เที่ยวจอร์เจีย เดือนไหนดี ช่วงไหนดี และต้องแต่งตัวยังไง ไปเที่ยวกี่วันดี งบเท่าไหร่ และค่าใช้จ่ายแพงไหม วันนี้เราจะมาตอบข้อสงสัย พร้อมแนะนำ 10 ที่เที่ยวจอร์เจีย 2023 เจ้าของฉายา ดินแดนสองทวีป ที่ถูกหลายคนยกให้เป็นหนึ่งในสถานที่ Unseen ของโลกที่น่าไปเยือนสักครั้งในชีวิต ด้วยเหตุนี้เอง Artralux ผู้นำด้านการเดินทางที่มีบริการตั้งแต่รับยื่นวีซ่า วางแผนการเดินทาง รับจัดกรุ๊ปทัวร์ และบริการอื่นๆ อีกมากมาย จึงอยากจะพาทุกท่านมาสัมผัสกับสวยงามของสถานที่เที่ยวจอร์เจียในแต่ละแห่ง พร้อมให้คำแนะนำน่ารู้ก่อนเที่ยวที่ไม่ควรพลาดมาฝากกัน
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
เมืองบาทูมิ (Batumi)
เริ่มต้นเที่ยวจอร์เจียกันที่บาทูมิ เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของฃจอร์เจีย ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศและของโลก ไม่ว่าจะเป็น สถานที่เที่ยวธรรมชาติที่มีทัศนียภาพความงดงามยากจะมีที่อื่นเปรียบเทียบ อาคารตึกสูงต่างๆ ที่มีความทันสมัยและสะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองของตัวเมืองเป็นอย่างดี ในขณะที่ยังคงมีบ้านเรือนบางส่วนในสมัยก่อนที่ให้กลิ่นอายความเก่าแก่คงเหลืออยู่ โดยพิกัดเที่ยวห้ามพลาดในบาทูมิ ได้แก่ หอคอยตัวอักษร (Alphabetic Tower), ประติมากรรมความรักของอลีและนีโน (Ali and Nino Statue), และ มหาวิหารแห่งการประสูติของพระแม่มารี (Holy Mother Virgin Nativity Cathedral) เป็นต้น
- แผนที่การเดินทาง: Batumi
เทือกเขาคอเคซัสใหญ่ (Greater Caucasus)
ว่ากันว่าจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์จอร์เจียมาจากเทือกเขาคอเคซัส (Caucasus) เทือกเขาสูงที่มีความสำคัญคือเป็นแนวพรมแดนกั้นระหว่างทวีปเอเชียและทวีปยุโรป โดยที่เที่ยวจอร์เจียแห่งนี้เป็นหนึ่งในเทือกเขาของเทือกเขาคอเคซัส ซึ่งถูกเหล่านักท่องเที่ยวยกให้เป็นสถานที่เที่ยวจอร์เจียที่มีวิวธรรมชาติสวยงาม และมีกิจกรรมที่น่าสนใจเหล่าอย่าง โดยเฉพาะการเดินทางแบบเทรคกิ้ง (Trekking) นั่นเอง
- แผนที่การเดินทาง: Greater Caucasus
เมืองคาซเบกิ (Kazbegi)
ชมธรรมชาติอันสุดแสนตระการตาตระการใจได้แล้วที่คาซเบกิ หรือชื่อใหม่ว่า Stepantsminda ซึ่งชาวจอร์เจียจะเรียกว่า Mkinvartsveri อันเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนยอดเขาคาซเบกิ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาคอเคซัส โดยเมืองคาซเบกิยังมีอีกฉายาหนึ่งว่าสวรรค์แห่งจอร์เจียอีกด้วย สาเหตุสำคัญมาจากที่เที่ยวจอร์เจียแห่งนี้เป็นแลนด์มาร์กที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามและน่าทึ่ง ยิ่งหากได้มาเที่ยวจอร์เจียหน้าหนาวด้วยแล้วละก็ รับรองว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน โดยพิกัดเที่ยวห้ามพลาดเมื่อมาคาซเบกิ คือ โบสถ์เกอร์เกตี้ (Gergeti Trinity Church) ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นโบสถ์งามเป็นอันดับต้นๆ ของโลก
- แผนที่การเดินทาง: Mkinvartsveri
เมืองซิกนากี (Sighnaghi)
ซิกนากี เป็นหนึ่งในเมืองและที่เที่ยวจอร์เจียซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่อันสวยงามและสุดโรแมนติกจนถูกยกให้เป็นเมืองแห่งความรัก (City of Love) เนื่องจากเมืองซิกนากีเป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับจัดงานแต่งงานนั่นเอง ทำให้เรามักจะเห็นเหล่าคู่รัก บ่าวสาว หรือครอบครัวขนาดเล็กนิยมมาเที่ยวเมืองแห่งนี้ นอกจากนี้ ภายในเมืองแห่งนี้ยังคงเสน่ห์กลิ่นอายความคลาสสิกจากยุคสมัยก่อนเป็นอย่างดี ด้วยอาคารบ้านเรือนที่ยังคงเป็นอิฐแดงกับถนนคนเดินทางปูด้วยหินชวนให้ใครต่อใครต่างก็อยากจะเดินทางมาสัมผัสด้วยตนเองสักครั้งหนึ่งในชีวิต
- แผนที่การเดินทาง: Sighnaghi
เมืองทบิลิซี (Tbilisi)
ตื่นตาตื่นใจไปกับเมืองทบิลิซี เมืองหลวงที่สำคัญของจอร์เจีย ที่มีแลนด์มาร์กที่เที่ยวและไฮไลท์น่าสนใจหลายอย่าง ซึ่งหากได้เดินทางมาที่เมืองหลวงแห่งนี้ ทุกคนจะพบกับเสน่ห์ความเป็นเมืองเก่าที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของประเทศจอร์เจียในแต่ละยุคสมัยเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ป้อมนาริกาลา (Narikala Fortress), มหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ทบิลิซี (Holy Trinity Cathedral of Tbilisi), หรือถนนรุสทาเวลี (Rustaveli Avenue) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวจอร์เจียยอดฮิตที่หากไม่ไปถือว่ามาไม่ถึงจอร์เจีย
- แผนที่การเดินทาง: Tbilisi
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
เมืองมิชเคห์ตา (Mtskheta)
พบกับอดีตเมืองหลวงเก่าในช่วงศตวรรษที่ 5 ของประเทศจอร์เจียอย่างมิชเคห์ตา อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวจอร์เจียอันโด่งดังที่ยังคงมีอาคารบ้านเรือนในสมัยก่อนปรากฏให้เห็น พร้อมพิกัดเที่ยวสวยๆ และน่าสนใจหลายแห่ง ยกตัวอย่างเช่น วิหารสเวติสโคเวรี (Svetitskhoveli Cathedral), อารามจวารี (Jvari Monastery), คอนแวนต์ซามทาฟโร (Samtavro’s Convent) และที่เที่ยวจอร์เจียอื่นๆ อีกมากมายที่ให้กลิ่นอายชวนย้อนยุคไปยังสมัยยุโรปกลาง
- แผนที่การเดินทาง: Mtskheta
เมืองบอร์โจมี (Borjomi)
ชวนผ่อนคลายทั้งกายและใจ ณ บอร์โจมี เมืองพักตากอากาศของจอร์เจียที่ไม่ได้มีเพียงมีเพียงธรรมชาติอันสวยงามเท่านั้น แต่บอร์โจมียังขึ้นชื่อในเรื่องแหล่งน้ำแร่เป็นอันดับต้นๆ ของโลกอีกด้วย สังเกตได้จากน้ำแร่บรรจุขวดที่บอร์โจมีผลิตส่งออกทั่วโลก ตลอดจนน้ำแร่ที่ชาวเมืองใช้ในการบริโภค รวมไปถึงบ่อน้ำแร่ที่หลายคนเชื่อว่ามีส่วนช่วยให้สุขภาพและผิวพรรณแข็งแรงนั่นเอง นอกจากนี้แล้ว บอร์โจมียังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สวนสาธารณะบอร์โจมี (Borjomi Central Park), โบสถ์มึนสวานี (Mtsvane Monastery) และที่เที่ยวจอร์เจียอื่นๆ อีกมากมาย
- แผนที่การเดินทาง: Borjomi
เมืองกูดาอูรี (Gudauri)
สัมผัสความหนาวเย็นโดยเฉพาะเหล่านักเดินทางที่มาท่องเที่ยวจอร์เจียหน้าหนาวกับกูดาอูรี เมืองแห่งสกี ที่ตั้งอยู่บนที่ราบสูง ณ เทือกเขาคอเคซัส ซึ่งมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 2,200 เมตร โดยสถานที่เที่ยวแห่งนี้เป็นจุดที่ชาวเมืองจอร์เจียและนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเยือนเพื่อพักผ่อนและทำกิจกรรมต่างๆ มากมาย ยิ่งเมืองนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งสกีรีสอร์ทที่มีชื่อเสียงด้วยแล้ว บอกเลยว่าหากได้มาจะต้องหลงรักอย่างแน่นอน
- แผนที่การเดินทาง: Gudauri
หมู่บ้านอุชกูลลี (Ushguli)
เยือนหนึ่งในแหล่งมรดกโลกที่สำคัญของจอร์เจียอย่างอุชกูลลี หมู่บ้านเก่าแก่โบราณซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาใหญ่ โดยหมู่บ้านแห่งนี้จะประกอบไปด้วย 4 หมู่บ้านหลัก ได้แก่ Zhibiani, Chvibianu, Chazhashi, และ Murkmeli ซึ่งภายในอุชกูลลีนั้นจะมีชาวจอร์เจียอาศัยอยู่กว่า 200 คน 70 ครอบครัว จึงทำให้นอกจากเหล่านักเดินทางที่มาเที่ยวจอร์เจียจะเห็นทัศนียภาพอันงดงามของแนวเทือกเขาขนาดใหญ่แล้ว ทุกคนยังได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตของชาวจอร์เจีย ณ หมู่บ้านแห่งนี้อีกด้วย
- แผนที่การเดินทาง: Ushguli
เมืองคูทายสิ (Kutaisi)
จากหมู่บ้านอุชกูลลีลงมาตอนใต้ประมาณ 170 กิโลเมตร หรือ 4 ชั่วโมง หากโดยสารด้วยรถยนต์ จะพบกับเมืองคูทายสิอันเป็นเมืองขนาดเล็กที่น่าท่องเที่ยวไม่แพ้เมืองใหญ่ๆ เลย โดยภายในเมืองแห่งนี้จะประกอบไปด้วยอาคารบ้านเรือนสวยงาม พร้อมที่เที่ยวแลนด์มาร์กที่น่าสนใจหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น โบสถ์บากราติ (Bagrati Cathedral) ซึ่งเป็นโบสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมอันสวยงาม หรือน้ำพุโคลชิส (Colchis Fountain) ที่มีรูปปั้นสีทองสัตว์ชนิดต่างๆ ตั้งอยู่ใจกลางเมือง หรืออารามจีลาติ (Gelati Monastery) ซึ่งเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของจอร์เจีย รวมไปถึงสถานที่เที่ยวจอร์เจียอื่นๆ อีกมากมายในเมืองคูทายสิที่รอให้ทุกคนมาสัมผัสด้วยตนเอง
- แผนที่การเดินทาง: Kutaisi
ข้อควรรู้ก่อนเที่ยวจอร์เจีย
หลังจากที่รู้แล้วว่ามีสถานที่เที่ยวจอร์เจียที่ไหนบ้างที่น่าสนใจ เรายังได้รวบรวมคำถามและข้อควรรู้ต่างๆ ที่พบบ่อยก่อนเที่ยวจอร์เจียมาฝากกันด้วย ยกตัวอย่างเช่น เที่ยวจอร์เจียช่วงไหนดี เที่ยวจอร์เจียต้องใช้วีซ่าหรือไม่ หรือเที่ยวจอร์เจียงบเท่าไหร่ดี และอื่นๆ อีกมากมาย ที่จะมาไขข้อสงสัยให้ทุกท่านก่อนออกเดินทางกัน
เที่ยวจอร์เจียกี่วันดี ?
หากใครเคยเที่ยวจอร์เจีย 2565 ด้วยตัวเองมาก่อนแล้วคงจะรู้ดีว่า แม้ประเทศจอร์เจียจะไม่ใช่ประเทศที่ใหญ่เทียบเท่ากับประเทศยุโรปอื่นๆ แต่ก็มีแลนด์มาร์กที่เที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่งเช่นกัน ดังนั้นแล้ว สำหรับใครที่สงสัยว่าเที่ยวจอร์เจียกี่วันดี เราขอแนะนำว่าประมาณ 10-14 วัน เพื่อที่จะได้เก็บเกี่ยวที่เที่ยวจอร์เจียสวยๆ ได้หลายแห่ง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการเดินทางของแต่ละคนด้วยเช่นกัน
เที่ยวจอร์เจียเดือนไหนดี ช่วงไหนดี ?
‘เที่ยวจอร์เจียช่วงไหนดี’ เป็นอีกหนึ่งคำถามที่พบได้บ่อย ซึ่งจะต้องอธิบายก่อนว่าจอร์เจียเป็นประเทศที่มีทั้งหมด 4 ฤดูกาล ได้แก่ 1.ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม) 2.ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม) 3.ฤดูใบไม้ (กันยายน – พฤศจิกายน) และ 4.ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธ์) ซึ่งในแต่ละเดือนนั้นก็จะมีสภาพอากาศที่แตกต่างกัน โดยใครที่ชื่นชอบอากาศช่วงหน้าร้อนที่ไม่ร้อนจนเกินไป ขอแนะนำเป็นช่วงซัมเมอร์ แต่หากต้องการสัมผัสอากาศหนาวพร้อมหิมะ การเที่ยวจอร์เจียหน้าหนาวก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีไม่แพ้กัน อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้ร่างกายเกิดอาการเจ็บป่วย การเลือกชุดแต่งตัวเที่ยวจอร์เจียให้เหมาะสมก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง
เที่ยวจอร์เจียกับทัวร์ดีไหม ?
การเที่ยวจอร์เจียด้วยตนเองหรือเที่ยวจอร์เจียกับทัวร์ เป็นอีกหนึ่งคำถามที่ชวนให้ถกเถียงไม่แพ้คำถามอื่นๆ เลย ซึ่งเราอาจจะแนะนำว่า หากใครที่ไม่เคยเดินทางไปจอร์เจียมาก่อนและกำลังมองหาผู้ช่วยที่คอยอำนวยความสะดวกตั้งแต่เรื่องการพาเที่ยวสถานที่ต่างๆ การไปกับทัวร์จึงอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ซึ่งทาง Artralux เองก็มีบริการวางแผนการเดินทางและจัดกรุ๊ปทัวร์ด้วยเช่นกัน
เที่ยวจอร์เจียงบเท่าไหร่ดี ?
มาถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจสงสัยว่าจะไปเที่ยวจอร์เจียควรเตรียมงบเท่าไหร่ดี ถ้าไปเที่ยวจอร์เจียจะแพงไหม ในความเป็นจริงแล้วค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการเดินทางนั้น จะขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วย อย่างไรก็ตาม เราขอแนะนำให้เตรียมไปไม่น้อยกว่า 100 usd หรือประมาณ 3,500 บาท ต่อวัน เพื่อให้เพียงพอต่อการจับจ่ายใช้สอยในแต่ละวัน โดยไม่รวมค่าสินค้าหรือของฝากต่างๆ
เที่ยวจอร์เจีย วีซ่าจำเป็นหรือไม่ ?
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีแผนจะเดินทางไปประเทศจอร์เจีย ไม่จำเป็นต้องวีซ่า เนื่องจากจอร์เจียเป็นหนึ่งในประเทศที่สามารถเดินทางไปพำนักอาศัยได้ถึง 365 วัน หรือ 1 ปี นั่นเอง
จอร์เจียเป็นหนึ่งในสถานที่ Unseen ของโลกที่มีความน่าสนใจในหลากหลายแง่มุม โดยเฉพาะในด้านสถานที่เที่ยวจอร์เจียที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามและมีความโดดเด่นแตกต่างกันไปในแต่ละสถานที่ จึงทำให้หลายคนอยากจะเดินทางมาเยือนสักครั้งในชีวิต หรือใครที่เคยไปมาแล้วก็อยากจะกลับไปเที่ยวอีก ทั้งนี้ ใครที่สนใจอยากเที่ยวจอร์เจีย ก็สามารถติดต่อ Artralux เพื่อให้เราช่วยรังสรรค์ทริปการเดินทางสุดพิเศษให้แก่ท่านได้
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
