10 ที่เที่ยวออสโล (oslo) เมืองหลวงนอร์เวย์ สวยงามสมฉายาปอดแห่งยุโรป

ออสโล

 

ออสโล” (Oslo) เป็นเมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ที่มีความสวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของโลกก็ว่าได้ แม้ว่าเมืองออสโลจะมีพื้นกว้างขวาง และ เป็นถึงศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศนอร์เวย์ แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีเพียงแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ในเมืองออสเท่านั้น ที่ได้รับการพัฒนา ในส่วนของพื้นที่อีก 80 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นพื้นที่สีเขียว เช่น สวนสาธารณะ, ภูเขา, ป่าสงวน และ ทะเลสาบอีกนักบร้อยแห่ง ด้วยเหตุนี้เอง สถานที่เที่ยวของเมืองออสโล จึงเน้นความสวยงามทางธรรมชาติเป็นหลักนั่นเอง

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ประเทศนอร์เวย์ เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อว่าแพงที่สุดสำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยว ซึ่งจากข้อมูลเว็บไซต์ VisitWorld กล่าวว่าค่าใช้จ่ายสำหรับท่องเที่ยวนอร์เวย์ 5 วันนั้นเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 49,081 บาท ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวที่มีโอกาสได้มาท่องเที่ยวเมืองออสโล ทุกคนต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการได้มาสัมผัสเมืองออสโล เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์นั้น “Worth every single øre” หรือ ที่แปลเป็นไทยได้ว่า “คุ้มค่ากับทุกสตางค์ที่เสียไป” เพราะไม่เพียงแต่ สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายแล้ว เมืองออสโลยังขึ้นชื่อว่าสะอาดมากๆ เปรียบเสมือนกับปอดของยุโรปก็ว่าได้ ทั้งนี้เนื่องจากประเทศนอร์เวย์ให้ความสำคัญกับการแยกขยะ และ การรักษามลภาวะทางอากาศเป็นอย่างมากนั่นเอง  

 

ออสโล

 

วันนี้ ARTRALUX บริษัทนำเที่ยวชั้นนำ หลังจากได้เคยแนะนำเกี่ยวกับอาหารนอร์เวย์มาแล้ว วันนี้จึงขออาสานำท่านเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองออสโล (Oslo) ซึ่งเป็นเมืองหลวงนอร์เวย์ด้วยกัน ด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวร่วม 10 ปี เราได้ทำการเลือก 10 สถานที่ท่องเที่ยว และ แลนด์มาร์กสำคัญในเมืองออสโลที่เรียกได้ว่าหากไม่ได้ไปถือว่ามาไม่ถึงออสโลแน่ๆ มาฝาก อีกทั้งยังรวบรวมข้อมูลระบบขนส่งสาธารณะหลักที่ใช้ในการเดินทางท่องเที่ยวในออสโล ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย! 

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

10 ที่เที่ยวเมืองออสโลที่หากพลาด เสียดายแย่!

 

อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น เมืองออสโลรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ภูเขา และ ป่าสงวนมากมาย อีกทั้งตั้งอยู่ในบริเวณที่เต็มไปด้วย fjord หรือ อ่าวช่องแคบ ดังนั้นการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองออสโลจึงเป็นที่นิยมเดินทางด้วยเท้า หรือ เดินทางด้วยจักรยานเป็นหลัก ทำให้เมืองออสโลเต็มไปด้วยทางเดินทาง และ ทางขี่จักรยาน ที่สามารถเชื่อมต่อสู่สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองมากมาย ตั้งแต่ สถานีหลักของเมืองอย่าง Oslo Central Station จนกระทั่งถึง พระราชวัง Royal Palace ก็ว่าได้

 

โดยสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองออสโลที่นักท่องเที่ยวพลาดไม่ได้ มีดังนี้ 

 

1. สวน Vigeland Sculpture Park 

 

ออสโล

 

หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองกรุงออสโลที่ได้รับความนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวมากที่สุด คงไม่มีใครไม่นึกถึง สวน Vigeland Sculpture Park ซึ่งนอกจากจะเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองออสโลแล้ว สวนแห่งนี้ ยังเป็นสวนประติมากรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (The world’s largest sculpture park) อีกด้วย 

 

สวน Vigeland Sculpture เมืองออสโล ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยาน Frogner ซึ่งเป็นพื้นที่สวนสีเขียวบริเวณเขตที่อยู่ Frogner แหล่งรวมร้านค้าระดับไฮเอนด์ ร้านอาหารหรู และ อพาร์ตเมนต์ราคาแพงของเมืองออสโลนั่นเอง ซึ่งจุดเด่นของสวนแห่งนี้ อยู่ที่ประติมากรรมการแกะสลักรูปเหมือนจากหินแกรนิต ที่ถูกจัดแสดงไว้ ณ กลางสวนกว่า 200 ชิ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ต่างเป็นผลงานของศิลปินชื่อดังของประเทศนอร์เวย์อย่างคุณ ‘Gustav Vigeland’ ทั้งสิ้น 

 

ออสโล

 

โดยในสวนแห่งนี้ จะถูกแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกัน ได้แก่ โซนสวน โซนสะพาน และ โซนรูปปั้น ซึ่งลักษณะของรูปปั้นนั้น จะมีลักษณะ ท่าทาง และ อาริยาบถความเป็นมนุษย์ ตลอดระยะเวลาตั้งแต่วัยทารก จนกระทั่งถึงวัยชรา (Cycle of life) โดยรูปปั้นที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ณ สวน Vigeland Sculpture ของกรุงออสโล ได้แก่ รูปปั้น Angry Boy และ รูปปั้น Man under attack from genii spirits ซึ่งเชื่อกันว่า หากได้ลูบศีรษะน้อง หรือ ลูกที่มือ จะนำมาซึ่งวความโชคดีนั่นเอง

 

2. ป้อมปราการ Akershus Fortress

 

ออสโล

 

สถานที่ท่องเที่ยวของเมืองออสโลอีกแห่งที่พลาดไม่ได้นั้น ได้แก่ ปราสาท และ ป้อมปราการ  Akershus Fortress (ป้อมปราการอาเกิชฮืส) ซึ่งปราสาทแห่งนี้ ล้อมรอบไปด้วยป้อมปราการตลอดแนวชายฝั่ง ตั้งอยู่ติดกับทะเล อีกทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากพระราชวัง Royal Palace อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของกรุงออสโลนั่นเอง

 

ปราสาทอาเกิชฮืสแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในยุคกลางตั้งแต่ปลายทศวรรษที่ 13 เพื่อป้องกันการโจมตี และ รุกรานของข้าศึก ซึ่งถือว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก เพราะตลอดระยะเวลา 7 ทศวรรษ กรุงออสโล เมืองหลวงนอร์เวย์ ไม่เคยถูกข้าศึกรุกรานได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว นอกจากประวัติศาสตร์ที่น่าประทับใจของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้แล้ว สถาปัตยกรรมสไตล์เรเนซองส์ของปราสาทที่ตั้งอยู่ภายในป้อมปราการก็งดงามเป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกใจเลยที่ป้อมปราการแห่งนี้ จะเป็นต้นแบบของปราสาทของเอลซ่า และ แอนนา ในการ์ตูนเรื่อง Frozen ของ Disney นั่นเอง 

3. ถนน Karl Johans gate 

 

ออสโล

 

หากถามว่าถนนสายไหนที่สำคัญที่สุด ซึ่งเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของเมืองออสโลก็ว่าได้ เราขอยกให้ถนน Karl Johans gate ซึ่งเป็นถนนที่ลากยาวตั้งแต่สถานีรถไฟ Central Station (ตั้งอยู่สุดตะวันตกของเมืองออสโล) จนถึงพระราชวัง Royal Palace (ตั้งอยู่สุดตะวันออกของเมืองออสโล)เลยทีเดียว

 

ถนนเส้นนี้ถือเป็นถนนเส้นที่สำคัญที่สุดของกรุงออสโล เต็มไปด้วยสีสันของร้านค้า และ ความครึกครื้นของผู้คนตลอดทั้งวัน ตั้งแต่กลางวัน จนถึงตอนกลางคืน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากคุณมาเยือนออสโลในช่วงเทศกาลคริสมาร์ต ถนนทั้งเส้น จะเต็มไปด้วยไฟประดับตกแต่งอย่างสวยาม ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางโลกในเทพนิยายอย่างไงอย่างนั้น 

 

ออสโล

 

ไฮไลท์ของถนน Karl Johans gate ในกรุงออสโล ได้แก่ บริเวณแถบพื้นที่สีเขียวของถนนเส้นนี้ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ สนามหญ้า น้ำพุ และ ทะเลสาบ ซึ่งในหน้าหนาวความเขียวขจีของต้นไม้ และ ผืนหญ้าเหล่านี้ จะให้ความสว่างสไวกับถนนเส้นนี้ ด้วยหิมะขาวที่ปกคลุม พื้นที่อย่างทั่วถึง อีกทั้งทะเลสาบ หรือ บ่อน้ำน้อยใหญ่จะกลายเป็นลานสเกตกลางแจ้ง ให้นักท่องเที่ยวได้เล่นสเกตกันอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ 

 

Fun Fact: ในวันที่ 17 พฤษภาคนของทุกปี ถนนเส้นนี้จะจัดกิจกรรมสำคัญเพื่อเป็นการฉลองวันรัฐธรรมนูญแห่งชาติของนอร์เวย์ โดยประชาชนจะร่วมใจกันเข้าร่วมการฉลองวันดังกล่าวโดยการแต่งตัวด้วยประจำชาติ และเจอกัน ณ ถนนเส้นนี้

 

4. พระราชวัง Royal Palace 

 

ออสโล

 

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงถนน Karl Johans gate แล้ว จะไม่พูดถึงพระราชวัง Royal Palace คงจะไม่ได้ ทั้งนี้เนื่องจากพระราชวังแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่สุดขอบของถนน Karl Johans gate ซึ่งหากเรามองจากบนตัววัง เราก็จะสามารถเห็นถนน Karl Johans gate ได้ทั้งเส้นอีกด้วย วัง Royal Palace เป็นวังประจำเมืองออสโล มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกที่ดูเรียบง่าย แต่ยิ่งใหญ่ อยน่างไรก็๖าม เนื่องจากพระราชวังแห่งนี้เป็นที่ประทับของเชื้อพระวงศ์นอร์เวย์จริงๆ ดังนั้นจึงเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้แค่ในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น (ปลายเดือนมิถุนายน ถึง กลางเดือนสิงหาคม) 

ออสโล

ภายนอกวังจะมีทหารองครักษ์ที่คอยยืนเฝ้า และ ตรวจตราตลอดทั้งวัน แต่จะมีพิธีเปลี่ยนเวรกันในเวลา 13:30 นาฬิกาของทุกวันนั่นเอง สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากเข้าชมภายในวัง สามารถเลือกเข้าชมได้ทั้งแบบไกด์นำเที่ยว หรือ แบบเข้าชมเองอิสระ ซึ่งห้องที่เปิดให้เข้าชม ได้แก่ ห้องทรงงาน, ห้องประทับรับรองอาคันตุกะ, ห้องรับประทานอาหาร และอีกมากมาย   

 

5. พิพิธภัณฑ์ Munch Museum

  ออสโล

 

พิพิธภัณฑ์ Munch Museum เป็นพิพิธภัณฑ์แห่งใหม่ สร้างขึ้นเมื่อปีค.ศ 2008 ตั้งอยู่บริเวณริมน้ำของเมืองออสโล ภายในได้รวบรวมผลงานศิลปะของศิลปินนอร์เวย์ชื่อดังที่ชื่อว่า ‘Edvard Munch’ และ ศิลปินท่านอื่นอีกหลายท่านที่เป็นแรงบันดาลใจให้แก่งานศิลปะของเขา 

 

นอกจากผลงานศิลปะแล้ว ตึกพิพิธภัณฑ์ Munch Museum ยังมีรูปทรงที่แตกต่างจากตึกรอบข้างในเมืองออสโล สร้างความสะดุดตาให้แก่ผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมาพอสมควร ตัวอาคารหุ้มด้วยแผงอะลูมิเนียมรีไซเคิล มีช่องระหว่างกลาง สามารถมองเห็นด้านในอาคารได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้บริเวณด้านบน จะมีลักษณะเอนลงมาด้านหน้าเล็กน้อย ซึ่งถือเป็นการออกแบบโดยการใช้เทคโนโลยี และ วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง  

 

ด้วยตัวตึกที่สูงกว่า 13 ชั้น และ พื้นที่จัดแสดงผลงานกว่า 11 แห่ง พิพิธภัณฑ์ Munch Museum แห่งกรุงออสโล สามารถแสดงผลงานศิลปะได้อย่างหลากหลาย ซึ่งนอกจากงานศิลปะแล้ว สถานที่แห่งนี้ ยังเป็นที่จัดงานกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานดนตรี การจัดแสดงภาพยนต์ และ การเสวนาทางศิลปะมากมาย 

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

6. มหาวิหารออสโล (Oslo Cathedral)

 

ออสโล

 

มหาวิหารออสโล เป็นโบสถ์คู่บ้านคู่เมืองประจำเมืองออสโลมาตั้งแต่ ค.ศ 1697 และถึงแม้ว่าโบสถ์แห่งนี้ จะถูกบูรณะสถานทั้งภายนอก และ ภายในมาหลายครั้ง เพื่อผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบโกธิค และ สถาปัตยกรรมแบบนีโอโกธิคเข้าไป แต่โบสถ์แห่งนี้ยังคงส่งกลิ่นอายสถาปัตคยกรรมสไตล์ Baroque (บารอก) ไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ชาวเมืองออสโลให้ความสำคัญกับโบสถ์แห่งนี้เป็นอย่างมากเนื่องจากสถานที่นี้เอง เป็นสถานที่จัดงานอภิเษกสมรส และ พิธีเคารพศพของเชื้อพระวงศ์ และ คนใหญ่โตของนอร์เวย์อยู่หลายครั้ง   

 

ออสโล

ซึ่งสิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้แก่วิหารแห่งนี้ ได้แก่ ผลงานประติมากรรมการเเกะสลักไม้รูปพระเยซู แท่นบูชาสไตล์บารอก ชรวมไปจนถึง ออร์เเกนบรรเลงเพลงที่มีอายุเก่าแก่ยาวนานตั้งแต่สร้างโบสถ์แห่งนี้ขึ้นมาเลยทีเดียว โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมการบรรเลงเพลงผ่านเครื่องดนตรีออร์แกนอันยิ่งใหญ่ภายในวังได้ในช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมนั่นเอง

 

7. Oslo City Hall 

 

ออสโล

 

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเมืองออสโลที่พลาดไม่ได้ได้แก่ Oslo City hall หรือ ศาลาว่าการกรุงออสโล ตั้งอยู่ริมขอบด้านตะวันออกของเมืองออสโล ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมในรูปแบบ Functionalism ที่ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมสไตล์คลาสสิครูปแบบใหม่ และสีอาคารสีอิฐแดงที่มองเห็นชัดเจนจากทางไกล ในส่วนของด้านในอาคารจะมีลักษณะเป็นห้องโถงกว้างขนาดใหญ่ ประกอบไปด้วยห้องต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ห้องประชุม ห้องทำงานส่วนราชการ และ ห้องเก็บผลงานศิลปะ และ วัตถุโบราณที่มีค่าของเมืองออสโล และ อีกมากมาย

 

ออสโล

 

จุดเด่นของ Oslo City Hall แห่งนี้ อยู่ที่ภายใน ที่มีการประดับตกแต่งอาคารด้วยภาพวาดสีน้ำมันขนาดใหญ่ ผลงานจากศิลปินที่ชื่อว่า Henrik Sørensen โดยรูปนี้ ได้แสดงเนื้อหาถึงเรื่องราวเกี่ยวกับการปฏิรูปสังคม การศึกษา สงคราม และประวัติศาสตร์ราชวงศ์นอร์เวย์นั่นเอง

 

8. Sognsvann Lake

 

ออสโล

สายธรรมชาติห้ามพลาด อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองออสโลที่ห้ามพลาดได้แก่ที่ ทะเลสาบ Sognsvann Lake ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจุดนัดพบของเหล่านักเรียน และ สมาชิกในครอบครัวของชาวออสโลก็ว่าได้ โดยสถานที่แห่งนี้ ไม่เพียงแต่วิวของทะเลสาบอันกว้างใหญ่ที่สามารถลงเล่นน้ำได้แล้ว สถานที่นี้ยังมีจุดให้ตั้งแคมป์ไฟเพื่อรับชมวิวพระอาทิตย์ตกดินอย่างสวยงามอีกด้วย

 

9. Oslo Opera House 

 

ออสโล

 

เมื่อมาท่องเที่ยวที่ออสโล เมืองหลวงนอร์เวย์แล้ว จะไม่มาเยี่ยมชม Opera House หรือ ชาวออสโลเรียกกันว่า Operahuset ถือว่ามาไม่ถึงเมืองออสโลนะคะ เพราะสถานที่แห่งนี้เอง เปรียบเสมือนสัญลักษณ์สำคัญของเมืองออสโลเลยทีเดียว 

 

สถาปัตยกรรมภายนอกของ Oslo Opera House นั้น มาในสไตล์โมเดิร์น มีลักษณะรูปร่างลาดลงสู่ผิวน้ำ ทำให้เมื่อมองมาจากทางไกลสถานที่แห่งนี้ เหมือนได้โพล่ขึ้นมาจากทะเลสาบอย่างไรอย่างนั้น นอกจากนี้ ในช่วงฤดูหนาวที่ทะเลสาบแห่งนี้กลายเป็นลานน้ำแข็ง ชาวออสโล และ นักท่องเที่ยวจะมาเล่นสเกตน้ำแข็งกันที่นี้ สร้างเป็นภาพบรรยากาศที่สวยงามไม่น้อยเลยทีเดียว ในส่วนของภายในประดับตกแต่งด้วยไม้โอ๊ค สไตล์สแกนดิเนเวียร์ สรา้งบรรยากาศที่อบอุ่น ตัดกับสีโทนเย็นของอาคารภายนอกได้อย่างลงตัว 

 

ออสโล

Oslo Opera House แห่งนี้ เป็นสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตโอเปร่า การแสดงบัลเลต์ และ ละครเวทีของประเทศนอร์เวย์มากมาย จนโรงโอเปร่าแห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็น โรงละครแห่งชาติของประเทศนอร์เวย์เลยทีเดียว

 

10. Oslofjord

 

ออสโล

ความยาวของฟยอร์ดที่ทอดตัวยากว่า 107 กม. ถือเป็นอัญมณีสำคัญ และ งดงามที่สุดของเมืองออสโลก็ว่าได้ โดยนักท่องเที่ยวจะนิยมนักเรือไปตามชายหาดของฟยอร์ดแห่งนี้ เพื่อชมความงดงามของธรรมชาติ บ้านไม้หลากสีสัน ภูเขาสูงสง่า พร้อมถ่ายภาพไปกับวิว[นเกาะตามทางที่งดงาม 

 

ออสโล

โดยในหน้าร้อนของทุกปี นักท่องเที่ยวจะนิยมเดินทางมาทำกิจกรรมทางน้ำท่ามกลางวิวฟยอร์ดอันสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นการโต้คลื่น พายเรือ หรือแม้แต่แค่ว่ายน้ำท่ามกลางแสงแดดอันอบอุ่นในหน้าร้อนของออสโลนั่นเอง อย่างไรก็ตาม หากเดินทางมาในหน้าหนาว ถ้าคุณกล้าพอที่จะว่ายน้ำท่ามกลางอุณหภูมิที่หนาวเย็นในหน้าหนาวของออสโลแล้วละก็ บริเวณรอบๆ ฟยอร์ด จะมีซาวน่าให้นักท่องเที่ยวได้เพิ่มอุณหภูมิร่างกาย และ ผ่อนคลายอีกด้วย 

 

การเดินทางท่องเที่ยวในเมืองออสโล 

 

ออสโล

 

อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น เมืองออสโล (Oslo) ประเทศนอร์เวย์ เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ความสวยงามของสถาปัตยกรรมตามท้องถนน และ บรรยากาศภายในเมืองอันบริสุทธิ์ที่ยากที่จะมองข้าม ด้วยเหตุนี้ นักท่องเที่ยว รวมไปจนถึงชาวเมืองออสโลเอง จึงนิยมเดินทางในเมืองออสโลด้วยการเดินเท้า หรือ ขี่จักรยานเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม เมืองออสโลเอง ก็มีตัวเลือกระบบขนส่งสาธารณะที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รถราง, รถเมล์, รถไฟใต้ดิน, เรือเฟอรี่ และ รถไฟธรรมดา เป็นต้น ซึ่งทุกระบบขนส่งสาธารณะที่ว่านี้ ต่างอยู๋ในความดูแลของบริษัทจำกัดที่ชื่อว่า Router 

 

สำหรับการซ์้อตั๋วนั้น ทำได้ทั้งหมด 3 ช่องทาง ดังนี้

 

    • ซื้อตั๋วผ่านตู้ขายตั๋ว : ซึ่งจะตั้งอยู่ตามสถานีรถไฟใติดิน ป้ายรอรถราง และ ป้ายรอรถเมล์ เป็นต้น  
    • ซื้อผ่านแอปพลิเคชัน : สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการซื้อตั๋วผ่านแอปพลิเคชัน สามารถซ์้อได้ผ่านแอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า Router 
    • ซื้อจากคนขับรถ  : วิธีนี้นักท่องเที่ยวจะได้ตั๋วที่มีราคาแพงกว่าการซื้อจากแอปพลิเคชัน หรือ ซื้อจากตู้ ทั้งนี้เนื่องจากเมืองออสโล ประยเทศนอร์เวย์ ต้องการให้ผู้โดยสารถือตั๋วแล้วเรียบร้อยก่อนที่จะขึ้นรถ เพราะจะช่วยในการประหยัดเวลามากขึ้นนั่นเอง

 

จุดเด่นของระบบขนส่งสาธารณะในเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์นั้น คือ การที่ทางการออสโลเชื่อใจผู้โดยสารทุกคน จะไม่มีการแบ่งเขตผู้ที่ซื้อตั๋วแล้ว และ ผู้ที่ยังไม่ซื้อตั๋วออกจากกัน นอกจากนี้ผู้โดยสารสามารถเดินเข้าไปถึงตัวชาลชราได้วันละหลายๆ รอบอีกด้วย อย่างไรก็ตามหากมีการเดินตรวจตรา และ จับได้ว่า ผู้โดยสารไม่มีตั๋วจะโดนค่าปรับราคาแพงถึง 1,150 โครน หรืออยู่ที่ประมาณ 3,700 บาทเลยทีเดียว

 

สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่กำลังมีแผนเดินทางไปท่องเที่ยวที่เมืองออสโล (Oslo) ประเทศนอร์เวย์ แต่ยังไม่ได้เริ่มวางแผน ยังไม่มีวีซ่า และ ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี อย่ามัวแต่จมปลักอยู่กับความวุ่นวายนั้น เพราะถ้าไม่เริ่มจะได้เที่ยวออสโลกันตอนไหน ทาง Artralux เรามาพร้อมกับบริการวางแผนท่องเที่ยวออสโล และ จัดทริปทัวร์ท่องเที่ยวเมืองออสโลแบบเป็นส่วนตัว ที่ไม่ว่าคุณจะอยากเดินทางไปเยี่ยมชมแลนด์มาร์กที่ไหน นอนพักโรงแรมระดับอะไร หรือ กินอาหารร้านดังที่ใด ทาง Artralux เราสามารถจัดให้ได้อย่างไม่มีข้อแม้ นอกจากนี้ เรายังมาพร้อมกับบริการรับทำวีซ่า ที่พร้อมดูแลคุณตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย 

 

สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)

📞 | 02-047-0083

💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

SHARES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า