ไม่ใช่แค่กับนักท่องเที่ยวไทยเท่านั้น การได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวสวีเดน หรือ ประเทศในกลุ่มเขตนอร์ดิก (Nordic countries) สักครั้งในชีวิต ถือเป็นความฝันอันสูงสุดของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะกลุ่มประเทศนอร์ดิก รวมไปถึงประเทศสวีเดนนี้เอง เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่าน่าอยู่ และ น่าท่องเที่ยวที่สุดในโลก ประเทศมีความอุดมสมบูรณ์ในทางธรรมชาติ อากาศปราศจากมลพิษ มีความหนาวเย็นตลอดทั้งปี สถาปัตยกรรมโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นพระราชวัง, พิพิธภัณฑ์, โบสถ์, ปราสาท และ อาคารบ้านเรือน และที่สำคัญ มีระบบความปลอดภัยสูง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางท่องเที่ยวสวีเดน หรือ ประเทศอื่นๆ ในกลุ่มนอร์ดิกได้อย่างไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด
ซึ่งหากให้เลือกประเทศในกลุ่มนอร์ดิกที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนกับประเทศอื่นๆ ขึ้นมาหนึ่งประเทศ แน่นอนว่าประเทศนั้นจุเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากประเทศสวีเดน (Sweden) หรือ ที่คนไทยอย่างเราๆ คุ้นปากกันว่าดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยวคืน สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมีแผนเดินทางไปเที่ยวสวีเดนเร็วๆ นี้ ทาง Artralux บริษัทท่องเที่ยวชั้นนำของไทย ได้รวบรวม อัปเดตสุดยอด 10 ที่เที่ยวสวีเดน ที่คุณจะต้องไม่พลาด พร้อมข้อมูลการท่องเที่ยสวีเดนที่จำเป็นอีกเพียบ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น เราไปดูพร้อมๆ กันเลย !
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
10 ที่เที่ยวสวีเดน สวยสุดๆ ไม่ไปคือพลาด!
หากให้เรานิยามประสบการณ์การท่องเที่ยวสวีเดนมาหนึ่งประโยค คำว่า “The breath of fresh air” คงเป็นประโยคที่เหมาะสมกับประเทศสวีเดนมากที่สุด เพราะเมื่อพูดถึงความสวยงามของทัศนียภาพ และ กิจกรรมกลางแจ้งแล้ว ประเทศสวีเดน (Sweden) หรือ ชื่อเต็มๆ ราชอาณาจักรสวีเดน (Kingdom of Sweden) แห่งนี้ ยากที่จะเอาชนะ ด้วยฤดูกาลของประเทศที่มีความแตกต่างอย่างชัดเจน ส่งผลให้ทัศนียภาพของประเทศเปลี่ยนผันไปตามอากาศที่เปลี่ยนไป เช่น ในหน้าหนาว กิจกรรมที่ได้รับความนิยม ได้แก่ การเล่นสกี (Skiing), การนั่งสุนัขลากเลื่อน (Dog sledding), และ ปีนน้ำตกน้ำแข็ง (Pimpling)
ในขณะที่หน้าร้อน เมื่อสวีเดนก็ได้กลับกลายเป็นสวรรค์สำหรับการว่ายน้ำ, เดินป่า และตกปลานั่นเอง นอกจากนี้ City Lover ทั้งหลาย ก็ฟินไม่แพ้กัน เพราะสวีเดน
เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม วัฒนธรรมที่หลากหลาย และถนนคนเดินที่รายล้อมไปด้วยอาคารบ้านเรือน ถนนปูด้วยหินที่งดงาม ราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายเลยทีเดียว โดยสถานที่ท่องเที่ยวสวีเดนที่พลาดไม่ได้เลย มีดังนี้
1. สตอกโฮล์ม (Stockholm)
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงที่เที่ยวสวีเดนที่นักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวมากที่สุด จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากเมืองสตอกโฮล์ม ซึ่งเมืองหลวง และ เมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดน นอกจากที่เมืองสตอกโฮล์มจะเป็นเมืองหลวงแล้ว เมืองแห่งนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดในเขตสแกนดิเนเวีย จนได้รับขนานนามว่า “ความงามบนผิวน้ำ” และ “ราชินีแห่งทะเลบอลติก” อีกด้วย ทั้งนี้เนื่องจากเมืองนี้ ประกอบไปด้วยเกาะน้อยๆ ทั้งหมด 14 เกาะ ที่ต่างยื่นออกไปยังทะเลบอลติก และด้วยความที่อาคารบ้านเรือนของเมือง มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมที่ปลูกสร้างมาตั้งแต่ในสมัยศตวรรษที่ 13 และมีสีสันสดใส ซึ่งตัดกับน้ำทะเลสีครามได้อย่างสวยงาม เมืองสตอกโฮล์ม จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่งที่นักท่องเที่ยวสวีเดน ต้องมาชื่นชมด้วยตาของตัวเอง
โดยสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองสตอกโฮล์มนั้นมีมากมาย แต่หากคุณได้มีโอกาสมาเที่ยวที่นี้แล้ว สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเสมือนส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของชาวสวีเดนนั้น ได้แก่ “Subway Art” หรือ “Stockholm Metro” ซึ่งสถานีรถไฟแห่งกรุงสตอกโฮล์มแห่งนี้ นอกจากจะทำหน้าที่เป็นระบบขนส่งสาธารณะที่เที่ยงตรง และ รวดเร็วเป็นอันดับต้นๆ ของโลกแล้ว ที่นี้ยังเป็น Art Exhibition ที่ใหญ่ และ ยาวที่สุดในโลก และกินพื้นที่สถานีรถไฟในกรุงสตอกโฮล์มกว่า 90 สถานี โดยสถานีที่พลาดไม่ได้ ได้แก่ สถานีโซลนา เซนทรัม (Solna Centrum) ที่โดดเด่นไปด้วยผนัง และ เพดายสีแดง-ส้ม ราวกับสถานีรถไฟแห่งนี้ได้มอบไหม้ไปด้วยลาวา ซึ่งตัดกับจิตกรรมฝาผนัง ที่เกี่ยวข้องกับความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการกระทำของมนุษย์ที่ส่งผลให้เกิดภับพิบัติทางธรรมชาตินั่นเอง
2. ย่านเมืองเก่าสตอกโฮล์ม Gamla Stan
สถานที่ท่องเที่ยวสวีเดน ในเมืองหฃวงสตอกโฮล์มที่ไม่กล่าวถึงคงจะไม่ได้ เพราะที่แห่งนี้ เป็นเหมือนสัญญาลักษณ์ของเมืองก็ว่าได้นั้น ได้แก่ บย่านเมืองเก่าของเมือง หรือ ย่าน Gamla Stan (Old Town) นั่นเอง โดยย่านนี้เป็นเขตที่อยู่อาศัยที่มีความเก่าแก่ ก่อสร้างพร้อมกับตัวเมืองสตอกโฮล์มตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ทำให้สถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนนั้น มีความสวยงาม และ สะท้อนถึงสถาปัตยกรรมในช่วงยุโรปยุคกลางได้อย่างดีเยี่ยม เมืองนี้โดดเด่นด้วยอาคารบ้านเรือนสีสันสดใส เต็มไปด้วยตรอกซอกซอยมากมาย ที่ซ้อนได้ซึ่งร้านคาเฟ่ ร้านหนังสือ และ ร้านอาหารน่ารักๆ มากมาย
โดยมุมถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเก็บภาพสวยๆ เป็นที่ระลึกมากที่สุด คือ บริเวณจัตุรัสสตูทอร์เจท (Stortorget) ซึ่งโอบล้อมไปด้วยบ้านเรือนสีสันสดใส อีกทั้งยังเป็นที่นัดพบ สร้างสรรค์ของชาวสวีเดนอีกด้วย ซึ่งบอกเลยว่าช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมเที่ยวสวีเดน ณ กรุงสตอกโฮล์มมากที่สุด คือ หน้าหนาว เพราะในช่วงนี้บ้านเมืองจะมีการจัดตกแต่งด้วยแสงไฟที่งดงาม แบะ มีการจัดกิจกรรมคริสมาร์ตมากมาย ถือเป็นบรรยากาศ Christmas Magical ที่นักท่องเที่ยวพลาดไม่ได้
3. ปราสาทโดรทนิงโฮล์ม (Drottningholm Palace)
ปราสาทโดรทนิงโฮล์ม เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวีเดนที่สำคัญอีกแห่ง ในอดีตเป็นที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟ และ สมเด็จพระราชินีซิลเวียแห่งสวีเดน รวมไปถึงพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ ซึ่งปราสาทแห่งนี้มีความเก่าแก่ถูกสร้างขึ้นในช่วงยุคทองของประเทศสวีเดนในช่วงต้นปี 1600 และด้วยึความสวยงามของสถาัตยกรรม การตกแต่งภายในวังอย่างประณีต และ สวนรอบนอกของวังสไตล์บาโรก ที่ประดับประดาไปด้วยประติมากรรมอย่างงดงาม พระราชวังแห่งนี้จึงได้รับการจดทะเบียนให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกจาก Unesco ในปี 1991 อีกด้วย
สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมของปราสาทแวร์ซาย (Versaille Palace) ณ ประเทศฝรั่งเศส แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปดูของจริง ปราสาทโดรทนิงโฮล์ม (Drottningholm Palace) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวีเดนที่คุณไม่ควรพลาด เพราะปราสาทแห่งนี้ มีการออกแบบทั้งภายนอก ภายใน รวมไปถึงการจัดวางสวน ที่ได้แรงบันดาลใจมากจากพระราชวังแวร์ซายนั่นเอง เอกลักษณ์ของพระราชวังแห่งนี้ คือ โรงละครภายในวังที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ ปี 1766, รูปแบบของสวนรอบนอก และ ศาลาจีน ซึ่งต่างเป็นเสมือนต้นแบบที่ดีที่สุดของที่ประทับของราชวงศ์ยุโรปเหนือในศตวรรษที่ 18 นั่นเอง
4. พระราชวังหลวง (The Royal Palace) สวีเดน
อีกหนึ่งพระราชวังของประเทศสวีเดนที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศ อีกทั้งยังมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมสไตล์บาโรกที่งดงามนั้น คือ พระบรมมหาราชวังสตอกโฮล์ม Stockholms Slott หรือ Stockholm Palace โดยพระราชวังแห่งนี้มีอายุเก่าแก่ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ 1700 ตั้งอยู่ในย่านเมืองเก่าของสตอกโฮล์ม (Gamla Stan) มีความยิ่งใหญ่ แม้จะสูงเพียงแค่ 7 ชั้น แต่ก็ประกอบไปด้วยห้องกว่า 600 ห้องด้วยกัน ในปัจจุบัน พระราชวังแห่งนี้ใช้เป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการของราชวงศ์สวีเดน แต่ก็ได้เปิดพื้นที่บางส่วนให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ของบัลลังก์, ห้องโถง, ห้องรับรอง, ห้องจัดเลี้ยง รวมไปถึงโซนจัดแสดงโบราณวัตถุที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์สวีเดน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นโซนไฮไลท์ก็ว่าได้ เพราะคุณจะได้เห็นทั้ง เครื่องฉลองพระองค์ในยุคต่างๆ รวมไปจนถึงรถม้าที่ทางราชวงศ์สวีเดนใช้ในพิธีอภิเสษสมรสอีกด้วย
นอกจากนี้กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาด คือ การชมขบวนพาเหรดของทหารและการเปลี่ยนเวรยามประจำวัน ที่จะเกิดขึ้นในช่วงสิ้นเดือนเมษายน ไปจนถึง สิ้นเดือนสิงหาคม ในเวลา 12:15 นาฬิกาของทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์ในเวลา 13:15 นาฬิกา โดยพิธีนี้จะใช้เวลาเดินชบวนทั้งหมดกว่า 40 นาที
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
5. ศาลาว่าการเมืองสวีเดน (City Hall)
ศาลาว่าการเมืองประจำประเทศสวีเดน (The City Hall) หรือที่ชาวสวีเดนรู้จักกันในนาม Stadshuset นั้น เป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมของประเทศสวีเดน ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวสวีเดนมาเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่กันปีละหลายล้านคน โดยศาลาว่าการเมืองแห่งนี้ มีความเก่าแก่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยปีค.ศ.1911 ตัวอาคารโดดเด่นด้วยการออกแบบสไตล์เนชันแนลโรแมนติกที่ใช้อิฐแดงรวมกันกว่า 8 ล้านอิฐ เอกลักษณ์ของอาคารอยู่ที่ยอดหอคอยสูง 106 เมตร ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวเมืองสตอกโฮล์มแบบ 360 องศาได้ในหน้าร้อนของทุกปี
ศาลาว่าการเมืองประจำประเทศสวีเดน แห่งนี้ เป็นที่ตั้งของสำนักงานที่เกี่ยวข้อง, ที่จัดงานพิธีการ, งานเลี้ยงเฉลิมฉลอง รวมไปจนถึง เป็นสถานที่มอบรางวัลโนเบลระดับโลก ซึ่งหากใครยังไม่รู้ รางวัลโนเบล คือรางวัลที่มอบให้แก่นักวิจัย และ ผู้คิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่มีประโยชน์แก่มนุษย์ชาตินั่นเอง
6. เมืองอุปซอลา (Uppsala)
เมืองท่องเที่ยวสวีเดน ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กับเมืองสตอกโฮล์มเราขอยกให้เมืองอุปซอลา (Uppsala) โดยเมืองนี้ตั้งแยู่ไม่ไกลจากเมืองสตอกโฮล์ม โดยใช้เวลาเดินทางไปทางเหนือ เพียงแค่ 70 กม. เท่านั้น หรือ สามารถนั่งรถไฟจากกรุงสตอกโฮล์มไปเพียงแค่ 40 นาทีเท่านั้น สำหรับชาวสวีเดน เมืองอุปซอลา (Uppsala) ถือเป็นศุนย์กลางคริสตศาสนจักรของประเทศ นอกจากนี้ที่แห่งนี้เอง ยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียนั่น อย่าง โบสถ์อุปซอลา (Uppsala Cathedral) อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศสวีเดน อย่าง มหาวิทยาลัยอุปซอลา (Uppsala University) ซึ่งมหาวิทยาลัยแห่งนี้เอง เป็นสถานที่คิดค้นระดับเซลเซียส (Celsius scale) สำหรับการวัดอุณหภูมิอีกด้วย
โบสถ์อุปซอลา (Uppsala Cathedral) เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ระหว่างห้องโถงมหาวิทยาลัย และ แม่น้ำฟีริส และ ถือเป็นไฮไลท์สถานที่ท่องเที่ยวสวีเดนก็ว่าได้ ภายนอกโดดเด่นด้วยยอดหอคอยสูงกว่า 118.7 เมตร หรือ 389 ฟุต โดบโบสถ์แห่งนี้ ถูกสร้างครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ 1287 และ ถูกไฟไหม้ในปี ค.ศ 1702 จากนั้นได้ถูกบูรณะอีกครั้งในช่วงศตวรรษที่ 20 โดยยอดแหลมแฝดที่เราเห็นกันในปัจจุบันนนั้ ถูกต่อเติมระหว่างปี 1885-1893 โดยสถาปนิกชื่อดังที่ชื่อว่า Helgo Zettervall ซึ่งเขาได้เปลี่ยนหอคอยสไตล์บาโรกขนาดเล็กเป็นยอดแหลมสูง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมประเทศของประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง นอกจากนี้ ภายในโบสถ์ก็มีความสวยงามไม่แพ้กัน โดยทั้งกำแพง ผนัง และ เพดาน ถูกออกแบบ และ ตแต่งด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอโกธิค
7. พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Skansen Open Air Museum
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสวีเดน ที่เรียกได้วเป็นไฮไลท์ หรือ Must Go ของเมืองสตอกโฮล์ฒอีกแห่ง หนีไม่พ้น พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง Skansen Open Air Museum พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่มีความเก่าแก่ ก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1891 โดยคุณ Artur Hazelius เพื่อวัตถุประสงค์ในการรวบรวมสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และวิถีการดำรงชีวิตของชาวสวีเดนในอดีตเอาไว้ ทั้งนี้เนื่องจากที่ประเทศสวีเดนเริ่มเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น การสร้างสถานที่ที่รวบเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และ วัตถุโบราณเหล่าเอาไว้ จึงเป็นเรื่องที่คุณ Arthur ให้ความสำคัญ
จุดเด่นที่ทำให้พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งนี้แตกต่างจากที่อื่น คือ สถานที่แห่งนี้ กว้างใหญ่มากถึง มีขนาดถึง 75 เอเคอร์ หรือ 300,000 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยพื้นที่ทั้งหมด 2 โซน ได้แก่ โซนพิพิธภัณฑ์ ซึ่งประกอบไปด้วย โรงเรือน และ อาคารต่างๆ ร่วม 150 หลังคาเรือน ซึ่งโรงเรือนเหล่านี้ มีทั้งที่ทางพิพิธภัณฑ์ได้สั่งซื้อรื้อถอนมาจากสถานที่ต่างๆ ทั่วสวีเดน และ สร้างขึ้นใหม่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษา โดยโรงเรือนที่นักท่องเที่ยวพลาดไม่ได้ได้แก่ ร้านขายเครื่องเทศ, บ้านคนทำหนังสือ, บ้านของเศรษฐีสวีเดนสมัยก่อน, บ้านของชนชั้นแรงงานสมัยศตวรรษที่ 19 และ อีกมากมาย ซึ่งไฮไลท์ของที่นี้ คือการมีพนักงานใส่เสื้อผ้าสวีเดนโบราณ จัดการแสดงวิถีชัวิตสวีเดนโบราณอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการทำเสื้อผ้า, การอาบน้ำ, การทำอาหาร และวิธีถนอมอาหาร
ในส่วนของโซนที่ 2 จะเป็นโซนสวนสัตว์ ที่ได้รวบรวมสัตว์หายากของเขตสแกนดิเนเวียกว่า 300 สายพันธุ์ มีทั้ง หมีสีน้ำตาล หมาป่า ลิงบาบูน และ สัตว์หายากมากมาย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมสัตว์พวกนี้
8. ถนนชอปปิง Drottninggatan และ Sergels Torg
มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวสวีเดนสำหรับชายชอป หรือ City Lover กันบ้าง กับถนนดรอทนิงกาตัน (Drottninggatan) ซึ่งเป็นถนนสายหลัก และ ศูนย์กลางการพบปะสังสรรค ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองสตอกโฮล์ม ซึ่งถนนเส้นนี้มีความยาวกว่า 1.5 เมตร รายล้อมไปด้วยร้านค้า เสื้อผ้าแฟชั่น และ ร้านแบรนด์เนมมากมาย นอกจากนี้ถนนเส้นนี้ยังเป็นสถานที่ตั้งของ Ahlens City ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศสวีเดนอีกด้วย ซึ่งหากเดินมาอีกหน่อย คุณจพบกับย่าน Sergels Torg ซึ่งเป็นเหมือน City Center หรือ จัตุรัสกลางเมืองของสตอกโฮล์ม
ที่เที่ยวสวีเดน โดยไฮไลท์ของบริเวณนี้ คือในส่วนของ Plattan ซึ่งเป็นลานกว้าง สีขาว-ดำอย่างที่เห็นในรูป โดยลานกว้างแห่งนี้ เปรียบเสมือน The heart of stockholm เป็นที่รวมตัวของชาวสวีเดน ในการเฉลิมฉลอง และ การไว้อาลัย ในเหตุการณ์ต่างๆ มากมาย ซึ่งเหตุปลที่เรายกถนนชอปปิงขึ้นมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวีเดนที่พลาดไม่ได้นั้น เพราะประเทศสวีเดน เป็นประเทศต้นกำเนิดของแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น H&M, Acne Studio, Byredo, Nudie Jeans และอีกมากมาย ดังนั้นนักท่องเที่ยวสายชอปพลาดไม่ได้เป็นอันขาด
9. พิพิธภัณฑ์วาซา (Vasa Museum)
พิพิธภัณฑ์วาซา หรือ Vasamuseet (Vasa Museum) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวีเดนที่ได้รับความนิยมอีกแห่งของนักท่องเที่ยว เพราะสถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่เก็บซากเรือรบวาซา VASA ซึ่งได้ถูกตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ใจกลางห้องโถง ซึ่งเรือรบดังกล่าว มีความสำคัญกับชาวสวีเดนเป็นอย่างมาก เพราะเรือรบวาซานี่เอง เป็นเรือรบประจำราชอาณาจักรสวีเดน ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยแรงงานกว่า 400 คน โดยใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 2 ปี เรือรำนี้มีขนาดใหญ่ ความสูง 52 เมตร ยาว 69 เมตร และ มีน้ำหนักกว่า 1200 ตัน ซึ่งความยิ่งใกญ่ และ สถาปัตยกรรมของเรือที่ถูกประดับประดาไปด้วยประติมากรรม และ งานผีมือแกะสลักทั่วทั้งเรือนี่เอง ทำให้เรือวาซา เป็นเรือรบที่น่าเกรงข้าม และ สวยงามที่สุดในโลก
ซึ่งกว่าที่นักท่องเที่ยวสวีเดนจะได้เห็นเรือรำนี้ได้อย่างทุกวันนี้นั้น ในอดีตเรือรบวาซาได้จมในน่านน้ำนานกว่า 300 ปี และว่ากันว่าเรือรำนี้มีโอกาสรอบอยู๋เหนือน้ำเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น ก่อนที่จะโดนโจมตีจนจมน้ำลงไป และ สามารถกู็ขึ้นมาได้อีกครั้งใน ศตวรรษที่ 17 ซึ่งสิ่งที่น่าทึ่งก็คือ เรือรำนี้ยังคงสภาพเดิมไว้ได้ถึง 95% เลยทีเดียว
10. หมู่บ้านคิรูนา (Kiruna)
ปิดท้ายที่เที่ยวสวีเดน หน้าหนาว กันที่เมืองคิรูน่า (Kiruna) ซึ่งเป็นที่สุดของจุดหมายปลายทางสวีเดนที่นักท่องเที่ยวนิยมมากเล่นกิจกรรมหิมะในหน้าหนาวกันเป็นอย่างยิ่ง โดยเมืองคิรูน่าแห่งนี้ ตั้งอยู่ในเขต Arctic Circle ซึ่งหากเหนือจากเส้นนี้ขึ้นไป จะเป็นบริเวณที่พระอาทิตย์ไม่ตกดินเลยในหน้าร้อน และ พระอาทิตย์ไม่ขึ้นเลยในหน้าหนาวนั่นเอง
ความน่าทึ่งของเมืองนี้นอกจากทัศนียภาพที่ปกคลุมไปด้วยหิมะอย่างสวยงามแล้ว เมืองแห่งนี้เป็นเมืองใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 20 นี่เอง เนื่องจากมีการค้นพบเหมืองแร่เหล็กใต้ดิน จนในปัจจุบันเมืองคิรูน่าได้กลับหลายเป็นเมืองที่มีเหมืองแร่เหล็กที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งไฮไลท์ของเมืองคือที่ Ice Hotel หรือโรงแรมน้ำแข็ง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตหมู่บ้าน Jukkasjärvi ที่ห่างจาก Kiruna Airport เพียงแค่ 20 นาทีเท่านั้น โดยโรงแรมน้ำแข็งแห่งนี้ เป็นโรงแรมน้ำแข็งรุ่นแรกๆ เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1989 ซึ่งโรงแรมนี้ เป็นโรงแรมที่เปิดด้วยคอนเซปต์ที่พักที่ทำจากน้ำแข็งและเกล็ดหิมะ 100 เปอร์เซ็น
นอกจากนี้เมืองคิรูน่า ยังเป็นเสมือน Hub ของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังเมืองบริเวณใกล้เคียงอย่าง เมือง Abisko ซึ่งเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวสวีเดน สำหรับการรับชมแสงเหนือ และ เล่นกิจกรรมหน้าหนาว นั่นเอง
ข้อมูลที่ควรทราบก่อนเดินทางไปเที่ยวสวีเดน
เป็นที่ทราบกันดีว่า ประเทศในเขตสแกนดิเนเวีย หรือ ประเทศในกลุ่มนอร์ดิกนั้น เป็นประเทศที่มาค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวที่ค่อนแพง เมื่อเทียบกับประเทศในทวีปยุโรปประเทศอื่นๆ ทั้งนี้เนื่องจากประเทศเหล่านี้ เป็นประเทศที่เจริญ มีค่าครองชีพที่แพง และ มี GDP ที่สูงกว่าประเทศอื่นๆ เช่นกัน ดังนั้น นักท่องเที่ยวที่กำลังมีแผนเดินทางไปเที่ยวสวีเดน อาจจะต้องทำการศึกษาข้อมูลประเทศ งบประมาณในการท่องเที่ยว รวบไปจนถึง ฤดูกาลท่องเที่ยวที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณเสียก่อน เพื่อประสบการณ์การท่องเที่ยวที่คุ้มค่านั่นเอง
Q1: เที่ยวสวีเดน เดือนไหนดี
อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น แใม้ว่าประเทศสวีเดน จะตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทวีปยุโรป และ เป็นอีกหนึ่งประเทศที่อยู่ใกล้กับแทบ Arctic Circle แต่ประเทศสวีเดนก็มีความแตกต่างของฤดูกาลที่ชัดเจน ซึ่งประกอบไปด้วย 4 ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ (Spring) ฤดูร้อน (Summer) ฤดูใบไม้ร่วง (Autum) และฤดูหนาว (Winter)
ซึ่งฤดูกาลที่นักท่องเที่ยวนิยมมากที่สุด คือ การเที่ยวสวีเดนฤดูหนาว (Winter) โดยในฤดูหนาว ประเทศสวีเดนจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 2 – 20 ํC และ จะมีแสงกว่างจากพระอาทิตย์เพียงแค่วันละ 6-7 ชั่วโมงเท่านั้น โดยฤดูหนาวจะเริ่มต้นที่เดือนธันวาคม ยาวไปจนถึงเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม ในช่วงทางตอนเหนือสุดของประเทศ จะมีช่วงเวลาที่มีหน้าหนาวยาวนานกว่าที่อื่น ซึ่งยาวนานกว่า 8 เดือนเลยทีเดียว โดยในช่วงนี้ นักท่องเที่ยวนิยมเที่ยวสวีเดน หน้าหนาว ด้วยการเดินทางมาเล่นกิจกรรมน้ำแข็ง ไม่ว่าจะเป็น สุนัขลากเลื่อน (Dog sledding), สกี (Skiing), ปีนน้ำตกน้ำแข็ง (Pimpling), ตกปลาน้ำแข็ง (Ice Fishing) และอีกมากมาย
ในขณะที่เที่ยวสวีเดน หน้าร้อน (Summer) ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะในช่วงนี้ ก็เป็นช่วงพักร้อนของชาวสวีเดนเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นช่วงที่มีผู้คนพรุกพร่าน มีกิจกรรม และ งานเทศกาลมากมาย เที่ยวสวีเดนหน้าร้อน เริ่มต้นตั้งแต่มิถุนายน เรื่อยไปจนถึงเดือนสิงหาคม โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในช่วงหน้าร้อน ได้แก่ บริเวณชายหาด ไม่ว่าจะเป็น ที่เกาะเออแลนด์ (Öland) ก๊อตแลนด์ (Gotland) ทะเลชายฝั่งตะวันตก (Västkusten) รวมไปจนถึงเมืองสตอกโฮล์มด้วยเช่นกัน
Q2: เที่ยวสวีเดน งบเท่าไร
เที่ยวสวีเดน งบเท่าไร เชื่อว่าคำถามนี้ เป็นคำถามที่นักท่องเที่ยวหลายคนต้องการคำตอบ ประเทศสวีเดน ใช้จ่ายเงินด้วยเงินสกุล Swedish Krona (KR) ซึ่งเทียบเป็นเงินบาทไทยอยู่ที่ 3.27 บาท ซึ่งอาหารแต่ละมื้อนั้น มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 100 – 200 KR หรือ 300 – 700 บาทไทย ในส่วนของค่าเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ราคาตั๋วแบบเที่ยวเดียวจะอยู่ที่ประมาณ 39 KR หรือประมาณ 136 บาท ในขณะที่ตั๋วแบบวัน จะอยู่ที่ 165 KR หรือประมาณ 580 บาท
ดังนั้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนไปเที่ยวสวีเดน งบที่ต้องเตรียมไปจึงไม่ควรต่ำกว่า 34,601 บาท ต่อคน (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน และ โรงแรม)
นักท่องเที่ยวคนไหนที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวสวีเดน แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นจากตรงไหน เนื่องจากการเดินทางไปเที่ยวประเทศสวีเดนนั้น ค่อนข้างต้องเตรียมตัวหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการยื่นวีซ่าเชงเก้น การวางแผนการเดินทางที่ครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง รวมไปจนถึงการจองโรงแรมที่มาพร้อมกับพื้นที่กว้างขวาง และ ราคาที่น่ารัก สามารถติดต่อสอบถาม Artralux บริษัทนำเที่ยวได้เลย เพราะเรามีบริการยื่นวีซ่าเชงเก้น และ บริการวางแผนโปรแกรมท่องเที่ยวส่วนตัวที่ครอบคลุมตั้งแต่ การจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม วางแผนเส้นทางเดินทาง ไปจนถึงบริการเช่ารถท่องเที่ยวสวีเดนพร้อมคนขับ
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว