เที่ยวฟุกุโอกะ 10 สถานที่ยอดฮิต 2024 ประตูสู่เอเชีย ที่ใครไปก็หลงรัก

เที่ยวฟุกุโอกะ

“เที่ยวฟุกุโอกะ” แม้ว่าประโยคนี้อาจจะไม่ใช่ประโยคยอดฮิตของเหล่านักท่องเที่ยวที่ชอบเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นเทียบเท่ากับการเที่ยวโตเกียว หรือ เที่ยวโอซาก้า แต่หารู้ไม่ว่า จังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka) ในภูมิภาคคิวชู (Kyushu) นั้น เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าสนใจของประเทศญี่ปุ่น เพราะจังหวัดนี้ เต็มไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติที่สวยงาม เป็นแหล่งที่ตั้งของบ่อน้ำพุร้อนยอดนิยม และที่สำคัญเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่นที่มาพร้อมกับเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และ วัฒนธรรมญี่ปุ่นที่รอให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยว และ ศึกษา และด้วยความที่จังหวัดฟุกุโอกะแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของสนามบินนานาชาติประเทศญี่ปุ่นขนาดใหญ่ ด้วยเหตุนี้ จังหวัดฟุกุโอกะ ภูมิภาคคิวชู แห่งนี้ จึงได้ชื่อว่าเป็น “ประตูสู่เอเชีย” ด้วยนั้นเอง  

 

จังหวัดฟุกุโอกะ (Fukuoka) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะคิวชู ซึ่งเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น และจังหวัดฟุกุโอกะนั้น ก็เป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของประเทศอีกด้วย ฟุกุโอกะมาพร้อมกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณ ที่ผสมผสานวัฒนธรรมเอเชียได้อย่างงดงาม ทั้งนี้เนื่องจากฟุกุโอกะเป็นจังหวัดที่อยู่ใกล้กับเอเชียแผ่นดินใหญ่มากที่สุดของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง 

เที่ยวฟุกุโอกะ

หากถามว่าเพราะเหตุผลอะไรกันนะ ที่ทำให้การท่องเที่ยวฟุกุโอกะ เป็นประสบการณ์การท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นอีกแห่งที่น่าสนใจ? คำตอบนั้นคงจะหนีไม่พ้น ความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวฟุกุโอกะ อาหารพื้นเมืองแสนอร่อยที่ขึ้นชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารทะเล รวมไปจนถึง เทศกาลประจำเมืองแสนสนุกที่ชาวญี่ปุ่นทั่วประเทศตั้งตอรอในทุกปี อย่างเทศกาล ฮะคะตะ ดงทะคุ (Hakata Dontaku) วันนี้ Artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำเกี่ยวกับท่องเที่ยว จึงขออาสาแนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยวฟุกุโอกะ ด้วยตัวเอง ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด หากมีโอกาสได้มา ทัวร์ญี่ปุ่น เมืองฟุกุโอกะ ซึ่งที่เที่ยวฟุกุโอกะทั้ง 10 แห่งจะมีที่ไหนบ้างนั้น เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย! 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

สารบัญ

เสน่ห์ที่ทำให้เที่ยวฟุกุโอกะ ด้วยตัวเอง 2024 เป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า 

“เที่ยวฟุกุโอกะคุ้มไหม?” “ฟุกุโอกะ มีอะไรให้เที่ยว ?” เชื่อว่าคำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่นักท่องเที่ยวผู้วางแผนเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณภูมิภาคคิวชู สงสัย และ อยากได้คำตอบกันไม่น้อยเลย ซึ่งหากคุณเป็นนักท่องเที่ยวที่หลงใหลวัฒนธรรมพื้นเมืองญี่ปุ่นดั้งเดิม ชอบเรียนรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เป็นสายธรรมชาติมากกว่าเที่ยวเมืองหลวง และ อยากไปเที่ยวในเมืองที่ให้บรรยากาศอบอุ่นจากความเป็นมิตรของพลเมือง บอกได้เลยว่า “เที่ยวฟุกุโอกะ” คือคำตอบ! โดยเสน่ห์ของจังหวัดฟุกุโอกะที่ทำให้จังหวัดแห่งนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ แลฃะ ไม่มีเหมือนจังหวัดอื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่น มีดังนี้

 

