“ของฝากเยอรมัน มีอะไรบ้าง?” “ไปเยอรมัน ซื้ออะไรกลับประเทศไทยดีนะ?” เชื่อว่าคำถามเหล่านี้ เป็นคำถามที่นักท่องเที่ยวผู้เดินทางมาเยือนประเทศเยอรมนีอยากรู้พอๆ กับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเยอรมันก็ว่าได้ เพราะต้องบอกเลยว่า ประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวทุกคนสำหรับการเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศเยอรมนีนั้น นอกจากจะตกหลุมรักกับบ้านเมืองที่สวยงาม สถาปัตยกรรมแบบยุโรปโบราณร่วมสมัย วัฒนธรรม และ ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเยอรมนีที่ไม่เหมือนประเทศไหนในโลกแล้ว อีกหนึ่งเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่าง Fall in Love ไปตามๆ กันนั้น หนีไม่พ้นผลิตภัณฑ์ และ ของฝากเยอรมัน ที่มาพร้อมกับความน่ารัก เอกลักษณ์เฉพาะตัว คุณค่าทางประวัติศาสตร์ประเทศเยอรมนี และ ทางจิตใจต่อผู้ได้รับอย่างแน่นอน
วันนี้ Artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำ จึงได้รวบรวมรายการของฝากเยอรมันทั้ง 10 รายการมาฝากผู้อ่านทุกคน ซึ่งรายการของฝากเยอรมันที่เรานำมาในวันนี้ ล้วนแต่เป็นของฝากขึ้นชื่อของประเทศ และ สะท้อนความเป็นเยอรมันอย่างแท้จริง
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
10 รายการของฝากเยอรมัน ‘Best Germany’s Souvenirs & Gifts’
จริงๆ แล้ว การที่จะให้เลือกรายชื่อของฝากเยอรมันขึ้นมาสัก 10 อย่าง ที่ควรค่าแก่การเสียสละพื้นที่กระเป๋า และ เวลาในการเดินหานั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะประเทศเยอรมนี (Germany) แห่งนี้เอง เป็นหนึ่งในจุดหมายการท่องเที่ยวที่ในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะไม่เพียงแต่ประเทศเยอรมนี จะเต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมยุโรปอันงดงามที่ผสมผสานกันหลายยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมของโบสถ์ พระราชวัง ปราสาท รวมไปจนถึง มหาวิทยาลัยแล้ว ประเทศนี้ ยังมาพร้อมกับวัฒนธรรม อาหาร ศิลปะ และ การดนตรี ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เอง ส่งผลให้สินค้า ของฝากเยอรมัน และ ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ ได้รับการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมบ้านเมือง ศิลปะประจำประเทศ และ ความนิยมสมัยใหม่อย่างลงตัว
ไม่เพียงแต่ประเทศเยอรมนี จะได้รับสมญานามว่าเป็นดินแดนเทพนิยายที่มีปราสาทตระการตาและถนนหนทางอันงดงาม ประเทศเยอรมนี ยังเป็นที่รู้จักในฐานะสวรรค์แห่งการชอปปิงที่คึกคักซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาด แล้ว “ของฝากเยอรมัน มีอะไรบ้าง” บทความนี้มีคำตอบแน่นอน!
1. แก้วเบียร์ Stein (Beer Stein)
มาเริ่มรายการของฝากเยอรมันกันที่ของฝากอันดับหนี่งประเทศ ที่การันตีได้เลยว่า นักท่องเที่ยวแทบทุกคนต้องซื้อกลับบ้านกันอย่างแน่นอน เพราะไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาหาว่าไปไม่ถึงประเทศเยอรมนี ซึ่งของฝากเยอรมันดังกล่าวจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก “Beer Stein” หรือ “แก้วเบียร์เยอรมัน” ซึ่งเป็นแก้วเบียร์ดั้งเดิมของชาวเยอรมัน ทำมาจากเครื่องเงิน และ แกะสลักด้วยลวดลายอันแสนงดงาม จุดเด่นของแก้วเบียร์เยอรมัน คือ ความหนาของแก้วที่มีขนาดพอดีมือ มาพร้อมความใหญ่ รับรองสะใจคอดื่ม
ไม่เพียงแต่แก้วเบียร์ดั้งเดิมเยอรมัน (Beer Stein) จะมีหน้าตาที่สวยงาม น่าเก็บสะสมแล้ว รู้หรือไม่ว่าเจ้าแก้วเบียร์เยอรมันนี่เอง มีความหมายต่อวัฒนธรรมการดื่มเบียร์ของชาวเยอรมันอีกด้วย เดิมที แก้วเบียร์ Beer Stein ถูกผลิตขึ้นเพื่อแก้ไขต้นเหตุที่ก่อให้เกิดกาฬโรคในชาวเยอรมัน โดยทางการเยอรมนีได้ออก กฎหมายที่เข้มงวดซึ่งบังคับเรื่องสุขอนามัยในส่วนผสมเบียร์ การขนส่ง และคุณภาพของเบียร์ รวมไปจนถึง แก้วที่ใช้ดื่มที่จะต้องมีฝาปิดแก้ว ส่งผลให้เบียร์เยอรมันมีรสชาติที่ดีขึ้นเป็นอย่างมาก และ เกิดเป็นวัฒนธรรมการดื่มเบียร์ที่ไม่เหมือนชาติใดในโลกนั่นเอง
โดยเมืองผู้ผลิตเบียร์สไตน์แบบดั้งเดิมที่สุดคือ เมือง Kannenbäckerland ในภูมิภาค Westerwald ซึ่งภูมิภาคช่างปั้นแห่งนี้ ได้สร้างสรรค์เบียร์สไตน์มานานหลายศตวรรษ และมีชื่อเสียงในหมู่นักสะสมเบียร์สไตน์ดั้งเดิมของเยอรมันเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันแก้วเบียร์ดั้งเดิมเยอรมัน มาในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น
2. นาฬิกาแขวนกุ๊กกู (Cuckoo Clocks)
รายการต่อมา เป็นของฝากเยอรมันที่มีชื่อเสียง และ โด่งดังเป็นอันดับสองของประเทศเยอรมัน โดยสินค้าชิ้นนี้เป็นงานฝีมือ Hand Made ทำมาจากไม้ และ แกะสลักเป็นลวดลายอันเป็นเรื่องราวอย่างสวยงาม บางเรือนบ่งบอกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของประเทศเยอรมัน บางเรือนแสดงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองเยอรมันในชนบท และ บางเรือนมากับลวดลายคริสต์มาสอันแสนน่ารัก อย่างไรก็ตาม นาฬิกาแขวนกุ๊กกู (Cuckoo Clocks) ที่ชาวเยอรมันจะรับรองว่าเป็นของแท้ (Authentic) ได้ก็ต่อเมื่อนาฬิกาแขวนเรือนดังกล่าว มีการผลิตในทุกส่วน ตั้งแต่ตัวเรือนนาฬิกา, รายละเอียดการตกแต่ง ไปจนถึงส่วนประกอบของกลไกการเคลื่อนไหว นั้นได้รับการทำด้วยมือ จากช่างฝีมือโดยเฉพาะในภูมิภาค Balck Forest ของประเทศเยอรมนีเท่านั้น
ทั้งนี้เนื่องจากนาฬิกาแขวนกุ๊กกู (Cuckoo Clocks) นั้น อยู่คู่บ้านคู่เมืองกับชาวเยอรมันมาตั้งแต่ปี ค.ศ 1700 มีจุดเริ่มต้นที่ภูมิภาค Black Forest ซึ่งช่างนาฬิกาแขวนในปัจจุบัน ยังคงใช้เครื่องมือ Time Testing และ ส่วนประกอบที่ใช้ประกอบนาฬิกาแขวนดั้งเดิมจากภูมิภาค Black Forest อยู่นั่นเอง
3. ตุ๊กตาฮัมเมล (Hummel Figurines)
ตุ๊กตาดินเผาฮัมเมล (Hummel Figurines) เป็นตุ๊กตาโบราณที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมนี มีความเปนมาที่ยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ 1935 โดยผู้ผลิตโรงงานเครื่องเคลือบดินเผา W. Goeble อย่างไรก็ตามปัจจุบันผู้ผลิตได้ทำการปิดโรงงานลง ทำให้ตุ๊กตาดินเผาฮัมเมล (Hummel Figurines) เป็นสินค้าที่มีคุณค่าเป็นอย่างมากสำหรับชาวเยอรมัน และกลายเป็นของฝากเยอรมันที่มีชื่อเสียงด้วยนั่นเอง จุดเด่นที่ทำให้ตุ๊กตาปั้นดินเผาดังกล่าวเป็นที่หมายปองของนักท่องเที่ยวนั้น คือ หน้าตาของน้อง ที่ไม่เหมือนกันเลยในแต่ละตัว แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันอยู่นั้นคือ สีแก้มสีชมพู Rosy ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ ตุ๊กตาดินเผาฮัมเมล (Hummel Figurines) นั่นเอง นอกจากนี้ของฝากเยอรมันชิ้นนี้ยังเป็นสินค้า HandMade ที่ถูกปั้น และ เพ้นท์สี ด้วยแรงงานคนทั้งสิ้น
Fun Fact: ความนิยมของตุ๊กตาดินเผาฮัมเมล (Hummel Figurines) ได้เพิ่มมากขึ้นหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง เนื่องจากทหารชาวเมกันที่ประจำอยู่ที่ประเทศเยอรมนี ได้ส่งเจ้าตุ๊กตาดินเผาฮัมเมล เป็นหนึ่งในของฝากเยอรมันที่สำคัญให้แก่คนในครอบครัวของตนนั่นเอง
4. ชิ้นส่วนกำแพงเบอร์ลิน (Bits of Wall Berlin)
ฝากเยอรมัน ผู้หญิง และ ผู้ชาย ที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย และที่สำคัญยังหาซื้อไม่ได้จากที่ไหนนอกจากที่ประเทศเยอรมนีนั้น จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก “ชิ้นส่วนกำแพงเบอร์ลิน”หรือ “Bits of Berline Wall” นั่นเอง
อย่างที่พอจะทราบกันแล้วว่า กำแพงเบอร์ลิน (Berlin Wall) เป็นกำแพงที่สร้างขึ้นมาในช่วงสงครามเย็น กั้นระหว่างเยอรมนีตะวันออกที่ในขณะนั้นอยู่ภายใต้อิทธิพลของสหภาพโซเวียตออกจากเยอรมนีตะวันตกที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของประเทศตะวันตก นำโดยสหรัฐฯ เพื่อไม่ให้ชาวเยอรมันตะวันออก หลบหนีเข้ามายังฝั่งตะวันตก โดยกำแพงดังกล่าว มีความยาวกว่า 153 กิโลเมตร และ ความสูงอีกเกือบ 3.6 เมตรแห่งนี้ ได้ล่มสลายลงหลังจาก 28 ปี ซึ่งสำหรับชาวเยอรมันแล้ว กำแพงแห่งนี้ เป็นสัญลักษณ์ของความขัดแย้งระหว่างระบบทุนนิยม (เยอรมันตะวันตกภายใต้การนำของสหรัฐฯ) กับระบบคอมมิวนิสต์ (เยอรมันตะวันออกภายใต้การปกครองของสหภาพโซเวียต)
ซึ่งหลังจากได้มีการทำลายกำแพงดังกล่าว ชาวเยอรมันได้มีการเก็บซากกำแพงเพื่อเป็นที่ระลึก และในปัจจุบันได้มีการจำหน่ายซากกำแพงเบอร์ลินให้แก่นักท่องเที่ยว ซึ่งชิ้นส่วนกำแพงเบอร์ลินของจริงนั้น จะต้องมาพร้อมกับใบรับรอง หรือ Certificate of Authenticity จากทางการเยอรมันนั่นเอง
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
5. เยลลี่ ฮาริโบ้ (Haribo Gummies)
หากคุณกำลังตามหาของฝากเยอรมัน สำหรับนำกลับบ้านไปฝากลูกๆ หลานๆ ที่ไม่กินพื้นที่กระเป๋า และมีน้ำหนักเบา เราขอแนะนำขนมเยลลี่ “Haribo Goldbear” หรือที่ชาวเยอรมันเรียกกันว่า เยลลี่ “Gummibärchen (กอลด์แบร์เคิน) หรือ Gummy Bear” ซึ่งแม้ว่าขนมเยลลี่ชื่อดังยี่ห้อ ฮาริโบ้นี่ จะหาซื้อทานได้ง่ายในประเทศไทย แต่รู้หรือไม่ว่า สีสัน และ รสชาติของเยลลี่เจ้าหมีน้อยนั้น แตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ สำหรับห่อขนมเยลลี่ ฮาริโบ้ของแท้ ต้นตำรับจากประเทศเยอรมนีนั้น จะมีทั้งหมดด้วยกัน 6 รสชาติ ได้แก่ รสสตรอว์เบอร์รี (สีเขียวอ่อน), เลมอน(สีเหลือง), ส้ม (สีส้ม), สับปะรด (สีขาว) และ ราสเบอรี่ (สีแดงเข้ม) และ เพิ่มรสชาติแอปเปิ้ล (สีเขียวเข้ม) ซึ่งเป็นรสชาติที่เยลลี่ฮาริโบ้ของประเทศไทยไม่มีนั่นเอง
ซึ่งแม้ว่าสำหรับนักท่องเที่ยวหลายคน ของฝากเยอรมันชิ้นนี้อาจจะเป็นเพียงแค่ขนมเยลี่ราคาไม่แพง แต่สำหรับชาวเยอรมันแล้ว เยลลี่ Haribo Goldbear เป็นเหมือนขนม Childhood ที่พวกเขารับประทานกันมาตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่ ทั้งนี้เนื่องจากเยลลี่ ฮาริโบ้ นั้น มีความเก่าแก่ อยู่คู่กับประเทศเยอรมนีมาตั้งแต่ปี ค.ศ 1960 ซึ่งหากนักท่องเที่ยวต้องการซื้อกลับไปเป็นของฝากเยอรมัน แนะนำให้ซื้อที่เมืองบอนน์ (Bonn) เมืองต้นกำเนิดของเยลลี่ในตำนานนี่เอง
6. ตุ๊กตานัทแครกเกอร์ (German Nutcracker)
มาถึงของฝากเยอรมันยอดนิยมอีกชิ้น นั่นคือ “เจ้าตุ๊กตานัทแครกเกอร์ (German Nutcracker)” หรือ ตุ๊กตาไม้แสนน่ารัก ที่เรามักจะพบเห็นเป็นของตกแต่งบ้านกันอยู่บ่อยครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งเชื่อหรือไม่ว่าเจ้าตุ๊กตาทหารสวมใส่เครื่องแบบเต็มยศนี่เอง เป็นตุ๊กตาที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมนี ซึ่งในอดีตถูกผลิตขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการที่แกะเปลือกถั่ว ซึ่งเครื่องมือนี้ จะถูกซ้อนไว้ที่บริเวณปากของตุ๊กตา และ จะแกะถั่วโดยการอ้าปาก แต่ในปัจจุบันผู้คนนิยมนำตุ๊กตานัทแครกเกอร์ มาตกแต่งบ้าน (House Decoration) กันซะมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงคริสต์มาส ทั้งนี้เนื่องจากชาวเยอรมันเชื่อกันว่า ตุ๊กตานัทแครกเกอร์ (German Nutcracker) เป็นสัญลักษณ์ที่นำมาซึ่งความโชคดีมาให้แก่คนในครอบครัว และปัดเป่าให้ห่างไกลจากภูติผีปีศาจ
ตุ๊กตาดังกล่าว มีความเป็นมาที่ยาวนานตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 17 โดยมีต้นกำเนิดที่เมือง Erzgebirge ซึ่งเป็นเมืองเหมืองแร่ในอดีต แต่ในช่วงที่ธุรกิจเหมืองแร่ดำเนินไปได้ไม่ดี ทำให้คนงาน หันมาทำงานไม้ฝีมือ กลายมาเป็นงานไม้ตุ๊กตานัมเครกเกอร์อชจนถึงทุกวันนี้ ดังนั้นมาถึงประเทศเยอรมนีทั้งที ตุ๊กตานัทแครกเกอร์ (German Nutcracker) จึงเป็นของฝากเยอรมัน สำหรับคุณผู้หญิง ที่ห้ามมองข้าม
7. น้ำหอม Eau de Cologne 4711
รายการของฝากเยอรมันอันดับที่ 7 ที่ทาง Artralux ไม่อยากให้ท่านมองข้ามเลยนั้น คือ แบรนด์ “น้ำหอม และ โคโลญ 4711” ซึ่งเป็นแบรนด์โคโลญที่มีต้นกำเนิดมาจากเมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี ซึ่งไม่เพียงแต่น้ำหอมแบรนด์นี้จะมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกแล้ว แบรนด์ 4711 ยังเป็นแบรนด์โคโลญแบรนด์แรกของโลก ซึ่งมีความเก่าแก่ มีความเป็นมาอย่างยาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 และเชื่อกันว่าผู้หญิงชาวเยอรมันทุกคนที่เกิดในช่วงยุค 50 และ 60 ต่างก็มีขวดน้ำหอม 4711 ติดโต๊ะเครื่องแป้งกันไม่ต่ำกว่า 1 ขวดทั้งนั้น แม้ว่าน้ำหอมแบรนด์นี้จะอยู่คู่กับคุณสุภาพสตรี และ สุภาพบุรุษชาวเยอรมันมาแล้วกว่า 225 ปี แต่ความนิยมของโคโลญ 4711 ก็ไม่ได้หายไปตามกาลเวลา ซึ่งเด็กรุ่นหลังเองก็มักจะซื้อติดบ้านเอาไว้ เพราะกลิ่นของมันทำให้ย้อนลำลึกถึงช่วงเวลาในอดีตที่พวกเชาได้ใช้เวลากับคุณปู่ คุณย่านั่นเอง
Fun Fact: น้ำหอม และ โคโลญ 4711 นั้น เป็น Eau de Cologne ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ผลิตขึ้นโดยคุณ Wilhelm Muelhens โดยโน็ตของโคโลญตัวนี้ คือ Secret Recipe ที่เขาได้รับเป็นของขวัญวันแต่งงานของเขา ซึ่งหลังจากที่เขาได้เปิดโรงงานที่เขต Glockengasse เมือง Cologne ประเทศเยอรมัน เขาก็ได้ใช้ Recipe ดังกล่าว มาเป็นแรงบันดาลใจในการผลิตโคโลญขึ้นมานั่นเอง ดังนั้น หากถามว่าซื้อของฝากเยอรมันอะไร ให้ผู้หญิง และ ผู้ชาย วันทำงานดีนะ โคโลญแบรนด์ 4711 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่สุดนะคะ
8. เบียร์เยอรมัน (German Beer)
และแล้วก็มาถึงของฝากเยอรมันที่เชื่อว่าหลายคนตั้งตาตั้งตารอกันอย่างมาก เพราะหากพูดถึงประเทศเยอรมันแล้วไม่พูดเบียร์ก็คงจะไม่ได้ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศเยอรมันแห่งนี่เป็นประเทศที่มีชื่อเสียงในเรื่องของรสชาติ และ คุณภาพของเบียร์เป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ที่เมืองมิวนิก เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของเยอรมันเอง ก็ยังเป็นสถานที่จัดงาน Oktoberfest หรือ เทศกาลดื่มเบียร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย ซึ่งเบียร์ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมันนั้น จะมีรสชาติที่แตกต่างจากเบียร์จากประเทศอื่นอย่างเฉพาะตัว โดยรสชาติของเขานั้น จะมีความสดชื้น หอมกลิ่นข้าว และ รู้สึกถึงคุณภาพของวัตถุดิบอย่างชัดเจนในทุกคำ ซึ่งเบียร์ของประเทศเยอรมันนั้นมีหลากหลายยี่ห้อมาก โดยเขาเชื่อกันว่าคุณสามารถลิ้มลองรสชาติยี่ห้อเบียร์ได้ทุกวันแบบไม่ซ้ำกันตลอด 15 ปีเลยทีเดียว
ซึ่งหากถามว่าของฝากเยอรมัน เบียร์ ยี่ห้อไหนที่ควรซื้อกลับไทยมากที่สุด เราขอแนะนำยี่ห้อเยียร์เยอรมันดังต่อไปนี้
- Weihenstephan _ Hefe Weissbier : หรือ ชื่อสั้นๆ “Hefeweizen” เป็นเบียร์ข้าวสาลีสไตล์บาวาเรีย (Bavarian)อันดับต้นๆ ที่ต้องลอง และ ซื้อกลับไปเป็นของฝากเยอรมัน ซึ่งความหวานอ่อนๆ ของยีสต์ (ซึ่งบางคนบอกว่ามีกลิ่นคล้ายๆ กับกล้วยหรือหมากฝรั่ง) ทำให้เป็นเบียร์เยอรมันยี่ห้อนี้ มีความสดชื่นเป็นอย่างยิ่ง ชาวเยอรมันนิยมดื่มก่อนมื้ออาหาร หรือ ดื่มพร้อมกับมื้อเย็น ซึ่งความพิเศษคือ “Hefeweizen” เป็นผลงานจาก Weihenstephan ซึ่งเป็นโรงเบียร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกนั่นเอง
- Ayinger _ Oktober Fest-Märzen : เมื่อพูดถึงเบียร์เยอรมันชื่อดังที่นิยมเสิร์ฟในเทศกาล Oktoberfest คอเบียร์ทั้งหลายคงรู้ดีว่า เราคงมองข้ามเบียร์เยอรมันสไตล์ “Märzen”ไม่ได้ โดยเบียร์สไตล์ “Märzen” คือประเภทเบียร์ที่หมักตั้งแต่เดือนมีนาคม เพื่อให้พร้อมดื่มในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับเทศกาล Oktaberfest นั่นเอง โดยยี่ห้อ Oktober Fest-Märzen เป็นเบียร์ที่มีลักษณะเด่นคือ สีเหลืองอำพันที่สวยงาม และ รสชาติของมอลต์ พร้อมโน้ตของคาราเมลอ่อนๆ ถือเป็นอีกหนึ่งของฝากเยอรมันที่คนไทยนิยมซื้อกลับประเทศมากที่สุด
- Schneider Weisse Hefeweizen : เป็นอีกหนึ่งของฝากเยอรมัน ที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อกลับบ้านเสมอ ด้วยความที่รสชาติเบียร์ดังกล่าวมีความแปลก อาจจะดื่มยากไปสักนิดสำหรับผู้ที่ไม่ชอบดื่มเบียร์ แต่รสชาติที่แลกนี้ ก็มีความเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งหากจะให้บรรยายว่ารสชาติเป็นอย่างไรนั้น ให้คุณนึกถึง ข้าวสาลีรสเปรี้ยวผสมรสเผ็ด พร้อมด้วยกลิ่นมอลต์ผสมผสานกับคาราเมลและขนมปังปิ้ง
9. ช็อกโกแลต Mozartkugel Chocolate
หากถามว่าซื้อของฝากเยอรมันอะไรดี ที่เหมาะสมสำหรับคนทุกเพศ และ ทุกวัย ต้องบอกเลยว่าช็อกโกแลตของเยอรมันนั้น เป็นอีกหนึ่ง Must-Have ไอเทม ที่ควรซื้อกลับไปเป็นของฝากเยอรมัน และ ควรได้ลิ้มลอง โดยที่ยี่ห้อที่เราอยากแนะนำให้คุณได้ลองนั้น คือ ยี่ห้อ “Mozartkugel” หรือ ที่นักท่องเที่ยวเรียกกันว่า “Mozart chocolate” ซึ่งเป็นหนึ่งในยี่ห้อช็อกโกแลตเยอรมันที่ได้รับความนิยมอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยว ทั้งนี้เนื่องจาก Mozartkugel นั้น มีความเก่าแก่ และ รสชาติที่แตกต่างจากช็อกโกแลตทั่วไป ไส้ด้านในประกอบด้วยมาร์ซิพาน (Marzipan) หรือ ผงอัลมอนด์อัดหนานุ่ม, พิสตาชิโอ, นูกาท์ (Nougat) หรือ ตังเม จากนั้น เคลือบด้วยดาร์กช็อกโกแลตหนาๆ หรือช็อกโกแลต 2 ชั้น ชั้นหนึ่งเป็นช็อกโกแลตนม 1 และอีกหนึ่งชั้นเป็นดาร์กช็อกโกแลต 1 อันนั่นเอง ถือเป็นหนึ่งในของฝากเยอรมัน ของกินที่ต้องลอง หรือ ควรซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านอย่างแน่นอน
10. ขนมปังขิง (Lebkuchen)
ขนม Lebkuchen คือ ขนมปังขิง หรือ ที่เรารู้จักกันดีในนาม Gingerbread สัญชาติเยอรมัน เป็นหนึ่งในขนมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในกลุ่มชาวเยอรมัน และ นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลคริสต์มาส โดยจุดเด่นของ Gingerbread หรือ Lebkuchen ของประเทศเยอรมัน คือ รูปทรงหัวใจ ตกแต่งด้วยไอซิ่ง เขียนเป็นตัวหนังสืออวยพรวันคริสต์มาส หรือ แสดงถึงสถานที่ที่ซื้อขนม Lebkuchen ชิ้นนั้นๆ เดิมทีขนม Lebkuchen รูปทรงหัวใจจะหาซื้อได้แค่ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส หรือ เทศกาลสำคัญเท่านั้น แต่ในปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อขนม Lebkuchen ได้ตามท้องตลาดทั่วไปในประเทศเยอรมัน โดยนักท่องเที่ยวนิยมซื้อเป็นหนึ่งในของฝากเยอรมันกลับบ้าน เป็นของตกแต่งบ้านมากกว่าของกิน ซึ่งหากคุณเป็นอีกคนที่คิดจะซื้อขนม Lebkuchen เป็นของฝากเยอรมัน เราแนะนำให้เลือกชิ้นที่เขียนตัวอักษร “Ich liebe dich” ซึ่งแปลว่า “I love you” ในภาษาเยอรมันนั่นเอง
แม้น้องจะเป็นแค่ขนมปังขิง ที่หาซื้อได้ทั่วไป แต่ขนม Lebkuchen รูปทรงหัวใจ ถือเป็นหนึ่งในของฝากเยอรมันสุดไอคอนิกที่นักท่องเที่ยวผู้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวเยอรมันต้องไม่พลาดซื้อกลับไทย อย่างไรก็ตามหากคุณไม่อยากได้ขนม Lebkuchen ที่มาพร้อมกับยรูปหัวใจ อีกหนึ่งชนิดขนม Lebkuchen ที่ขึ้นชื่อ คือ “Nürnberger Elisenlebkuchen” ซึ่งเป็นเนื้อคุกกี้นุ่ม เคลือบด้วยน้ำตาลเชื่อม และ ช็อกโกแลต แตกต่างจาก Ginegr bread ของประเทศอื่นที่ ของเยอรมันนั้น จะไม่ใช่แป้งเป็นส่วนผสม และใช้ถั่วจำนวนมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะถั่วประเภท almonds และ hazelnuts.
สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่กำลังวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศเยอรมัน ไม่ว่าจะไปเที่ยวเป็นแบบหมู่คณะ, กับคนพิเศษ หรือ ท่องเที่ยวเยอรมันแบบส่วนตัว ทาง Artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำของไทย สามารถจัดทริปท่องเที่ยว หรือ ทัวร์เยอรมันแบบส่วนตัวให้คุณได้ และหากคุณต้องการเที่ยวเยอรมันด้วยตัวเอง แต่อยากได้ตัวช่วยเป็นโปแกรมเที่ยวที่ครอบคลุมทุกรายละเอียกการเดินทาง Artralux ก็ทำให้ได้เช่นกัน รับรองว่า ไม่ว่าคุณจะอยากเที่ยวที่ไหน พักผ่อนที่โรงแรมระดับใด ทานอาหารอะไร หรือ อยากได้ของฝากเยอรมันประเภทไหน เราจัดการรังสรรค์ทริปท่องเที่ยวในฝันให้คุณได้แน่นอน !
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
