ส่องสตอกโฮล์ม กิน-ชอป-เที่ยว ณ มหานครอันงดงามแห่งสแกนดิเนเวีย

 

“Why you should visit Stockholm once in your life” หรือที่แปลเป็นไทยว่า “ทำไมคุณถึงควรเยี่ยมเยืยนสตอกโฮล์มสักครั้งในชีวิต” นั้น เป็นคำถามที่นักท่องเที่ยวทั่วโลก ผู้ซึ่งมีโอกาสได้ไปเที่ยว “สตอกโฮล์ม” หรือ “กรุงสตอกโฮล์ม” มาแล้ว ต้องกลับมาถาม และ บอกเล่าให้คนใกล้ตัวได้รับรู้ 

กรุงสตอกโฮล์ม (Stockholm) เป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ มีประชากรหนาแน่น และ เป็นเมืองหลวงของประเทศที่ได้รับขนานนามว่าเป็นประเทศแห่งความสุขนั่นคือ ประเทศสวีเดน 

 

จุดเด่นของสตอกโฮล์ม นอกจากจะเป็นเมืองหลวงของสวีเดนแล้ว กรุงสตอกโฮล์มยังเป็นเมืองที่ประกอบไปด้วยจำนวนเกาะทั้งหมด 14 เกาะ โอบล้อมไปด้วยทะเลบอลติก (Baltic Sea) และ ทะเลสาบมาลาเร็น (Lake Malaren) ซึ่งทั้ง 14 เกาะนี่ ถูกเชื่อมต่อกันด้วยสะพาน 57 สะพาน จนทำให้กรุงสตอกโฮล์ม ได้รับการสมญานามว่า‘ราชินีแห่งทะเลบอลติก’ จึงไม่แปลกใจที่ใทุกๆ ปี จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยวยังเมืองสตอกโฮล์มเพิ่มขึ้นอย่างไม่ขาดสาย โดยจากผลสำรวจ Stockholm businessregion ได้ข้อมูลว่า ตั้งแต่ปี 2019 -2022 มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยืยนกรุงสตอกโฮล์มากถึง 14.3 ล้านคน

 

วันนี้ Artralux ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสหกรรมการท่องเที่ยว และ บริการวีซ่า ได้ทำการรวบรวม 5 สถานที่ท่องเที่ยวในสตอกโฮล์ม ที่การันตีได้ว่างดงามสมคำร่ำรือ รวมทั้งวีธีการเดินทางในกรุงสตอกโฮล์มที่จะทำให้คุณเข้าถึงเสน่ห์ของตัวเมืองอย่างแท้จริง จะมีที่ไหนบ้าง มาดูกันเลย!  

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

 

5 สถานที่ท่องเที่ยวในสตอกโฮล์ม ที่ไม่ไปถือว่ามาไม่ถึง!

คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สตอกโฮล์ม เป็นเมืองท่องเที่ยวในฝันของนักท่องเที่ยวหลายคน ทั้งนี้เนื่องจากที่กรุงสตอกโฮล์ม มีผังเมือง และ สถาปัตยกรรมบ้านเมืองที่สวยที่สุดอีกแห่งของทวีปยุโรปเหนือ และด้วยความที่เมืองสตอกโฮล์ม ประกอบไปด้วยเกาะน้อย-ใหญ่ทั้งหมด 14 เกาะ อีกทั้งยังรายล้อมด้วยทะเล และ ทะเสสาบมากมาย กรุงสตอกโฮล์ม จึงเปรียบเสมือนเกาะเวนิสน้อยๆ แห่งยุโรปนั่นเอง 

ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวในสตอกโฮล์มนั้น มีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งไม่ว่าคุณจะชอบดื่มด่ำกับสถาปัตยกรรมโบราณ ชื่นชมความยิ่งใหญ่ของพระราชวังมรดกโลก พจญภัยไปกับธรรมชาติอันน่าอัศจรรย์ หรือ ลิ้มรสอาหาร และ วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ การท่องเที่ยวสตอกโฮล์มนั้น จะทำให้คุณจะได้รับประสบการณ์ทุกอย่างที่กล่าวมา แม้จะมีเวลาเที่ยวเพียงแค่ 1 วัน

 

1. เดินเล่นย่านเมืองเก่ากรุงสตอกโฮล์มที่: Gamla Stan

 

 

เริ่มต้นกันด้วยสถานที่เที่ยวสตอกโฮล์ม ที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของการมาเยือนประเทศสวีเดนก็ว่าได้ โดยย่านเมืองเก่าหลากสี หรือ ย่าน Gamla Stan (Old Town) แห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นพร้อมกับตัวเมืองสตอกโฮล์มในช่วงศตวรรษที่ 13 ดังนั้นสถาปัตยกรรมของบ้านเรือน ถนน และ อาคารต่างๆ จึงเป็นสถาปัตยกรรมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ในยุค 1700’s ถึง ยุค 1800’s นั่นเอง

 

แม้ย่านนี้จะเป็นเมืองเก่า แต่บรรยากาศของย่าน Gamla Stan ก็ครึกครื้น ไม่เงียบเหงา ถนนรายล้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก คาเฟ่ และสตูดิโอมากมาย อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากในทุกวัน และอีกหนึ่งจุดเด่นของย่านนี้ คือบริเวณจัตุรัสศูนย์กลาง ซึ่งเป็นแหล่งนัดพบของคนพื้นเมือง และ สถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกคู่กับลานน้ำพุ และ ตึกหลากสี ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของย่านนั่นเอง    

 

2. ชมความอลังของศาลาว่าการ: Stockholm City Hall

 

 

ศาลาว่าการเมืองสตอกโฮล์ม (Stockholm City Hall) หรือ ที่ชาวสวีเดนรู้จักกันในนาม Stadshuset เป็นศาลาตั้งเด่นใจกลางเมืองสตอกโฮล์ม ความโดดเด่น คือ การก่อสร้างด้วยการใช้อิฐจำนวนมากถึง 8 ล้านชิ้น ออกแบบโดยสถาปนิกชาวสวีเดนชื่อดัง คุณ เรกนาร์ ออสต์เบิร์ก ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรูปแบบของปราสาทในยุคเรอเนสซองต์ จนได้มาเป็นศาลาว่าการที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ไหนในโลก ในสไตล์เนชันแนลโรแมนติก นั่นเอง

 

นอกจากที่ศาลาแห่งนี้ จะเป็นที่ทำงานของนักการเมืองแล้ว ยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่สำคัญอีกแห่งในกรุงสตอกโฮล์มอีกด้วย โดยจะมีการจัดงานแสดงศิลปะชิ้นเอกของประเทศสวีเดน วัตถุโบราณต่างๆ และ ยังเป็นสถานที่มอบรางวัลโนเบลอีกด้วย 

 

3.ตามรอยประวัติศาสตร์กษัตริย์สวีเดนที่: พิพิธภัณฑ์วาซา

 

 

พิพิธภัณฑ์วาซา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในสตอกโฮล์ม ที่เหล่าคนรักประวัติศาสตร์ต้องไม่พลาด โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ตั้งอยู่บนเกาะ Djurgarden ของกรุงสตอกโฮล์ม และเป็นที่จัดแสดงเรือรบขนาดใหญ่แห่งราชอาณาจักรสวีเดน ตัวเรือตกแต่งด้วยลวดลายแกะสลัก สะท้อนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์กว่าร้อยชิ้น 

 

นอกจากนี้ สิ่งที่สร้างความยิ่งใหญ่จนทำให้เรือลำนี้ได้กลายเป็นสมบัติอันล้ำค้าของสวีเดน และ กรุงสตอกโฮล์มนั้น คือ การใช้ไม้โอ๊กในการสร้างทั้งลำ ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเรือรบ แต่ยังไม่ทันได้ออกรบ เรือลำนี้ก็ได้จมลง และถูกปล่อยไว้ในทะเลนานกว่า 333 ปี เพราะฉะนั้น พิพิธภัณฑ์วาซา จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในสตอกโฮล์มที่คุณจะต้องมาชื่มชมความยิ่งใหญ่ด้วยตาของตัวเองให้ได้สักครั้ง

 

4. ส่องสะพานที่ยาวที่สุดในยุโรปที่ ORESUND Bridge

 

 

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ที่แม้จะไม่ได้ตั้งอยู่ในกรุงสตอกโฮล์ม โดยตรง แต่ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่หากคุณมีโอกาสได้มาเที่ยวประเทศสวีเดนแล้วละก็ จะต้องไปดูให้ได้นั้น คือ สะพาน Oresund (เออะเรซอน) ซึ่งเป็นสะพานที่มีความยาวที่สุดในทวีปยุโรป (ด้วยความยาวกว่า 7.8 กิโลเมต)  

 

สะพาน Oresund แห่งนี้ เป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างสองประเทศเข้าด้วยกัน ได้แก่ ประเทศสวีเดน และ ประเทศเดนมาร์ก (กรุงโคเปญเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก กับ เมืองมาลโม ประเทศสวีเดน) ซึ่งจุดประสงค์ในการสร้างสะพานแห่งนี้ในปี 1991 นั้น เพื่อเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ ด้วยการทำให้การเดินทางข้ามพรมแดนเป็นเรื่องที่ง่ายดาย ดังนั้น หากคุณท่องเที่ยวในสวีเดน หรือ สตอกโฮล์ม ด้วยวีซ่าเชงเก้นนั้น คุณสามารถขับรถข้ามสะพานเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศเดนมาร์กได้อย่างเสรี โดยไม่ต้องขอวีซ่าเชงเก้นเดนมาร์กอีกด้วย

 

ความพิเศษของสะพานแห่งนี้ นอกจากที่จะมีทั้งหมด 4 เลน ซึ่งสามารถรองรับรถยนต์ได้มากกว่า 6 ล้านคันต่อปีแล้ว สะพานแห่งนี้ ยังมีเลนส์สำหรับรางรถไฟถึง 2 เลนด้วยกัน ซึ่งหากคุณเดินทางด้วยรถไฟจะใช้เวลา 35 นาทีในการข้ามฝั่งสะพาน ในขณะที่เดินทางด้วยรถยนต์ จะใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาทีเท่านั้น

 

5. สายอาร์ตห้ามพลาดกับ: National Museum แห่งสตอกโฮล์ม

หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่รักในงานศิลปะ และ ความงดงามทางสถาปัตยกรรมแต่ละยุคสมัย สถานที่ท่องเที่ยวในสตอกโฮล์มอีกหนึ่งแห่ง ที่ถือว่าคุ้มมากๆ นั้น คือ ที่ National museum หรือ พิพิธภัณฑ์แห่งชาวของสวีเดน 

 

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในกรุงสตอกโฮล์ม โดยภายนอกถูกออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมรูปแบบนีโอเรเนซองส์ จากการก่อสร้างด้วยหินแกรนิต และ หินปูน และด้วยทัศนียภาพที่ตั้งอยู่เรียบแม่น้ำ ทำให้ National Museum เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่สวยงามอีกแห่งของสตอกโฮล์ม 

 

นอกจากสถาปัตยกรรมภายนอกที่โดดเด่นแล้ว ภายในก็มีความงดงามไม่น้อย ด้วยการออกแบบห้องโถงให้ประกอบไปด้วยหน้าต่าง และ โดมกระจกรับแสงจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศภายในดูโปร่งโล่ง และ สามารถรับแสงแดดด้านนอกได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถเข้าชมงานศิลปะ ประติมากรรมทำมือ  และ งานกราฟิกกว่า 700,000 ชิ้น ที่จัดแสดงภายในได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

 

การเดินทางในสตอกโฮล์ม ด้วย Stockholm Metro

การเดินทาง สตอกโฮล์ม ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ Stockholm Metro นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ในการท่องเที่ยวที่กรุงสตอกโฮล์มก็ว่าได้ เพราะนอกจากหน้าที่หลักของสถานีรถไฟที่จะพาคุณไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในสตอกโฮล์มอย่างรวดเร็ว และ ง่ายดายแล้ว สถานีรถไฟกรุงสตอกโฮล์ม ยังเป็น เหมือน Art Exhibition หรือ ที่จัดแสดงงานศิลปะที่ยาวที่สุดในโลก ด้วยความยาวกว่า 110 กิโลเมตร ซึ่งกินพื้นที่สถานีรถไฟในกรุงสตอกโฮล์มกว่า 90 สถานี ซึ่งคุณจะได้ชื่นชมงานศิลปะของศิลปินกว่า 150 ท่าน เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศการเที่ยวจากการเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยว มาเป็นการชื่นชมงานศิลปะด้วยการเดินทางในสตอกโฮล์มแทน  

 

ซึ่งสถานีที่ได้รับความสนใจ หากคุณใช้การเดินทางในสตอกโฮล์มด้วยระบบขนส่งสาธารณะทางรถไฟนั้นมีดังนี้

 

• สถานีที-เซนทราเลน (T-Centralen) : ซึ่งเป็นสถานีของกรุงสตอกโฮล์มที่มีคนพลุกพล่านมากที่สุด เนื่องจากเป็นจุดเปลี่ยนสายรถไฟเส้นต่างๆ ของเมือง อีกทั้งยังเป็นสถานีแรกที่ได้จัดงานศิลปะขึ้น โดยในปัจจุบันที่สถานีเซนทราเลนจะถูกตกแต่งงานด้วยงานศิลปะของ คุณ เปอร์ โอลอฟ อุลต์เวดต์ (Per Olof Ultvedt) โดยพื้นเป็นสีขาว สลับกับสีฟ้า เพื่อความสบายตาสำหรับผู้เดินทาง

 

 

• สถานีโซลนา เซนทรัม (Solna Centrum): ความโดดเด่นของงานศิลปะของสถานีโซลนา เซนทรัม คืออความโดดเด่น และ เป็นเอกลักษณ์ของผนังสถานีรถไฟสีแดง-ส้ม ซึ่งตัดกับภาพวาดตามพนังที่เกี่ยวข้องกับความอุดมสมบูณณ์ทางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นภาพภูเขา น้ำตก ป่าไม้ และ สัตว์ป่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการรุกล้ำของไฟป่าที่เกิดจากพฤติกรรมของมนุษย์เรา

 

 

• สถานีสตาเดียน (Stadion) : งานศิลปะในสถานีรถไฟสตอกโฮล์มแห่งนี้ เกิดจากแรงบันดาลใจ และ ความตั้งใจของศิลปินในการสร้างท้องฟ้าใต้ดิน ซึ่งได้ออกมาเป็นลวดลายของท้องฟ้า และ สายรุ่งในสถานีรถไฟ Stadion และไฮไลท์เด่นของสถานีแห่งนี้ คือ การนำมาใช้เป็นสถานที่จัดงาน Pride ของกรุงสตอกโฮล์ม หรือ Stockholm Pride ด้วยนั่นเอง

 

 

เที่ยวสตอกโฮล์มช่วงไหนดีที่สุด

แน่นอนว่าการท่องเที่ยวไม่ว่าจะเที่ยวสตอกโฮล์ม หรือ ที่ไหนก็ตาม สภาพอากาศเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสุขในการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก สำหรับสตอกโฮล์ม หรือ ประเทศสวีเดนนั้น นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวได้ในทุกฤดู ขึ้นอยู่กับความชอบว่าคุณชอบบรรยากาศแบบไหน เช่น

 

• หากคุณชอบเที่ยวชื่นชมบรรยากาศหิมะ: แนะนำให้ไปเที่ยวสตอกโฮล์มในเดือน ธันวาคม – มีนาคม ซึ่งจะมีสภาพอากาศอยู่ที่ 2-10 องศาเซลเซียส และ มีหิมะตกประปราย  

 

• หากคุณเป็นคนชอบความครึกครื้น และ เทศกาลสังสรรค์ต่างๆ: แนะนำให้ไปในช่วง มิถุนายน – สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงหน้าร้อน และ ช่วง High Season ของกรุงสตอกโฮล์ม

 

• หากคุณเป็นคนชอบบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสี และ สภาพอากาศที่เย็นกำลังดี: แนะนำในช่วงเดือน กันยายน – พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่อุณหภูมิอยู่ที่ 5-18 องศา เพราะเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีคาบเกี่ยวกับฤดูใบไม้ร่วงของสตอกโฮล์ม 

 

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด หากมีโอกาสได้มาเยี่ยมเยือนสตอกโฮล์มนั้น คือ การได้ลิ้มลองอาหารพื้นเมืองของชาวสวีเดน ซึ่งจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก ‘Raggmunk’ หรือ ที่คนไทยรู้จักกันใน “นามแพนเค้กมันฝรั่งสวีเดน” ซึ่งเป็นของทอด เสิร์ฟพร้อมเนย และ เบคอน โดยชาวสวีเดนจะชอบรับประทานกันในหน้าหนาว

 

หากนักท่องเที่ยวคนไหน ที่กำลังวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวที่สตอกโฮล์มอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน ขั้นตอนในการขอวีซ่าเชงเก้นเป็นอย่างไร จองตั๋วยังไงให้คุ้มค่า ไปเที่ยวที่ไหนที่โด่งดัง หรือ วางโปรแกรมท่องเที่ยวให้สะดวกสบายที่สุดนั้น ต้องเป็นแบบไหน ทาง Artralux เรามีบริการจัดโปรแกรมท่องเที่ยว และ บริการรับทำวีซ่า ที่จะทำให้การท่องเที่ยวที่เมืองสตอกโฮล์มของคุณเป็นดั่งฝัน  

 

หากสนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)  

📞 | 02-047-0083

💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42 

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว