากนี้ ที่เกาะมิโคนอส ยังประกอบไปด้วยหุบเขามากมาย ซึ่งมีอ่าว “Ornos” เป็นสถานที่ดำน้ำขึ้นชื่อในเกาะนั่นเอง
นอกจากกิจกรรมนอนอาบแดด ดำน้ำลึก พายเรือ หรือ เล่นวินเซิร์ฟแล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจไม่แพ้กันเลยนั้น คือ กิจกรรมการเดินสำรวจเกาะ ซึ่งบริเวณที่ได้รับความนิยม คือ บริเวณท่าเรือเก่า (Old Port) ซึ่งจะให้บรรยากาศที่โรแมนติก รายล้อมไปด้วยร้านอาหาร ร้านค้า และ อาคารบ้านเรือนที่สวยงาม นอกจากนี้คุณยังสามารถชื่นชมกังหันลมแห่งมิโคนอส (Mykonos Windmills) เรียงรายสูงสง่าถึง 6 ต้นด้วยกัน ซึ่งกังหันดังกล่าวนั้น เป็นเครื่องหมายที่สะท้อนให้เห็นว่าชาวกรีซให้ความสำคัญกับกระแสลม ซึ่งมีผลต่ออาชีพประมงเป็นอย่างมาก
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
6. เมืองเดลฟี (Delphi): เมืองมรดกโลกโบราณ แห่งกรีซ
เมืองเดลฟี Delphi เป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวในประเทศกรีซ ที่น่าสนใจ โดยเมืองเดลฟี่นั้น ตั้งอยู่ที่เชิงเขา Parnassus ในหุบเขาโฟซิส ตัวเมืองมีอายุยาวนานกว่า 2,000 ปีส่งผลให้เมืองเดลฟี่ เป็นเมืองที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดของประเทศกรีซก็ว่าได้
โดยสถานที่ท่องเที่ยวเด่นของเมืองเดลฟีที่สำคัญ คือ บริเวณ “วิหารเก่าแก่เดลฟี” ซึ่งชาวกรีซเชื่อว่าวิหารแห่งนี้ เป็นวิหารของเทพเจ้าซุส อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางของโลกมนุษย์ ด้วยความเชื่อที่ว่าในอดีตเทพเจ้าซุสได้สั่งนกอินทรี 2 ตัว ให้บินรอบโลกคนละทิศทาง แต่ทั้ง 2 ตัวกลับเดินทางกลับมาพร้อมกัน ดังนั้น วิหารเดลฟี จึงถือเป็นสะดือของโลกมนุษย์ นอกจากนี้ เมืองเดลฟี่แห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ โรงละครหินโบราณ ที่สามารถบรรจุคนได้มากกว่า 5,000 คนอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าคุณไม่ได้เป็นคนที่สนใจในเรื่องประวัติศาสตร์ และ ความเป็นมาของกรีซมากนัก แต่ วิหารเดลฟี ยังควรค่าแก่การเยี่ยมชม เนื่องจาก วิหาร และ เมืองเดลฟี่ ตั้งอยู่ในเกงเทือกเขา ดังนั้น จึงรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ จนทำให้เกิดทิวทัศน์ที่สวยงามเหมือนในเทพนิยายเลยทีเดียว
7. สนามกีฬาพานาธิเนอิก (Panathenaic Stadium): สนามกีฬาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
หากมาทัวร์กรีซ ที่ประเทศกรีซแล้ว อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวประเทศกรีซ ที่ต้องแวะให้ได้ ได้แก่ “สนามกีฬาพานาธิเนอิก (Panathenaic Stadium)” ซึ่งเป็นสนามกีฬาโบราณอันยิ่งใหญ่ ถูกสร้างด้วยหินอ่อนทั้งสนาม มีรูปร่างเป็นรูปตัว “U” ขนาดใหญ่ สามารถบรรจุผู้คนได้กว่า 45,000 คน ซึ่งถือว่ามีเอกลักษณ์ และ แตกต่างจากสนามกีฬาที่เราเห็นกันในปัจจุบัน
โดยนอกจากสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้ว สนามกีฬาพานาธิเนอิกของกรีซ แห่งนี้เอง ยังเป็นสนามต้นกำเนิดของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก และ การแห่คบเพลิงในการแข่งขันโอลิมปิกจนถึงปัจจุบันอีกด้วย ทั้งนี้เนื่องจากสนามกีฬาแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ และ ได้ทำการรื้อฟื้น-บูรณะขึ้นอีกครั้ง เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกขึ้นครั้งแรก (ATHENS Olympic) ในปี 1896 นั่นเอง
สถานที่ท่องเที่ยว Hidden Gem กรีซ ที่นักท่องเที่ยวอาจไม่รู้!
สถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 7 แห่งของประเทศกรีซที่ได้กล่าวไปในข้างต้นนั้น เป็นเพียงแค่สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศกรีซ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทุกพื้นที่ และ ทุกเมืองในประเทศกรีซ ต่างมีที่เที่ยว “Unseen” ที่รอให้คุณได้ไปค้นพบอีกมากมาย แม้ว่าที่เที่ยวเหล่านั้น อาจจะไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก ด้วยเหตุนี้ จำนวนนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสายพจญภัย จึงมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี 2022 ผลการสำรวจจำนวนนักท่องเที่ยวเว็บ Statistic พบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังกรีซกว่า 27 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 89.3%
ซึ่งสำหรับทัวร์กรีซ “Grand Greece Miracle”ของเรา นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 7 ที่ได้กล่าวไปด้านบนแล้ว เราพร้อมจะพาคุณไปตะลอนสถานที่ท่องเที่ยวกรีซ (Greece) แนว Unseen อีกกว่า 20 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น
- ภูเขาไฟซานโตรินี่ (Volcano Santorini) หลุมภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่เกิดจากการปะทุครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของภูเขาไฟของภูเขาไฟ ในช่วง 1,613 ก่อนคริสตกาล และ เป็นภูเขาไฟที่เดียวในโลกที่มีปล่องภูเขาไฟอยู่ใต้ทะเล
- หาดทรายสีแดง (Red Beach) หาดทรายที่แปลกตา และ สวยงามที่สุดในประเทศกรีซ โดยหาดทรายสีแดงดังกล่าว เกิดจากการปะปนของแร่ธาตุและได้ผสมผสานกับออกซิเจน จนกลายเป็นหาดสีแดงนั่นเอง
- ศูนย์การค้า McArthur Glen Designer Outlet Athens อีกหนึ่งแลนด์มาร์คชอปปิ้งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของกรีซ รายล้อมไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนม ซึ่งมีราคาถูกกว่าถึง 70% นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารที่มาพร้อมกับเมนูอาหารประจำชาติกรีซ ที่คุณต้องไม่พลาดอีกมากมาย
สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่กำลังตามหาทัวร์กรีซ สุดคุ้ม เที่ยวเน้นๆ ยิงยาวกันไปเลยถึง 10 วัน ในช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึง ทาง Artralux เรามีโปรแกรมทัวร์กรีซ “Grand Greece Miracle” ที่จะพาคุณเดินทางไปเที่ยวชมที่เที่ยวในประเทศกรีซ พร้อมกิจกรรมท่องเที่ยวรวมมากกว่า 20 แห่ง นอกจากนี้ทาง Artralux ยังมีบริการจัดทำวีซ่าให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางกับเราทุกท่านอีกด้วย
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
