คู่มือนำเที่ยวโดโลไมท์ อิตาลี สุดยอดขุนเขาที่งดงามดุจเทพนิยาย

โดโลไมท์ แห่งประเทศอิตาลี เป็นหนึ่งจุดหมายที่ใครหลายคนอยากเดินทางไปเที่ยวสักครั้งในชีวิต เพราะความสวยงามแห่งขุนเขาที่โอบล้อมไปด้วยทุ่งหญ้าและสายลมแห่งธรรมชาติ เหมาะกับการทอดกายไปพักผ่อนฮีลฟื้นฟูจิตใจ ไม่ว่าใครที่เคยได้มาเยือนแล้วต่างหลงรักและอยากกลับไปอีก ในฐานะที่ Artralux เคยจัดทำทริปพาลูกค้าเที่ยวส่วนตัวที่โดโลไมท์บ่อย ๆ และเป็นหนึ่งในจุดไฮไลท์ในประเทศอิตาลีที่เราอยากให้ทุกท่านเดินทางไปจริง ๆ วันนี้เราจะมาขอป้ายยาพาทุกท่านไปรู้สัมผัสความมหัศจรรย์ของโดโลไมท์ อัญมณีแห่งเทือกเขาแอลป์ กันในบทความนี้ บอกเลยว่าเมื่ออ่านจบคุณต้องอยากเดินทางไปแน่นอน!

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว

ทำความรู้จักกับโดโลไมท์ สุดยอดขุนเขาที่สวยที่สุดของอิตาลี

โดโลไมท์ (Dolomite) เป็นเทือกเขาที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์แห่งยุโรป ครอบคลุมพื้นที่จังหวัด Belluno, South Tyrol, และ Trentino ของอิตาลี มีจุดสูงสุดของภูเขาอยู่ที่ 3,343 เมตร เทือกเขาโดโลไมท์มีลักษณะอันน่าทึ่งโดยเป็นภูเขาหินปูนที่มีพื้นผิวขรุขระ มีความลาดชันทำให้ดูโดดเด่น มีพื้นที่ราบบริเวณรอบหุบเขาอันเป็นที่ตั้งทะเลสาบอันสวยงาม ทุ่งหญ้าสีเขียวขจี ตลอดจนหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีเสน่ห์อันน่าหลงใหล หมู่บ้านโดยรอบเทือกเขาแห่งนี้ก็มีประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอันน่าสนใจ เช่น หมู่บ้าน Cortina d’Ampezzo, Bolzano และ Ortisei โดโลไมท์จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการแวะมาพักผ่อนสัมผัสกับบรรยากาศและความงามของธรรมชาติ รวมถึงตะลอนชมวัฒนธรรมของบ้านเมืองไปในตัว

 

เทือกเขาโดโลไมท์ ที่อิตาลี เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “Pale Mountains” หรือภูเขาสีซีด เนื่องจากพื้นผิวของภูเขาจะมีสีอ่อนต่างจากภูเขาหินปูนทั่วไป โดโลไมท์ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดยองค์กร UNESCO ในปี ค.ศ. 2009 เนื่องจากลักษณะธรณีสัณฐานอันโดดเด่นและน่าทึ่ง โดยเป็นการก่อตัวของหิน dolomite เป็นหลัก ซึ่งเป็นหินตะกอนหายากที่ประกอบไปด้วยแร่ธาตุ dolomite ทำให้ภูเขานั้นมีสีอ่อนและมีลักษณะขรุขระอย่างที่เราได้เห็นกัน จึงมีการตั้งชื่อของเทือกเขาตรงกับหิน dolomite ที่เป็นส่วนประกอบทางธรณีหลักนั่นเอง

 

เสน่ห์ของเทือกเขาแห่งนี้คือรูปทรงอันโดดเด่นแปลกตา แนวทิวเขาดูสูงตระหง่าน หน้าผาสูงชันเป็นยอดแหลมแทงเสียดฟ้า พื้นผิวเป็นสีเทาอ่อน เมื่อมีแสงแดดตกกระทบทำให้แสงสะท้อนออกมาเป็นโทนสีไล่ระดับตั้งแต่ สีเหลือง สีน้ำตาล สีส้ม สีแดง ซึ่งมีความสวยงามอย่างยิ่ง เมื่อแสงแดดทำมุมตกกระทบเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาก็จะเกิดความสวยงามไม่ซ้ำกัน หรือเรียกได้ว่าโดโลไมท์ในตอนเที่ยงและตอนเย็นก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไปอย่างชัดเจน นับเป็นความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่ควรค่ากับการพิสูจน์ด้วยตาคุณเอง

 

อีกจุดเด่นของการมาเที่ยวเทือกเขาโดโลไมท์คือคุณสามารถทำกิจกรรมได้มากมาย เหมาะกับผู้ที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างการเดินทางไกล ปีนเขา ปั่นจักรยาน และสำรวจธรรมชาติ ซึ่งโดโลไมท์แห่งนี้สามารถมาท่องเที่ยวได้ทุกฤดูกาล โดยแต่ละช่วงฤดูกาลก็จะมีกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงคุณยังจะได้ชมความงามของโดโลไมท์ที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดูกาลอีกด้วย หากคุณเป็นหนึ่งในนักเดินทางผู้รักธรรมชาติ โดโลไมท์จะเป็นสถานที่ที่จะต้องเดินทางไปให้ได้สักครั้งในชีวิต

 

กิจกรรมไฮไลท์เมื่อมาเที่ยวโดโลไมท์ อิตาลี

การมาเที่ยวเทือกเขาโดโลไมท์นั้นมีกิจกรรมที่น่าสนใจให้ได้ทำมากมาย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกทำกิจกรรมที่ชอบได้ดังนี้

 

1. เดินทางไกลสำรวจธรรมชาติ ที่โดโลไมท์มีเส้นทางเดินป่าสำรวจธรรมชาติมากมาย มีความยากหลายระดับให้เลือก รองรับกับเหล่านักท่องเที่ยวอันหลากหลาย ตั้งแต่เส้นทางเดินง่าย ๆ บนที่ราบชมทุ่งหญ้าและวิวแบบชิล ๆ ไปจนถึงเส้นทางปีนป่ายตามแนวทิวเขา เส้นทางเดินที่ได้รับความนิยมนั้นก็ได้แก่ เส้นทาง Tre Cime di Lavaredo, Seceda ใน Val Gardena และเส้นทาง Alta Via
2. ปีนเขา ที่โดโลไมท์ อิตาลี มีแนวเขาและหน้าผาอันสูงชัน เปรียบเหมือนสวรรค์ของเหล่านักปีนเขาทุกคน ที่แห่งนี้มีเส้นทางปีนเขาหลายแห่ง ตั้งแต่เส้นทางง่าย ๆ สำหรับนักปีนเขามือใหม่ไปจนถึงเส้นทางสุดแสนท้าทายสำหรับพวกมือโปร สำหรับใครที่อยากพบประสบการณ์อันท้าทายพร้อมกับเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศรอบด้าน โดโลไมท์คือคำตอบที่จะกระตุกต่อมอะดรีนาลีนในตัวคุณ
3. เล่นสกีหรือสโนว์บอร์ด ในช่วงฤดูหนาวพื้นที่ส่วนใหญ่ของโดโลไมท์จะปกคลุมไปด้วยหิมะอันขาวโพลน รีสอร์ทที่พักหลายแห่งจะจัดกิจกรรมสำหรับฤดูหนาว เช่นการให้บริการเล่นสกี สโนว์บอร์ด สโนว์โมบิล และกิจกรรมบนหิมะรูปแบบอื่น ๆ ลานสกีที่ได้รับความนิยมในโดโลไมท์ก็ได้แก่ Cortina d’Ampezzo, Alta Badia และ Val Gardena
4. ปั่นจักรยาน ที่เขาโดโลไมท์มีเส้นทางปั่นจักรยานชมทิวทัศน์อันสวยงามของธรรมชาติ คุณจะค้นพบกับหุบเขาที่สวยงาม ป่าไม้ สายน้ำ และสัตว์ป่าท้องถิ่นที่แวะเวียนมาให้เห็นในบางครั้ง ด้วยพื้นที่อันกว้างใหญ่จะมีเส้นทางปั่นจักรยานให้คุณเลือกมากมาย ซึ่งแต่ละเส้นทางก็มีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป ถ้าคุณอยากปั่นชิล ๆ พร้อมสูดอากาศดีดี บอกเลยว่าที่นี่เหมาะสมยิ่งนัก
5. เพลิดเพลินกับวัฒนธรรมท้องถิ่น บริเวณพื้นที่รอบภูเขาโดโลไมท์นั้นเต็มไปด้วยหมู่บ้านมากมาย ซึ่งแต่ละแห่งนั้นก็มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเป็นของตนเอง คุณสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ โบสถ์ เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ได้ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารท้องถิ่นที่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์รอให้คุณไปพิสูจน์ความอร่อยด้วย
6. สำรวจชีวิตสัตว์ป่า พื้นที่โดยรอบจะเต็มไปด้วยสัตว์ป่าท้องถิ่นหายากหลากหลายสายพันธุ์ เช่น กวาง แพะภูเขา และนก คุณสามารถซื้อทัวร์ส่องสัตว์ได้โดยจะมีไกด์ท้องถิ่นพาชม นอกจากจะได้เห็นสัตว์ต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นการสำรวจระบบนิเวศทางธรรมชาติอีกด้วย
7. พักผ่อน เนื่องด้วยธรรมชาติอันสวยงามและอากาศอันบริสุทธิ์ การหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองมาอยู่กับธรรมชาติที่โดโลไมท์ นั้นเป็นตัวเลือกที่ดี สายลมและธรรมชาติจะช่วยเยียวยาฟื้นฟูจิตใจของคุณได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้ารับบริการนวดสปา ทำซาวน่า หรือแช่บ่อน้ำพุร้อนเพื่อผ่อนคลายร่างกายได้เช่นกัน

 

สถานที่เที่ยวน่าสนใจที่โดโลไมท์ อิตาลี

dolomite italy เป็นเขตเทือกเขาที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างจึงมีสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ชมวิว หมู่บ้าน ทุ่งหญ้า ทะเลสาบ มากมายหลายจุด ซึ่งมีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง หากคุณมีแพลนจะไปท่องเที่ยวที่โดโลไมท์ เราจะขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอันน่าสนใจดังนี้

 

1. ทุ่งหญ้า Alpe di Siusi

หากจะมีที่ไหนที่อธิบายความงดงามของโดโลไมท์ได้ชัดเจนที่สุด ก็คงเป็นทุ่งหญ้า Alpe di Siusi แห่งนี้ เพราะที่นี่คือนิยามของคำว่าทุ่งหญ้าสีเขียวทอดยาวสุดลูกหูลูกตา โดยมีเทือกเขาตั้งสูงตระหง่านเป็นฉากหลังอย่างแท้จริง Alpe di Siusi กินพื้นที่กว้างถึง 56 ตารางกิโลเมตร ซึ่งนับเป็นทุ่งหญ้าบนที่ราบสูงที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเลยทีเดียว ด้วยความสวยงามของที่แห่งนี้ทำให้มีเหล่านักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมอย่างไม่ขาดสาย ณ ตามจุดต่าง ๆ จะมีหมู่บ้านซึ่งคุณสามารถแวะไปลิ้มลองอาหารและเครื่องดื่มท้องถิ่นแท้ ๆ ได้ โดยของที่ขึ้นชื่อก็คือผลิตภัณฑ์จากนมวัว เส้นพาสต้า และไวน์ ซึ่งเป็นของฝากอิตาลีอันขึ้นชื่อ ถ้าหากมาในช่วงฤดูร้อนก็จะมีกิจกรรมเพลิน ๆ ให้ได้ทำซึ่งก็คือการเดินป่าสำรวจเส้นทางธรรมชาตินั่นเอง

 

2. ยอดเขา Seceda

ยอดเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับหมู่บ้าน Ortisei นับเป็นหนึ่งในยอดเขาที่มีความสวยอันน่าทึ่งของเทือกเขาโดโลไมท์เลยทีเดียว โดยมีความสูงอยู่ที่ 2,518 เมตร นับเป็นจุดแลนด์มาร์กที่ต้องมาชมให้ได้เมื่อมาเที่ยวโดโลไมท์ คุณจะได้เห็นยอดเขาที่สุดแปลกตาซึ่งจะเป็นยอดหินปูนแหลม ๆ หลายแง่งทิ่มเสียดไปยังบนท้องฟ้าคล้ายมงกุฎ นักท่องเที่ยวสามารถชมยอดเขาแห่งนี้ได้ด้วยการนั่งกระเช้าขึ้นไปชมถึงยอดเขา และใช้เวลาเดินต่ออีกเล็กน้อย คุณจะเพลิดเพลินไปกับวิวแบบพาโนรามาในมุมสูง แนะนำว่าให้มาเที่ยว ยอดเขา Seceda ในช่วงเวลาเย็น แสงแดดจะส่องตกกระทบกับเขาในมุมมองที่เหมาะสม ทำให้สวยงามยิ่งขึ้นไปอีก

 

3. ทะเลสาบ Braies

Lago di Braies หรือทะเลสาบ Braies เป็นทะเลสาบเล็กที่ตั้งอยู่ในหุบเขา Braies ที่แห่งนี้ขึ้นชื่อด้านความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากรอบทะเลสาบจะรายล้อมไปด้วยผืนป่า เนินเขา และยอดเขาหินปูนของโดโลไมท์อันสูงตระหง่าน ส่วนน้ำในทะเลสาบก็จะเป็นสีเขียวมรกตใสสะอาด นับเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามและน่าทึ่ง เหมาะกับการมาเดินเล่นผ่อนคลายหรือถ่ายรูปสวย ๆ ในช่วงพระอาทิตย์ขึ้น ไปจนถึงเดินป่าสำรวจสัตว์ป่าหลากหลายสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่รอบทะเลสาบ สำหรับกาลเวลาที่ดีที่สุดของการเยี่ยมชมทะเลสาบ Braies คือช่วงฤดูร้อน เพราะน้ำในทะเลสาบจะเต็มในระดับกำลังดี และถ้าหากโชคดีคุณอาจเห็นสัตว์ป่าท้องถิ่นด้วย

 

4. หมู่บ้าน Santa Maddalena

Santa Maddalena เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในหุบเขา Val di Funes ในโดโลไมท์ อิตาลี บรรยากาศของหมู่บ้านดูเรียบง่ายแบบชนบท แต่กลับเป็นโลเคชั่นทางธรรมชาติที่สวยงามสุด ๆ โดยจะเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนทุ่งหญ้าอันเขียวขจี ฉากหลังคุณจะพบยอดเขา Odel อันงดงาม มีผืนป่ารายล้อมโดยรอบ หากคุณมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิต คุณจะจะเห็นทิวทัศน์ใบไม้เปลี่ยนสีอันงดงามอีกด้วย Santa Maddalena จึงเป็นหมู่บ้านยอดฮิตสำหรับผู้ที่ต้องการมาถ่ายรูปสวย ๆ นอกจากนี้ภายในหมู่บ้านยังมีบรรยากาศอันแสนสงบ โดยจะมีโบสถ์เล็ก ๆ ตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน มีบ้านเรือนแบบโบราณ มีฟาร์มปศุสัตว์ เหมาะสำหรับมาเที่ยวโดโลไมท์แล้วเดินเล่นชิล ๆ ชมความงามของหมู่บ้านในมุมมองต่าง ๆ หรือถ้าใครอยากเดินป่าสำรวจเส้นทางธรรมชาติรอบหมู่บ้านก็เหมาะอย่างยิ่ง

 

5. รีสอร์ท Cortina d’Ampezzo

สถานที่แห่งนี้เป็นรีสอร์ทอันขึ้นชื่อด้านการเล่นสกีของโดโลไมท์เลยทีเดียว โดยตั้งอยู่ในหุบเขา Ampezzo Valley จังหวัด Belluno ณ ที่แห่งนี้มีความสวยงามจนได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งโดโลไมต์” เลยทีเดียว ในแต่ละปีนักท่องเที่ยวผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสกีมักจะเดินทางมาพักผ่อนตากอากาศที่รีสอร์ทแห่งนี้อย่างคึกคัก มีลานสกีสุดมันให้คุณได้เล่น ประกอบกับวิวด้านหลังที่เป็นเทือกเขาสุดหลังการ ส่วนการเดินทางนั้นก็สะดวกสบายเพราะมีเส้นทางเข้าถึงพื้นที่หลายเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย ผู้คนเยอะ เหมาะกับการเล่นสกีและทำกิจกรรมกลางแจ้งพร้อมกับชมความมหัศจรรย์ของเทือกเขาโดโลไมท์

 

เที่ยวโดโลไมท์ อิตาลี ช่วงไหนดี?

การมาท่องเที่ยวเทือกเขาโดโลไมท์ สามารถไปท่องเที่ยวได้ในทุกช่วงฤดูกาล ซึ่งคุณจะพบความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมาช่วงฤดูร้อน ก็จะพบทัศนีย์ภาพอันเขียวชอุ่ม แต่ถ้ามาเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ก็จะพบกับความงามของใบไม้เปลี่ยนสี เป็นต้น นอกจากนี้แต่ละช่วงเวลาก็จะมีกิจกรรมให้คุณได้เลือกทำแตกต่างกันด้วยเช่นกัน ให้ลองสำรวจตนเองก่อนว่าคุณอยากจะมาสัมผัสความงามแบบไหนที่โดโลไมท์ แล้วเลือกเวลาที่เหมาะสมตามต้องการ ซึ่งไฮไลท์ของแต่ละฤดูกาลก็จะแบ่งออกดังนี้

 

ช่วงฤดูหนาว เดือน ธ.ค. – ก.พ. สภาพพื้นที่จะปกคลุมไปด้วยหิมะ คุณจะเห็นทุ่งหิมะสีขาวโพลนและฉากหลังเป็นภูเขาสีขาว อากาศค่อนข้างหนาว ประมาณ 0 ถึง -10 การมาเที่ยวโดโลไมท์ช่วงนี้เหมาะกับการเล่นสกี สโนว์บอร์ด ขี่สโนว์โมบิล และกิจกรรมฤดูหนาวต่าง ๆ หากมาในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่จะได้พบกับงานประจำปี ซึ่งนับว่าเป็นช่วงไฮซีซันของที่นี่เลยทีเดียว

 

ช่วงฤดูใบไม้ผลิ เดือน มี.ค. – พ.ค. สภาพอากาศเย็นกำลังดี มีแสงแดดอุ่น ๆ ให้พอคลายหนาวได้อยู่บ้าง อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ประมาณ 10 องศา หากมาเที่ยวโดโลไมท์ช่วงนี้คุณจะเริ่มเห็นต้นไม้และดอกไม้เริ่มที่จะผลิใบ สีสันจะสดใส มองเห็นสีเขียวของผืนป่าจาง ๆ บางพื้นที่อาจจะยังเห็นสีขาวของหิมะที่กำลังละลาย กิจกรรมที่น่าสนใจในช่วงนี้ก็คือการเดินสำรวจธรรมชาติ ถ่ายภาพ ส่วนเทศกาลไฮไลท์นั้นก็คือเทศกาลไวน์ Vino in Festa

 

ช่วงฤดูร้อน เดือน มิ.ย. – ส.ค. สภาพอากาศอบอุ่นคล้าย ๆ กับช่วงฤดูหนาวในบ้านเรา ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงไฮซีซันเนื่องจาก เป็นพื้นที่ที่อากาศเย็นที่สุดในอิตาลี ทำให้คนอิตาลีมักหนีร้อนมาเที่ยวที่dolomite italy สภาพพื้นที่ทั่วไปจะเป็นสีเขียวชอุ่ม น้ำในทะเลสาบกำลังเต็ม ถ่ายรูปสวย ส่วนกิจกรรมที่น่าสนใจในช่วงนี้ก็คือการปีนเขา เดินป่า สำรวจชีวิตสัตว์ป่า ปั่นจักรยาน ในช่วงนี้จะมีงานเทศกาล The Maratona dles Dolomites ซึ่งเป็นงานปั่นจักรยานที่ใหญ่ที่สุดในอิตาลีอีกด้วย

 

ช่วงฤดูใบไม้ร่วง เดือน ก.ย. – พ.ย. สภาพอากาศหนาวเล็กน้อย ประมาณ 10 องศา มีสายลมเย็น ๆ พัดผ่านตลอดเวลา หากมาเที่ยวในช่วงนี้จะได้พบกับผืนป่าที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสีสวยงาม เป็นสีเขียวอ่อน สีแดง สีส้ม สีเหลืองสลับกันไป ทำให้ช่วงนี้เป็นอีกช่วงที่คนมักจะท่องเที่ยวกัน ส่วนกิจกรรมที่แนะนำของโดโลไมท์ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนั้นได้แก่ การเดินป่าสำรวจธรรมชาติ รวมไปถึงการถ่ายภาพธรรมชาติอันสวยงาม

 

วิธีเดินทางมาเที่ยวโดโลไมท์ อิตาลี

แม้ว่าบรรยากาศของโอโลไมท์จะดูเป็นชนบท มีความเป็นธรรมชาติสูง แต่การเดินทางมาเที่ยวที่แห่งนี้ค่อนข้างง่าย เพราะมีเส้นทางคมนาคมอันแสนสะดวกสบาย อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับเมืองเวนิส หนึ่งในเมืองใหญ่ที่มีความเจริญอันดับต้น ๆ ของอิตาลี ซึ่งคุณสามารถมาเที่ยวได้ตามเส้นทางดังนี้

 

• นั่งเครื่องบินภายในประเทศมาลงที่สนามบินเวนิสมาร์โคโปโล ณ เมืองเวนิส หลังจากนั้นให้เช่ารถขับหรือนั่งรถประจำทางจากเวนิสมาที่ dolomite italy ซึ่งจะใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง
• นั่งรถไฟ เนื่องจากที่ประเทศอิตาลีนั้นมีเส้นทางรถไฟที่ครอบคลุมระหว่างเมืองทั่วประเทศ คุณจึงสามารถเดินทางจากเมืองต่าง ๆ มาที่โดโลไม์ได้เลย โดยลงได้ 3 สถานีได้แก่ Bolzano, Brixen และ Brunico หลังจากนั้นให้นั่งรถโดยสารหรือรถแท็กซี่มาที่โดโลไมท์
• เช่ารถขับ ถนนหนทางที่อิตาลีนั้นมีความเจริญ การเช่ารถจึงเป็นวิธีเดินทางเที่ยวที่สะดวกที่สุด เพราะนอกจากโดโลไมท์แล้ว คุณยังสามารถเที่ยวที่อื่น ๆ ได้ง่าย อีกทั้งยังสามารถเห็นวิวอันสวยงามในขณะเดินทางอีกด้วย
• ซื้อทัวร์ one day trip โดยสามารถหาซื้อได้ที่เมืองเวนิสหรือเมืองอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งการซื้อแพคเกจทัวร์นั้นมีข้อดีก็คือคุณจะได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงมีไกด์พาเที่ยวตามสถานที่ไฮไลท์ได้ครบ

 

จะเห็นว่าภูเขาโดโลไมท์นั้นมีความสวยงามราวกับหลุดมาจากเทพนิยาย สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ง่าย เที่ยวได้ทุกฤดู จึงไม่แปลกใจที่จะเป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวยอดฮิตที่คนไทยมักเดินทางไปเยือนกันเมื่อมาเที่ยวอิตาลี หากคุณต้องการรับประสบการณ์เที่ยวโดโลไมท์ หรือเที่ยวอิตาลีในสถานที่ต่าง ๆ ที่เหนือชั้นยิ่งกว่าใคร แนะนำให้จัดทริปส่วนตัวไปเที่ยวเลย ซึ่ง Artralux มีบริการจัดทริปเที่ยวสไตล์ Private รวมถึงมีบริการรถเช่าพร้อมคนขับ ให้คุณเดินทางเที่ยวอย่างสะดวกสบาย ตลอดจนมีบริการทำวีซ่าอิตาลี และวีซ่าเชงเก้นอีกด้วย

สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)

📞 | 02-047-0083

💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42

แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว