“เที่ยวเกาหลี” เชื่อว่าคำนี้ เป็นคำที่นักท่องเที่ยวพูดกันบ่อย และ เราได้ยินกันอย่างคุ้นหูโดยเฉพาะในช่วงหลายปีที่ผ่าน แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงประเทศเกาหลี (South Korea) หรือชื่อเต็มๆ สาธารณรัฐเกาหลีใต้ (Republic of Korea) แล้ว หลายคนคงนึกถึงกระแสที่มาแรง แซงโค้งทุกอย่าง อย่างกระแส K-POP และ กระแสซีรีย์เกาหลีกันอย่างแน่นอน ซึ่งแม้ว่าจะปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสดังกล่าว ได้ส่งผลต่อการท่องเที่ยวเกาหลีเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม เสน่ห์ของประเทศเกาหลีใต้ที่ทำให้นักท่องเที่ยวที่เคยได้ไปสัมผัสมาแล้ว ไม่วายต้องกลับมารีบวางแผนเพื่อที่จะไปเที่ยวเกาหลีกันอีกหลายๆ ครั้งนั้น เป็นเพราะเกาหลีใต้ เป็นหนึ่งในประเทศในภูมิภาคเอเชีย ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนที่ไหนในโลก สิ่งที่จะได้จากการไปเที่ยวเกาหลี นอกจากพบเจอกับแลนด์มาร์กที่สวยงามระดับ World Heritage แล้ว ประเทศเกาหลียังเป็นประเทศที่มีความหลากหลาย ทั้งทัศนียภาพที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดู สถานที่เที่ยวที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีความสามารถในการพัฒนาประเทศแบบไม่หยุดยั้ง จนกลายเป็นประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตมากที่สุด จึงไม่แปลกใจเลยที่คนไทยไปเที่ยวเกาหลีมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองลงมาจากประเทศญี่ปุ่นในปี 2023 (ผลสำรวจจาก Thailand’s Travel Intentions Study 2023)
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้วางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวเกาหลีอย่างครอบคลุม และ คุ้มค่าที่สุด Artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำ จึงได้รวบรวม 10 ที่เที่ยวเกาหลี ที่ไม่ควรพลาด พร้อมข้อมูลเกี่ยวกับการเที่ยวเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณ, เที่ยวเกาหลีเดือนไหนดีที่สุด, สิ่งที่ต้องเตรียมไป, รวมไปจนถึง ระบบขนส่งสาธารณะสำหรับเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง ซึ่งข้อมูลจะมีอะไรบ้างนั้น เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย!
อัปเดต 10 ที่เที่ยวเกาหลี 2024 ! มาเกาหลีทั้งทีต้องไม่พลาดเช็คอิน
เชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายคนที่กำลังวางแผนไปเที่ยวเกาหลี 2024 คงกำลังศึกษาหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีที่น่าไป กันอยู่ใช่ไหม เนื่องจากเกาหลีมีพื้นที่ที่ค่อนข้างใหญ่ ประกอบไปด้วยจังหวัดทั้งหมด 9 จังหวัด 77 เมือง และ 88 มณฑล ซึ่งแต่ละที่ ต่างมีไฮไลท์ที่เที่ยว และ เสน่ห์ความเป็นเมืองเมืองนั้นที่แตกต่างกันออกไป เช่น เมืองในทางตอนใต้ อย่าง เมืองปูซาน (Busan) นั้น เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบผจญภัย เพราะตัวเมืองรายล้อมไปด้วยภูเขา และ ทะเล อีกทั้งยังมีกิจกรรมมากมาย, เมืองอันดง (Andong) เหมาะสำหรับคนที่ชอบศึกษาเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และ สถาปัตยกรรมเกาหลีโบราณ และ สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักธรรมชาติ อย่าได้พลาดไปเที่ยวเกาหลีเกาะเชจู (Jeju Island) เมืองที่ได้รับการจดทะเบียนมรดกทางธรรมชาติจาก Unesco เป็นอันขาด
1. หมู่บ้านบุกชอนฮันอก (Bukchon Hanok Village)
หากพูดถึงที่เที่ยวเกาหลีที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปท่องเที่ยวเกาหลีเป็นครั้งแรก “หมู่บ้านบุกชอนฮัน (Bukchon Hanok Village)” เป็นที่เที่ยวที่ไม่ควรพลาด เพราะที่นี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเกาหลีที่เดียวในกรุงโซล ที่คุณจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศ และ กลิ่นอายของบ้านเมืองเกาหลีโบราณที่ได้อนุรักษณ์ไว้ตั้งแต่ยุคราชวงศ์โชซอน (Joseon Dynasty) โดยหมู่บ้านแห่งนี้รายล้อมไปด้วยบ้านเรือนสถาปัตยกรรมเกาหลีโบราณที่มีอายุกว่า 600 ปีเลยทีเดียว
ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจของหมู่บ้านแห่งนี้ที่ทำให้กลายเป็นที่เที่ยวเกาหลีที่ได้รับความนิยม คือ แม้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้จะตั้งอยู่กลางกรุงโซล และ รายล้อมไปด้วยความเจริญทางเทคโนโลยี แต่หมู่บ้านแห่งนี้ ยังคงมีรูปลักษณ์ และ บรรยากาศเหมือนเดิมไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ซึ่งนักท่องเที่ยว รวมไปถึงคนเกาหบีเอง จะนิยมใส่ชุดฮันบก ซึ่งเป็นชุดประจำชาติของเกาหลี เดินเที่ยวชม และ ถ่ายรูปที่หมู่บ้านแห่งนี้ นอกจากนักท่องเที่ยวจะสามารถเดินเที่ยวรอบหมู่บ้านดูบรรยากาศเมืองเกาหลีโบราณแล้ว ที่แห่งนี้ยังมีสถานที่ให้เรียนรู้วัฒนธรรมเกาหลีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์วัฒนธรรมประเพณีพุกชน (Bukchon Traditional Culture Center), พระราชวังเคียงบก (Gyeongbokgung Palace), พระราชวังชางด็อก (Changdeokgung Palace) และ ศาลเจ้าชงมโย (Jongmyo Shrine) ซึ่งต่างอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
2. สวนสนุกล็อตเต้เวิลด์ (Lotte World)
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเกาหลีที่พลาดไม่ได้ เหมาะสมสำหรับนักท่องเที่ยวทุกเพศทุกวัยนั้น คือ ดินแดนแห่งความฝัน หรือ ที่นักท่องเที่ยวให้ฉายากันว่า “Universal Southy Korea” นั้น หนีไม่พ้นสวนสนุกล็อตเต้เวิลด์ (Lotte World) ซึ่งเป็นสวนสนุกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศเกาหลี ตั้งอยู่ในกรุงโซล ที่ย่านคังนัม (Gangnam) เป็นสวนสนุกที่มีพื้นที่ในร่มขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งนอกจากเครื่องเล่น และ ร้านอาหารต่างๆ แล้ว สวนสนุกแห่งนี้ ยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสนุกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า พิพิธภัณฑ์รวมวัฒนธรรมเกาหลี รวมไปจนถึงพื้นที่ให้เล่นกีฬา อย่างลานสเก็ต อีกเพียบ
ซี่งบอกได้เลยว่า หากมาเที่ยวเกาหลี หน้าหนาวแล้ว สถานที่แห่งนี้ จะสร้างบรรยากาศ Christmas Magical ได้เป็นอย่างดี จากแสงไปที่ประดับรอบสวนสนุก และ งานพาเหรดคริสมาร์สที่จัดขึ้นเฉพาะในเทศกาลคริสมาร์ตโดยเฉพาะ
3. โซล ทาวเวอร์ หรือ นัมซาน ทาวเวอร์ N Seoul Tower
โซลทาวเวอร์ หรือ นัมซาน ทาวเวอร์ (N Seoul Tower) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเกาหลี และ แลนด์มาร์กที่สำคัญที่สุดของประเทศเกาหลีใต้ ที่เรียกว่าหากมาเที่ยวเกาหลีแล้วไม่ได้มาที่นี้ ถือว่าไม่ถึง ซึ่งโซลทาวเวอร์ ก่อสร้าง และ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปีค.ศ 1980 แต่ได้ถูกบูรณะขึ้นอีกครั้งในปี ค.ศ 2005 โดยมีการเพิ่มไฟหลากสีที่จะให้บรรยากาศที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดู, ตกแต่งภายในให้มีความโมเดิร์น และ ได้มีการเปิดร้านอาหารบนยอดหอคอยที่จะหมุนรอบทาวเวอร์ทุกๆ 48 นาที ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการเติมคำว่า “N” เข้าไป กลายเป็น N Seoul Tower อย่างในปัจจุบัน ซึ่ง N นั้น เป็นตัวย่อมาจากคำว่า “New Look” นั้นเอง
นอกจากที่โซลทาวเวอร์จะเป็นแลนด์มาร์กที่เที่ยวสำคัญของเกาหลีแล้ว สถานที่แห่งนี้ ยังให้วิวทัศนียภาพรอบกรุงโซล เกาหลีใต้แบบพาโนราม่าที่สวยที่สุดอีกด้วย สำหรับการเดินทางไปที่นี้ Artralux แนะนำให้เดินทางโดย เคเบิลคาร์นัมซาน (Namsan Cable Car) ซึ่งเป็นประเช่าลอยฟ้าแห่งแรกในประเทศเกาหลี ที่จะพาคุณขึ้นไปยังภูเขานัมซาน (Namsan Mountain) สถานที่ตั้งของหอคอยเอ็นโซล (N Seoul Tower) นั้นเอง
4. คลองชองกเยชอน (Cheonggyecheon)
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเกาหลี กรุงโซล ที่นักเที่ยวชาวต่างชาติ และ คนเกาหลีเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่รัก นิยมไปออกเดต หรือ เดินเที่ยวชมบรรยากาศกรุงโซลในยามค่ำคืนนั้น จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก คลองชองกเยชอน (Cheonggyecheon) ซึ่งเป็นคลองอันเก่าแก่ของประเทศเกาหลี มีมาตั้งแต่ยุคสมัยราชวงศ์โชชอน และมีอายุยาวนานกว่า 600 ปีเลยทีเดียว จุดเด่นของคลองแห่งนี้ คือ บรรยากาศที่ร่มรื่น และ เงียบสงบ แม้ว่าจะตั้งอยู่ใจกลางกรุงโซล ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศเกาหลีใต้ โดยนักท่องเที่ยวจะนิยมมาชมบรรยากาศของคลองชองกเยชอน (Cheonggyecheon) ในเวลากลางคืน เพราะจะมีการเปิดไปประดับ ตามทั้งสองฝั่งคลอง ให้บรรยากาศที่แสนโรแมนติกไม่น้อยเลยทีเดียว
ไฮไลท์ที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาหลีไม่น้อย คือ สะพานที่พาดผ่านคลองแห่งนี้กว่า 20 สะพาน ซึ่งต่างมีการสร้าง และ ออกแบบคอนเซปต์ที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น สะพานควาง (Gwanggyo Bridge) ซึ่งเป็นสะพานที่ถ่ายทอดแฟชั่นแบบดั้งเดิมกับปัจจุบันเข้าด้วยกัน, สะพานนาแร (Narae Bridge) สะพานตัวแทนของผีเสื้อที่โบยบิน และ ที่พลาดไม่ได้เลย คือ สะพานโมจอน (Mojeongyo Bridge) ซึ่งเป็นสะพานแรกใน 22 สะพาน จุดเริ่มต้นของคลองชองกเยชอน เต็มไปด้วยแลนด์มาร์กที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็น หอคอย Spring Tower, ลานน้ำพุ Candlelight Fountain และ ทางเดินหิน 8 ชนิด (Palseokdam) ที่นักท่องเที่ยวนิยมโยนเหรียญเพื่อขอพรกัน สะพานแห่งนี้จึงเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาหลีนั้นเอง
5. ปูซาน (Busan)
สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาหลี และต้องการสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติทั้งชายหาด ทะเล และ ภูเขานั้น เมืองที่จะตอบโจทย์ของคุณมากที่สุดนั้น คือ เมืองปูซาน ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวทางตอนใต้ของประเทศเกาหลี เมืองปูซาน ตั้งอยู่ที่จังหวัด คยองซังใต้ เป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ และ เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเกาหลี รองลงมาจากกรุงโซล จุดเด่นของเมืองปูซานคือทัศนียภาพทางธรรมชาติที่งดงาม ตัวเมืองโอบล้อมด้วยเนินเขา ทะเล และ ป่าไม้มากมาย นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีสีสันสดใส ปูซานจึงกลายเป็นเมืองท่องเที่ยวเกาหลี หนเ้าร้อนที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่ง
เมืองปูซานเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย แต่ที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้นั้น ได้แก่ หมู่บ้านวัฒนธรรมคัมชอน (Gamcheon Culture Village) หมู่บ้านโบราณที่มาพร้อมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองปูซาน ลักษณ์หมู่บ้านมีความเป็นเอกลักษณ์ มีสีสันพาสเทลสดใส และ เรียงรายกันเป็นชั้นตามเนินเขานั้นเอง และอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาด หากมาเที่ยวเกาหลี ที่เมืองปูซาน คือ การนั่งสกายแคปซูลแฮอุนแด (Sky Capsule Haeundae Blue Line Park) ซึ่งเป็นรถไฟจิ๋ว สีสันสดใส ขับผ่านแลนด์มาร์กสำคัญของปูซานมากมาย และ การเที่ยวชมบรรยากาศชายหาด ท้องทะเลสีฟ้าใสกันที่ ชายหาดควางอันลี (Gwangalli Beach) ชายหาดรูปพระจันทร์เสี้ยว มีชื่อเสียงในเรื่องของเม็ดทรายสีครีมสะอาด และ ละเอียด นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถมองเห็นวิวสะพานกวางอันแดเคียว (Gwangandaegyo Bridge) สะพานที่ยาวที่สุดในเกาหลี จากชายหาดแห่งนี้อีกด้วย
6. พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace)
พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) หรือที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันดีในชื่อ “พระราชวังคยองบกกุง” เป็นหนึ่งในที่เที่ยวเกาหลี หรือ แลนด์มาร์กที่สำคัญของประเทศเกาหลี และ ในกรุงโซล ซึ่งจุดเด่นที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวที่นี้นั้น คือความเก่าแก่ของพระราชวังแห่งนี้ ซึ่งถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1394 ในสมัยพระเจ้าแทโจ ราชวงศ์โชซอน โดยเดิมทีที่ราชวังแห่งนี้ มีจำนวนอาคารพระตำหนักรวมกันกว่า 200 แห่ง แต่หลังจากที่ถูกรุกรานโดยกองทัพญี่ปุ่น อาคารต่างๆ ได้ถูกทำลายลง เหลือเพียงแค่ 10 หลังเท่านั้น ซึ่ง 10 หลังนี้ ต่างมีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ที่ทางการเกาหลีได้อนุรักษณ์ไว้ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษานั้นเอง
ซึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาหลีที่พระราชวังแห่งนี้ นอกจากการเดินชมความสวยงามของตำหนักทั้ง 10 แล้ว อย่าได้พลาดพิธีการเปลี่ยนเวรยามพระราชวังเคียงบก (Gyeongbok Palace Royal Guard – Changing Ceremony) ซึ่งจะเกิดขึ้น 3 ครั้ง ในทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ ในบริเวณหน้าประตูควังฮวามุน (Gwanghwamun Gate) ของพระราชวัง ซึ่งพิธีนี้น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเหล่าทหารจะทำการเดินถือธงพาเหรด พร้อมใส่เครื่องแบบทหารใมนยุคโชซอน พร้อมอาวุธอย่างสมบูรณ์แบบนั้นเอง
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
7. มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา (Ewha Woman University)
Ewha Womans University หรือ มหาลัยสตรีอีฮวา เป็นมหาวิทยาลัยสตรีที่มีชื่อเสียงที่สุด ใหญ่ที่สุด และ เก่าแก่ที่สุดในประเทศเกาหลี ซึ่งนอกจากจะเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังที่นักเรียนเกาหลีทั่วประเทศใฝ่ฝันจะเรียนต่อแล้ว มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ยังมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมที่สวยงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อาคาร Ewha Campus Center (ECC) ซึ่งเป็นอาคารเรียนที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส คุณ Dominique Perrault ซึ่งอาคารแห่งนี้ สร้างโดยการผ่าเนินเขา จากนั้นกรุด้วยกระจกทั้งสองข้าง ด้านในจะเป็นทั้งอาคารเรียน คาเฟ่ ห้องอาหาร รวมไปจนถึงห้องสมุด ซึ่งด้านนอกอาคารจะเป็นจุดพักผ่อน และ อ่านหนังสือของนักศึกษา อีกทั้งยังเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของนักท่องเที่ยวอีกด้วย ซึ่งมหาลัยสตรีอีฮวา เป็นที่เที่ยวเกาหลี ฤดูใบไม้ร่วงที่ได้รับความนิยม เนื่องจากในที่นี้ทัศนียภาพด้านรอบมหาลัยที่เป็นสีเขียว จะเปลี่ยนสีเป็นสีส้ม และ สีเหลือง งดงามอลังการมากๆ
8. สวนจางยูนาริ (Yangju Nari Park)
สวนยางจูนาริ หรือ สวนนาริ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเกาหลี ซึ่งเป็นสวนดอกไม้ และทุ่งหญ้าสีชมพูที่ได้รับความนิยมที่สุดในประเทศเกาหลี ตัวสวนตั้งอยู่ที่ จังหวัดคยองกี (Gyeonggi-do) ในย่านเมืองยางจู (Yangju-si) สถานที่แห่งนี้ เป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปที่คนเกาหลี และ นักท่องเที่ยวนิยมไปถ่ายรูปกันในช่วงฤดูใบไม้ร่วง เนื่องจากดอกหญ้ามิสแคนทัส ‘Miscanthus’ หรือหญ้าดอกมูห์ลีย์สีชมพู จะเบ่งบาน และ มีสีสันสดใสมากที่สุดของปี นอกจากนี้ ที่สวนแห่งนี้ ยังมีดอกไม้ชนิดอื่นๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความสวยงามอีกมากมาย ซึ่งจะแบ่งโซนดอกไม้เป็นโซนๆ อย่างชัดเจน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปกันอย่างสวยงาม
9. ห้องสมุด Starfield Library
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเกาหลี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักอ่านนั้น คือที่ห้องสมุด Starfield Library ซึ่งเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในห้าง COEX Mall ในเขตคังนัม Gangnam (강남) มีการตกแต่งที่แปลกตา และ เป็นครั้งแรกของประเทศเกาหลีกับการมีห้องสมุดกลางห้างที่ใหญ่โตขนาดนี้ ห้องสมุดแห่งนี้ได้รวบรวมหนังสือมากกว่า 50,000 เล่มเลยทีเดียว ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเกาหลีรูปแบบใหม่ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ เที่ยวแบบชิลๆ และ ต้องการถ่ายรูป และ จุดเช็คอินสุดชิคนั้นเอง
10. ย่านฮงแด (Hongdae)
ข้อปิดท้ายกันด้วยที่เที่ยวเกาหลี สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการละลายทรัพย์กันก่อนกลับไทย กับที่ย่านชอปปิ้งชื่อดังของเกาหลี อย่างย่านฮงแด (Hongdae) ซึ่งเป็นย่านยที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องสำอาง และ ผับบาร์มากมาย ซึ่งย่านแห่งนี้ นอกจากจะเป็นศูนย์รวมความบันเทิงแล้ว ยังเป็นย่านที่วัยรุ่นนิยมมาสังสรรค์กับเพื่อนๆ ในวันหยุด หรือ หลังเลิกเรียนอีกด้วย ทั้งนี้เนื่องจาก ย่านฮงแดนั้น ตั้งอยู่ด้านหน้าของมหาวิทยาลัยฮงอิก (Hongik University) อีกทั้งยังเดินทางไปสะดวก เนื่องจากมีสถานีรถไฟ สถานี Hongik University Station จอดที่ย่านเลยนั้นเอง
ซึ่งนอกจากการเดินชอปปิ้งแล้ว ที่ย่านนี้ยังมีร้านคาเฟ่สไตล์อีกเพียบ โดยคาเฟ่ย่านฮงแด ที่ได้รับความนิยมในโซเชียลมีเดียมากที่สุดในปัจจุบัน และ หากมีโอกาสมาเที่ยวเกาหลีแล้ว ต้องไม่ได้พลาดได้แก่ร้านคาเฟ่ Sinidoga (신이도가) ซึ่งเป็นคาเฟ่สไตล์ฮันอก ตกแต่งร้านด้วยคอนเซปต์สถาปัตยกรรมเกาหลีโบราณ เน้นสีขาว และ สีไม้โอ๊กที่ตัดกันอย่างลงตัว ดูเรียบง่าย แต่หรูหรา นอกจากนี้ ภายใมนร้านยังมีโซนให้เลือกนั่ง ไม่ว่าจะนั่งที่โต๊ะไม้ หรือ นั่งพื้นตามแบบเกาหลีโบราณก็ได้เช่นกัน
Q&A คำถามที่พบบ่อยก่อนเที่ยวเกาหลี
หลังจากที่เราพอทราบแลนด์มาร์ก และ สถานที่ท่องเที่ยวเกาหลี ที่น่าไปกันมาพอสมควรแล้ว นักท่องเที่ยวควรจะทำการศึกษาข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวประเทศเกาหลีให้เข้าใจก่อนตัดสินใจเดินทาง ทั้งนี้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ท่องเที่ยวประเทศเกาหลีอย่างดีที่สุด
ไปเที่ยวเกาหลีต้องขอวีซ่าไหม
สำหรับคำถามที่ว่า เที่ยวเกาหลีต้องขอวีซ่าไหม สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ในปัจจุบันการเดินทางไปท่องเที่ยวเกาหลี 2024 นักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องขอวีซ่า อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องทำการยื่น K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) ล่วงหน้า ซึ่งระบบ K-ETA ที่ว่านี้ เป็นระบบการลงทะเบียนของชาวต่างชาติเพื่อขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศเกาหลีแบบไม่ต้องทำการขอวีซ่า ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้รับการอนุญาตให้ท่องเที่ยว และ พำนักที่ประเทศเกาหลีได้ไม่เกิน 90 วันเท่านั้น ซึ่งค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ประมาณ 10,000 KRW หรือ ประมาณ 280 บาทเท่านั้นเอง ซึ่งทางการเกาหลีจะให้เวลาพิจารณาผลการกรอก K-ETA โดยประมาณอยู่ที่ประมาณ 48 ชั่วโมง หรือ 3 วันเท่านั้น ดังนั้น นักท่องเที่ยวควรทำเรื่องก่อนเดินทางโดยประมาณ 7 วัน
ไปเที่ยวเกาหลีงบเท่าไรดี
การท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีนั้น ไม่ได้แพงอย่างที่คิด เรียกได้ว่า เป็นหนึ่งในประเทศท่องเที่ยวในเอเชีย ที่ราคาท่องเที่ยวคุ้มค่ากับประสบการณ์ที่ได้รับ โดยค่าเดินทางภายในประเทศ หากเดินทางด้วยรถไฟฟ้าด้วยบัตร M-Pass จะตกอยู่แค่ 420 บาท ซึ่งสามารถเดินทางได้ถึง 20 เที่ยวทั่วกรุงโซลเลยทีเดียว ในส่วนของค่าอาหารในแต่ละมื้อ จะตกอยู่ประมาณมื้อละ 800 – 3,000 บาทไทย ดังนั้น เที่ยวเกาหลี งบที่คุณควรนำไป ควรจะอยู่ที่ประมาณวันละ 1,000-5,000 บาท (ไม่รวมคี่าโรงแรม และ ค่าตั๋วเครื่องบิน)
เที่ยวเกาหลีเดือนไหนบรรยากาศสวยสุด
เที่ยวเกาหลีเดือนไหนดี คำถามนี้จริงๆ ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลของแต่ละคน
- หากคุณชอบเที่ยวเกาหลี ใบไม้เปลี่ยนสี ควรเดินทางมาเที่ยวกันในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งจะอยู่เริ่มต้นตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน – พฤศจิกายน ซึ่งการเที่ยวเกาหลีใบไม้เปลี่ยนสีที่ประเทศเกาหลีนั้น มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถให้บรรยากาศธรรมชาติ ท้องทะเลสีแดง ส้ม เหลือง สุดอลังการมากมาย เช่น อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน เป็นต้น
- หากต้องการเที่ยวเกาหลี หน้าหนาวเพื่อสัมผัสความงดงามของหิมะแรก แนะนำให้เดินทางมาในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของมกราคม ซึ่งหากโชคดี คุณจะได้เจอกับหิมะแรกของปีที่เกาหลีนั้นเอง โดยเที่ยวเกาหลี หน้าหนาว บ้านเมืองเกาหลีจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ -5 – 20 องศาเซลเซียส และ กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเล่นมากที่สุด หนีไม่พ้นการเล่นสกีน้ำแข็ง และ สเก็ตน้ำแข็งนั้นเอง
- สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวเกาหลีเพื่อเล่นกิจกรรม และ สัมผัสกับบรรยากาศชายหาดหน้าร้อนที่ประเทศเกาหลี คุณควรเดินทางมาเที่ยวเกาหลีต้นเดือนมิถุนายน – ต้นเดือนกันยายน ซึ่งจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 22 – 38 องศาเซลเซียส
- สำหรับใครที่ตั้งหน้าตั้งตารอดูซากุระเกาหลี หรือ ดอกพ็อดกด ห้ามพลาดเดินทางไปเที่ยวเกาหลี ฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งจะเริ่มต้นตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม – พฤษภาคม อีกทั้งยังเป็นช่วงที่ประเทศเกาหลีมีอากาศดีที่สุด อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 6 – 16 องศาเซลเซียส
สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่ต้องการเที่ยวเกาหลีดัวยตัวเอง แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน วางแผนท่องเที่ยวยังไง หรือ จะต้องจองตั๋วเครื่องบิน และ โรงแรมที่ไหนเพื่อให้คุ้มค่าที่สุด อีกทั้งยังมีความกังวลว่าเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเอง จะหลงทางไหม หรือ จะปลอดภัยรึเปล่า ทาง Artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำของไทย มาพร้อมกับบริการจัดทริปท่องเที่ยวเกาหลี 2023 -2024 รูปแบบ Tailor Made เพียงแค่คุณบอกมาว่าอยากไปที่ไหน เราพร้อมออกแบบเส้นทางเที่ยวเกาหลีตามใจผู้เดินทาง บริการของเราครอบคลุมทุกรายละเอียดการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการยื่น K-ETA , วางแผนการเดินทาง, จองตั๋วเครื่องบิน-กิจกรรมท่องเที่ยว รวมไปจนถึงที่พักต่างๆ
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว