“เมืองไลพ์ซิกอยู่ที่ไหน” “เมืองไลพ์ซิกมีอะไรที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมเยือนบ้าง” “เดินทางไปไลพ์ซิกจากเเมืองเบอร์ลินยังไง” เชื่อว่าหากคุณเข้ามาอ่านบทความนี้ คำถามเหล่านี้ คงจะเป็นคำถามคุณอยากได้คำตอบกันไม่ใช่น้อย …. หากถามว่าเมืองเมืองไลพ์ซิก หรือ ไลพ์ซิจ (Leipzig) นั้น น่าเที่ยวหรือไม่ คุณคงต้องลองถามตัวเองกลับว่า คุณเป็นอีกหนึ่งคนที่หลงใหลในเสียงดนตรี ศิลปะ สถาปัตยกรรมยุโรปโบราณร่วมสมัย และ วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของผู้คนในเมืองที่ราวกับถูกหยุดเวลาไว้ตั้งแต่อดีตหรือเปล่า หากคำตอบของคุณ คือ ‘ใช่’ เมืองไลพ์ซิก (Leipzig) เป็นเมืองท่องเที่ยวในประเทศเยอรมนี ที่คุณไม่ควรมองข้าม
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
เมื่อนึกถึงทริปท่องเที่ยวในประเทศเยอรมนี เชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายคนคงจะมีรายชื่อเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศเยอรมนีในใจ ไม่ว่าจะเป็นเมืองมิวนิก (เมืองแห่งโรงเบียร์ มีชื่อเสียงเรื่องเทศกาล Oktoberfest), เมืองเบอร์ลิน (เมืองหลวงที่รายล้อมไปด้วยปราสาท และ สถานบันเทิงยามค่ำคืนอันน่าตื่นตาตื่นใจ), เมืองโคโลญจน์ (เมืองอันเป็นที่ตั้งของวิหาร Cologne Cathedral วิหารแบบโกธิก มรดกโลกอันยิ่งใหญ่ สวยงามจนต้องตะลึง) และ เมืองชนบทขนาดเล็กของประเทศเยอรมนีอีกมากมาย ที่มาพร้อมเสน่ห์ความเป็นตัวเองอย่างชัดเจน ซึ่งล้วนแต่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเมืองไลพ์ซิกจะไม่ได้อยู่ในรายชื่อเมืองท่องเที่ยวของเยอรมนีอันดับต้นๆ แต่เมืองไลพ์ซิกแห่งนี้ คือ Hiden Gem ของประเทศ ที่เป็นเสมือน A Melting Pot ของวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และ การดนตรีของประเทศเยอรมนีก็ว่าได้
วันนี้ Artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำของไทย จึงได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองไลพ์ซิกที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชม ซึ่งรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวไลพ์ซิกเหล่านี้ จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์ และ มนเสน่ห์อันน่าค้นหาของเมืองไลพ์ซิกอย่างแท้จริง
ประวัติศาสตร์เมืองไลพ์ซิก ‘A City of Contrasts and Rich History’
สิ่งที่ทำให้เมืองไลพ์ซิก เป็นเมืองต้องมนต์คลัง มากด้วยเสน่ห์ จนกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่งของประเทศเยอรมนีที่หากมีโอกาส ต้องไม่พลาดมาเยี่ยมเยือนนั้น คือ “เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมือง” ที่สะท้อนถึงความเป็นมาของประเทศเยอรมนีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ไลพ์ซิกเป็นศูนย์กลางของการค้าขาย, เมืองหลวงของวัฒนธรรมและดนตรี, สนามแห่งการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างเยอรมนีตะวันออก (East) และ ตะวันตก (West) และไลพ์ซิกแห่งนี้เอง ยังเป็นศูนย์กลางการปฏิวัติอุตสาหกรรมภายหลังจากสงครามอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างช่วงสงครามเย็นระหว่างเมืองเยอรมนีตะวันออก และ เยอรมนีตะวันตก เมืองไลพ์ซิก ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มของเยอรมนีตะวันออก ถูกผลกระทบอย่างหนักหน่วง ทำให้เมืองยากจน และ ไม่ได้รับการพัฒนาเป็นเวลานาน ซึ่งเมืองไลพ์ซิกได้กลับมาฟื้นฟูอีกครั้ง ในช่วงปี 2000 การที่เมืองเคยเป็นเมืองรุ่งเรือง จนได้รับผลกระทบกลายเป็นเมืองยากจน และ ได้ถูกบูรณะอีกครั้งในที่สุด ส่งผลให้สภาพบ้านเมือง และ ผังเมืองของไลพ์ซิกนั้น มาพร้อมความแตกต่างที่แปลกประหลาด เพราะในขณะที่ไลพ์ซิกเป็นที่ตั้งของวิหารสไตล์โกธิกอันยิ่งใหญ่ ใกล้บริเวณนั้น คือ โรงงานอันทันสมัย และ ตรงข้ามกับอาคารสไตล์สถาปัตยกรรมแบบ Barocco ที่สวยงาม อาจมีซากคอนกรีตจากยุคโซเวียตตั้งตระหง่านอยู่ เป็นต้น
5 สถานที่เที่ยวเมืองไลพ์ซิก เยอรมนี (Leipzig) เม็ดน้ำงานของเมือง
เมืองไลพ์ซิก (Leipzig) ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเยอรมนี เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในของรัฐซัคเซิน (Saxony) และ เป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดของรัฐ ประมาณ 515,110 คน นอกจากนี้เมืองไลพ์ซิก ยังเป็นเมืองที่เก่าแก่อีกหนึ่งเมือง โดยมีอายุกว่าพันปี ด้วยเหตุนี้อาคารบ้านเรือนจึงมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมจากทุกยุคสมัย ถือเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ที่สำคัญสำหรับนักเรียนสถาปนิกก็ว่าได้ นอกจากนี้เมืองไลพ์ซิก ยังได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีพื้นที่สีเขียวมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของทวีปยุโรป โอบล้อมไปด้วยป่าไม้ ภูเขา และ สวนสาธารณะขนาดใหญ่มากมาย
โดยสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองไลพ์ซิกที่ไม่ควรพลาดไปเยี่ยมชม มีดังนี้
1. ย่าน The Old City Hall และ ศาลาว่าการเก่า MARKT
The Old City Hall ของเมืองไลพ์ซิกนั้น เป็นลานจัตุรัสกลางเมืองอันเก่าแก่ ที่มีอายุยาวนานมาตั้งแต่สมัยปีค.ศ 1556 นอกจากลานอันกว้างขวางแห่งนี้ จะเป็นที่พบปะสร้างสรรค์ของประชากรเมืองไลพ์ซิกแล้ว สถานที่แห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของอาคารศาลาว่าการเมือง The Markt ซึ่งอาคารดังกล่าวมีความเก่าแก่ไม่น้อยไปกว่าตัวลานจัตุรัส สร้างด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Renaissance (สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา) อย่างสวยงาม จนได้รับการขนานนามว่าเป็นอาคารแบบ Renaissance ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศเยอรมนี
หอคอยของตัวอาคาร โดดเด่นด้วยการออกแบบรูปทรงที่คล้ายกับมงกุฎ มาในสไตล์บาโรก ( Baroque ) ซึ่งได้ถูกจัดวางอยู่เหนือทางเข้าอาคารอย่างไม่สมมาตร นอกจากนี้ บริเวณเหนือประตูทางเข้าจะเป็นระเบียงยื่นออกมาจากตัวอาคาร เพื่อใช้สำหรับการประกาศต่อสาธารณะในช่วงเทศกาลสำคัญ โดยมักมีเจ้าหน้าที่เบยอรมันเป่าแตร และสวมเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิมประจำชาติมาเป็นคนประกาศนั่นเอง
นอกจากนี้ความงดงามของอาคารศาลาว่าการเมือง The Markt แล้ว บริเวณลานกว้าง The Old City Hall ยังเป็นที่ตั้งของตลาด Framer Market ในทุกๆ เช้า และ เป็นที่จัดงานแสดงสังสรรค์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น งานคอนเสิร์ต ตลาดคริสต์มาสเยอรมนี และ อีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเมืองไลพ์ซิกที่ต้องไม่พลาด !
2. โบสถ์เซนต์นิโคลัส (St. Nicholas Church)
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองไลพ์ซิกที่ไม่ควรพลาดเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวผู้หลงใหลในสถาปัตยกรรมนั้น คือที่โบสถ์เซนต์นิโคลัส (St. Nicholas Church) ซึ่งโบสถ์แห่งนี้ เป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 และตลอดระยะเวลาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน สถาปัตยกรรมของโบสถ์เซนต์นิโคลัส ได้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของสถาปัตยกรรมล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อศตวรรษ 1700 โดยได้มีการดัดแปลงรูปแบบอาคารมาเป็นในสไตล์สถาปัตยกรรมนีโอคลาสสิก (Neoclassical style) นอกจากความงดงามของสถาปัตยกรรมภายนอกแล้ว ด้านในก็มีความงดงามไม่แพ้กัน โดยสถาปัตยกรรมภายในทั้งหมด เป็นสีขาว ทำให้ตัวโบสถ์ดูกว้างใหญ่ และ สะอาดตา ตัวอาคารมีความแข็งแรง ด้วยเสาแบบ Columns ลักษณะเป็นร่อง และ บริเวณหัวเสาเป็นใบปาล์มแตกแยกออกมาจากเสาอย่างสง่างาม
และที่สำคัญ โบสถ์เซนต์นิโคลัส (St. Nicholas Church) แห่งนี้ ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินขบวน “Monday Demonstration” หรือ “การเดินขบวนวันจันทร์ในเยอรมนีตะวันออก” ซึ่งเป็นการเดินประท้วงทางการเมืองอย่างสงบเพื่อประท้วงรัฐบาลเยอรมนีตะวันออก ซึ่งเหตุการณ์นี่เอง เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้กำแพงเบอร์ลินล้มลง (The Fall of Berlin Wall)
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
3. The New Town Hall ( หรือ Neues Rathaus)
“ศาลาว่าการใหม่ (The New Town Hall)” หรือที่ชาวไลพ์ซิกเรียกกันว่า “Neues Rathaus” สร้างเสร็จในช่วงทศวรรษปี 1900 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอันโดดเด่นในเมืองไลพ์ซิกอีกแห่งที่คุณไม่ควรพลาด ซึ่งต้องบอกเลยว่าจะพลาดได้ยากมาก เพราะไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนของเมืองไลพ์ซิก คุณก็สามารถมองเห็นยอดหอคอยของอาคารแห่งนี้ได้จากทุกที่ทั่วเมืองเลยทีเดียว ความสูงของหอคอยอาคารแห่งนี้ มีความสูงกว่า 377 ฟุต ซึ่งถือเป็นความสูงของหอคอยอาคารที่สูงที่สุดในประเทศเยอรมนีเลยทีเดียว ซึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ คือ การเดินเที่ยวชมด้านในทางเดินของอาคาร ซึ่งปูด้วยพื้นด้วยหินอ่อน เข้ากับตัวอาคารที่สร้างด้วยหินปูนเปลือยฟรานโคเนียนสีเทาอ่อน มาในรูปทรงห้าเหลี่ยมที่ไม่ธรรมดาบนพื้นที่ดินที่กว้างขวางกว่ามากกว่า 10,000 ตร.ม. นั่นเอง
4. ตึก Paulinum ของ University of Leipzig
มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองไลพ์ซิกอีกแห่งที่หากไม่พูดถึง หรือ หากมีโอกาสไปเที่ยวไลพ์ซิกแล้วไม่ได้ไปชื่นชมความสวยงามให้เห็นกับตา คงจะเหมือนมาไม่ถึง ซึ่งสถานที่แห่งนั้น จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก ตึก Paulinum ซึ่งเป็นอาคารการเรียนรู้ส่วนหนึ่งของมหาลัย University of Leipzig โดยตึกแห่งนี้ ตั้งอยู่ในกลางลานจัตุรัส Augustusplatz ซึ่งเป็นจัตุรัสกลางเมืองไลพ์ซิก รายล้อมไปด้วยอาคารที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมหลายยุคสมัยมากมาย เปรียบได้เสมือนไข่มุกของเมืองไลพ์ซิกก็ว่าได้
อาคาร Paulinum ได้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ 2007 เพื่อทดแทนโบสถ์ของมหาวิทยาลัย (The Paulinerkirche) ที่ได้ถูกทำลายลงไปในช่วงระบอบคอมมิวนิสต์ของเยอรมนีตะวันออกในปี 1968 จาก ซึ่งการออกแบบอาคารแห่งนี้ เป็นผลงานของสถาปนิก Erick Van Egeraat ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของรางวัลมากมาย ในปัจจุบันอาคาร Paulinum ถูกใช้เป็นที่ตั้งของหอประชุมมหาวิทยาลัย ห้องปราศรัย ตลอดจนห้องของคณะวิทยาการสารสนเทศและคณิตศาสตร์ ซึ่งแน่นอนว่าจุดเด่นที่เป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวนั้น คือ ความงดงามของสถาปัตยกรรมอาคาร ที่ได้ถูกออกแบบมาในสไตล์กอธิค เพื่อสะท้อนถึงสถาปัตยกรรมของโบสถ์ที่ได้ถูกทำลายลงไปนั่นเอง
5. ศูนย์การค้า Mädler Passage
แม้ว่าหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาที่ศูนย์การค้า Mädler Passage คือการเดินชอปปิ้ง และ รับประทานอาหารในร้านอาหารสุดหรูของเมืองไลพ์ซิก แต่เมื่อเดินทางมายังที่แห่งนี้แล้ว สิ่งที่นักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจมากสินค้าแบรนด์เนม และ เมนูอาหารนั้นคือ สถาปัตยกรรมอันงดงาม ที่ผสมผสานระหว่างศิลปะแบบ Art Nouveau และ Neo-Renaissance นอกจากนี้ ยังมีการประดับตกแต่งอาคาร และ ทางเดินด้วยรูปทองสัมฤทธิ์ที่แสดงถึงฉากต่างๆ จากเรื่องเฟาสท์ (Faust) ซึ่งเป็นตัวเอกในตำนานโศกนาฏกรรมชื่อดังของประเทศเยอรมนี เนื้อเรื่องเกี่ยวกับชายที่ขายวิญญาณให้ปิศาจเมฟิสโตฟิลีส (Mephistopheles) เพื่อแลกกับความรู้นั่นเอง
จริงๆ แล้ว ศูนย์การค้า Mädler Passage เป็นส่วนต่อขยายของ ร้านอาหารที่เก่าแก่ และ มีชื่อเสียงร้านหนึ่งของเมืองไลพ์ซิกที่ชื่อว่า Auerbachs Keller ซึ่งเป็นร้านอาหารชั้นใต้ดินบนถนน Grimmaische Straße ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากย่านแนชมาร์ก (Naschmarkt) แต่ในช่วงปี พ.ศ. 2455-2457 ร้านอาหารใต้ดิน Auerbachs Keller ได้รับการบูรณะ และได้ต่อขยายศูนย์การค้า Mädler Passage ที่ได้แรงบันดาลใจสถาปัตยกรรมมาจาก the Galleria Vittorio Emanuele ในเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี นั่นเอง
6. โบสถ์เซนต์โทมัส (St. Thomas Church)
มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่สุดท้ายในประจำเมืองไลพ์ซิกที่เราอยากจะแนะนำให้ท่านเดินทางไปเที่ยวชมความยิ่งใหญ่ให้ได้นั้น คือ ที่โบสถ์เซนต์โทมัส (St. Thomas Church) โบสถ์แห่งนี้ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของตลาดไลพ์ซิก (The Markt) เป็นจุดกำเนิดของคณะประสานเสียงชื่อดังระดับโลก อย่าง คณะ ‘St. Thomas Boys’ Choir’ ซึ่งมีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ปี ค.ศ 1212 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่โบสถ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้น เดิมทีทำหน้าที่เป็นอารามของคณะนักบวชคาทอลิกกลุ่มหนึ่งที่ชื่อว่า Augustinian
ในเวลาต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 15 โบสถ์แห่งไลพ์ซิกแห่งนี้ ก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงสถาปัตยกรรมโบสถ์มาเป็นแบบสไตล์โกธิกตอนปลาย ซึ่งเป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมในพื้นที่ทางตอนบนของรัฐซัคเซิน (Saxony) นั่นเอง และเมื่อคุณเข้าไปข้างใน นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องตื่นตาตื่นใจไปกับการตกแต่งภายในแบบโกธิก และประหลาดใจเมื่อได้รู้ว่านักประพันธ์เพลงที่ยอดเยี่ยมเช่น คุณ Johann Sebastian Bach, คุณ Wolfgang Amadeus Mozart, คุณ Richard Wagner และ คุณ Felix Mendelssohn Bartholdy นั้น เคยเล่นบรรเลงเพลง ณ โบสถ์แห่งนี้
วิธีเดินทางไปไลพ์ซิก จาก เบอร์ลิน (Berlin ➡️ Leipzig)
วิธีการเดินทาจากเมืองเบอร์ลิน (Berlin) เมืองหลวงของประเทศเยอรมนี ไปยังเมืองไลพ์ซิก (Leipzig) ที่ง่ายที่สุดนั้น คือ การเดินทางด้วยรถไฟ เมืองเบอร์ลิน และ เมืองไลพ์ซิกนั้น อยู่ไม่ไกลกันมาก ซึ่งหากเดินทางด้วยรถยนต์ นั้น จะใช้เวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมง บนเส้นทาง 182 กิโลเมตร หรือ 113 ไมล์ อย่างไรก็ตาม การเดินทางด้วยรถยนต์นั้น ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากการหาที่จอดรถใจกลางเมืองไลพ์ซิกนั้น ค่อนข้างลำบาก ดังนั้นทางเลือกที่เราแนะนำ คือการเดินทางด้วยรถไฟ (Train) นั่นเอง
ซึ่งวิธีแรก คือ การเดินทางโดยใช้บริการรถไฟสำหรับการเดินทางข้ามเมืองแบบด่วน คือ รถไฟประเภท ICE ซึ่งเป็นรถไฟแบบ High Speed ข้ามเมือง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นรถไฟได้ที่สถานีรถไฟ Berlin Hauptbahnhof และ จะใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้นประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที – 1 ชั่วโมง 35 นาที (สามารถเช็คราคาได้ที่ลิ้งนี้)
วิธีที่สอง คือ การใช้รถไฟ Regional Train (RB) หรือ รถไฟแบบภูมิภาค ซึ่งรถไฟประเภทยนี้ จะมีการหยุดรับผู้โดยสารหลายสถานี ดังนั้น จะใช้เวลาเดินทางจากเบอร์ลิน มายังเมืองไลพ์ซิกที่นานกว่า โดยจะใช้เวาประมาณ 2 ชั่วโมง 40 นาที จนถึง 3 ชั่วโมง 30 นาที
นักท่องเที่ยวคนไหนที่สนใจเดินทางไปท่องเที่ยว ณ เมืองไลพ์ซิก (Leipzig) ประเทศเยอรมนี หรือ สนใจเข้าร่วมทริปท่องเที่ยวทัวร์เยอรมนีแบบส่วนตัว เพื่อเดินทางไปเยือนเมืองท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเมืองเบอร์ลิน, เมืองมิวนิก, เมืองโคโลญจน์ และ อีกมากมาย สามารถสอบถามรายละเอียกการเดินทางไปเยือนประเทศเยอรมนีกับเจ้าหน้าที่ Artralux ได้เลย ด้วยทีมงานมากด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวร่วม 10 ปี เราสามารถรังสรรค์ทริปท่องเที่ยวประเทศเยอรมนี เมืองไลพ์ซิก หรือ เมืองท่องเที่ยวชื่อดังอื่นๆ ให้คุณได้ ซึ่งแตกต่างจากที่อื่น โปรแกรมท่องเที่ยวของเรายืดหยุ่น นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเส้นทางการเดินทาง แลนด์มาร์กที่ต้องการไปเยือน ร้านอาหารที่อยากทาน รวมไปจนถึงระดับที่พักได้ตามอย่างที่ต้อง รับรองเลยว่า เที่ยวต่างประเทศกับ Artralux คุณจะได้รับประสบการณ์ท่องเที่ยวดั่งที่ฝันแน่นอน
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
