10 ที่เที่ยวฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น ที่สุดความงามดอกซากุระ และ ช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้น

ที่เที่ยวฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น เป็นช่วงเวลาที่คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะเป็นช่วงเวลาที่ดอกซากุระบานสะพรั่งอย่างงดงามแล้ว ฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นนี่เอง ยังเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายต่อวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่น เพราะเป็นช่วงเวลาที่เด็กนักเรียนได้สำเร็จการศึกษา และเริ่มปีการศึกษาใหม่ ด้วยเหตุนี้เอง คนญี่ปุ่นจึงมองว่าฤดูใบไม้ผลินั้น คือ ช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้น และ การจากลา ซึ่งเราจะเห็นได้จากเทศกาล และ เมนูอาหารต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูกาลนี้ ซึ่งต่างให้ความหมายที่สะท้อนให้เห็นความสำคัญของฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่นนั่นเอง

 

สำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว ฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น ถือเป็น ‘Golden Time’ สำหรับการท่องเที่ยวก็ว่าได้ เพราะนอกจากที่สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองต่างๆ จะให้บรรยากาศที่สดใส และ มีความสวยงามมากขึ้น ราวกับการฟื้นคืนชีพของธรรมชาติที่ได้ตายไปในหน้าหนาวแล้ว ฤดูใบไม้ผลิยังจะเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ครึกครื้นของเทศกาล อีกทั้งยังมีเมนูอาหารขึ้นชื่อของญี่ปุ่นที่หารับประทานได้แค่ช่วงฤดูใบไม้ผลิเท่านั้นมากมาย 

 

โดยในวันนี้ ทาง Artralux ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่างประเทศ และ บริษัททัวร์ชั้นนำของประเทศไทย ได้รวบรวม 15 ที่เที่ยวแนะนำในฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น และ เทศกาลที่ไม่ควรพลาดหากคุณมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงนี้มาฝาก และจะมีที่ไหนกันบ้างนั้น เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย!  

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

 

สารบัญ

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น : ช่วงเวลาความสุข และ สดใสที่สุดในรอบปี

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

หากพูดถึงสัญลักษณ์ซึ่งเป็นจุดเด่นของฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่นแล้ว แน่นอนว่าหลายคนคงต้องนึกถึง ดอกซากุระสีชมพูที่กำลังบานสะพรั่ง เป็นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม การบานสะพรั่งของดอกซากุระที่ญี่ปุ่นนั้น ไม่ได้บานพร้อมกันทั้งประเทศอย่างที่หลายคนเข้าใจ 

 

การบานของดอกซากุระนั้น จะเริ่มต้นจากเมืองที่มีอากาศอบอุ่นไปสิ้นสุดที่เมืองที่มีอากาศหนาวเย็น หรือ จากเมืองทางตอนใต้ไปยังเมืองทางตอนเหนือของเกาะญี่ปุ่น ดังนั้น นักท่องเที่ยวจะต้องวางแผนการเดินทางกันสักนิด เพื่อที่จะได้รับชมความงดงาม และ เสน่ห์ของฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่นอย่างเต็มรูปแบบ

 

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น เดือนไหน

ถ้าถามว่าฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น เดือนไหน จริงๆ แล้ว ฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น จะเริ่มต้นในช่วงปลายเดือนมีนาคม จนถึง ปลายเดือนพฤษภาคมของทุกปี อย่างไรก็ตาม ช่วงที่เรียกได้ว่า Peak ที่สุดนั้น (ระยะเวลาที่ต้นซากุระได้บานสะพรั่งอย่างสวยงาม เต็มไปด้วยเทศกาล และ กิจกรรมต่างๆ)  คือ ในช่วงปลายมีนาคม – ต้นเดือนเมษายน ทั้งนี้เนื่องมาจากที่ต้นซากุระ หรือ พระเอกของฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่นนั้น จะมีอายุหลังจากบานเพียงแค่ 2 อาทิตย์เท่านั้น  โดยคุณสามารถเช็กตารางการผลิบานของดอกซากุระที่ประเทศญี่ปุ่นในทุกปีได้ที่นี่

 

อุณหภูมิโดยเฉลี่ย

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น อุณหภูมิ โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2° – 24° องศา ซึ่งเป็นสภาพอากาศที่เย็นสบาย ไม่ร้อน หรือ ไม่หนาวจนเกินไป อีกทั้งยังเป็นสภาพอากาศที่เหมาะแก่การไปปิกนิกที่สวนสาธารณะเพื่อรับชมความงดงามของดอกซากุระกับคนพิเศษ อย่างไรก็ตามฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น อุณหภูมิของแต่ละเมืองจะแตกต่างกัน ดังนั้น นักท่องเที่ยวควรเช็กพยากรณ์อากาศของแต่ละที่ก่อนเดินทางด้วยนะคะ   

 

ความสำคัญของฤดูใบไม้ผลิต่อคนญี่ปุ่น

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น เป็นฤดูกาล หรือ ช่วงเวลาที่มีความสำคัญต่อคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เพราะในช่วงเดือนมีนาคม ไปจนถึง เมษายนนี่เอง เป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นชีวิตใหม่ และ การจากลาของใครหลายคน 

 

ทั้งนี้เนื่องมาจากที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น มีพิธีจบการศึกษาของเด็กนักเรียนทุกระดับชั้นในเดือนมีนาคม และ พิธีเปิดการศึกษาในเดือนเมษายน แะนอกจากเด็กนักเรียนแล้ว ในช่วงเดือนเมษายน ยังเป็นช่วงเทศกาลเข้าทำงานอย่างเป็นทางการ สำหรับนักศึกษาที่เรียนจบมหาลัยในปีนั้นด้วยนั่นเอง    

 

อาหารประจำฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

ฤดูใบไม้ผลิที่ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาแห่งการเก็บเกี่ยว เต็มไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ และ การผลิบานของดอกไม้ และ ผลไม้นานาพันธ์ ดังนั้น ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น จึงเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่มีอาหารญี่ปุ่นมากมาย 

 

  • เมนูอาหาร: เมนูอาหารที่ได้รับความนิยมในฤดูใบไม้ผลิ ได้แก่ เทมปุระ หรือ อาหารทอดอื่นๆ  ทั้งนี้เนื่องมาจากที่ผักต่างๆ ที่ขึ้นในช่วงเดือนนี้ จะมีรสชาติที่ค่อนไปทางขม ดังนั้น คนญี่ปุ่นจึงนิยามนำผักพวกนั้น ไปปรุงรส และ ทอดให้มีรสชาติที่อร่อยมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

 

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

  • ผลไม้ : ผลไม้ที่ขึ้นในฤดูใบไม้ผลินั้น มีหลากหลาย และ มักจะเป็นผลไม้รสหวาน ได้แก่  พีชฮาคุโฮ (Hakuho Peach), สตรอว์บอร์รีอะมะโอ (Amaou Strawberry), องุ่นพิโอเน่ (Pione Grape) และ อีกมากมาย  

 

  • ขนมญี่ปุ่น (วากาชิ) : แน่นอนว่าหากเป็นขนมหวานในช่วงฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมมากแล้วละก็ หนีไม่พ้น “ดังโงะ ฮานามิ (Hanami dango)” ซึ่งเป็นดังโงะที่คนญี่ปุ่นนิยมกินในช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นโดยเฉพาะ และ ขนมข้าวทอด ฮินะอาราเระ ซึ่งทั้งสองขนมนี้ ต่างประกอบไปด้วย 3 สี ได้แก่ สีเขียว, ขาว และ ชมพู ที่ให้ความหมายถึง วัฏจักรการผลิบานของต้นซากุระนั่นเอง

 

ขนมฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

เทศกาลในฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น ที่ได้รับความนิยม

หากพูดถึงเทศกาล และ กิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นในทุกปีแล้ว ต้องบอกเลยว่ามีมากมายเป็นร้อย อย่างไรก็ตาม ภายใน 100 เทศกาลนี่เอง ก็มีเทศกาลสำคัญของฤดูใบไม้ผลิที่พลาดไม่ได้ ดังนี้

 

  • เทศกาลทาคายามะ (ณ จังหวัด กิฟุ) : เทศกาลทาคายามะของฤดูใบไม้ผลิ จะมีชื่อเรียกว่า ซันโน ถูกจัดขึ้นในวันที่ 14 -15 เมษายน อีกทั้งยังเป็นหนึ่งใน 3 เทศกาลที่สวยที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งไฮไลท์ของเทศกาลนี้ คือการเดินแห่ขบวนพาเหรดถึง 12 ขบวนอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งประกอบไปด้วย  การแห่ขบวนรถลาก “ยาไต”, การแสดงวงดนตรีญี่ปุ่นโบราณ, การเชิดสิงโต และ อีกมากมาย 

 

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

  • เทศกาลฮิดากะฮิบุเซะ (ณ จังหวัด อิวะเตะ) : เป็นเทศกาลเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 300 ปี และ จัดขึ้นในวันที่ 29 เมษายนของทุกปี โดยในเทศกาลนี้ จะมีการเดินแห่ขบวนรถที่ชื่อว่า ดาชิ (Dashi) ซึ่งในรถนั้น เต็มไปด้วยนักดนตรีหญิงจำนวน 20-25 คน ที่ได้เล่นดนตรีญี่ปุ่นโบราณหลากหลายชนิด เช่น ขลุ่ย กลองไทโกะ และชามิเซ็ง เป็นต้น 

 

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

  • ทังโกะโนะเซ็คคุ (วันเด็กผู้ชาย) : เทศกาลดังกล่าว จัดขึ้นในวันที่ 5 พฤษภาคมของทุกปี อีกทั้งยังเป็นวันหยุดประจำปีของชาวญี่ปุ่น ซึ่งกิจกรรมในเทศกาลนี้ คือ การที่บ้านที่มีเด็กผู้ชายในบ้าน จะนำเอาโคอิโนโบริ หรือ ธงรูปปลาคาร์ป ออกมาตกแต่งไว้หน้าบ้าน ทั้งนี้เพื่อเป็นการปัดเป่าสิ่งเลวร้าย อีกทั้งแสดงถึงความแข็งแกร่ง และ หน้าทางสังคมของเด็กผู้ชายในบ้านด้วยนั่นเอง

 

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

15 ที่เที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นแนะนำ

เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น เชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายคนคงต้องกำลังมองหาสวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยต้นซากุระ สำหรับนักปิกนิก และ เข้าชมเทศกาลฮานามิ หรือ เทศกาลชมดอกซากุระบานกันอยู่อย่างแน่นอน  เพราะสำหรับฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่นแล้ว การได้เที่ยว และ ชื่นชมดอกซากุระ ที่จะบานอย่างเต็มที่แค่ 2 อาทิตย์ต่อปีนี้ ถือเป็นกิจกรรมที่ไม่แค่นักท่องเที่ยว แต่คนญี่ปุ่นทั้งประเทศต่างก็เฝ้ารอ

 

การเบ่งบานของดอกซากุระ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น จะบานไม่พร้อมกัน เริ่มต้นที่ เมือง โอกินาว่า (Okinawa), ฟุกุโอกะ ( Fukuoka), โตเกียว (Tokyo), โอซาก้า (Osaka)

เซนได (Sendai) และ ค่อยทถอยมาที่เมืองหนาว อย่างเมืองฮอกไกโด (Hokkaido) ซึ่งแต่ละจังหวัด ต่างก็มีสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับชมใบไม้ผลิโดยเฉพาะ จะมีที่ไหนบ้าง มาดูกัน! 

 

  • สวนจิโดริกะฟุจิ (Chidorigafuchi Park) – เมืองโตเกียว

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

สวนจิโดริกะฟุจิ เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ที่สถานีคุดันชิตะ (Kudashita Station) ที่จังหวัดโตเกียว ซึ่งความแตกต่างของสวนสาธารณะแห่งนี้ที่ทำให้ประสบการณ์การชมดอกไม้ซากุระในฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น แตกต่าจากที่อื่นนั้น คือ ทัศนียภาพที่มีคลองความยาวกว่า 700 เมตร ตัดผ่าน ซึ่งคุณสามารถร่องเรือตามคลองเผื่อชมความดงามของต้นซากุระสายพันธุ์โซเมอิโยชิโนะ และ สายพันธุ์โอชิมะ กว่า 1,000 ต้น ได้ด้วย นอกจากนี้ในตอนกลางคืน จะมีการเปิดไฟประดับตกแต่งมากมาย ทำให้คุณได้เห็นเงาของต้นซากุระที่สะท้อนลงคลองอย่างสวยงามอีกด้วย จึงไม่แปลกใจที่ในแต่ละปี คนญี่ปุ่นได้เดินทางมาที่สวนนี้นับล้านคน 

 

ที่ตั้ง : Chidorigafuchi Park

เวลาทำการ : ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้าชม : ไม่มี 

 

  • สวนอุเอโนะ (Ueno Park) – เมืองโตเกียว

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่นนั้น หนีไม่พ้น สวนอุเอโนะ หรือ ที่หลายคนเรียกกันว่า สวน อุเอโนะอนชิ (Ueno Onshi Koen)  ซึ่งความสำคัญของสวนแห่งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นสวนที่เต็มไปด้วยต้นซากุระกว่า 8,800 ต้น แล้ว สวนแห่งนี้ยังเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางกว่า  530,000 ตารางเมตร

 

ซึ่งหากใครที่กำลังมองหากิจกรรมอื่นๆ ในฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น นอกเหนือจากการชมซากุระแล้ว ที่สวนอุเอโนะคือคำตอบ เพราะ สวนแห่งนี้เอง ยังเป็นที่ตั้งของ สวนสัตว์อุเอโนะชื่อดัง, , พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกแห่งชาติ, พิพิธภัณฑ์ชิตะมาจิ, สระน้ำชิโนบาซุ ซึ่งเป็นที่อยู่ของนกกาน้ำ และ อีกมากมาย

 

ที่ตั้ง : Ueno Park

เวลาทำการ : ทุกวัน 05.00-23.00 น. 

ค่าเข้าชม : ไม่มี (แต่อาจจะมีค่าเข้าสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวด้านใน)

 

  • ถนนสายนักปราชญ์ (Philosopher’s Path) – เมืองเกียวโต 

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

ถนนสายนักปราชญ์ หรือ ถนน เททสึกักคุโนะมิจิ เป็นหนึ่งในถนนทางเดินสำหรับชมต้นซากุระที่ได้รับความนิยมของประเทศญี่ปุ่น และ เมืองเกียวโต แม้ว่าในฤดูร้อน และ ฤดูหนาว ถนนเส้นนี้เป็นเพียงแค่ถนนเรียบครองที่ถอดตัวยาวเป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร แต่ในช่วงฤดูใบไม้ผลินั้น ถนนเส้นนี้ได้กลับกลายเป็นจุดชมซากุระชื่อดัง รายล้อมไปด้วยต้นซากุระกว่า 500 ต้น ทำให้ทางเดิน และ ในคลอง ต่างทับถมไปด้วยกลีบใบดอกซากุระ สีขาว ชมพู อย่างงดงาม 

 

ที่ตั้ง : Philosopher’s Path

เวลาทำการ : ทุกวัน 

ค่าเข้าชม : ไม่มี 

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

 

  • ปราสาทฮิเมจิ  (Himeji Castle) – เมืองเฮียวโงะ 

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) หรือ ปราสาทนกกระสาขาว นั้น เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของภูมิภาคคันไซ ตัวปราสาทตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองโอซาก้า ที่จังหวัดเฮียวโงะ เป็นหนึ่งในปราสาทอันเก่าแก่ มีอายุกว่า 400 ปี อีกทั้งยังได้รับการจดทะเบียนให้เป็นสมบัติของชาติจาก UNESCO อีกด้วย ซึ่งนอกจากความสวยงามของสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณของตัวปราสาทแล้ว สถานที่แห่งนี้ ยังเป็นจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสี และ การเบ่งบานของดอกซากุระที่ขึ้นชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณสวนโคโคะเอ็น (Kokoen) ซึ่งมีลักษณะเป็น สวนสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม กลิ่นอายยุคเอโดะ ที่อยู่ติดกับตัวปราสาทนั่นเอง

 

ที่ตั้ง : Himeji Castle

เวลาทำการ : ทุกวัน 09:00 น. – 16:00 น.

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (18 +) 1,000 เยน / เด็ก (ประถม-มัธยม) 300 เยน

 

  • ทุ่งดอกไม้ชิบะซากุระ (Fuji Shibazakura) – เมืองยามานาชิ

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

นอกจากดอกซากุระที่เป็นสัญลักษณ์ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่นแล้ว ในฤดูกาลนี้ ยังเป็นช่วงเวลาที่ดอกไม้นานพันธ์ผลิบาน อย่างเต็มที่  ดังนั้นการเดินทางไปชมสวนดอกไม้ ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คนญี่ปุ่นนิยมกันในช่วงฤดูใบไม้ผลิของประเทศญี่ปุ่น โดยสวนดอกไม้ทีมีวิวทิวทัศน์อันสวยงาม จนติดอันดับต้นๆ ของประเทศนั้น ได้แก่ ที่ทุ่งดอกไม้ชิบะซากุระ (Fuji Shibazakura) 

 

ซึ่งจุดเด่นของสวนแห่งนี้ หนีไม่พ้น ภาพวิวภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเป็นสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากสวนแห่งนี้ และ ความงดงามของการบานสะพรั่งของดอกชิบะซากุระ (หรือดอกพิงค์มอส สีชมพูเข้ม) ที่จะเริ่มบานในช่วงกลางเดือนเมษายน ไปจนถึงปลายเดือนมิถุนายน  นั่นเอง 

 

ที่ตั้ง : Fuji Shiba-sakura Festival Observation Deck

เวลาทำการ : ทุกวัน 08:00 น. – 17:00 น.

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 1,000 – 1,200 เยน  / เด็ก 400 – 600 เยน 

 

  • สุสานอาโอะยามา (Aoyama Cemetery) – เมืองโตเกียว 

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่นสำหรับคนเมืองยอดฮิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นั้น ได้แก่ ที่ ‘สุสานอาโอะยามา’ ซึ่งเป็นสุสานขนาดใหญ่กลางเมืองโตเกียว เป็นที่ฝังศพของบุคคลสำคัญของชาติ อีกทั้งยังมีอายุยาวนานร่วม 150 ปี ซึ่งแม้จะเป็นสุสาน แต่กลับมีทัศนียภาพที่สวยงามราวกับสวรรค์ก็ว่าได้ โดยสถานที่แห่งนี้ เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว และ ต้นซากุระหลายร้อยต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกซากุระนั้นบานสะพรั่งอย่างสวยงาม 

 

ที่ตั้ง : Aoyama Cemetery

เวลาทำการ :  ตลอดทั้งวัน

ค่าเข้าชม : ไม่มี 

 

  • สวนเค็นโรคุเอ็น (Kenrokuen Garden) – เมืองคานาซาวะ

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

สวนเค็นโรคุเอ็น เป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 3 สวนที่มีความงดงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถท่องเที่ยวได้ในทุกฤดูกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น เดือน มีนาคม – เมษายนของทุกปี ทั้งนี้เนื่องจากที่สวนแห่งนี้ มีพื้นที่อันกว้างขวาง, รายล้อมไปด้วยต้นซากุระ และ พรรณไม้นานาพันธ์, มีการตกแต่งสวน โดยใช้หินเป็นหลัก อีกทั้งยังมีแหล่งน้ำ (สระน้ำKasumiga-ike) ขนาดใหญ่ใจกลางสวน ทำให้ในฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกไม้สายพันธุ์ต่างๆ มีการผลิบานอย่างเต็มที่ ได้สร้างบรรยากาศสีสันที่สดใส ซึ่งตัดกับความดั้งเดิมของสวนสไตล์ญี่ปุ่นได้อย่างดีเยี่ยม  

 

ที่ตั้ง : Kenroku-en

เวลาทำการ :  ทุกวัน 7:00 – 18:00 น. 

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่(18+ปี) 310 เยน / เด็ก(6-17ปี) 100 เยน

 

  • สวนทาคิโนอูเอะ (Takinoue Park) – เมืองมอนเบ็ทสึ

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

สวนสาธารณะแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่เมืองมอนเบ็ทสึ (Monbetsu) ในภูมิภาคฮอกไกโด ซึ่งเป็นสวนชมดอกไม้ และ ดอกซากุระที่มีชื่อเสียงของเมือง และ ประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนปลายเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนมิถุนายน หรือ ในช่วงใบไม้ผลิของญี่ปุ่น ซึ่งในช่วงนี้ ที่สวนแห่งนี้ จะเต็มไปด้วยความงดงามของดอกชิบะซากุระ หรือ พิงค์มอส ที่ได้บานสะพรั่งอย่างสวยงามเต็มพื้นที่สวนกว่า 100,000 ตร.ม และนอกจากการเดิมสวนแล้ว ที่สวนแห่งนี้ ยังมีกิจกรรมนั่งเฮลิคอปเตอร์เพื่อชมความงดงามของดอกไม้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่นของสวนแห่งนี้อีกด้วย 

 

ที่ตั้ง : Shibazakura Takinoue Park

เวลาทำการ :  เปิดให้เข้าชมเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น ในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 เยน / เด็ก 250 เยน

 

  • ป้อมโกเรียวกากุ (Goryokaku Fort Park) – เมือง ฮาโกดาเตะ

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่นที่พลาดไม่ได้นั้น คือที่ ป้อมโกเรียวกากุ หรือ ป้อมปราการรูปดาวชนาดใหญ่ ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยยุคสมัยเอโดะ เพื่อเป็นจุดโจมตีค่าศึก และ เพื่อเป็นการป้องกันการโจมตีค่าศึกในทุกมุมนั่นเอง ซึ่งโดยรอบของสวนแห่งนี้ ประกอบไปด้วยสวนสาธารณะ ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ นานาพันธ์ ซึ่งจะมีบรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไปตรามฤดูกาล โดยในฤดูที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดนั้น คือ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ในเดือนเมษายน และ ช่วงใบไม้ร่วง ในเดือนพฤศจิกายน โดยจุดชมวิวไฮไลท์ของสวนแห่งนี้ คือ บนยอดหอคอยโกะเรียวคาคุ ความสูง 107 เมตร ซึ่งสามารถเห็นวิวแบบ 360 องศา ของสวนแห่งนี้ได้อย่างงดงาม 

 

ที่ตั้ง : Goryokaku Park

เวลาทำการ :  เปิดทำการทุกวัน เวลา 8.00 – 19.00 น. 

ค่าเข้าชมหอคอยโกะเรียวคาคุ : ผู้ใหญ่ 840 เยน/ เด็กมัธยมต้นและมัธยมปลาย 630 เยน / เด็กประถม 420 เยน

 

  • ภูเขาโยชิโนะ (Mt. Yoshino) – เมืองโยชิโนะ

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

ปิดท้ายกันด้วยสุดยอดจุดชมวิวดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่สวยงามที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ที่ภูเขาโยชิโนะ เมืองโยชิโนะ จังหวัดนารา ซึ่งภูเขาแห่งนี้ เป็นภูเขาที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดก โดยภูเขาแห่งนี้ เต็มไปด้วยดอกซากุระนานาพันธ์กว่า 30,000 ต้น ซึ่งจะเริ่มบานตั้งแต่เชิงเขา ขึ้นไปจนถึงยอดเขาเป็นช่วงๆ และ ในช่วง Peak ที่สุดของฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น เดือนเมษายนนั้น คุณจะได้เห็นทัศนียภาพดอกซากุระ สีชมพูสดใสที่ปกคลุมภูเขาทั้งลูกอย่างน่าอัศจรรย์ 

 

นอกจากที่นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับทิวทัศน์ซากุระที่งดงามแล้ว บนเทือกเขาแห่งนี้ ยังประกอบไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ให้ได้แวะเยี่ยมชม ไม่ว่าจะเป็น วัดคินปุเซ็นจิ ซะโอโด (วัดศาสนาพุทธชินโต ซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 1,300 ปี)  และ ศาลเจ้าต่างๆ อีกมากมาย อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมโรงแรมเรียวกังมากมายอีกด้วย 

 

ที่ตั้ง : Mount Yoshino

เวลาทำการ :  เปิดทำการทุกวัน  

ค่าเข้าชม : ไม่มี 

 

การแต่งตัวฤดูใบไม้ผลิ ญี่ปุ่น และ แฟชั่นที่ได้รับความนิยม

เนื่องจากฤดูใบไม้ผลิ ญี่ปุ่น อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 2° – 24° องศา ซึ่งเป็นสภาพอากาศที่ค่อนข้างจะเย็นสบาย ไม่หนาวเกินไปจนต้องใส่ฮีทเทค หรือ เสื้อผ้าวูลหนาๆ หรือ ร้อนถึงขั้นที่จะต้องใส่เสื้อกล้าม กับกางเกงขาสั้นกัน ดังนั้นแฟชั่นฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น ที่เราเห็นกัน จึงมักจะเน้นเสื้อสเวตเตอร์แขนยาว,  เสื้อแจ้คเก็ตกันลม, เสื้อเทรนช์โค้ท, กางเกงยีนส์ รวมไปจนถึง ชุดเดรสยาว สำหรับผู้หญิงนั่นเอง

 

ฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่น

 

  • ไอเทมการแต่งตัวฤดูใบไม้ผลิ ญี่ปุ่น : สำหรับไอเทมแนว Street Wear ที่ได้รับความนิยม จากชาวญี่ปุ่น ในช่วงปี 2023 นี้ ประกอบไปด้วย เสื้อคลุมตัวนอกขนาดใหญ่ (Oversized Outerwear), เสื้อแจ็กเก็ตครอป (Cropped Jacket), รองเท้าบูทยาวเหนือเข่า (Knee-length boots), กางเกงยีนส์ทรงกระบอก (Mom Jean), เดรสกระโปรงยาวหลายชั้น รูปทรงทันสมัย (Overlay dresses) และ อีกมากมาย 

 

  • สีสันที่ได้รับความนิยม : ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ญี่ปุ่น จะนิยมสวมใส่เสื้อผ้าสีสันสดใส ไม่ว่าจะเป็น สีชมพูเข้ม สีม่วง สีเหลือง สีส้ม รวมไปจนถึง สีแดงกุหลาบ เนื่องจากสีเหล่านี้ เป็นสีที่ตัดกันได้ดีกับกางเกงยีนส์ หรือ กระโปรงยาวสีขาว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ได้รับความนิยมเช่นกัน 

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแฟชั่นญี่ปุ่น มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และ เป็นความชอบของแต่ละบุคคล ดังนั้น แฟชั่นการแต่งตัวฤดูใบไม้ผลิ ญี่ปุ่น จึงค่อนข้างมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับเทรนด์ที่มาแรงในช่วงนั้นๆ อย่างไรก็ตาม สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเตรียมตัวเพื่อเดินทางไปชมซากุระในฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่นแล้ง ควราจะเตรียมเสื้อผ้าที่ไม่หนา หรือ บางจนเกินไป เพื่อให้ร่างกายได้รับความอบอุ่น เนื่องจากในฤดูใบไม้ผลินั้น นอกจากอากาศที่เย็นล้ว ยังมีลมที่ค่อนข้างแรงเช่นกัน    

 

นักท่องเที่ยวคนไหนที่กำลังมองหาแพลนท่องเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่น เราขอแนะนำให้เดินทางในช่วงเดือน ปลายเดือนมีนาคม จนถึงปลายเดือนเมษายน เพราะจะเป็นช่วงที่ดอกซากุระเบ่งบานอย่างเต็มที่และสวยงามที่สุด ซึ่งหากใครที่อยากหาผู้ช่วยที่จะทำให้ทริปการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นของคุณพิเศษ และ สะดวกสบายกว่าเคย Artralux เรามาพร้อมกับบริการจัดทัวร์ และ เขียนโปรแกรมท่องเที่ยวญี่ปุ่น ที่แตกต่างจากที่ไหนๆ โดยที่เราจะให้ความสำคัญกับความต้องการของคุณเป็นหลัก เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณอยากจะไปท่องเที่ยวฤดูใบไม้ผลิญี่ปุ่นที่ไหน หรือ ไปกี่คน เราสามารถจัดโปรแกรมนั้นให้คุณได้อย่างแน่นอน   

 

สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)

📞 | 02-047-0083

💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

SHARES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า