“เที่ยวสเปน” เป็นคำที่เราเห็น หรือ ได้ยินกันบ่อยๆ ไม่ว่าจะจากช่องทางโซเชียลมีเดีย นิตยสารท่องเที่ยวรายการทีวี และอีกมากมาย เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เมื่อพูดถึงประเทศที่น่าไปเยี่ยมเยือนมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีความหลากหลาย ทั้งในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวสเปน วัฒนธรรม ศิลปะ อาหาร รวมไปจนถึงเทศกาลแล้ว ประเทศสเปน คงเป็นประเทศที่หลายคนนึกถึงเป็นอันดับแรก จนทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลก ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “Spain is an ultimate travel destination” หรือ ที่แปลเป็นไทยได้ว่า “ประเทศสเปน คือ สุดยอดเป้าหมายปลายทางการท่องเที่ยว” นั่นเอง
หลังจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ได้บรรเทาลง นักท่องเที่ยวก็เริ่มกลับมาให้ความสนใจกับการท่องเที่ยวต่างประเทศกันอีกครั้ง จนทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลกเติบโตขึ้นกว่าปี 111% เมื่อเทียบกับปี 2021 ซึ่งจากผลการสำรวจจากเว็บไซต์ Wikipedia ในหัวข้อ World Tourism Rankings พบว่า ประเทศสเปน เป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวนิยมมาท่องเที่ยวมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองลงมาจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งในปี 2022 นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาเที่ยวสเปนถึง 71.7 ล้านคนเลยทีเดียว
ความนิยมของการเที่ยวสเปน ส่วนหนึ่งเกิดมาจากสถานที่ท่องเที่ยวสเปนที่มีความสวยงามทางสถาปัตยกรรม มากไปด้วยปราสาท วิหาร และ สิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ จนทำให้ที่เที่ยวสเปนได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลกกว่า 47 แห่ง เป็นอันดับสองรองลงมาจากประเทศอิตาลี ดังนั้นวันนี้ Artralux บริษัทผู้นำการท่องเที่ยวจึงได้รวบรวม 15 สถานที่ท่องเที่ยวสเปน เดือนไหนดี ช่วงไหนดี ที่ไม่ควรพลาดไปเยี่ยมเยือน สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังมีแผนเที่ยวสเปน 2023 ด้วยตัวเอง ซึ่งจะมีพิกัดที่เที่ยวที่ไหนบ้าง เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย!
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
15 สถานที่ท่องเที่ยวสเปน แนะนำ 2023
อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้น ประเทศสเปน เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม ตั้งแต่เทือกเขาสูงใหญ่ หุบเขาอันเขียวขจี และ ชายฝั่งทะเลสีฟ้าใส นอกจากนี้ ประเทศสเปนยังเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ส่งผลให้สถานที่ท่องเที่ยวสเปน ส่วนใหญ่สะท้อนให้เห็นถึงอารยธรรมโบราณ ศิลปะชาวละติน และ สถาปัตยกรรมสเปนที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยสำหรับประเทศสเปนแล้ว ที่เที่ยวน่าสนใจ ที่ไม่ควรพลาดมีดังนี้
1. เมือง Segovia (เซโกเวีย)
เมือง เซโกเวีย เป็นเมืองท่องเที่ยวสเปนที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวผู้หลงใหลสถาปัตยกรรม และ บรรยากาศสุดคลาสสิกของอาณาจักรโรมัน ตัวเมืองอยู่ห่างจากเมืองมาดริด ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศสเปนไปทางเหนือประมาณ 90 กม. นอกจากนี้ เมืองเซโกเวีย ยังเป็นเมืองที่เคยถูกครอบครองโดยอาณาจักรโรมันในอดีต ส่งผลให้อาคารบ้านเรือน และ สิ่งก่อสร้างในเมืองยังคงมีกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมโรมันโบราณอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเหตุนี้เอง เมืองเซโกเวีย จึงได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็นเมืองมรดกโลกจาก UNESCO ด้วยนั่นเอง
โดยสถานที่ท่องเที่ยวสเปนชื่อดัง ซึ่งเป็นไฮไลท์ของเมืองเซโกเวีย หนีไม่พ้น Aqueduct of Segovia (aqueduct bridge) หรือ สะพานส่งน้ำเข้าเมือง ซึ่งสะพานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในยุคโรมันโบราณ ด้วยวัตถุประสงค์ในการนำน้ำนอกเมืองเข้ามากักเก็บไว้ในเมืองนั่นเอง ความยิ่งใหญ่ของตัวสะพานที่ทอดตัวยาวกลางเมือง ด้วยความยาวกว่า 17 กม. นี่เอง ได้ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวสเปน ชื่นชมสะพานแห่งนี้กับตาปีละหลายล้านคน
2. มหาวิหารเซโกเวีย (Segovia Cathedral)
อีกหนึ่งที่เที่ยวสเปน ซึ่งเป็นไฮไลท์ของเมืองเซโกเวีย นั้น ได้แก่ มหาวิหารเซโกเวีย (Segovia Cathedral) โดยความพิเศษของมหาวิหารแห่งนี้ คือ สถาปัตยกรรมการออกแบบภายนอกด้วยสไตล์กอทิก ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบโรมันโบราณ ซึ่งนอกจากความงดงามของสถาปัตยกรรมภายนอกแล้ว ด้านในยังวิหารยังตกตแ่งด้วยสถาปัตยกรรมกอธิคอย่างงดงาม ประกอบไปด้วยทางเดินกว้างขวาง เพดานสูงรูปทรงโค้งมน และ คูหาสวดมนต์ที่งดงามกว่า 20 ที่
3. เมืองมาดริด (Madrid)
แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงการเที่ยวสเปน มาดริด (Madrid) นั้น เป็นเมืองที่พลาดไม่ได้ เพราะเมืองมาดริดไม่เพียงแต่เป็นเมืองหลวงของประเทศสเปนที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมายแล้ว เมืองมาดริดยังเป็นจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในทวีปยุโรปอีกด้วย
การเที่ยวสเปน มาดริด จะเหมาะสมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศความครึกครื้น ผู้คนพลุกพลาน และ ความมีชีวิตชีวาของเมืองหลวง ทั้งนี้เนื่องจากเมืองมาดริดเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศสเปน โดยมีประชากรในเมืองร่วมกว่า 3.2 ล้านคน (ยังไม่รวมจำนวนนักท่องเที่ยว)
4. สนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบว (EStadio Santiago Bernabeu)
สนามกีฬาซานเตียโก เบร์นาเบว (EStadio Santiago Bernabeu) ถือเป็นที่เที่ยวสเปน เมืองมาดริด ที่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอบอลไม่ควรพลาด ทั้งนี้เนื่องจากสนามแห่งนี้ เป็นสนามกีฬาฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งของโลก และนอกจากสนามแห่งนี้ จะเป็นสนามที่ใช้แข่งขันยูฟ่าแชมเปียนลีกส์ ในปี 1957 ,1969, 1980 และ 2010 และ เป็นสนามฟุตบอลโลกปี ค.ศ.1982 แล้ว ในปัจจุบัน สนามแห่งนี้ยังเป็นสนามซ้อมของสโมสรฟุตบอล เรอัล มาดริด อีกด้วย ซึ่งการเข้าชม ไม่เพียงแต่คุณจะได้ชมความยิ่งใหญ่ของสนามฟุตบอลเท่านั้น คุณยังจะได้เข้าดูห้องพักนักกีฬา, ห้องแถลงข่าว รวมไปถึงสถานที่เก็บถ้วย และ เหรียญของนักกีฬาทีมชาติสเปนมากมาย
5. พลาซา เมเยอร์ (Plaza Mayor)
ยังคงอยู่กันที่เมืองมาดริด ซึ่งอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสเปนในเมืองมาดริดที่ต้องมาเยือน และ สัมผัสบรรยากาศด้วยตัวเอง คือ ที่ลายสาธารณะกลางเมือง “พลาซา เมเยอร์ (Plaza Mayor)” ซึ่งมองจากภาพอาจจะเป็นเหมือนแค่ลานกว้างๆ แห่งหนึ่ง แต่จริงๆ แล้วสถานที่แห่งนี้ถือเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม อาหาร และ ความเป็นอยู่ของชาวสเปนก็ว่าได้
รอบๆ ลานจัตุรัสพลาซา เมเยอร์ (Plaza Mayor) รายล้อมไปด้วยรา้นอาหาร คาเฟ่ และ ร้านขายของฝากมามกาย นอกจากนี้ บริเวณนี้ยังมีศิลปินชาวสเปนออกมานั่งวาดรูปและโชว์ผลงานอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองในทุกวันอีกด้วย
6. ถนนแกรนเวีย (Gran Via Street)
ถนนแกรนเวีย เป็นเส้นถนนท่องเที่ยวประเทศสเปน สำหรับสายชอปปิงที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก สิ่งที่ทำให้ถนนแห่งนี้ โดดเด่นกว่าถนนเส้นอื่นๆ ในสเปนนั้น คือ ความเก่าแก่ และ ประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ซึ่งทั้งสองข้างถนนความยาวกว่า 1.3 กิโลเมตร ท่านจะได้ดื่มด่ำไปกับความงดงามของสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิก โดยตึกเหล่านี้นั้น เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร ร้านแฟชั่นเฮ้าแบรนด์เนม ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนต์ และ บรอดเวย์ มากมาย จนทำให้ถนนเส้นนี้ได้ฉายาว่า “Spanish Broadway” เลยทีเดียว
7. เมืองบาร์เซโลน่า (Barcelona)
เมืองบาร์เซโลน่า เป็นเมืองท่องเที่ยวสเปน ที่ได้รับความนิยมรองลงมาจากเมืองหลวงของสเปนอย่างมาดริด บาร์เซโลน่าเป็นเมืองท่า และ เมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศสเปน เพราะแน่นอนว่านอกจากชื่อเสียงในเรื่องของทีมฟุตบอลชื่อดัง อย่างสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลน่า แล้ว ที่เมืองบาร์เซโลน่าแห่งนี้ ยังเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสเปนชื่อดัง ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวชูโรงของประเทศสเปนก็ว่าได้
นอกจากนี้ ที่แห่งนี้ยังเป็นบ้านเกิดของสถาปนิกชื่อดัง “อันตอนี เกาดี (Antoni Gaud)” ซึ่งอาคาร วิหาร แบะ สิ่งก่อสร้างในเมืองมากมายก็เกิดจากฝีมือของเขาทั้งสิ้น จนทำให้เมืองยบาร์เซโลน่า มีฉายาว่าเป็เมือง “Artistic city with unique architecture”
8. มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย (Sagrada Familia)
มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย เป็นที่เที่ยวสเปนเมืองบาร์เซโลน่าที่พลาดไม่ได้ เพราะมหาวิหารแห่งนี้เอง เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองบาร์เซโลน่า ตัววิหารโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม สไตล์ คาทอลิคคริสตจักร ออกแบบโดยสถาปนิคชาวสเปนผู้โด่งดังอย่าง อันตอนี เกาดี (Antoni Gaud) ซึ่งความสวยงามของวิหารแห่งนี้ ทำให้องค์กร UNESCO จดทะเบียนให้วิหารซากราดา แฟมิเลีย ขึ้นเป็นมรดกโลก ตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จ
วิหารนี้ มีความสูงกว่า 170 เมตร จึงเป็นวิหารที่มีความสูงมากที่สุดในโลก ซึ่งหากมองใกล้ๆ ท่านจะเห็นผลงานการแกะสลักประติมากรรมที่งดงามมากมาย รวมตัวกันเป็นวิหารขนาดใหญ่นั่นเอง
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
9. พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติกาตาลุนญา (Catalunya)
พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติกาตาลุนญา (Catalunya) เป็นที่เที่ยวสเปน เมืองบาร์เซโลน่า ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ ตัวพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่บนเนินเขามองต์คูอิก (Montjuic Hill) ซึ่งเป็นเนินเขาที่มีความสูงกว่า 180 เมตร สามารถมองเห็นวิวเมืองบาร์เซโลน่าได้โดยรอบแบบพาโนราม่าเลยทีเดียว
ซึ่งจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวนิยมไปกันนั้น คือ ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติกาตาลุนญา (Catalunya) ซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขา ความโดดเด่นของพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่ทำให้กลายเป็นที่เที่ยวสเปนชื่อดังนั้น คือ สถาปัตยกรรมของอาคารที่ออกแบบสไตล์อิตาลี ภายในมีผลงานศิลปะจากเเคว้นคาตาลัน ซึ่งสะท้อนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ไว้มากมาย
10. ถนนคนเดิน ลารัมบลาส (La Ramblas)
ถนนคนเดิน ลารัมบลาส เป็นถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองบาร์เซโลน่า ตัวถนนเต็มไปด้วยผู้คนตลอดทั้งวัน เรียกได้ว่าเป็นสีสันของเมืองก็ว่าได้ ตัวถนนทอดตัวยยาวกว่า 1.2 กิโลเมตร จากจัตุรัส Plaza Catalunya ไปจนสุดท่าเรือ Port Vell. ซึ่งแน่นอนว่าตลอดทางเดิน ท่านจะได้เพลิดเพลินไปกับร้านค้า แผงขายของฝาก ดอกไม้ หนังสือ ศิลปะ และ ร้านอาหารพื้นเมืองมากมาย ที่สำคัญถนนเส้นนี้ยังเป็นที่ตั้งของอาคารสถาปัตยกรรมโบราณที่คงนรักษาไว้ตั้งแต่อดีตอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสเปน ที่มากด้วยเสน่ห์ และ วัฒนธรรมอย่างแท้จริง
11. เมืองสีขาวในแคว้นอันดาลูซีอา (The White Towns of Andalucía)
เมืองสีขาวในแคว้นอันดาลูซีอา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสเปนที่น่าสนใจ ตัวเมืองตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Sierra de Grazalema เป็นเมืองที่มองจากมุมสูงมีหน้าตาเป็นสีขาวทั้งหมด ทั้งนี้เนื่องจากสถาปัตยกรรมของอาคารบ้านเรือนของเมืองนี้ ทาด้วยสีขาวทุกหลัง ซึ่งในเมืองแห่งนี้ ประกอบไปด้วยหมู่บ้านกว่า 19 แห่ง อีกทั้งยังมีแนวเนินสูงที่เกิดจากกัดเซาะของทะเล ออกมากลายเป็นกำแพงรายล้อมรอบเมือง เหมือนเป็นป้อมปราการ
12. พระราชฐานซานโลเรนโซเดเอลเอส โกเรียล (San Lorenzo de El Escorial)
พระราชฐานซานโลเรนโซเดเอลเอส โกเรียล (San Lorenzo de El Escorial) มีชื่อเรียกอย่างสั้นว่า เรียกสั้นๆ ว่า “เอลเอสโกเรียล (El Escorial)” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสเปนที่ต้องไม่พลาดมาเยี่ยมชม เดิมทีพระราชฐานแห่งนี้ เป็นที่พักตากอากาศฤดูร้อนของเหล่ากษัตริย์ของประเทศสเปนจนถึง ค.ศ 2016 จากนั้นจึงได้มีการบำรุง และ ต่อเติมพระราชวัง โดยภายในประกอบไปด้วย พิพิธภัณฑ์ ห้องสมุด สุสาน โบสถ์ โรงเรียน สวนวงกต และ อีกมากมาย ตัวพระราชฐาน ตั้งอยู่ในทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศสเปน ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงมาดริด 45 กิโลเมตร
ซึ่งไฮไลท์ของพระราชวังแห่งนี้ อยู่ที่ห้องสมุด ซึ่งถือเป็นห้องสมุดที่มีความสวยงามที่สุดของประเทศสเปนอีกแห่ง ภายในรวบรวมหนังสือสเปนโบราณกว่า 40,000 เล่ม นอกจากนี้ภายในยังตกแต่งด้วย ศิลปะสเปนยุคเรเนซองส์ และ ภาพวาดฝาผนังอย่างสวยงามจำนวน 7 ภาพ ซึ่งต่างสื่อความหมายถึงวิชาเล่าเรียนที่สำคัญ ได้แก่ วาทศาสตร์ ตรรกวิทยา ดนตรี ภาษาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เรขาคณิต และดาราศาสตร์
13. เที่ยวสวนสาธารณะ Park Guell
สวนสาธารณะ Park Guell เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสเปน ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองบาร์เซโลน่า แตกต่างจากสวนสาธารณะที่อื่น ด้วยการตกแต่งสวนด้วยการใช้สถาปัตยกรรม และ ศิลปะประเภท “โมเซอิก (Mosaic) ” หลากสี ผสมผสานกับการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสถาปัตยกรรมของมหาวิหารแห่งเทพเจ้าอะพอลโล (Temple of Apollo) ณ เมืองเดลฟี (Delphi) ประเทศกรีซ ด้วยเหตุนี้เอว สวนแห่งนี้ จึงได้รับการจดทะเบียนขึ้นเป็นมรดกโลก เนื่องจากการออกแบบที่ทำให้สวนสาธารณะแห่งนี้ กลายเป็นสวนสาธารณะแห่งเทพนิยายนั่นเอง
ก่อนหน้าที่นี้จะกลายเป็นสวนสาธารณะ ทางสถาปนิกผู้ออกแบบสวนต้องการให้ที่นี้เป็นที่พักอาศัยที่หรูหรา อย่างไรก็ตาม ความตั้งใจดังกล่าวได้ล้มลง กลับกลายมาเป็นสวนสาธารณะที่สวยงามจนถึงในปัจจุบัน ภายในสวนประกอบไปด้วยแลนด์มาร์กถ่ายรูปน่ารักๆ มากมาย เช่น บ้านคุกกี้ในการ์ตูน Hansel และ Gretel, รูปปั้นตุ๊กแกอันโด่งดัง และ ถ้ำหินโค้งเว้า (Wave Cave) เป็นต้น
14. มหาวิหารบาเลนเซีย (Valencia Cathedral)
อีกหนึ่งที่เที่ยวสเปนที่มาพร้อมกับความสวยงามเกิดจริง คือ ที่มหาวิหารบาเลนเซีย ซึ่งตั้งอยู่กลางเมืองวาเลนเซีย โดยจุดประสงค์ของการสร้างมหาวิหารแห่งนี้นั้น เพื่อเป็นการอุทิศให้กับเพื่ออุทิศให้แก่เทพีไดอาน่า พระแม่มารีย์วาเลนเซีย ความโดดเด่นของวิหารแห่งนี้ นอกจากจะรายล้อมไปด้วยทัศนียภาพทางธรรมชาติที่ร่มรื่นแล้ว สถาปัตยกรรมของมหาวิหารแห่งนี้ ยังเป็นการผสมผสานของศิลปะสถาปัตยกรรมหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น โรมัน เรเนสซอง บาโร้ก และ นีโอคลาสสิค
อย่างไรก็ตาม แม้ด้านนอกจะดูเก่าแก่ไปสักหน่อย แต่ด้านในนั้น สวยงามอย่างมาก ตามพนังและเพดาน ปนะกอบไปด้วยภาพวาดฝาผนังเล่าเรื่องราวทางศาสนาที่สวยงาม ทั้งนี้เนื่องจากวิหารแห่งนี้ เป็นที่เก็บรักษาจอกศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู ซึ่งตั้งอยู่ในห้องสวดมนต์ Chapel of the Holy Grail
15. เมืองแห่งศิลปะและวิทยาศาสตร์ (The City of the Arts and Sciences)
ปิดท้ายที่เที่ยวสเปนกันที่เมืองแห่งศิลปะและวิทยาศาสตร์ หรือ The City of the Arts and Sciences ซึ่งเมืองนี้ถือว่าเป็นเมืองแห่งโลกอนาคตของประเทศสเปนก็ว่าได้ โดยตัวเมืองดังกล่าวตั้งอยู่ที่เมือง Valencia ของประเทศสเปน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เมืองดังกล่าวมีฉายาว่าเมืองแห่งโลกอนาคตนั้นเป็นเพราะอาคารบ้านเรือน และ สถาปัตยกรรมในเมืองต่างมีการออกแบบที่ทันสมัย ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยี และ วิทยาศาสตร์หลากหลายแขนงด้วยกัน
ซึ่งอาคารสถาปัตยกรรมของเมืองที่สะท้อนให้เห็นความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอยู่ 5 แห่ง ได้แก่ โรงภาพยนต์และท้องฟ้าจำลอง (L’Hemisfèric), พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป (L’Oceanográfico), อาคารโอเปร่า (Palau de les Arts Reina Sofia), พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ (The Príncipe Felipe Science Museum), และ สวนต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ (L’Umbracle) นั่นเอง
ข้อมูลประเทศสเปน เตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทาง
หลังจากที่เราได้ทราบพิกัดสถานที่ท่องเที่ยวสเปนที่น่าสนใจ และ ควรค่าแก่การเยี่ยมเยือนกันไปแย่างหอมปากหอมคอกันแล้ว สิ่งที่จะทำให้ประสบการณ์การท่องเที่ยวสเปนของคุณดียิ่งขึ้นไปนั้น คือ การทราบถึงข้อมูลประเทศ วัฒนธรรม ศิลปะ และ อาหารของประเทศสเปนกันแบบสังเขป ทั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทางไปยังประเทศสเปนนั่นเอง
ภูมิประเทศสเปน
Es Pujols, Formentera
ประเทศสเปน (Spain) หรือ ชื่อเต็มๆ คือ ราชอาณาจักรสเปน อยู่ในบริเวณทิศตะวันตกเฉียงใต้ของทวีปยุโรป เป็นประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 51 ของโลก มีเนื้อที่กว่า 505,955 ตารางกิโลเมตร ลักษณะของประเทศ เป็นพื้นที่ราบสูง และ ภูเขา และ มีแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน ทางตอนเหนือของประเทศสเปนติดกับทะเล Cantábrico ทำให้มีอากาศเย็นสบาย และ มีฝนตกชุกตลอดทั้งปี ในขณะที่บริเวณตอนกลาง ถึงตอนล่างจะค่อนข้างแห้งแล้ง ด้วยเหตุนี้ สถานที่ท่องเที่ยวสเปนทางทะเล เช่น ชายหาด จึงได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย
โซนเวลาประเทศสเปน ห่างจากไทยเท่าไหร
เวลาของประเทศสเปนนั้นจะช้ากว่าประเทศไทยอยู่ 5 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ในหน้าร้อนประเทศสเปนจะมีเวลาออมแสงเพิ่มขึ้น 1 ชั่วโมง (Daylight Saving time) ซึ่งในช่วงนี้ประเทศสเปนจะช้ากว่าไทยประมาณ 6 ชั่วโมงนั่นเอง
วัฒนธรรม และ ศิลปะสเปน
วัฒนธรรม และ ศิลปะ ของประเทศสเปนนั้น ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งนี้เนื่องจาก ประเทศสเปนได้รับอิทธิพลมาจากหลายพื้นเมือง เช่น ชาวเมืองไอบีเรียน และ ชาวเมืองละติน ที่อยู่ในคาบสมุทรไอบีเรีย ด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายนี่เอง ส่งผลให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวสเปน ได้สัมผัสงานเทศกาลที่หลากหลาย และ กลิ่นอายทางวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว
โดยเทศกาลประเทศสเปนที่ได้รับความนิยม มีดังนี้
- เทศกาลวิ่งวัวกระทิง (San Fermin Fiestas) : เทศกาลนี่ จัดขึ้นที่เมืองปัมโปลน่า (Pamplona) ในเดือนกรกฎาคมของทุกปี ซึ่งรูปแบบของเทศกาลนี้ คือ การปล่อยวัวกระทิ่งออกมาจากคอก และ วิ่งเข้าเส้นชัย เป็นเวลาติดต่อกัน 9 วัน ซึ่งนอกจากผู้ชมจะชื่นชมแล้ว ยังต้องวิ่งหนีวัวด้วย เสน่ห์ของเทศกาลที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลกนี่เอง ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางมาเที่ยวสเปนเพื่อชื่นชมเทศกาลดังกล่าว
- เทศกาลปามะเขือเทศ (La Tomatina Festival): เป็นเทศกาลที่นักท่องเที่ยวสเปนตั้งหน้าตั้งตารออย่างมาก จะจัดขึ้นในวันพุธสุดท้ายของเดือนสิงหาคมของทุกปีที่เมือง Bunol (บูโยล) ซึ่งชาวเมืองสเปนจะออกมาปามะเขือเทศใส่กัน จนพื้นถนนเต็มไปด้วยสีแดง ซึ่งต้นกำเนิดของเทศกาลนี้ เกิดจากในอดีต มีกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะกัน และ ปามะเขือเทศใส่กัน จนตำรวจต้องมาห้าม จนกลายเป็นข่าวดัง หลังจากนั้น ปีต่อมา กลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ก็ได้มาปามะเขือเทศใส่กันอีกครั้งจนกลายเป็นเทศกาลปามะเขือเทศที่โด่งดังของการท่องเที่ยวสเปนอย่างในปัจจุบัน
- เทศกาลปราสาทมนุษย์ (Human Tower Festival) : อีกหนึ่งเทศกาลนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวสเปน คือ เทศกาลปราสาทมนุษย์ ซึ่งจะจัดขึ้นทุกเดือนตุลาคมของทุกปีที่เมือง Tarragoa โดยลักษณะของเทศกาลคือ การแข่งขันกันเป็นทีม และต่อตัวกันให้สูงที่สุด
สกุลเงินสเปน
อีกหนึ่งข้อมูลที่นักท่องเที่ยวต้องทราบก่อนเดินทางไปเที่ยวสเปน คือ สกุลเงิน และ จำนวนงบประมาณท่องเที่ยวที่เหมาะสมสำหรับท่องเที่ยวประเทศสเปน ในปัจจุบัน ประเทศสเปน ได้เปลี่ยนมาใช้สกุลเงินแบบยูโร (Euro) ตั้งแต่เมื่อปีค.ศ 2002 โดยค่าเงินยูโรในปัจจุบัน ณ เวลาที่เขียน เทียบเท่ากับ 38.36 บาทเงินไทย
เที่ยวสเปนด้วยตัวเอง เอาเงินไปเท่าไหร่ดี
สำหรับงบประมาณการท่องเที่ยวประเทศสเปนนั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น จำนวนผู้เดินทาง เส้นทางการท่องเที่ยว และ ร้านอาหารที่เลือกรับประทาน ในแต่ละวัน อย่างไรก็ตาม สำหรับเที่ยวสเปนด้วยตัวเอง ผู้เดินทางควรเตรียมเงินไปให้เพียงพออย่างน้อย 150 ยูโร/ วัน หรือ อยู่ที่ 5,753 บาทไทย /วัน ซึ่งเงินจำนวนนี้ไม่ได้รวมค่าตั๋วเครื่องบิน และ โรงแรม
แนะนำเที่ยวสเปนเดือนไหนดี ช่วงไหนสวยที่สุด
คำถามที่นักท่องเที่ยวที่วางแผนเที่ยวสเปน 2023 หลายคนสงสัย หนีไม่พ้น คำถามที่ว่า “เที่ยวสเปนช่วงไหนดี” จริงๆ ช่วงเวลาในการท่องเที่ยวสเปน นักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม เดือนที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวมากที่สุดนั้น คือ ในช่วงเดือน กรกฎาคม-กันยายน ซึ่งเป็นในช่วงหน้าร้อน อุณหภูมิจะอยู่ประมาณ 25-45 องศา
อย่างไรก็ตาม สำหรับนักท่องเที่ยวไทยแล้ว เที่ยวสเปนช่วงไหนดี แนะนำเป็นช่วงเดือน กันยายน-ธันวาคม เพราะจะเป็นช่วงที่อากาศเริ่มเย็นลง อุณหภูมิอยู่ที่ 10-20 องศา อีกทั้งยังเป็นช่วงที่มีเทศกาลจัดขึ้นมากมาย
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
