10 ที่เที่ยวนอร์เวย์ จัดเต็มแลนด์มาร์กเด็ด ณ ดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน

เที่ยวนอร์เวย์

 

เที่ยวนอร์เวย์ 2566 เชื่อว่าความฝันของนักท่องเที่ยวหลายคน คือ การเดินทางไปท่องเที่ยวนอร์เวย์ ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็น The most happiness place on earth หรือ ประเทศที่ประชากรมีความสุขมากที่สุดในโลก เพราะเพียงแต่ทัศนียภาพทางธรรมชาติของประเทศที่สวยงามราวกับหลุดออกมาจากรูปโปสการ์ดท่องเที่ยวแล้ว ประเทศนอร์เวย์นี่เองยังเป็นศูนย์รวมความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติอันน่าทึ่งที่หาไม่ได้จากที่ไหนในโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ปรากฏการณ์แสงเหนือ (Northen Lights), พระอาทิตย์เที่ยงคืน (Midnight Sun), ฟยอร์ด (Fjords) และ อีกมากมาย จึงไม่แปลกใจเลยที่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวนอร์เวย์นั้น เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจากเว็บไซต์ Statistic Norway พบว่ามีในปี 2022 ที่ผ่าน ได้มีจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 35 ล้านคน เดินทางมาเที่ยวนอร์เวย์ 

 

ประเทศนอร์เวย์ (Norway) ” หรือ ชื่ออย่างเป็นทางการ “ราชอาณาจักรนอร์เวย์” เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในบริเวณยุโรปเหนือ เป็นหนึ่งในประเทศเขตสแกนดิเนเวีย ตัวประเทศอยู่ที่ติดกับประเทศท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ประเทศสวีเดน ฟินแลนด์ และ รัสเซีย ประเทศนอร์เวย์มีอาณาเขตกว้างขวาง และ ภูมิประเทศจะมีลักษณะเป็นภูเขาสูงสลับกับที่ราบ ช่องแคบ และ ทะเลสาบ อัดแน่นไปด้วยความงดงามทางธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ ธารน้ำแข็ง หุบเขา และ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั้น คือ ฟยอร์ดที่สวยงามเป็นอันดับ 4 ของโลก ก็ตั้งอยู่ที่ประเทศนอร์เวย์แห่งนี้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ การเที่ยวนอร์เวย์ จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติเป็นที่สุด 

 

วันนี้ ARTRALUX บริษัททัวร์นำเที่ยวชั้นนำ ได้ทำการรวบรวมแหล่งท่องเที่ยวนอร์เวย์ที่มีความสวยงาม ระดับ Breath-Taking มาฝาก พร้อมกับข้อมูลที่นักท่องเที่ยวต้องทราบก่อนไปเที่ยวนอร์เวย์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของงบประมาณการท่องเที่ยวนอร์เวย์, เที่ยวนอร์เวย์เดือนไหนดี รวมไปถึงระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศ ซึ่งจะมีข้อมูลอะไรบ้าง เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย!  

เที่ยวนอร์เวย์

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยวเพิ่มเพื่อน

 

10 ที่เที่ยวนอร์เวย์ เยือนนอร์เวย์ต้องไม่พลาด

เที่ยวนอร์เวย์

เนื่องจากประเทศนอร์เวย์ ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวด้วยความงดงามทางธรรมชาติของประเทศมากกว่าสถานที่ท่องเที่ยวเชิงสถาปัตยกรรม หรือ ประวัติศาสตร์เหมือนกับสถานที่ท่องเที่ยวในโซนยุโรปตะวันตก ทั้งนี้เนื่องจากประเทศนอร์เวย์ มีแนวชายฝั่งยาว มีพื้นที่ติดกับทะเล เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว และ ภูเขาสูงใหญ่ อีกทั้งด้วยความที่ประเทศอยู่ทางยุโรปเหนือ และในอดีตเคยมีน้ำแข็งปกคลุมอย่างหนาแน่น ทำให้เวลาผ่านไป ได้เกิดการกัดเซาะของน้ำแข็ง และ การทับถมของหินเก่า เกิดเป็นธารน้ำ หรือ ฟยอร์ด (Fjords) ที่สวยงามนั่นเอง 

 

ดังนั้น ที่เที่ยวนอร์เวย์ที่ ARTRALUX นำมาฝากเพื่อนๆ ในวันนี้ จึงเป็นที่ท่องเที่ยวนอร์เวย์ แนะนำที่เน้นความสวยงามทางธรรมชาติเป็นหลัก แต่รับรองว่า สถานที่ท่องเที่ยวนอร์เวย์เหล่านี้มีความงดงามที่ควรค่าแก่การเยี่ยมเยือนแน่นอน 

 

1.  ฟยอร์ดเกรังเกอร์ฟยอร์ด (Geirangerfjord)

 

เที่ยวนอร์เวย์

 

เนื่องจากประเทศนอร์เวย์ เป็นประเทศที่มีฟยอร์ด 1,190 แห่ง จนได้รับฉายาว่าเป็นประเทศแห่งฟยอร์ด เราจึงขอเริ่มต้นที่เที่ยวนอร์เวย์ที่แรกกันด้วยฟยอร์ดที่ขึ้นชื่อว่างดงาม และ ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่สุดในประเทศนอร์เวย์ นั่นคือ ฟยอร์ด Geirangerfjord ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ และ อยู่ห่างจากเมืองออเลซุนด์ประมาณ 100 กิโลเมตรเท่านั้น เขาว่ากันว่าที่เที่ยวนอร์เวย์แห่งนี้มีความสวยงามที่ไม่ว่าคุณจะเดินทางมาด้วยรถยนต์ หรือ ทางเรือ ทัศนียภาพความงามของฟยอร์ด Geirangerfjord จะเป็นภาพที่คุณลืมไม่ลงไปอีกนาน 

 

ฟยอร์ด Geirangerfjord ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกจาก Unesco ด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติที่รายล้อมสถานที่แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น น้ำตกอันทรงพลัง (The Seven Sister Waterwall) ที่ไหลลงมาตามไหล่เขาสูงชันอันเขียวชอุ่ม เส้นทางเดินเขาที่ให้คุณได้เห็นวิวทะเลสาบสีฟ้าใส รวมไปจนถึงจุดชมวิวหลายแห่ง ที่ต่างเสนอเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และ ภูมิประเทศทางธรรมชาติ ที่แตกต่างกันไป  

 

2. หน้าผาไพรเกสตูเลน (Preikestolen)

 

เที่ยวนอร์เวย์

 

หน้าผาไพรเกสตูเลน (Preikestolen) เป็นหนึ่งในที่เที่ยวนอร์เวย์ รวมถึงที่เที่ยวระดับโลกที่ได้รับการยกย่องให้เป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดในโลกอีกแห่ง ซึ่งหน้าผาไพรเกสตูเลนนี่เอง เป็นลาดโขดหินขนาดใหญ่ 25 x 25 เมตร และมีความสูงชันเหนือ 640 เมตร ยื่นออกไปเหนือลีเซฟยอร์ด (Lysefjord) ซึ่งเพื่อนๆ จะสามารถขึ้นมาชมวิวที่นี้ได้ด้วยการ Hiking หรือ ปีนเขา ซึ่งระยะทางเส้นทางปีนเขาอยู่ที่ประมาณ  334 เมตร โดยจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งถือเป็น Level การปีนเขาที่ไม่ยากมาก มือสมัครเล่นก็ทำได้ อย่างไรก็ตาม หากมาเที่ยวนอร์เวย์ ในช่วงหน้าหนาว ควรหลีกเลี่ยงการปีนเขา เพราะพื้นที่จะค่อนข้างลื่นจากน้ำฝน และ หิมะ นั่นเอง ดังนั้น เที่ยวนอร์เวย์ ช่วงไหนดี สำหรับการปีนเขา เราแนะนำในช่วงเดือน เมษายน จนถึง ตุลาคม เนื่องจากอากาศกำลังสบาย มีแดดบ้าง แต่ไม่ร้อนนั่นเอง

 

3. นอร์ธ เคปป์  (North Cape)

 

เที่ยวนอร์เวย์

 

เชื่อว่านักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางไปเที่ยวนอร์เวย์ทุกคนทราบดีว่า นอร์เวย์เป็นดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน (Midnight Sun) ซึ่งนั่นหมายความว่าในบางพื้นที่ของประเทศนอร์เวย์ จะเกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติให้เราได้พบเห็นพระอาทิตย์ส่องสว่างในเวลากลางคืน ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวมักจะเกิดในช่วงหน้าร้อนของประเทศยุโรป ซึ่งหากนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวนอร์เวย์เพื่อที่จะรับชมปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืน เราแนะนำให้ไปเที่ยวนอร์เวย์กันในช่วงเดือน มิถุนายน – สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงหน้าร้อนนั่นเอง 

 

เที่ยวนอร์เวย์

 

โดยสถานที่รับชมพระอาทิตย์เที่ยวคืนที่ได้รับความนิยมในนอร์เวย์นั้น ได้แก่ที่ แหลมเหนือ North Cape ซึ่งตั้งอยู่ปลายเกาะมาเกโรยา เหนือทะเลแบเร็นตส์ (Barents Sea) ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งที่การชมพระอาทิตย์ที่แหลมเหนือ North Cape นี่ คุณจะได้เห็นพระอาทิตย์บนท้องฟ้า แม้ในยามค่ำคืนยาวนานกว่า 1800 ชั่วโมง เลยทีเดียว   

 

4. ทางรถไฟ ฟลัมสบานา (Flåmsbana) 

 

เที่ยวนอร์เวย์

 

ทางรถไฟ ฟลัมสบานา (Flåmsbana) หรือ ที่ชาวนอร์เวย์เรียกกันสั้นๆ ว่า The Flåm Line นั้น เป็นเส้นทางรถไฟระยะสั้นของประเทศนอร์เวย์ที่ได้ชื่อว่ามี Journey ที่สวยงามที่สุด ซึ่งแม้ว่าเส้นทางรถไฟนี้ จะเป็นเพียงแค่เส้นทางระยะสั้น มีความยาวแค่ 20.2 กิโลเมตรเท่านั้น แต่ระหว่างการเดินทางคุณจะได้เห็นความงดงามทางธรรมชาติสุดลูกหูลูกตา ที่เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับทุกบาททุกสตางค์ที่เสียไปอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้ เส้นทางรถไฟสายนี้จึงเป็นที่เที่ยวนอร์เวย์อีกแห่งที่ไม่ควรพลาด  

เที่ยวนอร์เวย์

 

โดยเส้นทางรถไฟฟลัมสบานา (Flåmsbana) แห่งนี้ เป็นสายรถไฟเก่าแก่ของประเทศนอร์เวย์ก่อตั้งตั้งแต่ปี ค.ศ. 1940 โดยตามเส้นทาง ประกอบไปด้วยสถานีรถไฟทั้งหมด 10 แห่ง, อุโมงค์ทั้งหมด 20 อุโมงค์ และ สะพานอีก 1 แห่ง โดยตามทาง คุณจะได้พบเจอกับความสวยงามของธรรมชาติ น้ำตก ลำธาร ดอกไม้บนทุ่งหญ้าเขียวขจี และ หมู่บ้านเล็ก ๆ เนื่องจากรถไฟสายนี้อยู่ที่ความสูงประมาณ 863 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล 

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยวเพิ่มเพื่อน

5. เมืองทรอมโซ (Tromso) 

 

เที่ยวนอร์เวย์

 

เมืองทรอมโซ (Tromso) เป็นที่เที่ยวนอร์เวย์ที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวสายผจญภัยที่ต้องการเดินทางมาล่าแสงเหนือที่ประเทศนอร์เวย์ เพราะเมื่อถามว่าเที่ยวนอร์เวย์เมืองไหนดี ที่จะสามารถพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือได้นั้น เมืองทรอมโซ คือ คำตอบ ทั้งนี้เนื่องจากเมืองทรอมโซนั้น อยู่ใกล้กับเส้นอาร์กติกเซอร์เคิลทำให้นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นแสงเหนือได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เมืองทรอมโซกลายเป็นที่เที่ยวนอร์เวย์เพื่อดูแลแสงเหนือที่ดีที่สุดนั้น เป็นเพราะว่า ในช่วงที่แสงเหนือขึ้นนั้น หมู่บ้านจะครึกครื้นด้วยจำนวนนักท่องเที่ยว และมีเทศกาลดนตรีอีกด้วย 

 

“เที่ยวนอร์เวย์เดือนไหนดี ให้เจอแสงเหนือ” หากเพื่อนๆ วางแผนจะเดินทางมาที่เมืองทรอมโซ แนะนำให้มาในช่วงหน้าหนาว หรือ ในช่วงเดือนตุลาคม – มีนาคม และ คุณจะสามารถเห็นแสงเหนือได้ตั้งแต่ในช่วง 4 ทุ่ม จนถึง เที่ยงคืนนั่นเอง 

 

6. เมืองเบอร์เกน (Bergen)

 

เที่ยวนอร์เวย์

 

เมื่อพูดถึงที่เที่ยวนอร์เวย์ เชื่อว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่พลุดขึ้นมาในหัวของนักท่องเที่ยวหลายคน คงจะหนีไม่พ้น เจ้าหมู่บ้านหลากสี ริมทะเลสาบสุดไอคอนิกของประเทศนอร์เวย์อย่างแน่นอน ซึ่งหมู่บ้านดังกล่าวที่เราเห็นในโปสการ์ดกันบ่อยๆ นี่เอง ชื่อว่าเมืองเบอร์เกน (Bergen) ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองลงมาจากเมืองหลวงของนอร์เวย์ อย่างกรุงออสโล อีกทั้งยังมีประชากรอาศัยอยู่มากถึง 420,000 คนอีกด้วย 

 

ซึ่งจุดเด่นของเมืองที่อยู่ที่บริเวณย่านท่าเรือ Bryggen (บรีเก็น) ซึ่งได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลกจาก UNESCO บริเวณนี้เพื่อนๆ จะได้เห็นอาหารไม้ สีสันหลากสี ที่มีสถาปัตยกรรมสไตล์มรดก Hanseatic แบบดั้งเดิม ทั้งหมด 62 อาคารด้วยกัน โดยในบริเวณนี้ยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ และ ร้านขายของฝากงานฝีมือมากมายอีกด้วย

 

7. หมู่บ้านชาวประมง Reine หมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) 

 

เที่ยวนอร์เวย์

 

ที่เที่ยวนอร์เวย์แห่งนี้ เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่ได้รับการยกย่องจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ว่าเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่มีความงดงามมากที่สุดในโลก หมู่บ้าน Reine ส่วนหนึ่งของหมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงออสโลไปประมาณ 1,300 กิโลเมตร ตัวหมู่บ้านรายล้อมไปด้วยเทือกเขา และ ฟยอร์ด จำนวนมาก   

 

ซึ่งนอกจากวิวธรรมชาติที่งดงามแล้ว เสน่ห์ของหมู่บ้านแห่งนี้ คือ ความเงียบสงบ และ วิถีชีวิตของชาวประมงที่อาศัยในหมู่บ้านแห่งนี้ด้วยความเรียบง่าย เสมือนเป็นเมืองแห่งความลับที่ถูกซ้อนจากโลกที่แสนวุ่นวายอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งแม้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะมีประชากรเพียงแค่ 300 คน แต่ปลาค็อดตากแห้งที่ชาวประมงได้นำมาตากแห้งนี่เอง กลับเป็นผลิตภัณฑ์ส่งออกชิ้นสำคัญของประเทศนอร์เวย์ก็ว่าได้

 

8. มหาวิหารนิดารอส (Nidaros Cathedral)

 

เที่ยวนอร์เวย์

 

พักเบรกจากสถานที่ท่องเที่ยวนอร์เวย์ทางธรรมชาติมาดูสถานที่ท่องเที่ยวทางสถาปัตยกรรม และ ประวัติศาสตร์กันบ้าง อย่างที่ มหาวิหารนิดารอส (Nidaros Cathedral) ซึ่งเป็นโบสถ์มหาวิหารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศนอร์เวย์ และ ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย ตั้งอยู่ที่เมือง Trondheim ความโดดเด่นของมหาวิหารแห่งนี้ คือ สถาปัตยกรรมแนวโกธิค ด้านนอกนี้ยังมีผลงานการแกะสลักลวดลายอันวิจิตรตระการตา ซึ่งสถานที่แห่งนี้ เป็นที่ที่พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ของนอร์เวย์ เดินทางมาจัดพิธีบรมราชาภิเษกอีกด้วย นอกจากตัวโบสถ์ที่สวยงามแล้ว ด้านนอกยังรายล้อมไปด้วยสวนหย่อมสีเขียวขจี ให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อนกันได้อย่างสบายใจ 

 

9. อุทยานแห่งชาติรอนแดน (Rondane National Park)

 

เที่ยวนอร์เวย์

 

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวนอร์เวย์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามทางธรรมชาติแล้วจะไม่เดินทางมาเยี่ยมชมอุทยานคงจะเหมือนมาไม่ถึง โดยที่นอร์เวย์มีอุทยานแห่งชาติที่งดงามมากมาย แต่อุทยานแห่งชาติรอนแดน (Rondane National Park) นี่เอง เป็นอุทยานแห่งชาติของนอร์เวย์ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นอุทยานแห่งแรกของประเทศนอร์เวย์ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1962 ซึ่งในสมัยก่อนดินแดนแห่งนี้ เต็มไปด้วยกวางหลากหลายสายพันธุ์ เป็นจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ศิลปิน และ นักเขียนมากมาย

 

เที่ยวนอร์เวย์

ในปัจจุบัน อุทยานแห่งนี้มีลักษณะเป็นพื้นที่ราบบนเขาสูง รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่งดงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าผา ธารน้ำแข็ง น้ำตก และ วิวของทะเลสาบรอนดวัทเนทที่สวยงาม นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่อยู่ของสัตว์ป่านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นกระต่าย สุนัขจิ้งจอก กวางเรนเดียร์   และ อีกมากมาย ด้วยเหตุนี้อุทยานแห่งนี้ จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวนอร์เวย์ที่ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวผจญภัย  

 

10. สวาลบาร์ด (Svalbard) 

  เที่ยวนอร์เวย์

 

ปิดท้ายกันด้วยการท่องเที่ยวนอร์เวย์สำหรับสายลุย กับการล่องทะเลอาร์กติก ตามหาหมีขั้วโลกเหนือด้วยการมุ่งหน้าสู่เกาะสวาลบาร์ด (Svalbard) ซึ่งเป็นเกาะสุดเขตของนอร์เวย์ และ ใกล้กับขั้วโลกเหนือมากที่สุดเพียงแค่ 1,309 กิโลเมตรเท่านั้น  

เที่ยวนอร์เวย์

 

ซึ่งจริงๆแล้วที่เกาะสวาลบาร์ด (Svalbard) มีภูมิประเทศเป็นหมู่เกาะ ประกอบไปด้วยหมู่เกาะมากมาย โดยมีหมู่เกาะหลักๆ อยู่ 2 เกาะ ได้แก่ เกาะ Spitsbergen และ เกาะ Nordaustlandet แต่เมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่นั้น มีแค่มี 3 เมืองเท่านั้น ซึ่งการท่องเที่ยวนอร์เวย์ที่เมืองนี้ นักท่องเที่ยวจะนิยมทำกิจกรรมล่องเรือเพื่อตามหาสัตว์ขั้วโลกเหนือ โดยจะร้องเรือไปตามฟยอร์ดที่ชื่อว่า Isfjorden ไปที่ทางตอนใต้ของเกาะ สวาลบาร์ด (Svalbard) ถึงอ่าว Hoursund ซึ่งหากอากาศดี และ โชคดีหน่อย คุณอาจจะได้เจอกับหมีขั้วโลกบริเวณนี้

 

คำถามที่พบบ่อย เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเที่ยวนอร์เวย์

หลังจากที่เราได้พิกัดสถานที่ท่องเที่ยวนอร์เวย์มาแล้ว สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่กำลังวางแผนท่องเที่ยวนอร์เวย์ 2566 ปีนี้ หรือ นักท่องเที่ยวคนไหนที่แพลนจะไปเที่ยวนอร์เวย์คนเดียว วันนี้ ARTRALUX รวบรวมข้อมูลที่นักท่องเที่ยวต้องทราบก่อนเดินทางไปนอร์เวย์มาฝาก ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย! 

 

Q.1 : สภาพอากาศของประเทศนอร์เวย์ 

เนื่องจากประเทศนอร์เวย์ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของทวีปยุโรป ทำให้ภูเขากว่าครึ่งของประเทศถูกปกคลุมไปด้วยหิมะตลอดทั้งปี ในบริเวณพื้นที่ชายฝั่งจะมีอากาศที่เย็นสบาย ในขณะที่พื้นที่ให้ประเทศจะมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นกว่า อย่างไรก็ตามเหมือนกับประเทศอื่นๆ ประเทศนอร์เวย์มีทั้งหมด 4 ฤดูกาลดังนี้

เที่ยวนอร์เวย์

 

  • ฤดูใบไม้ผลิ : อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ 1 ถึง 16 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศในประเทศนอร์เวย์เริ่มอุ่นขึ้นหลังจากที่หิมะได้ละลาย ซึ่งการละลายของหิมะได้สร้างปรากฏการณ์น้ำตกขนาดเล็กตามพื้นที่ต่างๆ ของประเทศนอร์เวย์ได้อีกด้วย ซึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยม คือ การล่องเรือที่ฟยอร์ด ‘ฮาร์ดังเกอร์ฟยอร์ด (Hardangerfjord)’ ซึ่งขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในฤดูใบไม้ผลิ นอกจากนี้ การนั่งชมวิวธรรมชาติตามทางรถไฟสายฟลัมสบานา (Flåmsbana) ก็เป็นอีกทางเลือกในการเที่ยวนอร์เวย์ในฤดูใบไม้ผลิ 

  

  • ฤดูร้อน : อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ 17 ถึง 28 องศาเซลเซียส และจะคงที่อยู่อย่างนี้ตลอดทั้งฤดู ซึ่งกิจกรรมที่นิยมทำกันในฤดูร้อนของการเที่ยวนอร์เวย์ คือ การเดินทางไปชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนที่ นอร์ธ เคปป์  (North Cape) ซึ่งช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นตลอดทั้งวัน จะอยู่ระหว่างเดือนมิถุนายน – สิงหาคม ของทุกปี


  • ฤดูใบไม้ร่วง : อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ 0-18 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นสภาพอากาศที่ไม่หนาวเย็นจนเกินไป ซึ่งถ้าถามว่าเที่ยวนอร์เวย์ช่วงไหนดี สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการดื่มด่ำกับความสวยงามทางธรรมชาติ แนะนำเป็นเที่ยวนอร์เวย์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ตั้งแต่เดือนกันยายน-พฤศจิกายน เพราะในช่วงนี้จะได้เห็นปรากฏการณ์ใบไม้เปลี่ยนสีอย่างสวยงามและเหลืองอร่ามไปทั่วทั้งประเทศ


  • ฤดูหนาว  :  อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ -25 ถึง 0 องศาเซลเซียส ซึ่งบอกได้เลยว่าหากมาเที่ยวนอร์เวย์หน้าหนาว ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาด คือ การเล่นกิจกรรมลานสกีน้ำแข็งธรรมกลางธรรมชาติที่งดงาม ซึ่งลานสกีเหล่านี้ เกิดจากการที่ฟยอร์ดต่างๆ ได้กลายเป็นลานน้ำแข็ง  

  

Q.2 : เที่ยวนอร์เวย์ช่วงไหนดี ที่มีอากาศดี และ วิวสวยที่สุด 

 

เที่ยวนอร์เวย์

 

คำถามที่ว่าเที่ยวนอร์เวย์ช่วงไหนดี จริงๆ แล้วขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล อย่างไรก็ตามช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวนอร์เวย์มากที่สุด คือในช่วงฤดูหนาว ในช่วงเดือน กันยายน-ตุลาคม และ มีนาคม-เมษายน เนื่องจากเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวจะสามารถพบเจอกับแสงเหนือ (Northern Lights) ได้ในคืนที่ฟ้าปลอดโปร่ง 

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากเที่ยวนอร์เวย์ด้วยตัวเองแบบ On Budget ทางเราแนะนำให้ไปเที่ยวนอร์เวย์ในช่วงต้นเดือน พฤษภาคม และ ต้นเดือน มิถุนายน เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วง Low Season ของนอร์เวย์ ค่าตั๋วเครื่องบิน และ ค่าโรงแรมจึงมีราคาที่ถูกกว่า 

 

Q.3 : เที่ยวนอร์เวย์ งบเท่าไรดี 

เที่ยวนอร์เวย์งบเท่าไรดี เป็นคำถามยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนไปเที่ยวนอร์เวย์ 2566 ซึ่งจริงๆ แล้ว งบประมาณการท่องเที่ยวขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของแต่ละคน 

 

สำหรับการท่องเที่ยวนอร์เวย์คนเดียว 1 อาทิตย์ ผู้เดินทางควรเตรียมเงินไปจำนวนไม่ต่ำกว่า 50,000 – 70,000 บาทไทย (ไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน และ ที่พัก) เพราะค่าใช้จ่ายอย่างประหยัด สำหรับการท่องเที่ยวนอร์เวย์คนเดียวจะอยู่ที่ 5,500 บาทต่อวัน นั่นเอง  

 

Q. 4 ระบบขนส่งสาธารณะในประเทศนอร์เวย์ 

ระบบขนส่งสาธารณะของประเทศนอร์เวย์ค่อนข้างสะดวกสบาย เพราะมีตัวเลือกให้นักท่องเที่ยวได้ใช้บริการหลากหลาย โดยในเมืองใหญ่ เช่น เมืองออสไล, เบอร์เกน และ ทรอนด์ไฮม์ จะมีทั้ง รถบัส (Bus), รถไฟ (Train), รถราง (Tram) และ แท็กซี่ (Taxi) ซึ่งรถบัส และ รถราง จะออกเดินทาง ในทุกๆ 10-15 นาที ขึ้นอยู่กับเส้นทาง และ ช่วงเวลาของวัน ซึ่งการซื้อตั๋วก็ไม่ยาก โดยนักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วได้ทางช่องทางออนไลน์ (NSB Website

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากระบบขนส่งสาธารณะของประเทศนอร์เวย์ค่อนข้างแพง ดังนั้นเราแนะนำให้คุณเดินทางด้วยบริการการเช่ารถยนต์ส่วนตัวแทน เพราะถนนของประเทศนอร์เวย์ ขับรถค่อนข้างง่าย และ ปลอดภัยนั่นเอง 

 

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวนอร์เวย์ 2566 แต่ยังไม่ได้เริ่มวางแผนการเดินทาง หรือ เตรียมตัวใดๆ ไม่ต้องกังวล เพราะ ARTRALUX เรามาพร้อมกับบริการจัดกรุ๊ปทัวร์ส่วนตัว และ บริการวางแผนการเดินทาง ที่ต่างสามารถรังสรรค์เส้นทางการเดินทางได้อย่างที่คุณต้องการ ซึ่งไม่ว่าคุณอยากจะไปเที่ยวเมืองไหนของประเทศนอร์เวย์ ไปกี่วัน พักที่ไหน และ ไปเล่นกิจกรรมอะไร ทาง ARTRALUX สามารถรังสรรค์ประสบการณ์การท่องเที่ยวอย่างที่คุณต้องการได้อย่างไม่มีข้อแม้  

 

สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)

📞 | 02-047-0083

💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยวเพิ่มเพื่อน

 

SHARES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า