“ปาโบล ปิกัสโซ (Pablo Picasso)” ชื่อนี้เป็นชื่อที่ทุกคนคงจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับเด็กศิลปะ หรือ สายอาร์ตทั้งหลายผู้หลงใหลในงานศิลปะระดับสากล ไม่เพียงแต่ที่ปิกัสโซ่ จะเป็นจิตกรเอกระดับโลกผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง และมีประวัติยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่ 20 แล้ว บุคคลท่านนี้ ยังเป็นหนึ่งในไม่กี่ศิลปินที่มีชื่อเสียง และ มีอิทธิพลในโลกของศิลปะในขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่
เป็นที่ทราบกันดีว่าปิกัสโซ่ เป็นศิลปินที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ทางด้านศิลปะ โดยตลอดระยะเวลา 91 ปีที่ปิกัสโซ่ยังมีชีวิตอยู่ เขาได้สร้างสรรค์เทคนิคผลงานศิลปะมากมายหลายแขนงรวมกว่า 50,000 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็นงานจิตกรรม, ประติมากรรม, ภาพสิ่งพิมพ์, เซรามิก, แกะสลัก และ การออกแบบละครเวที จนทำให้นิตยสารไทม์ (TIME) ได้ยกย่องให้ปิกัสโซ่ เป็นศิลปินที่มีพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์งานศิลปะมากที่สุดในยุคศตวรรษที่ 20 ซึ่งไม่เพียงแต่จำนวนงานเท่านั้น งานแต่ละชิ้นของปิกัสโซ่เอง ก็มีความแปลกตา และ สวยงาม จนทำให้งาน Painting ของปิกัสโซ่ ผลงานที่ผติดอันดับ 1 ใน 10 งานศิลปะภาพเขียนที่มีราคาแพงมากที่สุดในโลกอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม เส้นทางชีวิตของเขากว่าจะกลายมาเป็นศิลปินผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง จนทำให้ในปัจจุบันได้มีพิพิธภัณฑ์ Picasso (Picasso Museum) จัดแสดงงานศิลปะของปาโบล ปิกาโซให้ศิลปินรุ่นหลังได้เรียนรู้นั้น ไม่ใช่เส้นทางที่ราบรื่นนัก วันนี้ ARTRALUX จึงขอนำเพื่อนๆ ย้อนเวลากลับไปยังยุคคริสต์ศตวรรษที่ 20 เพื่อเรียนรู้เรื่องราวชีวิตของศิลปินท่านนี้ ไม่ว่าจะเป็น ปิกัสโซ่ ประวัติ, แนวคิด, เทคนิค รวมไปถึงผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เขา และเท่านี้ยังไม่พอ ARTRALUX จะพาคุณไปชมรูปปั้นปิกัสโซ่ และผลงานของเขากันอย่างใกล้ชิด ซึ่งถูกจัดแสดงไว้ ณ พิพิธภัณฑ์ Picasso (Picasso Museum) ทั่วโลก ซึ่งข้อมูลจะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย!
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
ปิกัสโซ่ ประวัติ และ เส้นทางชีวิตกว่าจะมาเป็นสุดยอดจิตกรเอกของโลก
ขอเริ่มต้นบทความนี้กันที่ ปิกัสโซ่ ประวัติ, เรื่องราวชีวิต และ ผลงานที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก จนกลายเป็นศิลปินที่มีภาพวาดมูลค่ามหาศาลอีกท่านของโลก ปาโบล รุยซ์ ปิกัสโซ่ (Pablo Ruiz Picasso) หรือ ปิกัสโซ่ เป็นชื่อของศิลปินท่านหนึ่งที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก เขาเกิดเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม ปี 1881 ณ เมืองมาลากา (Málaga) ทางตอนใต้ของประเทศ สเปน เชื่อกันว่าตั้งแต่ที่ปิกัสโซ่เกิดมา เขาก็ได้ฉายแววพรสวรรค์ทางด้านศิลปะทันที ซึ่งคำแรกที่ปิกัสโซ่พูดออกมา ไม่ใช่คำว่า “แม่” แต่กลับเป็นคำว่า “Piz” ซึ่งเป็นคำย่อมาจากคำว่า “Lapiz” ที่แปลว่า ‘ดินสอ’ ในภาษาสเปน
ความสามารถในด้านศิลปะ และ ความคิดอันเป็นอิสระของปิกัสโซ่นั้น ส่วนหนึ่งมาจากสภาพแวดล้อมในวัยเด็กของเขา ที่เอื้ออำนวยให้เขามีพัฒนาการทางด้านศิลปะอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากปิกัสโซ่ เกิดในครอบครัวศิลปินอย่างแท้จริง คุณพ่อของเขาเป็นอาจารย์สอนศิลปะในมหาวิทยาลัย มารีอา ปีกัสโซ อี โลเปซ (Maria Picasso Ruiz) และ เปนผู้พลักดันในปิกัสโซ่ฝึกฝนวาดรูปอย่างสม่ำเสมอ
ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ปิกัสโซ่ก็ได้เริ่มทำงานศิลปะกับพ่อของเขาอย่างจริงจัง แต่ความอัฉริยะทางศิลปะของปาโบล ปิกาโซนั้น ก็ได้ฉายแววขึ้นเมื่อเขาอายุ 13 ปี โดยเหตุการณ์ที่ทำให้พ่อของปิกัสโซ่ตัดสินใจส่งปิกัสโซ่เข้าเรียนโรงเรียนศิลปะที่บาร์เซโลน่า (ฺBarcelona) นั้น คือในขณะที่พ่อของปิกัสโซ่กำลังวาดรูปนกพิราบอยู่ เขาก็ได้ออกไปทำธุระข้างนอก และกลับมาก็พบว่าปิกัสโซ่ได้ทำการวาดรูปนกพิราบดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย และมีความสวยงามยิ่งกว่าฝีมือของผู้ใหญ่เสียอีก
เมื่อก้าวเข้าสู่วัย 20 ปี ปิกัสโซ่ได้ลาออกจากโรงเรียนศิลปะ และ ได้ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสอย่างถาวร ซึ่งประเทศฝรั่งเศสนี่เอง เป็นประเทศที่มีอิทธิพลทางศิลปะเป็นอย่างยิ่ง โดยในการย้ายที่อยู่ครั้งนี้ ได้สร้างความเป็นอิสระทางความคิดที่ไร้ขีดจำกัดของเขาอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ปิกัสโซ่สร้างสรรค์ผลงานที่มีชื่อเสียงออกมาให้เราได้ชื่นชมมากมาย
อย่างไรก็ตาม นอกจากจำนวนงานศิลปะ และ ความสามารถทางด้านศิลปะแล้ว สิ่งที่ทำให้ชื่อของปิกัสโซ่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก คือ สไตล์ (Style) งานศิลปะของเขา ที่ได้ปรับเปลี่ยน และ พัฒนาไปเรื่อยๆ โดยสไตล์งานศิลปะของปาโบล ปิกาโซ สามารถแบ่งออกเป็น 3 ยุคหลักๆ ดังนี้
ปิกัสโซ่ ผลงานศิลปะยุค “Blue Period”
ยุค Blue Period (บลูพีเรียด) เริ่มต้นตั้งแต่ปี 1901 – 1904 เป็นช่วงชีวิตหนึ่งของปิกัสโซ่ เทคนิคในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะของเขาในยุคนี้จะเป็นการใช้สีวรรณะเย็น (cool tone), สีฟ้า และ สีน้ำเงิน เป็นหลัก ซึ่งผลงานศิลปะของปาโบล ปิกัสโซในช่วงนี้ มักจะออกมาในแนวเศร้าหมอง ไม่มีชีวิตชีวา ราวกับคนที่อยู่ในสภาวะซึมเศร้า ซึ่งปิกาโซ่เลือกใช้เทคนิคการใช้สีน้ำเงิน หรือ สีโทนเย็นในการถ่ายทอดอารมณ์เศร้าออกมานั่นเอง
บ้างก็ว่าแรงบันดาลใจของปิกัสโซ่ในยุคนี้ คือ ศิลปะแบบ Fauvism แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าส่วนหนึ่งนั้นเกิดจากการที่เพื่อนรักนักกวีของปิกัสโซ่ ได้ตัดสินใจลาจากโลกนี้ไป ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้ส่งผลกระทบต่อจิตใจของเขาเป็นอย่างยิ่ง และปิกัสโซ่เองที่กำลังดิ้นรนกับความยากลำบากของอาชีพจิตกร จึงได้ตัดสินใจถ่ายทอดความโคกเศร้าของเขาออกมาผ่านผลงานอย่างที่เห็น โดยผลงานปิกัสโซ่ในยุคนี้ ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด คือ ผลงานที่ชื่อว่า “La vie” ซึ่งเป็นผลงานปิกัสโซ่ที่โด่งดัง ถูกวาดขึ้นในปี 1903
ปิกัสโซ่ ผลงานศิลปะ ยุค “Rose Period”
อีกหนึ่งยุคเทคนิคศิลปะของปิกัสโซ่ คือ ยุค Rose Period (โรสพีเรียด) ในช่วง 1904-1906 ซึ่งเป็นยุคที่ปิกัสโซ่ ผลงาน และ ความคิดของเขา ได้ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านผลงานอย่างชัดเจน โดยงานศิลปะของปิกัสโซ่ช่วงนี้ จะเน้นไปใช้สีวรรณะร้อน (Warm Tone) เป็นหลัก ซึ่งได้แก่ สีชมพูอมแดงอย่างที่เห็นในภาพ โดยแรงบันดาลใจของเขาในช่วงนี้ คือ การที่เขาได้พบรักกับคนรักของเขา ทำให้เขามีสภาพจิตใจที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากที่ปิกัสโซ่จะใช้เทคนิค สีโทนวรรณะร้อนในการถ่ายทอดอารมณ์ของเขาแล้ว ผลงานของเขาในช่วงนี้ ยังมีชีวิตชีวา และ มีความสนุกสนานในตัว โดยแต่ละผลงานชองเขานั้น ประกอบไปด้วยภาพนักแสดง และ ตัวตลก นั่นเอง
ปิกัสโซ่ ผลงานศิลปะ ยุค “Cubism Period”
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อพูดถึงบาโบล ปิกัสโซ่ ผลงาน และ เทคนิคทางงานศิลปะที่เรียกได้ว่ามาควบคู่ไปกับชื่อของเขาก็ว่าได้ หนีไม่พ้น เทคนิค Cubism หรือ ศิลปะแบบคิวบิสม์ ซึ่งปิกัสโซ่เป็นศิลปินท่านแรกที่ได้บุกเบิกศิลปะแบบคิวบิสม์ เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ 1907 -1917
ซึ่งผลงานของปิกัสโซ่ช่วงนี้ ได้รับอิทธิพล และ แรงบันดาลใจมาจากสองสิ่งนั้นคือ ความเจริญทางวิทยาศาสตร์ และ รูปแบบหน้ากากของชนเผ่าดั้งเดิมในแอฟริกา ส่งผลให้งานศิลปะของปิกัสโซ่ในช่วงนี้ มีการนำเอารูปทรงเลขาคณิตมาประกอบกันเป็นภาพคน หรือ สิ่งของต่างๆ นอกจากนี้ ปิกัสโซ่ ยังได้สร้างสรรค์งานศิลปะโดยการนำหนังสือพิมพ์ หรือ เศษกระดาษมาตัดแปะกลายเป็นภาพศิลปะอันสร้างสรรค์อย่างที่เห็น
โดยผลงานของปิกัสโซ่ในช่วงยุค Cubism Period ที่มีชื่อเสียง ได้แก่ ภาพ Les demoiselles d’avignon หรือ ภาพจิตรกรรมโสเภณีเปลือยแสดงท่าเย้ายวนในซ่อง ณ เมือง Avignon ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งปิกัสโซ่ได้ใช้เวลากว่า 9 เดือนในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ เนื่องจากการนำรูปทรงเลขาคณิตมานำเสนอความงดงามของผู้หญิงให้แตกต่างออกไปจากศิลปะร่วมสมัยในสมัยนั้น เป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลกใหม่ อย่างไรก็ตามภาพนี้ได้กลายเป็นที่ถกเถียง และ วิพากวิจารกันอย่างหนัก ทั้งในเรื่องของเทคนิคงานศิลปะที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และ เนื้อหาของรูปที่ไม่เหมาะสม
ก่อนที่ปิกัสโซ่จะจากโลกนี้ไปในวัย 91 ปี เขาได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะหลายสไตล์ ซึ่งว่ากันว่าหากคุณนำผลงานศิลปะของปาโบล ปิกาโซ มาวางเรียงกันตามยุคสมัย คุณจะได้เห็นผลงานศิลปะราวกับสร้างสรรค์ด้วยศิลปินกว่า 6 ท่านเลยก็ว่าได้
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
ปิกัสโซ่ ผลงาน ที่สร้างชื่อเสียงระดับโลก
อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น ปิกัสโซ่ ผลงาน และ เทคนิคที่ใช้ในงานศิลปะของเขามีความแตกต่าง กันไปตามยุคสมัย อย่างไรก็ตาม หากเพื่อนๆ สังเกตดีๆ ไม่ว่าจะยุคไหน สิ่งที่เห็นได้ชัดจากงานศิลปะของปาโบล ปิกัสโซ่ คือ “ความรู้สึก” และ “รูปทรง” ที่ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ โดยตลอดระยะเวลา 91 ปีที่ผ่านมาของชีวิตปิกัสโซ่ ผลงานที่ได้สร้างชื่อเสียง และ โด่งดังไปทั่วโลกนั้น มีมากมาย แต่ภาพที่ได้รับความสนใจมากที่สุด และ มีความหมายกับตัวเขามากที่สุดนั้น คือ ภาพวาด Guernica ที่ปิกัสโซ่ได้วาดขึ้นในปี 1937 ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 นั่นเอง
ภาพวาด Guernica (1937)
ภาพวาด Guernica (เกวร์นิกา) เป็นภาพวาดผลงานของปิกัสโซ่ขนาดใหญ่ ความสูง 3.49 เมตร และกว้าง 7.77 เมตร เป็นภาพวาดที่แสดงถึงความโศกเศร้า และ ความรู้สึกต่อต้านของเขาที่มีต่อสงครามโลก โดยแรงบันดาลใจที่ทำให้ปิกัสโซ่สร้างสรรค์ภาพวาดนี้ เริ่มต้นจากการที่ทหารรบชาวเยอรมันได้ทิ้งระเบิดลงที่เมืองเล็กๆ ในแคว้นบาสก์ ทางตอนเหนือของประเทศสเปน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งสิ่งที่น่าเศร้าที่สุดนั้นคือ เหตุการณ์นี้เป็นเพียงแค่เหตุการณ์เริ่มต้นก่อนที่จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างเป็นทางการ
ภาพวาด Guernica (เกวร์นิกา) ของปิกัสโซชิ้นนี่ ได้กลายเป็นภาพที่สะท้อนถึงเสียงต่อต้านสงคราม และ การใช้อาวุธต่อผู้บริสุทธิ์ของผลเมืองทั่วทั้งโลก ภาพวาดนี้ ใช้เทคนิคสีขาว – ดำ ที่สะท้อนถึงอารมณ์ความรู้สึกเจ็บปวด และ ความวุ่นวายในสนามรบ โดยทุกรายละเอียด และ องค์ประกอบ แสดงถึงความหมายอันลึกซึ้ง ได้แก่
- กระทิง สื่อถึงความโหดร้ายของสงคราม
- ม้า แสดงถึง ความทรมานของประชาชน
- กระดาษหนังสือพิมพ์ที่ใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานนี้ คือ หนังสือพิมพ์ที่ผาดข่าวการโจมตี และ สงครามกลางเมืองในสเปน
- นกพิราบ ที่แทบจะมองไม่เห็นในรูป แสดงถึง ความสันติสุขหลังจากสงครามสิ้นสุดลง
โดยในปัจจุบัน ภาพวาดปิกัสโซ่ดังกล่าวได้ถูกจัดแสดงไว้ที่ พิพิธภันฑ์แห่งชาติของสเปน (Museo Nacional Centro de Arte Reina Sofía) (MNCARS) ซึ่งก่อนที่จะมาจัดแสดที่นี่ได้ ปิกัสโซ่ไม่ยอมเอาภาพวาดของเขาเข้าประเทศสเปนจนกว่าที่ประเทศสเปนจะได้รับความเป็นประชาธิปไตรนั่นเอง
3 อันดับพิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ่ที่ดีที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก
หลังจากที่เราได้ทราบถึงเรื่องราวปิกัสโซ่ ประวัติ และ ผลงานศิลปะของเขาในทุกช่วงสมัยแล้ว เชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายคนคงอยากจะเดินทางไปชื่นชมผลงานศิลปะของปิกัสโซ่ของจริงกันอย่างแน่นอน ซึ่งในปัจจุบัน ผลงานศิลปะหลายชิ้นของปาโบล ปิกัสโซ่ (Pablo Picasso) ได้ถูกจัดแสดงไว้ ณ พิพิธภัณฑ์ Picasso หลายที่ทั่วทวีปยุโรป ซึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ไม่ควรพลาด มีดังนี้
1. พิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ่ ที่กรุงปารีส, ฝรั่งเศส (Musée Picasso, Paris)
หากให้เลือกที่สถานที่ตั้ง สำหรับจัดแสดงผลงานของปิกัสโซ่นอกจากประเทศสเปนซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาแล้ว แน่นอนว่ากรุงปารีส คงจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะเมืองปารีส ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศสนี่ เปรียบเสมือนกับบ้านหลังที่สองของปิกัสโซ่ก็ว่าได้
ปิกัสโซ ได้ย้ายถิ่นฐานมายังกรุงปารีส ในช่วงศตวรรษที่ 20 และได้พำนักที่ย่าน Montmartre ซึ่งเป็นย่านที่รายล้อมไปด้วยสีสัน ความสวยงามทางธรรมชาติ และ สถาปัตยกรรมสไตล์ฝรั่งเศสอย่างชัดเจน สิ่งเหล่านี้เองได้เกิดเป็นแรงบันดาลใจให้ปิกัสโซ่เปลี่ยนแนวศิลปะ และ เทคนิคของเขา จาก Blue Period เป็น Rose Period หรือ เทคนิคศิลปะโทนสีอุ่นที่มีความสนุกสนานนั่นเอง
Musée Picasso ที่กรุงปารีสตั้งอยู่ที่โรงแรมซาเล (Hôtel Salé) ในเขตย่าน เลอ มาเรส์ (Le Marais) ซึ่งโรงแรมแห่งนี้ เดิมทีเป็นคฤหาสน์ที่อยู่ของนักภาษีเก็บเกลือคนหนึ่งที่ชื่อว่า ‘ปิแอร์ โอแบรต์ เดอ ฟงเตอะนัว’ จนในปี 1985 คฤหาสน์แห่งนี้ ก็ได้กลายเป็นโรงแรม และ เป็นที่จัดแสดงปิกัสโซ่ ผลงาน และ ประวัติ โดยมีผลงานของเขาจัดแสดงที่นี้มากถึง 5,000 ชิ้น ไม่ว่าจะเป็น ผลงานภาพวาดสีน้ำเงิน ประติมากรรม และ อีกมากมาย แต่ผลงานปิกัสโซ่ที่มีชื่อเสียงที่สุดที่ถูกจัดแสดงที่นี่ คือ ภาพวาดสีน้ำมัน ที่ชื่อว่า “The Pipes of Pan” ซึ่งเป็นภาพวาดปิกัสโซ่ที่ถูกวาดขึ้นในปี 1923 ในระหว่างยุคศิลปะ Neoclassical Period ของเขา และเป็นภาพวาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในยุคนั้นนั่นเอง
พิกัดที่ตั้ง: Musée National Picasso-Paris
วัน/เวลาทำการ : วันอังคาร – ศุกร์ เวลา 10:30 am–6:00 pm, วันเสาร์ – อาทิตย์ เวลา 9:30 am–6:00 pm และ ปิดทำการทุกวันจันทร์
ค่าเข้าชม: 14 ยูโร
2. พิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ่ ที่เมืองบาร์เซโลน่า, สเปน (Museu Picasso, Barcelona)
แม้ว่าเมืองบาร์เซโลน่าจะไม่ใช่บ้านเกิดของปิกัสโซ่ แต่เมืองบาร์เซโลน่านี่ คือ สถานที่ต่อยอดพรสวรรค์ และ เทคนิคศิลปะของศิลปินท่านนี้อย่างปฏิเสธไม่ได้ ปิกัสโซ่ได้ย้ายมาอยู่ที่เมืองบาร์เซโลน่าตั้งแต่เด็ก เพื่อเรียนต่อทีโรงเรียนศิลปะ Barcelona’s School of Fine Arts และที่บาร์เซโลน่าแห่งนี้เอง คือ จุดเริ่มต้นของนามปากกา “Pablo R. Picasso” ด้วยเหตุนี้เอง ที่บาร์เซโลน่าจึงมีพิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ่ เพื่อจัดแสดงผลงานศิลปะชิ้นเอกของเขา อีกทั้งยังเป็นจึงเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงผลงานศิลปะของปิกัสโซ่ที่ดีที่สุดในโลกอีกด้วย
โดยพิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ่ ที่บาร์เซโลน่าได้รวมรวบผลงานศิลปะของปิกัสโซ่มากกว่า 3,000 ชิ้น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานศิลปะของปิกัสโซ่ในช่วงที่เขาใช้ชีวิตวัยรุ่นอยู่ที่เมืองบาร์เซโลน่า ซึ่งงานศิลปะที่ถูกจัดแสดงในที่แห่งนี้เอง ทำให้คุณได้เห็นถึงวิวัฒนาการของผลงานปิกัสโซ่ในทุกยุคสมัย โดยผลงานโดดเด่นที่ถูกจัดแสดงในพิพิภัณฑ์แห่งนี้ ได้แก่ ภาพวาด “Science and Charity”, “Las Meninas” , “Harlequin” และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ ภาพ “Las Meninas” ซึ่งเดิมทีเป็นผลงานของ Diego Velàzquez แต่ปิสกัสโซ่ได้นำมาสร้างสรรค์ใหม่ โดยการใช้เทคนิคการวิเคราะห์โครงสร้างและรูปทรงทางเลขาคณิตในงานศิลปะอย่าง เทคนิค Cubism ซึ่งเป็นเทคนิคประจำตัวของเขานั่นเอง
พิกัดที่ตั้ง: Picasso Museum
วัน/เวลาทำการ : เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่ 9:00 am ถึง 8:00 pm ยกเว้นวันจันทร์
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 12 ยูโร, หากอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าชมฟรี
3. พิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ่ ที่เมืองมาลากา, สเปน ( Museo Casa Natal de Picasso)
ปิดท้ายกันที่บ้านเกิดของปาโบล ปิกาโซ ที่เมือง มาลากา (Málaga) เมืองท่า ในแคว้นอันดาลูซิอา ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศสเปน โดยบ้านเกิดของปิกัสโซ่สมัยด็กนั้น เป็นตึกแถว แต่ในปัจจุบันตึกแถวดังกล่าวได้กลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ่ (Museo Casa Natal de Picasso) ให้เหล่าผู้หลงใหลในงานศิลปะได้ชื่นชมผลงานของปิกัสโซ่ ตั้งแต่ช่วงเวลาวัยเด็ก จนกระทั่งถึงช่วงเวลาไม่กี่ปีก่อนที่เขาจะลาจากโลกนี้ไป
นอกจากผลงานศิลปะของปิกัสโซ่แล้ว ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ยังได้รวบรวมชีวประวัติของปิกัสโซ่ให้ได้ศึกษากันอีกด้วย โดยในห้องจัดแสดงห้องแรก คุณจะได้เรียนถึงชีวิตวัยเด็กของปิกัสโซ่ ตั้งแต่เกิด จนถึงอายุ 9 ขวบ ก่อนที่ปิกัสโซ่จะย้ายไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสอย่างถาวร ภายในห้องนี้ จะมีการจัดแสดงเสื้อผ้าวัยเด็ก, ตุ๊กตาของเล่น, ภาพถ่ายครอบครัว , รองเท้าหัดเดิน และอีกมากมาย
โดยไฮไลท์ที่ทำให้พิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ่ ที่เมืองมาลากา แตกต่างจากที่อื่นๆ นั้น คือ การที่นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมบ้านของปิกาโซ่ และ ห้องทำงานของเขาที่ยังคงรักษาไว้จนถึงปัจจุบัน และห้องที่พลาดชมไม่ได้เลย คือ ห้องที่ได้จัดแสดงผลงานปิกัสโซ่ในช่วงบั้นปลายชีวิตของเขา ซึ่งสำหรับศิลปินที่ชื่อปิกัสโซ่ ผลงานที่ต้องไปชมให้เห็นกับตา หากมีโอกาส คือผลงานที่ชื่อว่า ‘The Bull’ ซึ่งเป็นชุดลายเส้นภาพวาดกระทิง ที่เขาวาดตั้งแต่วัยเด็ก วัยหนุ่ม วัยกลางคน วัยชรา และ ในช่วงไม่กี่ปีก่อนที่เขาจะลาจากโลกนี้ไป ภาพชุดนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของเทคนิคศิลปะของปิกัสโซ่ จากภาพเสมือนจริง มาเป็นเทคนิคแบบคิวบิสม์ (Cubism) ก่อนที่จะเริ่มลดรายละเอียดลง กลายมาเป็นลายเส้นแบบง่ายๆเสมือนภาพวาดเด็ก ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลงนั่นเอง
สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากจะเดินทางไปชื่นชมผลงานของปาโบล ปิกาโซ (Pablo Picasso) ของจริงกันถึงที่ ไม่ว่าจะที่พิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ่ที่ไหนในยุโรป Artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำ สามารถจัดทริปท่องเที่ยวให้ได้ โดยที่คุณสามารถเลือกจุดหมายปลายทาง แลนด์มาร์กที่อยากไปท่องเที่ยว ระดับโรงแรมที่ต้องการพัก รวมไปถึงกิจกรรมท่องเที่ยวอื่นๆ ได้อีกมากมาย
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
