เที่ยวโอซาก้า เป็นแพลนเดินทางเที่ยวแรก ๆ ที่เรามักคุ้นเคยกันเมื่ออยากเดินทางไปญี่ปุ่น เนื่องจากโอซาก้าเป็นเมืองที่เที่ยวง่าย มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ จองที่พักง่าย เดินทางสะดวก และมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว หากใครที่ไม่เคยเดินทางไปทัวร์ญี่ปุ่นมาก่อน และอยากเริ่มต้นเที่ยวญี่ปุ่นง่าย ๆ เราขอแนะนำทัวร์ญี่ปุ่นครั้งแรกของคุณกับการเดินทางไปเที่ยวโอซาก้ากันเลย
ขอพาทุกท่านบินลัดฟ้าเดินทางมาเที่ยวโอซาก้า เมืองที่มีขนาดใหญ่และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอันดับสองของประเทศญี่ปุ่นรองจากโตเกียว และเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในเขตคันไซ โอซาก้าเป็นเมืองที่หล่อหลอมด้านวัฒนธรรมและความทันสมัยเข้ากันได้อย่างลงตัว เมื่อคุณมาเที่ยวโอซาก้าคุณจะตื่นตระการตากับสีสันของเมืองที่มีชีวิตชีวา ร้านอาหารรสเลิศ และสถานที่ทาง
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
ประวัติศาสตร์ที่ยังคงหลงเหลือรูปแบบทางวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเอาไว้ หากคุณต้องการช้อปปิ้งหรือเดินชมแสงสี คุณสามารถเดินทางเข้าสู่ย่านใจกลางเมือง ซึ่งจะมีย่านการค้าและห้างมามากมายให้คุณช้อปปิ้ง แต่ถ้าคุณต้องการสัมผัสกับความเป็นญี่ปุ่นแท้ ๆ จะมีวัดและศาลเจ้าให้คุณได้เที่ยว หรือจะเลือกเดินทางไปเที่ยวเมืองเกียวโตที่อยู่ใกล้ ๆ ได้เช่นกัน สรุปแล้วโอซาก้าเป็นเมืองที่เที่ยวได้ครบทุกอรรถรส เหมาะกับการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ จึงไม่แปลกใจที่โอซาก้านั้นเป็นจุดหมายแรก ๆ ที่คนไทยล้วนเดินทางมาเที่ยวกัน
เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกท่านเดินทางเที่ยวโอซาก้าได้ครบทุกอรรถรส จากครั้งที่แล้วที่เราเคยได้แนะนำ ที่เที่ยวโอซาก้า 2023 วันนี้เราขอคัดเลือก 10 สถานที่เที่ยวโอซาก้า 2024 แบบคละสไตล์มาให้ครบทุกรูปแบบ มาให้ดังต่อไปนี้ บอกเลยว่าจัดเต็มมากกว่าเดิม เที่ยวได้สนุกขึ้น เที่ยวได้ทุกสายแน่นอน จะเดินทางไปเที่ยวคนเดียวก็ดีหรือจะเดินทางไปเที่ยวเป็นกลุ่มก็เหมาะสมเช่นกัน
1. ปราสาทโอซาก้า Osaka Castle
ขอเริ่มต้นสถานที่ท่องเที่ยวโอซาก้าแห่งแรกกับปราสาทโอซาก้า สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองโอซาก้ามาเป็นเวลานาน ปราสาทโอซาก้านั้นขึ้นชื่อว่าเป็นปราสาทที่มีความยิ่งใหญ่และสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น โดยมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นยุคโบราณ เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ด้านวัฒนธรรมอันสำคัญอีกหนึ่งแห่งของประเทศเลยก็ว่าได้ คนไทยที่ไปเที่ยวโอซาก้ามักจะแวะมาเที่ยวชมปราสาทโอซาก้าเป็นแห่งแรก ๆ เนื่องจากตัวปราสาทตั้งอยู่ใจกลางเมืองจึงเดินทางง่าย มีจุดให้คุณถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย อีกทั้งยังได้ซึมซับกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมญี่ปุ่นยุคโบราณโดยตรง
ปราสาทโอซาก้าสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1583 โดย โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ บุคคลสำคัญทางหน้าประวัติศาสตร์ในยุคเซ็งโงคุ เพื่อเป็นฐานที่มั่นสำคัญในการขยายอำนาจ ซึ่งตัวปราสาทยังตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการบริหารจัดการด้านทหารและการปกครองในยุคนั้นด้วย ในเวลาต่อมาตระกูลโทโยโทมิได้เสื่อมอำนาจลง ทางโชกุนโทกุกาวะ อิเอยาสึ จึงได้ยึดปราสาทแห่งนี้เรื่อยมา
ตลอดระยะเวลาหลายร้อยปี ตัวปราสาทโอซาก้าได้เริ่มทรุดโทรมตามกาลเวลา รวมถึงได้รับความเสียหายจากภาวะสงครามและความขัดแย้งต่าง ๆ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1931 จึงได้มีการบูรณะตัวปราสาทขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็ถูกทำลายอีกในช่วงภาวะสงครามโลก จนเวลาผ่านไปจนถึงปี ค.ศ. 1995 ทางรัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้บูรณะปราสาทอีกครั้ง โดยยังคงรูปแบบสถาปัตยกรรมเดิม แต่เพิ่มเติมเทคนิคการก่อสร้างแบบสมัยใหม่เข้ามาเติมแต่งในบางจุด หรืออาจกล่าวได้ว่าตัวปราสาทที่คนมาเที่ยวโอซาก้าเห็นกันทุกวันนี้คือของสร้างใหม่ที่เสมือนของเดิมนั่นเอง
สำหรับปราสาทโอซาก้านั้นมีพื้นที่ทั้งหมด 8 ชั้น ชั้นใต้ดิน 3 ชั้น และบนดินอีก 5 ชั้น ภายในได้รับการดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ รวมถึงมีการจัดแสดงวัตถุโบราณอีกมากมาย ซึ่งไฮไลท์จะอยู่ที่ชั้นบนสุดโดยจะเป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศา นอกจากตัวปราสาทแล้วบริเวณโดยรอบยังมีสวนนิชิโนะมารุ ซึ่งจะมีต้นซากุระกว่า 300 ต้น ต้นบ๊วย และต้นไม้อื่น ๆ หลากสายพันธุ์ จึงนับเป็นจุดชมดอกไม้ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งที่คนมาเที่ยวโอซาก้าต้องแวะมาชม
หากคุณเดินทางไปเที่ยวโอซาก้าและต้องการมาชมความมหัศจรรย์ของปราสาทแห่งนี้ แนะนำให้นั่งรถไฟมาลงที่สถานีโอซาก้าโจโคเอ็น (Osakajo-koen) แล้วเดินต่ออีกเล็กน้อย โดยปราสาทจะเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9:00-17:00 น. มีค่าเข้าคนละ 600 เยน
2. วัดชิเทนโนจิ (Shitenno-ji Temple)
ขอเอาในคนสายมูที่เดินทางมาเที่ยวโอซาก้ากันบ้าง กับวัดชิเทนโนจิ ศาสนสถานเก่าแก่อันสำคัญที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 6 วัดแห่งนี้สร้างขึ้นโดยเจ้าชายโชโตกุ บุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้านการส่งเสริมพุทธศาสนาในญี่ปุ่น วัดชิเทนโนจิจึงนับเป็นศูนย์กลางทางศาสนามาตั้งแต่ยุคนั้น โดยเป็นทั้งแหล่งปฏิบัติธรรมและเผยแพร่คำสอนทางศาสนา
หากคุณเดินทางมาเที่ยวโอซาก้าแล้วอยากสัมผัสกับกลิ่นอายความเป็นวัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณ เราแนะนำให้มาเที่ยววัดชิเทนโนจิแห่งนี้ เนื่องจากวัดชิเทนโนจินั้นมีสถาปัตยกรรมอันสวยงามตามรูปแบบของญี่ปุ่นยุคโบราณ มีการใช้สีตกแต่งโทนสีขาว-แดง สะดุดสายตา ทั้งนี้ตัววัดที่เราเห็นนั้นถูกสร้างขึ้นใหม่แทนของเดิมที่พังทลายไป แต่รูปทรงทางสถาปัตยกรรมยังคงเสมือนเดิมไว้ได้มากที่สุด สำหรับภายในวัดมีสถานที่ไฮไลท์มากมายได้แก่
ศาลาทอง (คอนโดะ) เป็นอารามอันงดงามในรูปแบบยุคสมัยอาสุกะ ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นศูนย์กลางของวัดแห่งนี้
เจดีย์โบราณ 5 ชั้น ตั้งอยู่ใกล้กับอารามทองคำ ตัวเจดีย์มีรูปลักษณ์สวยงาม ทำโครงสร้างเป็นชั้น ๆ ซ้อนกัน อย่างประณีต สะท้อนให้เห็นถึงคติภูมิจักรวาลตามความเชื่อของศาสนาพุทธ
สวนโกคุราคุ-โจโดะ สวนหย่อมรอบวัด มีการจัดแต่งให้ดูร่มรื่นตามธรรมชาติ มีทั้งสระน้ำ ต้นไม้หลากสายพันธุ์ และสะพานหิน เพื่อสร้างบรรยากาศอันแสนสงบ เหมาะต่อการทำสมาธิ
สำหรับการเดินทางมาเที่ยววัดแห่งนี้ ผู้ที่แวะมาเที่ยวโอซาก้าทุกท่านสามารถนั่งรถไฟสาย Tanimachi Line แล้วมาลงสถานี Shitennojimae-yuhigaoka Station หรือเดินทางด้วย JR สาย Osaka Loop Line เพื่อมาลงสถานี Tennoji Station ก็ได้เช่นกัน โดยวัดจะเปิดให้เข้าชมเวลา 8:30 – 16:30 น. มีค่าเข้าชมทั้งสิ้น 300 เยน
3. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้าไคยูคัง (Osaka Aquarium Kaiyukan)
หากคุณต้องการสัมผัสความมหัศจรรย์ของโลกใต้น้ำ บอกเลยว่าคุณจะได้รับเมื่อมาเที่ยวโอซาก้า เพราะที่นี่มีอควาเรียมชื่อดังระดับโลกอย่างโอซาก้าไคยูคัง อีกทั้งยังเป็นอวาเรียมที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งบอกเลยว่าดีกว่าอวาเรียมบ้านเราหลายเท่านัก เมื่อคุณก้าวเท้าเข้าไปจะพบกับสัตว์ทะเลมากมายหลายสายพันธุ์อันน่าตื่นตาตื่นใจ สำหรับใครที่ชื่นชอบในโลกใต้ทะเลต้องมาเยือนที่นี่
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณอ่าวโอซาก้า การออกแบบภายในจะมอบประสบการณ์ให้คุณรู้สึกตื่นเต้นไปกับการสำรวจโลกใต้ท้องทะเลจากพื้นผิวน้ำตื้นไปสู่ความพิศวงของห้วงทะเลลึก ซึ่งจะมีโซนมากมายได้แก่
- อควอเกท อุโมงค์ใต้ทะเลที่ให้คุณเดินเข้าไปชมสัตว์น้ำแบบใกล้ชิด
- โซนป่าฝนญี่ปุ่น ที่จะจำลองพื้นที่ป่า ซึ่งเป็นต้นน้ำก่อนไหลลงสู่ทะเล
- โซนหมู่เกาะอลูเชียน อาณาเขตทะเลภูมิอากาศหนาวเย็น
- โซนอ่าวมอนเทอเรย์ จัดแสดงแมวน้ำและสิงโตทะเล
- โซนป่าฝนเขตร้อนเอกวาดอร์ จัดแสดงปลาน้ำจืดในลุ่มน้ำอเมซอน โดยมีปลาอะไพราม่า ปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดเป็นไฮไลท์
- โซนทวีปแอนตาร์กติกา จัดแสดงเพนกวินจักรพรรดิ์
- โซนทะเลทัสมัน จัดแสดงปลาโลมา
- โซนเกรตแบร์ริเออร์รีฟ จัดแสดงสัตว์น้ำแถบปะการัง เกรตแบร์ริเออร์รีฟ
- โซนมหาสมุทรแปซิฟิก ไฮไลท์ของอควาเรียมแห่งนี้ เพราะมีตู้แทงค์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจะมีฉลามวาฬ และสัตว์ทะเลอีกมากมายหลายชนิด
- โซนสัตว์ทะเลน้ำลึก ที่จะจัดแสดงปลาแปลก ๆ มากมาย
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้าไคยูคังนั้นมอบความมหัศจรรย์ที่เหนือชั้นกว่าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทั่วไป ผู้ที่เดินทางมาเที่ยวโอซาก้าแล้วสนใจอยากเข้าชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอซาก้าไคยูคัง สามารถนั่งรถไฟ Osaka Metro สาย Chuo ไปลงที่สถานี Osakako โดยพิพิธภัณฑ์จะเปิดให้บริการ เวลา 10:00-20:00
4. ย่านโดทงโบริ (Dotonbori District)
100 ทั้ง 100 หากใครที่มาเที่ยวโอซาก้า ต้องมาถ่ายรูปเช็กอินที่ย่านโดทงโบริแห่งนี้ ไม่เช่นนั้นเขาจะว่าเดินทางมาไม่ถึงโอซาก้า เพราะที่นี่เป็นย่านช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่มีร้านค้ามากมาย พอตกค่ำแสงไฟจากหน้าร้านก็จะส่องสว่างไสว ให้บรรยากาศของความเจริญบนสีสันแห่งยามค่ำคืน ซึ่งจุดไฮไลท์ที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของย่านแห่งนี้ก็คือป้ายไฟกูลิโกะ ที่ไม่ว่าใครก็ต้องแวะมาถ่ายรูปกับป้ายไฟแห่งนี้
โดทงโบริตั้งอยู่ในย่านนัมบะ ใจกลางโอซาก้า เป็นย่านการค้าที่โดดเด่นและมีชีวิตชีวาที่สุดในโอซาก้า อัดแน่นไปด้วยร้านค้า สถานบันเทิง และร้านอาหารชั้นนำมากมาย เหมาะกับผู้ที่มาเที่ยวโอซาก้าแล้วต้องการเดินชมแสงสียามค่ำคืนพร้อมช้อปปิ้งของติดไม้ติดมือกลับบ้าน ผู้ที่แวะมาย่านแห่งนี้จะมีกิจกรรมไฮไลท์ที่น่าทำได้แก่
- ตะลอนเดินเล่นชมบรรยากาศความเจริญ จะสภาพพื้นที่จะเป็นร้านค้าและถนนเลียบคลองซึ่งเหมาะกับการเดินเล่นชิล ๆ สัมผัสบรรยากาศสุดตระการตา เมื่อแสงไฟนีออนสะท้อนกับผิวน้ำ ก็จะทำให้เกิดความสวยงามขึ้นไปอีก เหมาะกับการถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง
- ถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะรันนิ่งแมน ซึ่งเป็นป้ายนีออนเอาเก่าแก่มาอย่างยาวนาน และเป็นแลนด์มาร์กขึ้นชื่อของโอซาก้า ผู้ที่เดินทางมาเที่ยวโอซาก้ามักจะแวะมาถ่ายรูปที่นี่
- โรงละครโชจิกุซะ เป็นหนึ่งในโรงละครอันเก่าแก่ของโอซาก้า นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการแสดงแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม เช่น ละครคาบุกิ เป็นต้น
- ตะลอนชิมร้านอาหารชั้นนำ ซึ่งจะมีอาหารญี่ปุ่นรสเลิศให้คุณเลือกทานมากมาย เช่น ทาโกะยากิม โอโคโนมิยากิม คุชิคัตสึ ฯลฯ แต่ไฮไลท์ของที่นี่คงหนีไม่พ้น ร้านคานิ โดราคุ ร้านซีฟู้ดอันโด่งดัง ที่หน้าร้านมีการทำตัวปูยักษ์ที่เคลื่อนไหวได้ ส่วนอีกร้านที่เราแนะนำก็คือ อิจิรัน ราเมน สาขาโอซาก้า ซึ่งเป็นร้านราเมนอันโด่งดังที่คนไทยมักแวะไปทาน หากเท่านี้ยังไม่พอยังมีตรอกโฮเซ็นจิโยโกโจ ที่จะมีร้านญี่ปุ่นสไตล์อิซากะยะมากมายให้คุณเลือกทาน
- ช้อปปิ้ง ย่านแห่งนี้นับเป็นสวรรค์ของเหล่านักช้อปด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีร้านค้าสไตล์บูติก ห้างสรรพสินค้า และร้านแฟชันทันสมัยมากมาย
- ล่องเรือแม่น้ำโดทงโบริ เปิดประสบการณ์สุดแปลกใหม่กับการนั่งเรือชมความงดงามของย่านโดทงโบริแบบสบาย ๆ เพื่อชมแสงสีสันสวยงามในมุมมองที่แตกต่างออกไป
ข้อดีของย่านแห่งนี้คืออยู่ใจกลางเมืองจึงเดินทางสะดวก สำหรับใครที่จะเดินทางมาเที่ยวโอซาก้าและอยากแวะมาถ่ายรูปสวย ๆ ที่ย่านโดทงโบริแห่งนี้ แนะนำให้เดินทางด้วยรถไฟซึ่งจะสะดวกที่สุด โดยจะมีสายรถไฟมากมายหลายสายที่นำคุณมาถึงที่นี่ ได้แก่ Nankai Honsen Line ลงสถานี Namba Station, สาย Sennichimae Line ลงสถานี Nihombashi Station
5. สวนสนุกยูนิเวอร์แซลสตูดิโอ (Universal Studios Osaka)
