Meiji shine best view

ศาลเจ้าเมจิ ป่ากลางกรุงโตเกียว มาที่เดียวได้ทั้งเที่ยว และ กราบขอพร

ใครบอกว่าเมืองหลวงของญี่ปุ่นอย่าง โตเกียว จะไม่มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ควรต้องเปลี่ยนความคิดกันซะตั้งแต่ตอนนี้ เพราะที่ย่านชิบูย่า มีศาลเจ้าอายุเก่าแก่กว่า 100 ปีอย่าง ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) มาให้นักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้ขอพร ท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่น วันนี้ Artralux จะพาไปทำความรู้จักกับศาลเจ้าแห่งนี้ให้มากยิ่งขึ้น

 

ประวัติความเป็นมาของศาลเจ้าเมจิ

ศาลเจ้าในตำนานที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ชื่อเต็ม ๆ คือ ศาลเจ้าเมจิจิงกุ (Meiji Jingu) เป็นศาลเจ้าที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1920 เพื่อสักการะพระจักรพรรดินีแห่งยุคเมจิ ที่ครองราชย์ในปี ค.ศ. 1867-1912 ภายหลังจากที่พระจักรพรรดิ์เมจิสิ้นพระชนม์ ชาวญี่ปุ่นต่างเรียกร้องอยากให้มีศาลเจ้าเพื่อสักการะพระจักรพรรดิ์เมจิ ซึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ศาลเจ้าเมจิได้ถูกทำลายพร้อมกับหลายสถานที่สำคัญในโตเกียว แต่ก็ได้มีการบูรณะในเวลาต่อมา ปัจจุบัน ศาลเจ้าเมจิ เป็นศาลเจ้าที่คนญี่ปุ่นนิยมมาขอพรมากที่สุด โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ 

 

นอกจากที่นี่จะเป็นสถานที่ที่มากราบไหว้ขอพรแล้ว ศาลเจ้าเมจิ ยังได้ชื่อว่าเป็น ป่าในเมือง เนื่องจากที่นี่มีจำนวนต้นไม้ทั้งหมดกว่าแสนต้น ให้ความรู้สึกร่มรื่น แม้ว่าจะตั้งอยู่ย่านชิบูย่า อีกทั้งยังมีพรรณไม้กว่า 365 ชนิด บนพื้นที่กว่า 700,000 ตารางเมตร

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

บริเวณโดยรอบของศาลเจ้าเมจิ

 

ศาลเจ้าเมจิ มีอะไร?

หากคุณมาเที่ยวญี่ปุ่น อย่าพลาดที่จะมารับพลังแห่งความศรัทธา ท่ามกลาง บรรยากาศอันร่มรื่นและเต็มไปด้วยต้นไม้ และที่สำคัญ อยู่บริเวณย่านสุดล้ำอย่าง ชิบูย่า เรียกได้ว่า นอกจากจะมาเสริมพลังใจแล้วก็สามารถไปเที่ยวต่อได้เลย แล้วที่ศาลเจ้านี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง มาดูกัน

 

1.Meiji Shrine Inner Garden

สวนขนาดใหญ่ในศาลเจ้าเมจิ ที่เต็มไปด้วยความร่มรื่น บริเวณด้านในมีสวนดอกไม้ที่จะสลับกันบานตามฤดูกาล มีปลาสวยงาม แต่ที่เป็นไฮไลท์ต้องยกให้ช่วงฤดูร้อนตอนต้นเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงที่ดอกไอริสบานสะพรั่งให้เราได้ชื่นชมความสวยงาม เป็นมุมผ่อนคลายที่แนะนำให้ลองแวะมาชม ซึ่งจะมีค่าเข้าชม 500 เยน

 

2.Meiji Jingu Museum

เป็นพิพิธภัณฑ์ที่อยู่ในศาลเจ้าเมจิที่จัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ที่เกี่ยวข้องกับจักรพรรดิเมจิและจักรพรรดินีโชเก็น บนพื้นที่จัดแสดง 3,200 ตารางเมตร มีค่าเข้าชม 1,000 เยน

 

สวนในศาลเจ้าเมจิ

 

ขั้นตอนการขอพร ศาลเจ้าเมจิ รับความปังให้ชีวิต

ก่อนที่จะไปกราบไหว้ขอพร อย่าลืมแวะไปล้างมือ ล้างปาก ก่อนเข้าศาลเจ้าเพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกออกไปก่อนเข้าด้านใน ขั้นตอนก็คือเริ่มจากการล้างมือซ้าย ล้างมือขวา ล้างปาก แล้ววนกลับมาที่การล้างมือซ้ายอีกครั้ง  เท่านี้เราก็สามารถเข้าไปขอพรที่ด้านในได้แล้ว 

 

หลังจากที่เราได้ชำระล้างสิ่งสกปรกออกไปแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการกราบไหว้ขอพร เริ่มจากการโยนเหรียญโกเอน หรือเหรียญ 5 เยน ซึ่งเหรียญนี้คนญี่ปุ่นเชื่อว่าเป็นเหรียญแห่งความโชคดี จากนั้นให้โค้ง 2 ครั้ง ปรบมือ 2 ครั้ง แล้วค่อยขอพรตามที่ต้องการ จากนั้นก็ โค้ง 1 ครั้ง เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพิธี

 

เขียนคำอธิษฐานผ่านแผ่นไม้เอมะ

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

หลังจากที่เราได้ทำการกราบไหว้ขอพรบริเวณด้านในศาลแล้ว บริเวณด้านข้างมีซุ้มเขียนคำอธิษฐานด้วยแผ่นไม้เอมะ (Ema) ราคาแผ่นละ 500 เยนนะ ขั้นตอนการขอพรก็คือ ให้เราเขียนคำอธิษฐานสิ่งที่เราตั้งใจที่จะทำลงบนแผ่นไม้ แล้วนำไปแขวนไว้บริเวณรอบต้นไม้ซึ่งเป็นจุดที่ทางศาลเจ้าได้จัดเตรียมไว้ให้ หรือจะเป็น กระดาษขอพร ตรงบริเวณใกล้กับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ เขียนสิ่งที่ต้องการ แล้วพับใส่ซองส่งตรงถึงเทพเจ้า 

 

กระดิ่งไม้ Kodama เครื่องรางแห่งศาลเจ้าเมจิ

ก่อนอื่นต้องบอกว่า เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะ หากใครมาที่ ศาลเจ้าเมจิ ต้องไม่พลาดที่จะเป็นเจ้าของ “กระดิ่งไม้ Kaiun Kouzu Kodama” เครื่องรางที่ได้รับความนิยมและหายากของศาลเจ้าเมจิ จิงกุ ซึ่งทำมาจากต้นไม้ กิ่งไม้ที่หัก หรือโค่น ล้มลงมา คนญี่ปุ่นเชื่อว่าต้นไม้ทุกต้นในศาลเจ้าจะมีเทพอาศัยอยู่ ใครที่มีไว้ในครอบครองจะเจอแต่ความโชคดี อย่างที่กล่าวไปว่า กระดิ่งไม้ Kodama ทำจากไม้ เมื่อสั่นหรือเขย่าจะมีเสียงดัง ไพเราะ กังวาน ว่ากันว่าเป็นเสียงสะท้อนของความจริงใจ 

 

และนอกจากจะมี กระดิ่งไม้ Kodama แล้ว ศาลเจ้าเมจิ ยังมีเครื่องรางที่พกไว้ให้อุ่นใจในเรื่องต่าง ๆ ตั้งใจเครื่องรางขอให้สอบผ่าน ขอให้ได้งานดีๆ ขอให้เดินทางปลอดภัย เป็นต้น ใครที่แวะไปศาลเจ้าเมจิ อย่าลืมหามาบูชาเสริมดวงกันนะ 

 

ศาลเจ้าเมจิ เปิดกี่โมง?

ศาลเจ้าเมจิ เปิดทุกวันตลอดทั้งปีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งเวลาเปิด-ปิด ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับตามฤดูกาล โดยเวลาเปิดจะเริ่มตั้งแต่หกโมงเช้า และปิดเมื่อพระอาทิตย์ตก แต่ในส่วนของพิพิธภัณฑ์เมจิจิงกุ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 – 16.30 น. ปิดทุกวันพฤหัสบดี รับผู้เข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 16.00 น. มีค่าเข้าชมท่านละ 1,000 เยน (ประมาณ 258 บาท) บริเวณสวนภายในศาลเจ้า เปิดทำการตั้งแต่ 09.00 – 16.30 น. และมีค่าเข้าชม 500 เยน (ประมาณ 129 บาท)

 

การเดินทางมาที่ศาลเจ้าเมจิ

สามารถเดินทางมาที่ศาลเจ้าได้โดยขึ้นรถไฟ JR นั่งรถไฟสาย Yamanote Line ลงที่สถานี JR Harajuku และเดินต่อไปอีกประมาณ 5 นาที หรือจะเป็นรถไฟใต้ดิน Fukutoshin และ Chiyoda ลงสถานี Meijijingumae แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 7 นาที

 

ถังสาเกเรียงราย จุดถ่ายรูปในศาลเจ้า

 

และนี่ก็คือเรื่องราวของ ศาลเจ้าเมจิจิงกุ หรือที่หลายคนเรียกแบบสั้น ๆ ว่า ศาลเจ้าเมจิ ที่ตั้งอยู่ย่านชิบูย่า ใจกลางกรุงโตเกียว ศาลเจ้าที่ได้ชื่อว่าเป็น ป่าในเมือง ที่นอกจากจะมากราบไหว้ขอพรแล้ว ที่นี่ยังให้ความร่มรื่นไปด้วยธรรมชาติท่ามกลางต้นไม้กว่าแสนต้น และถ้าคุณกำลังแพลนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบไม่พลาดทุกแลนด์มาร์กเด็ด ห้ามพลาดทริปญี่ปุ่นสุด Exclusive จาก Artralux ที่จะมาเติมเต็มประสบการณ์การท่องเที่ยวญี่ปุ่นตลอดทั้งปี นอกจากนี้เรายังมีบทความท่องเที่ยวญี่ปุ่น ที่น่าสนใจ อาทิ เยี่ยมชม ปราสาทฮิเมจิ หนึ่งในมรดกโลกที่มีอายุกว่า 400 ปี หรือจะเป็น ปราสาทโอซาก้า ปราสาทที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางตึกสูงใหญ่ในญี่ปุ่น ติดต่อ Artralux เพื่อรังสรรค์ทริปแสนพิเศษ เพื่อให้การชมเก็บบรรยากาศที่ญี่ปุ่นของคุณจะตราตรึงในใจไปอีกแสนนาน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Line @Artralux (มี @ นำหน้า)

 

สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)

📞 | 02-047-0083

💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

SHARES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า