เที่ยวตุรกี

เที่ยวตุรกีกับ 14 สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดปี 2024

 

เที่ยวตุรกี เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการที่จะไป โดยเฉพาะคนไทยถือได้ว่านิยมมากๆ ในช่วงหลังๆ มานี้ เพราะสามารถไปเที่ยวได้ง่ายมากๆ และยังสวยงามมากอีกด้วย สำหรับประเทศตุรกีที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “ประเทศสองทวีปที่ไม่ได้มีเพียงสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอย่างเดียวเท่านั้น แต่ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ภาษา รวมไปถึงอาหารการกิน และเรื่องอื่นๆ เกี่ยวกับประเทศตุรกีเองก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน เรียกได้ว่า ถ้าได้มาทัวร์ตุรกีเมื่อไหร่ รับรองมีความสุข และได้รับความสนุกที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

 

ซึ่งในวันนี้เองทาง Artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำ จะพาคุณเดินทางไปเยี่ยมชม 14 สถานที่ท่องเที่ยวตุรกีที่ไม่ควรพลาดในปี 2024 สาเหตุอะไรกันนะที่ทำให้คนไทยนั้น นิยมไปเที่ยวกันในช่วง 5 ปีมานี้ เราได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจต่าง ๆ เกี่ยวกับตุรกีมาให้กับทุกท่านแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เที่ยวตุรกี เดือนไหนดี ,ใช้งบเท่าไหร่ ,การแต่งตัวไปเที่ยวต้องแต่งแบบไหน ,ไปที่ไหนดี ,กินอะไรดี เป็นต้น ทั้งหมดนี้เราจะมาบอกเล่าให้กับทุกท่าน จะมีข้อมูลอะไรบ้างนั้น เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

เที่ยวตุรกีกับ 14 สถานที่ยอดนิยมในปี 2024 จะมาทั้งทีต้องฟินให้สุด

 

หากมาเที่ยวตุรกีนั้น สถานที่ที่มักจะปรากฏในใจของนักท่องเที่ยวเมื่อนึกถึงตุรกีเสมอ ๆ นั่นก็คือ อิสตันบูล ซึ่งเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เราจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตจากคนที่นี่อีกด้วย แต่เหนือสิ่งอื่นใดนั้น ยังมีสถานที่ต่าง ๆ อีกมากมายที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ตลาด ห้องอาบน้ำ และอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีเรื่องอาหารการกิน ที่มีเอกลักษณ์ ซึ่งแต่ละอย่างล้วนแล้วแต่มีเสน่ห์ และเรื่องราวที่น่าสนใจเฉพาะตัว ทำให้ตุรกีเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ฉะนั้นการมาเที่ยวตุรกีจะทำให้คุณไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน กับสถานที่เที่ยวตุรกีที่เราจะแนะนำนั้นจะมีดังต่อไปนี้

 

1. อิสตันบูล (Istanbul)

อิสตันบูล

เมืองอิสตันบูล ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศตุรกี เพราะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ทั้งยังเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนสองทวีป ทำให้เป็นสถานที่ที่น่าหลงใหลสำหรับนักท่องเที่ยว ในเมืองอิสตันบูลที่มีเสน่ห์อย่างไม่มีที่สิ้นสุดนี้ มีประสบการณ์หนึ่งที่ไม่ควรพลาดเลย คือ การล่องเรือบนแม่น้ำบอสฟอรัส ซึ่งเป็นเส้นแบ่งธรรมชาติระหว่างทวีปยุโรปและเอเชีย ประสบการณ์นี้ไม่เพียงแต่ให้โอกาสในการชมวิวทิวทัศน์อันน่าตื่นตาตื่นใจของอิสตันบูลเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้เราได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และชีวิตประจำวันของผู้คนที่นี่อีกด้วย ซึ่งพวกเขามักจะโบกมือทักทายนักท่องเที่ยวบนเรืออย่างเป็นมิตรอยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ต่าง ๆ ที่น่าสนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลละเอียดของเมืองอิสตันบูล ได้เลยรับรองไม่ผิดหวัง

 

2.คัปปาโดเกีย (Cappadocia)

Cappadocia (คัปปาโดเกีย)

คัปปาโดเกีย หรือเมืองบอลลูนตุรกี อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวตุรกีชื่อดัง และสุดปัง ที่นี่เป็นหนึ่งในผลงานศิลปะธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ด้วยภูมิประเทศที่ถูกกัดเซาะจนกลายเป็นรูปทรงที่แปลกตา ทำให้คัปปาโดเกียกลายเป็น “ดินแดนแห่งฝัน” สำหรับผู้ที่หลงใหลในความสวยงามของโลกนี้ สิ่งที่เป็นไฮไลท์สำหรับที่นี่นั้นมีมากมายไม่ว่าจะเป็น

 

  • การชื่นชมวิวคัปปาโดเกียจากท้องฟ้าด้วยบอลลูนอากาศร้อน
  • สำรวจเมืองใต้ดิน และโบสถ์ที่ซ่อนอยู่
  • การเดินทางไปยังหุบเขาต่างๆ เช่น หุบเขา Ihlara หรือหุบเขา Love Valley จะเปิดโอกาสให้คุณได้เห็นประติมากรรมธรรมชาติที่น่าทึ่ง และสวยงาม
  • การดื่มด่ำกับวัฒนธรรม และอาหารท้องถิ่น

 

ใครที่ได้มาเที่ยวตุรกีคัปปาโดเกีย ถือเป็นประสบการณ์ที่ชวนให้คุณได้ออกไปสำรวจ ค้นพบ และหลงรัก ในทุกๆ มุมของเมืองนี้ ไม่ว่าจะเป็นภูมิทัศน์ที่น่าอัศจรรย์ใจ ประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้ง หรือวัฒนธรรม และอื่นๆ อีกมากมาย คัปปาโดเกียคือสิ่งที่รอให้คุณมาเปิดประสบการณ์ใหม่ของการผจญภัยในดินแดนแห่งฝันที่คุณจะต้องหลงรักอย่างแน่นอน

 

3.เอฟิซัส (Ephesus)

เที่ยวตุรกี

เอฟิซัส ประตูสู่อารยธรรมโบราณกรีก และโรมันที่ไม่เคยหลับใหล ซึ่งเคยรุ่งเรืองในอดีต ซากปรักหักพังของเอฟิซัสยังคงเล่าเรื่องราวของความยิ่งใหญ่ ความเจริญ และความลึกลับของมันผ่านโครงสร้างต่างๆ ที่ยังคงอยู่ สิ่งที่เป็นไฮไลท์สำหรับสถานที่เที่ยวตุรกีนี้คือ

 

  • โรงละครโบราณ เป็นหนึ่งในโรงละครโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถจุผู้ชมได้ถึง 25,000 คน ความยิ่งใหญ่ของโรงละครนี้ไม่ได้ดีแค่เพียงขนาด แต่ยังรวมถึงความสวยงามของสถาปัตยกรรมที่ทั้งหมดถูกสลักจากหินอ่อน
  • ห้องสมุดของเซลซัส ด้วยความงดงามทางสถาปัตยกรรมที่ผสานรวมความเป็นกรีกและโรมันเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ในยุคสมัยก่อนห้องสมุดแห่งนี้เคยเป็นหนึ่งในห้องสมุดที่ใหญ่ที่สุดในโลก บรรจุหนังสือกว่า 12,000 เล่ม ซึ่งเป็นแหล่งความรู้และปัญญายิ่งใหญ่ในสมัยนั้น
  • การเดินเล่นในเอฟิซัส คือการเดินทางย้อนเวลากลับไปยังอดีต ทุกย่างก้าวจะพาคุณผ่านเส้นทางประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ถนนมาร์เบิลที่เคยสัมผัสโดยผู้คนมากมายในอดีต, ซากวัดของอาร์ทิมิส หนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ, หรือแม้แต่บ้านของพระแม่มารี ที่เชื่อกันว่าเป็นที่พำนักของพระแม่มารีในช่วงปลายชีวิต

 

การเยี่ยมชมเอฟิซัสไม่เพียงแต่เป็นการเดินทางท่องเที่ยวในตุรกี แต่เป็นการเดินทางที่เต็มไปด้วยความหมาย การเรียนรู้ และการเข้าถึงอดีตกาล เอฟิซัสยังคงเป็นหนึ่งในเมืองโบราณที่ยิ่งใหญ่ และสวยงามที่สุดในโลก ที่ทุกคนควรได้สัมผัสสักครั้งในชีวิตนั่นเอง

 

4.ปามุคคาเล (Pamukkale)

เที่ยวตุรกี

ปามุคคาเล หรือ “ปราสาทปุยฝ้าย” เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีเสน่ห์ และน่าหลงใหลที่สุดในการท่องเที่ยวในตุรกี ด้วยภูเขาหินปูนสีขาวที่สวยงามแปลกตา และน้ำพุร้อนที่นักท่องเที่ยวสามารถแช่น้ำได้ ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่มาเยือนประเทศตุรกี โดยตามตำนานของท้องถิ่น มีความเชื่อว่าน้ำในน้ำพุร้อนของปามุคคาเลมีคุณสมบัติในการรักษาโรค ทำให้ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ยังเป็นสถานที่สำหรับการฟื้นฟูสุขภาพด้วย

 

ปามุคคาเลไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่แสดงถึงความอัศจรรย์ของธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่บอกเล่าเรื่องราวของความเชื่อ วัฒนธรรม และการเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ที่นี่เป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่จะตราตรึงใจคุณไปตลอดชีวิตอย่างแน่นอน

 

5.อันทันยา (Antalya)

เที่ยวตุรกี

อันทันยา เป็นเมืองที่มีประชากรเป็นอันดับ 5 ของประเทศตุรกี และเป็นเมืองหลักของจังหวัดอันทัลยา ที่มีชีวิตชีวาตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของตุรกี ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักจากชายหาดที่มีความสวยงาม และน้ำทะเลใสสะอาดเท่านั้น แต่ยังมีเมืองเก่าที่มีกำแพงเมือง และทางเดินเลียบชายฝั่งที่เต็มไปด้วยเรื่องราว และเสน่ห์ที่น่าค้นหา อันทันยายังเป็นที่ตั้งของหลายๆ แหล่งโบราณคดี และมรดกทางประวัติศาสตร์อีกด้วย เช่น ประตูชัยฮาดีอันทันยา และมินาเรตโยวุซ ที่นี่เป็นที่เที่ยวตุรกีที่คุณสามารถสัมผัส และเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของเมืองที่มีมายาวนาน

 

6.ทรอย (Troy)

เที่ยวตุรกี

ทรอย ไม่ใช่เพียงแค่ชื่อของเมืองโบราณที่หลายคนรู้จักผ่านตำนาน และวรรณกรรมหรือภาพยนตร์ชื่อดังเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่สามารถพาคุณย้อนเวลากลับไปสู่ยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ และหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ยืนยันถึงการมีอยู่ของเมืองโบราณ ที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อวัฒนธรรมกรีก และโรมัน การมาที่นี่นั้นคุณจะได้พบกับสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ ของที่นี่ไม่ว่าจะเป็น

  • การข้ามผ่านประตูแห่งตำนาน การเยือนทรอยเหมือนกับการเดินผ่านประตูสู่โลกแห่งตำนาน เพราะที่นี่คือที่ตั้งของเรื่องราวที่โฮเมอร์ได้บรรยายผ่านมหากาพย์อิลิแอด และโอดิสซีย์ ซากปรักหักพังของเมืองตรอยเป็นหลักฐานที่ยืนยันถึงความยิ่งใหญ่และความเศร้าโศกของสงครามที่เกิดขึ้น และยังเล่าถึงความรัก ความหลงใหล และความภักดีที่มีต่อบ้านเมือง
  • ตำนานเรื่องราวของม้าไม้เมืองทรอย ไม่มีใครพูดถึงทรอยโดยไม่เอ่ยถึงม้าไม้ทรอย ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่มีชื่อเสียงที่สุดในตำนานกรีก แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ยืนยันถึงการมีอยู่ของม้าไม้ทรอยจริงๆ แต่เรื่องราวนี้ก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของเมืองทรอย และเป็นสัญลักษณ์ของความฉลาด การหลอกลวง และการสู้รบ

การเยือนทรอยไม่เพียงแต่เป็นการเดินทางไปยังสถานที่ที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการเดินทางเข้าสู่ตำนาน การสำรวจเมืองนี้เป็นการเดินทางผ่านเวลา ที่ทำให้คุณได้สัมผัสกับความรัก ความสูญเสีย และความยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติเมื่ออดีตที่ถูกบรรยายผ่านเมืองโบราณแห่งนี้นั่นเอง

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

7.บูร์ซาและอูลูดัก (Bursa&Uludag)

เที่ยวตุรกี

บูร์ซาและอูลูดัก ถือเป็นสองเมืองในตุรกีที่สามารถรวบรวมความงดงามของธรรมชาติ และมรดกวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว ที่บูร์ซา หรือที่หลายคนขนานนามว่า “เมืองเขียว” เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสวนสาธารณะ มัสยิดโบราณ และตลาดเก่า ส่วนอูลูดักนั้นถือเป็นสวรรค์ของนักสกีในฤดูหนาว ทำให้การเดินทางระหว่างบูร์ซา และอูลูดักไม่เพียงแต่เป็นการย้ายจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่ง แต่เป็นการเดินทางผ่านสองโลกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง จากความเขียวชอุ่มของบูร์ซาไปสู่ความขาวโพลนของหิมะในอูลูดาก ทั้งสองเมืองนี้เชื่อมโยงกันด้วยความงาม และประเพณีที่มีเอกลักษณ์ ทำให้การเยือนทั้งบูร์ซา และอูลูดักถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับทุกคนที่มาเยือนตุรกีนั่นเอง และทั้งสองเมืองนี้ไฮไลท์เด่นนั้นจะมีทั้งหมดดังนี้

 

  • บูร์ซา ที่เมืองแห่งนี้นั้นคุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของเมืองเก่าที่ยังคงรักษาความงดงาม และความเป็นโอตโตมันไว้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็น มัสยิดเขียว (Yeşil Camii) ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับศิลปะการสร้างมัสยิดที่สวยงาม และหมู่บ้านคูมาลิคิซิก (Cumalikizik) ชื่นชมประเพณีชีวิตประจำวันของชาวบ้านที่ไม่เหมือนใคร ทั้ง 2 สถานที่นี้ถือเป็นที่ที่ไม่ควรพลาดตลาดเก่าและมรดกของบูร์ซา
  • ตลาดเก่าและมรดกของบูร์ซา ตลาดเก่าของบูร์ซาเป็นสถานที่ที่คุณสามารถเห็นการผสมผสานระหว่างอดีต และปัจจุบันได้อย่างลงตัว ตั้งแต่ร้านขายเครื่องเทศหลากหลาย ไปจนถึงร้านขายผ้าซิลค์ และผลิตภัณฑ์หัตถกรรมท้องถิ่น การเดินเล่นในตลาดเก่าคุณจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของบูร์ซาได้ที่นี่
  • อูลูดัก เป็นหนึ่งในสถานที่สกีที่ดีที่สุดในตุรกี ด้วยภูเขาที่มีความสูง และหิมะที่ปกคลุมอย่างหนาแน่นในฤดูหนาว ทำให้เป็นสวรรค์ของนักสกี อูลูดากมีเส้นทางสกีที่เหมาะสำหรับทุกคน และยังมีโรงแรมและร้านอาหารที่พร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวแบบครบครันอีกด้วย

 

8.โกเบคลี เทเป (Gobekli Tepe)

เที่ยวตุรกี

หากใครชื่นชอบสำรวจสถานที่เที่ยวตุรกีโบราณยุคเก่าสำหรับ โกเบคลี เทเป ถือเป็นหนึ่งในสถานที่โบราณคดีที่สำคัญที่สุดในโลก และยังเป็นอารยธรรมมนุษย์ในยุคแรกเริ่ม ที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกของตุรกี โกเบคลี เทเป เป็นแหล่งโบราณคดีที่ท้าทายความเข้าใจเดิมๆ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติด้วยอายุที่เก่าแก่กว่า 11,000 ปี ทำให้มันเก่ากว่าสโตนเฮนจ์ และปิรามิดในอียิปต์เสียอีก

 

การเข้ามาเยี่ยมชมที่นี่นั้น คุณจะพบกับวงกลมหินขนาดใหญ่ และเสาหินที่ประดับด้วยภาพสลักของสัตว์ต่างๆ ที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็น สิงโต วัวป่า และเหยี่ยว ฯลฯ เป็นต้น และในความละเอียดอ่อนในงานศิลปะ และการก่อสร้างที่ซับซ้อนของเสาหิน ถือเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ที่ทำให้ทุกคนได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของอารยธรรมโบราณ และได้รู้ถึงความเป็นมาของมนุษยชาติ มันเป็นสถานที่ที่ท้าทายความเข้าใจ และเปิดโอกาสให้เราได้สงสัย สำรวจ และค้นหาคำตอบสำหรับปริศนาที่ยังคงเป็นลึกลับนั่นเอง

 

9.มาร์มาริสและโบดรัม (Marmaris&Bodrum)

เที่ยวตุรกี

เมื่อพูดถึงการหลบหนีไปพักผ่อน และชายหาดที่สวยงาม พร้อมทั้งได้เพลิดเพลินกับกีฬาทางน้ำ มาร์มาริสและโบดรัม คือสองสถานที่เที่ยวตุรกีที่ไม่ควรพลาด เป็นสองเมืองที่ให้บรรยากาศที่แตกต่างกัน แต่ทั้งสองเมืองนี้มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือความสวยงามของชายหาดที่งดงาม และกิจกรรมทางน้ำที่หลากหลาย

  • มาร์มาริส เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนริมฝั่งทะเลอีเจียน ด้วยทิวทัศน์ที่งดงามของทะเล และเทือกเขา ทำให้เมืองนี้เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับการพักผ่อน กีฬาทางน้ำถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนมาร์มาริส ตั้งแต่การเล่นเซิร์ฟบอร์ด พายเรือคายัค ไปจนถึงการดำน้ำชมปะการัง ที่นี่มีทุกอย่างที่จะทำให้วันหยุดของคุณเต็มไปด้วยความสนุก และผ่อนคลาย
  • โบดรัม เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และมีชายหาดที่น่าทึ่งไม่แพ้กัน ตั้งอยู่บนคาบสมุทรของตุรกีที่ยื่นออกไปในทะเลอีเจียน เหมาะสำหรับทุกกิจกรรมตั้งแต่การเล่นวินด์เซิร์ฟ ไปจนถึงน้ำทะเลที่ใสสะอาดที่เหมาะสำหรับการดำน้ำดูปะการัง และสัตว์น้ำหลากหลายชนิด ที่นี่ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเรียนรู้เกี่ยวกับการดำน้ำด้วยถังอากาศ หรือแม้แต่การล่องเรือไปยังหมู่เกาะใกล้เคียง นอกจากนี้โบดรัมยังมีมรดกทางประวัติศาสตร์ เช่น ปราสาทโบดรัม ที่มีเรื่องราวของอดีตที่ยิ่งใหญ่ของเมืองนี้อีกด้วย

 

10.ไซส์ (Side)

เที่ยวตุรกี

ไซส์ เป็นเมืองริมทะเลที่ไม่เหมือนใคร ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนของตุรกี ที่นี่ไม่เพียงแค่เป็นสถานที่เที่ยวตุรกีที่มีชายหาดที่สวยงามเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยซากปรักหักพังของเมืองโบราณโรมันที่เล่าเรื่องราวของอารยธรรมที่เคยรุ่งเรือง ทำให้แสดงให้เห็นว่าการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ และการผ่อนคลายกับธรรมชาติสามารถทำได้พร้อมกันได้ หากคุณลองให้โอกาสให้ตัวเองได้สำรวจ และค้นหาความประทับใจกับทุกสิ่งที่ไซส์มีให้ คุณอาจจะพบว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์ไม่รู้จบ

ไฮไลท์ของที่นี่นั้นนอกจากผ่อนคลายกับน้ำทะเลที่ใสสะอาด หรือแม้กระทั่งการเล่นกีฬาทางน้ำ ก็จะมีทั้งชมซากปรักหักพังของโรงละครโบราณที่ยังคงความงดงาม โบสถ์ และโบราณสถานต่างๆ ที่เคยเป็นส่วนสำคัญของเมืองโรมันโบราณอีกด้วยนั่นเอง

 

11.ชันลืออูร์ฟา (Sanliurfa)

เที่ยวตุรกี

หากพูดถึงเรื่องศาสนา และประวัติศาสตร์อันลึกลับ ซันลีอูร์ฟา หรือที่รู้จักในชื่ออีกแบบว่า “อูร์ฟา” ถือเป็นอีกเมืองหลักเมืองหนึ่งที่เป็นจุดหมายปลายทางทางศาสนา ประวัติศาสตร์ และตำนานอันเก่าแก่ ไม่ว่าจะเป็น ตำนานอันศักดิ์สิทธิ์บ่อปลาฮาราน ที่มีตำนานเล่าขานว่าคือสถานที่ที่พระอับราฮัมถูกคาดโทษให้ถูกเผา แต่พระเจ้าได้เปลี่ยนไฟเป็นน้ำและฟืนเป็นปลา จนทำให้บ่อปลานี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ห้ามการจับปลา ปลาที่อาศัยอยู่ในบ่อนี้จึงมีจำนวนมากและถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง ถ้ำเบอร์อาห์เบย์ จุดเริ่มต้นของตำนานที่สำคัญของศาสนาอิสลาม คริสต์ และยิว ทำให้เป็นสถานที่ที่มีความหมายลึกซึ้งสำหรับผู้คนมากมายทั่วโลก เพราะเป็นสถานที่ที่เชื่อว่าพระอับราฮัมได้กำเนิดที่นี่นั่นเอง

 

12.ภูเขาเนมรุต (Mount Nemrut)

เที่ยวตุรกี

ภูเขาเนมรุต (Mount Nemrut) อยู่ใกล้กับเมือง อาดึยามัน (Adiyaman) เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีเสน่ห์ลึกลับ และเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในหมู่ผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์ และตำนานโบราณ ตั้งอยู่ในตุรกีตะวันออก ยอดเขานี้เป็นที่ตั้งของประติมากรรมหินขนาดใหญ่ และสุสานของกษัตริย์แอนติโอคัสที่หนึ่ง จากยุคเฮลเลนิสติก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในมรดกโลกที่น่าทึ่งที่สุดอีกด้วย การเยือนภูเขาเนมรุตเป็นการเดินทางที่จะนำพาคุณไปสู่การสัมผัสกับประวัติศาสตร์ที่เป็นมากกว่าเรื่องราวที่ถูกบันทึกไว้ในหนังสือ ภูเขาเนมรุตเป็นหนึ่งในสถานที่ที่พิสูจน์ว่าประวัติศาสตร์และตำนานสามารถมีชีวิตขึ้นมาได้ และยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในยุคปัจจุบันนั่นเองและยังได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกอีกด้วย และมีไฮไลท์ต่างๆ หากไปเที่ยวที่นี่ก็จะมี

  • เป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ภูเขาเนมรุตไม่เพียงแต่เป็นที่ตั้งของซากปรักหักพังโบราณเท่านั้น แต่ยังเป็นห้องแสดงนิทรรศการกลางแจ้งที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเผยให้เห็นประติมากรรมหินขนาดใหญ่ของเทพเจ้ากรีก และเปอร์เซีย ประติมากรรมเหล่านี้สูงเสียดฟ้า เป็นเหมือนผู้คุ้มครองที่ยืนหยัดอยู่บนยอดเขา สร้างความตระการตาและความน่าเกรงขามให้กับทุกคนที่ได้มาเยือน
  • เป็นพระราชสุสานที่ซ่อนเร้น ใจกลางของภูเขาเนมรุตเป็นที่ตั้งของสุสานของกษัตริย์แอนติโอคัสที่หนึ่ง แต่จนถึงวันนี้ สุสานนี้ยังไม่เคยถูกค้นพบอย่างเต็มที่ สร้างความลึกลับและทำให้ภูเขานี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่าสนใจและท้าทายสำหรับนักโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์
  • ชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกดิน การเดินทางไปยังภูเขาเนมรุตเป็นการผจญภัยที่ไม่เหมือนใคร การชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกดินที่นี่ถือเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาด แสงสีทองของพระอาทิตย์ที่ส่องแสงบนประติมากรรมหินเหล่านี้สร้างบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยความงดงาม

 

13.อัสเพนโดส (Aspendos)

เที่ยวตุรกี

หากพูดถึงหัวใจของตุรกีซึ่งถือเป็นแผ่นดินแม่ของอารยธรรมโบราณ ที่ซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ที่มีชีวิตชีวาผ่านกาลเวลานานหลายพันปี นั่นคือ “อัสเพนโดส” หนึ่งในโรงละครโรมันที่สมบูรณ์และใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังเป็นพื้นที่จัดการแสดง และเทศกาลต่างๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจ โรงละครโรมันที่ยิ่งใหญ่นั้นถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 2 โดยจักรพรรดิมาร์คัส ออเรลิอุส โรงละครแห่งนี้สามารถรองรับผู้ชมได้ถึง 15,000 คน ด้วยความสมบูรณ์ของโครงสร้าง อัสเพนโดสได้กลายเป็นหนึ่งในสมบัติของโลกโบราณที่ยังคงสามารถใช้งานได้จนถึงทุกวันนี้

หนึ่งในความลับของโรงละครอัสเพนโดสคือการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่ชาญฉลาดมากๆ เนื่องจากเสียงจากเวทีสามารถได้ยินอย่างชัดเจนไปทุกพื้นที่ถึงผู้ชม ไม่ว่าจะนั่งอยู่ตรงไหนในโรงละคร ก็สามารถได้ยินเสียงจากเวทีได้แน่นอน จนถึงปัจจุบันนี้ โรงละครอัสเพนโดสยังคงเป็นสถานที่จัดการแสดงที่หลากหลาย ตั้งแต่การแสดงโอเปร่า บัลเลต์ ไปจนถึงคอนเสิร์ตของศิลปินระดับโลก การได้ชมการแสดงในโรงละครโบราณนี้เป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร ทั้งบรรยากาศและคุณภาพของการแสดงที่ยากจะหาที่ไหนเทียบได้

 

14.เมืองเก่าเคมาลี (Kemaliye)

เที่ยวตุรกี

ในมุมหนึ่งของตุรกีที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก มีเมืองเล็กๆ ที่ชื่อว่าเคมาลี (Kemaliye) แม้จะเป็นเมืองที่เงียบสงบ แต่ที่นี่คุณจะได้พบบ้านเรือนแบบดั้งเดิมสไตล์โอตโตมันที่มีอายุหลายร้อยปี รวมทั้งทิวทัศน์ของภูเขาที่น่าตื่นตา และยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตที่เรียบง่าย และความรู้สึกแห่งการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ทำให้เมืองนี้กลายเป็นสถานที่ที่น่าสำรวจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความสงบ และความงดงามของธรรมชาติ

หนึ่งในไฮไลท์ของเคมาลีคือ อุโมงค์แห่งความมืด (Dark Canyon) ซึ่งเป็นหนึ่งในหุบเขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก หุบเขานี้เป็นสถานที่ที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย ท่ามกลางผาหินที่สูงชัน และน้ำตกที่ซ่อนตัวอยู่ การเดินป่า และการพายเรือคายัคที่นี่จะเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร แม้ว่าการเดินทางมายังเคมาลีอาจจะเป็นอะไรที่ท้าทาย แต่ความงาม และความสงบที่คุณจะได้พบเมื่อมาถึงที่นี่จะทำให้การเดินทางคุ้มค่าอย่างแน่นอน

คำถามที่พบบ่อยในการเดินทางไปเที่ยวตุรกี

 

Q.1 : เที่ยวตุรกี เดือนไหนดี 2024

 

เที่ยวตุรกี เดือนไหนดีนั้น ช่วงที่ดีที่สุดที่เราอยากแนะนำคือในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน (ฤดูใบไม้ผลิ) และเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน (ฤดูใบไม้ร่วง) เนื่องจากในช่วงเวลานี้อากาศจะอบอุ่นและสบาย ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป ทำให้เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว และการเดินเล่นชมทิวทัศน์ หรือซากปรักหักพังโบราณต่างๆ นั่นเอง

  • เมษายนถึงมิถุนายน (ฤดูใบไม้ผลิ): ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ดอกไม้และธรรมชาติในตุรกีเริ่มผลิบาน สภาพอากาศที่อบอุ่นแต่ไม่ร้อนจัด เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวทั้งในเมืองและบนภูเขา หาดทราย หรือการเดินทางไปยังสถานที่โบราณคดีต่างๆ
  • กันยายนถึงพฤศจิกายน (ฤดูใบไม้ร่วง): ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่อากาศเริ่มเย็นลง พร้อมกับทิวทัศน์ของใบไม้ที่เปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองและส้ม สร้างบรรยากาศที่โรแมนติก และเงียบสงบ นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวน้อยลง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสงบ และไม่ชอบความวุ่นวาย

คำเตือน ช่วงที่ควรหลีกเลี่ยงการเที่ยวตุรกี คือ ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม เนื่องจากเป็นช่วงฤดูร้อนที่อากาศจะร้อนจัด โดยเฉพาะในบริเวณชายฝั่ง และพื้นที่ทางตอนใต้ของประเทศ

 

Q.2 : เที่ยวตุรกี แต่งตัวยังไงดี

 

การแต่งตัวเมื่อไปเที่ยวตุรกีควรคำนึงถึงสภาพอากาศ วัฒนธรรม และกิจกรรมที่คุณวางแผนไว้ ตุรกีเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และมีอากาศที่แตกต่างกันไปตามฤดูกาลและพื้นที่ ดังนั้น นี่คือคำแนะนำทั่วไปในการเตรียมตัวเมื่อไปเที่ยวตุรกีคือ

  • สภาพอากาศ
    • ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง (เมษายน-มิถุนายน, กันยายน-พฤศจิกายน) : แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย แต่ควรพกเสื้อกันหนาวหรือเสื้อแจ็คเก็ตไว้ด้วย เนื่องจากอากาศอาจเย็นลงในตอนเช้า และตอนเย็น
    • ฤดูร้อน (กรกฎาคม – สิงหาคม) : ควรเตรียมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เช่น เสื้อแขนสั้น กางเกงขาสั้น และชุดกระโปรง สำหรับผู้หญิง อย่าลืมพกหมวกกันแดด และแว่นตากันแดดเอาไว้ด้วย
    • ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – มีนาคม) : ควรเตรียมเสื้อผ้าหนา ๆ เช่น เสื้อกันหนาว จั๊มเปอร์ และเสื้อโค้ท เพื่อกันความหนาว เช่น หมวก ถุงมือ และผ้าพันคอ
  • วัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยว
    • เมื่อเข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เช่น มัสยิดหรือสถานที่ทางศาสนา ควรแต่งกายอย่างสุภาพ และปกปิดส่วนที่ควรปกปิด เช่น ใส่เสื้อที่มีแขน และกางเกงหรือกระโปรงที่คลุมเข่า ผู้หญิงควรพกผ้าคลุมศีรษะไปด้วย
    • ให้สวมรองเท้าที่ถอดได้สะดวก เนื่องจากคุณจำเป็นต้องถอดรองเท้าเมื่อเข้าไปในบางสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง

 

Q.3 : เที่ยวตุรกี งบเท่าไหร่

 

เที่ยวตุรกี ใช้งบเท่าไหร่นั้น ตามข้อมูลต่าง ๆ โดยรวมแล้ว หากคุณวางแผนการเดินทางเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ งบประมาณโดยประมาณที่ควรเตรียมไว้อาจอยู่ระหว่าง 30,000 – 70,000 บาท (ไม่รวมตั๋วเครื่องบินไป-กลับ)ขึ้นอยู่กับรูปแบบการเดินทาง ที่พัก และกิจกรรมที่คุณเลือกทำ ค่าอาหารโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 200 – 1,000 บาทต่อวัน, ค่าที่พักมีตั้งแต่ประมาณ 500 บาทต่อคืนสำหรับโฮสเทลไปจนถึง 5,000 บาทต่อคืนสำหรับโรงแรมระดับสี่หรือห้าดาว, ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ระหว่าง 100 – 500 บาทต่อสถานที่ และค่าเดินทางภายในประเทศ เช่น รถประจำทาง รถไฟ หรือการเช่ารถ อาจอยู่ราวๆ 1,000 – 5,000 บาทต่อวัน ขึ้นอยู่กับรูปแบบการเดินทาง

 

Q.4 : เที่ยวตุรกี อันตรายไหม

 

การเที่ยวตุรกีโดยรวมแล้วถือว่าปลอดภัย แต่เหมือนกับการเดินทางไปยังประเทศอื่นๆ นักท่องเที่ยวควรมีความระมัดระวัง และทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ท้องถิ่น ควรระมัดระวังเรื่องต่างๆ ด้วยเช่น หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีความไม่สงบหรือมีประวัติของการขัดแย้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนใกล้กับซีเรีย และระวังการหลอกลวงและการโจรกรรม

 

Q.5 : เที่ยวตุรกี ใช้เงินอะไร

 

เมื่อเดินทางไปเที่ยวตุรกี สกุลเงินที่ใช้ในประเทศคือ “ลีราตุรกี” (Turkish Lira) ซึ่งมีสัญลักษณ์เป็น “₺” หรือในรูปแบบการเขียนอื่นๆ อาจเรียกว่า “TL” การใช้จ่ายส่วนใหญ่ในตุรกี ไม่ว่าจะเป็นค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว หรือการซื้อของที่ระลึก ล้วนแล้วแต่ใช้ลีราตุรกีเป็นหลัก คุณสามารถแลกเงินได้ที่สนามบิน ธนาคาร หรือสำนักงานเปลี่ยนเงินในตุรกี

 

เที่ยวตุรกีในปัจจุบันนี้นั้นถือว่าเป็น 5 ประเทศที่เที่ยวยอดนิยมสำหรับคนไทยแล้ว ซึ่งสำหรับใครที่สนใจเดินทางท่องเที่ยวตุรกีหรือสถานที่เที่ยวอื่นๆ สามารถติดต่อ Artralux เพื่อให้เราได้สร้างสรรค์ทริปการเดินทางสุดพิเศษให้แก่ทุกท่านและคนพิเศษได้เลย

 

สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)

📞 | 02-047-0083

💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

SHARES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า