10 เมนูอาหารไต้หวัน อร่อยหยุดกินไม่ได้ แคลอรี่เลิกนับ!

 

“อาหารไต้หวัน มีอะไรบ้าง” “ไปไต้หวัน กินอาหารร้านไหนดี” เชื่อว่าคำถามนี้ คงเป็นคำถามที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวไต้หวัน คงอยากรู้ พอๆ กับสถานที่ท่องเที่ยวในไต้หวันเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้ เพราะที่ไต้หวันนี่เอง มีชื่อเสียงในเรื่องของอาหารไต้หวัน (Taiwanese Cuisine) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาหารไต้หวัน ประเภท Street Food เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เองที่ไต้หวันจึงเต็มไปด้วยตลาดกลางคืน หรือ Night Market ที่เน้นขายของกินเป็นหลักตั้งอยู่ในเขตชุมชนแทบจะทุกเมือง 

 

เสน่ห์ของอาหารไต้หวัน ที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างหลงใหลกันไปตามๆนั้น คือความแปลกใหม่ของรสชาติ แม้อาหารไต้หวัน จะได้รับอิทธิพลจากอาหารจีนค่อนข้างเยอะ อย่างไรก็ตาม รสชาติของอาหารไต้หวันนั้น จะมีความจัดจ้าน เข้มข้น และ มีความหลากหลายมากกว่า ทั้งนี้เนื่องจากอาหารไต้หวัน ได้รับอิทธิพลมาจากหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น อาหารหมินหนาน จีนแต้จิ๋ว จีนฮกเกี้ยน และ อาหารญี่ปุ่นมารวมกัน อย่างไรก็ตาม อาหารไต้หวันก็ยังไม่ทิ้งกลิ่นอายอาหารจีน เห็นได้จากเส้น และ แป้ง ที่มักจะเป็นองค์ประกอบหลักของอาหารไต้หวัน 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น อาหารไต้หวันมีความหลากหลายมากๆ ด้วยเหตุนี้ Artralux บริษัทท่องเที่ยวชั้นนำ จึงได้รวบรวม 10 เมนูอาหารไต้หวันมาฝาก ซึ่งเมนูอาหารจะมีอะไรน่าทานบ้าง เราไปดูไปพร้อมๆ กันเลย!  

 

วัฒนธรรมการกินอาหารไต้หวัน ของชาวไต้หวัน

 

ก่อนที่เราจะไปดูว่าอาหารไต้หวัน มีอะไรบ้าง เราต้องพอทราบถึงวัฒนธรรมการกินอาหารไต้หวันท้องถิ่นของคนไต้หวันซะก่อน จะไม่เด๋อด๋า สไตล์นักท่องเที่ยวไทยเมื่อเที่ยวที่ไต้หวันยังไงหละคะ   

 

• จ่ายก่อน-กินทีหลัง

ร้านอาหารไต้หวันส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ร้านอาหารขนาดกลางถึงเล็ก มักจะให้ลูกค้า จ่ายค่าอาหารก่อน จึงจะสามารถเดินเข้าไปนั่งรออาหารด้านในร้านได้ นอกจากการจ่ายก่อนแล้ว ร้านอาหารไต้หวันบางร้าน จะมีระบบแบบบริการตัวเองเป็นหลัก กล่าวคือ คุณจะต้องหยิบช้อน-ซ้อม แก้วน้ำ และ กระดาษทิชชูเองทั้งหมด ซึ่งถือว่าเป็นระบบที่สะดวก และ รวดเร็ว เพราะเมื่อคุณทานอาหารเสร็จ ก็สามารถลุกออกจากร้านได้ทันที 

 

 

• ชาเลิฟเวอร์

ร้านอาหารไต้หวันทุกร้าน ไม่ว่าจะร้านขนาดเล็ก กลาง หรือ ใหญ่ หรูหรา หรือ พอประมาณ ทุกร้านจะเสิร์ฟชาให้ลูกค้าเสมอ โดยคนใต้หวัน จะดื่มชาคู่กับอาหารไต้หวัน ทั้งตอนก่อน ขณะรับประทาน และ หลังมื้ออาหาร ซึ่งหากคุณต้องการเติมชา ให้เปิดฝากาน้ำชาทิ้งไว้ หรือ เปิดแง่มๆ เพื่อเป็นการบอกพนังงานว่าคุณต้องการเติมชา โดยไม่ต้องใช้คำพูดใดๆ นั่นเอง 

 

• คนไต้หวันกินอาหาร 4 มื้อ 

ชาวไต้หวันรัก และ ชื่นชอบการรับประทานอาหารเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้วิธีการใช้ชีวิต รวมไปจนถึงวัฒนธรรมต่างๆ ของชาวไต้หวัน จึงมีอาหารเป็นศูนย์กลาง โดยคนไต้หวันจะรับประทานอาหารทั้งหมด 4 มื้อ ในแต่ละวัน โดยมื้อที่ 4 ของวันจะเรียกว่า ‘เซียวเย่’ หรือ Mid Night Snack ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งอาหารคาว หรือ อาหารหวาน แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล ด้วยเหตุนี้ ที่ประเทศไต้หวัน คือ มีร้านอาหาร หรือ ร้าน Street Food เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง  

 

10 เมนูอาหารไต้หวันแนะนำ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการไปเที่ยวไต้หวัน!

 

เมื่อนึกถึงอาหารไต้หวัน (Taiwanese Cuisine) แน่นอนว่าสิ่งที่นักท่องเที่ยวชาวไทย และ นักท่องเที่ยวทั่วโลกนึกถึงคงหนีไม่พ้นเมนูชาบูหม่าล่า, ข้าวหน้าหมูพะโล้  และ ชานมไข่มุกอย่างแน่นอน แต่หารู้ไม่ว่า จริงๆ แล้ว อาหารไต้หวันนั้น มีเมนูที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว รวมไปจนถึงชาวไต้หวันเองอีกมากมาย โดย 10 เมนูนี้ คือ สุดยอดเมนูอาหารไต้หวันเด็ดที่ทาง Artralux ได้คัดสวรรค์มาให้

 

1. บะหมี่เนื้อ หรือ หนิวโร่วเมี่ยน (牛肉麵) 

 

 

ขอเริ่มเมนูอาหารไต้หวันจานแรก ที่เมนูอาหารไต้หวันประจำชาติอย่าง เมนูบะหมี่เนื้อตุ๋นไต้หวัน (Beef Noodles) ขึ้นชื่อของประเทศ แม้หน้าตาจะเหมือนก๋วยเตี๋ยวเรือของประเทศไทย แต่อาหารไต้หวันจานนี้ กลับมีรสชาติที่แตกต่างอย่างไม่น่าเชื่อ เส้นบะหมี่มีกลิ่นหอม แบะ มีความเหนียวนุ่มเป็นพิเศษ ในส่วนของน้ำซุปจะมีความเข้มข้น และ มีความเผ็ดร้อนเล็กน้อย ออกมันๆ ซึ่งได้จากน้ำพริกที่ราดลงไปผสมกับน้ำซุป ซึ่งถูกต้มเป็นเวลานาน และไฮไลท์เด็ดนั้น ได้แก่ เนื้อตุ๋น ที่สไลด์คำใหญ่พอดีคำ 

 

2. ข้าวหน้าหมูตุ๋น หรือ หลูวโล่วฟ่าน (滷肉飯) 

 

 

อีกหนึ่งเมนูอาหารไต้หวันยอดฮิต ที่พลาดไม่ได้ หากมีโอกาสได้มาท่องเที่ยวที่ประเทศไต้หวัน ได้แก่ เมนูข้าวหน้าหมูตุ๋น หรือ ที่คนไต้หวันเรียกกันว่า “หลู่โร่วฟ่าน” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาหารประจำชาติของไต้หวัน จุดเด่นคือการนำเนื้อหมูสามชั้นไปตุ๋นจนเปื่อย และ เสิร์ฟคู่กับหมูสับ และไข่ต้ม ให้ฟิลล์  เหมือนเมนูไข่พะโล้บ้านเรา แต่บอกเลยว่า อร่อยกว่าแน่นอน ด้วยความที่เมนูอาหารไต้หวันจานนี้ รวมเนื้อหมูหลายแบบ ทั้งหมูสับ และ หมูสามชั้น ทำให้เคี้ยวสนุก อร่อยพอตัวเลยทีเดียว 

