ตะลอนเที่ยวเฮลซิงกิ 2024 นครที่ผสมผสานความร่วมสมัยไว้ด้วยกัน

เฮลซิงกิ

 

เฮลซิงกิ (Helsinki) เป็นเมืองหลวงของประเทศฟินแลนด์ โดยตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลบอลติก เมืองแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องมรดกทางวัฒนธรรมโบราณ มีพิพิธภัณฑ์มากมายให้คุณไปสำรวจด้านประวัติศาสตร์ ผสมผสานกับความก้าวหน้าอันล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว บ้านเมืองมีความสวยงาม ผู้คนมีชีวิตชีวา ผู้ที่มาท่องเที่ยวนครเฮลซิงกิจะเพลิดเพลินไปกับสถาปัตยกรรมตลอดสองข้างทางพร้อมกับสัมผัสอากาศอันแสนบริสุทธิ์แบบยุโรปเหนือ ซึ่งบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักนครเฮลซิงกิกันให้มากขึ้น การันตีได้ว่าคุณจะต้องหลงรักเมืองแห่งนี้อย่างแน่นอน ว่าแล้วก็เตรียมตัวให้พร้อม ทริปนี้เราจะไปเปิดโลกกว้างที่เฮลซิงกิกัน!

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

7 เหตุผลที่ควรแวะมาเที่ยวเฮลซิงกิ

 

Helsinki คุณอาจจะคุ้นเคยกับชื่อเมืองนี้หากมีแพลนเดินทางไปชมแสงเหนือที่ฟินแลนด์ เพราะต้องนั่งเครื่องบินมาลงที่เมืองนี้ก่อนจะเดินทางไปเที่ยวชมแสงเหนือยังเมืองอื่น ๆ แม้ว่าเฮลซิงกิจะไม่ใช้จุดหมายหลักของเหล่านักท่องเที่ยวเท่าเมืองใหญ่ ๆ ในยุโรป แต่ที่เฮลซิงกินี้กลับมีเสน่ห์อันน่าหลงใหลที่ซ้อนไว้ รวมถึงมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ซึ่งต้องบอกว่าเฮลซิงกินั้นมีดีเกินกว่าจะเป็นจุดแวะพักกลางทางแน่นอน และนี่ก็คือ 7 เหตุผลที่คุณควรแวะมาเที่ยวเฮลซิงกิสักครั้งในชีวิต

 

  1. ป็นเมืองที่มีการผสมผสานด้านวัฒนธรรมอันเก่าแก่และความทันสมัยอย่างลงตัว คุณจะพบอาคารบ้านเรือนที่มีการตกแต่งแบบร่วมสมัย แม้จะมีธีมโดยรวมดูทันสมัยแต่ก็ยังแฝงกลิ่นอายของร่องรอยอารยธรรมเดิมเอาไว้ โดยเฉพาะที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์
  2. เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ด้านศิลปะ โดยในเมืองจะเต็มไปด้วยแกลเลอรี โรงละคร และพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ อีกทั้งเมืองยังมีการจัด Event ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับดนตรีและศิลปะแทบทั้งปี นอกจากนี้สิ่งปลูกสร้างภายในเมืองยังมีการออกแบบสุดแปลกตา คุณจะเพลิดเพลินไปกับการเช็กอินถ่ายรูป ณ สถานที่แลนด์มาร์กต่าง ๆ
  3. เป็นเมืองที่มีธรรมชาติอันสวยงามและอากาศบริสุทธิ์ ด้วยโลเคชันของเมืองที่รายล้อมไปด้วยทะเลบอลติก คุณจะสัมผัสได้ถึงทิวทัศน์ของทะเลเหนือ นอกจากนี้ภายในเมืองยังพื้นที่สีเขียวมากมาย คุณสามารถเดินชมเมืองแบบชิล ๆ ไปจนถึงทำกิจกรรมกลางแจ้งได้หลากหลายรูปแบบ
  4. เพลิดเพลินไปกับการซาวน่า เมืองเฮลซิงกินั้นมีชื่อเสียงเกี่ยวกับการซาวน่า ซึ่งเป็นวัฒนธรรมดั้งเดิมโบราณของชาวพื้นเมือง ถ้าคุณเป็นสายซาวน่าหรือชอบเข้าสปา คุณจะมีทางเลือกในการผ่อนคลายมากมายทั้งการซาวน่าแบบโบราณ ไปจนถึงรูปแบบการซาวน่าแบบสมัยใหม่
  5. อิ่มอร่อยไปกับอาหารฟินแลนด์พื้นเมือง ซึ่งจะมีเมนูท้องถิ่นที่คุณไม่คุ้นเคย แต่บอกเลยว่ารสชาติแบบนี้หาทานที่ไหนไม่ได้แน่นอน โดยเฉพาะเมนูอาหารทะเลแบบสดใหม่ที่ Market Square
  6. เฮลซิงกิมีสภาพบ้านเมืองสะอาด ปลอดภัย คุณภาพชีวิตดี มีความสงบและอบอุ่น เหมาะกับการหลีกหนีชีวิตที่วุ่นวายมาพักผ่อนชาร์จพลัง จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเมืองแห่งนี้จึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ที่สุดของโลก
  7. ดื่มด่ำไปกับปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนและแสงเหนือ รู้หรือไม่ว่าคุณสามารถชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนและแสงเหนือที่เฮลซิงกิได้นะ ซึ่งบอกเลยว่ามีความสวยงามและได้ฟีลไปอีกแบบ ไม่แพ้กับการไปชมที่เมืองอื่น ๆ แน่นอน

 

เฮลซิงกิ

 

10 สถานที่ท่องเที่ยวอันน่าสนใจในเมืองเฮลซิงกิ

 

เมื่อแวะมายังเมืองเฮลซิงกิแล้ว ไม่ว่าจะแวะพักก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยวที่อื่นต่อหรือตั้งใจมาเที่ยวเมืองนี้เป็นเป้าหมายหลัก สิ่งที่เราอยากแนะนำก็คือควรเดินทางตะลอนเที่ยวทั่วเมือง ซึ่งต้องบอกเลยว่าเมืองนี้มีที่เที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกับที่ไหน ๆ และนี่ก็คือ 10 สถานที่ท่องเที่ยวเฮลซิงกิที่เราอยากจะแนะนำให้คุณลองแวะไป แล้วคุณจะติดใจจนอยากจะอยู่ต่อในเมืองนี้ไปนาน ๆ

 

1. มหาวิหารเฮลซิงกิ (Helsinki Cathedral)

 

เฮลซิงกิ

 

เปิดทริปของคุณด้วยมหาวิหารเฮลซิงกิหรือ Helsinki Cathedral ศาสนสถานที่สำคัญที่สุดในเมือง วิหารแห่งนี้ถือเป็นสิ่งปลูกสร้างคู่บ้านคู่เมืองมาอย่างยาวนาน มีความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายในแบบนีโอคลาสสิกอันน่าทึ่ง ซึ่งจะยังคงแฝงกลิ่นอายระหว่างความคลาสสิกดั้งเดิมในยุคกรีกโบราณกับความร่วมสมัย มหาวิหารเฮลซิงกิสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 19 แม้ว่าจะไม่ได้เก่าแก่เท่าศาสนสถานอื่น ๆ แต่กลับเป็นวิหารที่ชาวเมืองให้ความเคารพบูชามากที่สุด ตัววิหารมีความสูงประมาณ 260 ฟุต มีโดมหลังขนาดใหญ่หลังคาสีเขียวอยู่ตรงกลาง รายล้อมด้วยโดมขนาดเล็ก 4 แห่งโดยรอบ มีการสร้างหน้าจั่วยื่นออกมาทั้งสี่ด้านโดยมีรูปปั้นสาวกของพระเยซูทั้ง 12 ท่านประดับอยู่ ซึ่งมีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง

 

มหาวิหารเฮลซิงกิตั้งอยู่ใจกลางเมืองจึงเดินทางง่าย เหมาะกับการเป็นสถานที่เที่ยว แรก ๆ ในเฮลซิงกิให้คุณได้แวะ หน้าวิหารยังเป็นที่ตั้งของ ซีเนทสแควร์ (Senate Square) ซึ่งเป็นจัตุรัสกลางเมือง อันเป็นแหล่งศูนย์รวมกิจกรรมของเหล่าชาวเมือง กลางจัตุรัสเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2 ทั้งนี้กิจกรรมหรืองาน Event ใหญ่ ๆ ประจำเมืองมักจะจัดที่จัตุรัสแห่งนี้ทั้งสิ้น

 

2. ป้อมปราการ Suomenlinna

 

เฮลซิงกิ

 

เราขอพาทุกท่านมาสัมผัสกับประวัติศาสตร์ของประเทศฟินแลนด์กับป้อมปราการ Suomenlinna โดยป้อมปราการแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลห่างจากเมืองเฮลซิงกิไปเล็กน้อย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที ความสำคัญของป้อมแห่งนี้คือเป็นป้อมโบราณที่ถูกสร้างขึ้นมาในช่วงราวปีศตวรรษที่ 18 โดยเป็นจุดยุทธ์ศาสตรสำคัญในการป้องกันทางทะเล แต่ด้วยเวลาผ่านไปทางฟินแลนด์ก็ได้มีการปรับปรุงป้อมแห่งนี้พร้อมพื้นที่โดยรอบให้เป็นพิพิธภัณฑ์ โดยยังคงอนุรักษ์สภาพโดยรวม ตลอดจนพื้นที่โดยรอบไว้คงกลิ่นอายโบราณแบบเดิม ซึ่งนับว่าเป็นป้อมปราการทางทะเลโบราณที่ใหญ่ที่สุดที่ยังคงอนุรักษ์หลงเหลือไว้ ณ ยุคปัจจุบันเลยทีเดียว จนในที่สุดทาง UNESCO ก็ได้ประกาศให้ป้อม Suomenlinna ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1991 ที่ผ่านมา

 

การเดินทางมาเที่ยวป้อม Suomenlinna จะต้องนั่งเรือเฟอร์รี่จากเมืองเฮลซิงกิข้ามมา ที่บริเวณป้อมยังคงรักษาบรรยากาศแบบดั้งเดิมเอาไว้ โดยมีทั้งบ้านเรือนที่ยังมีผู้คนอาศัยอยู่ มีร้านค้า ร้านอาหาร มีโบสถ์เก่าแก่ หากใครที่เดินชมพิพิธภัณฑ์เรียบร้อยแล้วก็สามารถแวะเดินเล่นซื้อของกันได้ หรือถ้าอยากถ่ายรูปสวย ๆ ก็มีจุดเช็กอินเด่น ๆ มากมายให้คุณได้แชะภาพแชร์ลงโซเชียล

 

3. The Market Square

 

เฮลซิงกิ 4

 

The Market Square เป็นลานกว้างติดทะเลที่อยู่ใจกลางเมืองเฮลซิงกิ เมื่อถึงช่วงฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน จนถึงฤดูใบไม้ร่วง ลานกว้างแห่งนี้จะแปรสภาพเป็นตลาดนัดเต็มไปด้วยร้านค้าแผงลอยมากมาย ซึ่งจะขายอาหารทะเลสดใหม่ พืชผักมากมาย ไปจนถึงของที่ระลึก ซึ่งชาวเมืองจะหลั่งไหลแวะเข้ามาซื้อของ ณ ที่ลานแห่งนี้กันอย่างคึกคัก หากคุณเดินทางไปเที่ยวเฮลซิงกิแล้วอยากทานอาหารรสชาติท้องถิ่น บอกเลยว่าให้แวะไปฝากท้องที่นี่ได้เลย บรรยากาศรอบลานกว้างแห่งยังเหมาะกับการเดินเล่นชิล ๆ ชมบรรยากาศของทะเลบอลติก หากเหนื่อยก็แวะพักดื่มที่ร้านกาแฟกลางแจ้ง

 

ลานกลางแจ้ง Market Square ยังมีกิจกรรมตามฤดูกาลที่น่าสนใจอีกมากมาย ถ้าคุณมาถูกช่วงเวลาก็จะได้ร่วมสนุกไปกับกิจกรรมเหล่านี้ โดยกิจกรรมเด่น ๆ ก็ได้แก่ ช่วงเทศกาลตลาดปลาแฮร์ริ่งในช่วงเดือนตุลาคมของทุกปี และเทศกาลโชว์รถอเมริกันคลาสสิกที่จะจัดขึ้นในช่วงศุกร์แรกของเดือนพฤษภาคม

 

4. โบสถ์ Temppeliaukio

 

เฮลซิงกิ

 

โบสถ์แห่งนี้มีจุดเด่นคือรูปแบบของการก่อสร้าง ซึ่งมีการเจาะช่องเข้าไปในเนินเขาหินแกรนิต แล้วดัดแปลงพื้นที่ภายในเป็นห้องขนาดใหญ่สำหรับทำเป็นโบสถ์คริสต์ ภายในมีการตกแต่งอย่างเรียบง่ายในสไตล์โมเดิร์น เพื่อรองรับกับพิธีกรรมทางศาสนา มีช่องบริเวณโดมและกำแพงให้แสงแดดลอดเข้ามาเพิ่มความสว่างยังพื้นที่ภายใน ส่วนภายนอกที่เห็นนั้นจะเป็นเนินดินออกมา มีกำแพงหินล้อมรอบ และมีหลังคาเป็นโดมขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง นับเป็นโครงสร้างสถาปัตยกรรมอันโดดเด่นไม่ซ้ำใคร และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์กสำคัญประจำเมืองเฮลซิงกิเลยทีเดียว

 

ในทุก ๆ วันจะมีเหล่าชาวคริสต์และนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมโบสถ์ Temppeliaukio เป็นจำนวนมาก เพราะมีชื่อเสียงในด้านการขอพรเรื่องความรัก หากใครมาจุดเทียนอธิษฐานเรื่องความรักแล้วมักจะสมหวัง

 

5. พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Ateneum Art Museum

 

เฮลซิงกิ

 

อย่างที่ได้กล่าวไปว่าเฮลซิงกิเป็นนครแห่งศิลปะ การมาเที่ยว ณ เมืองแห่งนี้จึงควรค่าแก่การแวะเข้ามาชมงานศิลปะเป็นยิ่งนัก โดยสถานที่ที่เราจะแนะนำก็คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Ateneum สถานที่เก็บคอลเลกชั่นศิลปะที่สำคัญที่สุดของเมืองเฮลซิงกินี่เอง ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีงานศิลปะจัดแสดงอยู่มากมาย ซึ่งจะประกอบด้วยผลงานศิลปะของศิลปินชั้นนำชาวฟินแลนด์หลายท่าน ตั้งแต่ชิ้นงานสมัย rococo ในปีศตวรรษที่ 18 ไปจนถึงผลงานศิลปะยุคใหม่ในปีศตวรรษที่ 20 นับเป็นผลงานระดับชาติกว่า 650 ชิ้นเลยทีเดียว จุดเด่นของงานศิลปะที่ต้องมาดูให้ได้ต้องเป็น Vincent van Gogh’s Street in Auvers-sur-Oise ของศิลปินชื่อดังอย่างแวนโก๊ะ และผลงานชิ้นอื่น ๆ จากศิลปินดังมากมาย

 

นอกจากผลงานศิลปะอันโดดเด่นแล้ว ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ Ateneum ยังถือว่ามีความงดงามเชิงสถาปัตยกรรมเป็นอย่างยิ่ง รอบอาคารตกแต่งด้วยรูปปั้นและภาพนูนต่ำนูนสูงมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปสวย ๆ ของอาคารได้

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

6. สวนสาธารณะ Esplanadi

 

เฮลซิงกิ 7

 

พาทุกท่านมาแวะผ่อนคลายกับพื้นที่สีเขียวอย่างสวนสาธารณะ Esplanadi หรือ Espa กันบ้าง โดยสวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเฮลซิงกิระหว่างจัตุรัสเอรอตตาจาและมาร์เก็ตสแควร์ ชาวเมืองเฮลซิงกิมักจะมาเดินเล่นและทำกิจกรรมกลางแจ้งต่าง ๆ ที่สวนแห่งนี้ และในบางวันคุณอาจจะพบเห็นการแสดงแบบสตรีทโชว์ตามพื้นที่ต่าง ๆ ของสวนสาธารณะด้วย

 

สวนสาธารณะ Esplanadi ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิก คาร์ล ลุดวิก เองเกล และเปิดให้บริการกับประชาชนครั้งแรกในปี ค.ศ. 1818 ในแต่ละมุมของสวนมีพื้นที่ให้นั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจมากมาย หากคุณเดินตะลอนเมืองมาเหนื่อย ๆ ก็แนะนำให้แวะมานั่งพัก ซึ่งต้องบอกเลยว่าบรรยากาศดีมาก ภายในสวนยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น รูปปั้นของ Johan Ludvig Runeberg กวีแห่งชาติของฟินแลนด์ ที่ตั้งอยู่ตรงบริเวณตรงกลาง, Engels Teater อาคารโรงละครแห่งแรกในเฮลซิงกิ, ผลงานประติมากรรมศิลปะที่ตกแต่งบนพื้นที่โดยรอบ เป็นต้น ตลอดจนร้านอาหารท้องถิ่นมากมายก็ตั้งอยู่บริเวณรอบสวนสาธารณะ Esplanadi ด้วยเช่นกัน

 

7. ตลาด Old Market Hall

 

เฮลซิงกิ 8

 

หากใครที่ตะลอนเที่ยวชมความงดงามของกรุงเฮลซิงกิจนท้องร้อง และอยากหาอะไรอร่อย ๆ ทาน เราขอแนะนำให้มาเยือน Old Market Hall แห่งนี้ เพราะที่นี่เป็นตลาดในร่มโบราณซึ่งเปิดทำการมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1889 ซึ่งนับว่าเป็นตลาดในร่มที่เก่าแก่ที่สุดในฟินแลนด์เลยก็ว่าได้ แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นตลาดแต่ตัวอาคารนั้นก็ยังมีความโดดเด่นแบบสถาปัตยกรรมโบราณตรงตามคอนเซ็ปต์ของเมือง ณ ตลาดแห่งนี้คุณจะพบกับร้านขายวัตถุดิบทำอาหารมากมายหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นร้านขายเนื้อสัตว์ ร้านขายผักผลไม้ ร้านขายปลา-อาหารทะเลสด ร้านขายผลิตภัณฑ์สดใหม่ที่เพิ่งมาจากฟาร์ม หรือถ้าใครอยากลิ้มลองเมนูอาหารท้องถิ่นดั้งเดิมของฟินแลนด์ที่ตลาดแห่งนี้ก็มีร้านอาหารและร้านคาเฟ่เด็ด ๆ ให้คุณได้ลิ้มลองเช่นกัน

 

8. หอสมุด National Library of Finland

 

เฮลซิงกิ 9

 

ประชาชนของประเทศฟินแลนด์มักหลงใหลในการอ่านหนังสือเป็นอย่างมาก ทางภาครัฐจึงได้มีนโยบายสนับสนุนการอ่านของประชาชนด้วยการสร้างหอสมุดขนาดใหญ่ที่เป็นแหล่งศูนย์รวมด้านการอ่าน หอสมุด National Library of Finland แห่งนี้มีความเก่าแก่โดยสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1844 และก็เปิดบริการประชาชนเฮลซิงกิมานานกว่า 100 ปี นับเป็นสถานที่สำคัญประจำเมืองและเป็นมรดกแห่งชาติเลยทีเดียว

 

การตกแต่งทั้งภายในและภายนอกหอสมุดแห่งชาติ จะยังคงรูปแบบโบราณเมื่อหลายร้อยปีก่อน คุณจะรู้สึกได้ถึงมนต์ขลังอันน่าหลงใหล แม้จะดูเก่าแก่แต่การจัดการภายในนั้นเอื้อต่อการอ่านเป็นอย่างมาก โดยจะมีการแบ่งโซนและจัดหมวดหมู่หนังสืออย่างชัดเจน และมีโซนให้เหล่านักอ่านได้ศึกษาหาความรู้ หนังสือที่อยู่ในห้องสมุดแห่งชาตินี้จะมีตั้งแต่หนังสือยุคใหม่ ไปจนถึงหนังสือโบราณหายาก

 

9. หอสมุดกลาง Helsinki Central Library Oodi

 

เฮลซิงกิ

 

หลังจากที่เรานำทุกท่านไปรู้จักกับหอสมุดอันเก่าแก่ที่สุดของเฮลซิงกิกันไปแล้ว เราจะขอนำทุกท่านเปลี่ยน Mood&Tone มาชมหอสมุดแห่งใหม่อย่าง Helsinki Central Library Oodi กันบ้าง หอสมุด Oodi นั้นเพิ่งสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2018 ไม่นานมานี้และขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในหอสมุดที่ดีที่สุดของโลกเลยทีเดียว ด้วยภาครัฐของฟินแลนด์นั้นมีนโยบายหลักคือสร้างพื้นที่ของการอ่านและการแสวงหาความรู้ จึงได้สร้างหอสมุดกลาง Ordi แห่งนี้ขึ้นเพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองทุกชนชั้นนั้นสามารถเข้าถึงความรู้ได้ทั้งหมด

 

หอสมุด Oodi นั้นมีการออกแบบที่ล้ำสมัย โดยเป็นผลงานของ ALA Architects บริษัทออกแบบชั้นนำของฟินแลนด์ เป็นผู้ประกวดแบบและชนะรางวัลไป คอนเซ็ปต์ของหอสมุด Oodi นั้นจะเป็นมากกว่าพื้นที่อ่านหนังสือทั่วไป แต่จะเป็นศูนย์กลางของคอมมูนิตี้ที่ให้ประชาชนมาแสวงหาความรู้ได้แบบไร้พรมแดน ภายในจะประกอบไปด้วยโซนต่าง ๆ มากมาย ทั้งพื้นที่อ่านหนังสือ ศูนย์การเรียนรู้แบบมัลติมีเดีย โรงภาพยนตร์ ห้องออดิทอเรียมอเนกประสงค์ และร้านอาหาร โซนพักผ่อน พื้นที่เล่นเกม พื้นที่จัดกิจกรรมต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นบ้านหลังใหญ่ของชาวเมืองเฮลซิงกิทุกคนเลยก็ว่าได้

 

10. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ National Museum of Finland

 

เฮลซิงกิ 11

 

อย่างที่ได้กล่าวไปว่าเฮลซิงกิเป็นเมืองแห่งอารยธรรมอันเก่าแก่ หากคุณจะเรียนรู้ประวัติศาสตร์และความสำคัญของเมืองและประเทศ คุณต้องแวะมาเยือนพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติฟินแลนด์แห่งนี้ ตัวพิพิธภัณฑ์ National Museum of Finland สร้างขึ้นเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมสิ่งของที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของประเทศ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับโบราณวัตถุตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ไล่เรียงมาจนถึงช่วงยุคปัจจุบัน โดยจะมีการบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของฟินแลนด์ให้ได้รับรู้กัน นอกจากจะมีสิ่งของและนิทรรศการให้ได้ชมแล้ว ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ยังคงมีความโดดเด่นด้านการออกแบบ ซึ่งจะเป็นแนวศิลปะแบบอาร์ตนูโว สะท้อนให้เห็นถึงอารยธรรมในช่วงยุคกลางของยุโรป

 

จะเห็นได้ว่าเฮลซิงกิไม่ได้มีดีแค่เป็นเมืองหลวงฟินแลนด์เท่านั้น แต่เมืองแห่งนี้ยังมีที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์มากมายที่รอให้คุณไปค้นพบ หากคุณชื่นชอบในการตะลอนเที่ยวชมความสวยงามของสถาปัตยกรรม และเรียนรู้เรื่องราวสำคัญต่าง ๆ ในอดีต หรืออยากสัมผัสบรรยากาศดีดีของคาบสมุทรทะเลบอลติก หลีกหนีความวุ่นวายของคนหมู่มาก คุณจะต้องฟินไปกับการเดินทางมาเที่ยวเฮลซิงกิแน่นอน

 

เฮลซิงกิ

 

สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวเมืองแห่งนี้หรือเที่ยวประเทศฟินแลนด์แล้วกำลังสงสัยว่าต้องใช้งบประมาณประมาณเท่าไหร่ เราจะมาบอกตัวเลขคร่าว ๆ กันให้ได้ทราบว่าเที่ยวเฮลซิงกิต้องใช้งบประมาณคนละ 350,000 บาท ต่อทริปเดินทาง 6-7 วัน แม้ว่าจะค่อนข้างเยอะเนื่องจากเป็นประเทศที่ค่าครองชีพแพง (แพงอันดับต้น ๆ ของโลก) แต่บอกเลยว่าสักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาให้ได้ คุ้มค่าแน่นอน

 

หากคุณอยากเดินทางท่องเที่ยวแบบส่วนตัว เดินทางสบาย กำหนดเส้นทางต่าง ๆ ได้ในแบบคุณ เลือกเดินทางเที่ยวกับเรา Artralux เพราะเราจะดูแลคุณตั้งแต่ต้นจนจบทริป เพื่อมอบประสบการณ์ท่องเที่ยวอันล้ำค่ากับคุณ หรือถ้าใครอยากไปแต่ยังไม่มีวีซ่า เราก็มีบริการทำวีซ่าฟินแลนด์ให้กับคุณด้วย


สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)

📞 | 02-047-0083

💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42

 

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

เพิ่มเพื่อน

 

 

 

SHARES

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุกกี้ของเรา

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว บันทึกการตั้งค่า