1.กว่าจะมาเป็นฟุกุโอกะ (Fukuoka) ในปัจจุบัน 

ในอดีตจังหวัดฟุกุโอกะ ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ เขต ฮะคะตะ (Hakata) และ เขต เทนจิน (Tenjin) ซึ่งแต่ละเขตต่างมีชื่อเสียง และ หน้าที่สำคัญที่แตกต่างกัน โดยในเขตฮะคะตะ จะเป็นเขตเมืองท่า นิยมทำการค้าขายกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างคาบสมุทรประเทศเกาหลี และ ประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นหลัก ในขณะที่ในเขตเทนจิน จะเป็นแหล่งที่ตั้งของปราสาทโบราณอันสำคัญของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในเวลาต่อมาในปีค.ศ 1889 ทั้งสองเขตก็ได้รวมตัวกันเป็นเมืองเดียว และสถาปนาก่อตั้งเป็นจังหวัดที่ชื่อว่าฟุกุโอกะ (Fukuoka) นั่นเอง อย่างไรก็ตามแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน จังหวัดฟุกุโอกะยังคงเป็นจังหวัดเมืองท่าที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่นในเรื่องของการค้าขาย และ การคมนาคม และในปัจจุบันก็ได้มีการผลิตถ่านหิน เพื่อส่งออก จนกลายเป็นเมืองอุตสหกรรมถ่านหินที่สำคัญอีกแห่งของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย 

 

2.อาหารญี่ปุ่นรสเลิศ

เที่ยวฟุกุโอกะ

เมื่อพูดถึงประเทศญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวหลายคนคงจะนึกถึงราเมง แต่เชื่อหรือไม่ว่าสำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว เมื่อพูดถึงราเมง (Ramen) คนญี่ปุ่นจะนึกถึงจังหวัดฟุกุโอกะ และ การเที่ยวฟุกุโอกะ ทั้งนี้เนื่องจากจังหวัดฟุกุโอกะ เป็นบ้านต้นกำเนิดของร้านแฟรนไชส์ราเมงชื่อดังที่โด่งดังไปทั่วโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ร้าน Ichiran Ramen หรือ ราเมงข้อสอบที่คนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และ ร้าน Hakata Ramen หรือ ร้านทงคตสึราเมงซุปกระดูกหมูที่ขึ้นชื่อเรืองความอร่อยจนต้องเลียจาน นอกจากนี้ ที่จังหวัดฟุกุโอกะนี่เอง ยังเป็นจังหวัดที่คุณจะได้ลิ้มลองความอร่อยแบบแปลกๆ ของอาหารญี่ปุ่น สัญชาติเกาหลี อย่าง เมนู Mentaiko ซึ่งเป็นเมนูไข่ปลาค็อดปรุงรสที่ได้เผยแพร่มาจากประเทศเกาหลี เข้าสู่เขตเมืองท่าเรือฮากาตะตั้งแต่ในอดีตนั่นเอง 

 

โดยรวมแล้วจังหวัดฟุกุโอกะ เป็นจังหวัดที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารญี่ปุ่นรสชาติดั้งเดิม มีความอร่อย และราคาไม่แพง ซึ่งความพิเศษของอาหารญี่ปุ่นที่จังหวัดฟุกุโอกะที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวฟุกุโอกะได้ปีละหลายล้านคนเลยก็ว่าได้นั้น คือ ร้านยาไต (Yatai) หรือ ร้านอาหารญี่ปุ่นแผงลอยตามท้องถนน ที่นักท่องเที่ยวสามารถนั่งกินได้ข้างทาง สังเกตง่ายๆ จากไฟโคมสีแดงอันโด่นเด่นนั่นเอง  

 

3.แหล่งชอปปิ้งอันเป็นสีสันของเมือง  

เที่ยวฟุกุโอกะ

นักท่องเที่ยวคนไหนที่กำลังมีแพลนไปเที่ยวฟุกุโอกะ แต่ก็กลัวพลาดโอกาสในการเดินชอปปิ้ง ณ ศูนย์การค้า และ แหล่งชอปปิ้งชื่อดังของประเทศญี่ปุ่น การมาเที่ยวฟุกุโอกะ บอกเลยว่าคุณจะไม่พลาดโอกาสนั้นแน่นอน เพราะที่เมืองฟุกุโอกะแห่งนี้ เต็มไปด้วยแหล่งชอปปิ้งมากมายทั่วเมือง ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ถนนคนเดิน และ เขตการท่องเที่ยวสำหรับการชอปสินค้าแบรนด์เนมโดยเฉพาะมากมาย ยกตัวอย่างเช่น ในเขตฮะคะตะ (Hakata) นั้น จะมีแหล่งชอปปิ้งชื่อดังขนาดใหญ่กว่า 400 เมตร ที่มาพร้อมกับร้านค้ามากกว่า 130  ร้าน ที่ชื่อว่า ถนนคนเดินที่คาวาบาตะ (Kawabata Shopping Arcade) และในเขตเทนจิน ยังมีย่านชอปปิ้งใต้ดินอันโด่งดัง ที่กินพื้นที่กว่า 600 เมตร ที่ชื่อว่า Tenjin Underground Shopping Mall เช่นกัน เรียกได้ว่ามาเที่ยวฟุกุโอกะ จัดเต็มทั้งสถานที่ท่องเที่ยว และ แหล่งชอปปิ้งแน่นอน 

 

4.เป็นที่จัดงานเทศกาลอันยิ่งใหญ่

เทศกาลญี่ปุ่น

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวญี่ปุ่นเองก็ดี หรือ นักท่องเที่ยวชาวไทยก็ดี ต่างเลือกเดินทางมาเที่ยวฟุกุโอกะนั้น เป็นเพราะว่าจังหวัดทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้ เป็นสถานที่จัดเทศกาลอันยิ่งใหญ่ และ มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่นอยู่หลายเทศกาลด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น ฮากาตะ ดงทะคุ (Hakata Dontaku) ซึ่งเป็นเทศกาลอันเก่าแก่ ซึ่งอยู่คู่กับคนญี่ปุ่นมาตั้งแต่ยุคสมัยเฮอันเป็นเวลากว่า 800 ปี โดยในแต่ละปี งานนี้จะมีผู้เข้าร่วมการเดินขบวนมากกว่า 3 หมื่นคน และ มีผู้เข้าชมกว่า 2 ล้านคนเลยทีเดียว ซึ่งความสนุกของงานคือการที่ผู้ร่วมงานสามารถแต่งกายตามธรรมเนียมญี่ปุ่นดั้งเดิมและออกมาเต้นรำไปพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ยังมีขบวนรถบัสดอกไม้หลากสีทั้งหมดหกชุด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของงานเทศกาลแห่งนี้อีกด้วย โดยการเดินขบวนจะทอดยาวตั้งแต่สถานีโกฟุคุ-มาจิไปจนถึงสวนสาธารณะเทนจินเซ็นทรัลพาร์กนั่นเอง  

 

5.อากาศดี ท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี 

เที่ยวฟุกุโอกะ

ฟุกุโอกะ เป็นจังหวัดท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นที่มีสภาพอากาศเย็นสบาย โดยอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 15-20 องศา และแต่ละในฤดูกาลจะมีสภาพอากาศที่แตกต่างกันออกไป ในหน้าหนาว หิมะจะตกน้อย หรือ ไม่ตกเลย (อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 8 องศา), ในหน้าร้อนจะมีสภาพอากาศร้อนชื้น อุณหภูมิสามารถสูงได้ถึง 30 องศา แต่หากถามว่าเที่ยวฟุกุโอกะเดือนไหนดี เดือนท่องเที่ยวฟุกุโอกะที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด และ เป็นเหมือน High Season ก็ว่าได้นั้น คือ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และ ฤดูใบไม้ผลิ 

 

  • เที่ยวฟุกุโอกะ ใบไม้เปลี่ยนสี (ฤดูใบไม้ร่วง) : ฤดูใบไม้ร่วงฟุกุโอกะ เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน ไปจนถึงต้นเดือน ธันวาคม ซึ่งเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่น ใบไม้เปลี่ยนสีที่ฟุกุโอกะจะเกิดขึ้นช้ากว่า ในส่วนของสภาพอากาศในฤดูกาลนี้ จะเย็นสบายกำลังดี มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 23 -13 องศา 

 

  • เที่ยวฟุกุโอกะ ใบไม้ผลิ (ฤดูใบไม้ผลิ) : สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเที่ยวฟุกุโอกะในช่วงที่อากาศหนาว แต่ไม่หนาวจัดนั้น เราแนะนำเป็นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งจะเกิดขึ้นในระหว่างเดือนมีนาคม – พฤษภาคม เพราะในช่วงนี้ฟุกุโอกะจะมีอุณหภูมิที่ลดลงถึง 10-20 องศาเท่านั้น แต่อาจจะมีฝนตกบ้างเล็กน้อย 

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

10  สถานที่ท่องเที่ยวฟุกุโอกะ 2024 เด็ดๆ ที่ห้ามพลาด !

หลังจากที่เราได้ทราบถึงเสน่ห์การท่องเที่ยวฟุกุโอกะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้ฟุกุโอกะเป็oเมืองน่าเที่ยวอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่น ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวละหลายล้านคน หนีไม่พ้นสถานที่ท่องเที่ยวฟุกุโอกะชื่อดัง อันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่สามารถหาได้ที่ไหน โดยสถานที่ท่องเที่ยวฟุกุโอกะทั้ง 10 แห่งในบทความนี้ เป็นเที่ยวฟุกุโอกะที่พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง

 

1.ซากุไร ฟุตามิกาอุระ (Sakurai Futamigaura)

เที่ยวฟุกุโอกะ

เที่ยวฟุกุโอกะที่แรกที่เราอยากแนะนำให้ไปชื่นชมความสวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวคู่รักนั้น ได้แก่ที่ หินคู่แต่งงาน หรือ Sakurai Futamigaura’s Couple Stones ซึ่งนอกจากสถานที่แห่งนี้จะเป็นพิกัดถ่ายรูปในจังหวัดฟุกุโอกะอันโด่งดังแล้ว ที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่คู่รักชาวญี่ปุ่นนิยมเดินทางมาขอพรให้สมหวังรักกันตลอดกาล และสำหรับคนโสด หากได้เดินทางมาขอพร ว่ากันว่าจะพบเจอกับเนื้อคู่ และ ได้สละโสดในที่สุด โดย Sakurai Futamigaura นั้นตั้งอยู่ใน อิโตะชิมะ (Itoshima) ซึ่งเป็นเมืองชายหาดสีขาวบริสุทธิ์ของจังหวัดฟุกุโอกะ และขึ้นชื่อว่าเป็นชายหาดที่ติด 1 ใน 100 ชายหาดของประเทศญี่ปุ่นที่มีความสวยงามมากที่สุด ซึ่งนอกจากจุดเด่นของชายหาดสีขาวนวลอันสวยงาม และ หินคู่ที่ตั้งอยู่กลางทะเล (พูกด้วยเชือก เสมือนคู่รักที่จะไม่พลัดพลากจากกัน) อีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวมากที่สุดนั้น คือ เสาโทริอิสีขาว ที่มีต่ำแหน่งที่ตั้งอยู๋ด้านหน้าของเจ้าหินคู่แต่งงานพอดิบพอดี เกิดเป็นทัศนียภาพที่งดงามเป็นอย่างมาก 

 

ซึ่งหากนักท่องเที่ยววางแผนจะมาเที่ยวฟุกุโอกะที่อิโตะชิมะ (Itoshima) เพื่อชมความงดงามของ Sakurai Futamigaura เราขอแนะนำให้เดินทางมาในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน เพราะคุณจะเห็นทองฟ้าสีเหลืองทอง ที่ตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าใสอย่างงดงามนั่นเอง 

 

2.กันดั้ม ปาร์ค ฟุกุโอกะ (Gundam Park Fukuoka)  

เที่ยวฟุกุโอกะ

กันดั้ม ปาร์ค ฟุกุโอกะ หรือ กันดั้ม พาร์ค (Gundam Park) นั้น  เป็นสถานที่ท่องเที่ยวฟุกุโอกะชื่อดังที่ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ และ หากไม่ได้มาแวะชมคงเหมือนจะมาไม่ถึงจังหวัดฟุกุโอกะอย่างแน่นอน ซึ่งแม้ว่าคุณจะไม่ใช่สาวกกันดั้ม แต่รับรองได้เลยว่าหากได้มาเที่ยว และ สัมผัสบรรยากาศของที่แห่งนี้ คุณจะต้องเพลิดเพลินกับกิจกรรม และ นิทรรศการ ที่ถูกจัดไว้ในที่แห่งนี้อย่างแน่นอน โดย Gundam Park Fukuoka นั้น เป็นศูนย์รวมความบันเทิงที่มาในธีม Mobile Suit Gundam อนิเมะชื่อดังของญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1979 และพึ่งจะเปิดให้บริการเมื่อเดือนเมษายน 2022 ที่ผ่านมานี้เอง โดยโซนกันดั้มจะถูกตั้งอยู่ในชั้น 4 ของห้าง Mitsui Shopping Park LaLaport FUKUOKA ภายในจะถูกแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกัน ได้แก่ โซน GUNDAM SIDE-F ซึ่งเป็นที่คุณจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับโมเดลกันดั้มรุ่นต่างๆ ทั้งรุ่นยอดฮิต และ รุ่นหายากมากมาย เรียกได้ว่าต้องบริหารสตางค์กันดีๆ เลยทีเดียว จากนั้นโซนที่สอง ได้แก่ โซน VS PARK WITH G ซึ่งเป็นโซนที่เต็มไปด้วยกิจกรรม และ เกมส์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกันกันดั้มทั้งหมด และ โซนสุดท้าย คือ โซน Namco ซึ่งจะเป็นโซนที่เต็มไปด้วยตู้อาร์เคดแบบพิเศษที่มีให้เล่าแค่ที่นี้เท่านั้น  

 

นอกจากนี้สำหรับหุ่นกันดั้มยักษ์ใหญ๋หน้าห้าง จะเปิดไฟ (Light Up) ในตอนกลางคืน เรียกได้ว่าสวยงามมากๆ และที่สำคัญยังสามารถเข้าชมบรรยากาศ ถ่ายรูป และ เล่นกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกันดั้มภายในห้างได้ฟรีทั้งหมดอีกด้วย 

 

3.ถนนนากาสุ (Nakasu food Street)  

เที่ยวฟุกุโอกะ

มาเที่ยวฟุกุโอกะทั้งที กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวพลาดไม่ได้เลยนั้น คือการเดินรับประทานอาหารญี่ปุ่นสตรีทฟู้ด หรือที่เรียกว่า ยาไต ( Yatai ) ซึ่งมีลักษณะเป็นร้านขายอาหารแผงลอยขนาดเล็ก ประดับด้วยโคมไฟญี่ปุ่นดั้งเดิมสีแดง ซึ่งในปัจจุบันหลังจากนุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ร้านอาหารประเภทยาไต (Yatai) ก็ได้เริ่มหายไปในประเทศญี่ปุ่นตามกาลเวลา แต่จังหวัดที่ยังคงวัฒนธรรมร้านอาหารแบบ Yatai ให้รุ่นลูก รุ่นหลานได้สัมผัสการทานอาหารของชาวญี่ปุ่นโบราณอยู่นั้นคือจังหวัดฟุกุโอกะ จนทำให้ CNN Travel โหวตให้จังหวัดฟุกุโอกะเป็นหนึ่งในจังหวัด Top 10  Street Food ที่ดีที่สุดในทวีปเอเชียเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวฟุกุโอกะ ไม่ว่าจะเดินไปมุมไหนของจังหวัด คุณก็จะเห็นร้าน Yatai เต็มไปหมด เพราะที่จังหวัดฟุกุโอกะมีร้าน Yatai รวมทั้งสิ้นกว่า 150 ร้าน แต่โซนถนนร้านแผงรอยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั้น คือที่เกาะนะกะสุ (Nakasu Island)  เกาะใจกลางจังหวัด ซึ่งที่นี้นักท่องเที่ยวจะได้รับประทาานอาหารแสนอร่อยไปพร้อมๆ กับดื่มด่ำบรรยากาศริมคลองสุดคลาสสิค  เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การท่องเที่ยวฟุกุโอกะที่ไม่ควรพลาด

 

4.ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ (Miyajidake Shrine)

เที่ยวฟุกุโอกะ

เชื่อว่าสายยุ่น หรือ นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ และ หลงใหลความเป็นญี่ปุ่น คงคุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับภาพพระอาทิตย์ตกดินสีเหลืองทองที่ลับฟ้า ตัดกับบรรยากาศบ้านเมืองอันเงียบสงบ และ สถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณของศาลเจ้าได้อย่างงดงาม ซึ่งหากคุณกำลังตามหาจุดชมพระอาทิตย์ตกดินบนศษลเจ้าญี่ปุ่นที่งดงามราวกับหลุดออกมาจากอนิเมะ เราขอแนะนำการท่องเที่ยวฟุกุโอกะที่ ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ (Miyajidake Shrine) ในเมืองฟูคุทสุ (Fukutsu) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น จนได้รับฉายาว่า “ถนนแห่งแสง” กันเลยทีเดียว โดยมุมที่นักท่องเที่ยวจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินอันเลื่องลือนั้น คือ บริเวณเสาโทริอิหน้าศาลเจ้า Miyajadake ซึ่งหากยืนมองจากบันไดลงไปคุณจะเห็นถนนที่ลากยางตั้งแต่ศาลเจ้าลงไปจนถึงทะเลเลยทีเดียว ซึ่งฤดูกาลที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวที่นี้เพื่อชมวิวพระอาทิตย์ตกดินนั้น คือในช่วงหน้าหนาว เพราะในช่วงนี้นักท่องเที่ยวจะได้เห็นพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ตกลงสู่ทะเล ใจกลางเสาโทริอิพอดีนั่นเอง 

เที่ยวฟุกุโอกะ

นอกจากการชื่นชมพระอาทิตย์ตกดินแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ของศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ (Miyajidake Shrine) นั้น คือ เชือกชิเมะนะวะ (Shimenawa) ซึ่งเป็นเชือกขนาดใหญ่น้ำหนักมากถึง 5 ตัน พร้อมกับความยาวมากถึง 13.5 เมตร  ตกแต่งอยู่บริเวณหน้าศาลเจ้าหลัก โดยเชือกดังกล่าวเกิดจากถักทอขึ้นด้วยช่างฝีมือท้องถิ่นของฟุกุโอกะนั่นเอง 

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

5.ปราสาทคูมาโมโตะ (kumamoto castle)

เที่ยวฟุกุโอกะ

มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวฟุกุโอกะอีกแห่งที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเมืองก็ว่าได้ อย่างที่ปราสาทคูมาโมโตะ (kumamoto castle) ซึ่งเป็นหนึ่งในปราสาทที่สวยงามที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และ เป็นตัวแทนสถาปัตยกรรมปราสาทญี่ปุ่นดั้งเดิมอย่างแท้จริงโดยปราสาทแห่งนี้มีความเก่าแก่ ก่อสร้างขึ้นมาตั้งแต่ในช่วง ค.ศ. 1607 และ ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานร่วม 7 ปี ตัวปราสาทของปราสาทประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างอันงดงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หอปราการของปราสาท 18 จุด, คลังแสง, ป้อมธนู, วังที่ประทับ, หอคอย 3 จุด, ป้อมปืน 49 ป้อม และประตูปราสาทมากถึง 29 จุด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้สร้างอาณาเขตให้ปราสาทมีความกว้างใหญ โดยกินพื้นที่ไปมากกว่า 100,000 ตารางเมตร ซึ่งความสวยงามที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดนั้น คือ สถาปัตยกรรม และ การตกแต่งตัวปราสาทด้วยหิน และ อิฐ มีสีดำน่าเกรงขาม และมาพร้อมกับลักษณะเด่นคือกำแพงที่มีความลาดชันเพื่อวัตถุประสงค์ในการป้องกันการบุกรุกของข้าศึก และ นินจาในสมัยก่อนนั่นเอง 

 

อย่างไรก็ตามในปีจากเหตุแผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 2016 ทำให้ปราสาทเกิดความเสียหาย ทางการญี่ปุ่นจึงได้ประกาศบูรณะตัวปราสาท และในปี 2019 ที่ผ่านมาก็ได้บูรณะปราสาทหลักและเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเฉพาะภายนอก และในปี 2020 ทางการญี่ปุ่นก็ได้ขยายพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเรื่อยๆ นั่นเอง และนอกจากตัวปราสาทแล้ว จุดเด่นที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวไม่แพ้กับความอลังการของตัวปราสาทเลยนั้น คือ บรรยากาศรอบนอกปราสาทที่เต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ไม่ว่าจะเป็น ต้นซากุระพันธุ์, ยามาซากุระ, ฮิโกะ และพันธุ์โยชิโนะ ร่วมเป็นจำนวนมากถึง 700 ต้น ซึ่งบอกเลยว่าการมาเที่ยวฟุกุโอกะในฤดูใบไม้ผลิอย่าได้พลาดแวะเข้าเยี่ยมชม ปราสาทคูมาโมโตะ (kumamoto castle) เป็นอันขาด เพราะต้นไม้รอบปราสาทจะทำการเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง ส้ม และ แดง ซึ่งตัดกับตัวปราสาทที่มีสีดำได้อย่างสวยงาม 

 

6.สวนโอโฮริ (Ohori Park) 

เที่ยวฟุกุโอกะ

ที่เที่ยวฟุกุโอกะอีกแห่งที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองที่ต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวงนั้น คือที่สวนโอโดริ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะใจกลางจังหวัดฟุกุโอกะขนาดใหญ่ มีทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่ใจกลางสวน มาพร้อมกับบรรยากาศร่มรื่น รายล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้พลเมือง และ นักท่องเที่ยวได้เล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมใช้ชีวิตประจำวัน อย่าง การปั่นจักรยาน การพายเรือถีบคู่รัก การเดินเล่นชิลล์ๆ หรือ การพาสัตว์เลี้ยง น้องหมา และ น้องแมว มาเดินเล่นแบบไม่เสีบค่าใช้จ่าย รวมไปถึงกิจกรรม หรือ อีเว้นท์ที่ทางการฟุกุโอกะได้จะจัดขึ้นให้ทุกคนได้ร่วมสนุกกัน เช่น กิจกรรมแข่งขันบังคับเรือใบจิ๋ว และ กิกจรรมเต้นออกกำลังกายนั่นเอง

 

ซึ่งนอกจากสวนสาธารณะสวนโอโฮริ (Ohori Park) จะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อยใจ และ คลายเครียดจากการทำงานในช่วงสุดสัปดาห์ของชาวญี่ปุ่นแล้ว สวนแห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวภายในสวนอีกมากมาย โดยไฮไลท์ที่เที่ยวฟุกุโอกะในสวนโอโดริ จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Fukuoka  

เที่ยวฟุกุโอกะ

  • พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Fukuoka : พิพิธภัณฑ์ศิลปะขนาดใหญ่ภายในสวนโอโดริ ภายในรวบรวมผลงานศิลปะจากศิลปินชื่อดังของญี่ปุ่นไว้มากมาย ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกัน ได้แก่ โซนศิลปะก่อน (ศตวรรษที่ 19 และก่อนหน้า) และโซนศิลปะสมัยใหม่และร่วมสมัย (ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา) ซึ่งในแต่ละเดือน ทางพิพิธภัณฑ์จะเปลี่ยนผันงานไปเรื่อยๆ ทำให้นักท่องเที่ยว และ พลเมืองฟุกุโอกะได้รับชมผลงานที่ตแตกต่างกันออกไปในทุกเดือน  

 

7.อิจิรัน ราเมง (Ichiran Ramen) สาขาแรก 

เที่ยวฟุกุโอกะ

มาเที่ยวฟุกุโอกะทั้งที จะไม่มาลองรับประทานราเมงที่ร้านชิมอิจิรัน ราเมง (Ichiran Ramen) คงเหมือนจะมาเที่ยวไม่ถึงเมืองฟุกุโอกะ เพราะร้านราเมงข้อสอบขึ้นชื่อที่โด่งดังไปทั่วโลกแห่งนี้เอง แท้ที่จริงแล้วกลับมีต้นกำเนิดมาจากจังหวัดฟุกุโอกะ โดยในอดีตกว่าจะมาเป็นร้านราเมงข้อสอบอย่างทุกวันนี้ ร้านราเมงแห่งนี้เปิดครั้งแรกในปีค.ศ 1960 โดยเป็นเพียงแค่ร้านรถเข็นเล็กๆ ที่มีชื่อว่า “Futaba Ramen” ซึ่งเนื่องด้วยขายดี รสชาติถูกปากถูกคอชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างยิ่ง ในปี 1966 ทางเจ้าของร้าน คุณโยชิโทมิ มานาบุ จึงได้ตัดสินใจสร้างร้านราเมงขึ้นที่ย่านนาโนกาวะ เขตมินามิ เมืองฟุกุโอกะ จังหวัดฟุกุโอกะ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเร้านเป็น “Ichiran Ramen” นั่นเอง ต่อจากนั้นในปี 1993 ก็ได้มีการเปลี่ยนคอนเซปต์ของร้านให้เป็นเหมือนห้องสอบ โดยให้ลูกค้านั่งทานราเมงอย่างเป็นบล็อกๆ บนโต๊ะไม้ โดยมีไม้ปิดกั้นกับคนที่นั่งข้าง ทั้งนี้เพราะทางเจ้าของร้านต้องการให้ลูกค้าได้มีสมาธิกับการลิ้มลองรสชาติราเมง สูตรเฉพาะจากทางร้าน 

เที่ยวฟุกุโอกะ

ซึ่งหากมาเที่ยวฟุกุโอกะ ต้องไม่พลาดเดินทางไปทานราเมงกันที่ร้านอิจิรัน ราเมงสาขาแรกนั่นคือร้าน “Ichiran Nanokawa” ซึ่งตั้งอยู่ที่ แยก.นาโนกาว่า เขต.มินามิ (ฟูกูโอกะ) แต่ร้านที่นักท่องเที่ยวนิยมไปรับประทานกันมากที่สุดนั้น คือ สาขาสำนักงานใหญ่ที่ ย่านฮากาตะ ในส่วนของเมนูชูโรงของร้าน หนีไม่พ้น ทงคัตซึราเมงสไตล์ฮาตากะแบบดั้งเดิม ซึ่งจุดเด่นคือการราดด้วยน้ำซอสสีแดงสูตรพิเศษจากทางร้านนั่นเอง 

 

8.พิพิธภัณฑ์แห่งชาติคิวชู (Kyushu National Museum)

เที่ยวฟุกุโอกะ

ถึงสถานที่ท่องเที่ยวฟุกุโอกะที่รับรองว่าจะต้องตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่รัก และ ชื่นชอบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และ ศิลปะญี่ปุ่นโบราณอย่างแน่นอน กับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติคิวชู (Kyushu National Museum) ซึ่งพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติซึ่งก่อตั้งเป็นแห่งที่ 4 ของประเทศญี่ปุ่น รองลงพิพิธภัณฑ์ ณ จังหวัดโตเกียว, เกียวโต และ นารา  โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองดาไซฟุ จังหวัดฟุกุโอกะ ภูมิภาคคิวชู และเปิดให้บริการอย่างยาวนานมาตั้งแต่ปีค.ศ 2005 จุดเด่นนั้น คือ สถาปัตยกรรมที่ล้ำสมัย ตกแต่งด้วยกระจกทั้งอาคาร ทำให้สามารถสะท้อนทัศนียภาพโดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นวิวท้องฟ้า และ วิวภูเขา กลมกลื่นไปกับธรรมชาติได้อย่างงดงาม 

 

ภายในพิพิธภัณฑ์ได้จัดแสดงนิทรรศกาลในหัวข้อวัฒนธรรม ศิบปะ และชีวิตความเป็นอยู่ของชาวญี่ปุ่นที่ได้รับการถ่ายทอกจากสายตาของชาวเอเชีย ทั้งนี้เนื่องจากจังหวัดฟุกุโอกะในอดีต เป็นจังหวัดเมืองท่าสำหรับการค้าขาย และ การาคมนาคมกับประเทศเอเชียเพื่อบ้าน อีกทั้งยังเป็นจังหวัดในประเทศญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้กับเอเชียพื้นที่ดินใหญ่มากที่สุดอีกด้วย เพราะฉะนั้นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติคิวชู จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวฟุกุโอกะที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดนั่นเอง  

 

9.วัดโคเมียวเซ็นจิ (Komyozenji)

เที่ยวฟุกุโอกะ

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวฟุกุโอกะกันในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงระหว่างกลางเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงต้นเดือนธันวาคม (ภูมิภาคคิวชู จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นพื้นที่ในประเทศญี่ปุ่นที่ใบไม้เปลี่ยนสีช้าที่สุด) สถานที่เที่ยวฟุกุโอกะแนะนำ ที่คุณจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามมากที่สุดนั้น คือที่วัดโคเมียวเซ็นจิ (Komyozenji) ซึ่งเป็นวัดที่เก่าแก่อีกหนึ่งแห่งของประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยคามาคุระ (ค.ศ. 1192-1333) ตั้งอยู่ที่เมืองดะไซฟุ จังหวัดฟุคุโอกะ ถึงแม้ว่าวัดแห่งนี้จะไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังเมื่อเทียบกับวัด หรือ ปราสาทอื่นๆ ในประเทศญี่ปุ่น แต่สำหรับชาวฟุกุโอกะแล้ว วัดเล็กๆ แห่งนี้กลับมีความศักสิทธิ์ อยู่คู่กับบ้านเมืองมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ทัศนียภาพของวัดแห่งนี้ก็ไม่แพ้กับวัดใหญ่ๆ ของญี่ปุ่นในเมืองอื่นๆ เลย 

 

โดยตัววัดจะมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมญี่ปุ่นโบราณอันงดงาม และ การจัดแต่งสวนสไตล์ญี่ปุ่นซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนด้วยกัน ได้แก่ โซนสวนหินที่มีการจัดวางหินออกมาเป็นตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า “แสงสว่าง” และ โซนสวนญี่ปุ่น ที่รายล้อมไปด้วยต้นเมเปิ้ลบนทรายสีขาว และในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้เหล่านี้จะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง-ส้ม เกิดเป็นภาพทัศนียภาพทางธรรมชาติที่งดงามมากเลยทีเดียว 

10.ศาลเจ้าคามาโดะ (Kamado Shrine)

เที่ยวฟุกุโอกะ

ปิดท้ายที่เที่ยวฟุกุโอกะที่สุดท้ายที่ทาง Artralux อยากแนะนำให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเยี่ยมชมให้ได้หากมีโอกาสนั้น คือที่ “ศาลเจ้าคามาโดะ (Kamado Shrine)” หรือชื่อเต็มๆ คือ “ศาลเจ้าโฮมังงูคามาโดะ” ซึ่งเชื่อว่าหากคุณเป็นแฟนคลับของอนิเมะญี่ปุ่นชื่อดัง เรื่อง Kimetsu no Yaiba หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ ดาบพิฆาตอสูร คงจะคุ้นชื่อของศาลเจ้าแห่งนี้กันเป็นอย่างดี เพราะชื่อคามาโดะนี่เอง เป็นชื่อเดียวกันตัวละครเอกของเรื่องที่ชื่อ ทันจิโร่ คามาโดะ ทำให้แฟนคลับของอนิเมะเรื่องนี้ต่างแห่เข้ามาศักการะบูชาศาลเจ้าที่มีความเกี่ยวข้องกับอนิเมะที่พวกเขาชื่นชอบ นอกจากนี้นักบวชของศษลแห่งนี้ยังสวมใส่ชุดคลุมลายตารางหมากรุกเหมือนกับชุดของตัวเอกของเรื่อง ส่งผลให้ศาลเจ้าคามาโดะ กลายเป็นศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงอย่างมากในปัจจุบัน   

 

ศาลเจ้าคามาโดะ (Kamado Shrine) ตั้งอยู่บนภูเขาโฮมัง ซึ่งถือว่าเป็นภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งของ เมืองดาไซฟุ ในจังหวัดฟุกุโอกะ โดยศาลเจ้าแห่งนี้ถูกก่อสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเหล่าเทพเจ้านับพันที่ประทับอยู่ ณ ภูเขาโฮมัง โดยหนึ่งในเทพเจ้านั้น คือ เทพเจ้าทามาโยริ ฮิเมะ ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่สามารถนำผู้คนมารวมกันได้ ด้วยเหตุนี้ศาลเจ้าคามาโดะจึงเป็นที่รู้จักกันดีในนามของศาลเจ้าที่สามารถให้พรเรื่องความรักนั่นเอง 

 

ซึ่งนอกจากการเดินทางมาศักการะขอพรเทพเจ้าในเรื่องของความรักแล้ว อีกหนึ่งมุมท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวฟุกุโอกะชื่อดังก็ว่าได้นั้น คือที่บริเวณซุ้มประตูไม้ ที่ถูกโอบกอดด้วยต้นเมเปิ้ลทั้งสองข้างทาง ให้บรรยากาศโรแมนติกที่แสนอบอุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูไบไม้ร่วงนั่นเอง 

เที่ยวฟุกุโอกะ

นักท่องเที่ยวคนไหนที่สนใจเดินทางไปท่องเที่ยวจังหวัดฟุกุโอกะ ภูมิภาคคิวชู แต่ไม่รู็ว่าจะต้องเริ่มต้นการเดินทางอย่างไร วางแผนยังไงให้สามารถเที่ยวได้ครบในทุกแลนด์มาร์กในเวลาอันสั้น และ จะจองตั๋วเครื่องบิน และ โรงแรมอย่างไร ที่จะให้ความคุ้มค่ามากที่สุด เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เพราะ Artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำมาพร้อมกับบริการวางแผนโปรแกรมท่องเที่ยวฟุกุโอกะ จัดทำโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวร่วม 10 ปี รับรองได้เลยว่า จัดเต็ม ไปครบทุกแลนด์มาร์กแน่นอน และหากใครที่อยากท่องเที่ยวในรูปแบบทัวร์ ทางเรายังมาพร้อมกับโปรแกรมทริปท่องเที่ยวฟุกุโอกะแบบส่วนตัว ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ Cutsomize ให้นักท่องเที่ยวได้สออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะอยากเที่ยวที่ไหน นอนโรงแรมระดับใด ทานอาหารพื้นเมืองที่ไห หรือ แม้แต่บินสายการบินอะไร เราจัดสรรค์ให้ได้อย่างแน่นอน

สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)

📞 | 02-047-0083

💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

SHARES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า