 

3. ไข่เจียวหอยนางรม (Oyster omelet)  

 

 

อีกหนึ่งเมนูอาหารไต้หวัน ที่หน้าตาคล้ายคลึงกับอาหารไทย ได้แก่ เมนูไข่เจียวหอยนางรม ซึ่งหาได้ง่ายตามร้านอาหาร Street Food ของประเทศไต้หวัน โดยเมนูนี้จะมีลักษณะการทำคล้ายๆ กับการทอดไข่เจียว แต่จะมีการผสม แป้งมันฝรั่งลงไปเพื่อเพิ่มความหนืด ผักกาดขาว เพื่อเพิ่มเทกเจอร์ (Texture) ในแต่ละคำ และแน่นอนว่าพระเอกของเรานั้น คือ หอยนางรมขนาดใหญ่พอดีคำ ซึ่งความอร่อยของอาหารไต้หวันนี้ อยู่ที่ความสดใหม่ของหอยนางรมแต่ละร้านนั่นเอง 

 

Fun Fact: เมนูไข่เจียวหอยนางรม ถือเป็นเมนูอาหารไต้หวัน ที่บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของตัวประเทศในทางพื้นดิน และ ทางทะเล เนื่องจากเมนูนี้ คือการรวมส่วนผสมของทั้งบนบก และ ทางทะเลนั่นเอง

 

4. บาหวัน (Ba-Wan)   

 

 

อาหารไต้หวันสำหรับทานเล่นที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มชาวไต้หวันเอง คือ เมนูบาหวัน  (Ba-Wan) มีลักษณะเป็นก้อนกลม พอดีคำ มีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 6-8 เซนติเมตร แป้งที่ห่อหุ้มทำมาจากแป้งข้าวเจ้า ผสมกับแป้งมันฝรั่ง และ แป้งข้าวโพด จึงมีความเหนียวนุ่ม และ หนาเป็นพิเศษ จุดเด่นของเมนูนี้ คือ ไส้ด้านในที่มีความหลากหลายขึ้นอยู่กับสูตรของทางร้าน หรือภูมิภาคนั้นๆ แต่ไส้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ ไส้หมู  ใบไผ่ และ เห็ด นั่นเอง

 

เมนูนี้ เป็นอาหารไต้หวันโบราณ และ เป็นอาหารประจำชาติไต้หวัน โดยคนไต้หวันเชื่อกันว่า บาหวันนั้น ก่อกำเนิดขึ้นตั้งแต่สมัยปลายราชวงศ์ ชิง (1644-1912) โดยนักเรียนคนหนึ่ง ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อเป็นอาหารบรรเทาภัยพิบัติในช่วงแย่งยิงราชวงศ์นั่นเอง 

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

 

5. เต้าหู้เหม็น (โซ่วโต้วฝู่)

 

 

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงอาหารไต้หวัน จะไม่พูดถึงเต้าหู้เหม็นคงจะไม่ได้ เพราะเมนูนี้ นอกจากจะเป็นเมนูอาหารขึ้นชื่อของไต้หวันแล้ว ยังเป็นเมนูที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมการถนอมอาหารของชาวไต้หวัน อีกทั้งยังเป็นอาหารจานโปรดของผู้นำประเทศอย่าง เหมาเจ๋อตง อีกด้วย 

 

สาเหตุที่ทำให้อาหารไต้หวันจานนี้มีชื่อว่า “เต้าหู้เหม็น” นั้น เกิดจากกรรมวิธีในการทำ โดยการนำเต้าหู้สด ไปหมักเข้ากับเกลือ น้ำนม ผัก หรือ เนื้อสัตว์ ขึ้นอยู่กับสูตรของแต่ละร้าน เพื่อให้เต้าหู้สดมีเชื้อราเขียวขึ้น และ มีกลิ่นเหม็น อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกลิ่นเหม็น แต่รสชาติของเต้าหู้เหม็นนั้นอร่อยอย่าบอกใครเลยทีเดียว  ซึ่งจริงๆ แล้ว การรับประทานเต้าหู้เหม็นนั้น จะแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่เช่นในฮ่องกง นิยมนำไปทอด ในขณะที่ไต้หวัน จะนิยมทานแบบนึ่ง ย่าง หรือ ทานร่วมกับซุปหมาล่านั่นเอง 

 

6. ไอศกรีมถั่วตัด

 

 

หนึ่งในอาหารไต้หวัน ประเภท Street Food ที่ควรค่าแก่การลิ้มลองหากคุณมีโอกาสได้ไปท่องเที่ยวที่ประเทศไต้หวันแล้วละก็ เมนูนั้น คือ “เมนูไอศกรีมถั่วตัด” หรือที่นักท่องเที่ยวหลายคนเรียกว่า “โรตีถั่วตัด” นั่นเอง เมนูนี้เป็นของหวานทีชาวไต้หวันชื่นชอบ จุดเด่นอยู่ที่การนำแป้งสายไหมที่มีความบางมาห่อหุ้มถั่วตัดซึ่งได้นำมาขูดให้ละเอียดเพื่อให้ได้ความหอมของถั่วตัดอย่างชัดเจน จากนั้นโปะหน้าด้วยไอติมทั้งหมด 2 ลูก และ ใส่ผักชีเพื่อเพิ่มความโหมอีกขั้น ปิดท้ายด้วยการห่อม้วน คล้ายทรงของโรตี ทานง่าย พอดีคำ ได้ไอติมในทุกคำ  

 

7. กวาเปา (Gua Bao)

 

 

กวาเปา (Gua Bao) หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่าเบอร์เกอร์ไต้หวัน เป็นเมนูอาหารไต้หวันที่มีชื่อเสียง ทำมาจากแป้งหมั่นโถวซึ่งนำไปนึ่งสุก มีความหอม หนา นุ่ม ฝ่าตรงกลาง มีลักษณะคล้ายกับเบอร์เกอร์ ในส่วนของไส้นั้นจะมีส่วนผสมของหมูสามชั้นตุ๋นพะโล้ เกี่ยมฉ่าย ผักชี แล้วก็ถั่วลิสงบด ซึ่งนำทุกอย่างมาสับเป็นชิ้นเล็กๆ ผสมซีอิ๊ว ให้รสชาติ ออกเปรี้ยวๆ เค็ม หอมซีอิ๊วเป็นอย่างดี 

 

8. วุ้นกบ (Aiyu Jelly)

 

 

อีกหนึ่งเมนูที่หลายคนคงเคยได้ลองทานกันแล้ว เพราะเมนูอาหารไต้หวันนี้ ได้ถูกนำเข้าประเทศไทยไปเมื่อปีที่แล้ว แม้ว่าชื่อจะเป็น “วุ้นกบ” แต่เมนูนี้ไม่ได้มีส่วนผสมของกบ ไข่กบ หรือ ส่วนผสมเกี่ยวข้องกับกบแต่อย่างใดเหมือนที่หลายคนเข้าใจนะ เมนูนี้ ทำมาจากเมล็ดผลไม้ชื่อว่า “อ้ายหยู้” ซึ่งเป็นผลไม้ตระกูลมะเดื่อ นิยมรับประทานคู่กับชา มีลักษณะคล้ายคลึงกับกบ ด้วยเหตุนี้ คนไต้หวัน จึงตั้งชื่อเมนูนี้ว่า “ชิงวา ช่าตั้น (Qingwa Chadan)” ซึ่งคำว่า ชิงวาแปลว่า กบ ส่วน ช่าตั้น แปลว่า วางไข่ นั่นเอง 

 

อาหารไต้หวันเมนูนี้ มีชื่อเสียงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่สาวๆ เนื่องจาก วุ้นอ้ายหยู่เป็นวุ้นเพกติน (pectin) ซึ่งเป็นใยอาหารชนิดหนึ่ง ช่วยเรื่องลำไส้ และ ระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังไม่มีแคลอรี่ อีกทั้งยังมีฤทธิ์เย็น ช่วยคล้ายความร้อนในร่างกายได้ดีอีกด้วย คุณสามารถเจอวุ้นกบได้ทั่วไปตามตลาดคนเดินกลางคืน หรือ Night Market ของไต้หวันนั่นเอง

 

9. บัวลอยเผือกไต้หวัน 

 

 

มาถึงของหวานเมนูอาหารไต้หวันที่ขึ้นชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองท่องเที่ยวของไต้หวันชื่อดังอย่างเมือง จิ่วเฟิ่น คงจะเป็นเมนูไหนไปไม่ได้นอกจากเมนู “บัวลอย” ซึ่งบัวลอยไต้หวันนี่เอง มีลักษณะแตกต่างจากบัวลอยไทย โดยจะมีความเหนียว หนึบ เคี้ยวเพลิน นอกจากนี้ แต่ละร้านยังมีรสชาติบัวลอยให้เลือกหลากหลายรสชาติ เช่น รสธรรมดา เผือก งาดำ ใบเตย ถั่วเขียว ถั่วแดง  และ รสเต้าฮวย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม 

 

 

หากนักท่องเที่ยวต้องการรับประทานบัวลอยไต้หวันแบบดั้งเดิม แนะนำให้ลองแวะไปชิมที่ ร้านไล่อาโผ (Lai Ah Po Yu Yuan) ซึ่งเป็นร้านที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้านโบราณจิ่วเฟิ่น เปิดมาเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 3 รุ่นด้วยกัน การันตีความอร่อย ด้วยจำนวนลูกค้าที่นั่งอย่างเต็มร้านในทุกวัน  

 

10. ชานมไข่มุก 

 

 

บทความนี้จะเป็นบทความที่เกี่ยวกับอาหารไต้หวันไปไม่ได้ หากเราไม่ได้พูดถึงเมนูชานมไข่มุก เพราะเมนูชานมไข่มุก ของโปรดของคนไทยเรานี่เอง มีต้นกำเนิดมาจากประเทศไต้หวัน ในช่วงประมาณทศวรรษ 1980 ซึ่งร้านชานมที่เป็นผู้คิดค้นเมนูชานมไข่มุกนั้น คือ ร้าน Chun Shui Tang โดย Lin Hsiu hui (หลินชิ่วฮุย) ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่ต้องการเพิ่มยอดขายของบริษัท โดยการคิดค้นเมนูใหม่ให้กับทางร้าน ซึ่งเขาได้นำขนมเฟินหยวน หรือ พุดดิ้งมันสำปะหลังหวาน ที่เขาชื่นชอบในวัยเด็ก ใส่เข้าไปในชานม จนกลายมาเป็นชานมไข่มุกอย่างในปัจจุบันนั่นเอง 

 

 

โดยร้านชานมไข่มุก Chun Shui Tang ตั้งอยู่ที่เมืองไถจง ไต้หวัน ซึ่งชานมไข่มุกร้านนี้แตกต่างจากร้านอื่นตรงที่ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ต้มไข่มุกด้วยอุณหภูมิต่ำ และ ชามีรสชาติที่เข้มข้น หอมนม แต่ไม่หวานนั่นเอง   

 

สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผนไปเที่ยวไต้หวันเพื่อลิ้มลองอาหารไต้หวันต้นตำรับแท้ๆ แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มวางแผนทริปท่องเที่ยวไต้หวันอย่างไร เริ่มต้นจากทรงไหน จองตั๋วเครื่องบินอย่างไรให้คุ้มค่า นอนพักที่ไหนให้สบาย และ ทานอาหารร้านไหนที่จะได้สัมผัสรสชาติอาหารไต้หวันอย่างแท้จริง เรื่องนั้นขอให้ Artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำดูแลคุณ ด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกว่า 10 ปีเราสามารถจัดแผนท่องเที่ยวไต้หวันที่ยืดหยุ่นตรงกับความต้องการของนักท่องเที่ยวได้อย่างไม่มีข้อแพ้ นอกจากแผนการเดินทางแล้ว เรายังสามารถจัดทริปส่วนตัวแบบที่คุณไม่ต้องไปจอยกับใครอีกด้วย เรียกได้ว่าครอบคลุม เที่ยวสนุกแน่นอน    

 

สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)

📞 | 02-047-0083

💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว