อาหารอังกฤษ (British Traditional Food) เป็นอาหารที่ทีชื่อเสียง และ เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั่วโลก ทั้งนี้เนื่องจากรสชาติของอาหารประจำชาติอังกฤษที่มักจะมีรสชาจิไม่จัดจ้าน เน้นไปที่ความกล่มกล่อม และ การผสมผสานกันได้อย่างลงตัวระหว่างวัตถุดิบ และ เครื่องเทศแต่ละชนิด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอาหารอังกฤษจะเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย แต่ก็รู้หรือไม่ว่าแท้ที่จริงแล้ว มีผู้คนจำนวนไม่น้อยเลยที่วิจารว่าเมนูอาหารประจำชาติอังกฤษนั้น ค่อนข้าง “Bland” และ “Boring” นอกจากนี้ อาหารอังกฤษ ยังถูกมองว่าเป็นเมนูอาหารที่ไม่มีประโยชน์ หรือ ที่คนไทยชอบเรียกกันว่า Junk Food นั่นเอง แต่เชื่อหรือไม่ว่าหากคุณได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศอังกฤษแล้วหละก็ คุณจะต้องตะลึงกับความหลากหลายของเมนูอาหารอังกฤษ, ความแตกต่างที่เหมือนกันของอาหารอังกฤษแต่ละพื้นเมือง และ ที่พลาดไม่ได้ คือ วัฒนธรรมการประทานอาหารของชาวอังกฤษที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน
วันนี้ทาง Artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำ จึงได้รวบรวมเมนูอาหารอังกฤษ ทั้ง 10 เมนู พร้อมกับข้อมูลอาหารประจำชาติอังกฤษ ที่เราต่างคุ้นเคยกันดี อย่าง เมนู Fish & Chips และ วัฒนธรรมารกินอาหารอังกฤษของชาวเมืองผู้ดีที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาฝาก ซึ่งเนื้อหาจะมีอะไรบ้างนั้น เราไปดูพร้อมๆ กันได้เลย!
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
ทำไม Fish & Chips จึงกลายเป็นอาหารประจำชาติอังกฤษ
เมื่อกล่าวถึงเมนูอาหารอังกฤษขึ้นชื่อ ที่เป็นเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ประจำชาติของประเทศอังกฤษควบคู่กับแลนด์มาร์กท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศอย่าง หอนาฬิกาบิ๊กเบน แล้วละก็ เมนูนั้นคงจะเป็นเมนูอะไรไปไม่ได้นอกจากเมนู Fish & Chips ซึ่งเป็นอาหารจานร้อน หน้าตาเรียบง่าย กลิ่นหอมกรุ่น ประกอบไปด้วย เนื้อปลาทอด และ มันฝรั่งทอดในจานเดียวกัน
เมนูอาหารประจำชาติอังกฤษ หรือ Fish & Chips จานนี้ สามารถหาทานได้ง่ายมากในประเทศอังกฤษ เรียกได้ว่ามีแทบจะทุกร้านจะต้องเมนู Fish & Chips ขายก็ว่าได้ แต่เชื่อหรือไม่ว่า เมนูที่หน้าตา และ รสชาติตะโกนคำว่า “บริติช” จานนี้ แท้ที่จริงแล้ว ไม่ได้คิดค้นโดยชาวอังกฤษแต่อย่างใด
ส่วนของปลา (Fish) ถูกคิดค้นโดยชาวยิวที่ได้อพยพเข้ามายังประเทศอังกฤษ ซึ่งเขาได้นำเนื้อปลาค็อด หรือ ปลาแฮดด็อก ไปชุบแป้ง และ นำไปทอด เพื่อเป็นการถนอมอาหารในทุกวันศุกร์ของอาทิตย์สำหรับไว้รับประทานในวัน Sabbath โดยเมนูนี้มีชื่อว่า “Pescado frito” ในขณะที่มันฝรั่งทอด (Chips) นั้น ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันจนถึงปัจจุบันว่าถูกคิดค้นโดยชาวฝรั่งเศส หรือ ชาวเบลเยี่ยมกันแน่ อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา Joseph Malin ผู้อพยพชาวยิวที่เดินทางเข้ามายังประเทศอังกฤษ ได้ทำการเปิดร้าน Fish & Chips ในช่วงปี ค.ศ 1860 บน ถนน Cleveland เมือง London เมนูอาหารอังกฤษ Fish & Chips จานนี้ จึงได้เริ่มเป็นที่รู็จัก และ แพร่หลายมากขึ้น เพราะอาหารจานนี้มีราคาที่ไม่แพง แถมทานง่าย เหมาะสำหรับผู้คนในทุกวัย และ ทุกชนชั้นของอังกฤษในสมัยนั้น
10 เมนูอาหารอังกฤษ ต้องลองหากมีโอกาสได้มาเที่ยวอังกฤษ
หลังจากที่เราได้เรียนรู้ถึงแหล่งที่มา และ อาหารประจำชาติของประเทศอังกฤษ อย่างเมนู Fish & Chips กันไปแล้ว แน่นอนว่าประเทศท่องเที่ยวที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ ประกอบไปด้วยดินแดนทั้งหมด 4 ดินแดน ได้แก่ อังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์ และ ไอร์แลนด์เหนือ อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อในเรื่องของวัฒนธรรมการรับประทานอาหารที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานอย่างประเทศสหราชอาณาจักรแล้วละก็ แน่นอนว่าจะต้องมีเมนูอาหารน่าลองที่มากกว่าเมนู “ Fish & Chips” อย่างแน่นอน ซึ่งรับรองเลยว่าทั้ง 10 เมนูอาหารอังกฤษที่เราได้รวบรวมมาให้ได้ดูกันในวันนี้ จะเป็นเมนูที่ควรค่าแก่การลิ้มลองเป็นอย่างยิ่ง
1. อาหารเช้าอังกฤษ (Full English Breakfast)
เราขอเริ่มต้นเมนูอาหารอังกฤษกันที่ เมนูอาหารเช้าอังกฤษ (Full Englsish Breakfast) หรือที่ชาวอังกฤษเรียกกันว่า Fry-up Breakfast อันโด่งดัง ซึ่งแม้จะเป็นอาหารเช้า แต่บอกเลยว่าจึ้นชื่อว่าเป็นเมนูอาหารเช้าอังกฤษแล้วละก็ อิ่มท้องอยู่ได้ถึงเย็นแน่นอน เพราะจานนี้มาพร้อมกับพลังงานอย่างเต็มเปี่ยม อุดมไปด้วยโปรตีน และ คาร์โบไฮเดรต ซึ่งโดยปกติแล้ว เมนูนี้จะประกอบไปด้วยองค์ประกอบทั้งหมด 8-9 อย่างด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น เบคอนทอด (Grilled Bacons), ไส้กรอกทอด (Grilled Sausages), ไข่ดาวแบบไม่สุก (Sunny Side up Fried Eggs), มันฝรั่งบดผสมแป้ง (Hash Brown), มะเขือเทศผัดเนย (Grilled Tomato), ไส้กรอกที่ทำมาจากเลือด เนื้อ และข้าวโอ๊ต (Black Puddings) และ ที่ไม่มีไม่ถือว่าเป็นอาหารเช้าอังกฤษนั้น คือ “ถั่วอบในซอสมะเขือเทศ” หรือ “Baked Beans” นั่นเอง
ซึ่งเรื่องราวความเป็นมาของเมนูอาหารเช้าอังกฤษจานนี้นั้น ต้องเล่าย้อนไปตั้งแต่ในสมัยอังกฤษยุคกลาง ซึ่งในเวลานั้น คนอังกฤษมักจะทานข้าวแค่ 2 มื้อเท่านั้น ดังนั้น อาหารเช้าจะเป็นมื้อที่หนัก และเน้นไปทางประเภทวัตถุดิบอาหารที่มีพลังงานสูง นอกจากนี้โต๊ะอาหารของคนชั้นสูง จะมีการจัดวางอาหารหลายประเภท สีสันสดใส และ สวยงามในมื้อเดียว ด้วยเหตุนี้ ในช่วงยุควิตอเรียที่ประชาชนเริ่มมีฐานะมากขึ้น จึงได้ลอกเลียนแบบโต๊ะอาหารของชนชั้นสูง กลายมาเป็นเมนู Full English Breakfast อย่างในปัจจุบัน
2. ไข่สก๊อต (Scotch Eggs)
เมนูอาหารอังกฤษ เมนูที่สองที่ทาง Artralux อยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ไปลิ้มลองกันนั้น คือ เมนูไข่สก๊อต ซึ่งแม้ว่าเมนูนี้จะมีหน้าตาแปลกประหลาดไปสักหน่อย แต่รับรองว่ารสชาติอร่อยนุ่มนวลไม่เป็นรองใคร โดยเมนูนี้ทำมาจากไข่ต้มสุกกำลังดี ไข่แดงเยิ้มๆ ไปคลุกเคล้ากับเนื้อสัตว์ หรือ เนื้อไส้กรอก จากนั้นนำไปคลุกกับเกร็ดขนมปัง และ นำไปทอดจนได้เป็นสีเหลืองทอง กรอบอร่อย ซึ่งอาหารอังกฤษจานนี้นิยมรับประทานกันในระหว่างนั่งปิกนิค อีกทั้งยังนิยมรับประทานแบบเย็นๆ มากกว่าการทานแบบร้อนๆ ออกมาจากกระทะ
โดยหเางสรรพสินค้าชื่อดังของประเทศอังกฤษ Fortnum and Mason ไดเคลมว่า พวกเขาได้เป็นคนคิดค้นเมนูนี้ขึ้นมา ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเมนูเสริมกำลังให้แก่นักเดินทางที่ร่ำรวย ผู็เดินทางเข้ามายังประเทศัองกฤษจากดินแดนไกลด้วยรถม้าของพวกเขา
3. บีฟ เวลลิงตัน (Beef Wellington)
อีกหนึ่งเมนูอาหารอังกฤษขึ้นชื่อ ที่ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ กับเมนู Beef Wellington ซึ่งเป็นเมนูที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับสากล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของรสชาติที่กล่มกฃล่อมและเข้ากันได้อย่างลงตัวของเห็ดผัด ฟัวกราส์ และเนื้อที่มีความชุ่มฉ่ำ ระดับ Medium Rare นอกจากนี้ เมนูนี้ยังมีหน้าตาที่งดงาม ตัวสเต๊กเนื้อสันย่างถูกนำไปปรุงรสด้วยเห็ดหอม หัวหอม และ เครื่องเทศ จากนั้นนำไปอบ และนำไปเคลือบด้วยดักเซล (Duxelles) ห่อหุ้มด้วยพาร์มาแฮม (Parma Ham) และ ฟัวกราส์ ต่อจากนั้นจึงทำการห่อด้วยแป้งพัฟเพสตรี (Puff Pastry) อีกชั้น ซึ่งถึงแม้ว่าอาจจะฟังดูง่าย แต่รู็หรือไม่ว่าเมนูนี้ เป็นเมนูอาหารอังกฤษที่เชฟชื่อดังระดับโลกอย่าง คุณ กอร์ดอน แรมซีย์ (Gordon Ramsay) ยังพูดออกมาเลยว่า “อยากกินนะ แต่ไม่ขอทำดีกว่า”
4. เชพเพิร์ดพาย (Shepherd’s Pie)
เมนูเชพเพิร์ดพาย (Shepherd’s Pie) เป็นอาหารประจำชาติของอังกฤษ ที่ถึงแม้ว่าจะมีชื่อเรียกว่า พาย แต่บอกได้เลยว่ารสชาติไม่มีความเหมือนพายเลยสักนิด ออกจะไปในทางอาหารคาวเสียมากกว่า ซึ่งเมนูนี้เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มแม่น้ำของชนชั้นแรงงานในสมัยก่อน เนื่องจากเป็นเมนูที่มีประโยชน์ ให้พลังงานสูง อีกทั้งยังประหยัด เพราะทำมาจากการนำเอาเนื้อที่เหลือจากการทำอาหารมาบดรวมกัน (โดยส่วนมากจะนิยมใช้เป็นเนื้อบด และ เนื้อแกะ) จากนั้นจึงโปะหน้าด้วยมันบดผสมไข่แดงและนำไปอบให้มีความกรอบนิดๆ
ซึ่งเมนูนี้ ถือว่าเป็ฯเมนูอาหารอังกฤษที่มีประโยชน์ อิ่มอร่อย แถมยังทานง่าย จึงได้กลายเป็นอาหารอังกฤษ เมนู Staple ประจำทุกครัวเรือนเลยก็ว่าได้
5. ไส้กรอก และมันบด (Bangers and Mash)
หากพูดถึงเมนูอาหารอังกฤษสุดคลาสสิคที่หน้าตาอาหารเหมือนจะไม่มีอะไร แต่ความอร่อยที่เรียบง่าย กลับเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ซึ่งเมนูนั้น เราขอยกให้เมนูไส้กรอก และ มันบด หรือ เมนูBangers and Mash โยอาหารจานนี้นิยมรับประทานกันในหน้าหนาว และ หาทานได้ง่ายมากๆ โดยเฉพาะอย่างยบิ่งในร้านอาหารประเภท Gastropub ซึ่งกรรมวิธีในการทำไม่ได้ยากหรือซับซ้อนอะไร โดยเชฟจะนำเอาไส้กรอกขนาดใหญ่ เนื้อแน่นๆ หรือ ไส้กรอกเบอร์ลินดีๆ นี่เอง มาทำการปรุงรส ด้วยเครื่องเทศ และ พริกไทย จากนั้นท็อปด้านบนด้วยหอมใหญ่ผัดน้ำส้มบัลซามิค เสิร์ฟร้อนๆ พร้อมกับมันบด ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์ตรงที่ว่า มันบดดังกล่าวจะบดไม่ละเอียด ทั้งนี้เพื่อให้ผู้กินได้สัมผัสถึง Texture ที่ไม่ละเอียด และ เพลิดเพลินกับการกินมากขึ้น จากนั้นราดด้วยน้ำซอสเกรวี่ผสมโรสแมรี่ เพื่อเพิ่มความหวาน และ กลิ่นที่หอมชวนให้รับประทาน
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
6. พายสเต็กเนื้อกับไต (Steak and Kidney Pie)
อีกหนึ่งเมนูอาหารอังกฤษที่หากคุณเป็นแฟนคลับภาพยนต์เรื่องแฮรี่ พอตเตอร์ จะต้องเคยเห็นหน้า หรือ เคยได้ยินชื่อเมนูนี้กันมาแล้วบ้าง โดยเมนูนี้เป็นเมนูอาหารยอดนิยมของชาวบริติช ทำมาจากสเต็กเนื้อวัว หรือ เนื้อแกะ ซึ่งนำมาผัดรวมกับไตวัว และเคี้ยวด้วยน้ำเกรวี่หวานๆ จนเนื้อเปื่อย และ มีรสชาติที่กลมกล่อม จากนั้นนำมายัดใส่ไว้ในพายที่ได้เตรียมเอาไว้แล้ว เป็นเมนูที่นิยมรับประทานในหน้าหนาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เสิร์ฟพร้อมๆ กับมันบด ถั่วเขียว และ น้ำเกรวี่ ซึ่งสำหรับคนอังกฤษแล้ว เมนูนี้ เป็นเมนูความทรงจำสมัยเด็ก ในช่วงเทศกาลก็ว่าได้
7. ยอร์คเชอร์ พุดดิ้ง (Yorkshire Pudding)
ยอร์คเชอร์ พุดดิ้ง เป็นเมนูอาหารประจำประเทศอังกฤษ ที่มีหน้าตา และ ชื่อเหมือนขนมหวาน แต่แท้ที่จริงแล้ว อาหารจานนี้เป็นพุดดิ้งอาหารคาว ที่รสชาติไม่หวาน ออกไปทางเค็มซะมากกว่า โดยจานนี้ มีส่วนผสมหลักเป็นไข่ แป้ง และ นม นิยมรับประทานเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยก่อนอาหารมื้อหลัก หรือ รับประทานเป็นอาหารเครื่องเคียงซึ่งเสิร์ฟพร้อมกับเนื้ออบ หรือ Rosted Beef นั่นเอง โดยในปัจจุบันพุดดิ้งจานนี้ นิยมรับประทานในกิจกรรม Sunday Rosted ซึ่งเป็นการรับประทานอาหารกับคนในครอบครัวหลังจากที่ได้เข้าโบส์ถเพื่อทำพิธีกรรมทางศาสนาทุกวันอาทิตย์ และสาเหตุที่พุดดิ้งที่ว่านี้ จัดอยู่ในกลุ่มอาหารอังกฤษ ประเภทคาวนั้น เป็นเพราะพุดดิ้งนี้จะถูกราดด้วยซอสเกรวี่ จะมีรสชาติออกไปในทางเค็ม กินควบคู่กับเนื้อย่างร้อนๆ นั่นเอง
8. ครัมเป็ต (Crumpets)
ครัมเป็ต (Crumpets) เป็นเมนูอาหารเช้าอังกฤษที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับแพนเค้ก มีรูปร่างกลม มีรูพรุน เนื้อสัมผัสนุ่มนิ่ม ทำมาจากเนื้อแป้ง หรือ มันฝรั่งหมักผสมกับยีสต์เพื่อความฟู่ และ หนานุ่ม โดยคนอังกฤษนิยมรับประทานเป็นอาหารเช้า สามารถเป็นได้ทั้งอาหารคาว และ ของหวาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอาหารที่กินควบคู่กับครัมเป็ตนั่นเอง เชื่อกันว่าครัมเป็ตนั้น มีต้นกำเนิดมาจากเมืองเวลส์ ก่อนที่จะถูกแพร่หลายอย่างกว้างขวางในประเทศอังกฤษ โดย เอลิซาเบธ ราฟฟาลด์
เอกลักษณ์ของครัมเป็ตที่แตกต่างจากแพนเค้กทั่วไป คือ ลักษณะที่มีรูพรุ่น ซึ่ง Texture เหล่านี้เอง จะช่วยในการดูดซึมซอส และ เนยต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
9. สตูว์ไอริช (Irish Stew)
และก็มาถึงเมนูอาหารอังกฤษที่ชาวอังกฤษนิยมรับประทานเป็นอาหารมื้อเย็นควบคู่ไปกับเบียร์ อย่างสตูว์ไอริช (Irish Stew) ซึ่งอาหารจานนี้ มีเรื่องราวความเป็นมาที่น่าสนใจอย่างมาก เดิมทีมีต้นกำเนิดมาจากชาวไอริช และ เป็นอาหารยอดนิยมในกลุ่มคนชนชั้นกลาง จนถึงชนชั้นแรงงาน ทั้งนี้เนื่องจากอาหารจานนี้ประกอบไปด้วยส่วนผสมสำคัญเพียงแค่ 2 อย่างเท่านั้น นั่นคือ เนื้อแกะแก่ (Mutton) และ มันฝรั่ง (Potato) ซึ่งเป็นวัตถุในการทำอาหารที่หาได้ง่ายมากแต่กลับให้พลังงานอย่างเพียงพอ ในอดีตชาวไอริชได้กล่าวว่า วัตถุดิบในการทำสตูว์ไอริช (Irish Stew) ไม่ควรจะใส่อะไรหลายอย่าง นอกเหนือจาก เนื้อ และ หัวหอม
อย่างไรก็ตาม ในสมัยนี้ ได้เริ่มมีการนำวัตถุดิบอื่นๆ มาผสมผสานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แครอท พาร์สนิป หัวผักกาด และเนื้อสัตว์ประเภทอื่นๆ เช่น เนื้อวัว และ เนื้อแกะ ในที่สำคัญได้มีการนำเอาเบียร์ดำ หรือ เบียร์ Guinness (กินเนสส์) เขามาผสม ซึ่งเป็นการทำให้รสชาติของอาหารจานนี้อร่อยขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว
10. เยลลีปลาไหล (Jellied Eels)
และก็มาถึงอาหารอังกฤษเมนูสุดท้าย กับเมนูเยลลีปลาไหล ซึ่งเชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายคนอาจจะยังไม่เคยเห็น หรือ ไม่คุ้นเคยกันแน่นอน แต่เชื่อหรือไม่ว่าอาหารจานนี้แหละ เป็นอาหารที่มีรสชาติแบบอังกฤษดั้งเดิมแท้ๆ และแม้ว่าอาหารจานนี้กำลังเริ่มจะเรือนหายไปจากกาลเวลา แต่เชื้อว่าชาวอังกฤษทุกคนรู้ดีว่า เ้าเมนู Jellied Eels คือ อาหารอังกฤษแท้ในตำราอาหารดั้งเดิมของอังกฤษ (Traditional dishes of Britain) อย่างแท้จริง
ในอดีต อาหารอังกฤษจานนี้ เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มชนชั้นแรงงาน ทั้งนี้เนื่องจากปลาไหลหาทานได้ง่ายมาก มีอยู่ตามแม่น้ำลำธารของกรุงลอนดอน ซึ่งชาวบ้านนิยมจับปลาไหลมารับประทานกันในทุกวัน ในส่วนของเนื้อเยลลี่นั้น เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติหลังจากที่นำเอาปลาไหลไปต้มน้ำเดือด เพราะที่หนังปลาไหลนั้น มีคอลลาเจนจำนวนมาก คอลลาเจนจากหนังปลาจึงจับตัวกันจนกลายเป็นเยลลีปลาไหลในที่สุดนั่นเอง
นักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศัองกฤษ เพื่อลิ้มลองอาหารอังกฤษ และ อาหารอังกฤษประจำชาติแท้ๆ จากฝีมือพ่อครัวอังกฤษแท้ๆ สามารถติดต่อสอบถาม Artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำ ผู้มากประสบการณ์กว่า 10 ปี เราสามารถจัดโปรแกรมท่องเที่ยวประเทศอังกฤษให้คุณได้ โดยไม่มีข้อ ซึ่งไม่ว่าคุณจะอยากเที่ยวที่ไหน พักโรงแรมอไร หรือ รับประทานอาหารอังกฤษขึ้นชื่อที่ร้านไหน Artralux จัดให้ได้แน่นอน!
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว