“เที่ยวฮอกไกโด” เป็นโปรแกรมท่องเที่ยวที่หลายคนมักนึกถึงเมื่อตั้งใจว่าจะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น เนื่องจากฮอกไกโดนับเป็นอีกหนึ่งโซนที่ขึ้นชื่อเรื่องการท่องเที่ยว โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ธรรมชาติอันสมบูรณ์ อากาศดี คนไม่พลุกพล่าน เที่ยวง่าย สามารถเที่ยวได้แทบทุกช่วงฤดูกาล เหมาะกับการเดินทางมาท่องเที่ยวชิล ๆ สัมผัสกับบรรยากาศกับวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์อย่างใกล้ชิด เรียกได้ว่าในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวหลายคนเดินทางไป ทัวร์ญี่ปุ่น เที่ยวฮอกไกโดไม่น้อยไปกว่าโซนอื่น ๆ อย่างแถบ โตเกียว ฟุกุโอกะ เกียวโต หรือโอซาก้า เลยทีเดียว
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
รวมเหตุผลที่ควรมาเที่ยวฮอกไกโด
สำหรับภูมิภาคฮอกไกโดนั้น ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามของทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ได้รสชาติที่แตกต่างจากการเที่ยวโตเกียวและเที่ยวโอซาก้าที่หลายคนเคยไปอย่างสิ้นเชิง นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณควรไปเที่ยวฮอกไกโดให้ได้สักครั้ง
- ฮอกไกโดมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่งให้คุณไปสำรวจ ไม่ว่าจะเป็นภูเขา ทะเลสาบ บ่อออนเซ็น ไปจนถึงทุ่งดอกไม้ คุณจะได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดเมื่อมาเที่ยวฮอกไกโด
- หากมาเที่ยวฮอกไกโดคุณจะได้ทำกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย เช่น การเล่นสกีในช่วงฤดูหนาว การแช่ออนเซ็น การนั่งเรือชมธารน้ำแข็ง เป็นต้น
- เกาะฮอกไกโดมีเมืองบรรยากาศสุดน่ารัก ให้คุณได้ไปเดินชิล ๆ พร้อมถ่ายรูปสวย ๆ เช่น เมืองซัปโปโร ฮาโกดาเตะ ฟุราโนะ โอตารุ เป็นต้น
- ฮอกไกโดเดินทางง่าย ซึ่งเราแนะนำให้เช่ารถขับ ซึ่งจะทำให้คุณเห็นบรรยากาศอันสวยงามของฮอกไกโด
- ที่ฮอกไกโดมีร้านอาหารญี่ปุ่นอร่อย ๆ และรสชาติเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกับที่อื่น ผู้ที่เดินทางมาเที่ยวฮอกไกโดจะได้ชิมรสชาติที่หลากหลาย
Top 10 ที่เที่ยวฮอกไกโด ประจำปี 2024
ไม่ว่าจะคุณจะเดินทางไปเที่ยวเมืองอื่น ๆ ในญี่ปุ่นมาแล้ว หรือเพิ่งจะเดินทางมาเยือนญี่ปุ่นครั้งแรก หากอยากสัมผัสกับบรรยากาศที่งดงามของธรรมชาติของฮอกไกโด เดือนไหนดี เราก็ขออาสาแนะนำ Top 10 สถานที่เที่ยวฮอกไกโดมาแรงประจำปี 2024 มาให้เป็นแนวทางดังต่อไปนี้
1. โรงงานช็อกโกแลต ชิโรอิ โคอิบิโตะ (Shiroi Koibito Park)
ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวฮอกไกโดที่แรกกับโรงงานช็อกโกแลต ชิโรอิ โคอิบิโตะ ที่ตั้งอยู่ในเมืองซัปโปโร โดยสถานที่แห่งนี้มีการตกแต่งให้ดูสดใสสไตล์สวนสนุก มอบรอยยิ้มและความสนุกสนานให้กับผู้มาเยือนเหมือนเข้าสู่ดินแดนขนมหวานในเทพนิยาย ภายในโรงงานแห่งนี้จะมีการผลิตช็อกโกแลตในแบรนด์ของตนเอง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมกระบวนการทำช็อกโกแลตได้อย่างใกล้ชิด รวมถึงมีสถานที่น่าสนใจมากมายให้ได้แวะชม มีมุมสวย ๆ ให้ได้ถ่ายรูป มีกิจกรรมมากมายให้ทำ และมีร้านขายขนมหวานให้ซื้อติดมือกันไปชิม หากคุณเป็นผู้ชื่นชอบการทานขนมและการถ่ายรูป แนะนำว่าให้แวะมารับรองไม่ผิดหวัง
ไฮไลท์ของการเที่ยวฮอกไกโดชมโรงงานช็อกโกแลต ชิโรอิ โคอิบิโตะ
- ถ่ายรูปสวย ๆ ไปกับสวนดอกกุหลาบบริเวณลานด้านหน้าโรงงาน ซึ่งจะมีดอกกุหลาบมากมายกว่า 100 ชนิด มีหอนาฬิกาสุดน่ารักเป็นแลนด์มาร์กบริเวณฉากหลัง เมื่อครบทุกชั่วโมงจะมีตุ๊กตาออกมาจากนาฬิกาให้ได้ชม และถ้าคุณมาในช่วงฤดูหนาวก็จะพบการประดับไฟสวยงามให้ชมอีกด้วย
- นั่งรถไฟเพลิน ๆ บริเวณด้านหน้าของโรงงาน ซึ่งจะเป็นรถไฟขบวนเล็ก ๆ ตกแต่งสุดแฟนตาซีคล้ายกับรถไฟในสวนสนุก
- สัมผัสบรรยากาศประวัติศาสตร์ของช็อกโกแลตผ่านการฉายภาพเสมือนที่ Chocotopia House มอบความเพลิดเพลินและได้ความรู้ตลอดครึ่งชั่วโมง
- ชมการผลิตช็อกโกแลตและของหวานอื่น ๆ ของจริง! ซึ่งคุณจะเห็นทุกขั้นตอนของการทำขนมหวาน ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบไปจนถึงการทำออกมาสำเร็จพร้อมทาน
- แวะทานช็อกโกแลตและขนมต่าง ๆ ซึ่งจะมีร้านคาเฟ่ และร้านขายขนมมากมายให้คุณเลือก จะถูกจัดมาให้อย่างมีสีสันน่ารับประทาน ได้ทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจหลังจากการ
- ถ่ายรูปสวย ๆ ลงโซเชียล
- Workshop ทำขนมด้วยตัวคุณเอง ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญมาสอนให้ทำอย่างใกล้ชิด
2. พิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโร (Sapporo Beer Museum)
นักท่องเที่ยวสายดื่มต้องถูกใจสิ่งนี้ เพราะหากคุณเดินทางมาเที่ยวฮอกไกโด คุณจะพบกับสวรรค์ของเหล่านักดื่มที่พิพิธภัณฑ์เบียร์เมืองซัปโปโร โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เคยเป็นโรงงานผลิตเบียร์ท้องถิ่นอันเลื่องชื่อมาก่อน แต่ก็ได้ถูกปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1987 ภายในจะมีองค์ความรู้บอกเล่าเรื่องราว
ประวัติศาสตร์เบียร์ในประเทศญี่ปุ่น มีการนำเสนอวิธีการผลิตเบียร์ในแต่ละประเภท ซึ่งมีการเรียบเรียงเนื้อหาออกมาอย่างน่าสนใจ ภายในอาคารที่ยังคงรูปแบบดั้งเดิมเอาไว้ซึ่งจะเป็นโครงสร้างอิฐแดง หลังคาทรงสูง มีการจัดแสงไฟสลัว ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศให้อยากดื่มขึ้นไปอีก
มาชมพิพิธภัณฑ์เบียร์ทั้งทีจะจากไปโดยไม่ได้ดื่มสักแก้วก็คงจะรู้สึกแปลก ๆ ซึ่งที่แห่งนี้มีลานเบียร์ที่อยู่ด้านข้าง มีร้านขายเบียร์ท้องถิ่นให้คุณดื่มมากมายหลายแบรนด์ รวมถึงมีร้านเนื้อย่างแสนอร่อยไว้ทานควบคู่กันไปด้วย ลองจินตนาการดูได้เลยว่าหากตะลอนเที่ยวฮอกไกโดมาเหนื่อยทั้งวัน แล้วมาแวะพักทานเบียร์และเนื้อย่าง ณ ที่แห่งนี้ บอกเลยว่าฟินสุด ๆ
เบียร์ซัปโปโรมีมากมายถึง 300 ชนิด และมีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากที่อื่น หากคุณเป็นสายดื่มอยู่แล้ว เราก็แนะนำให้ปักหมุดพิพิธภัณฑ์เบียร์ไว้ในโปรแกรมเที่ยวฮอกไกโดของคุณด้วยเลย สำหรับพิพิธภัณฑ์เบียร์ซัปโปโรจะสามารถเข้าชมได้ฟรี เปิดให้บริการตั้งแต่ 11:30-18:00 และปิดให้บริการในวันจันทร์
3. คลองโอตารุ (Otaru Canal)
ขอนำทุกท่านเดินทางมายังเมืองโอตารุ เมืองเล็ก ๆ ที่มีความน่ารักและมีเสน่ห์อันน่าหลงใหล เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่คนมาเที่ยวฮอกไกโดมักจะเดินทางมาเช็กอินกัน สำหรับเมืองโอตารุนั้นจะมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย แต่จุดเด่นที่เป็นไฮไลท์ของเมืองนี้ก็คือคลองโอตารุนั่นเอง
คลองโอตารุ เป็นหนึ่งในคลองที่มีความสำคัญกับเมืองแห่งนี้มาอย่างยาวนาน โดยเป็นจุดขนส่งสินค้าและท่าเรือ แต่มาถึงยุคปัจจุบันพื้นที่บริเวณคลองโอตารุก็ได้ปรับเปลี่ยนไปเป็นร้านค้าและถนนคนเดิน บรรยากาศของคลองโอตารุนั้นมีความสวยงาม คุณจะเห็นทัศนียภาพของสองฝั่งคลองที่ยังคงมีกลิ่นอายของยุคโบราณเอาไว้ เมื่อถึงเวลาเย็น ๆ ก็จะมีเหล่าศิลปินมาโชว์งานศิลปะภาพวาด และแสดงดนตรี ท่ามกลางแสงไฟสลัว ๆ ของโคมไฟที่ทอดยาวตามแนวฝั่งคลอง เหมาะกับการเดินทางถ่ายรูปเล่นชิล ๆ และแวะซื้อสินค้างานอาร์ตท้องถิ่นเป็นที่ระลึก นอกจากนี้หากคุณแวะมาเที่ยวฮอกไกโดในช่วงฤดูหนาว ก็จะได้เห็นงาน Otaru Snow Light Path Festival ซึ่งจะเป็นการนำไฟสวยงามมาประดับตามคลองสว่างไสว นับเป็นภาพที่งดงามมาก
นอกจากคลองโอตารุแล้ว ยังมีสถานที่เที่ยวอื่น ๆ ในโอตารุอีกมากมายที่ควรแวะไป เช่น พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี โรงงานเป่าแก้วคิตะอิจิ ถนนซาไกมาจิ (ย่านขายขนมชื่อดัง) ภูเขาเท็นงู เป็นต้น หากคุณมีแพลนจะเที่ยวฮอกไกโด เราแนะนำให้แวะมานอนที่โอตารุกันสักคืน
4. จุดชมวิวบนเขาฮาโกดาเตะ
เดินทางมาเที่ยวฮอกไกโดทางด้านใต้ของเกาะกันบ้าง เพราะที่นี่มีเมืองท่าอันน่าสนใจอย่างฮาโกดาเตะรอคุณอยู่ สำหรับเมืองนี้จะมีสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์มากมายไม่แพ้ที่อื่น แต่ที่เด่น ๆ ก็คือจุดชมวิวบนยอดเขาฮาโกดาเตะ ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่มีทัศนียภาพอันงดงามอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว คุณจะเห็นวิวแบบ 360 องศา เห็นเมืองฮาโกดาเตะทั้งเมืองอยู่ด้านล่าง ขนาบทั้งข้างด้วยชายฝั่งทะเล เหมาะกับการชมวิวเมืองฮาโกดาเตะในยามค่ำคืน และถ่ายภาพสวย ๆ
สำหรับการเดินทางขึ้นมาชมวิวบนภูเขานี้ แนะนำให้นั่งกระเช้าขึ้นมา ซึ่งคุณจะดื่มด่ำกับวิวอันสวยงาม และได้ฟีลสนุกสนานกับการขึ้นกระเช้าผจญภัย โดยกระเช้าจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 นาทีก็ถึงด้านบน หากชมวิวจนจุใจแล้ว เราขอแนะนำให้แวะมาเที่ยวโกดังอิฐแดงคาเนโมริที่อยู่ข้าง ๆ กัน ซึ่งสถานที่แห่งนี้จะเป็นแหล่งศูนย์รวมร้านค้ามากมาย ซึ่งขายของหลากหลายประเภททั้งเครื่องประดับ เสื้อผ้า ของเล่น ของฝาก และคาเฟ่ร้านอาหาร เหมาะกับการตะลอนเดินช้อปปิ้งและหามุมถ่ายรูปชิค ๆ
5. จุดเล่นสกีเมืองนิเซโกะ (Niseko)
ขอแนะนำไฮไลท์ทริปเที่ยวฮอกไกโดในช่วงฤดูหนาวกันบ้าง ซึ่งฤดูหนาวที่ฮอกไกโดนั้นพื้นที่จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะอันขาวโพลน ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์ในช่วงฤดูหนาวของฮอกไกโดนั้นคงหนีไม่พ้นเมืองนิเซโกะนั่นเอง ซึ่งเมืองนิเซโกะมีชื่อเสียงในฐานะจุดเล่นสกีระดับโลก เพราะเกล็ดหิมะของที่นี่มีความนุ่มละเอียด เหมาะกับการเล่นสกี ประกอบกับบรรยากาศที่มีทิวภูเขาหิมะอันงดงามเป็นฉากหลัง ยิ่งทำให้การแวะมาลานสกีที่นิเซโกะน่าตื่นตาตื่นใจมากกว่าเดิม
สำหรับไฮไลท์ของการมาเที่ยวนิเซโกะก็คือการทำกิจกรรมฤดูหนาว อย่างการเล่นสกีและเล่นสโนว์บอร์ด ซึ่งโดยส่วนมากรีสอร์ตที่พักจะมีพวกชุดอุปกรณ์ให้เช่าหรือเตรียมไว้ให้ แม้ว่าคุณจะไม่เคยเล่นสกีมาก่อนแต่คุณก็สามารถเรียนรู้ได้ เนื่องจากที่นิเซโกะนี้มีจุดเล่นสกีหลายระดับตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงระดับโปร แต่ถ้าคุณไม่ชอบเล่นสกีก็ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น ขับขี่สโนว์โมบิล เดินทางไกลชมวิวภูเขาหิมะ ตกปลาน้ำแข็ง เป็นต้น นับเป็นสถานที่เที่ยวฮอกไกโดที่น่าสนใจสำหรับผู้ชอบทำกิจกรรมต่าง ๆ
เมืองนิเซโกะนั้นอยู่ห่างจากซัปโปโรอยู่พอประมาณ หากขับรถมาเองจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หรือถ้าคุณอยากชมทัศนียภาพตลอดการเดินทางก็แนะนำให้นั่งรถไฟมาได้เช่นกัน นิเซโกะมีที่พักและรีสอร์ตมากมายให้คุณเลือก ตั้งแต่โฮมสเตย์บ้าน ๆ ไปจนถึงที่พักระดับหรูราคาแพงซึ่งจะมอบประสบการณ์พักผ่อนที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังมีที่พักบางแห่งยังมีออนเซ็นให้คุณได้เลือกใช้บริการ หลังจากเล่นสกีมาเหนื่อย ๆ ก็เอาตัวแช่ออนเซ็นผ่อนคลาย พร้อมชมบรรยากาศทิวทัศน์หิมะอันงดงาม พอแช่จนฟินแล้วก็มารับประทานอาหารเซ็ตไคเซกิท้องถิ่นของฮอกไกโด ก็จะสร้างความประทับใจให้ผู้มาเที่ยวฮอกไกโดแบบไม่มีวันลืม
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
6. น้ำพุร้อนโนโบริเบ็ตสึ (Noboribetsu-shi)
โนโบริเบ็ตสึ เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีชื่อเสียงด้านออนเซ็น เพราะภูมิประเทศของที่นี้แต่เดิมนั้นเป็นภูเขาไฟมาก่อน ซึ่งน้ำพุร้อนที่นี่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว เหมาะกับการแวะมาพักผ่อนทำสปาผ่อนคลายและแช่ออนเซ็นฟิน ๆ พร้อมชมความงดงามของธรรมชาติ สำหรับท่านใดที่มาเที่ยวฮอกไกโดแล้วอยากแช่น้ำร้อนออนเซ็นก็ให้ปักหมุดมาที่แห่งนี้เลย
สำหรับภายในเมืองแห่งนี้มีสถานที่ไฮไลท์ที่ควรแวะไปได้แก่
- หุบเขานรก หรือจิโกคุดานิ เป็นหุบเขาที่มีความร้อนระอุเป็นไอตลอดเวลาเนื่องจากเป็นปากปล่องภูเขาไฟ และเป็นต้นกำเนิดของธารน้ำร้อนที่มีแร่ธาตุนานาชนิด ที่นี่จะมีสะพานไม้ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินลงไปชมบ่อน้ำร้อนได้อย่างใกล้ชิด
- สวนหมีโนริเบ็ตสึ เป็นพื้นที่สวนสัตว์ให้คุณใกล้ชิดน้องหมีสีน้ำตาล สัตว์ท้องถิ่นประจำฮอกไกโด โดยสวนหมีจะอยู่บนภูเขา ต้องนั่งกระเช้าขึ้นไปชม
- จุดให้บริการบ่อออนเซ็นโนโบริเบ็ตสึ เป็นย่านที่มีโรงแรมที่พักมากมายหลายสไตล์ ให้คุณแช่บ่อออนเซ็นไปแบบฟิน ๆ ซึ่งจะมีทั้งบ่อออนเซ็นส่วนตัวของโรงแรมที่พัก และบ่อออนเซ็นสาธารณะ นับเป็นที่เที่ยวฮอกไกไฮไลท์สำหรับผู้ชื่นชอบแช่ออนเซ็น
- หมู่บ้านนินจาดาเตะจิไดมุระ เป็นหมู่บ้านจำลองธีมบรรยากาศนินจายุคโบราณ มีจุดถ่ายรูปสวย ๆ สไตล์ย้อนยุค และมีโชว์การแสดงของนินจาให้ได้ชม
7. สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo)
เที่ยวฮอกไกโดชมความงามของธรรมชาติกันไปเยอะแล้ว เราขอเปลี่ยนบรรยากาศพาทุกท่านมาชมความน่ารักของเหล่าสัตว์โลกกันบ้างที่สวนสัตว์อะซาฮิยาม่า ซึ่งสวนสัตว์แห่งนี้มีการออกแบบมาเป็นอย่างดี มีพื้นที่กว้าง อากาศถ่ายเทสะดวก จำลองบรรยากาศใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด ให้สัตว์ได้ผ่อนคลาย รวมถึงมีการจัดพื้นที่ให้ผู้ชมเห็นสัตว์ต่าง ๆ ได้โดยไม่รบกวนน้อง ๆ มากจนเกินไป สำหรับเหล่าสัตว์ที่คุณจะพบก็มีมากมายเช่น นกเพนกวิน แมวน้ำ หมีขาว ฮิปโป คาปิบาร่า สิงโต และสัตว์อื่น ๆ อีกมากมายกว่า 700 ชนิด นับเป็นอีกหนึ่งสวนสัตว์น่ารัก ๆ ที่ควรแวะมาเมื่อมาเที่ยวฮอกไกโด
ไฮไลท์ของสวนสัตว์อะซาฮิยาม่าก็คือการแสดงโชว์ความน่ารักของบรรดาเหล่าสัตว์ โดยเฉพาะขบวนพาเหรดนกเพนกวินที่จะเดินออกมาทักทายกับเหล่านักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิดในฤดูหนาว รวมถึงการแสดงโชว์ความสดใสของน้องแมวน้ำและหมีขาวให้ได้ชมทุกช่วงฤดู ตลอดจนการให้โชว์ให้อาหารกับเหล่าสัตว์ต่าง ๆ
สวนสัตว์แห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองอะซาฮิกาว่า คุณสามารถเดินทางมาชมได้โดยนั่งรถบัสประจำทางของเมืองหมายเลข 41, 42 และ 47 มาลงที่สถานี Asahiyama Zoo หรือจะสะดวกกว่าถ้าเช่ารถขับมาเที่ยวเอง หากใครมาเที่ยวฮอกไกโดตอนเหนืออย่างเมืองอะซาฮิยาม่า แนะนำให้แวะมาเยี่ยมน้อง ๆ ที่สวนสัตว์แห่งนี้
8. สระอะโออิเคะ (Aoiike Blue Pond)
ขอพาทุกท่านเดินทางลึกเข้ามายังเกาะฮอกไกโดทางตอนเหนือ คุณจะพบกับสถานที่เที่ยวฮอกไกโดลับที่หลายคนอาจยังไม่รู้จัก นั่นก็คือสระอะโออิเคะ สระน้ำสีฟ้าครามรายล้อมด้วยทิวทัศน์อันสวยงามของขุนเขาและป่าไม้ ความโดดเด่นของสระน้ำแห่งนี้คือสีของสระน้ำที่เป็นสีฟ้าสดใสตัดกับสีเขียวของป่าไม้ที่อยู่โดยรอบ สาเหตุที่ทำให้น้ำเป็นสีฟ้านั้นมาจากแร่ธาตุที่ผสมอยู่ในน้ำ ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงเฉดสีตามสภาพอากาศและแสงแดดจากดวงอาทิตย์ หากมาคุณมาเที่ยวในสภาพอากาศสดใสน้ำก็จะเป็นสีครามตามสีของท้องฟ้านั่นเอง
นอกจากสีสันอันสวยงามขอสระน้ำแล้ว นักท่องเที่ยวจะยังคงเห็นต้นไม้นับร้อยต้นที่จมอยู่ในน้ำ ซึ่งต้นไม้เหล่านี้เคยเป็นป่ามาก่อนแต่ถูกน้ำท่วมเพราะมีการกั้นน้ำสร้างเขื่อน ทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพต้นไม้ที่โผล่ออกมากพ้นน้ำสีฟ้า ซึ่งนับเป็นวิวที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง เหมาะกับการถ่ายภาพธรรมชาติสวย ๆ และถ้าหากคุณมาเที่ยวฮอกไกโดในช่วงฤดูหนาว น้ำในสระอะโออิเคะก็จะเป็นทะเลสาบน้ำแข็ง ซึ่งจะให้ความสวยงามในอีกมุม
สระอะโออิเคะ ตั้งอยู่บริเวณทิศตะวันออกของเมืองบิเอะ จังหวัดฮอกไกโด แนะนำให้เช่ารถขับมาจะสะดวกที่สุด โดยขับมาจากเมืองบิเอะประมาณ 15 นาที มีที่จอดรถให้พร้อม หรือนั่งรถบัสจากบิเอะมาก็ได้เช่นกัน สระน้ำอะโอดิเคะสามารถเที่ยวได้ทุกช่วงฤดู และแต่ละฤดูกาลก็จะมีความสวยงามในมุมมองที่แตกต่างกัน นับเป็นอีกหนึ่งความ Unzeen ที่คนมาเที่ยวฮอกไกโดไม่ควรพลาด
9. สวนดอกไม้ฟูราโน่ (Furano Flower Field)
พาทุกท่านที่เดินทางมาเที่ยวฮอกไกโดไปถ่ายรูปสวย ๆ ท่ามกลางทุ่งดอกลาเวนเดอร์ที่เมืองฟูราโน่ ซึ่งเมืองนี้ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามของทุ่งดอกไม้หลากสีสัน และจะมีการเปลี่ยนแปลงความสวยงามไปตามฤดูกาล (ยกเว้นฤดูหนาว) ไม่ว่าจะเป็นทุ่งดอกลาเวนเดอร์ ดอกป๊อปปี้ ดอกทานตะวัน และดอกไม้อื่น ๆ อีกมากมายหลายสายพันธ์ุ ทุ่งดอกไม้ที่ฟูราโน่นั้นมีหลายฟาร์มให้คุณเลือกชมซึ่งแต่ละฟาร์มดอกไม้ก็จะมีเทคนิคกันจัดสวนที่แตกต่างกันออกไปตามสไตล์เฉพาะ ฟาร์มดัง ๆ ที่ได้รับความนิยมก็ได้แก่ ฟาร์มโทมิตะ ฟาร์ม คามิฟูราโน่ ฟาร์มไซกะโนะซาโตะ ฟาร์มคันโน่ เป็นต้น
ไฮไลท์ของการชมดอกไม้ที่เมืองฟูราโน่แห่งนี้อยู่ที่การมาชมทุ่งลาเวนเดอร์ในช่วงฤดูร้อน ประมาณเดือนปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดอกลาเวนเดอร์จะบานพอดี ท้องทุ่งจะเต็มไปด้วยสีม่วงทำให้ถ่ายภาพออกมาสวยงามเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งดอกไม้สวยงามอื่น ๆ ก็มักจะบานในช่วงฤดูร้อนเช่นกัน หากคุณเดินทางมาเที่ยวฮอกไกโดแล้วต้องการสัมผัสกับบรรยากาศอันสวยงามของทุ่งดอกไม้หลากสีที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ท่ามกลางวิวของขุนเขา มีสายลมเย็น ๆ พัดผ่าน แนะนำว่าให้ปักหมุดเมืองฟูราโน่ไว้ในโปรแกรมเที่ยวฮอกไกโดของคุณได้เลย
สำหรับการเดินทางมาเมืองฟูราโน่นั้น คุณสามารถนั่งรถไฟเดินทางมาจากซัปโปโรได้ หรือขับรถเดินทางไปเที่ยวก็ได้โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงจากซัปโปโร
10. เทศกาลหิมะซัปโปโร สวนโอโดริ (Sapporo Snow Festival)
ปิดท้ายกับเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจังหวัดฮอกไกโด และเป็นจุดหมายในฝันของผู้ที่เดินทางมาเที่ยวฮอกไกโดทุกคนกับเทศกาลหิมะซัปโปโร ที่สวนโอโดริ ใจกลางเมืองซัปโปโร ซึ่งงานนี้ถูกจัดขึ้นมาต่อเนื่องมาอย่างยาวนานในทุก ๆ ปี งานนี้เป็นงานแกะสลักประติมากรรมน้ำแข็งอันยิ่งใหญ่ตระการตา มีผู้คนจากทั่วโลกต่างเดินทางเข้าชมเป็นจำนวนมาก
งานเทศกาลหิมะจะถูกจัดขึ้นที่สวยโอโดริ สวนสาธารณะกลางเมืองซัปโปโร ภายในงานจะมีทีมเข้าร่วมแข่งขันแกะสลักน้ำแข็งกันอย่างมากมาย ซึ่งประเทศไทยเองก็ส่งทีมเข้ามาแข่งขันประกวดและได้รางวัลกลับไปเป็นประจำทุกปีอีกด้วย โดยในแต่ละปีจะมีธีมและกติกาการแข่งขันที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ หลังจากการแข่งขันจบแล้ว ผลงานที่เข้าประกวดจะยังคงถูกตั้งไว้ให้เหล่าบรรดานักท่องเที่ยวเข้าไปชมพร้อมถ่ายรูปสวย ๆ รวมถึงมีการประดับประดาแสงสีเพื่อเพิ่มมิติความสวยงามในยามค่ำคืน
นักท่องเที่ยวฮอกไกโดนอกจากจะได้สัมผัสกับความงดงามของงานประติมากรรมแล้ว การเดินชมทิวทัศน์ของเมืองยามค่ำคืนรอบสวนโอโดริก็น่าสนใจเช่นกัน ซึ่งจะมีร้านค้าต่าง ๆ ร้านอาหารท้องถิ่น การแสดงดนตรี อีกมากมายให้คุณได้ชม สำหรับใครจะมาเที่ยวงานเทศกาลหิมะซัปโปโร ต้องวางแผนโปรแกรมเที่ยวฮอกไกโดให้ดี เพราะงานจะจัดขึ้นในช่วงต้นของเดือนกุมภาพันธ์ และจะมีระยะเวลาจัดแค่ 1 สัปดาห์เท่านั้น
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
เที่ยวฮอกไกโด เดือนไหนดี?
ฮอกไกโดเป็นภูมิภาคที่เที่ยวได้ทุกฤดู โดยแต่ละช่วงเดือนแต่ละฤดูก็จะมีความสวยงามและกิจกรรมไฮไลท์ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นแนะนำให้คุณตั้งเป้าในใจก่อนว่าอยากมาชมบรรยากาศแบบไหนหรือมาทำกิจกรรมอะไรที่ฮอกไกโด แล้วเลือกเวลาเดินทางมาให้เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่นหากต้องการเดินทางมาเล่นสกีหรือชมทัศนียภาพหิมะสีขาวโพลน ก็ให้มาในช่วงฤดูหนาว แต่ถ้าอยากชมดอกไม้ก็แนะนำให้มาช่วงฤดูร้อน เป็นต้น
เพื่อเป็นไกด์ไลน์ประกอบการตัดสินใจให้กับคุณเราจะคัดการท่องเที่ยวไฮไลท์ตามฤดูกาลมาให้ดังนี้
- ช่วงฤดูหนาว เดือน ธันวาคม – กุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่มีหิมะตกและเป็นช่วงไฮซีซันของฮอกไกโด เหมาะกับการมาเล่นสกี หรือเล่นสโนว์บอร์ด ซึ่งมีจุดเล่นสกีไฮไลท์ที่นิเซโกะ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Sapporo Snow Festival ที่จะจัดขึ้นในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ด้วย
- ช่วงฤดูใบไม้ผลิ เดือนมีนาคม – พฤษภาคม เป็นช่วงที่อากาศกำลังดี ดอกซากุระกำลังบานสะพรั่ง ซึ่งมีจุดชมซากุระสวยงามอยู่ที่แถบเมืองโอตารุ นอกจากนี้ยังเหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างการเดินป่า การแช่ออนเซ็น ไปจนถึงเดินเที่ยวชมความสวยงามของเมือง
- ช่วงฤดูร้อน เดือนมิถุนายน – สิงหาคม เป็นช่วงที่มีอากาศอบอุ่นและเป็นอีกช่วงที่ได้รับความนิยม การมาเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน นั้นเหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้งหรือเที่ยวชมความงามของบรรยากาศธรรมชาติ ที่เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อนนั้นมีให้เลือกมากมาย เช่น ทุ่งลาเวนเดอร์ที่ฟูราโนะที่กำลังเบ่งบานพอดีเหมาะกับการไปชมอย่างยิ่ง รวมถึงยังมีงานเทศกาลศาลเจ้าฮอกไกโดและเทศกาลโยซาโคอิโซรันให้คุณได้ร่วมสนุกอีกด้วย
- ช่วงฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายน – พฤศจิกายน เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายใบไม้กำลังเปลี่ยนสี พืชผักอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวอาหารการกินจึงมีให้เลือกเยอะ แต่เที่ยวช่วงนี้ต้องระวังเรื่องมรสุมให้ดี เพราะอาจเจอฝนตกในบางพื้นที่
คู่มือแนะนำการเดินทางเที่ยวจังหวัดฮอกไกโด
ฮอกไกโดเป็นภูมิภาคที่มีความสวยงาม คุณจะพบบรรยากาศธรรมชาติตลอดเส้นทางที่คุณเดินทางไปเที่ยว ซึ่งการเดินทางเที่ยวฮอกไกโดนั้นมีหลายทางเลือกได้แก่
- เช่ารถขับ เป็นวิธีที่สะดวกที่สุดเมื่อมาเที่ยวฮอกไกโด โดยเฉพาะถ้าคุณวางแผนเที่ยวไปยังเมืองอื่น ๆ นอกเหนือจากซัปโปโร การเช่ารถขับที่ฮอกไกโดนั้นค่อนข้างง่าย หากคุณมีใบขับขี่สากลก็สามารถเช่ารถขับได้ อีกทั้งถนนที่ฮอกไกโดนั้นขับรถง่าย ถนนหนทางดี รถไม่เยอะ เหมาะกับการขับเที่ยวชิล ๆ แวะชมวิวตามบรรยากาศข้างทาง
ข้อควรระวังการเช่ารถขับที่ฮอกไกโด แม้ว่าค่าเช่ารถจะไม่แพงมากนัก แต่ค่าทางด่วนกับค่าที่จอดรถนั้นค่อนข้างแพง แนะนำว่าให้คำนวณค่าใช้จ่ายให้ดี รวมถึงหากคุณเที่ยวฮอกไกโดฤดูหนาว ถนนหนทางจะเต็มไปด้วยหิมะและบางวันอาจมีสภาพอากาศรุนแรง แนะนำให้เช็กสภาพอากาศให้ดีก่อนเดินทาง
- รถไฟสาธารณะ หากคุณต้องการประหยัดค่าเดินทาง แนะนำให้นั่งรถไฟเที่ยวฮอกไกโดจะทำให้คุณประหยัดพร้อมได้ชมธรรมชาติขณะเดินทาง สำหรับภูมิภาคฮอกไกโดนั้นจะเหมือนเส้นทางรถไฟของ JR Hokkaido ซึ่งจะเชื่อมต่อเมืองสำคัญและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วทั้งเกาะ ซึ่งจะมีสายสำคัญดังนี้
- Chitose Line เชื่อมต่อระหว่างสนามบินชิโทเสะกับเมืองซัปโปโร ความยาว 60 กิโลเมตร
- Hakodate Main Line เชื่อมต่อเมืองฮาโกดาเตะ, โอตารุ, ซัปโปโร, อาซาฮิคาว่า ความยาว 423 กิโลเมตร
- Muroran Main Line เชื่อมต่อโอชามัมเบกับอิวามิซาว่า ความยาว 211 กิโลเมตร
- Nemuro Main Line เชื่อมต่อทาคิกาว่ากับเนโมโระ ความยาว 443 กิโลเมตร
- Sekishō Line เชื่อมต่อสนามบินชิโทเสะกับชินโทคุ
- Soya Main Line เชื่อมต่อเมืองอาซาฮิกาวะกับเมืองวักกาไน
- รถบัสโดยสาร บนเกาะฮอกไกโดมีเครือข่ายรถบัสอันกว้างขวาง ทั้งรถบัสที่เดินทางไกลระหว่างเมืองและรถบัสท้องถิ่นที่เดินทางในเขตเมือง เหมาะกับใช้เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ห่างไกล ทั้งนี้รถบัสจะมีตารางเดินรถที่แม่นยำ แนะนำให้เช็กเส้นทางและเวลารถก่อนเดินทาง
และทั้งหมดนี้ก็คือสถานที่เที่ยวฮอกไกโด 2024 ยอดฮิต หากคุณอยากไปที่ไหนก็ปักหมุดไว้ในใจ แล้วติดต่อมาให้ Artralux จัดทริปเที่ยวฮอกไกโดส่วนตัวได้เลย อยากไปที่ไหน เรายินดีจัดแฟนเที่ยวให้กับคุณ เท่านี้ยังไม่พอเราขอบริการคุณให้ครบเครื่องไปกับ บริการจองโรงแรมที่พัก บริการจองร้านอาหาร บริการจองกิจกรรมต่าง ๆ บริการจองตั๋วเครื่องบิน ไปจนถึงบริการเช่ารถพร้อมคนขับ ให้คุณนั่งสบาย ๆ เดินทางไปเที่ยวทุกสถานที่ในฮอกไกโดอย่างสะดวกสบาย
เดินทางเที่ยวฮอกไกโด สัมผัสประสบการณ์สุด Luxury ที่เหนือชั้นกว่าใคร ติดต่อมาหาเรา Artralux เลย
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
