“เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์” เชื่อว่าประโยคนี้ เป็นประโยคยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย เพราะต้องยอมรับเลยว่า หากนึกถึงประเทศในแทบยุโรปที่มาพร้อมกับความสวยงาม อากาศหนาวเย็นบริสุทธิ์ และ วัฒนธรรมที่ไม่เหมือนใครในโลก ซึ่งควรค่าอย่างยิ่งแก่การเสียเงินท่องเที่ยว “ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)” คงจะเป็นประเทศที่อยู่ในอันดับต้นๆ อย่างไม่ต้องสงสัย แม้ประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะเป็นประเทศขนาดเล็ก โดยมีพื้นที่เพียงแค่ 15,941 ตารางไมล์ (41,290 ตารางกิโลเมตร) แต่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้น กลับเต็มไปด้วยความงดงามทางธรรมชาติ เป็นพื้นแผ่นดินที่มีทั้งทะเลสาบ พื้นหญ้าอันเขียวชอุ่ม สายน้ำ ลำธาร ป่าไม้ อีกทั้งยังเป็นประเทศที่เทือกเขาแอลป์ หรือ เทือกเขาที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปพาดผ่านกว่า 70 % ของพื้นที่ประเทศ ด้วยเหตุนี้เอง นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติทั้งหลาย จึงเลือกที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ เพราะ ที่สวิสฯ คือ ที่ที่คุณจะได้รู้จักกับคำว่า “The Bauty of Nature” อย่างแท้จริง
ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่ควรค่าแก่การไปชื่นชม มีมากมายหลายแห่ง ทั้งนี้เนื่องจากหากพูดถึงประเทศที่มีเสน่ห์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของธรรมชาติ วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม และ อาหารการกินแล้ว ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คือ ประเทศท่องเที่ยวที่สามารถตอบโจทย์นักท่องเที่ยวได้ในทุกสไตล์ และเพื่อให้นักท่องเที่ยวของเราได้ไปสัมผัสความงดงามของประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่างแท้จริง แม้จะในระยะเวลาอันสั้น Artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำ จึงได้รวบรวมที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ 15 แห่งมาฝากเพื่อนๆ กัน ซึ่งจะมีที่ไหนบ้างนั้น ไปดูพร้อมๆ กันเลย!
15 ที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์สุดฟิน ไปไม่เสียดายแย่!
หากพูดถึงที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ และ กิจกรรมท่องเที่ยวเด็ดๆ ที่พลาดไม่ได้ เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงจะนึกถึงการเล่นสกีวิวหลักล้านที่เทือกเขาเซอร์แมท ( Zermatt ), ล่องเรือดื่มด่ำกับบรรยากาศเมืองเก่าซูริค ( Zurich ), นั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามยอดเขาทิตลิส ( Mount Titlis ) และ นั่งรถไฟ Glacier Express เพื่อชมบรรยากาศธรรมชาติของที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ แต่จริงๆ แล้ว ประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอีกเพียบ ซึ่ง Artralux ได้รวบรวม มาให้เพื่อนๆ แล้วดังนี้
1. ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn)
เปิดประเดิมที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่แรกกับสัญลักษณ์ ซึ่งเปรียบเสมือนมงกุฎของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ว่าได้ ซึ่งสิ่งนั้นจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากที่ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) เจ้ายอดเขาทรงพิรามิตความสูง 4,478 เมตร หรือ ประมาณ 14,692 ฟุต ซึ่งเป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ และหนึ่งในเหตุผลที่ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่พลาดไม่ได้นั้นเพราะยอดเขาแห่งนี้ คือสัญลักษณ์ทางการค้าที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นโลโก้ช็อกโกแลต Toblerone หรือ โลโก้ผู้ผลิตภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง Paramount Pictures นั่นเอง
การที่นักท่องเที่ยวจะขึ้นไปชื่นชมยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นใกล้ๆ ได้นั้น จะต้องเดินทางไปที่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาแอลป์ ในรัฐวาเล (Valais) เสียก่อน จากนั้นจึงนั่งรถไฟสาย The Matterhorn Railway จากสถานี Gornergrat Bahn เพื่อเดินทางไปชมวิวยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นได้อย่างใกล้ชิด โดนจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง หรือ หากใครอยากนั่งกระเช้าลอยฟ้า หรือ เคเบิลคาร์แมทเทอร์ฮอร์นชื่อดัง สามารถเดินทางไปได้ โดยเริ่มเดินทางจากสถานี Zermatt ZBAG-Iz ทางใต้สุดของเซอร์แมท ไปลงที่สถานี Klein Matterhorn (Matterhorn Glacier Paradise) ซึ่งเป็นสถานีที่ตั้งของเคเบิ้ลคาร์ในตำนานนั่นเอง
2. เมืองซูริค (Zürich)
อีกหนึ่งสถานที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ยอดฮิตอีกหนึ่งแห่งที่เป็นขวัญใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ในลักษณะครอบครัว ต้องการสไตล์ท่องเที่ยวแบบชิลๆ ไม่ผจญภัยอะไรมากมาย แต่ได้สัมผัสบรรยากาศความเป็นเมืองสวิสฯ อย่างแท้จริง เราขอแนะนำเป็นเมืองซูริค (Zürich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยไฮไลท์ของเมือง คือที่ย่านเมืองเก่า Zurich Old Town Area (Altstadt) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง ถนนปูด้วยหินกรวดคดเคี้ยว อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วยบ้านเรือน และ อาคารที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ที่ได้ถูกอนุรักษ์ไว้ตั้งแต่ในยุคโบราณเมดิอิวัล (Medieval)
เมืองซูริค ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่ประชากรมีความสุข และ มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งนี้เนื่องจากเมืองซูริคนั้น ตั้งอยู่ขนาบข้างของแม่น้ำลิมมัต (Limmat River) ที่มีความสวยงามซึ่งช่วยลดความตึงเครียดของประชากรได้ในแต่ละวัน นอกจากนี้แม้ซูริคจะเป็นเมืองที่รักษาสถาปัตยกรรมยุโรปโบราณไว้เป็นอย่างดี แต่ที่นี้เองก็เป็นเมืองที่มีความเจริญทางเทคโนโลยีสมัยใหม่มากที่สุดอีกแห่งของโลก
3. โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster Church)
หนึ่งในไฮไลท์ที่เที่ยวของเมืองซูริค ที่เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่พลาดไม่ได้ หนีไม่พ้น โบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster Church) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์เมืองซูริค โดยโบสถ์แห่งนี้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำลิมมัต ใจกลางเมืองใกล้ๆ กับสะพานมุนสเตอร์ (Münster Bridge) มีความเก่าแก่ ถูกก่อสร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ 853 โดยกษัตริย์หลุยส์แห่งบาวาเรีย ประเทศเยอรมนีเพื่อเป็นของขวัญให้กับลูกสาวขงอตน ซึ่งความน่าทึ่งก็คือ โบสถ์ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมอันงดงามแห่งนี้ เดิมสร้างขึ้นด้วยซากปรุงหักพังของวิหารสำหรับสตรีชนชั้นขุนนางในสมัยก่อน
ภายนอกโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบกอธิค (Gothic) มีการตกแต่างด้วยกระจกบานใหญ่หลากสีถึง 5 บาน หรือที่เรียกว่า กระจกชากาล ซึ่งแต่ละบานได้สะท้อนเรื่องราวเกี่ยวกับคริสเตียนออกแบบโดยสถาปนิกชาวเบลารุส-ฝรั่งเศสนั่นเอง แต่สำหรับตานักท่องเที่ยวอย่างเราๆ ส่วนที่โดดเด่นที่สุดของโบสถ์ฟรอมุนสเตอร์ (Fraumunster Church) คงจะหนีไม่พ้นยอดโบสถ์ปลายแหลมสีเขียวพาสเทลที่มองเห็นได้ตั้งแต่ไกล และ บริเวณรอบๆ โบสถ์ ที่เป็นเหมือนเมืองเล็กๆ เต็มไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้าสินค้าแบรนด์เนม และ ร้านขายของน่ารักๆ มากมาย ซึ่งบอกได้เลยว่าถ่ายรูปสวยแน่นอน
4. รถไฟสาย Glacier Express
มาเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ทั้งที จะพลาดไม่ขึ้นรถไฟสีแดงสุดไอคอนิก เพื่อเที่ยวชมบรรยากาศ และ ทัศนียภาพที่สวยงามระดับ Breath-Taking ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้อย่างไร ซึ่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีสายรถไฟที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งหมด 4 สายด้วยกัน แต่สายที่เรียกได้ว่ามีทัศนียภาพสวยที่สุดในโลกนั้น คือ เส้นทางสายรถไฟ Glacier Express ซึ่งเป็นสายรถไฟที่จะพาคุณเดินทางชมวิวข้างทางอันงดงาม เริ่มต้นที่เมือง Zermatt ไปจนถึงเมือง St. Moritz โดยใช้เวลาเดินทางอยู่ที่ประมาณ 8-9 ชั่วโมง ซึ่งระหว่างทางคุณจะได้ผ่านวิวที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็นวิวทะเลสาบ ทุ่งหญ้า เทือกเขา หมู่บ้าน และ ธารน้ำแข็ง ซึ่งไฮไลท์ของเส้นทางนี้ คือ วิวของเทือกเขา Swiss Alps และยอดเขา Matterhorn อันโด่งดัง หนึ่งในที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่นักท่องเที่ยวอยากไปสัมผัสบรรยากาศมากที่สุด
โดยเส้นทางนี้ หากคุณนักไปจนสุดสาย จะขับผ่านช่องเขาโอแบร์อัลพ์ ที่ระดับความสูง 2,045 เมตร ข้ามสะพานทั้งหมด 291 สะพาน และอุโมงค์ค์อีกทั้งหมด 91 อุโมงค์ค์ด้วยกัน โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 152 CHF โดยคุณสามารถศึกษาราคาค่าโดยสารแต่ละสถานีได้ที่ลิ้งนี้เลย
5. เมืองลูเซิร์น (Lucerne)
หากพูดถึงเมืองที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่นักท่องเที่ยวชาวไทย นิยมเดินทางมาท่องเที่ยวมากที่สุดเป็นอันดับสอง ลองลงมาจากเมืองใหญ่อย่างเมืองซูริคนั้น ได้แก่ เมืองลูเซิร์น (Lucerne) ทั้งนี้เนื่องจากเมืองลูเซิร์นนั้น ห่างจากตัวเมืองซูริคเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น อีกทั้งยังเป็นเมืองที่วิวดีแบบเว่อร์ๆ เพราะเมืองแห่งนี้ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบถึงสองแห่ง ได้แก่ ทะเลสาบลูเซิร์นและแม่น้ำรอยส์ (Reuss) อีกทั้งยังโอบล้อมด้วยยอดเขาชื่อดัง นั้นคือ ยอดเขาริกิ และยอดเขาพิลาตุส ซึ่งสามารถมองเห็ฯได้ชัดเจนจากตัวเมืองเลยทีเดียว
เมืองลูเซิร์น เป็นที่ตั้งของสถานีที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ที่มีชื่อเสียง อย่างสะพานไม้ชาเปล (Chapel Bridge) ซึ่งสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ถูกสร้างขึ้นใน ค.ศ. 1333 ตามทางเดินประกอบไปด้วยภาพจิตรกรรมอันล้ำค่าตั้งแต่ในอดีต และไฮไลท์ของสะพานแห่งนี้ คือ หอคอยแปดเหลี่ยมที่ถูกเชื่อมต่อด้วยสะพาน ซึ่งหอคอยแห่งนี้ในอดีตเคยเป็นที่คุมขังนักโทษอีกด้วย
6. หอนาฬิกาดาราศาสตร์ Zytglogge Clock Tower ที่กรุงเบิร์น (Bern)
อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ ที่มาสวิสฯ ทั้งที ถ้าพลาดมาเยี่ยมชมถือว่ามาไม่ถึง นั้น คงจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากกรุงเบิร์น (Bern) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศวสิตเซอร์แลนด์ แม้ขนาดของเมืองจะไม่ได้ใหญ่โตเท่ากับเมืองซูริค แต่เมืองนี้เอง เป็นเมืองที่ตะโกนคำว่าสวิตเซอร์แลนด์ได้อย่างชัดเจนที่สุด เสน่ห์ของเมือง คือ สถาปัตยกรรม แผนผังเมือง และ อาคารทรงยุโรปโบราณที่ได้คงรักษาไว้ตั้งแต่เมื่อ 800 ปีก่อน จนทำให้เมืองนี้ได้ถูกจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลกจาก UNESCO อีกด้วย
โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของเมือง คือ หอนาฬิกาดาราศาสตร์ Zytglogge Clock Tower ซึ่งเป็นหอนาฬิกาที่มีอายุเก่าแก่ร่วมกว่า 500 ปี มีขนาดใหญ่ มีหน้านาฬิกา 2 ด้าน โดยด้านตะวันตกเป็นหน้าปัดแบบเข็ม อีกฝั่งเป็นนาฬิกาดาราศาสตร์โบราณ ซึ่งจะมีลูกเล่นเป็นตุ๊กตากล ประกอบไปด้วยสัตว์น้อยน่ารักๆ ไม่ว่าจะเป็นสิงโต หมี ไก่ และ อัศวินต่างๆ ออกมาทักทายตามเวลาให้นักท่องเที่ยวได้ตื่นตาตื่นใจ หอนาฬิกาดังกล่าวตั้งอยู่บนถนนมาร์คกาสเซ Marktgasse ถนนตลาดคนเดินทาง ที่รายล้อมไปด้วยอาคารทรงโบราณอันงดงาม
7. สวนกุหลาบ (Rosengarten)
ยังคงอยู่กันที่เมืองเบิร์น (Bern) กับอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ได้รับความนิยมไม่น้อยหน้าไปกว่าหอนาฬิกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ เดือนเมษายน และ เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ เดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลินั้นก็คือ ที่สวนดอกกุหลาบ Rosengarten ซึ่งเป็นสวนดอกกุหลาบที่ใหญ่ และ งดงามที่สุดอีกแห่งของโลก โดยที่สวนแห่งนี้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ จะมีดอกกูหลายให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมกว่า 300 ชนิด มากถึง 2,900 ดอกเลยทีเดียว นอกจากนี้สถานที่แห่งนี้เอง ยังเป็นที่ที่คุณจะได้เห็นดอก French Rose ซึ่งเป็นสายพันธุ์ดอกกุหลาบที่หายากที่สุดในโลก และ เก่าแก่ที่สุดในปัจจุบัน
ถือเป็นหนึ่งในจุดถ่ายรูปที่สวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของกรุงเบิร์นก็ว่าได้ เพราะคุณจะสามารถมองเห็นวิวเมืองเบิร์นได้ทั้งเมืองแบบ Panorama จากสวนแห่งนี้นั่นเอง
8. ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau)
ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfrau) เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ มีความสูงอยู่ที่ 3,466 เมตร (11,371 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล ตั้งอยู่ในรัฐแบร์น ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) เท่าไรนัก และต้องบอกเลยว่าไฮไลท์สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ นอกจากวิวยอดเขาที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในเทือกเขาแอลป์อย่างวิวยอดเขาจุงเฟราแล้ว การเดินทางไปยอดเขาก็น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปบนยอดเขาได้ 2 วิธี ได้แก่ การนั่งรถไฟ และ การนั่งรถกระเช้าลอยฟ้า
สำหรับการนั่งรถไฟ นักท่องเที่ยวสามารถเริ่มต้นการเดินทางกันไดที่สถานี Interlaken OST ที่เมืองอินเทอร์ลาเคน (Interlaken) และ สามารถเลือกเดินทางได้ 2 เส้นทาง ได้แก่ ทางเมืองกรินเดลวาลด์ (Grindelwald) และทางเมืองเลาเทอร์บรุนเนิน (Lauterbrunnen) ซึ่งทั้งสองเส้นทางนี้ จะผ่านทุ่งหญ้า ทะเลสาบ และ หมู่บ้าน และ ค่อยไต่เขาขึ้นไปเรื่อนๆ จนปประจบกันที่ สถานี จุงเฟรายอร์ค (Jungfraujoch) ซึ่งเป็นสถานีที่ได้ชื่อว่าสูงที่สุดในโลก (Top of Europe) ซึ่งเมื่อออกมาจากรถไฟนักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การสร้างทางรถไฟสายนี้ในอุโมงค์ยาวทันที และเมื่อออกมาจากสถานีแล้ว อย่าพลาดขึ้นไปบนหอคอย Sphinx ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะสามารถชื่นชมวิวเทือกเขาได้แบบ 360 องศานั่นเอง
9. ยอดเขากลาเซียร์ 3000 (Glacier 3000)
มาถึงสถานที่เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์สำหรับนักท่องเที่ยวสายผจญภัย ผู้กล้าหาญที่อยากจะพิสูจน์ความใจถึงกันบ้าง เราขอแนะนำเป็นที่ ยอดเขากลาเซียร์ 3000 (Glacier 3000) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภูเขากูดสตาร์ด (Gstaad Mountain) ซึ่งอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 3000 เมตร โดยไฮไลท์อยู่ที่สะพาน Th Peak Walk ซึ่งเป็นสะพานเหล็กแขวนกับสายเคเบิ้ลที่พาดผ่านระหว่างยอดเขาสองลูก ตรงทางเดินจะเป็นตะแกรงท้าทายผู้กล้า ซึ่งหากมองลงไปด้านล่างจะเห็นเป็นหุบเขานั่นเอง
นอกจากตัวสะพาน The Peak Walk แล้ว ที่นี้ยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง Alpine Coaster ซึ่งสามารถนั่งได้ทั้งเด็ก และ ผู้ใหญ่ นอกจากสนุกแล้ว วิวก็ยังสวยงามอลังการมากๆ
10. น้ำตกไรน์ (The Rhine Falls)
เราขอปิดท้ายสถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์แนะนำกันที่อีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวหลายคนมักจะมองข้ามเมื่อนึกถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อย่างที่น้ำตกไรน์ (The Rhine Falls) ซึ่งเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป มีความกว้างอยู่ที่ 450 ฟุต ความสูงของระดับน้ำที่ไหลลงมาจากที่สูงอยู่ที่ 150 ฟุต โดยสายน้ำของน้ำตกแห่งนี้ เป็นน้ำที่ไหลลงมาจากเทือกเขาแอลป์ ไหลพาดผ่านประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ นอกจากเดินทางไปถ่ายภาพความยิ่งใหญ่ที่น้ำตกไรน์แล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเล่นกิจกรรมนั่งเรือ ไหลตามทางน้ำ เพื่อชมบรรยากาศ และ ไอหมอกเหนือน้ำได้อย่างไกลชิดนั่นเอง
ตอบคำถามที่พบบ่อย เพื่อเตรียมเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ให้พร้อม
หลังจากที่ได้ทราบถึงสถานที่ท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ยอดนิยม ที่มาพร้อมกับวิวราคาหลักล้านที่ทาง Artralux ได้รวบรวมนำมาเสนอมากถึง 10 แห่งแล้ว ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเดินทางไปทอ่งเที่ยวได้อย่างมีความสุข เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ท่องเที่ยวอันล้ำค่าแบบไม่มีสะดุด ข้อมูลด้านล่างนี้ คือข้อมูลการเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์โดยพื้นฐานที่ต้องทราบก่อนออกเดินทาง
Q.1 : เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ งบเท่าไรดี ?
เชื่อว่าคำถามที่ว่า “เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ งบเท่าไร” นั้น คงจะเป็นคำถามอันดับต้นๆ ที่นักท่องเที่ยวผู้วางแผนไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์อยากทราบกันไม่น้อย จริงๆ แล้ว งบประมาณนั้น ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของแต่ละคนด้วยเช่นกัน ซึ่งในปัจจุบันอัตราค่าเงินฟรังก์สวิส (CHF) เท่ากับเงินไทยโดยประมาณที่ 40.74 บาทไทย โดยราคาค่าอาหารแต่ละมื้อ ถ้าไม่เน้นกินหรูมากมาย จะตกอยู่ที่มื้อละประมาณ 500 – 1000 บาท ในส่วนของค่าเดินทาง นักท่องเที่ยวจะนิยมเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟเป็นหลัก ดังนั้นเราจึงแนะนำให้เลือกซื้อเป็นบัตร Swiss Pass ซึ่งไม่จำกัดจำนวนครั้ง สามารถใช้โดยสารได้ทั้งรถไฟ รถบัส เรือ รวมไปจนถึงเคเบิ้ลคาร์ ราคาสำหรับ 7-8 วันจะอยู่ที่ 12,000 บาท
ดังนั้น เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์งบเท่าไรนั้น สำหรับการท่องเที่ยว 1 อาทิตย์ เราแนะนำให้เอาไปอย่างน้อย 50,000 – 60,000 บาท
Q.2 : เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ช่วงไหนดี ?
เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ช่วงไหนดี จริงๆ แล้วสำหรับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้เนื่องจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์นั้น มีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่แตกต่างกันไปในแต่ฤดู โดยสวิตเซอร์แลนด์ มีฤดูกาลทั้งหมด 4 ฤดู ดังนี้
- ฤดูหนาว (ธันวาคม – กุมภาพันธุ์)
-
- อุณหภูมิเฉลี่ย: อยู่ที่ -3 ถึง 6 องศาเซลเซียส
- สภาพอากาศ: ค่อนข้างหนาวเย็น ถึงหนาวจัด โดยในบริเวณเทือกเขา อุณหภูมิสามารถติดลบได้ไปจนถึง -10 องศาเซลเซียสเลยทีเดียว
- ไฮไลท์: ฤดูหนาวเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์มากที่สุด เนื่องจากเป็นฤดูกาลที่กิจกรรมซึ่งไฮไลท์ของประเทศอย่างกิจกรรมเล่นสกีหิมะบูมเอามากๆ โดยลานเล่นสกีของสวิตเซอร์แลนด์ชื่อดัง ได้แก่ เซนต์มอริตซ์ (St. Moritz), เซอร์แม็ต (Zermatt), เวอร์เบียร์ (Verbier), ดาวอส (Davos) และ อีกมากมาย
- ฤดูใบไม้ผลิ (มีนาคม – พฤษภาคม)
-
- อุณหภูมิเฉลี่ย: อยู่ที่ 6-13 องศาเซลเซียส
- สภาพอากาศ: อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าปลอดโปร่ง เหมาะสำหรัการเดินชมธรรมชาติ และ นั่งปิกนิกในสวนสาธารณะ
- ไฮไลท์: บรรยากาศการท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ในช่วงนี้โรแมนติกเอามากๆ ทั้งประเทศแต่างแต้มด้วยสีสันอันสดใสของดอกไม้ที่เบ่งบาน ไม่ว่าจะเป็น ดอกเชอร์รี่, ดอกซากุระ, ดกอบ๊วย, ดอกอัลมอนด์ และ อีกมากมาย
- ฤดูร้อน (มิถุนายน – สิงหาคม)
-
- อุณหภูมิเฉลี่ย: อยู่ที่ 18-28 องศาเซลเซียส
- สภาพอากาศ: สภาพอากาศอบอุ่น แต่ไม่ร้อนเหมือนประเทศไทย ซึ่งช่วงที่ร้อนที่สุดคือในช่วงเดือน กรกฎาคมและสิงหาคม
- ไฮไลท์: สามารถท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ได้อย่างจุใจ เนื่องจากพระอาทิตย์ตกดินช้า โดยเฉลี่ยจะตกดินประมาณ 3-4 ทุ่ม เลยทีเดียว
- ฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน – พฤศจิกายน)
-
- อุณหภูมิเฉลี่ย: อยู่ที่ 8-15 องศาเซลเซียส
- สภาพอากาศ: เย็นสบายกำลังดี และ มีฝนตกบ้างเป็นพรำๆ
- ไฮไลท์: พบเจอกับบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งเมืองกลายเป็นสีส้มทองเหลืองอร่าม โดยเฉพาะอยางยิ่งในบริเวณเทือกเขา
Q.3 : เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ด้วยตัวเองยากไหม เดินทางอย่างไร?
นักท่องเที่ยวคนไหนที่กำลังกังวลว่าจะเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ด้วยตัวเองได้ไหม? การเดินทางยากรึเปล่า? และ จะสื่อสารกับคนพื้นเมืองลำบากไหม? บอกตรงนี้เลยว่า แม้ว่าประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะไม่ใช่ประเทศท่องเที่ยวใกล้บ้านเราอย่างประเทศญี่ปุ่น หรือ เกาหลี แต่การท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ด้วยตัวเองนั้นไม่ยากเลย ทั้งนี้เนื่องจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเทศที่มีระบบขนส่งสาธารณะที่ดีที่สุดเป็ฯอันดับต้นๆ ของโลก ทั้งสะดวก ตรงเวลา อีกทั้งยังปลอดภัยหายห่วง นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถซื้อบัตรโดยสาร Swiss Pass ซึ่งเป็นบัตรโดยสาร ที่สามารถใช้ได้ในทุกประเภทระบบขนส่งสาธารณะในประเทศ
ในส่วนของการสื่อสาร แม้ประชากรสวิตเซอร์กว่า 74% จะใช้ภาษาเยอรมันในการสื่อสาร และ อีก 20 % ใช้ภาษาฝรั่งเศสในการสื่อสาร แต่ในเมืองใหญ่ ผู้คนสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ดังนั้นไม่ต้องกังวลนะคะ
สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน อีกทั้งยังกลัวหลงทาง และ สื่อสารไม่รู้เรื่อง เรื่องเที่ยวให้ Artralux ดูแล ด้วยบริการจัดโปรแกรมท่องเที่ยว และ ทัวร์สุดเอ็กคูลซีฟของเรา เราสามารถรังสรรค์โปรแกรมท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ได้อย่างที่คุณต้องการ บริการของเรามาพร้อมความยืดหยุ่น สามารถปรับโปรแกรมให้ตรงกับความต้องการของคุณได้จนกว่าจะพอใจ ที่สำคัญ เรายังมาพร้อมกับบริการรับยื่นวีซ่า จองตั๋วโรงแรม ตั๋วเครื่องบิน รวมไปจนถึง บริการเช่ารถท่องเที่ยวต่างประเทศพร้อมคนขับ สนใจเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์กับ Artralux ติดต่อเราเลย!