อาหารสวีเดน (Swedish Cuisine) หรือ เป็นส่วนหนึ่งของอาหารสแกนดิเนเวียที่ได้รับความนิยม และ มีชื่อเสียงในระดับสากล เพราะไม่ใช่แค่รสชาติของอาหารที่มีความสดใหม่ อร่อย และ รับประทานง่ายแล้ว อาหารสแกนดิเนเวีย รวมไปจนถึงอาหารสวีเดน ยังเป็นสัญชาติอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบครัน ทั้งนี้เนื่องจากเมนูอาหารสแกนดิเนเวีย ส่วนใหญ่มาพร้อมกับไขมันและเส้นใยไม่อิ่มตัวที่ดีต่อสุขภาพ นอกจากนี้ปริมาณน้ำตาล ไขมันอิ่มตัว รวมไปจนถึง การใช้อาหารแปรรูปนั้น มีปริมาณที่ต่ำกว่าอาหารจากสัญชาติอื่นๆ ทั่วไป และที่สำคัญ อาหารสแกนดิเนเวีย และ อาหารสวีเดนนี่เอง ก็เป็นประเภทอาหารที่ขึ้นชื่อในเรื่องของกรรมาวิธีการปรุงอาหารที่เน้นการถนอมอาหาร ไม่ว่าจะเป็น การตากแห้ง การรมควัน การใส่เกลือ และการดองมากกว่าการนำวัตถุดิบมาทอด ทั้งนี้เนื่องจาก ประเทศสวีเดน และ ประเทศในแถบสแกนดิเนเวียมีอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ชาวไวกิ้งสมัยก่อนจึงคิดค้นวิธีที่พวกเขาจะสามารถถนอมอาหาร เพื่อเก็บไว้รับประทานได้ยืนนานมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ ชาวสวีเดนจึงมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และมีอายุยืนนานเป็นอันดับที่ 16 ของโลก (ข้อมูลจากเว็บไซต์ cbsnews)
วันนี้ Artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำของไทย จึงได้รวบรวมเมนูอาหารสวีเดน 10 เมนู รวมถึง ขนมสวีเดนมาฝาก ที่รับรองว่าอร่อย ถูกปากคนไทยอย่างเราๆ อีกทั้งยังมาพร้อมกับรสชาติอาหารสวีเดนต้นตำรับแท้ๆ ซึ่ง 10 เมนูอาหารสวีเดนจะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
10 เมนูอาหารสวีเดน และ ขนมสวีเดนที่ต้องลองเมื่อมาเที่ยวสวีเดน!
อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น อาหารสวีเดน เป็นอาหารที่มีโภชนาการสูง ประกอบไปด้วยสารอาหารครบถ้วน โดยเมนูอาหารสวีเดนส่วนใหญ่นั้น จะมาพร้อมกับวัตถุดิบหลากหลายในจานเดียว เช่น เนื้อสัตว์ (เนื้อหมู, เนื้อสัตว์ปีก, เนื้อลูกวัว, เนื้อวัว, นกป่า, กวางเอลก์, หมี, ม้า รวมไปจนถึงปลาวาฬ), เนื้อปลา Seafood, ขนมปัง (โดยเฉพาะขนมปังที่ทำมาจากข้าวไรย์), ผัก (ส่วนมากจะเป็นผักดอง), และ วัตถุดิบประเภท Dairy (ชีส และ ครีม)
รากฐานอาหารสวีเดน (Origin of Swedish Cuisine)
อาหารสวีเดนมีเอกลักษณ์อยู่ที่รสชาติที่มีความเป็นพื้นเมือง เนื่องจากวัตถุดิบที่นำมาทำอาหารสวีเดนนั้น ได้มากจากการผสมผสานวัตถุดิบพื้นเมืองเข้าด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ในบางเมนูอาหารสวีเดนพื้นเมือง ก็ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารประเทศใกล้เคียง ทั้งนี้เนื่องจากชาวสวีเดน เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ และ ชอบลองสิ่งแปลกใหม่อยู่เสมอ ดังนั้นอาหารสวีเดนบางเมนู จึงเป็นการนำเอาอาหารต่างประเทศ ผสมผสานเข้ากับวัตถุดิบท้องถิ่นเข้าด้วยกัน
ยกตัวอย่างเช่น ซอสครีมเข้มข้น ที่มีส่วนผสมของชีสที่เป็นที่นิยมในเมนูอาหารสวีเดนที่เราเห็นทุกวันนี้ แท้จริงแล้วได้รับอิทธิพลมจากอาหารฝีั่งเศสที่เข้ามามีบทบาทในประเทศสวีเดนในช่วงศตวรรษที่ 17 นอกจากนี้ เมนูมีทบอล (Meatball) ซึ่งเป็นอาหารประจำชาติสวีเดนทุกวันนี้ จริงๆ แล้ว มีต้นกำเนิดมาจากประเทศตุรกี แต่ชาวสวีเดนได้นำเมนูมีทบอล (MeatBall) ดังกล่าว มาผสมผสานกับเครื่องเคียงท้องถิ่น เช่น แตงกวาดอง มันฝีั่ง และ ลิงกอนเบอร์รี่ (ซอส lingonberry) จากนั้น เพิ่มรสชาติความอร่อยด้วยการราดน้ำเกรวี่ครีม (‘brunsås’) จนกลายมาเป็น มีทบอลสวีเดน (Swedish meatballs) ที่มีชื่อเสียงจนถึงทุกวันนี้
อย่างไรก็ตาม นอกจากมีทบอลสวีเดนแล้ว เมนูอาหารสวีเดนแสนอร่อยที่ Artralux อยากจะแนะนำให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้ลิ้มลองหากมีโอกาสได้เดินทางไปท่องเที่ยวสวีเดน มีดังนี้
1. Smörgåstårta : แซนด์วิชเค้ก
ขอเริ่มต้นกันที่เมนูอาหารสวีเดนที่น้อยคนนักจะรู้จัก หรือ เคยได้ลิ้มลอง ซึ่งเมนูอาหารสวีเดนจานนี้ หลายคนอาจจะมองว่าเป็นของหวาน ทั้งนี้เนื่องจากจานนี้มีหน้าตาคล้ายคลึงกับเค้กนั่นเอง อย่างไรก็ตาม สำหรับชาวสวีเดนแล้ว จานนี้ถือเป็นของคาว (Savory Cake) ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศสวีเดนช่วงศตวรรษที่ 17 จุดเด่นของอาหารจานนี้ คือความหลากหลายในรสชาติที่คุณจะได้รับจากการรับประทานในหนึ่งคำ จริงๆ แล้ว วัตถุดิบที่ทางพ่อครัวสวีเดนเลือกใช้นั้น ไม่มีข้อบังคับที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ และ เอกลักษณ์ของแต่ละร้าน
อย่างไรก็ตาม เมนู Smörgåstårta ซึ่งเป็นอาหารสวีเดนแบบดั้งเดิม มีด้วยกัน 2 แบบนั่นคือ Smörgåstårta หน้าแซลมอน-กุ้ง และ Smörgåstårta หน้าเนื้อ-แฮม-ชีส ซึ่งสาเหตุที่จานนี้ถูกเรียกว่าแซนด์วิชนั้น เพราะวิธีการทำคล้ายคลึงกับการทำแซนด์วิช โดยการนำเอาขนมปังขาว หรือ ขนมปังไรย์ มาซ้อนกันเป็นชั้น จากนั้นท็อปปิ้งด้วยหน้าต่างๆ ตามที่ต้องการ ปิดท้ายด้วยการเคลือบด้วยครีมชีส, มายองเนส, โยเกิร์ต หรือทุกอย่างรวมกัน และตกแต่งหน้าอาหารด้วยผัก และเนื้อต่างๆ
2. Köttbullar : มีทบอลสวีเดน
หากพูดถึงอาหารสวีเดนแล้วจะไม่พูดถึงอาหารสวีเดนประจำชาติที่สร้างชื่อเสียงให้อาหารสวีเดนโด่งดังไปทั่วโลก อย่าง เมนูมีทบอล (Köttbullar) ก็คงจะไม่ได้ แม้มีทบอลจะเป็นเมนูที่มีให้เห็นกันในหลายเชื้อชาติ แต่มีทบอลของสวีเดนนั้นมีรสชาติ และ วิธีการทำที่แตกต่างจากมีทบอลของชาติอื่น มีทบอลสวีเดน จะมีรสชาติที่เข้มข้น นิยมเสิร์ฟควบคู่กับซอสครีม หรือ ซอสน้ำเกรวี่ จากนั้นปรุงรสด้วยเครื่องเทศที่เป็นเอกลักษณ์ และมักจะนิยมรับประทานเป็นอาหารมื้อหลักมากกว่าอาหารเรียกน้ำย่อยหรือบนแซนด์วิช
นอกจากนี้แตกต่างจากมีทบอลชาติอื่นๆ มีทบอลของประเทศสวีเดนนั้น จะมีขนาดที่ค่อยข้างเล็ก พอดีคำ และ ทำมาจากเนื้อหมูบด (Ground Pork) หรือ เนื้อหมูบดผสมกับเนื้อวัวบด (blended pork and beef) นอกจากนี้ยังมีสว่นผสมของเกล็ดขนมปังป่น และ ไข่ การปรุงรสมีทบอลจะใช้ส่วนผสมหลักเป็นหัวหอม เครื่องเทศนานาชนิด เกลือ และ พริกไทย และเมื่อนำไปปั้นจนได้รูปทรงกลมขนาดที่ต้องการ จะนำไปทอดจนสีของมีทบอลกลายเป็นสีน้ำตาลที่สวยงามนั่นเอง
3. Smörgåsbord : บุฟเฟ่ต์สวีเดน
เชื่อเลยว่า ไม่ว่าจะชาติไหน ก็รักบุฟเฟ่ต์ด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งประเทศสวีเดนเองก็มีเมนูบุฟเฟ่ต์ประจำชาติ อย่าง เมนู Smörgåsbord ที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายในทุกพื้นที่ นอกจากนี้ยังเป็นเมนูอาหารสวีเดนดังกล่าวยังเป็นเมนูอาหารสวีเดนประจำชาติที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 18 โดยคำว่า “Smörgås” มีความหมายว่า แซนด์วิชแบบเปิด หรือ ขนมปังเนย ในขณะที่คำว่า “Board” นั้น มีความหมายว่าโต๊ะนั่นเอง อาหารสวีเดนเมนูนี้ ประกอบด้วยเมนูที่หลากหลาย ตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อย อาหารสวีเดนมื้อหลัก ขนมหวานสวีเดน อาหารล้างปาก ไปจนถึงเครื่องดื่ม มีการเสิร์ฟทั้งในรูปแบบร้อน และ แบบเย็น ซึ่งเมนู Smörgåsbord นั้น มีหน้าตาที่หรูหรา แต่มีความซับซ้อน
หากถามว่า Smörgåsbord ประกอบด้วยเมนูอะไรบ้างนั้น จริงๆ แล้ว เมนู Smörgåsbord ประกอบด้วยอาหารจานเย็น (Cold Dishes) เป็นหลัก โดยส่วนใหญ่ จะเป็นเมนูที่มีเนื้อปลา Seafood เป็นส่วนประกอบหลัก ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง, ปลาแมคเคอเรลรมควัน, ปลาแซลมอนรมควัน และไข่ปลา ในส่วนของอาหารจานหลัก จะเป็นเมนูปลาเฮอริ่งดอง (Pickled Herring) นอกจากนี้ ไข่ต้มสุก และ เนื้อที่เสิร์ฟแบบสด เช่น ซาลามิ (Salami), ปาเต้ตับ (Liver pate), แฮมรมควัน (Smoke Ham) และ ไส้กรอก (Sausage) ก็มีวางให้ได้เลือกกินเช่นกัน
ในส่วนของเมนูร้อน (Hot Dishes) ที่มักจะเสิร์ฟในฤดูหนาว ได้แก่ เมนูมีทบอล (MeatBall) หมูย่าง (roast pork) และ ไส้กรอกชิ้นเล็ก (Prinskorv) เสิร์ฟพร้อมกับกะหล่ำปลีแดงปรุงรสเผ็ดร้อน ในส่วนของของหวาน ได้แก่ คีช และ พายเห็ดพร้อมสลัด เป็นต้น
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
4. Kräftskiva : เทศกาลการกิน Crayfish หรือ ล็อบสเตอร์น้ำจืด
“เทศกาล Kräftskiva” หรือ “เทศกาลกินกุ้งเครฟิช (Crayfish)” คือชื่อเทศกาลในช่วงหน้าร้อน ซึ่งในช่วงนี้ชาวสวีเดนจะรวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ทั้งนี้เนื่องจากประเทศสวีเดน เป็นประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ดังนั้น ชาวสวีเดนจึงตั้งหน้าตั้งตารอเทศกาลนี้เป็นอย่างยิ่ง เพื่อที่จะได้รับประทานอาหารกลางแจ้งกับคนพิเศษ โดยเมนูอาหารสวีเดนที่นิยมรับประทานในเทศกาล Kräftskiva คือ เมนูกุ้งเครฟิช (Crayfish) ซึ่งพ่อครัวชาวสวีเดน จะนำเอากุ้งเครฟิช หรือ กุ้งล็อบเตอร์ ไปแช่น้ำเกลือ จากนั้นจึงนำไปแช่เย็น จนเนื้อกุ้งมีความกรอบอร่อย ซึ่งสายพันธุ์กุ้งล็อบเตอร์ที่นิยมนำมาทำนั้น คือ กุ้งล็อบเตอร์ที่หาได้ในเขตสแกนดิเนเวีย หรือ ในเขตประเทศสวีเดนเท่านั้น นอกจากเมนูกุ้งที่เป็นอาหารจานหลักแล้ว บนโต๊ะอาหารยังประกอบไปด้วยเมนูเครื่องเคียงมากมาย
โดยความเป็นมาของเทศกาล Kräftskiva นั้น มีความเป็นมาที่ยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ซึ่งแต่เดิม เมนูกุ้งล็อบเตอร์ เป็นเมนูอาหารสวีเดนของชาวราชวงศ์ชั้นสูง แต่ในช่วงศตวรรษที่ 17 ชาวสวีเดนก็ได้เริ่มหันมาทานกุ้งเครย์ฟิชในวงกว้างมากขึ้น โดยในปี 1930 ทางการสวีเดน ก็ได้ใช้ชื่อ Kräftskiva เพื่อเป็นชื่อที่ใช้เรียกเทศกาลการกินล็อบเตอร์ของชาวสวีเดน
ซึ่งอาหารที่ถูกจัดวางไว้บนโต๊ะอาหาร นอกจากจะมีเมนูหลักเป็นกุ้งล็อบเตอร์แล้ว ยังมีเครื่องเคียงอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น มันฝีั่ง, ขนมปัง, ชีส, สลัด และ เมนูอาหารสวีเดน Västerbottenpaj ซึ่งมีลักษณะเป็นพายชีสแบบฉบับของสวีเดนนั่นเอง
5. Västerbottenpaj : ชีสพายสวีเดน
มาแก้เบื่อกันที่ขนมหวานสวีเดนกันบ้าง โดยเมนูที่ทาง Artralux อยากจะแนะนำนักท่องเที่ยวมากที่สุดนั้น คือ เมนูที่ชื่อว่า Västerbottenpaj หรือ เมนูขนมหวานสวีเดน ที่มีหน้าตา และ ลักษณะเป็นชีสพายนั่นเอง ซึ่งแม้ว่าชีสพายจะหาทานได้ง่ายในทุกประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศในเขตยุโรป แต่เมนูชีสพายของสวีเดน หรือ Västerbottenpaj แบบดั้งเดิมนั้น หาทานได้ยากมาก ทั้งนี้เนื่องจากชีส Västerbotten cheeses ที่เป็นประเภทของชีส มีเนื้อแข็ง ที่มีรสชาติเข้มข้น และ มีกลิ่นหอม ซึ่งสามารถผลิตได้แค่ในโรงงานผลิตนมที่ เมือง Burträsk ซึ่งเป็นเมืองในแถบทางตอนเหนือของประเทศสวีเดนเท่านั้น ซึ่งเชื่อหรือไม่ว่า ไม่มีใครรู้ว่าทำไมชีสประเภทนี้ ถึงสามารถผลิตขึ้นได้แค่ที่ทางตอนเหนือของประเทศสวีเดนเท่านั้น อาจจะเป็นอากาศ น้ำ และ หญ้าที่วัวกินเป็นอาหารก็เป็นได้
นอกจากนี้ในส่งนของขอบพาย หรือ Crust ทำมาจาก ไข่ แป้ง เนย และ น้ำเย็นผสมกัน จึงทำให้ Crust มีความกรอบ หอมแต่นุ่มใน โโยทั่วไปแล้วเมนูขนมหวานสวีเดนเมนูนี้ สามารถรับประทานได้ตลอดทั้งปี แต่จะเริ่มได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเทศกาล Kräftskiva ที่เริ่มจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมของทุกปี เพื่อเฉลิมฉลองฤดูร้อนในประเทศสวีเดนนั่นเอง
6. Hasselbackspotatis : มันฝั่งอบ
เมนูอาหารสวีเดน “Hasselbackspotatis” หรือ ที่นักท่องเที่ยวเรียกกันว่า “Sweden Baked Potato” นั้น เป็นเมนูอาหารสวีเดนพื้นเมืองที่ได้รับความนิยมในกลุ่มแม่บ้านชาวสวีเดน เนื่องจากทำง่าย แทบยังอยู่ท้องเป็นเวลานาน โดยเมนูมันฝีั่งอบของประเทศสวีเดนดั่งกล่าว มีความเป็นเอกลักษณ์ ตรงกรรมวิธีในการอบ ซึ่งชาวสวีเดนจะทำการตัดมันฝีั่งเป็นแผ่นบางๆ (ลักษณะในรูปแบบ halfway through) แต่ไม่แยกออกจากกัน ทั้งนี้เพื่อเพิ่ม Texture ให้มีความกรอบนอกนุ่มใน และ สุกได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้เมนูนี้ยังสามารถรับประทานควบคู่กับท็อบปิ้งได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เกล็ดขนมปัง ชีส ซาวครีม เบคอนชิ้น และ ผักชี ซึ่งอาหารสวีเดนเมนูนี้นิยมรับประทานพร้อมกับเมนูเนื้อสัตว์ปีก (Poultry Dish) ไม่ว่าจะเป็น เนื้อไก่ ห่าน หรือ เป็ดนั่นเอง
7. Kåldolmar : กะหล่ำปลียัดไส้สวีเดน
อีกหนึ่งเมนูอาหารสวีเดน ที่เป็นที่ชื่นชอบสำหรับชาวสวีเดนทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นวัยผู้ใหญ่ หรือ วัยเด็ก ซึ่งเมนูนั้น จะเป็นเมนูไหนไปไม่ได้นอกจากเมนู Kåldolmar โดยอาหารสวีเดนจานนี้ เป็นเมนูที่อยู่คู่กับชาวสวีเดนมาอย่างยาวนานกว่า 300 ปี จนได้รับยกย่องให้เป็นอาหารประจำชาติสวีเดน แม้หน้าตาจะดูเหมือนทำง่าย แต่ต้องใช้ความพิถีพิถันเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเชฟสวีเดนจะค่อยม้วนกะหล่ำปลีแยกกัน จากนั้นสอดไส้ด้วยเนื้อสัตว์ ข้าว หมูหรือเนื้อสับ, นม, หัวหอม, ไข่ และเครื่องปรุงรสด้วยเครื่องเทศนานาชนิด จากนั้นนำไปอบให้สุก เสิร์ฟพร้อมกับน้ำซอสที่ได้จากการน้ำซุปที่ใช้ในการต้มกะหล่ำปลี และ เนื้อสัตว์ หรือ ซอสที่มีส่วนผสมของมะเขือเทศ (Tomato Based Sauce) สำหรับเครื่องเคียง มักจะเป็น มันฝีั่งบด, และ แยมลิงกอนเบอร์รี่ นั่นเอง
8. Pitepalt : มันบดสอดไส้เนื้อ
Pitepalt หรือ Palt นั้น เป็นอาหารสวีเดน ที่ใช้เรียกอาหารจำพวก Dumpling ที่ทำมาจากมันฝีั่งดิบ สอดไส้ด้วยเนื้อสัตว์ ซึ่งอาหารสวีเดนจานนี้ หาทานได้ง่ายในประเทศสวีเดนทางตอนเหนือ นอกจากนี้คำว่า Palt นั้น ยังเป็นชื่อที่มาจากชื่อเมือง Piteå ซึ่งเป็นเมืองต้นกำเนิดของอาหารสวีเดนรสเริศจานนี้นั่นเอง
วิธีการทำ Palt หรือ Pitepalt นั่นไม่ยาก โดยวัตถุหลักที่ใช้ ได้แก่ มันฝีั่งดิบ นำมาผสมกับแป้งไรย์ แป้งบาร์เลย์ หรือ แป้งธัญพืช แล้วแต่ชอบ จากนั้น สอดไส้ด้วยเนื้อสัตว์บด เบคอน และ หัวหอม ที่ทำการปรุงรส และ ผัดเข้าด้วยกันอย่างดี โโยทั่วไปเมนูนี้นิมเสิร์ฟพร้อมๆ กับ เนย หรือ แยมรสหวานขึ้นชื่อของประเทศสวีเดน อย่างแยมลินกอนเบอร์รี่ (Lingonberry) ที่ทำมาจากเบอร์รี่ท้องถิ่นสีแดง หาพบเจอได้ในแถบป่าประเทศสวีเดนนั่นเอง
9. Kladdkaka : เค้กช็อกโกแลตเนื้อมูส
มาต่อกันที่อีกหนึ่งเมนูขนมหวานสวีเดนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะเมนูนี้ บอกเลยว่า ฮอต ฮิต ทุกฤดูกาล และ รสชาติอร่อยถูกใจคนรักช็อกโกแลตอย่างเราเป็นที่สุด Kladdkaka เป็นเมนูขนมหวานสวีเดน ทำมาจากชิคโกแลต มีเนื้อเป็นเนื้อมูส ซึ่งสามารถหารับประทานได้ง่ายในร้านคาเฟ่ หรือ ร้านขนมหวานทั่วไปในประเทศสวีเดน นอกจากนี้ยังทำงาน โดยมีส่วนประกอบเพียงแค่ 7 อย่างเท่านั้น ได้แก่ เนย เกลือ น้ำตาล โกโก้ แป้ง ไข่ และวานิลลาและเนื่องจากเค้ก Kladdkaka ไม่ใส่เบกกิ้งโซดา และ ขนมปัง จึงมีเนื้อในที่เหนียวนุ่ม รสชาติคล้ายคลึงกับบราวนี่ฟัดจ์นั่นเอง เมนูนี้นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว ยังมีการตกแต่งหน้าเค้กอย่างสวยงาม โดยโรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง วิปครีม ไอศครีม หรือ ผลไม้จำพวกเบอร์รี่ เช่น ราสเบอร์หรี หรือ สตอร์เบอร์รี่นั่นเอง ฃ
10. Fika : สวีเดน พรีเมียมคอฟฟี่
มาถึงเมนูอาหารสวีเดนเมนูสุดท้าย กับเมนู “Fika” ซึ่งจริงๆ แล้ว Fika คือชื่อที่ชาวสวีเดนใช้เรียกแทนกิจกรรมการเข้าสังคม โดยการดื่มกาแฟ ควบคู่ไปกับการรับประทานขนมปังเบเกอร์รี่ โดยคำว่า Fika มาจากคำว่า Kaffi หรือ Kaffe ที่แปลว่า กาแฟ ในภาษาสวีเดน นอกจากนี้ คำว่า Fika ยังเป็นคำที่ชาวสวีเดนเรียกแทนชื่อร้านกาแฟ แทนคำว่า คาเฟ่ อีกด้วย
คนสวีเดนจะใส่ใจกับคุณภาพชีวิตของตัวเองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งท่ามกลางชีวิตที่แสนวุ่นวายในแต่ละวัน ชาวสวีเดนจะเจียดเวลาส่วนหนึ่งของวัน และ ใช้มันไปกับการนั่งดื่มกาแฟ และ ขนมหวาน กับเพื่อนร่วมงาน ซึ่งวัฒนธรรมดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าชาวสวีเดนให้ความสำคัญเวลาของตัวเอง ซึ่งการใช้เวลาไปกับช่วงเวลา Fika นี่ ชาวสวีเดนจะไม่เร่งรีบ ค่อยๆ ดื่ม และ สร้างสรรค์กับเพื่อนไปเรื่อยๆ โดยขนมหวานที่นิยมรับประทานคู่กับ Fika นั้น คือ Cinnamon Roll หรือ ชาวสวีเดนเรียกกันว่า fikabröd (fika bread) ซึ่งเป็นขนมปังที่อบอวนไปด้วยกลิ่นของอบเชย และ ผงกระวาน ทานคู่กับกาแฟได้อย่างลงตัว ซึ่งช่วงเวลาในการรับประทาน Fika ของชาวสวีเดน จะมีด้วยกัน 2 ช่วงเวลา ได้แก่ 10 โมงเช้า และ บ่าย 2 โมง นั่นเอง
สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหน ที่อยากเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศสวีเดน เพื่อนรับประทานอาหารสวีเดน และ ขนมหวานสวีเดนต้นตำรับแท้ๆ ฝีมือพ่อครัวชาวสวีดิช แต่ไม่รู่ว่าจะต้องเริ่มต้นเตรียมตัวเดินทางจากตรงไหน ขอยื่นวีซ่าครั้งแรกอย่างไรให้ผ่านฉลุย และ ต้องวางแผนการเดินทางอย่างไร ที่สามารถครอบคลุมทุกแลนด์มาร์กดัง และ มีเวลาเหลือ เพื่อเดินทางไปรับประทานอาหารสวีเดนที่ร้านอาหารขึ้นชื่อของเมืองสตอกโฮล์ม สามารถติดต่อ Artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำให้เราจัดโปรแกรมท่องเที่ยว หรือ จัดทัวร์ท่องเที่ยวสวีเดนแบบส่วนตัวให้คุณได้
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