รู้หรือไม่ว่าการเดินทางมาเที่ยวโอซาก้าคุณจะได้เพลิดเพลินกับเครื่องเล่นสุดมันเร้าใจด้วย เพราะโอซาก้าแห่งนี้เป็นที่ตั้งของสวนสนุกยูนิเวอร์แซลสตูดิโอสาขาโอซาก้านั่นเอง ยูนิเวอร์เซลสตูดิโอ เป็นสวนสนุกชื่อดังระดับโลกที่มีเครื่องเล่นตามธีมภาพยนตร์ใน Hollywood ด้วยการดีไซน์เครื่องเล่นที่ออกมาสนุกโดนใจผู้คน ทำให้หลายคนอยากลองมาเที่ยวกันดูสักครั้ง ทั้งนี้ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอนั้นมีสาขาหลายแห่งทั่วโลก ซึ่งที่โอซาก้านี้ก็เป็นจุดที่คนไทยมักนิยมมาเที่ยวมากที่สุด เพราะการจัดทริปมาเที่ยวโอซาก้าครั้งเดียวก็จะได้สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นพร้อมได้เที่ยวยูนิเวอร์แซลสตูดิโอไปในตัว
ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอโอซาก้าจะมีการแบ่งเครื่องเล่นเป็นโซนต่าง ๆ มากมาย โดยมีโซนไฮไลท์คือ
- โซนแฮร์รี่ พอตเตอร์ เครื่องเล่นยุคใหม่ในธีมโลกเวทมนตร์ตามภาพยนตร์ดัง ดื่มด่ำกับความมหัศจรรย์ผ่านปราสาทฮอกวอตส์ และเหล่าตัวละครที่คุ้นเคย แฟน ๆ แฮรี่พอตเตอร์ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
- มินเนี่ยนปาร์ค เครื่องเล่นตามธีมจากอเนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Despicable Me เติมเต็มความสดใสพร้อมเสียงหัวเราะจากเหล่าสหายมินเนี่ยน
- จูราสสิคพาร์ค เครื่องเล่นในธีมไดโนเสาร์จากเรื่องจูราสสิคพาร์ค มอบความตื่นเต้นและสนุกสนานจากการพบไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์
และยังมีโซนเครื่องเล่นอีกมากมายที่น่าสนใจ รวมถึงงานจัดแสดงตามธีมการ์ตูนดังตามฤดูกาล ซึ่งผู้ที่เดินทางมาเที่ยวโอซาก้าแล้วสนใจอยากแวะมายูนิเวอร์แซลสตูดิโอ สามารถเช็กรายละเอียดที่เว็บไซต์ Universal Studios Japan โดยตรง
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
6. ตึกอูเมดะสกาย (Umeda Sky Building)
หลังจากตะลอนเที่ยวโอซาก้ากันมาทั้งเมืองแล้ว เราขอนำทุกท่านไปพบกับแสงสีของโอซาก้าในมุมสูงกันบ้างกับตึกอุเมดะสกาย โดยตึกแห่งนี้เป็นอีกสถานที่ชมวิวยอดฮิตของโอซาก้า ที่ตั้งอยู่ย่านคิตะ/อุเมดะ ตึกดังกล่าวเป็นตึกแฝดประกอบด้วยอาคารสูง 40 ชั้น จำนวน 2 อาคารที่เชื่อมต่อกันที่ด้านบนสุด โดยตัวตึกนั้นมีความสูง 173 เมตร ซึ่งคุณสามารถขึ้นไปชมวิวได้ที่ชั้น 39, 40 และ ชั้นดาดฟ้า สำหรับการจากชั้น 35 ไปยังชั้น 39 จะมีบันไดเลื่อนลอยฟ้า ให้คุณได้ชมวิวโอซาก้าจากมุมสูงอย่างเต็มที่ และทั้งสองฝั่งของตึกอุเมดะจะถูกเชื่อมต่อกันที่ชั้น 40 ซึ่งเป็นที่ตั้งของสวนลอยฟ้าที่ชื่อว่า ‘Kuchu Teien Observatory’ หรือ สวนลอยฟ้า 360 องศา จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนโอซาก้า
อาคารอุเมดะสกายได้รับการออกแบบโดยฮิโรชิ ฮาระ สถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น ซึ่งคอนเซ็ปต์งานออกแบบนั้นจะเป็นอาคารแห่งอนาคตที่มีการออกแบบร่วมสมัย และผลงานก็ออกมามีความโดดเด่นจนได้รับคำชื่นชมในวงกว้าง ทำให้ตึกอูเมดะสกาย จึงเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของโอซาก้าสืบมา ไฮไลท์ของตึกแห่งนี้จะอยู่ที่สวนลอยฟ้าบนชั้นสูงสุดของตึก ซึ่งคุณสามารถชมวิวทิวทัศน์รอบเมืองพร้อมฉากหลังที่เป็นภูเขา ได้แบบพาโนราม่า เหมาะเดินถ่ายรูปชมวิวพร้อมรับลมเย็น ๆ สดชื่น และเมื่อมาชมวิวในยามค่ำคืนก็จะโรแมนติกเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ไฮไลท์ที่ดึงดูดคนมาเที่ยวโอซาก้าได้เป็นอย่างดี
นอกจากจุดชมวิวแล้ว ตึกอูเมดะสกายยังมีร้านอาหาร ร้านค้า โรงภาพยนตร์ และพื้นที่จัดนิทรรศการอีกมากมาย ผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวโอซาก้าสามารถมาที่ตึกแห่งนี้ได้สะดวก เนื่องจากมีทั้งรถบัสโดยสารและรถไฟฟ้าที่นำพาคุณมายังที่แห่งนี้
7. ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน (Tempozan Giant Ferris Wheel)
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่คนมาเที่ยวโอซาก้าต้องแวะมาคือชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน ชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่และสวยงามที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยตั้งโดดเด่นอยู่บริเวณอ่านโอซาก้าใกล้พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคังและหมู่บ้านท่าเรือเท็มโปซาน ผู้คนสามารถมองเห็นได้ระยะไกล หากได้ขึ้นชิงช้าสวรรค์เท็มโปซานแห่งนี้คุณจะดื่มด่ำกับวิวทิวทัศน์ของเมือง เห็นสถานที่สำคัญต่าง ๆ ภายในเมืองโอซาก้าแทบทั้งหมด รวมถึงเห็นวิวธรรมชาติที่อยู่ห่างจากเมืองออกไป ส่วนอีกด้านที่เป็นทะเลคุณก็จะมองเห็นเส้นขอบฟ้าที่ตัดกับน้ำทะเลบริเวณปากอ่าว ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่แตกต่างออกไป เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงของโอซาก้าเลยทีเดียว
ชิงช้าสวรรค์เท็มโปซาน มีขนาดสูงประมาณ 112 เมตร มีกระเช้าโดยสารมากถึง 60 กระเช้า โดยแต่ละห้องกระเช้าจะถูกดีไซน์ให้มีหน้าต่างขนาดใหญ่ จึงมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา ให้ผู้ชมจะได้เพลิดเพลินกับวิวขณะนั่งทัวร์ โครงสร้างของชิงช้าสวรรค์จะทาสีขาวทั้งหมดทำให้ดูโดดเด่นและมองเห็นจากที่ไกล ๆ ได้ชัดเจน เมื่อถึงเวลาค่ำคืน ไฟ LED ที่ประดับรอบชิงช้าสวรรค์ก็จะส่องสว่างขึ้นมาสะดุดตา เป็นแสงสีที่สวยงามเหมาะกับการถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง หากคุณมาเที่ยวโอซาก้าและได้ขึ้นชิงช้าในเวลากลางคืน ก็จะได้เห็นทิวทัศน์ของเมืองโอซาก้าที่แตกต่างกันออกไปจากตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง
หากคุณนั่งชิงช้าสวรรค์ชมเมืองจนอิ่มอกอิ่มใจแล้ว เราขอแนะนำให้ลองแวะมาเดินเล่นแถวอ่าวโอซาก้า ซึ่งจะคุณจะได้สัมผัสกับลมเย็น ๆ ของริมฝั่งทะเล พร้อมเดินช้อปปิ้งซื้อของในร้านค้าแถวตลาดเทมโปซาน เหมาะกับเป็นกิจกรรมชิล ๆ คลายความเหนื่อยล้าหลังจากเดินทางเที่ยวโอซาก้ามาทั้งวัน สำหรับการเดินทางมายังที่แห่งนี้ สามารถเดินทางมาง่าย ๆ ด้วยรถบัส รถไฟฟ้า หรือนั่งเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากมาจากยูนิเวอร์แซล สตูดิโอก็ได้เช่นกัน
8. หมู่บ้านอเมริกัน Amerika Mura
ถ้าที่เกาหลีมีฮงแด กรุงเทพมีสยาม แน่นอนว่าที่โอซาก้าก็ต้องเป็นย่าน ‘Amerikamura’ หรือ ย่านหมู่บ้านอเมริกัน ย่านนี้เป็นย่านนัดพบและสังสรรค์ของวัยรุ่นชาวโอซาก้า และเป็นสวรรค์ของเหล่านักช้อปที่มาเที่ยวโอซาก้าอีกด้วย โดยตัวย่านอยู่ไม่ไกลจากสถานี Shinsaibashi เท่าไร เดินทางมาเที่ยวง่าย ซึ่งคุณจะสัมผัสกับวัฒนธรรมของและวิถีชีวิตวัยรุ่นชาวโอซาก้าอย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังสามารถช้อปปิ้งซื้อของติดมือกลับไปเป็นที่ระลึก
เหตุผลที่ทำให้ย่านนี้ได้กลายเป็นจุดนัดเจอของชาวโอซาก้า เป็นเพราะว่าตัวย่านรายล้อมไปด้วยร้านค้าหลายสไตล์ คุณจะได้เจอทั้งร้านรูปแบบวินเทจที่มีกลิ่นอายต้นฉบับญี่ปุ่น, ร้านขายเสื้อผ้ามือสองสไตล์อเมริกัน รวมไปถึงร้านอาหารอิซากายะ สำหรับวัยทำงานที่ต้องการผ่อนคลายไปกับอาหารดั้งเดิม และ เบียร์คราฟเย็นชื่นใจหลังเลิกงาน ถึงแม้ว่าย่านนี้จะมีซอยที่ค่อนข้างเยอะ แต่คุณก็ไม่ต้องกลัวหลง เพราะคุณสามารถนัดเจอกับเพื่อน ๆ ได้ที่สวนสามเหลี่ยม (Sankaku Koen) ใจกลางย่าน ซึ่งเป็นมุมแลนด์มาร์กอันโด่งดังที่คนมาเที่ยวโอซาก้าต้องแวะมาเช็กอิน
9. ศาลเจ้าสุมิโยชิไทชะ (Sumiyoshi Taisha)
ขอนำทุกท่านไปเที่ยวโอซาก้าสไตล์สายมูกันอีกสักที่กับ ศาลเจ้าสุมิโยชิไทชะ โดยศาลเจ้าแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งศาลเจ้าชินโตอันเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นและเป็นที่เคารพบูชาของชาวเมืองมาอย่างยาวนาน สะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่มานานนับพันปี ศาลเจ้าแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่งดงาม รายล้อมด้วยธรรมชาติอันแสนเงียบสงบ มอบบรรยากาศที่อบอุ่นร่มรื่นจิตใจ เหมาะกับเป็นพื้นที่ให้คุณปลีกวิเวกมาพักผ่อนหย่อนใจ
ศาลเจ้าสุมิโยชิไทชะสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนที่พระพุทธศาสนาเข้ามาประเทศญี่ปุ่นเสียอีก ศาลแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเทพสุมิโยชิซันจิน กลุ่มเทพเจ้าสามองค์ที่ดูแลเรื่องการสัญจรเดินทางในท้องทะเลรวมถึงการประมง เหล่าพ่อค้าและชาวประมงจึงให้ความเคารพกับเทพสุมิโยชิซันจินเป็นอย่างมาก
สถานที่ไฮไลท์อันสำคัญของศาลเจ้าแห่งนี้อยู่ที่ สะพานโซริฮาชิ สะพานโค้งสีแดงที่พาดข้ามผ่านลำคลองเล็ก ๆ หากคุณมาในเที่ยวโอซาก้าช่วงสภาพอากาศดีก็จะเห็นเงาของสะพานที่สะท้อนบนผืนน้ำเหมือนกระจก ทำให้ดูเหมือนสะพานมีรูปร่างเป็นวงกลม ซึ่งเป็นภาพอันสวยงามเหมาะกับการถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง นอกจากสะพานโซริฮาชิแล้ว เราขอแนะนำให้คุณแวะไปที่ฮอนเด็น อารามหลักของศาลเจ้าที่มีรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ มีการยกพื้นสูงและหลังคาทรงปีกนก ซึ่งเป็นรูปแบบการก่อสร้างอาคารญี่ปุ่นยุคโบราณ รวมถึงยังมีสถานที่อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมายซึ่งจะให้กลิ่นอายของญี่ปุ่นยุคโบราณอย่างเด่นชัด เช่น สวนสุมิโยชิ, ซุ้มประตูโทริอิหน้าศาลเจ้า, หอสักการะของศาลเจ้า เป็นต้น
ผู้ที่เดินทางมาเที่ยวโอซาก้าสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นโบราณ ณ ศาลเจ้าสุมิโยชิไทชะได้ด้วยการนั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานี Sumiyoshi Taisha แล้วเดินต่ออีกเล็กน้อย หรือจะนั่งรถรางมาลงสถานี Sumiyoshi-Toriimae ก็ได้เช่นกัน
10. ตลาดคุโรมง (Kuromon Market)
ปิดท้ายทริปเที่ยวโอซาก้ากับย่านของกินชื่อดังอย่างตลาดคุโรมง โดยตลาดแห่งนี้เป็นตลาดปลาเก่าแก่ที่มีอายุนับร้อยปี มีสมญานามว่าเป็นครัวของโอซาก้า หากใครอยากทานอาหารทะเลสด ๆ ทานอาหารท้องถิ่นสดใหม่ หรืออยากเดินเล่นสัมผัสกับบรรยากาศอันแสนคึกคัก แนะนำว่าให้มาเดินตลาดแห่งนี้เลย
ย้อนเวลาไปเมื่อประมาณ 170 ปีก่อน เหล่าพ่อค้าท้องถิ่นได้มารวมตัวกันจับจองพื้นที่แห่งนี้เพื่อเปิดร้านค้าขายวัตถุดิบอาหาร ซึ่งคนท้องถิ่นต่างก็มาซื้อของ ณ ที่ตลาดแห่งนี้เพื่อไปทำอาหาร และเมื่อเวลาผ่านไปตลาดก็ได้ขยายตัวใหญ่ขึ้นจนกลายเป็นที่นิยมของชาวเมืองและนักท่องเที่ยวตามที่เห็นในปัจจุบัน ตลาดแห่งนี้มีชื่อเสียงด้านอาหารทะเลสดหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นปลา กุ้ง ปู หอย และสัตว์ทะเลอื่น ๆ ที่เพิ่งจับได้แบบสด ๆ รวมถึงมีผักผลไม้ที่ปลูกตามฤดูกาล และเครื่องเทศที่ใช้ในการปรุงอาหาร ซึ่งจะมีหลากหลายร้านค้าให้คุณเลือกจับจ่าย จึงเป็นที่ดึงดูดใจของผู้ที่มาเที่ยวโอซาก้าอย่างยิ่ง
นอกจากจะขายวัตถุดิบทำอาหารแล้ว ที่นี่ยังแผงลอยขายอาหารที่ปรุงสำเร็จให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองด้วยเช่นกัน นับว่าเป็นสวรรค์ของเหล่านักชิมอย่างแท้จริง หากคุณเดินทางมาเที่ยวโอซาก้า แนะนำว่าให้ลองเดินทางมาทานอาหารสักมื้อที่ตลาดคุโรมงแห่งนี้ โดยคุณสามารถเดินทางง่าย ๆ ด้วยการนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีนัมบะ แล้วเดินต่ออีกเล็กน้อย
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
ปิดท้ายนี้สำหรับคนที่สงสัยว่าเดินทางเที่ยวโอซาก้า เดือนไหนดี?
สำหรับใครที่กำลังวางแผนเที่ยวโอซาก้า 2024 เราแนะนำว่าให้เที่ยวโอซาก้า เกียวโต ในช่วงฤดูไม้ผลิตย่อมดีที่สุด (ช่วงเดือน มี.ค. – พ.ค.) เพราะอากาศกำลังดี เที่ยวสบาย หากมาได้ถูกจังหวะคุณจะได้พบกับดอกซากุระที่กำลังเบ่งบานอย่างเต็มที่ ซึ่งในโอซาก้านั้นก็จะมีจุดชมดอกซากุระบานให้เลือกหลากหลายที่ แต่ทั้งนี้ต้องรีบจองกันหน่อยเพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงไฮซีซัน มีคนเดินทางไปเที่ยวโอซาก้า เกียวโต ด้วยตัวเองเยอะ อาจจองโรงแรมที่พักลำบาก
แต่ทั้งนี้โอซาก้าก็ยังถือว่าเป็นเมืองที่เที่ยวได้ทุกช่วงเวลา เหมือนกับการเดินทางทัวร์ญี่ปุ่นในทุก ๆ เมือง เพราะในแต่ละช่วงจะมีความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์เสมอ แต่เราขอแนะนำว่าพยายามหลีกเลี่ยงการเที่ยวโอซาก้า ด้วยตัวเอง ในช่วงเดือนกันยายน – ตุลาคม เนื่องจากเป็นช่วงมรสุมที่พายุกำลังเข้าพอดี
หากคุณอยากเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวโอซาก้า 2024 อย่างเต็มที่ พร้อมดื่มด่ำกับวัฒนธรรมสไตล์คันไซ ศิลปะ และ ความเป็นอยู่แบบ Exclusive มากกว่าใคร ทางทีมงาน Artralux เรามีบริการสร้างสรรค์ทริปการเดินทางไปเที่ยวโอซาก้าแบบคัสตอม เพื่อตอบโจทย์ผู้ร่วมเดินทางอย่างแท้จริง ให้คุณมีความสุขกับการท่องเที่ยวมากที่สุด
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
