เมื่อพูดถึงประเทศสิงคโปร์ สิ่งแรกที่นักท่องเที่ยวหลายคนนึกถึง คงจะหนีไม่พ้น “เมอร์ไลออน (Merlion)” หรือ รูปปั้นสิงโตทะเล ลำตัวเป็นปลา ที่เราคุ้นเคยกันดี ทั้งนี้เนื่องจากเมอร์ไลออนนั้น เป็นสัญลักษณ์ประจำประเทศสิงคโปร์ อีกทั้งยังเป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องเดินทางไปถ่ายรูปกัน หากมีโอกาสได้มาที่เที่ยวสิงคโปร์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเมอร์ไลออนจะเป็นที่โด่งดังไปทั่วโลก แต่เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะทราบถึงเรื่องราวความเป็นมา ประวัติศาสตร์ และ ความคิดเบื้องหลังการออกแบบเจ้าเมอร์ไลออน ที่ทำให้รูปปั้นสิงโตทะเลตัวนี้ มีความสำคัญกับประเทศสิงคโปร์ และ เป็นมากกว่าแลนด์มาร์กเช็คอินถ่ายรูปของนักท่องเที่ยว
นอกจากเรื่องราวความเป็นมาแล้ว เชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายคนคิดว่ารูปปั้นเมอร์ไลออน มีแค่ที่เดียวคือที่สวนสาธารณะเมอร์ไลออน (Merlion Park) เท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว รูปปั้นเมอร์ไลออนที่ทางการสิงคโปร์รับรองนั้น มีด้วยกัน ถึง 5 ที่ วันนี้ Artralux บริษัททัวร์ท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศไทย ได้รวบรวมข้อมูลความเป็นมาของเมอร์ไลออน และ พิกัดที่ตั้งเมอร์ไลออนทั้ง 5 ที่ในประเทศสิงคโปร์มาฝาก ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไร และ เมอร์ไลออนนั้น ตั้งอยู่ที่ไหนบ้างกันบ้าง เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
ที่มาของเมอร์ไลออน (Merlion) แลนด์มาร์กสำคัญของสิงคโปร์
“เมอร์ไลออน (Merlion)” ที่หลายคนเรียกว่า “สิงโตสิงคโปร์” นั้น มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “Leoaquaticus singaporensis” ซึ่งแปลตรงตัวได้ว่า “สิงโตทะเลจากสิงคโปร์” ซึ่งเมอร์ไลออน เป็นสัญลักษณ์สิงคโปร์ ที่มีประวัติศาสตร์ และ เรื่องราวความเป็นมาที่ยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ 1964 (พ.ศ. 2507) ซึ่งวัตถุประสงค์ในการสร้างเมอร์ไลออน (Merlion) ขึ้นมานั้น ก็เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำประเทศสิงคโปร์ และเป็นการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยว หรือ ทำการค้าขายที่ประเทศสิงคโปร์
เมอร์ไลออน ประวัติ และ ความเป็นมา
ซึ่งก่อนที่จะมาเป็นรูปปั้นเมอร์ไลออนอันยิ่งใหญ่อย่างทุกวันนี้ เมอร์ไลออน์ มีประวัติ และ ความเป็นมาที่ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ก่อนที่ประเทศสิงคโปร์จะถูกค้นพบขึ้นซะอีก ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีบันทึกประวัติศาสตร์ของเมอร์ไลออนเก็บไว้เป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็มีตำนานเล่าขานต่อๆ กันมาหลายยุคสมัยว่า