เที่ยวโตเกียว นับเป็นแพลนเที่ยวแรก ๆ ที่อยู่ในหัวของใครหลายคน หากเดินทางมาเยือนประเทศญี่ปุ่น เพราะโตเกียวเป็นเมืองที่มีความเจริญ เที่ยวง่าย เที่ยวสนุก มีแหล่งช้อปปิ้งมากมาย มีร้านอาหารชั้นนำน่ารับประทาน แต่ในทางกลับกันโตเกียวก็ยังเป็นเมืองที่มีร่องรอยทางอารยธรรมอันน่าหลงใหล เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่มีเสน่ห์ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ สำหรับใครที่กำลังวางแผนเที่ยวโตเกียว 2024 แต่กำลังอยู่ในช่วงหาข้อมูลว่าเที่ยวโตเกียวไปไหนดี เราจะมาแนะนำ 15 ที่เที่ยวโตเกียวทั้งในเมืองและบริเวณโดยรอบ ว่าแล้วก็แพ็กกระเป๋า แล้วมาเที่ยวกันเลย!
1. วัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple)
ขอประเดิมด้วยที่เที่ยวโตเกียวสไตล์ญี่ปุ่นแบบโบราณกันก่อนที่วัดเซ็นโซจิหรือคนไทยรู้จักในชื่อวัดอาซากุสะ วัดแห่งนี้มีประวัติความเป็นตั้งแต่ปี ค.ศ.628 และถือว่าเป็นวัดคู่เมืองโตเกียวเลยก็ว่าได้ ความโดดเด่นของวัดแห่งนี้อยู่ที่สถาปัตยกรรมอันงดงาม ภายในวัดมีทั้งวิหาร อาคาร เจดีย์ และซุ้มประตูที่จะตกแต่งในโทนสีแดงทั้งหมด ตัววิหารหลักเป็นที่ประดิษฐานของเทพคันนอน (หรือคนไทยรู้จักกันในชื่อพระโพธิสัตว์กวนอิม) ซึ่งว่ากันว่ามีความเก่าแก่เกือบพันปีเลยทีเดียว อีกไฮไลท์ของวัดแห่งนี้ก็คือโคมแดงขนาดใหญ่ที่ห้อยอยู่ตรงซุ้มประตูทางเข้า เรียกได้เป็นแลนด์มาร์กสำคัญที่ใครไปต้องแชะถ่ายรูปเช็กอินกันทุกคน จนเป็นที่มาอีกชื่อหนึ่งของวัดซึ่งก็คือวัดโคมแดงนั่นเอง สำหรับใครที่เดินทางไปเที่ยวโตเกียว เราแนะนำให้มาวัดนี้แห่งเลยแรกเพื่อที่จะไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ทริปเที่ยวของคุณไม่มีอุปสรรค
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Asakusa Station โดยวัดจะเปิดเวลา 6.00 – 17.00 น.
2. ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine)
หลังจากประเดิมที่เที่ยวโตเกียวแบบสายมูไปแล้ว เราขอพาทุกท่านมามูกันให้สุดกับศาลเจ้าเมจิศาลชินโตอันเก่าแก่ที่สำคัญที่สุดของเมืองโตเกียว เพราะว่าสร้างขึ้นถวายให้กับพระจักรพรรดิเมจิในที่ครองราชย์ในปี 1867-1912 จุดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้คือพื้นที่สีเขียวอันกว้างขวาง ที่อุดมไปด้วยต้นไม้ขึ้นหนาทึบนับแสนต้น แม้ว่าตัวศาลเจ้าจะตั้งอยู่ใจกลางกรุงโตเกียวก็ตาม ทำให้เป็นแลนด์มาร์กถ่ายรูปที่สวยงามเพราะผู้เยี่ยมชมจะได้สัมผัสกับความงามของสถาปัตยกรรมโบราณที่ลงตัวกับธรรมชาติเป็นอย่างดี เหมาะกับผู้ที่ต้องการตะลอนมูไปพร้อม ๆ กับชมธรรมชาติอันงดงาม
สำหรับจุดเช็กอินของศาลเจ้าเมจิก็คือเสาโทริอิไม้ขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านบริเวณหน้าทางเข้า และเมื่อย่างก้าวผ่านประตูนี้ไปคุณก็จะสัมผัสความเป็นธรรมชาติขึ้นมาทันที ภายในศาลแห่งนี้คุณสามารถขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามประเพณีของชินโตได้ อย่างการเขียนคำขอพรไว้กับป้ายไม้แล้วนำไปแขวนบนต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง นอกจากนี้คุณยังได้มีโอกาสสัมผัสกับกลิ่นอายของมนต์ขลังตามความเชื่อ กับพิธีโอนิคคุไซ (ถวายอาหารกับเทพ) ซึ่งจะทำทุกวันในตอนเช้าและตอนบ่าย
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Chiyoda Line ลงสถานี Meiji-jingu-mae Station
3. โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
ดิสนีย์แลนด์ เป็นแบรนด์สวนสนุกชั้นนำอันดับ 1 ของโลก โดยมีอยู่หลายที่ตามประเทศต่าง ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าโตเกียวดิสนีย์แลนด์กลับกลายเป็นสวนสนุกที่ครองใจคนไทยมากที่สุด เพราะเดินทางไปเที่ยวง่ายและมีเครื่องเล่นอันหลากหลายให้คุณได้สนุกสนานทั้งวัน ภายในโตเกียวดิสนีย์แลนด์คุณจะได้สัมผัสกับตัวการ์ตูนดังจากค่ายดิสนีย์อย่างใกล้ชิด มีโซนเครื่องเล่นให้ร่วมสนุกถึง 7 โซนด้วยกัน ได้แก่ World Bazaar, Adventureland, Westernland, Toontown, Fantasyland, Tomorrowland และ Critter Country มีขบวนพาเหรดอันน่าตื่นเต้น มีร้านอาหารอร่อย ๆ มากมายให้ได้เลือกชิม รวมถึงมีโรงแรมที่ออกแบบมาบนสไตล์ดิสนีย์ให้คุณได้ใช้บริการอีกด้วย การตีตั๋วมาเที่ยวดิสนีย์แลนด์นั้นคุณสามารถสนุกสนานได้ทั้งวัน หรือถ้าจะเก็บเครื่องเล่นให้หมดก็อาจใช้เวลาถึง 2 วันเลยทีเดียว สำหรับที่แวะมาเที่ยวโตเกียวแล้วอยากได้ความสนุกสนาน หรือพาเด็ก ๆ มาแบบครอบครัว ดิสนีย์แลนด์นี่แหละคือคำตอบ
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Keiyo Line มาลงสถานี Maihama Station
4. ย่านชิบุย่า (Shibuya)
ชิบุย่าถือว่าเป็นย่านการค้าชื่อดังที่เต็มไปด้วยร้านค้าต่าง ๆ มากมาย อีกทั้งยังเป็นแหล่งศูนย์รวมของเหล่าวัยรุ่นญี่ปุ่นอีกด้วย ว่ากันว่าหากมาเที่ยวโตเกียวแล้วต้องแวะมาที่ชิบุย่าแห่ง นี้ ไม่เช่นนั้นเค้าว่ามาไม่ถึงโตเกียวอย่างแท้จริง บรรยากาศในย่านชิบุย่าจะมีความทันสมัยและเต็มไปด้วยแสงสีมากมายจากร้านค้า หากคุณต้องการซื้อสินค้าแบรนด์เนม ซื้อของฝาก ซื้อสินค้าประเภทต่าง ๆ ก็สามารถมาแวะช้อปหาได้ที่ชิบุย่าแห่งนี้ รวมถึงชิบุย่ายังมีร้านอาหาร-คาเฟ่มากมายให้ได้ลิ้มลอง
ที่ชิบุย่านอกจากจะมีร้านค้าแล้ว ที่แห่งนี้ยังมีจุดเช็กอินสำคัญที่ไม่ว่าใครมาเยือนแล้วต้องลองแวะไปถ่ายรูป นั่นก็คือ 5 แยกชิบุย่าอันโด่งดัง ที่เรามักเห็นจากในหน้าสื่อบ่อย ๆ รวมถึงมีจุดที่น่าสนใจมากมายที่คุณต้องแวะไปให้ได้ เช่น อนุสรณ์สุนัขฮาจิโกะ, ตึก Shibuya 109, ห้างสรรพสินค้า MODI, ร้านค้า Disney Store, ซอย Center Gai หากใครมาเที่ยวโตเกียวแล้วอยากสัมผัสกับแสงสี ทานอาหารอร่อย ๆ พร้อมได้ช้อปไปในตัว มาย่านชิบุย่านี้ได้ครบแน่นอน
การเดินทาง : สามารถเดินทางจากการนั่งรถไฟได้หลายสาย ได้แก่ Yamanote Line, Chuo Line, Saikyo Line, Shonan-Shinjuku Line
5. โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)
หากเป็นเมื่อก่อน หากใครมาเที่ยวโตเกียวแล้วต้องการชมวิวสวย ๆ คงต้องไปเที่ยวโตเกียวทาวเวอร์ แต่ ณ ยุคปัจจุบันนี้ ผู้คนเริ่มหลั่งไหลไปเที่ยวโตเกียวสกายทรีมากกว่า แม้ว่าจะเป็นหอคอยและมีจุดชมวิวเหมือนกัน แต่โตเกียวสกายทรีนั้น เป็นหอคอยที่มีความสูงถึง 633 เมตร หรือมากกว่าโตเกียวทาวเวอร์ถึง 2 เท่าเลยทีเดียว
โตเกียวสกายทรีแห่งนี้สร้างมาเพื่อเป็นหอคอยส่งสัญญาณโทรทัศน์ แต่ก็ได้รับความนิยมเพราะว่าเป็นจุดชมวิวที่มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง สามารถมองเห็นบรรยากาศของเมืองได้รอบ 360 องศา ซึ่งจะมีจุดชมวิวให้ชมทั้งหมดสองจุดคือ Tembo Deck บทความสูง 350 เมตร และ Tembo Galleria บนความสูง 450 เมตร สำหรับไฮไลท์ของการชมวิวจะอยู่ที่ส่วน Tembo Deck เพราะเป็นพื้นกระจกให้คุณมองเห็นด้านล่างอย่างชัดเจน สำหรับใครชอบความเสียวก็จัดมาชมวิวที่ชั้นนี้เลย
นอกจากจะชมความงามของวิวกรุงโตเกียวแบบ 360 องศาแล้ว ที่โตเกียวสกายทรียังมีห้างสรรพสินค้าโตเกียวโซรามาจิ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซูมิดะ และ Sky Restaurant 634 ภัตตาคารระดับมิชลินสตาร์ ให้คุณได้เที่ยว
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Tobu Skytree Line ลง สถานี Tokyo Skytree Station
6. สวนอุเอโนะ (Ueno Park)
สำหรับใครที่ตะลอนเที่ยวโตเกียวจนเหนื่อย แล้วอยากหาพื้นที่สีเขียวบรรยากาศชิล ๆ ไว้พักผ่อน เราแนะนำให้มาเที่ยวสวยอุเอโนะแห่งนี้เลย เพราะที่นี่นอกจากจะเป็นสวนสาธารณะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจแล้ว สวนอุเอโนะยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆ สวนสัตว์ ศาลเจ้า และคาเฟ่ เรียกได้ว่ามาที่นี่ที่เดียวก็เดินเล่นชิลได้ทั้งวัน
สวนอุเอโนะ นับเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของประเทศญี่ปุ่น ภายในสวนมีความร่มรื่นและรายล้อมด้วยต้นซากุระ ทำให้ถึงช่วงดอกไม้บานก็จะมีผู้คนมากมายหลั่งไหลเข้ามาชมซากุระที่สวนแห่งนี้ นับว่าเป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ หากใครที่เดินเล่นสวนจนพอใจแล้ว เราขอแนะนำให้คุณแวะไปสัมผัสความน่ารักของเหล่าสัตว์โลกที่สวนสัตว์อุเอโนะ ซึ่งจะนำทีมโดยเหล่าน้อง ๆ แพนด้า แพนด้าแดง นกกระเรียน กิ้งก่า ลิงญี่ปุ่น ฮิปโปแคระ จิงโจ้ แพนกวิน หมีขาว กอริลลา และสัตว์อื่น ๆ อีกมากมาย มาอวดความน่ารักให้คุณได้หลงใหล หรือถ้าใครชื่นชอบความรู้ที่สวนแห่งนี้ก็มีพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติ, พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกแห่งชาติ, และพิพิธภัณฑ์ศิลปะโตเกียว ให้คุณได้ชม นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวโตเกียวที่คุณต้องมาเยือน
การเดินทาง : รถไฟสาย JR ลงสถานีอุเอโนะ
7. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว (Tokyo National Museum)
เราขอนำทุกท่านเดินจากสวนอุเอโนะมาเที่ยวต่อที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียว ซึ่งสถานที่แห่งนี้สามารถมาเที่ยวง่าย ๆ เพราะอยู่ใกล้สวนอุเอโนะนั่นเอง หากใครมาเที่ยวโตเกียวแล้วอยากรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นต้องชื่นชอบอย่างแน่นอน สำหรับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียวนั้นนับว่าเป็นพิพิธภัณฑ์อันเก่าแก่และมีขนาดใหญ่ที่สุดในโตเกียวเลยก็ว่าได้ ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงวัตถุโบราณประจำชาติอยู่มากมาย รวมถึงงานศิลปะต่าง ๆ กว่าหลายพันชิ้น อีกทั้งยังมีการจัดนิทรรศการหมุนเวียนให้ได้ชมกันด้วย แต่ถ้าคุณกังวลว่าเข้าพิพิธภัณฑ์ที่ญี่ปุ่นแล้วจะฟังไม่รู้เรื่อง ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติโตเกียวแห่งนี้ มีไกด์ภาษาอังกฤษคอยบริการด้วยนะ
8. ตลาดปลาสึกิจิ (Tsukiji Market)
มาเยือนญี่ปุ่นเที่ยวโตเกียวทั้งที ถ้าไม่ได้กินซูชิและอาหารทะเลสด ๆ ถือว่ามาเสียเที่ยว! ตลาดปลาสึกิจิแห่งนี้เป็นแหล่งขายปลาสดที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยทีเดียว ตลอดข้างทางคุณจะได้พบร้านขายอาหารทะเลสด ๆ มากมาย รวมถึงยังมีแผงร้านซูชิให้คุณได้ทานกันแบบสด ๆ หากคุณสนใจอยากแวะทางเมนูจากท้องทะเลอะไร ก็สามารถแวะซื้อได้ดั่งใจ อีกทั้งร้านค้าที่นี่ยังขายให้กับคุณในราคาย่อมเยา หากคุณเป็นผู้ที่หลงใหลในซูชิ ซาซิมิ หมึกทะเล อูนิสด ๆ หอยโฮดาเตะฉ่ำ ๆ บอกเลยว่าถ้ามาเที่ยวโตเกียวแล้วต้องแวะมาที่นี่ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน แต่คุณต้องมาเช้า ๆ หน่อยเพราะตลาดแห่งนี้เปิดตี 5 ถึงบ่าย 2 เท่านั้น เหมาะกับการแวะมาทานอาหารเช้าและอาหารเที่ยงของคุณ
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Oedo Subway Line ลงสถานี Tsukiji Shijo Station
9. ย่านอากิฮาบาระ (Akihabara)
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวโตเกียวสุดปัง เพราะที่แห่งนี้เป็นเหมือนสวรรค์ของเหล่าผู้ที่ชื่นชอบอนิเมะและสินค้าจากเกม สำหรับย่านอากิฮาบาระนั้นแต่เดิมขึ้นชื่อเรื่องแหล่งจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและสินค้าเทคโนโลยี ซึ่งจะมีสินค้าเจ๋ง ๆ ล้ำนวัตกรรมให้ได้เลือกมากมาย แต่พอมาถึงช่วงยุคหลัง ๆ นี้ อากิฮาบาระยังได้มีการปรับโฉมออกไป เพราะนอกจากจะเป็นย่านร้านค้าไอทีแล้ว ยังเป็นศูนย์รวมของผู้ที่ชื่นชอบในอนิเมะ เหล่าคอสเพลย์ และเหล่าเกมเมอร์ด้วย สำหรับใครที่เป็นสาวกอนิเมะสามารถซื้อฟิกเกอร์ โมเดล การ์ตูน ตลอดจนสินค้าจากการ์ตูนดัง ๆ มากมายได้ที่นี่ อีกทั้งยังการันตีว่าได้ของแท้กลับบ้านในราคาที่ถูกกว่าซื้อในไทย อีกทั้งร้านค้าส่วนใหญ่ยังเป็นสินค้าปลอดภาษี! ว่าแล้วก็อยากจะช้อปสินค้าเจ๋ง ๆ หิวกลับไทยสัก 2-3 ชิ้น
นอกจากสินค้าจากการ์ตูนแล้ว หากคุณเป็นสาวกของเหล่า ๆ ไอดอลญี่ปุ่น บอกเลยว่าถ้ามาเที่ยวโตเกียว ก็อย่าลืมแวะมาที่ย่านแห่งนี้ เพราะอากิฮาบาระยังเป็นเมืองหลวงของเหล่า Pop Idol ชื่อดัง เช่น AKB48 ซึ่งที่นี่จะมีโรงละครของเหล่าสาว ๆ โดยเฉพาะ หากไปแล้วอาจมีโอกาสเจอสาว ๆ ไอดอลในดวงใจก็ได้นะ
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย JR Yamanote ลงที่สถานี Akihabara
10. ย่านชินจูกุ (Shinjuku)
มาเที่ยวโตเกียวแล้วต้องจัดไปให้สุดกับย่านร้านค้า ศูนย์การค้า และ คาเฟ่ และแหล่งเอนเตอร์เทนชื่อดังอย่างชินจูกุ เหมาะกับผู้ที่ต้องการมาช้อปปิ้งรวมไปถึงชมแสงสีความเจริญในยามค่ำคืน สำหรับย่านชินจูกุนี้จะเป็นย่านความเจริญขนาดใหญ่ โดยมีสถานีรถไฟชินจูกุตัดผ่านกลางเป็นชินจูกุตะวันตกที่เต็มไปด้วยอาคารสำนักงานและโรงแรมหรู กับชินจูกุตะวันออกที่ดังในเรื่องร้านอาหาร แหล่งบันเทิง และสินค้าแฟชั่น
สำหรับใครที่เป็นสายกินดื่มแล้วมาเที่ยวโตเกียวแถบชินจูกุ เราแนะนำว่าต้องแวะมาที่ย่านคาบูกิโจ (Kabukijo) ให้ได้ เพราะที่นี่เป็นศูนย์รวมเรื่องความเอนเตอร์เทรนด์ในยามค่ำคืน เป็นสวรรค์ของเหล่านักตะลอนในยามราตรี ตั้งแต่ร้านอาหาร ร้านเหล้า ผับ บาร์โฮสต์ หรือถ้าใครไม่ชอบแนวนี้ อยากจะช้อปปิ้ง ก็จะมีห้างดองกี้ที่คนไทยรู้จักกันดีตั้งอยู่ด้วย
การเดินทาง : นั่งรถไฟลงสถานีชินจูกุ
11. พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace)
เปลี่ยนบรรยากาศการทริปเที่ยวโตเกียวของคุณ มาสัมผัสความยิ่งใหญ่ของพระราชวังกันบ้าง ซึ่งที่ญี่ปุ่นเองก็มีวังสวย ๆ ไม่แพ้วังดัง ๆ จากประเทศอื่นเลย และวังที่เราจะพาทุกท่านไปนี้ก็คือพระราชวังอิมพีเรียลนั่นเอง โดยปกติแล้วพระราชวังแห่งนี้จะไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม ยกเว้นวันที่ 23 ธันวาคม (วันเกิดจักรพรรดิ) และวันที่ 2 มกราคม (วันปีใหม่) เท่านั้น ซึ่งใครวางแผนอยากไปชมวังแบบครบเต็มบรรยากาศวังชั้นในต้องเตรียมตัววางแผนกันหน่อย แต่ถ้าใครพลาดไม่ได้เดินทางเที่ยวโตเกียวในวันดังกล่าว คุณยังสามารถชมสวนทิศตะวันออกของวังได้แบบฟรี ๆ
สวนทิศตะวันออกเป็นสถานที่ที่ที่เหมาะกับการเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ ชมดอกซากุระบาน ไปจนถึงชมใบไม้เปลี่ยนสี สำหรับจุดที่เป็นไฮไลท์สำคัญของพระราชวังแห่งนี้ก็คือสะพานนิจูบาชิ ที่มีการออกแบบผสมผสานสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตก รับว่าเป็นสะพานที่มีความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร หากใครมาเที่ยวโตเกียวในช่วงวันที่พระราชวังเปิด เราก็แนะนำให้แวะมา ไม่ผิดหวังแน่นอน
การเดินทาง : นั่งรถไฟมาลงที่สถานี Tokyo Station
12. ภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบทั้ง 5
ขอพาท่องท่านออกมาเที่ยวโตเกียวบริเวณนอกเมืองกันบ้าง แบบเที่ยวสบาย ๆ One way Trip จากโตเกียวได้ ซึ่งที่แรกที่เราอยากจะแนะนำก็คือภูเขาไฟฟูจิ หนึ่งในสัญลักษณ์อันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่สวยที่สุดในโลกอีกด้วย บริเวณโดยรอบของภูเขาไฟฟูจินั้นเป็นที่ตั้งของทะเลสาบทั้ง 5 อันเลื่องชื่อด้านความสวยงาม โดยจะมีโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร จุดเช็กอินถ่ายรูป ซึ่งทะเลสาบที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดก็คงเป็นทะเลสาบคาวากุจิโกะนั่นเอง
โปรแกรมเที่ยวโตเกียว ฟูจิ นับเป็นแพลนเที่ยวในฝันของใครหลายคน สำหรับการมาเที่ยวที่ภูเขาไฟฟูจิแห่งนี้จะมีกิจกรรมไฮไลท์ที่ต้องทำคือ การถ่ายภาพภูเขาไฟฟูจิ โดยจุดที่นิยมที่สุดในการถ่ายรูปก็คือสวนอาราคุรายามะ เซ็นเง็น ที่จะเป็นจุดถ่ายเจดีย์ 5 ชั้น โดยมีพื้นหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งบอกเลยว่างดงามและลงตัวเป็นอย่างยิ่ง ส่วนอีกจุดที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันก็คือ บริเวณทะเลสาบโมโตซุที่คุณจะสามารถถ่ายรูปฟูจิซังที่สะท้อนบนพื้นผิวน้ำราวกับกระจกได้ อีกไฮไลท์ของการมาเที่ยวฟูจิแห่งนี้ก็คือการมาปีนภูเขาไฟฟูจิในช่วงฤดูร้อน ซึ่งนับเป็นประสบการณ์อันสุดท้าทายเพราะคุณจะสามารถชมบรรยากาศรอบปากปล่องภูเขาไฟได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ที่ฟูจิเองยังเป็นที่ตั้งของฟูจิคิวไฮแลนด์ หนึ่งในสวนสนุกสุดมันที่ได้รับความนิยมจากเหล่านักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง สำหรับใครที่มาเที่ยวโตเกียวและอยากออกนอกเมืองไปชมธรรมชาติสวย ๆ เราแนะนำให้มาภูเขาไฟฟูจิแห่งนี้เลย
13 โยโกฮาม่า
โยโกฮาม่าเป็นหนึ่งในเมืองท่าอันสำคัญของญี่ปุ่นที่อยู่ติดกับเมืองโตเกียวเลย คนที่มาเที่ยวโตเกียวสามารถนั่งรถไฟมาเที่ยวเมืองโยโกฮาม่าแห่งนี้ได้ง่าย ๆ แค่ภายในเวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ที่เมืองโยโกฮาม่าแห่งนี้ขึ้นชื่อในด้านแหล่งช้อปปิ้ง ความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งจะผสมผสานไปด้วยวัฒนธรรมจากชาติตะวันตก
จุดท่องเที่ยวไฮไลท์ของโยโกฮาม่าแห่งนี้คือ China Town ที่ใหญ่ที่สุดในโลก การชมอาคารสไตล์ตะวันตกยุคโบราณ หรือถ้าใครชื่นชอบการทานราเมงเป็นชีวิตจิตใจก็แนะนำให้แวะมาที่พิพิธภัณฑ์ราเมงชินโยโกฮามะ เพราะที่นี่ได้รวบรวมร้านราเมงชื่อดังจากทั่วญี่ปุ่นมาครบถ้วน! สำหรับใครอยากมาเดินเล่นชิล ๆ ชมความงดงามของเมือง รวมถึงแวะช้อปปิ้งร้านค้าท้องถิ่น กินของอร่อย ๆ ชมบรรยากาศริมทะเล เราก็แนะนำให้คนที่มาเที่ยวโตเกียวแวะมาที่โยโกฮาม่าแห่งนี้ รับรองติดใจแน่นอน
14. เมืองนิกโก้
ขอนำเสนอสถานที่เที่ยวนอกโตเกียวกันอีกสักที่กับเมืองนิกโก้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าถ้าคุณมาเที่ยวโตเกียวแล้ว ไม่แวะมานิกโก้ถือว่าพลาดอย่างแรง เพราะที่นี่บ้านเมืองอันสงบเงียบ รายล้อมด้วยธรรมชาติอันสวยงามเหมาะกับการพักผ่อน ประกอบกับมีวัดและศาลเจ้าอันเป็นกลิ่นอายของวัฒนธรรมญี่ปุ่นแฝงอยู่ทุกมุมเมือง สมกับเป็นเมืองแห่งมรดกโลกที่ได้รับการรับรองจากองค์กรUNESCOเลยทีเดียว
เมืองนิกโก้ตั้งอยู่ในจังหวัดโทชิกิ ห่างจากกรุงโตเกียวไปเล็กน้อย นั่งรถไฟมาเที่ยวใช้เวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง เหมาะกับการมาเที่ยวโตเกียวแล้วมาที่นี่แบบ One day trip สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองนิกโก้แห่งนี้ก็คือศาลเจ้านิกโกโทโชงุที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยศาลแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมอันงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ ภายในเมืองยังมีวัด-ศาลเจ้า อีกหลายแห่งที่เหมาะกับการแวะชม เช่น สะพานชินเคียวของศาลเจ้าฟุตะระซัง วัดรินโนจิ และวัดไทยูอิน เป็นต้น หรือถ้าใครอยากแวะชมความงดงามที่ธรรมชาติคัดสรร ก็จะมี น้ำตกเคะงน ทะเลสาบชูเซ็นจิ คันมันกาฟุจิ ซึ่งต้องบอกเลยว่าสวยงามมาก แต่ถ้าใครอยากสัมผัสกลิ่นอายของบ้านเมืองญี่ปุ่นยุคโบราณ ก็แนะนำให้นั่งรถออกมานอกเมืองเล็กน้อยเพื่อมาแวะเข้าชม เอโดะ วันเดอร์แลนด์ ธีมพาร์คจำลองบรรยากาศสมัยเอโดะให้คุณได้แต่งชุดกิโมโนสวย ๆ ถ่ายรูปพร้อมกับบรรยากาศคลาสสิกโบราณ
15. ฮาโกเน่
ฮาโกเน่เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้โตเกียว แต่เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญที่นิยมในหมู่คนไทยที่มาเที่ยวโตเกียว อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในจุดแวะเมื่อเดินทางมาเที่ยวในเส้นทางโตเกียว-ฟูจิ อีกด้วย ไฮไลท์เด่น ๆ ของการมาเที่ยวฮาโกเน่แห่งนี้ก็คือการแวะมาแช่ออนเซ็น เพราะที่นี่มีของขึ้นชื่อคือไข่ออนเซ็นสีดำของหุบเขาโอวาคุดานิ สาเหตุที่ไข่เป็นสีดำนั้นเกิดจากความเข้มข้นของเปลือกไข่ทำปฏิกิริยากับกำมะถัน ซึ่งคนญี่ปุ่นเชื่อว่าหากทานไปจะทำให้มีอายุยืนยาว เหมาะกับการแวะมาพักชิล ๆ นอนโรงแรมเรียวกัง สัมผัสความเป็นญี่ปุ่น แช่ออนเซ็นร้อน ๆ พร้อมทานไข่ดำ บอกเลยว่าฟินไม่ใช่น้อย
อีกสถานที่เที่ยวแนะนำของฮาโกเน่ที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องแวะมาคือ ศาลเจ้าฮาโกเน่ ศาลเจ้าชินโตที่เก่าแก่อีกแห่งของญี่ปุ่น ซึ่งจุดเช็กอินไฮไลท์ของที่นี่คือเสาโทริอิสีแดงที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบอาชิ โดยฉากหลังเป็นผืนน้ำพร้อมมองเห็นภูเขาฟูจิอยู่ไกล ๆ ต้องบอกเลยว่างดงามเป็นอย่างยิ่ง
โตเกียวเป็นเมืองที่เที่ยวง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก สำหรับ 15 ที่เที่ยวโตเกียว ที่เราคัดมาให้นั้น เป็นจุดไฮไลท์สำคัญที่ไม่ควรพลาด สำหรับใครที่อยากเดินทางมาเที่ยวโตเกียวแบบกรุ๊ปส่วนตัว มีคนให้บริการความสะดวกตลอดเส้นทางไม่ว่าจะเป็น ช่วยจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก บริการเช่ารถพร้อมคนขับ หรือบริการไกด์ท้องถิ่น คุณสามารถติดต่อมาหาเรา Artralux ได้เลย
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
