ไปสวีเดนซื้อของฝากสวีเดนอะไรกลับไทยดีนะ?” เชื่อว่าหากคุณเข้ามาอ่านบทความนี้ คำถามนี้คงจะเป็นคำถามที่คุณอยากรู้มากๆ พอกับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศสวีเดนเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้เนื่องจากประเทศสวีเดน ค่อนข้างไกลจากประเทศไทย ดังนั้นก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางไปเที่ยวประเทศสวีเดนได้นั้น คงจะต้องเตรียมตัวกันนานพอสมควร และแน่นอนว่าเมื่อได้ไปเยือนดินแดนที่ในฝันทั้งที ใครๆ ก็อยากที่จะซื้อของฝากสวีเดนติดไหมติดมือมาฝากคนพิเศษ และ เพื่อนฝูง แต่การเลือกซื้อของฝากสวีเดนสักชิ้น ที่มีเอกลักษณ์ หาซื้อไม่ได้ที่ไหน และ มีความหมายต่อประเทศสวีเดนนั้น หากไม่ได้ศึกษา คุณอาจจะหาซื้อของฝากสวีเดนดังกล่าวไม่เจอ
วันนี้ Artralux บริทัษนำเที่ยวชั้นนำของไทย จึงได้รวบรวมรายชื่อของฝากสวีเดน ไม่ว่าจะเป็นของฝากสวีเดนที่เป็นสิ่งของ รวมไปจนถึงของฝากที่ขนมขื่อดังของประเทศ ซึ่งรายการทั้ง 10 จะมีอะไรบ้างนั้น เราไปดูพร้อมๆ กันเลย!
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
ซื้อของฝากสวีเดนอะไรดี ที่สะท้อนความเป็นสวีเดนที่สุด?
หากถามว่าซื้อของฝากสวีเดนอะไรดี ที่สะท้อนความเป็นประเทศสวีเดนได้ดีที่สุด ขอตอบเลยว่าของฝากนั้น คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก “ผลิตภัณฑ์ Dala Horse” หรือ “เจ้าตุ๊กตาม้าแกะสลัก” ที่มาพร้อมประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน อีกทั้งยังเป็นของฝากสวีเดนที่ไม่เพียงแต่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยว แต่ยังได้รับความนิยมในกลุ่มชาวสวีเดนเองอีกด้วย
ประเทศสวีเดน เป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มสแกนดิเนเวีย ที่มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของการออกแบบที่ประณีต คม ชัด และ สะอาดตา อีกทั้งยังผสมผสานศิลปะร่วมสมัย (Comtempory Art) กับวัฒนธรรมดั้งเดิมของสวีเดนได้อย่างลงตัว ซึ่งแน่นอนว่า สินค้า และ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีต้นกำเนิดที่ประเทศสวีเดน ต่างก็มีชื่อเสียงเรื่องดีไซน์ ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์นิเจอร์, ของใช้ในบ้าน, กระเป๋าถือ หรือแม้แต่ขนม และ ของหวานสวีเดน เพราะท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่เราพูดถึงอยู่ในตอนนี้ คือ ของฝากจากประเทศสวีเดน ประเทศที่เป็นต้นกำเนิดของ Ikea และ H&M นั่นเอง
10 ฝากสวีเดน ที่ควรซื้อกลับไทย เอาให้คุ้มน้ำหนักกระเป๋า
อยากที่ได้กล่าวไปในข้างต้น ประเทศสวีเดน เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในของงานดีไซน์ ไม่ว่าจะเป็นงานไม้ เฟอร์นิเจอร์ รวมไปจนถึงแบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้า และ รองเท้า (Clothes and footwear) ระดับ High End มากมาย ซึ่งวันนี้ Artralux ได้รวบรวมรายการของฝากสวีเดนมาฝาก ที่รับรองได้เลยว่าถูกใจผู้รับ เหมือนได้เดินทางมาเที่ยวสวีเดนเองอย่างไงอย่างนั้น โดยของฝากสวีเดนที่ต้องซื้อกลับมีดังนี้
1. ตุ๊กตาม้าแกะสลัก Dala horse
เราขอเริ่มต้นกันที่ของฝากสวีเดนที่ผู้เขียนนึกถึงเป็นอันดับแรก เมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวที่ประเทศสวีเดน อย่างตุ๊กตาไม้แกะสลักรูปม้าในตำนาน ที่ชาวสวีเดนเรียกกันว่า Dala Horse ซึ่งตามความเชื่อของชาวสวีเดนแล้ว เจ้าตุ๊กตาไม้นี่เอง เป็นมากกว่าของตกแต่งบ้าน เขาเชื่อกันว่าเจ้าม้าดาลาจะนำมาซึ่งความโชคดี และ เป็นสัญญาลักษณ์ของความเข้มแข็ง และ สติปัญญา ดังนั้นชาวสวีเดนจะนิยมให้ Dala Horse เป็นของขวัญในเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เทศกาลจบการศึกษา แต่งงาน และ งานขึ้นบ้านใหม่
ม้าดาลา มีต้นกำเนิดมาจากเมืองดอลาร์นา (Dalarna) ภูมิภาคหนึ่งของประเทศสวีเดน เดิมทีใในช่วงศตวรรษที่ 17 ชาวสวีเดนได้ผลิตตุ๊กตาไม้รูปม้าดังหล่าวเพื่อเป็นของเล่นให้แก่เด็กๆ แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนา และ ได้นำลวดลายแบบ ‘Kurbits’ ซึ่งเป็นลวดลายดอกไม้ตามแบบศิลปะดั้งเดิมของสวีเดนมาใช้ตกแต่งเพิ่มเติม โดยรูปแบบของม้า Dala Horse นั้น มีหลายสี และ หลายขนาด แต่สีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดนั้น คือ สีแดงแบบฟาลูสวีเดน (Falu Red) ซึ่งเป็นสีแดงที่ได้มาจากเหมืองทองแดงในภูมิภาคดาลาร์นานั้นเอง โดยสีแดงนี่เอง ยังเป็นสีแดงเดียวกันสีทาบ้านไม้ของชาวสวีเดนที่เราเห็นกันบ่อยๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ
2. สบู่ไข่ สวีเดน Victoria Sweden Egg
อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของฝากสวีเดน ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กับเจ้าม้าดาลาเลย คือ Victori Sweden Egg หรือ ที่คนไทยเรียกกันติดบอกว่า สบู่ไข่สวีเดน ซึ่งความพิเศษของสบู่ไข่ขาว คือ สรรพคุณมากมาย ทั้งช่วยกระชับรูขุมขน ชะลอริ้วลอย ลดการเกิดสิว และ ความหมองคล้ำของผิว โดบสบู่ไข่สวีเดน หรือ Victori Sweden Egg ผลิตขึ้นโดยบริษัท Victoria ซึ่งก่อตั้งเมื่อปีศตวรรษ 1905 และ เริ่มผลิตสบู่ไข่สวีเดนออกมาในปี 1914 หลังจากนั้น สบู่ไข่สวีเดนดังกล่าวได้ถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยเชื้อราชวงศ์ หรือ ชนชั้นสูงของประเทศสวีเดน
ซึ่งสบู่ไข่สวีเดน เกิดขึ้นจากแรงบันดาลใจของประเพณีอันยาวนานของผู้หญิงชาวสวีเดนในการมาส์กหน้าแบบโฮมเมด ซึ่งประกอบไปด้วยส่วยผสมได้แก่ กลีเซอรีน น้ำกุหลาบ และไข่ขาว นั่นเอง
สบู่ไข่สวีเดน ซื้อได้ที่ไหน : สบู่ไข่สวีเดน สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายของฝากสวีเดน และ ห้างสรรพสินค้า เพราะทางบริษัท Victoria ได้ส่งออกสบู่ไข่ขาวสวีเดน ออกวางจำหน่ายมากมายทั่วประเทศสวีเดน
3. เครื่องประดับงานฝีมือ Sami Handicrafts
ของฝากสวีเดน ที่สะท้อนความเป็นสวีเดนได้อย่างแท้จริง เราขอยกให้ Sami Handicrafts หรือ เครื่องประดับกำไลข้อมืองานแฮนเมดแท้ๆ ของชาวสวีเดน โดยงานฝีมือที่เห็นในรูปนั้น เป็นงานฝีมือของชาว Sami ซึ่งเป็นชนเผ่าที่อาศัยในเขต Lapland ภูมิภาคทางตอนเหนือสุดของประเทศสวีเดนโดยพวกเขาได้ใช้วัตถุจากธรรมชาติ และ วิธีการสานหัตถกรรมแบบดั้งเดิม ทำให้เครื่องประดับดังกล่าว มีความสวยงาม มีเอกลักษณ์ และ รายละเอียดที่มีความประณีตมากๆ
Sami Handicraft มีให้เลือก 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ Hard Handicraft และ Soft Handicraft ซึ่งในรูปแบบ Hard นั้น จะเป็นเครื่องประดับ และ ของใช้ที่ทำขึ้นให้คุณผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็น กำไลข้อมือ มีด และ ถ้วยที่ถูกแกะสลักรูปทรงเขากล้าง แสดงความแข็งแกร่ง ในขณะที่ Soft Handicraft จะทำให้คุณผู้หญิง โดยส่วนมากจะเป็นงานหัตถกรรมประเภท เสื้อผ้า, กำไลลวดดีบุกที่ถักอย่างประณีต, กระเป๋า และ ตะกร้าที่ทอจากรากไม้เบิร์ช เป็นต้น
4. Swedish Chocolate ช็อกโกแลตสวีเดน
เมื่อพูดถึงช็อกโกแลตที่ดีที่สุด แน่นอนว่าคงจะต้องเป็นช็อกโกแลตจากประเทศเบลเยี่ยม แต่รู้หรือไม่ว่า จริงๆ แล้ว ช็อกโกแลตสวีเดนนี่เอง ก็มีชื่อเสียงโด่งดัง และ มีรสชาติเข้มข้น แสนอร่อยไม่แพ้กับช็อกโกแลตของประเทศเบลเยี่ยมเลยแม้แต่น้อย จริงๆ แล้ว การรับประทานลูกอม ขนมหวาน และ ช็อกโกแลตนั้น เป็นหนึ่ง.นวัฒนธรรมการรับประทานอาหารของคนสวีเดน ซึ่งในหนึ่งปี คนสวีเดนรับประทานช็อกโกแลตกันคนละ 15 กิโลกรัมต่อปีเลยทีเดียว ซึ่งหนึ่งในเหตุนั้นมาจากที่ชาวสวีเดน จะมีกิจกรรมที่เรียกว่า “Saturday candy” โดยเด็กๆ จะเดินไปซื้อช็อกโกแลต และ แคนดี้ต่างๆ ในร้านค้าในปริมาณมากๆ กับคุณพ่อ คุณแม่ ถือเป็นกิจกรรมครอบครัวที่น่ารักเอามากๆ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากจะซื้อช็อกโกแลตสวีเดน กลับไปเป็นของฝาก ยี่ห้อช็อกโกแลตที่เราแนะนำมีดังนี้
-
Malmö Chocolate Factory :
หากให้เราแนะนำช็อกโกแลตสวีเดน ที่มีชื่อเสียง และ คุณภาพสูง ทาง Artralux แนะนำเป็นยี่ห้อ Malmö Chokladfabrik ซึ่งเป็นช็อกโกแลตสวีเดนที่ได้รับรางวัล The International Chocolate Awards จุดเด่นของช็อกโกแลตสวีเดนยี่ห้อนี้ คือรสชาติที่เข้มข้น และ วัตถุที่ออแกนิค โดยจะใช้เมล็ด Cacoa แท้ๆ และ ใช้ Cacoa Butter แทนการใช้ Cacoa Power นั้น เอง
-
Daim
เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อช็อกโกแลตของสวีเดนที่ได้รับความนิยมอย่างสูง แม้ว่ารสชาติของ Daim จะไม่ได้เข้มข้นมากเท่ากับยี่ห้อแรก แต่จุดเด่นที่ทำให้ Daim เป็นของฝากสวีเดน ถูกใจนักท่องเที่ยวนั้น คือ ความเก่าแก่ และ รสชาติช็อกโกแลตที่มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งรสชาติที่ได้รับความนิยม คือ รส ช็อกโกแลตสอดไส้อัลมอนด์ผสมคาราเมล ซึ่งไม่หวานมาก กำลังเพลินเลยทีเดียว
-
Marabou
สำหรับใครที่ชื่นชอบช็อกโกแลตแบบหวานผสมนม ไม่มีความขม กินได้ง่ายๆ นั้น อีกหนึ่งยี่ห้อช็อกโกแลตสวีเดนที่รับรองว่าถูกใจคุณแน่ๆ คือ ช็อกโกแลตยี่ห้อ Marabou ซึ่งเป็นช็อกโกแลตที่ผสมเมล็ด Cacoa เพียงแค่ 30% เท่านั้น แต่นั้นไม่ได้หมายความว่ารสชาติจะไม่เข้มข้น In fact ช็อกโกแลตยี่ห้อนี้ เข้มข้น และ อร่อยมาก นอกจากนี้ ยังมีรสชาติแปลกๆ ให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น ถั่วพิซาชิโอ ป็อปคอร์น และ อีกมากมาย
5. Swedish licorice และ Swedish Candy Cane (ทอฟฟี่)
ถ้าถามว่าผู้คนประเทศไหนมีรสนิยมที่ชอบทานขนมหวานมากที่สุด (Sweet Tooth Taste) ขอบอกเลยว่าชาวสวีดิช ไม่เป็นสองรองใครแน่นอน ซึ่งประเทศสวีเดน มีขนมหวานสวีเดน และ แคนดี้รสชาติ และ หน้าตาที่หลากหลายให้ได้เลือกซื้อ แต่ประเภทขนมหวานสวีเดนที่เรียกได้ว่าชาวสวีเดน OBSESSD! มากๆ นั้น ได้แก่ ขนมหวานที่ชื่อว่า Licorice หรือ ลูกอมใส่ชะเอมเทศ หน้าตาสีดำๆ ที่ดูไม่น่าดกิน แต่หวานอร่อย กินได้ทั้งวันนั้นเอง ซึ่งสาเหตุที่ไม่ว่าคุณจะเดินไปทางไหนของเมือง คุณก็จะเห็น Licorice ขายอยู่ทั่วนั้น เพราะว่าชาวสวีเดน คุ้นเคยกับกรรมวิธีการปรุงอาหาร และ ถนอมอาหารด้วยเกลือ ซึ่งสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ดังนั้น ลูกอมชะเอมเทศ ที่มีรสชาติออกไปทาง Salty มากกว่าหวาน จึงเป็นเหมือน Comfort Food ของชาวสวีเดนนั่นเอง
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
6. Knäckebröd ขนมปังบางกรอบสวีเดน
Knäckebröd หรือภาษาอังกฤษ Crips Bread นั้น คือขนมปังบางกรอบ ที่มีต้นกำเนิดจากประเทศสวีเดน และ ประเทศษฟินด์แลนด์ มาอย่างช้านานตั้งแต่เมื่อ ค.ศ. 500 โดยเอกลักษณ์ของขนมปังดังกล่าวคือการทำมาจากแป้งไรย์ ข้าวโอ๊ต เครื่องเทศ และ ธัญพืช ซึ่งพ่อครัวชาวสวีเดนจะทำให้ขนมปังมีความบางมากที่สุด ทั้งนี้เนื่องความบาง และ กรอบของขนมปัง จะช่วยเพิ่มอายุของอาหารให้สามารถเก็บไว้กินได้นานขึ้นนั่นเอง สาเหตุที่ Knäckebröd เป็นหนึ่งในรายการของฝากสวีเดนที่ต้องซื้อกลับไทยนั้น เป็นเพราะว่า ที่ประเทศสวีเดน จะทำการอบขนมปังที่ว่านี้แค่ปีละ 2 ครั้งเท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากขนมปังชนิดนี้สามารถเก็บไว้ได้นานนั่นเอง
โดยทั่วไปแล้ว ชาวสวีเดนนิยมรับประทานขนมปังดังกล่าวควบคู่กับ เนยสด, แฮม, ไข่ต้ม, ชีส หรือ จะทานเล่นๆ เป็นขนมสวีเดนยามว่างก็ได้เช่นกัน
7. เครื่องครัวไม้ Handmade wooden kitchenware
ประเทศสวีเดน เป็นประเทศที่หลงใหลในงานแกะสลักไม้ และ งานทำมาเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเครื่องครัว ซึ่งหากใครได้มีโอกาสไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศสวีเดน หรือ ได้มีโอกาสไปอยู่ที่สวีเดนนานๆ จะรู้เลยว่า ไม่มีบ้านชาวสวีเดนบ้านไหน ไม่มีเครื่องครัวที่ทำจากไม้อย่างน้อย 4-5 ชิ้นอยู่ในคอลเลคชั่นแน่นอน
นอกจากนี้ เครื่องครัวเหล่านี้ยังมีลวดลายไม่ที่สวยงาม และไม่ซ้ำกันแม้จะผลิตออกมาจากที่เดียวกัน ทั้งนี้เนื่องจาก ลวดลายไม้บนเครื่องครัวเหล่านี้ คือ ลวดลายที่มาจาก Hand-Painted Designs มีความคงทน และ ใช้งานได้นาน
8. กระเป๋าเป้ Fjällräven Kanken
หันมาดูของฝากสวีเดนสำหรับสายแฟชั่นกันบ้าง ซึ่งแบรนด์กระเป๋าเป้ Fjällräven Kanken หรือ คองเก้น ที่คนไทยรู้จักกันดี และ ได้รับความนิยมกันอย่างมากนั้น เป็นแบรนด์กระเป๋าเป้ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศสวีเดน ดังนั้นแน่นอนว่าราคากระเป๋าคองเก้นที่นักท่องเที่ยวซื้อ ณ ประเทศสวีเดนโดยตรง จึงมีราคาถูกกว่าการพรีออร์เดอร์แน่นอน นอกจากนี้ Collection และ สีของกระเป๋ายังมีให้เลือกมากกว่าประเทศอื่นๆ โดยร้านขายกระเป๋า Fjällräven Kanken ที่ใหญ่ที่สุด นั้น อยู่ที่กรุงสตอกโฮล์ม ที่ร้าน Fjällräven Brand Corner at Naturkompaniet ซึ่งเป็นร้านขายเสื้อผ้าการกีฬา (Outdoor sport store) ตั้งอยู่ที่กรุงสตอกโฮล์ม (ที่อยู่)
9. Lovikka mittens ถุงมือกันหนาว Lovikka
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสินค้า และ ผลิตภัณฑ์บางอย่างของประเทศสวีเดน ส่วนมากเกิดจึ้นมาจากภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวไวกิ้งในสมัยก่อน เพื่อความจำเป็นในการใช้ชีวิตในสภาพอากาศที่หนาวเย็น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือถุงมือ หรือ Mitten ทำมือนั่นเอง ซึ่งของฝากสวีเดนที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อกลับไปเป็นที่ระลึก เพื่อย้อนรำลึกถึงสภาพอากาศที่หนาวเย็นของประเทศสวีเดนนั้น คือ ถุงมือ Lovikka mittens ซึ่งเป็นถุงมือที่ทำมาจากขนสัตว์ 100 % โดยมีต้นกำเนิดมาจากหมู่บ้าน Lovikka ออกแบบ และ สานโดยชาว Sami พื้นเมืองผู้อาศัยอยู่ในเขตยุโรปทางตอนเหนือของประเทศ หรือ ในเขต Lapland
Lovikka mittens เป็นอีกหนึ่งของฝากสวีเดนที่น่ารักมากๆ และยังสามารถใช้งานได้จริง เพระาแม้จะเป็นงานฝีมือ แต่ถุงมือนี้ก็มีความคงทน และ ลวดลายที่สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปํญญาพื้นบ้านของชาวสวีเดนได้อีกด้วย
10. Absolut Vodka
มาถึงของฝากสวีเดนชิ้นสุดท้าย ที่ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ ซึ่งสิ่งนั้นจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก Absolut Vodka หรือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์วอดก้า ซึ่งหากใครยังไม่รู้ วอดก้านั้น คือสุรากลั่นที่ไม่มีสี ซึ่งจะมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในอัตราส่วน 35-70% โดยปริมาตร ซึ่งส่วนผสมทั้งหมดของ Absolut Vodka นั้น มาจากทางตอนใต้ของประเทศสวีเดน ทำการผลิตครั้งแรก ณ เมือง Åhus (โอฮุส) ประเทศ Sweden (สวีเดน) ในปี ค.ศ. 1879 โดยคุณ Lars Olsson Smith โดยที่ตั้งเป้าว่า จะทำให้วอดก้าของเขาครองตลาดแอลกอฮอล์ของประเทศสวีเดนให้ได้ ซึ่งเขาก็ทำได้สำเร็จ เดิมที่ เขาตั้งชื่อว่า Absolut Rent Brännvin ซึ่งสามารถแปลเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า Absolutely Pure Vodka (วอดก้าที่บริสุทธิ์ที่สุด) นั่นเอง
น้ำทุกหยดและเมล็ดข้าวสาลีทุกเมล็ดมาจากแหล่งน้ำแห่งเดียวและชุมชนเดียวกัน ดังนั้นคุณภาพของวอดก้าทุกขวดจึงไม่ผิดเพี้ยน และ มีความเสถียรแน่นอน ซึ่งความพิเศษของการซื้อ Absolut Vodka เป็นของฝากสวีเดน จากประเทศสวีเดนนั้น คุณจะได้รับขวดวอดก้าที่มีคำว่า “Country of Sweden”
สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่กำลังมีแผนเดินทางไปท่องเที่ยว ณ ประเทศสวีเดน เพื่อไปสัมผัสบรรยากาศประเทศที่ขึ้นชื่อว่าอากาศบริสุทธิ์ และ ประชากรมีความสุขเป็นอันดับต้นๆ ของโลก พร้อมกับดื่มด่ำไปกับความสวยงามของธรรมชาติ และ สถาปัตยกรรมของแลนด์มาร์กชื่อดังที่ประเทศสวีเดน แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นเตรียมตัวเมื่อไร จองตั๋วเครื่องบิน และ โรงแรมอย่างไรให้คุ้มค่า หรือ วางแผนเส้นทางการท่องเที่ยวอย่างไรที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวได้ที่ดีสุด สามารถติดต่อให้ทาง Artralux ช่วยจัดการวางแผนเส้นทางท่องเที่ยว หรือ จัดทริปท่องเที่ยวแบบส่วนตัวได้ง่ายๆ
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
