หากพูดถึงประเทศน่าท่องเที่ยวมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ ของโลกแล้ว หลายคนคงจะยกให้อิตาลีเป็นที่เที่ยวในดวงใจอย่างแน่นอน เพราะไม่เพียงแต่อิตาลีจะเป็น Unseen ยุโรปที่ครองใจเหล่านักท่องเที่ยวทั่วโลกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่อิตาลียังมีความน่าสนใจทั้งในด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ศิลปะ และสถาปัตยกรรม รวมไปถึงสถานที่เที่ยวอันสุดแสนคลาสสิกซึ่งเปรียบดั่งมนต์เสน่ห์แห่งการเดินทางอันแสนตราตรึงใจและยากจะลืมเลือน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากได้ไปเยือนทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งทะเลสาบที่สวยที่สุดในอิตาลีแล้วละก็ รับรองว่าคนเป็นที่ถูกใจนักท่องเที่ยวอย่างแน่นอน
ซึ่งในบทความนี้เองที่ Artralux ผู้นำด้านการท่องเที่ยว พร้อมบริการแบบครบวงจรต่างๆ เช่น รับยื่นวีซ่า วางแผนการเดินทาง รับจัดกรุ๊ปทัวร์ จะมาเจาะลึกเกี่ยวกับทะเลสาบโคโม่แบบละเอียดไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ความเป็นมา ไฮไลท์หรือกิจกรรมที่น่าสนใจ รวมถึงวิธีเดินทางไปทะเลสาบโคโม่ที่จะทำให้การเดินทางในครั้งนี้ของท่านสนุกสนานไม่มีเบื่อ
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
ประวัติของทะเลสาบโคโม่ (Lake Como)
สำหรับประวัติของทะเลสาบโคโม่ อิตาลี (Lake Como) คงต้องย้อนกลับไปนับตั้งแต่ช่วงเวลาก่อนประวัติศาสตร์ กล่าวคือ เมื่อประมาณหลายพันปีก่อนที่ทะเลสาบโคโม่ยังคงเป็นธารน้ำแข็งขนาดยักษ์ จากนั้นจึงเริ่มกลายเป็นที่อยู่อาศัยของชนชาติพื้นต่างๆ ก่อนที่จุดเปลี่ยนสำคัญจะมาถึงอย่างเหตุการณ์การยึดครองของจักรวรรโรมันที่ต้องการขยายดินแดนและอาณาเขตให้กว้างใหญ่ไพศาลมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งปี 1859 ภายหลังการเปลี่ยนผ่านการปกครองจากหลายประเทศและอาณาจักร สุดท้ายแล้วทะเลสาบโคโม่ก็ถูกนับเป็นส่วนหนึ่งของประเทศอิตาลี และปัจจุบันเป็นหนึ่งในทะเลสาบที่คนทั่วโลกยกย่องว่าอย่างเป็นเอกฉันท์ว่าสวยงามที่สุดในอิตาลี
นอกจากประวัติของทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) ที่มีความน่าสนใจแล้ว ลักษณะของทะเลสาบเองก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กันเลย โดยหลายคนคงสงสัยว่าทะเลสาบโคโม่อยู่ที่ไหนนั้น คำตอบก็คือ ทะเลสาบโคโม่ตั้งอยู่ในจังหวัดโคโม่ แคว้นลอมบาร์เดีย (Como, Lombardy) อันเป็นหนึ่งใน 20 แคว้นของอิตาลี ซึ่งทะเลสาบแห่งนี้นั้นตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอิตาลี มีจุดเด่นคือลักษณะรูปของของทะเลสาบที่คล้ายรูปตัว Y หัวคว่ำ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 146 ตารางกิโลเมตร ความยาวกว่า 47 กิโลเมตร และมีความลึกถึง 414 เมตร หรือ 1,358 ฟุต จึงทำให้ทะเลสาบโคโม่กลายเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของอิตาลีนั่นเอง
ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาทะเลสาบโคโม่ (Lake Como)
มาถึงส่วนสำคัญที่สุดในบทความนี้เลยก็ว่าได้สำหรับไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) เพราะทะเลสาบแห่งนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นจุดหมายปลายทางในฝัน (Travel Destination) ของใครหลายคนที่อยากมาสัมผัสเสน่ห์ความงามธรรมชาติเท่านั้น แต่ที่นี่ยังมีกิจกรรมต่างๆ มากมายให้บรรดานักท่องเที่ยวได้เข้าร่วมหรือทำกันด้วย ซึ่งเราได้คัดไฮไลท์ที่น่าสนใจแบบเน้นๆ มาฝากกัน ดังลิสต์รายการเหล่านี้
ล่องเรือชมวิวทิวทัศน์และเมือง
เชื่อหรือไม่ว่ากิจกรรมได้รับความนิยมมากที่สุดเป็นอันดับ 1 เมื่อมาถึงทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) ก็คือ กิจกรรมล่องเรือนั่นเอง โดยไฮไลท์ดังกล่าวนั้น ทางนักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ว่าจะโดยสารเรือประเภทไหน ซึ่งจะมีทั้งเรือสาธารณะ และเรือส่วนตัว โดยราคาขึ้นอยู่กับประเภทเรือ เส้นการเดินเรือ และความต้องการส่วนบุคคลด้วย แต่ส่วนใหญ่แล้ว ในการล่องเรือบนทะเลสาบโคโม่จะอาศัยเส้นทางเดินเรือหลัก 3 เส้นทาง คือ
- เมืองโคโม่-เมืองโคลิโค่ (Como-Colico) หนึ่งในเส้นเดินทางยอดฮิตด้วยการล่องเรือจากทางตอนใต้สู่ทางเหนือของอิตาลี ซึ่งตลอดเส้นการเดินทางเรือ จะสามารถมองเห็นความงามของธรรมชาติและเมืองต่างๆ ได้อย่างชัดเจน
- เมืองโคโม่-เมืองเบลลาจิโอ-เมืองเวเรนา-เมืองเมนากจิโอ (Como-Bellagio-Verena-Menaggio) เยือนที่เที่ยวอิตาลีอันเลื่องชื่อผ่าน 4 เมืองหลักอันแสนโด่งดังและเปี่ยมด้วยบรรยากาศสีสันของผู้คนในเมืองและสถานที่เที่ยวในแต่ละพื้นที่
- เมืองเลกโก-เมืองเบลลาจิโอ (Lekko-Bellagio) สัมผัสเมืองเก่าแก่แห่งอิตาลีก่อนล่องเรือต่อไปยังเมืองเจ้าของฉายา ไข่มุกแห่งทะเลสาบโคโม (Pearl of the lake)
สำหรับใครที่จะเดินทางมาเยือนทะเลสาบโคโม่ อิตาลี เพื่อล่องเรือเที่ยวชมวิวธรรมชาติสวยๆ อาจต้องวางแผนการเดินทางให้ก่อน โดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน (Summer) ที่เป็นช่วง High Season ซึ่งสามารถตรวจสอบข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากทางผู้ให้บริการเรือหรือผู้ช่วยวางแผนการเดินทางอย่างเช่น Artralux เป็นต้น
ปั่นจักรยานรับลมชมวิว พร้อมหามุมถ่ายรูปสวย
นอกจากกิจกรรมล่องเรือแล้ว ณ ชายฝั่งทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) เองก็เป็นหนึ่งในย่านเดินมีชื่อเสียงเช่นกัน เหมาะสำหรับคนที่อยากเดินทางเท้า หรืออาศัยการปั่นจักรยานเที่ยว พร้อมหามุมถ่ายรูปสวยๆ เพื่อเก็บเป็นความทรงจำของตนหรือคนพิเศษ โดยภายในเมืองโคโม่เองก็มีร้านให้บริการเช่าจักรยานอีกด้วย ซึ่งสามารถเลือกประเภท รุ่น และระยะเวลาใช้งานตามความต้องการในการเดินทางของแต่ละคน
ร่วมเวิร์กช็อปทำอาหารต้นกำเนิดของอิตาลี
หลายคนคงรู้ว่านอกจากอิตาลีจะขึ้นชื่อในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเช่น ทะเลสาบโคโม่ (Como Lake) แล้ว อาหารอิตาเลียนยังเป็นที่กล่าวถึงในด้านรสชาติอร่อยอีกด้วย โดยอาหารอิตาเลียนส่วนใหญ่นั้น จะให้ความสำคัญการวัตถุดิบในการประกอบอาหารอย่างมาก ตั้งแต่การเลือกเครื่องปรุงจนถึงวิธีการปรุง โดยหากได้มาเที่ยวที่อิตาลีโดยเฉพาะทะเลสาบโคโม่ จะสามารถพบกับแหล่งทำเวิร์กช็อปอิตาเลียนที่มีเมนูอาหารให้ทุกคนได้ลองเลือกฝึกอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น พาสต้าแบบดั้งเดิมจากโรม พิซซ่าสไตล์นโปลี และอาหารอิตาเลียนอื่นๆ อีกมากมาย
วิธีการเดินทางไปทะเลสาบโคโม่ (Lake Como)
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนคงสงสัยว่าจะมีวิธีเดินทางไปทะเลสาบโคโม่หรือไม่ อย่างไร ซึ่งการเดินทางนั้นไม่ยากอย่างที่คิด ก่อนอื่นให้ทำการนั่งเครื่องบินมาลงที่สนามบินในมิลาน จากนั้นแล้วให้ทำการขึ้นสถานีรถไฟกลางมิลาน (Milano Centrale Station) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟหลักของเมืองมิลานมายังสถานีโคโม่ ซานจีโอวานนี (Como San Giovanni Station) ณ เมืองโคโม่ แล้วหารถสาธารณะ หรือรถเช่าส่วนตัว เพื่อเดินทางต่อไปอีกประมาณ 50 กิโลเมตร ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 90 นาที เพื่อมาถึงทะเลสาบโคโม่
ทะเลสาบโคโม่ (Lake Como) เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวที่ถูกยกย่องให้เป็นทะเลสาบที่สวยที่สุดในอิตาลี ด้วยทะเลสาบแห่งนี้นั้นมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ประกอบกับมีไฮไลท์กิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการล่องเรือชมวิวทิวทัศน์และเมือง ปั่นจักรยานรับลมชมวิว พร้อมหามุมถ่ายรูปสวยๆ หรือร่วมเวิร์กช็อปทำอาหารต้นกำเนิดของอิตาลี และกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งหากสนใจหรือกำลังมองหาผู้ช่วยวางแผนการเดินทางไปยังอิตาลีเพื่อเยือนทะเลสาบโคโม่ สามารถติดต่อ Artralux เพื่อออกแบบทริปสุดพิเศษตามความต้องการของท่านได้เลย
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