ในอดีตได้มีเจ้าชายแห่งเมืองพาเล็มบังของประเทศอินโดนีเซีย ที่ชื่อว่า ‘เจ้าชายแสง นิลา อุตามา’ ค้นพบท่าเรือเก่าเมือง เทมาเส็ก (Temasek) ขึ้น และได้พบเจอกับเจ้าสัตว์ประหลาดที่มีรูปร่างคล้ายสิงโตบนเกาะแห่งนี้ ด้วยเหตุนี้เอง เจ้าชายจึงตั้งชื่อเกาะนี้ว่า “สิงหปุระ” (ประเทศสิงคโปร์ในอดีต) ซึ่งสามารถแปลได้ว่า “เมืองสิงห์” อีกทั้งยังตั้งอีกชื่อว่าเกาะ “Merlion” ซึ่งแปลได้ว่า “สิงโตทะเล” นั่นเอง ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปเมืองสิงหปุระ จึงได้พัฒนากลายเป็นประเทศสิงคโปร์ในปัจจุบันนั่นเอง
“หัวเป็นสิงโต ลำตัวเป็นปลา” เมอร์ไลออน ความหมาย คืออะไร
ในปี พ.ศ. 2507 ประเทศสิงคโปร์จึงได้แต่งตั้งให้สิงโตทะเล หรือ สัตว์ในตำนานซึ่งมีหัวเป็นสิงโต และ ลำตัวเป็นปลา เป็นสัญลักษณ์การท่องเที่ยวประจำชาติของสิงคโปร์ ซึ่งแนวคิดการออกแบบเจ้าสิงโตที่ว่านี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากประวัติศาสตร์การค้นพบประเทศสิงคโปร์ในอดีต โดยส่วนหัวทีเป็นสิงโตนั้น มาจาก ‘สิงหปุระ’ (Merlion หรือ Lion City) ซึ่งเป็นชื่อดั้งเดิมของประเทศสิงคโปร์ ที่แปลว่าเมืองสิง และ ส่วนหางที่มีรูปร่างเป็นปลานั้น เป็นสัญลักษณ์สะท้อนให้เห็นถึงจุดเริ่มต้นของประเทศสิงคโปร์ที่เป็นเมืองท่าการประมง (Fishing Village) มาก่อน ดังนั้น “เมอร์ไลออน” ความหมาย จึงหมายความว่าเมืองสิงโต และ เป็นสัญลักษณ์สิงคโปร์แสดงจุดต้นกำเนิดของประเทศสิงคโปร์นั่นเอง
จุดเริ่มต้นของรูปปั้นเมอร์ไลออน (Merlion)
โลโก้เมอร์ไลออนได้จดทะเบียนขึ้นเป็นสัญลักษณ์ทางการค้าของประเทศสิงคโปร์มาอย่างยาวนานกว่า 33 ปี (ตั้งแต่ปี พ.ศ.. 2509 – 2540) ซึ่งจุดเริ่มต้นของรูปปั้นเมอร์ไลออน (Merlion) หรือ สิงโตสิงคโปร์นั้น เกิดขึ้นในปี พ.ศ.. 2515 โดยช่างฝีมือประติมากรรมชาวสิงคโปร์ที่ชื่อว่า “ลิม นัง เส็ง” ซึ่งเขาได้ปั้นรูปปั้นเมอร์ไลออนกับลูกของเขาอีก 8 คน ที่บริเวณปากแม่น้ำประเทศสิงคโปร์ โดยมีหน้าหันออกนอกทะเล ตามหลักฮวงจุ้ย เพื่อนำพามาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองของบ้านเมือง
ต่อมาในปี พ.ศ. 2545 ทางการสิงคโปร์ได้ทำการย้ายรูปปั้นเมอร์ไลออน หรือ รูปปั้นสิงโตสิงคโปร์ดังกล่าว ไปที่บริเวณเหนืออ่าวมารีน่า เบย์ (Marina Bay) ณ สวนสาธารณะ Merlion Park แทน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ตั้งเดิมเพียง 120 เมตรเท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากการสร้างสะพาน Esplanade Bridge (สะพานเอสพลานาด) เสร็จเมื่อปีพ.ศ. 2540 ได้ทำให้เกิดการบดบังทางทัศนียภาพที่สวยงามของรูปปั้นเมอร์ไลออนนั่นเอง
พิกัดเมอร์ไลออน 5 ตัวในประเทศสิงคโปร์
แน่นอนว่ารูปปั้นเมอร์ไลออน (Merlion) ที่นักท่องเที่ยวคุ้นหน้าคุ้นตากันดีนั้น คือ รูปปั้นสิงโตทะเล ที่เป็นสัญลักษณ์สิงคโปร์ ที่ Merlion Park ริม อ่าวมารีน่าเบย์ (Marina Bay) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กท่องเที่ยวสำคัญของประเทศสิงคโปร์ ที่มาพร้อมกับวิว และ ทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม ทั้งในเวลากลางวัน และ กลางคืน แต่จริงๆ แล้ว เจ้ารูปปั้นเมอร์ไลออนที่ทางการสิงคโปร์ให้การยอมรับว่าเป็นสัญลักษณ์ของประเทศสิงคโปร์นั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น แต่กลับมีด้วยกันถึง 5 ตัวด้วยกัน ตามสถานที่ต่างๆ ดังนี้
1. เมอร์ไลออน ณ สวนสาธารณะ Merlion Park
รูปปั้นเมอร์ไลออน ตัวที่เป็นสัญลักษณ์สิงคโปร์ และ เป็นที่รู้จักในกลุ่มนักท่องเที่ยวไปทั่วโลกนั้น ตั้งอยู่ที่บริเวณเหนืออ่าวมารีน่าเบย์ (Marina Bay) ณ สวนสาธารณะ Merlion Park ซึ่งในบริเวณสวนแห่งนี้ มีเจ้าเมอร์ไลออนอยู่ด้วยกันถึง 2 ตัว โดยเมอร์ไลออนตัวแรก ตั้งอยู่ข้างหน้าโรงแรมฟุลเลอร์ตัน (Fullerton Hotel) เป็นรูปปั้นสิงโตพ่นน้ำที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.. 2515 (เป็นเมอร์ไลออนของสิงคโปร์ตัวแรก) มีขนาดใหญ่ ความสูง 8.6 เมตร หนัก 70 ตัน
ซึ่งจุดเด่นของเมอร์ไลออนตัวนี้ คือ ทัศนียภาพทางธรรมชาติที่ล้อมรอบรูปปั้นอย่างสวยงาม ไม่ว่าจะเป็น สวนหย่อมขนาด 2,500 ตารางเมตร และ วิวอ่าวมาริน่า (Marina Bay) ที่มาพร้อมลานดูวิว ที่สามารถจุคนได้กว่า 300 คน และ การแสดงแสง สี เสียง และ น้ำพุ ตอนกลางคืนที่เรียกว่า Wonder Full – Light & Water Spectacular ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถชมกันได้ฟรีๆ ทุกวัน
2. เมอร์ไลออนตัวลูก ณ สาธารณะ Merlion Park
ที่สวนสาธารณะ Merlion Park นั้น มีรูปปั้นเมอร์ไลออนด้วยกันทั้งหมด 2 ตัวด้วยกัน ซึ่งตัวที่สองนี้ มีชื่อว่า “Merlion Cub” หรือ ที่แปลเป็นไทยได้ว่า ลูกเมอร์ไลออน หรือ เมอร์ไลออนตัวน้อย ซึ่งสิงโตทะเลตัวน้อยนี้ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมอร์ไลออนตัวแรก (แม่สิงโต) เพียงแค่ 28 เมตร มีความสูง 2 เมตร น้ำหนักอยู่ที่ 3 ตัน สามารถพ่นน้ำได้ตลอดทั้งวัน เช่นเดียวกันกับเมอร์ไลออนตัวแม่
วิธีเดินทาง ไปชมเมอร์ไลออน ณ สวนสาธารณะ Merlion Park : เป็นที่ทราบกันดีว่า ประเทศสิงคโปร์มีระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวก ไม่ว่าจะเป็น ระบบขนส่งสาธารณะทางรถไฟ (MRT & LRT) รถบัส หรือ แม้กระทั่ง การเดินทางด้วยรถแท็กซี่ ซึ่งสำหรับการเดินทางมาชมเมอร์ไลออนที่นี้ เราแนะนำให้นั่งรถไฟใต้ดิน MRT สายสีเขียว มาลงที่สถานี Raffles Place จากนั้น ให้เดินตามริมอ่าวแม่น้ำ ประมาณ 600 เมตร ก็จะถึงจุดหมายปลายทาง
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
3. เมอร์ไลออน ณ Mount Faber
รูปปั้นเมอร์ไลออนตัวที่สอง ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของเทือกเขา Mount Faber ซึ่งเป็นเทือกเขาที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศสิงคโปร์ อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยว เนื่องจากเดินทางสะดวก เป็นจุดเชื่อมต่อของสถานีกระเช้าลอยฟ้า หรือ Singapore Cable Car ระหว่างสถานี Habour Front กับ สถานี Sentosa Merlion
เมอร์ไลออนตัวนี้ ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2541 มีความสูง 3 เมตร ถูกสร้างมาจากหินอ่อนโพลีมาร์เบิล (Poly Marble) แต่ไม่สามารถพ้นน้ำได้ เหมือนกับเมอร์ไลออน 2 ตัวแรกที่ได้กล่าวไป
วิธีเดินทาง ไปชมเมอร์ไลออน ณ Mount Faber : นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วยกระเช้าไฟฟ้าไปลงที่ Mount Faber ได้เลย หรือ วิธีที่ง่ายที่สุดนั้น คือการนั่งรถไฟฟ้า MRT ไปลงสถานี HarbourFront จากนั้น ให้ใช้บริการรถเมล์ VivoCity ไปลงที่ Mount Faber ได้เลย
4. เมอร์ไลออน ณ สำนักงานกรมการท่องเที่ยวสิงคโปร์
อีกหนึ่งสถานที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของรูปปั้นเมอร์ไลออนนั้น คือที่ สำนักงานใหญ่ของ Singapore Tourism Board (คณะกรรมการ การท่องเที่ยวสิงคโปร์) ใกล้กับถนน Grange Road (ถนนแกรนจ์) ทั้งนี้เนื่องจากที่ Merlion เป็นทั้งสัญลักษณ์ประเทศสิงคโปร์ รวมไปถึง สัญลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศด้วยนั้นเอง โดยเมอร์ไลออนที่นี้ มีขนาดความสูง 3 เมตร มีรูปร่างผอมบางที่สุด อย่างไรก็ตามเมอร์ไลออนดังนี้ ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2538 ซึ่งถือว่ามีความเก่าแก่พอสมควร
5. เมอร์ไลออน ณ Ang Mo Kio
มาถึงเมอร์ไลออนตัวสุดท้ายของประเทศสิงคโปร์ที่ได้รับการอนุญาตจากรัฐบาลสิงคโปร์ ให้เป็นรูปปั้นเมอร์ไลออนอย่างเป็นทางการ ซึ่งเมอร์ไลออนตัวดังกล่าวนั้น ตั้งอยู่ที่บริเวณถนน Ang Mo Kio ตรงลานจอดรถบล็อก 216 ถึง 220 อยู่ตรงกันข้ามกับสวน Bishan Park ซึ่งเป็ฯสวนสาธารณะต้นแบบ ที่ได้รับรางวัลระดับโลกมากแล้วมากมาย
เรื่องที่น่าสนใจของเมอร์ไลออนที่เมือง Ang Mo Park นั้น คือ เมอร์ไลออนดังกล่าวนั้น เกือบจะไม่ได้รับรองให้เป็นเมอร์ไลออนที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ เนื่องจากความขัดแย้งของคณะกรรมการท้องถิ่นของเมือง Ang Mo Park แต่ในที่สุดทางรัฐบาลก็อนุญาตให้สร้างเมอร์ไลออนแห่งนี้ขึ้นในปี พ.ศ. 2541 จนได้
นักท่องเที่ยวคนไหนที่ต้องการไปสัมผัสความยิ่งใหญ่ของรูปปั้นเมอร์ไลออน (Merlion) ที่ประเทศสิงคโปร์ ทาง Artralux เรามาพร้อมกับบริการโปรแกรมการท่องเที่ยว ที่สามารถรังสรรค์เส้นทางการท่องเที่ยวได้อย่างที่ต้องการแบบไม่มีข้อจำกัด ไม่ว่าคุณอยากไปท่องเที่ยวที่ใด กินอาหารพื้นเมืองร้านไหน หรือ พักผ่อนโรงแรมระดับกี่ดาว เราสามารถรังสรรค์ให้คุณได้แน่นอน
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
