“ไปไต้หวัน เที่ยวไหนดี” เชื่อว่าคำถามนี้ เป็นคำถามที่นักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนเดินทางไปเที่ยวไต้หวันกันคงกำลังหาคำตอบ เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แม้ว่าไต้หวัน จะเป็นเกาะขนาดเล็ก แต่ที่แห่งนี้เอง เป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวไอคอนิกชื่อดังระดับโลกมากมาย นอกจากนี้นักท่องเที่ยวที่เคยได้ไปเที่ยวไต้หวันกันแล้ว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตั้งแต่ได้ก้าวเท้าเข้ามาในไต้หวัน ไม่ว่าคุณจะไปเที่ยวไต้หวันที่ไหน คุณจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศจีนโบราณ วัฒนธรรม ประเพณีของคนไต้หวันที่ยังคงรักษาไว้จวบจนปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรืองทางด้านเทคโนโลยีอย่างที่เด่นชัด
ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นอกจากความสวยงามของไต้หวัน และ ธรรมชาติที่หาไม่ได้จากที่ไหนในโลกแล้ว อีกหนึ่งเหตุผลที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางไปเที่ยวไต้หวันกันปีละหลายหมื่นคน (ปี 2566 คนไทยเดินทางไปไต้หวัน 83,000 คน ฟื้นขึ้นกว่า 80% หลังจากโควิด-19 ) จนประเทศไต้หวัน ติด 1 ใน 10 อันดับประเทศที่คนไทยเยือนมากที่สุดนั้น เป็นเพราะค่าครองชีพ และ ค่าเงิน ของไต้หวันที่พอๆ กับประเทศไทย ดังนั้น การเที่ยวไต้หวันสำหรับนักท่องเที่ยวไทย จึงเรียกได้ว่าคุ้มเอามากๆ
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
วันนี้ Artralux จึงได้รวบรวม สถานที่ท่องเที่ยวไต้หวัน ที่ทางเราได้คัดมาแล้วเป็นอย่างดี มีทั้งในเชิงธรรมชาติ สถาปัตยกรรม และ วัฒนธรรม บอกเลยว่า ทริปเที่ยวไต้หวัน 2024 ในครั้งนี้ ไปมากกว่าไทเป สนุก มัน และ อิ่มท้อง แน่นอน
เหตุผลที่คุณจะต้องเที่ยวไต้หวันสักครั้งในชีวิต!
“ไต้หวัน (Taiwan)” เป็นเพียงเกาะเล็กๆ ทางตอนใต้ของประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ ถูกค้นพบโดยนักเดินเรือชาวโปรตุเกส และได้ใช้เวลาเพียงแค่ 400 ปีเท่านั้น ในการพัฒนาประเทศจนได้กลายเป็นอีกหนึ่งประเทศมหาอำนาจ ที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และ เศรษฐกิจมากที่สุดในทวีปเอเชีย นอกจากชื่อเสียงทางด้านเศรษฐกิจ และ การส่งออกระดับโลกแล้ว ที่เที่ยวไต้หวัน ก็เป็นเสมือนแม่เหล็กดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวไต้หวันมากขึ้นในทุกปี ทั้งนี้เนื่องจากไต้หวัน เต็มไปด้วยที่เที่ยวทางธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์ และที่เที่ยวทางวัฒนธรรม และ ศาสนา แม้ว่าไต้หวันจะมีพื้นที่ขนาดเล็ก เทียบเท่ากับ 6 จังหวัดในประเทศไทย หรือ ใหญ่กว่าประเทศมาเลเซียเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
1. ที่เที่ยวไต้หวันหลากหลาย
“ไปไต้หวัน เที่ยวไหนดี” คำถามนี้ บอกเลยว่าตอบยากมาก ทั้งนี้เนื่องจากประเทศไต้หวัน มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ครบทุกแนว ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ทั้งภูเขา น้ำตก ลำธาร และ อุทยานแห่งชาติ, การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ศาสนา หรือ แม้แต่สถานที่ชอปปิ้ง ซึ่งไต้หวันเอง ก็มีชื่อเสียงเรื่องการชอปปิ้งสินค้าแบรนเนมแท้ ในราคาที่ถูกกว่าที่อื่นๆ อีกด้วย
2. ค่าเงินถูก เที่ยวไต้หวันสบายกระเป๋า
อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น ค่าเงินของประเทศไต้หวันนั้น ค่อนข้างถูก เทียบเท่ากับค่าเงินบ้านเราก็ว่าได้ โดยสกุลเงินไต้หวัน คือ เงินสกุล ดอลลาร์ไต้หวัน (New Taiwan Dollar หรือ NTD) ซึ่งในปัจจุบัน (อ้างอิงข้อมูลวันที่ 14 กันยายน 2566) อัตราเทียบเท่ากับเงินบาทไทย อยู่ที่ 1 ดอลลาร์ไต้หวัน เท่ากับ 1.11 บาทไทยเท่านั้นเอง
3. ระบบขนส่งสาธารณะดีเลิศ
ไต้หวัน เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องระบบขนส่งสาธารณะ ที่หลากหลาย มีความตรงต่อเวลา และ ปลอดภัยสูง โดยตัวเลือกระบขนส่งสาธารณะในไต้หวันนั้น มีด้วยกันถึง 6 รูปแบบ ได้แก่
- รถไฟธรรมดาไต้หวัน (TRA)
- รถไฟความเร็วสูงไต้หวัน (THSR)
- รถไฟฟ้าใต้ดิน
- รถ Shuttle Bus
- รถแท็กซี่
- รถจักรยานสาธารณะ (YouBike)
ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวไต้หวันแล้ว เรียกได้ว่าครอบคลุมที่พื้นที่อย่างแน่นอน
4. อาหารไต้หวันอร่อย
อีกหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวไต้หวันต้องไม่พลาด คือ การตะลุยชิมอาหารไต้หวัน ต้นตำรับแท้ๆ ที่ร้านดังของไต้หวัน เพราะประเทศไต้หวันนั้น ขึ้นชื่ออาหารอร่อย มีรสชาติจัดจ้านคล้ายคลึงกับอาหารไทย และ มีการผสมผสานอิทธิพลของอาหารหลากหลายเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเป็นหจีนมินหนาน จีนแต้จิ๋ว จีนฮกเกี้ยน และ อาหารญี่ปุ่น ซึ่งไม่ว่าคุณจะเที่ยวไต้หวันอยู่ที่เมืองไหน คุณจะพบเจอร้านอาหารหลากหลายประเภท ตั้งแต่ ระดับร้านสตรีทฟู้ด ไปจนถึงร้านอาหารระดับภัตตาคาร นอกจากนี้
15 ที่เที่ยวไต้หวัน สวยงามราวกับสวรรค์บนดิน
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวไต้หวันที่มีชื่อเสียง หรือ เสิร์ชหาในกูลเกิ้ลว่าไปเที่ยวไต้หวันที่ไหนดีนั้น สถานที่ท่องเที่ยวไต้หวัน ที่ถูกแนะนำ เป็นอันดับต้นๆ หนีไม่พ้น เมืองหลวง สีสันของไตหวัน อย่างเมืองไทเป (Taipei) และ เมืองแห่งการร่องเรือ ขวัญใจนักท่องเที่ยวอย่าง เมืองเกาสง(Kaohsiung) อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง ไต้หวัน มีเมืองน่าเที่ยวมากมาย ซึ่งต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเป็นของตัวเอง
1. เมืองจีหลง (Keelung)
เริ่มกันที่เมืองแรกกับเมืองจีหลง (Keelung) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวไต้หวันที่หลายคนมักมองข้าม เมืองจีหลง เป็นเมืองท่าเล็กๆ ติดริมทะเล ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวัน และ 95% ของพื้นที่เมืองเป็นเนินเขาทั้งหมด จึงทำใสห้เมืองนี้ เป็นที่เที่ยวไต้หวัน ขวัญใจนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ
เมืองจีหลง เป็นเมืองการค้าทางคมนาคม และ เมืองทางการประมงที่สำคัญของประเทศไต้หวัน และเนื่องจากที่ใน 1 ปี เมืองจีหลงมีฝนตกกว่า 200 วัน จึงทำให้เมืองนี้ได้รับการขนานนามว่า “The rainy Port” โดยไฮไลท์สถานที่ท่องเที่ยวในเมือง ได้แก่ ท่าเรือการประมงของเมือง (Zhengbin Port Color Houses) ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่บ้านเรือนสีสันสดใสตามแนวท่า มีทั้งร้านอาหาร, ร้านค้า และ ร้านคาเฟ่ที่สวยงามมากมาย และสำหรับใครที่ชอบธรรมชาติ ที่เกาะแห่งนี้ยังมีอุทยานเกาะเหอผิง (Heping Island Park) ซึ่งเป็นอุทยานริมทะเลให้ได้แวะชมอีกด้วย
2. อุทยานธรณีเย๋หลิ่ว (Yehliu Geopark)
Yehliu Geopark หรือ อุทยานธรณีเย่หลิว ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของเมืองนิวไทเป (New Taipei City) เป็นที่เที่ยวไต้หวัน ที่นักท่องเที่ยวสายอุทยานต้องไม่พลาด หากมีโอกาสได้มาท่องเที่ยวไต้หวัน โดยอุทยานแห่งนี้มีลักษณะเป็นแหล่มทอดยาวลงสู่ทะเล ซึ่งหากมองจากด้านบนจะมีลักษณะเหมือนกับเต่าขนาดยักษ์ที่ลอยตัวอยู่กลางทะเลนั้นเอง โดยอุทยานแห่งวนี้ จะแบ่งเป็น 3 โซนด้วยกัน โดยโซนแรก จะเป็นที่ตั้งของหินรูปทรงแปลกตา, ในโซนที่สอง จะพบเจอกับหินรูปหัวมังกร และ หินรูปทรงถั่ว และ ส่วนที่ 3 นักท่องเที่ยวจะได้พบกับถ้ำขนาด และ รูปร่างต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เกิดจากความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติจากการซัดเซาของน้ำทะเล และ การเคลื่อนตัวของเปลือกโลกนั่นเอง
3. เมืองเถาหยวน (Taoyuan)
หากเป้าหมายการท่องเที่ยวไต้หวันของคุณ คือ เน้นชมความงดงามของธรรมชาติ เมืองเถาหยวน (Taoyuan) เป็นเมืองที่ไม่ควรพลาด โดยเมืองเถาหยวน อยู่ห่างจากเมืองไทเป เมืองหลวงของไต้หวันประมาณ 3 ชั่วโมง “เถาหยวน” เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แม้ว่าตัวเมืองจะหันหน้าไปทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ และ ติดริมทะเล แต่สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองกลับเป็นฟาร์มดอกไม้, น้ำตก, หุบเขา และ ภูเขาลูกเล็กๆ ด้วยเหตุนี้เอง เมืองเถาหยวนจึงได้รับการขนานนามว่าเป็น “อาณาจักรดอกไม้” และ “ดินแดนพันบ่อน้ำ” ซึ่งหากคุณอยากทัวร์ไต้หวันแบบลุยๆ เมืองเถาหยวน (Taoyuan) ยังมี Xiao Wulai Skywalk ซึ่งเป็น Sky Walk ที่แรกของไต้หวัน ความสูงกว่า 70 เมตร ซึ่งเมื่อคุณมองลงไป จะพบกับวิวน้ำตก และ หุบเขาอันสวยงาม
4. Sanxia Old Street หรือ ถนนโบราณซานเสีย
หลังจากที่เดินทางท่องเที่ยวไต้หวัน ชื่นชมความงามของธรรมชาติที่เมืองเถาหนวนกันไปแล้ว มาเที่ยวไต้หวันกันต่อในรูปแบบสถาปัตยกรรมเน้นความงามของสถาปัตยกรรม และ ประวัติศาสตร์กันบ้าง โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่เราแนะนำได้แก่ Sanxia Old Street หรือ ถนนซานเสีย ซึ่งเป็นถนนเก่าแก่ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ 1920 ความยาวถนนอยู่ที่ 200 เมตร ตั้งอยู่ในทางตอนใต้ของถนนมินกวน ณ เมืองนิวไทเป
จุดเด่นของถนนเส้นนี้ คือ สถาปัตยกรรมบ้าน และ ตึกที่สร้างด้วยอิฐสีแดง สุดคลาสสิก ผสมผสานการออกแบบสไตล์ตะวันตก กับจีนโบราณได้อย่างลงตัว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดิมชมสถาปัตยกรรม ถ่ายรูป และ แวะร้านค้าต่างๆ เพื่อซื้อของฝากที่น่าสนใจ โดยเฉพาะพู่กันจีน และ ผลงานแฮนเมดต่างๆ
5. วัดชิงสุ่ยจู่ซือ (Qingshui Zushi Temple)
หลังจากที่ได้เดิมชมถนนโบราณ Sanxia Old Street กันเรียบร้อยแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวไต้หวันชื่อดัง ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเส้นถนนโบราณ และ เป็นที่เที่ยวไต้หวันที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก คือที่วัดชิงสุ่ยจู่ซือ (Qingshui Zushi Temple) ซึ่งเป็นวัดที่ได้ชื่อว่างดงามติด 1 ใน 3 ของไต้หวันเลยทีเดียว ซึ่งการเดินทางจากถนนโบราณมาที่วัดแห่งนี้ ก็ง่ายมากๆ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาด้วยเท้า โดยเดินมาสุดถนน จากนั้นข้ามสะพาน แล้วเลี้ยวขวาก็จะเจอกับวัดแล้ว
ไฮไลท์ของวัดแห่งนี้ คือ สถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณของวัดที่งดงาม และ แสดงถึงความประณีตของงานแกะสลัก ตั้งแต่หลังคา, อาคารภายนอก และ ภายใน, เสาหินทุกต้น, รวมไปจนถึงรูปปั้นภายในวัด ด้านหน้าวัด มีประตูเข้าวัดทั้งหมด 5 บาน ซึ่งแสดงถึงสัญญาลักษณ์อันทรงเกียรตินั่นเอง
6. ตึกไทเป 101 (Taipei 101 )
เมื่อพูดถึงเมืองไทเป (Taipei) แน่นอนว่าแลนด์มาร์คที่หากมาเที่ยวไต้หวัน ต้องได้ไปแน่ๆ ถ้าพลาดถือ่ามาไม่ถึงนั้น หนีไม่พ้นตึกไทเป 101 (Taipei 101) ตึกที่สูงที่สุดในไต้หวัน ด้วยความสูงกว่า 101 ชั้น นอกจากนี้ ตึกไทเป 101 ยังเคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกเมื่อปี 2004 อีกด้วย โดยไฮไลท์อยู่ที่ชั้น 89 ซึ่งเป็นชั้นชมวิวที่นักท่องเที่ยวสามารถมองวิวรอบต้หวันได้แบบ 360 องศา หรือ จะขั้นไปปที่ชั้น 91 ซึ่งเป็นชั้นชมวิวกลางแจ้งก็ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ ที่ตึกไทเปนี่เอง คือ ตึกที่ใช้ลูกตุ้มยักษ์ขนาดใหญ่ (Pendulum) หนักกว่า 660 ตัน แขวนไว้ที่ชั้น 90 เพื่อเป็นตัวช่วยในการรักษาสมดุลของตึกที่มีความสูงเสียดฟ้าอย่างตึกไทเป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์แผ่นดินไหว หรือ พายุมรสุม ซึ่งไต้หวันประสบเจอกับเหตุการณ์ทางธรรมชาติเหล่านั้น บ่อยมาก เนื่องจาก ไต้หวัน เป็นหมู่เกาะกลางทะเลนั่นเอง
7. อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก (Chiang Kai-Shek Memorial Hall )
สถานที่ท่องเที่ยวไต้หวัน ในเมืองไทเป นอกจากตึกไทเป 101 อันเลื่องลือแล้ว เมืองไทเปยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อีกหนึ่งแห่ง ที่หากถามว่าเที่ยวไต้หวัน ที่ไหนดี เชื่อว่าคำตอบ ครึ่งหนึ่งคงจะตอบว่า “อนุสรณ์สถานเจียงไคเชก” ซึ่งอนุสรณ์แห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อให้เกียรติประธานาธิบดี เจียง ไคเชก ผู้ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีกว่า 25 ปี อีกทั้งยังเป็นผู้นำไต้หวันที่ได้ทำการอพยพชาวจีนจากจีนแผ่นดินใหญ่กว่าครึ่งหนึ่งเดินทางข้ามทะเลมาตั้งถิ่นฐานที่ไต้หวันนั่นเอง จุดเด่นของอนุสรณ์สถานเจียงไคเชก คือสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณ มีตัวอาคารเป็นสีขาว 4 ด้าน และ หลังคาสีน้ำเงินทรง 8 เหลี่ยม ภายในอาคารได้รวบรวมเรื่องราวความเป็นมาของประธานาธิบดี และ ประเทศไต้หวันเอาไว้มากมาย นอกจากนี้ ทางเข้าอนุสรณ์ ได้มีการตั้งซุ้มประตู 5 ช่อง หรือ ที่ชาวไต้หวันเรียกกันว่า “ไผฟาง(牌坊)” อีกหนึ่งที่เที่ยวไต้หวัน ที่เป็นมุมถ่ายรูปยอดนิยม
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
8. เกาสง (Kaohsiung): ที่สุดของเมืองขนส่งในไต้หวัน
เมืองเกาสง (Kaohsiung) เป็นเมืองท่าสำคัญที่สุดของประเทศไต้หวัน และ เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ จุดเด่นของเมืองเกาสง คือ ระบบการส่ง และ การคมนาคมที่มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน, รถไฟฟ้า, รถไฟใต้ดิน,รถไฟความเร็วสูง, เรือขนส่ง, บริการจักรยาน, บริการรถเช่า และ อีกมากมาย ดังนั้นการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเมือง จึงสะดวกสบาย ทำให้เมืองเกาสงเป็นอีกเมืองในไต้หวันที่มีความเจริญเอามากๆ
ซึ่งหากเดินทางมาเที่ยวเมืองเกาสง (Kaohsiung) แล้วละก็ สถานที่เที่ยวสำคัญที่ต้องไป ได้แก่ “พุทธอุทยานพระใหญ่ โฝ กวง ซาน (Fo Guang Shan Buddha Memorial Center)” เนื่องจากเป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไต้หวัน กินพื้นที่ภูเขากว่าครึ่งลูกเลยทีเดียว โดดเด่นด้วยพระเจดีย์ขนาดใหญ่ ที่เรียงตัวกันอยู่ทั้งสองข้างของศาสนสถาอย่างอลังการ ซึ่งปลายทาง คือ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ ความสูงกว่า 50n เมตร ซึ่งขึ้นชื่อว่า ใหญ่ที่สุดในโลกนั่นเอง
9. เมืองจิ่วเฟิ่น (Jiufen)
สถานที่ท่องเที่ยวไต้หวัน ที่บรรดาแฟนคลับอานิเมชั่นญี่ปุ่นชื่อดังอย่างเรื่อง Spirit aways ผลจาก Studio Ghibli พลาดไม่ได้นั้น คือที่ หมู่บ้านจิ่วเฟิ่น (Jiufen) หมู่บ้านอันเก่าแก่ในเมืองจีหลงของประเทศไต้หวัน เสน่ห์ของหมู่บ้านอันเก่าแก่คือบรรยากาศแบบจีนโบราณที่คุณจะได้รับตั้งแต่ก้าวแรกที่ก้าเข้าสู่หมู๋บ้านแห้่งนี้ โดยทั้งสองข้างถนนเส้น รายล้อมไปด้วยร้านค้าเก่าแก่ และ อาคารบ้านเรือนสถาปัตยกรรมจีนโบราณที่ถูกบำรุงรักษาไว้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นโรงน้ำชา, ร้านขายของชำ หรือ ร้านขายอาหารจีนโบราณ เช่น บัวลอย, ลูกชิ้นปลา และ โรตี ทำให้คุณได้รู้สึกเหมือนได้นั่งไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับไปในอดีตช่วงสงครามโลกเลยก็ว่าได้
นอกจากนี้ ในตอนกลางคืน หมู่บ้านแห่งนี้ จะส่องสว่างไปด้วยไฟประดับจากโคมไฟจีนโบราณ เรียกได้ว่าเป็นบรรยากาศที่คลาสสิครวมกับหลุดออกมาจากในหนังก็ว่าได้
10. อุทยานแห่งชาติอาลีซาน (Alishan National Forest Recreation Area)
อุทยานแห่งชาติอาลีซาน เป็นอุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่ของประเทศไต้หวัน ตั้งอยู่ที่มณฑลเจียอี้ (Chiayi) ตอนกลางของประเทศ ตัวอุทยานกินพื้นที่กว่า 1,400 เฮกเตอร์ ครอบคลุมเทือกเขาอาลีซาน (Alishan Range) ซึ่งเป็นเทือกเขาไต้หวันที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลอยู่ที่ 2,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่ง ณ อุทยานแห่งนี้ มีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่งดงาม เต็มไปด้วยป่าไม้ ภูเขา ลำธาร ไร่ชา รวมไปจนถึงทะเลหมอก โดยกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยม คือ การนั่งรถไฟสีแดงโบราณสุดไอคอนิคของไต้หวัน ที่ชื่อว่า “Alishan Forest Railway” ซึ่งได้ขับผ่านเส้นทางธรรมชาติที่งดงาม พบกับวิวทั้งสองข้างทางรางรถไฟ ซึ่งเป็นต้นสน สันเมเปิล และ ต้นไม้นานาพรรณอีกมากมาย ซึ่งในฤดูใบไม้ผลิ และ ฤดูใบไม้ร่วง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศ ซากุระไต้หวัน หรือใบไม้เปลี่ยนสีนั่นเอง
11. ที่เที่ยวไต้หวันสายฮิป Fujin Street
หากคุณเป็นนักท่องเที่ยวอีกคนที่กำลังตามหาสถานที่ท่องเที่ยวไต้หวันแบบชิลๆ วิวเก๋ๆ สถาปัตยกรรมบ้านเมืองโบราณ เน้นคาเฟ่ และ ร้านอาหารอยู่นั้น ที่ย่าน Fujin Street คือคำตอบ ซึ่งย่านนี้ เป็นย่านที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงของไต้หวันอย่างไทเปมากนัก ตั้งอยู่ใกล้กับสนามบิน Songshan โดยถนนเส้นนี้มีความยาวกว่า 800 เมตร เดิมทีถนนเส้นนี้ไม่ได้ฮิป และ ทันสมัยเหมือนอย่างในปัจจุบัน แต่เมื่อมีนักธุรกิจไฟแรงของไต้หวันเข้ามาในย่าน และ ดึงเอาร้านอาหาร บูติก และ ร้านคาเฟ่เข้ามา ย่าน Fujin Street จึงกลายเป็นหนึ่งในที่เที่ยวไต้หวันขวัญใจวัยรุ่นนั้นเอง โดยร้านคาเฟ่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในย่านนี้ คือ ร้าน Fujin tree 353 cafe ซึ่งเป็นร้านคาเฟ่ร้านแรกๆ ที่เปิดในย่านนี้ มีบรรยากาศอบอุ่น ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น กระจกใส
นอกจากร้านค้า และ คาเฟ่ต่างๆ ที่มีมากมายในย่านแล้ว อีกหนึ่งเสน่ห์ของย่านนี้ คือ สถาปัตยกรรมของบ้านเรือน และ อพาร์ทเมนต์ ที่มีความคลาสสิค ซึ่งผสมผสานกับร้านบูติกสไตล์โมเดิร์นได้อย่างลงตัว
12. เมืองไทจง (TAICHUNG)
เมืองไทจง (Taichung) เป็นเมืองการปกครองพิเศษของไต้หวัน อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวไต้หวันที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เสน่ห์ของเมืองไทจง คือ การผสมผสานระหว่างความทันสมัย และ พื้นที่สีเขียวได้อย่างลงตัว โดยสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองนี้ ได้แก่ โรงละครแห่งชาติไถจง (National Taichung Theatre) ซึ่งแม้ว่าโรงละครแห่งนี้ จะถูกสร้างขึ้นเพื่อจุดประสงค์ในการจัดงานแสดงศิลปะ และ ละคร แต่จุดเด่นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวคือ พื้นที่กว้างขวางที่สามารถมาทำกิจกรรม และ แฮงเอาต์กับเพื่อนๆ ได้ โดยด้านในโรงละคร ประกอบไปด้วยร้านกาแฟ, ร้านอาหาร, ลานโล่งสถาปัตยกรรมที่สวยงามสำหรับถ่ายรูป ไปจนถึงสวนลอยฟ้าสำหรับชมวิว ในส่วนของด้านนอกนั้น มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ และ ลานน้ำพุ ที่สวยงาม
13. ตลาดกลางคืนซื่อหลิน (Shilin Night Market)
เมื่อมาเที่ยวไต้หวันทั้งที ทริปไต้หวันจะสมบูรณ์แบบไปไม่ได้หากคุณไม่ได้ไปสัมผัสบรรยากาศตลาดกลางคืนของประเทศไต้หวัน ซึ่งตลาดที่ขึ้นชื่อที่สุดในประเทศไต้หวันในยามค่ำคืนนั้น จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก ตลาดซื่อหลินไนท์มาร์เก็ต Shilin Night Market ซึ่งบรรยากาศที่นี่ จะครึกครื่นมากๆ เต็มไปด้วยวัยรุ่น ทั้งนี้เนื่องจากตลาดแห่งนี้ อยู่ติดกับโรงเรียน ดังนั้น ราคาอาหาร และ เสื้อผ้า จะมีราคาที่ค่อนข้างถูกพอสมควร แม้ว่าตลอดนี้จะไม่ได้หวือหวา เหมือนอย่างในย่านซีเหมินติง แต่ถ้าเป็นเรื่องของกินแล้วละก็ บอกเลยว่าไม่แพ้แน่นอน เพราะตลาดซื่อหลินไนท์มาร์เก็ต ขึ้นชื่อเรื่องอาหารไต้หวัน ไม่ว่าจะเป็น ฮอทพอตหมาล่า, ไก่ทอด Hot Star (ไก่ทอดขนาดยักษ์ ขนาดเท่าฝ่ามือ), cและ อีกมากมาย
14. เมืองไถหนัน (Tinan) : เมืองที่เก่าแก่ที่สุดในไต้หวัน<H3>
และเมืองสุดท้ายที่ทัวร์ไต้หวันต้องไม่พลาดแวะมาเที่ยวนั้น คือ เมืองไถหนัน (Tainan) หรือ เมืองไถหนาน ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศไต้หวัน อดีตเคยเป็นอาณานิคมของชาวดัตช์ และ ถูกปกครองโดยประเทศญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ ค.ศ. 1662-1887 ทำให้เมืองไถหนัน เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ได้ซ้อนรากฐานประวัติศาสตร์ไต้หวันเอาไว้ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวแปลกๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น บ้านต้นไม้อันผิง (Anping Tree House) หรือ โกดังร้าง ที่ถูกต้นไทรแผ่กิ่งก้านครอบคลุมโกดังเกือบหมด จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ทัวร์ไต้หวัน และ นักท่องเที่ยวที่มาไถหนันนั้น ต้องแวะมาชม เพราะมันเป็นสถานที่ที่น่าทึ่งมากจริงๆ
นอกจากนี้ วัดเจ้าแม่หม่าโจ้วไถหนาน (Tainan Grand Mazu Temple) ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไถหนัน (Tinan) ที่ควรไปศักการะบูชา เนื่องจากวัดแห่งนี้ เดิมทีเป็นที่พำนักของ เชื้อพระวงศ์ราชวงศ์หมิง ‘จูซู่กุ้ย (Zhu Shugui)’ แต่หลังจากที่แม่ทัพแมนจูที่ได้พิชิตอาณาจักรสำเร็จ นางสนมทั้ง 5 และ จูซู่กุ้ย ก็ได้แขวนคอฆ่าตัวตายในที่พักแห่งนี้
15. หมู่บ้านแมวโหวต้ง (Houtong Cat Village)
ข้อปิดท้ายทริปท่องเที่ยวไต้หวัน เอาใจทาสแมวกันที่หมู่บ้านแมวโหวต้ง (Houtong Cat Village) ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองหลวงไต้หวันอย่างเมืองไทเปมากนัก เดิมทีหมู่บ้านแห่งนี้ เคยเป็นแหล่งอุตสาหกรรมเหมืองแร่ที่สำคัญของไต้หวัน แต่ในปัจจุบันธุรกิจได้ซบเซาลง จนทำให้เด็กรุ่นใหม่ได้ย้ายถิ่นฐานออกจากเมืองไปแงหาโอกาสที่เมืองอื่นๆ จนทำให้หมู่บ้านแห่งนี้ หลงเหลือแค่ผู้สูงอายุ บวกกับการที่หมู่บ้านเจอกับสภาวะการขยายพันธุ์ของแมวอย่างต่อเนื่อง จนทำให้มีจำนวนแมวมากกว่าจำนวนประชากรของหมู่บ้าน ทางรัฐบาลจึงได้รณรงค์โพสรูปแมวในหมู่บ้านผ่านโซเชียลมีเดีย เกิดเป็นหมู่บ้านแมวยอดนิยมจนถึงทุกวันนี้
อย่างไรก็ตาม นอกจากการเดินทางมาดูแมวที่นี้แล้ว ที่หมู่บ้านแห่งนี้ยังมีทัศนียภาพที่สวยงาม เนื่องจากเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กกลางหุบเขา รายล้อมไปด้วยป่าไม้ และ ภูเขา บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะกับการมาเที่ยวไต้หวันเพื่อพักผ่อนในวันหยุดนั่นเอง
เที่ยวไต้หวัน เดือนไหนดี
เนื่องจากไต้หวัน มีลักษณะเป็นหมู่เกาะ อยู่กลางทะเล ดังนั้น สภาพอากาศของไต้หวันนั้น จึง ค่อนข้างร้อนชื้น อบอุ่น อย่างไรก็ตาม จะมีลมพาดผ่านตลอดทั้งปี ดังนั้น จึงมีสภาพอากาศที่คล้ายคลึงกับประเทศไทย ซึ่งหากถามว่า เที่ยวไต้หวันเดือนไหนดี ทาง Artralux แนะนำเป็นในช่วง เดือนตุลาคม – เดือนพฤศจิกายน ซึ่งอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง มีสภาพอากาศที่เย็นสบาย โดยอุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ 20 – 25 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ เนื่องจากเป็นช่วงหลังจากลมมรสุมฤดูร้อนพัดผ่านไป ทำให้ สภาพท้องฟ้าในช่วงนี้โปร่งโล่ง ไม่มีฝน และที่สำคัญในช่วงนี้ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศการผลัดเปลี่ยนสีของใบไม้ต้นเมเปิล ที่ได้เปลี่ยนสีเป็นสีแดง เหลือง และ ส้ม อย่างงดงาม
ทริปไต้หวันจะสมบูรณ์ไม่ได้หากไม่ได้ไปกินชาไข่มุก!
หลังจากที่เราเก็บสถานที่เที่ยวไต้หวันกันจนครบแล้ว ทัวร์ไต้หวันจะสมบูรณ์ไม่ได้ หากเราไม่ได้ไปแวะชิมอาหาร Street Food ขึ้นชื่อของประเทศไต้หวัน ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อพูดถึงอาหารไต้หวันแล้ว เมนูอาหารที่ต้องไปกินให้ถึงที่ คือ “ชานมไข่มุก” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศไต้หวัน โดยร้านชานมไข่มุกที่เราขอแนะนำเลย คือ “ร้าน ชุน สุ่ย ถัง (Chun Shui Tang)” ซึ่งเป็นร้านชานมไข่มุกเจ้าแรกของโลก ร้านนี้โด่งดังมาก จนกลายเป็นอีกหนี่งที่เที่ยวไต้หวันก็ว่าได้
และอีกหนึ่งเมนูอาหารไต้หวันแนะนำ ได้แก่ “กวาเปา” เป็นเมนูเบอร์เกอร์สไตล์ไต้หวัน ขนมปังด้านนอกเป็นขนมปังหมั่นโถว ส่วนด้านในจะมีไส้ให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหมูสามชั้น หรือ หมูตุ๋นเรียกได้ว่า หากอยากจะ Complete ทัวร์ไต้หวัน จริงๆ ของกินไต้หวัน คือ สิ่งที่สำคัญมากพอๆ กับที่เที่ยวไต้หวันเลย
สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหน ที่กำลังวางแผนเที่ยวไต้หวัน 2566 แต่ไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวไต้หวันที่ไหนดี ไปเที่ยวไต้หวัน เดือนไหนถึงจะได้บรรยากาศไต้หวันที่สวยงามที่สุด Artralux เราจัดการให้! ด้วยประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของทีมงาน Artralux เราสามารถรังสรรค์ทริปเที่ยวไต้หวัน 2566 ได้ในแบบที่คุณต้องการ ไม่ว่าคุณอยากจะเที่ยวที่ไหน นอนพักโรงแรมอะไร เล่นกิจกรรมอะไร หรือ นอนพักที่โรงแรมระดับไหน เราวางแผนให้ได้บบไม่มีข้อแม้ นอกจากนี้ Artralux ยังมาพร้อมกับบริการยื่นวีซ่า จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม รวมไปจนถึงบริการเช่าส่วนตัวพร้อมคนขับ เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกรายละเอียดการเดินทางท่องเที่ยวไต้หวันแน่นอน!
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
