10 ที่เที่ยวอิสตันบูล (Istanbul) ต้องไปดูให้เห็นกับตา

อิสตันบูล

 

อิสตันบูล (Istanbul) เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวในประเทศตุรกี ที่นักท่องเที่ยวนิยม และ เลือกไปท่องเที่ยวมากที่สุด แม้ว่า “อิสตันบูล” จะไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศตุรกี แต่ด้วยเสน่ห์ของเมืองอิสตันบูลที่เป็นเมือเก่าแก่ เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ และ ทัศนียภาพทางธรรมชาติสวยงามมากมาย อีกทั้งยังเป็นเมืองเดียวในโลก ที่มีพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่าง 2 ประเทศ ได้แก่ ฝั่งทวีปเอเชีย หรือ อนาโตเลีย (Anatolia) และ ฝั่งยุโรป หรือ Thrace ของบอสฟอรัส จึงทำให้ในแต่ละปี อิสตันบูล ประเทศตุรกี ได้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย โดยในปี 2023 ที่ผ่านมา ได้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่อิสตันบูลกว่า 6.3 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นถึง 19 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า

 

อิสตันบูล

 

เมืองอิสตันบูล (Istanbul) เป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศตุรกี มีจำนวนประชากรในเมืองมากถึง 15 ล้านคนอีกทั้งยังได้ฉายาว่าเป็นเมืองแมว ทั้งนี้เนื่องจากเมืองอิสตันบูลนั้น มีจำนวนแมวไร้บ้านกว่า 1.25 แสนตัว จนเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์คู่เมืองอิสตันบูลเลยก็ว่าได้ ซึ่งในอดีต ประชากรนิยมเลี้ยงแมวเพื่อช่วยกำจัดประชากรหนู ซึ่งเป็นศัตรูตัวร้าย ที่คอยกัดกินพืชผัก และ ข้าวสาร ของชาวบ้านนั่นเอง

 

วันนี้ Artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำของไทย จึงได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวในอิสตันบูล ประเทศตุรกีทั้ง 10 แห่ง ที่นักท่องเที่ยวต้องไปเยือนให้ได้ หากมีโอกาสได้มาเที่ยวที่กรุงอิสตันบูล ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านั้น จะมีที่ไหนบ้างนั้น เราไปดูพร้อมๆ กันเลย! 

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

อิสตันบูล ที่เที่ยว 10 ที่ ถ้าพลาดถือว่ามาไม่ถึง!

อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น อิสตันบูลเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ทั้งนี้เนื่องมาจากที่เมืองอิสตันบูล เป็นเมืองอันเก่าแก่ และเคยเป็นเมืองหลวงทั้งในยุคจักรวรรดิโรมัน และ กรีกโบราณ ด้วยเหตุนี้ อิสตันบูส ที่เที่ยวจึงเต็มไปด้วยโบราณสถานโบราณที่ถ่ายทอดเรื่องราวในอดีตจนถึงปัจจุัน นอกจากนี้ ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ก็สวยงามไม่แพ้ที่ไหนในโลก เพราะอิสตันบูล (Istanbul) เป็นเมืองที่มีทั้งเนินเขา และ ท้องทะเล นั่นเอง

 

1. มัสยิดสุลต่านอาเหม็ด (Sultan Ahmed Mosque)

 

อิสตันบูล

หากพูดถึงอิสตันบูล ที่เที่ยวสำคัญ หรือ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแลนด์มาณ์กสำคัญของเมือง หนีไม่พ้น  มัสยิดสุลต่านอาเหม็ด หรือที่นักท่องเที่ยวเรียกกันว่า มัสยิดสีน้ำเงิน ซึ่งวัตถุประสงค์ในการสร้างมัสยิดแห่งนี้ เป็นเพราะทาง สุลต่านอาห์เมตที่ 1 (Sultan Ahmed I)  ต้องการสร้างสิ่งก่อสร้างที่มีความยิ่วงใหญ่กว่า ฮาเกียโซเฟีย (Hagia Sophia) อย่างไรก็ตาม แม้ผลลัพธ์จะไม่ได้ยิ่งใหญ๋เท่า แต่มัสยิดแห่งนี้ ก็มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมที่งดงามทั้งภายนอก และ ภายใน อีกทั้งยังเป็นมัสยิตแห่งเดียวในตุรกีที่มีหอมินาเร็ต หรือ หอสวดมนต์ ถึง 6 หอ  

 

อิสตันบูล

 

จุดเด่นของมัสยิตแห่งนี้อยู่ที่ การประดับตกแต่งภายใน ด้วยกระเบื้องลวดลายดอกไม้ต่างๆ ที่ได้มาจากเมืองอิซนิค (Iznik) มากกว่า 20,000 ชิ้น นอกจากนี้ ตรงพรมก็มีลวดลายเป็ฯดอกไม้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นดอกทิวลิป ซึ่งเป็นดอกประจำชาติของตุรกี และ  ดอกกุหลาบ ซึ่งเป็นตัวแทนของพระอัลเลาะห์ ศาสดาของศาสนาอิสลามนั่นเอง 

 

2. พระราชวังโดลมาบาเช (Dolmabahce Palace)

 

อิสตันบูล

พระราชวังโดลมาบาเช  เป็นแลนด์มาร์ก และ สิ่งก่อสร้างสุดอลังการของเมืองอิสตันบูล และ ของประเทศตุรกี  ตัวพระราชวังตั้งอยู่ตรงบริเวณชายฝั่งทะเลมาร์มารา ในช่องแคบบอสฟอรัส ความพิเศษของพระราชวังแห่งนี้ คือสิ่งก่อสร้างที่สร้างด้วยหินอ่อน สถาปัตยกรรมแบบศิลปะแบบตะวันออกผสมผสานกับทางตะวันตกได้อย่างลงตัว มีการตกแต่งอย่างหรูหรา ซึ่งสะท้อน ศิลปะแบบบาโรก , โรโกโก, นีโอคลาสสิก (Neoclassical) รวมไปจนถึงออตโตมัน ซึ่งค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างพระราชวังแห่งนี้ คิดเป็นเงินในปัจจุบันอยู่ที่พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ เลยทีเดียว 

 

3. มหาวิหารเซนต์โซเฟีย หรือ ฮาเกียโซเฟีย (Hagia Sophia)

 

อิสตันบูล

“Ultimate Destination” หรือ “ที่สุดของจุดหมายปลายทาง” การท่องเที่ยวของเมืองอิสตันบูลนั้น คือ มหาวิหารเซนต์โซเฟีย หรือ ฮาเกียโซเฟีย ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง สัญลักษณ์ของอิสตันบูลก็ว่าได้  มหาวิหารเซนต์โซเฟียนั้น เป็นโบสถ์คริสต์นิกายออร์โธดอก ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมแบบไบแชนไทน์ (Byzantine) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของอิสตันบูลในยุคจักรวรรดิโรมัน และจักรวรรดิไบแซนไทน์ 

 

อิสตันบูล

เหตุผลที่นักท่องเที่ยวทั่วโลก ต่างเดินทางมาเยี่ยมชมมหาวิหารแห่งนี้ปีละหลายล้านคนนั้น เป็นเพราะมหาวิหารแห่งนี้ มีโดมขนาดใหญ่ ที่เรียกได้ว่าใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ ภายในยังมีการนำเอาหินอ่อน ไปจุ่มกับทองคำ ก่อนที่นำมาประดับตกแต่งให้กายเป็นภาพวาดทางศาสนา ซึ่งกิมมิค อยู่ที่มีการฉาบปูนขาวทับภาพวาดดังกล่าวหลายจุด ทั้งนี้เนื่องจากในยุคที่ชาวเติร์กเข้ามายึดครอง ได้อยากให้ประชากรลืมเรื่องราวทางศษสนาศริตส์นั่นเอง 

 

4. อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน (Yerebatan)

 

อิสตันบูล

อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน หรือ ที่ชาวต่างชาติเรียกกันว่า Basilica Cistern นั้น เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในอิสตันบูล (Istanbul) ที่โด่งดังไปทั่วโลก โดยอ้างเก็บน้ำดังกล่าว มีขนาดใหญ่โต มีความยาว 140 เมตร กว้าง 70 เมตร และสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ถึง 100,000 ตันเลยทีเดียว นอกจากนี้ความยิ่งใหญ่ ที่ซ้อนตัวอยู่ใต้เผ่นดินอิสตันบูลแห่งนี้แล้ว อ้างเก็บน้ำนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถของชาวเมืองในยุคโรมันโบราณได้เป็นอย่างดี  

อิสตันบูล

ความน่าทึ่ง หรือ เรียกได้ว่าขนลุกก็ไม่ผิด ของอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ คือ ลักษณะของเสาหินที่ใช้ในการก่อสร้าง จำนวน 2 เสา ที่มีการแกะสลัก เป็นรูปหน้าเมดูซ่า ใช้รองฐานของเสา ซึ่งตามตำนานเทพเจ้ากรีกเชื่อว่าเมดูซ่านั้น เป็นเทพเจ้าใต้ดินเพศหญิง ที่จะทำการปริดชีพผู้คนที่มาพบเจอเธอ โดยการทำให้กลายเป็นหินนั่นเอง 

 

5. ฮิปโปโดรม (Hippodrome)

 

อิสตันบูล

ฮิปโปโดรม (Hippodrome) หรือ จตุรัสด่านอาห์เหม็ด (Sultanahmet Complex) เป็นหนึ่ง

ในแลนด์มาร์กยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวอิสตันบูล โดยสถานที่แห่งนีมีความสำคัญของประวัติศkสตร์อย่างยิ่ง เดิมทีเคยเป็นสถานที่แข่งม้า และ แข่งกรีฑาในสมัยโรมัน แต่ในปัจจุบันเหลือเพียงแค่เสา 3 ต้นเท่านั้น ซึ่งแม้ว่าเสาทั้ง 3 ต้นนี้ แม้จะมีการบูรณะไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังคงสภาพ และ ทิ้งร่องรอยเอาไว้ให้นักทอ่งเที่ยวได้ชื่นชมไม่ต่างจากเมื่อก่อนเลย 

 

โดยเสา 3 ต้นนี้ มีชื่อว่า เสาโอเบลิสก์แห่งกษัตริย์เธโอโดเชียส ความสูง 20 เมตร โดยมีจุดน่าสนใจอยู่ที่บริเวณยอดเสา ซึ่งเป็นภาพฟาโรห์คุกเข่าถวายสักการะแด่สุริยเทพและการรบชนะสงคราม และ บริเวณฐานของเสา ซึ่งเป็นภาพแกะสลักที่บอกเล่าเรื่องราวการขนย้ายเสาโดยผู้คนจำนวนมากจากทะเล โดยใช้เวลาขนย้ายอยู่ทั้งหมด 30 วันนั่นเอง 

 

6. หอคอยกาลาตา Galata Tower 

 

อิสตันบูล

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอิสตันบูล ประเทศตุรกี ที่โดดเด่นเป็นสง่ามากที่สุด คือ หอคอยกาลาตา  ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้กับชายฝั่ง Golden Horn ทั้งนี้เนื่องจากในอดีต คอหอยแห่งนี้ ใช้เป็นที่ป้องกันเมือง และ สักเกตุการณ์ข้าศึกที่เข้ามาโจมตีเมืองจากทางทะเล มีอายุเก่าแก่ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่  พ.ศ.1891 และ มีความสูง 67 เมตร เลยทีเดียว

 

หอคอนแห่งนี้ มีทั้งหมด 9 ชั้น โดย นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปบนคอหอย เพื่อรับชมวิวทะเล และ วิวเมืองอิสตันบูล แบบ 360 องศาได้จากหอคอยนี้ ซึ่งบริเวณชั้น 7 – 9 นั้น จะมีหน้าต่าง เพื่อให้สามารถชมวิวได้นั่นเอง นอกจากการขึ้นคอหอยไปชทมวิวแล้ว คอหอยแห่งนี้ยังตั้งอยู๋ในบริเวณชุมชน ดังนั้น จึงรอบล้อมไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ และ ร้านขายของพื้นเมืองหลากหลายอีกด้วย  

 

7. สไปส์มาร์เกต Spice Market Istanbul

 

อิสตันบูล

ขึ้นชื่อว่าออสตันบูล ประเทศตุรกี แน่นอนว่าจะไม่พูดถึงเครื่องเทศคงจะไม่ได้ หากนักท่องเที่ยวคนไหนที่ต้องการอิสตันบูบ ที่เที่ยวที่สะท้อนถึงความเป็น Local และ วัฒนธรมของอิสตันบูลได้ดีที่สุดนั้น ทาง Artralux ขอแนะนำเป็นที่ตลาดขายเครื่องเทศ หรือ Spice Market ของเมือง ซึ่งนอกจากที่คุณจะได้เห็ฯเครื่องเทศหลากหฃลายชนิด ถูกวางขายอย่างมากหน้าหลายตาแล้ว บรรยากาศของตลาดแห่งนี้ จะทำให้คุณได้สัมผัสความเป็นชาวตุรกีอย่างแท้จริง Spice Market เป็นตลาดอันเก่าแก่ของอิสตันบูล เปิดให้บริการตั้งแต่ในสมัยศตวรรษที่ 16 ซึ่งเดิมที เป็นตลาดของชาวอียิปต์ เดิมทีมีชื่อเรียกว่า Egyptian Bazaar  หรือ Spice Bazaar  เพราะตลาดแห่งนี้ เน้นการขายเครื่องเทศเป็นหลัก ลักษณะของตลาด จะเป็นตัว L มีขนาดไม่ได้ใหญ่มาก แต่มีเครื่องเทศขายครบครันแน่นอน  

อิสตันบูล

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

8.  Fener & Balat 

 

อิสตันบูล

มาถึงสาถนที่ท่องเที่ยวในเมืองอิสตัลบูล (Istanbul) mี่นักท่องเที่ยวอาจจะไม่ค่อยรู้จักกัน แต่บอกเลยว่าควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมเป็นอย่างยิ่ง เมื่อคึณได้ก้าวเท้าเข้ามาในย่านนี้ คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศชุมชนลับๆ ที่ชาวบ้านอยู่กันอย่างเงียบสงบ และ มีความสุขแห่งหนึ่ง โโยหมู๋บ้านแห่งนี้ ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยของชาวคริสต์นิกายกรีก ออร์ธอด็อกซ์ (Greek Orthodox) และชาวยิวในสมัยศตวรรษที่ 16 ซึ่งแม้ว่าเวลาจะผ่านมานาน ก็ยังคงกลิ่นอายความอบอุ่นไว้ได้อย่างดี ลักษณะหมู่บ้านมีความน่าใจด้วยสีสันสดใส และ ทางถนนที่ชันตัวขึ้นเป็นเนิน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นได้ทั้งทางลาด หรือ บันไดที่มีไว้ให้

 

อิสตันบูล

นอกจากนี้ หมู่บ้านแห่งนี้ ยังมีร้านขายของพื้นบ้าน มีร้านอาหาร และ คาเฟ่อีกมากมาย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว จะมีโต๊ะรับทานนอกร้านให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศ Lively ของหมู่บ้านแห่งนี้ ขณะ รับประทานอาหาร หรือ จิบกาแฟ เรียกได้ว่าให้ฟิลล์อิตาลีก็ไม่ผิด แต่กิมมิคที่ทางผู้เขียนคิดว่าดีงาม ไม่เหมือนที่ไหนนั้น คือการที่ชาวบ้าน ตากเสื้อผ้าด้วยการแขวนนอกบ้าน เชื่อมต่อกับบ้านอีกหลัง ซึ่งเป็นเสน่ห์ และ เอกลักษณ์ของหมู่บ้านแห่งนี้นั่นเอง  

 

9. Emirgan park อิสตันบูล (Istanbul) 

 

อิสตันบูล

เชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายคนคิดว่าหากต้องการชมความงดงามของดอกทิวลิป ต้องเป็นที่เนเธอร์แลนด์ แต่ในความเป็นจริงแล้วที่ประเทศตุรกี อิสตันบูลนี่เอง ก็มีดอกทิวลิปที่งดงามไม่แพ้ที่ไหนในโลก นอกจากนี้ ที่อิสตันบูล ตุรกีนี่เอง เป็นสถานที่ต้นกำเนิดของดอกทิวลิปด้วยซ้ำ ซึ่งในอดีต ได้มีพ่อค้าชาวตุรกีนำดอกทิวลิปไปขายยังประเทศเนเธอร์แลนด์ จนทำให้ดอกทิวลิปเผยแพร่ไปทั่วโลก และ ได้มีสวยดอกทิวลิปที่สวยงามที่เนเธฮร์แลนด์อย่างในปัจจุบัน 

อิสตันบูล

อย่างไรก็ตาม ที่อิสตันบูล ประเทศตุกรี มีสวนที่ชื่อว่า  Emirgan park  ซึ่งมีดอกทิวลิปปานสะพรั่งหลากหลายสีสันอย่างสวยงาม นอกจากนี้ สวนแห่งนี้ยังมีการจัดวางสวนเพื่อให้พื้นที่สีเขียวโอบล้อมดอกทิวลิปไว้ อีกทั้งตามทางเดิน นักท่องเที่ยวยังสามารถมองวิวน้ำตกขนาดเล็ก และ สะพานข้ามฝั่ง เรียกได้ว่าถ่านรูปสวยมากๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวคนไหน อยากจะเดินทางไปอิสตันบูลเพื่อชมความงดงามของดอกทิวลิป เราแนะนำให้เดินทางไปในช่วงปลายเดือนมีนาคมไปจนถึงปลายเดือนเมษายนของทุกปี เพราะเป็นช่วงที่ดอกทิวลิปบานอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังเป็นช่วงที่อุณหภูมิ อิสตันบูลนั้น กำลังดี ไม่หนาวเกิด หรือ ร้อนจนเกินไป โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 15 องศาเซลเซียส และ ต่ำสุดอยู่ที่ 5 องศาเซลเซียส นั่นเอง ซึ่งในช่วงนี้เองยังเป็นช่วงเทศกาลดอกทิวลิปของอิสตัลบูลอีกด้วย   

 

10. พระราชวังทอปกาปี Topkapi Palace

อิสตันบูล

ปิดท้ายทริปเที่ยวอิสตันบูลกันที่สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามของเมืองอีกแห่งนั่นคือที่ พระราชวังทอปกาปี Topkapi Palace ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมช่องแคบบอสฟอรัส ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชื่นชมวิวของโกลเดน ฮอร์น (Golden Horn) ได้จากพะราชวังแห่งนี้อีกด้วย จุดเด่นของพระราชวังแห่งนี้นั้น ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ พระราชวังชั้นนอก หรือ บีรูน ซึ่งเป็นส่วนของรัฐาน และ ร้บแขกบ้าเมือง, ชั้นใน หรือ เอนเดรูน จะเป็นที่ประทับของพระมเหสี เหล่าสนม นางใน และลูกหลานของสุลต่าน และ ส่วน ฮาเร็ม (Harem) ซึ่งเป็นที่พักของหญิงสาว มีด้วยกันทั้งหมดถึง 300 ห้อง 

 

การเดินทางในอิสตันบูล ประเทศตุรกี

 

อิสตันบูล

 

ด้วยความที่เมืองอิสตันบูลประเทศตุรกี มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 5,000 ตารางกิโลเมตร พลเมือชาวอิสตันบูลเอง จึงไม่นิยมเดินทางด้วยเท้า แต่จะใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะของเมืองแทน แต่นั้นไม่ได้หมายความว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางด้วยเท้าในกรุงอิสตันบูลไม่ได้ จริงๆ แล้ว บ้านเมืองเขาสะอาดและน่าเดินมาก เพียงแต่ระยะทางระหว่างแลนด์มาร์กสำคัญ อาจจะไกลกันสักหน่อย 

 

ในเมืองอิสตันบูล ประกอบไปด้วยประเภทของระบบขนส่งสาธารณะที่หลากหลาย และ ครอบคลุมทุกพื้นที่ในเมือง และ บริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้้พื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน และ นักท่องเที่ยว โดยระบบขนส่งสาธารณะในอิสตันบูล มีดังนี้ 

 

1. THE METRO (SUBWAY) : รถไฟใต้ดิน

 

อิสตันบูล

Metro หรือ รถไฟใต้ดินของอิสตันบูล เป็นทางเลือกการเดินทางที่ว่องไว และ ง่ายที่สุด เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 6:15 AM จนถึง 12:00 AM ของทุก จุดเด่นของรถไฟใต้ดินอิสตันบูลนั้น คือ ความเก่าแก่ ซึ่งได้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ 1989 จึงเป็นระบบรถไฟใต้ดินที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อตั๋วได้ตามตู้ซื้อตั๋ว หรือ พนักงานได้เลย

 

โดยมีให้บริการทั้งหมด 6 สายด้วยกัน ได้แก่ 

  • Line M1A Yenikapı-Atatürk Airport
  • Line M1B Yenikapı-Kirazlı
  • Line M2 Yenikapı-Hacıosman
  • Line M3 Kirazlı-Olimpiyatköy-Başakşehir
  • Line M4 Kadıköy-Tavşantepe  (Asian side)
  • Line M5 Üsküdar-Çekmeköy (Asian side)
  • Line M6 Levent-Boğaziçi University/Hisarüstü

 

2. Tram : รถราง 

อิสตันบูล

Tram หรือ รถราง เป็นประเภทของระบบขนส่งสาธารณะที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวอิสตันบูลมากที่สุด เนื่องจากการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถรางในอิสตันบูลนั้น ค่อนข้างง่าย เนื่องจากมีแค่ 3 สายเท่านั้น อีกทั้งยังวิ่งแค่ในฝั่งของยุโรป นอกจากนี้ รถรางของอิสตันบูลนั้น ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ของการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ เชื่อมต่อระหว่างที่เที่ยวแต่ละที่อย่างง่ายดาย จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 6:00 AM – 11:00 PM 

 

3. Bus: รถบัส

 

อิสตันบูล

สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวอิสตันบูล (Istanbul) ไปพร้อมๆ กับชมบรรยากาศเมืองอิสตันบูลไปพร้อมๆ กันนั้น การเดินทางด้วยรถบัส คือ ทางเลือกระบบขนส่งสาธารณะที่ดีที่สุด โดยในอิสตันบูล มีรถยัสให้บริการ 2 แบบ ได้แก่ Metrobus (Metrobüs) และ  İETT Buses ซึ่งหาได้ง่ายมากไม่ต้องกังวลเลย เพราะที่อิสตันบูลนั้น มีรถบัสมากถึง 4,012 คัน และ มีสายมากถึง 783 สายเลยทีเดียว ในส่วนอัตราค่าโดยสารนั้น ขึ้นอยู่กับระยะทางในการเดินทาง 

 

4. เรือ Ferry 

 

อิสตันบูล

หากคุณต้องการข้ามฝั่งจากอิสตัลบูลฝั่งเอเชีย ไปยังฝั่งยุโรป การเดินทางด้วยเรือ Ferry คือกทางเลือกที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีราคาไม่แพงอีกด้วย โดยค่าตั๋วโดยนสาร มีตั้วแต่ ราคาเดียว ราคาเป็นกลุ่ม (ซึ่งจะถูกกว่า) และ ราคารายเดือน 

 

การเดินทางด้วยเรือ Ferry ในอิสตันบูล มีทั้งหมด 6 เส้นทาง ดังนี้ 

 

  • Karaköy – Kadıköy  ราคาประมาณ 3.00 TL
  • Eminönü – Kadıköy ราคาประมาณ 3.00 TL
  • Beşiktaş – Kadıköy ราคาประมาณ 2.95 TL
  • Üsküdar – Eminönü ราคาประมาณ 2.70 TL
  • Haliç Line ราคาประมาณ 2.60 TL
  • Bosphorus Line ราคาประมาณ 2.60 TL

 

สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวอิสตันบูล (Istanbul) ประเทศตุรกี ไม่ว่าจะไปเที่ยวแบบกลุ่มใหญ่ ครอบคราัว กรุ๊ปส่วนตัว หรือ เที่ยวคนเดียว ทาง Artralux สามารถจัดการวางแผนการเดินทางให้คุณได้ ซึ่งบริการของเราแตกต่างจากที่อื่น โดยไม่ว่าคุณจะอยากเดินทางไปเที่ยวที่ไหน นอนพักโรงแรมอิสตันบูลระดับใด หรือ ลองทานอาหารตุรกีอะไร เราสามารถจัดการวางแผนให้ได้แบบไม่มีข้อแพ้ จะสิ้นปีแล้ว อย่าให้โอกาสลอยไป รีบจองเลย! 

สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)

📞 | 02-047-0083

💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

SHARES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า