หากใครมีโอกาสมาเที่ยวที่ไต้หวัน แน่นอนว่า เมืองหลวงอย่างไทเป คือจุดหมายหลักที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เพราะว่าที่เมืองนี้มีสถานที่สำคัญซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์กเลยก็ว่าได้ สำหรับ ตึกไทเป 101 ( taipei 101 ) ตึกสูงตระหง่านใจกลางกรุงไทเปที่มีดีไซน์แปลกตา ไม่เหมือนใคร ที่นอกจากจะสวยงาม และน่าเก็บภาพไปอวดเพื่อน ๆ แล้ว ที่นี่จะมีอะไรให้เราได้ไปค้นหาอีกบ้าง สำหรับใครที่จะกำลังต้องการไป ทัวร์ไต้หวัน จะต้องห้ามพลาดเด็ดขาดเพราะทาง Artralux จะพาไปทำความรู้จัก Taipei 101 ให้มากขึ้น
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
ประวัติความเป็นมาของ ตึกไทเป 101
Taipei 101 (ไทเป 101) ตึกทรงประหลาดที่ตั้งอยู่ย่านซินยี (Xinyi) ออกแบบโดย C.Y. Lee สถาปนิกชาวไต้หวัน ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากต้นไผ่ เมื่อช่วงปี 2004 ตึกไทเป 101 มีความสูงถึง 509 เมตรจากพื้นดิน มีความสูง 101 ชั้น และเคยถูกยกให้เป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลก เคยได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกด้านวิศวกรรม จาก Discovery Channel จนกระทั่งปี 2007 Taipei 101 ถูกโค่นแชมป์โดย Burj Khalifa แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ดูไบ อาคารสูงระฟ้ากว่า 163 ชั้น
ตึกไทเป 101 เป็นการผสมผสานระหว่างแรงโน้มถ่วงทางวิทยาศาสตร์ และ ความเชื่อ ดีไซน์ของอาคารมีความคล้ายกับเจดีย์จีนที่มีปล้องคล้ายกับไม้ไผ่จำนวน 8 ปล้อง ซึ่งสอดคล้องกับเลขมงคลของชาวจีน นั่นก็คือเลข 8 อีกทั้งยังมีการนำหัวมังกรมาตั้งไว้เพื่อขับไล่ภูติผีปิศาจ รวมถึงนำความเชื่อด้านฮวงจุ้ย มาผสมผสาน ให้อาคารแห่งนี้มีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ค้าขายร่ำรวย เงินทองมั่งคั่งไม่มีที่สิ้นสุด เหมือนเลข 8 เลขมงคลของชาวจีนที่สื่อถึงคำว่า infinity (แปลว่า ไม่มีที่สิ้นสุด) นั่นเอง
มีอะไรในตึกไทเป101?
อย่างที่กล่าวไปว่า ตึก Taipei 101 ถือเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญที่สุดของไต้หวัน เมื่อปี 2004 เคยถูกยกให้เป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศาให้คุณได้มองเมืองไทเปได้กว้างกว่าที่ไหน ๆ และยังมีไฮไลท์เด็ดกับลิฟต์ความเร็วสูง ที่กินเนส เวิลด์ เรคคอร์ด ได้บันทึกเอาไว้ว่าเป็นลิฟต์โดยสารที่เร็วที่สุดในโลก เล่ามาขนาดนี้ อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมกันหรือยังว่าที่ตึกนี้มีอะไรให้เราได้ไปสัมผัสประสบการณ์เที่ยวไต้หวันบ้าง เริ่มเลยที่
1.ศูนย์การค้าที่รวมของกิน และแบรนด์ดัง
แหล่งละลายทรัพย์ของเหล่านักช็อป บอกเลยว่าเป็นแหล่งรวมร้านค้าแบรนด์เนมชื่อดัง บริเวณชั้น 1-5 ให้ได้เลือกชอปอย่างจุใจ อาทิ แบรนด์เสื้อผ้า หรือจะเป็นแบรนด์ระดับโลกอย่าง Gucci, Louis Vuitton, Dior, Omega ก็มาตั้ง Flagship Store ที่ห้างนี้ อีกทั้งยังมีร้านอาหารให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็นอาหารยุโรป ญี่ปุ่น จีน ร้านอาหารไทยก็มีนะ เรียกว่ามีหลากหลายชาติให้ลิ้มลองความอร่อย และถ้าร่างกายต้องการคาเฟอีน บนชั้น 35 ก็มีร้านกาแฟดังอย่าง Starbucks ให้ได้นั่งจิบ แถมยังได้ชมวิวสวย ๆ อีกด้วย
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
2.จุดชมวิวชั้น 89 และ 91
ไฮไลท์เด็ดที่ต้องมาสัมผัส นั่นก็คือชั้นชมวิวตึกไทเป101 ก่อนที่จะขึ้นไปชมวิว แน่นอนว่า เราต้องทำการซื้อตั๋วและเตรียมขึ้นลิฟต์ บอกเลยว่าทีเด็ด เพราะว่าเป็นลิฟต์ความเร็วสูงที่มีความเร็วถึง 1,010 เมตรต่อนาที ซึ่งใช้เวลาเพียงแค่ 40 วินาทีเท่านั้น เพื่อไปที่ชั้น 88
สำหรับจุดชมวิวตึกไทเป101 ชั้นที่ 89 จะเป็นชั้นที่มีบานกระจกโดยรอบให้คุณได้ชมวิวแบบ 360 องศา เห็นวิวทั่วทั้งเมืองอย่างชัดเจนทั้งกลางวันและกลางคืน เขยิบขึ้นไปอีกนิดที่ชั้น 91 คือจุดชมวิวแบบเอาท์ดอร์ที่สามารถออกมารับลมข้างนอกได้ และก่อนกลับอย่าลืมแวะไปชมความสวยงามของ Tuned Mass Damper หรือ ลูกตุ้มยักษ์ ที่คอยปกป้องตึกไทเป101 ให้พ้นจากภัยพิบัติต่าง ๆ
3.ลูกตุ้มยักษ์ตึกไทเป 101
หัวใจสำคัญที่ทำให้ตึกไทเป 101 ทรงตัวได้ดี นี่คือ ลูกตุ้มยักษ์ หรือ Tuned Mass Damper มีน้ำหนัก 660 ตัน ซึ่งอยู่ระหว่างชั้น 87-92 สิ่งนี้ไม่ได้ทำเพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ทว่า ลูกตุ้มยักษ์บนตึกไทเป 101 สามารถรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้สูงสุดถึง 7 ริกเตอร์ หลักการทำงานของลูกตุ้มนี้คือจะช่วยถ่วงน้ำหนักด้วยการเหวี่ยงตัวเองไปทางทิศที่ตรงข้ามกับแรงลม ถ่วงสมดุล และพยุงโครงสร้างของตึกที่มีความสูงกว่า 509.2 เมตร ให้โคลงเคลงน้อยลง จนกลับมาทรงตัวได้เหมือนเดิม เมื่อเวลาเกิดพายุไต้ฝุ่น หรือแผ่นดินไหวอีกด้วย ใครที่มาเยือนตึกนี้ อย่าลืมไปสัมผัสความอลังการของลูกตุ้มยักษ์กันด้วยนะ
4.เทศกาลและกิจกรรม
taipei 101 ถือว่าเป็นสถานที่สำหรับจัดงานเฉลิมฉลอง และกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะการแสดงพลุในคืนปีใหม่ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
5.เทคโนโลยีสีเขียว
ไทเป 101 ยังเป็นตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีสีเขียวในการออกแบบ และบริหารจัดการอาคาร เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
วิธีไป taipei 101 เดินทางยังไง ลงสถานีไหน
วิธีเดินทางไป taipei 101 เพื่อน ๆ สามารถเดินทางได้ 4 วิธีด้วยกันดังนี้
- รถไฟฟ้า MRT ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT ไปยังสถานี Taipei 101/World Trade Center ซึ่งอยู่บนสายสีแดง (Red Line) หรือ Tamsui-Xinyi Line นี่เป็นวิธีที่สะดวกที่สุดในการเดินทางไปยังตึกไทเป 101
- รถประจำทาง มีรถประจำทางหลายสายที่ผ่านตึกไทเป 101 คุณสามารถตรวจสอบเส้นทาง และหมายเลขรถประจำทางที่ใกล้ที่สุดกับที่พักหรือจุดเริ่มต้นของคุณ
- แท็กซี่หรือรถยนต์ส่วนตัว การใช้แท็กซี่หรือรถยนต์ส่วนตัวก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สะดวก โดยเฉพาะหากคุณเดินทางเป็นกลุ่มหรือมีสัมภาระมาก
- จักรยานหรือเดินเท้า สำหรับผู้ที่พักอยู่ในระยะใกล้กับตึกไทเป 101 อาจเลือกเดินเท้าหรือขี่จักรยานเพื่อสัมผัสบรรยากาศของเมืองไทเปได้โดยตรง
เวลา เปิด-ปิด ของตึกไทเป 101
อย่างที่บอกว่า ที่นี่คือแลนด์มาร์กห้ามพลาดถ้ามาเยือนไต้หวัน ที่เดียวมีครบทั้งชมวิว ชอปปิง อาหารการกิน สำหรับในส่วนของห้างสรรพสินค้า วันอาทิตย์-พฤหัสบดี เปิดให้บริการเวลา 11.00-21.30 น. ส่วนวันศุกร์-เสาร์ จะเปิดให้บริการ 11.00-22.00 น. และถ้าใครจะขึ้นไปชมวิวบนชั้น 89 ก็สามารถเข้าชมได้ทุกวัน โดยวันจันทร์ – ศุกร์ เปิดตั้งแต่ 11.00 – 19.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ จะเปิดตั้งแต่ 10.00 – 19.00 น. ซึ่งจะรับนักท่องเที่ยวที่มาเข้าชมรอบสุดท้ายของแต่ละวันคือ 18.15 น.
และนี่ก็คือเรื่องราวของ ตึกไทเป 101 ที่ได้ชื่อว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกเมื่อปี 2004 อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กแห่งไต้หวันที่ร่ำลือว่าเป็นสุดยอดแห่งฮวงจุ้ยดีๆ และถ้าคุณกำลังแพลนจะไปเที่ยวต่างประเทศ เช่น เที่ยวญี่ปุ่น หรือ เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ แบบไม่พลาดทุกแลนด์มาร์กเด็ด ห้ามพลาดทริปสุด Exclusive จาก Artralux เพื่อให้การไปเที่ยวที่ ตึกไทเป 101 จะตราตรึงในใจไปอีกแสนนาน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Line @Artralux (มี @ นำหน้า)
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว