เชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายคน เมื่อกล่าวถึง ‘เมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิต’ คงจะต้องนึกถึงเมนูอาหารญี่ปุ่น ที่เราคุ้นเคยกันดี อย่าง ซูชิ (Sushi), อุดง(Udon) หรือ ราเม็ง (Ramen) อย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ญี่ปุ่นนั้น เป็นประเทศที่มีเมนูอาหารประจำมากที่สุดอีกประเทศหนึ่งของโลก ซึ่งจุดเด่นของเมนูอาหารญี่ปุ่นนั้น อยู่ที่ความพิถีพิถันในขั้นตอนการทำ และ การใส่ใจรายละเอียดในการเลือกสรรวัตถุดิบที่มีความโดดเด่นในแต่ละฤดูกาล
สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว การทำอาหาร รวมไปจนถึงการรับประทานเมนูอาหารญี่ปุ่นแท้ๆ นั้น ถือเป็นการแสดงออกทางวัฒนธรรม ประเพณี และ ศิลปะประจำชาติ ทั้งนี้เนื่องจากคนญี่ปุ่นมีความเชื่อว่า อาหารประจำชาติ คือ ส่วนหนึ่งของตัวตนพวกเขา ไม่เพียงแต่ทางร่างกาย (Physically) แต่ในทางจิตวิญญาณ (Spiritually) ด้วยเช่นกัน
การให้ความสำคัญในมื้ออาหาร ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบ กรรมวิธีการทำ ไปจนถึง มารยาทในการกิน สิ่งเหล่านี้ ทำให้เมนูอาหารญี่ปุ่นมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก วันนี้ทาง Artralux บริษัทท่องเที่ยวระดับพรีเมียมชั้นนำของประเทศไทย ได้ทำการรวบรวมเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิต พร้อมเมนูอาหารญี่ปุ่นเพื่อสุขภาพมาฝากกันกว่า 15 เมนู จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
ทำไมเมนูอาหารญี่ปุ่นถึงมีความสำคัญต่อคนญี่ปุ่น
“อาหารญี่ปุ่น” หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า “Washoku (Wa แปลว่า ญี่ปุ่น, Shoku แปลว่า อาหาร)” นั้น มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ซึ่งถึงแม้จะไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดว่า อาหารญี่ปุ่นนั้น มีจุดเริ่มต้นเมื่อไร แต่ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าอาหารญี่ปุ่น ได้รับการอิทธิพลมาจากหลายประเทศ โดยมีจุดเริ่มต้นในช่วงหลังยุคเอโดะ หรือ ช่วงญี่ปุ่นได้ทำการเปิดประเทศ ซึ่งแต่เดิมเมนูอาหารญี่ปุ่นที่ชาวญี่ปุ่นรับประทานกัน ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารประเภท ของทอด น้ำชา รวมไปถึงเมนูถั่วหมัก แต่หลังจากที่ได้ติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ ทำให้ชาวญี่ปุ่นได้นำเอาวิธีในการปรุงอาหาร และ ส่วนผสมต่างๆ มาปรับใช้ให้เข้ากับเมนูอาหารญี่ปุ่นประจำชาติที่มีอยู่แล้ว จนได้มาซึ่งอาหารญี่ปุ่นรสชาติกลมกล่อมที่มีชื่อเสียงจนถึงปัจจุบัน
จุดเด่นของเมนูอาหารญี่ปุ่น ที่ไม่เหมือนชาติไหนในโลก
อาหารญี่ปุ่นทุกเมนูล้วนแต่มีรสชาติ แลเะ เอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่เชื่อหรือไม่ว่า แม้ว่ารสชาติของเมนูอาหารญี่ปุ่นจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ทุกเมนูกลับมีรากฐานทางวัฒนธรรม และ แนวคิด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงลักษณะนิสัยของชาวญี่ปุ่นได้อย่างแท้จริง
เชื่อว่าคนญี่ปุ่นทุกคน ถูกปลุกฝั่งให้ใช้ชีวิตด้วยการยึดเหนี่ยวแนวคิดแบบ “โคดาวาริ (Kodawari)” ซึ่งสามารถแปลตรงตัวได้ว่า “การหมกมุ่นอยู่กับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง” ซึ่งแนวคิดที่ว่านี่ ได้ถูกฝังลึกลงไปถึงวัฒนธรรม และ ลักษณะนิสัยของชาวญี่ปุ่นรุ่นต่อรุ่น ส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นมีความใส่ใจในรายละเอียด และ ความพิถีพิถันในเรื่องของอาหารด้วยเช่นกัน
โดยซึ่งความพิเศษที่ทำให้เมนูอาหารญี่ปุ่นไม่เหมือนชาติใดในโลก และ ทำให้ทาง UNESCO ได้จดทะเบียนให้ “อาหารญี่ปุ่น” เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Intangible Cultural World’s Heritage) มีดังนี้
1.การเคารพในรสชาติของวัตถุดิบดั้งเดิม : หนึ่งในเสน่ห์ของเมนูอาหารญี่ปุ่น คือ กรรมวิธีการปรุงที่ชูรสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบ ทั้งนี้เนื่องจากแต่ละภูมิภาค และ แต่ละจังหวัดในญี่ปุ่น ต่างมีวัตถุดิบ และ ทรัพยากรทางธรรมชาติที่ต่างกัน ดังนั้นการคงไว้ซึ่งรสชาติวัตถุดิบ จึงเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงเอกลักษณ์ของภูมิภาคนั้นๆ
2. การรักษาสมดุลทางโภชนาการ : ชุดเมนูอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมที่แท้จริง จะประกอบไปด้วย เมนูซุป 1 ถ้วย, กับข้าวอย่างน้อย 3 อย่าง และ สลัดอีก 1 อย่าง ทั้งนี้เพื่อให้ได้รับโภชนาการอย่างครบถ้วนในทุกมื้ออาหารนั่นเอง
3. สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของทัศนียภาพ และ ฤดูกาล: การจัดตกแต่งจานอาหาร และ การเลือกวัตถุดิบที่เหมาะสมในแต่ละฤดูกาล สะท้อนให้เห็นถึงความเอาใจใส่ของคนญี่ปุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล และ ความสุขของพวกเขาที่จะได้รับประทานอาหารประจำดูการนั้นๆ ซึ่งจะมีแค่ 1 ครั้งในรอบปี
10 เมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิต ที่ต้องลองหากไปเที่ยวญี่ปุ่น
เมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตทุกเมนูนั้น เกิดจากการผสมผสานของความใส่ใจในการเลือกวัตถุดิบ การปรุงรสที่นึกถึงผู้รับประทาน และ การให้ความสำคัญของฤดูกาล และ เทศกาล ในช่วงเวลานั้นๆ วันนี้เราจะมาท่านไปดูเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิต ที่หากท่านมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือนประเทศญี่ปุ่นแล้ว แต่พลาดไม่ได้ไปชิมรสชาติเมนูอาหารญี่ปุ่นเหล่านี้ จากพ่อครัวชาวญี่ปุ่นแท้ๆ นั้น ถือว่ามาไม่ถึงประเทศญี่ปุ่นแน่นอน
1. ราเม็ง (Ramen-ya)
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องเคยรับประทานกันแน่นอน หนีไม่พ้น “ราเม็ง” จุดเด่นของราเม็ง คือ ความกลมกล่อมของน้ำซุป และ วัตถุดิบต่างๆ ที่เลือกใช้ ซึ่งราเม็งของแต่ละภูมิภาค และ แต่ละร้าน ต่างมีสูตรการปรุง และ การเคี้ยวน้ำซุปเฉพาะเป็นของตัวเอง ทำให้แม้ว่าคุณจะสั่งเมนูราเม็งในแบบเดิม แต่หากกินต่างร้านแล้ว คุณจะได้รับรสชาติราเม็งที่แตกต่าง อย่างแน่นอน
ส่วนประกอบสำคัญของราเม็ง ได้แก่ น้ำซุป, เส้นราเม็ง และ เครื่องเคียง ซึ่งความแตกต่างในการใช้องค์ประกอบที่แตกต่างนี่เอง ทำให้เกิดเป็นประเภทราเม็งที่แตกต่าง ดังนี้
- โชยุราเม็ง (Shoyu Ramen) : ราเม็งซุปน้ำใสสีน้ำตาล ที่เกิดจากการเคี้ยวกระดูกโครงไก่, กระดูกหมู, แผ่นปลาโอ หรือ สาหร่ายคอมบุ (ขึ้นอยู่กับภูมิภาค) จากนั้นจึงปรุงรสด้วยโชยุ ซึ่งเป็นเบสหลักของน้ำซุป โดยโชยุราเม็งนี่เอง เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิต มาตรฐานที่มีประวัติยาวนานมากที่สุดในกลุ่มราเม็งประเภทอื่นๆ
- มิโสะราเม็ง (Miso Ramen) : มิโสะราเม็ง เป็นราเม็งน้ำซุปเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น (มิโสซะ) มีความเข้มข้นกว่าน้ำซุปโชยุ และ มีเส้นราเม็งที่ใหญ่กว่าราเม็งประเภทอื่น บางร้านอาจจะปรุงรสออกมาให้มีรสเปรี้ยว ในขณะที่บางร้านปรุงออกเค็ม ซึ่งหากท่านอยากกินมิโสะราเม็งต้นตำรับนั้น จะต้องเดินาทางไปทานกันที่เมืองซัปโปโร ซึ่งเป็นแหล่งของมิโสะราเม็งนั่นเอง
- ชิโอะราเม็ง : เป็นราเม็งที่มีเกลือเป็นเบสหลัก ซึ่งคำว่า “ชิโอะ” แปลว่า “เกลือ” โดยราเม็งประเภทนี้ เหมาะกับคนที่อยากลิ้มรสความอร่อย และ กลมกล่อมของเส้นราเม็งแบบธรรมชาติ เพราะน้ำซุปของราเม็งประเภทนี้ ได้เกิดจากการเคี้ยวโครงกระดูกหมู หรือ ไก่ จากนั้นปรุงด้วยเกลือเพียงเท่านั้น
- ทงคตสึราเม็ง : ราเม็งซุปกระดูกหมู มีทั้งแบบน้ำใส และ แบบน้ำสีขาวขุ่น โดยน้ำซุปราเม็งประเภทนี้ เกิดจากการเคี้ยวกระดูกหมู จากนั้น ปรุงรสด้วยเกลือ และ โชยุ เอกลักษณ์ของทงคตสึราเม็ง คือ เส้นราเม็งที่บาง มีสีขาวซีด ซึ่งเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตนี่ มีต้นกำเนิดที่ เกาะคิวชู ในจังหวัด ฟุกุโอกะ
- สึเคเม็ง (Tsukemen) : หรือ ราเม็งแบบจุ่ม เป็นประเภทราเม็งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยจะไม่เสิร์ฟน้ำซุปพร้อมกับเส้น แต่จะแยกออกมาอีกถ้วย ซึ่งเวลาทานจะต้องจุ่มเส้นลงไปที่น้ำซุปสึยุ ซึ่งมีรสชาติเข้มข้นมาก และ ไม่แนะนำให้ซดน้ำซุปเปล่าๆ
2. ซูชิ (Sushi)
ซูชิ หรือ เมนูข้าวปั้น เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่น ประเภทข้าวที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันเป็นอย่างดี และด้วยความโด่งดังของเมนูญี่ปุ่นนี่ ทำให้ในปัจจุบัน เมนูอาหารญี่ปุ่น ซูชิหารับประทานได้ง่าย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าซูชิที่เราหากินได้ในบ้านเรา กับ เมนูอาหารญี่ปุ่น ซูชิ แท้ๆ ที่ประเทศญี่ปุ่นนั่น มีรสชาติที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ซูชิ เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นประเภทข้าว ที่มีวิธีการทำไม่ซับซ้อน เมื่อเทียบกับเมนูอาหารญี่ปุ่นเมนูอื่น โดยการนำเอาข้าวไปผสมกับน้ำส้มสายชู จากนั้น นำมาทานคู่กับเนื้อปลา เนื้อ หรือ วัตถุดิบของคาวชนิดอื่นๆ
เมนูอาหารญี่ปุ่น ซูชิ มีต้นกำเนิดใน ค.ศ. 927 และ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน เพื่อเป็นการถนอมอาหารให้มีอายุยาวนานมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน ซูชิ ได้มีวัฒนาการ และ มีหน้าหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
- นาเระซูชิ (Nare Sushi) : เมนูต้นตำรับซูชิที่นำปลา ข้าว และ เกลือ มาหมักรวมกันจนได้รสชาติเปรี้ยว ซึ่งเมนูนี่ เป็นเมนูต้นกำเนิดของซูชิ ปัจจุบันกลายเป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นที่หากินได้ยากมาก และ มีราคาสูง
- นิงิริซูชิ (Nigiri Sushi) : เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่น ซูชิที่เราคุ้นเคยกันดี เมนูนี้ คือ การนำข้าวผสมกับน้ำส้มสายชู และ วางปลาดิบไว้ด้านบน
- มากิซูชิ (Maki Sushi) : หลายคนจะเรียกเมนูซูชิ ประเภทนี้ว่า ซูชิโรล ซึ่งเป็นซูชิที่ได้รับอิทธิพลจากอาหารฝั่งตะวันตก มีลักษณะเป็นทรงกระบอก และหุ้มด้วยสาหร่าย ซึ่งเป็นเมนูอาหารญี่ปุ่น ที่มีชื่อเสียงที่ประเทศเกาหลีใต้ แต่จะใช้ส่วนผสมที่แตกต่างจากทางญี่ปุ่น และ มีชื่อเรียกว่า “คิมบับ” นั่นเอง
- เทมากิซูชิ (Temaki Sushi) : มีลักษณะคล้ายกับเมนูอาหารญี่ปุ่น ซูชิ ประเภท ‘มากิซูชิ’ แต่มีลักษณะเป็นรูปกรวย ทำให้ถือรับประทานได้ง่าย
- กุงกังมากิซูชิ (Gunkan Maki Sushi) : เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตที่ได้รับความนิยม ซึ่งเมนูนี่ จะมีข้าวปั้นรูปร่างขนาดพอดีคำ และ มีการห่อสาหร่ายรอบข้าวปั้น จนไม่เห็นเนื้อข้าว จากนั้นโปะหน้าด้วยของสด ไม่ว่าจะเป็น ไข่กุ้ง, หอย, ไข่ปลา หรือ ไข่หอยเม่น เป็นต้น
3. ยากินิคุ (Yakiniku)
ยากินิคุ คือ บาบีคิว ปิ้งย่างแบบฉบับดั้งเดิมของประเทศญี่ปุ่น ที่จะใช้เตาถ่านในการย่าง เพื่อให้ถ่านได้สัมผัสกับตัวเนื้อ จึงได้กลิ่นหอมอย่างเป็นเอกลักษณ์ และ รสชาติเนื้อที่นุ่มละมุนลิ้น ซึ่งจะแตกต่างจากเนื้อปิ้งย่างของประเทศเกาหลีทั่วไปที่มักจะย่างบนเตาเหล็ก จุดเด่นของยากินิคุ ที่ทำให้กลายเป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตนั้น คือ การย่างเนื้อ โดยไม่ผ่านการปรุงรส หรือ หมักใดๆ เพื่อให้ผู้ทานได้รสชาติของเนื้อย่างแท้จริง โดยแต่ละร้านจะมีซอสแบบเฉพาะประจำร้าน เพื่อช่วยในการขับรสชาติของเนื้อออกมา โดยเนื้อที่ได้รับความนิยม ได้แก่ เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อหมู และ สัตว์ทะเลประเภทต่างๆ
ยากินิคุ มีต้นกำเนิดมาจากแถบภูมิภาคคันไซ เมืองโอซาก้า ซึ่งในสมัยก่อน คนญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลการปิ้งย่างดังกล่าวมาจากการปิ้งย่างของชาวเกาหลีที่ได้อพยพเข้ามาที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจของเมนูอาหารญี่ปุ่นนี้ คือ ในวันที่ 29 สิงหาคมของทุกปี ที่ประเทศญี่ปุ่นจะเป็นวันยากินิคุ เดย์ ซึ่งชาวญี่ปุ่นจะชวนกันออกไปกินอาหารค่ำที่ร้านยากินิคุ นั่นเอง
4. คาเร หรือ ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น (Kare Raisu)
หากพูดถึงเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิต ที่คนญี่ปุ่นนิยมรับประทานกันจริงๆ จนกลายเป็นอาหารประจำบ้านของหลายๆ บ้านก็ว่าได้นั้น เมนูดังกล่าวหนีไม่พ้น คาเร (Kare) หรือ ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น ซึ่งข้าวแกงกะหรี่ของประเทศญี่ปุ่นนั้น จะมีความแตกต่างจากแกงกะหรี่ของประเทศอินเดีย เพราะชาวญี่ปุ่น จะนำแป้งสาลีเข้ามาผสมผสานกับตัวแกง ทำให้เกิดความหนืด และ เข้มข้นขึ้น ซึ่งเมื่อรับประทานคู่กับข้าวญี่ปุ่นที่มีเม็ดขนาดใหญ่ และ นุ่มแล้วนั้น จะทำให้รสชาติอ่อนลง และ เข้ากันได้เป็นอย่างดี
การรับประทานแกงกะหรี่ของคนญี่ปุ่น มี 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ ‘Rice Kare’ ซึ่งเป็นแกงกะหรี่ที่เสิร์ฟโดยนำแกงมาราดข้าวให้เรียบร้อย ในขณะที่ ‘Kare Rice’ คือ การแยกตัวแกงกับข้าว นั่นเอง
5. โอนิกิริ (Onigiri)
“โอนิกิริ” หรือ “ข้าวปั้นโอนิกิริ” เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่น ประเภทข้าว และ เป็นเมนูประจำบ้านของคนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเมนูที่คนญี่ปุ่นนิยมรับประทาน และ ชื่นชอบอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นเมนูที่พกพาง่าย และ อิ่มท้อง ด้วยเหตุนี้ คนญี่ปุ่นจึงนิยมทำโอนิกิริ สำหรับรับประทานระหว่างเดินทาง หรือ นั่งปิกนิก นั่นเอง ในปัจจุบัน โอนิกิริ มีให้เลือกรับประทานหลายส่วนผสม เช่น บ๊วยดอง, ปลาทูน่ามายองเนส, ปลาโออบแห้งป่น, ปลาซาบะ, ชีสมิโซะย่าง, เอ็นเนื้อตุ๋น และ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ข้าวปั้นโอนิกิริ ยังสามารถทานได้ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การนำโอนิกิริไปย่าง จากนั้นทาด้วยซอสโชยุ เพื่อเพิ่มรสชาติเข้าไปอย่างกลมกล่อม หรือ การทำโอนิกิริ แต่ไม่ปั้น ลักษณะคล้ายกับการทำแซนด์วิส สอดไว้แฮม ไข่เจียว และ หอด้วยสาหร่าย
ซึ่งเสน่ห์ของโอนิกิรินั่น คือ การที่โอนิกิริ จะมีขนาดเท่ากับมือของคนทำ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความหมายสำคัญที่ทำให้โอนิกิริ กลายเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตของแม่บ้านญี่ปุ่น สำหรับทำข้าวกล่องให้ลูก และ สามี นั่นเอง
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
6. ยากิโซบะ (Yakisoba)
เชื่อว่าคนไทยหลายคน คงเคยได้ลองรับประทาน ยากิโซบะ หรือ เมนูเส้นบะหมี่ผัดของญี่ปุ่น ที่มีรสชาติหวานมัน อย่างกลมกล่อมนี่อย่างแน่นอน เนื่องจาก ยากิโซบะ เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมในไทย อีกทั้งยังเป็นเมนูที่ทำง่าย ซึ่งคนญี่ปุ่นทำกินที่บ้านกันบ่อยมาก พอๆ กับการทำข้าวกะเพราของคนไทยก็ว่า
จริงๆ แล้ว ยากิโซบะ เป็นอาหารญี่ปุ่น ที่ได้รับอิทธิพลมาจากบะหมี่ผัดของประเทศจีน และเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 20 จากนั้น ก็ได้รับความนิยมเป็นต้นมา โดยแป้งของยากิโซบะนี่ เป็นแป้งสาลีที่นำมาผสมกับไข่ไก่ คล้ายกับวิธีการทำบะหมี่จีน ที่เรียกว่า “ชูกาเม็ง” อย่างไรก็ตาม ยากิโซบะ ของแต่ละเมือง และ ภูมิภาคนั้น มักจะมีรสชาติ หรือ วัตถุดิบที่นำมาใช้ต่างกัน
ยกตัวอย่างเช่น ยากิโซบะ ที่จังหวัดฟุกุโอกะ จะนำเอาเส้นอุด้งมาทำแทนเส้นบะหมี่ทั่วไป จึงเรียกว่า “ยากิอุด้ง” ในขณะที่เกาะโอกินาวา ได้มีการนำซอสมะเขือเทศเข้ามาปรุงรสเพิ่มเติมผสมกับซอสยากิโซบะดั้งเดิม กลายเป็นรสชาติยากิโซบะที่แตกต่างจากเมืองอื่นๆ นั่นเอง
7. ทงศัตสึ (Tonkatsu)
อีกหนึ่งอาหารญี่ปุ่นแนะนำ ที่ต้องไปทานให้ได้เมื่อมาเยือนประเทศญี่ปุ่น หนีไม่พ้น ทงศัตสึ ซึ่งเป็นเมนูที่นำเอาเนื้อหมู ไปคลุกกับแป้ง และ ไข่ จากนั้นนำไปทอด โดยคนญี่ปุ่นมักจะรับประทานคู่กับข้าว และ ซุปมิโสะ ซึ่งแต่ละร้าน จะมีซอสลาดทงศัตสึที่แตกต่างกันออกไป
ซึ่งการนำทงศัตสึ ไปโปะบนข้าว ราดด้วยซอสสไตล์ญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อมกับไข่ขนร้อนๆ นั้น จะมีชื่อเรียกว่า คัตสึด้ง (Katsudon) นั่นเอง
8. ไคเซกิ เรียวริ (Kaiseki Ryori)
หากพูดถึงเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตที่โด่งดังไปทั่วโลก ไม่พูดถึงอาหารญี่ปุ่นประเภทไคเซกิ เรียวริ หรือ เรียกสั้นๆ ว่า ไคเซกิ คงจะไม่ได้ เมนูอาหารญี่ปุ่น แบบไคเซกิ (Kaiseki) จะเป็นชุดเมนูอาหารญี่ปุ่นชั้นสูง ที่เสิร์ฟเป็นคอร์สอาหาร (Full Course) และ ใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล ซึ่งจะเสิร์ฟทั้งหมด 8 ลำดับด้วยกัน
โดยเริ่มต้นจากเมนู ‘ซาคิสึเกะ’ หรือ เมนูออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อย ตามด้วยเมนูน้ำซุปใส เพื่อให้ผู้ทานได้ล้างปาก ล้างคอ จากนั้นต่อด้วยเมนู ‘ซาชิมิ’ หรือ เนื้อปลา ที่ได้เลือกสรรตามฤดูกาล และเมื่อทานเสร็จแล้ว ทางร้านจะเสิร์ฟท่านต่อด้วยเมนูหลักซึ่งได้แก่ ยากิโมโน ซึ่งเป็นเมนูเนื้อย่าง, นิโมโน เมนูผัก และ อาเกะโมโน หรือ เมนูของทอด จากนั้นปิดท้ายด้วยของหวาน และ ผลไม้นั่นเอง
จุดเด่นของเมนูอาหารญี่ปุ่นประเภทไคเซกิ นอกจากรสชาติอาหารญี่ปุ่นอย่างแท้จริงในทุกเมนูแล้ว ศิลปะการตกแต่งจาน และ อาหาร ไม่ว่าจะเป็นสีสัน รูปลักษณ์ หรือ วัตถุดิบที่เลือกนำมาปรุง ก็เป็นเสน่ห์ของอาหารไคเซกิเช่นกัน
อาหารไคเซกิ มักนิยมเสิร์ฟในโรงแรมเรียวกัง หรือ ห้องอาหารระดับภัตตาคาร ซึ่งอาหารประเภทไคเซกิ ที่มีชื่อเสียงนั้น อยู่งที่กรุงโตเกียว ทั้งนี้เนื่องจากโตเกียวเป็นที่ตั้งของราชวังโบราณมาอย่างช้านาน
9. ทาโกยากิ (Takoyaki)
ทาโกยากิ หรือ ที่คนไทยหลายคนเรียกกันว่า ขนมครกไส้ปลาหมึก นั่น เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารญี่ปุ่น ยอดนิยมในไทย และ ในประเทศญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเมืองโอซาก้า ภูมิภาคคันไซ ซึ่งคำว่า “ทาโกะ” นั้น แปลว่า ‘ปลาหมึกยักษ์’ และ คำว่า “ยากิ” นั้น มีความหมายว่า ‘ปิ้งย่าง’ ทั้งนี้เนื่องจากทาโกยากิดั้งเดิม จะมีแค่ไส้ที่เป็นปลาหมึกยักษ์ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่หาทานได้แค่ที่เมืองโอซาก้าเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันเราทาโกยากิ มีหลากหลายรสชาติ ไม่ว่าจะเป็น หอบเซลล์ กิมจิ ข้าวโพด หรือ ชีส
10. อิซากายะ (Izakaya)
แม้ว่า “อิซากายะ” (Izakaya) จะเป็นชื่อที่ใช้เรียกประเภทร้านอาหารญี่ปุ่น และไม่ใช่ชื่อเมนูอาหารญี่ปุ่นซะทีเดียว แต่สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว ร้านอาหารญี่ปุ่นอิซากายะนั้น มีความสำคัญต่อวิถีชีวิต และ ชีวิตในทางสังคมของพวกเขาเป็นอย่างมาก โดยคำว่า “อิซากายะ” นั้น เป็นเหมือนคำที่ใช้เรียกวัฒนธรรมการดื่ม และ สังสรรค์กับเพื่อนฝูงหลังเลิกงานของชาวญี่ปุ่น ซึ่งมักจะใช้ควบคู่ไปกับคำว่า “โนมิไค” (Nomikai) ซึ่งแปลว่า การสังสรรค์หลังเลิกงานของมนุษย์เงินเดือน
ซึ่งเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมของคนญี่ปุ่นในร้านอิซากายะนั้น มีดังนี้
- หมึกดองวาซาบิ (Tako Wasabi) : คือหมึกสด ที่นำมาหั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ จากนั้นนำมาดอกวาซาบิ และปรุงรสเพิ่มเติมด้วยสาเก และ ซอสต่างๆ ทำให้มีรสชาติที่เผ็ดเล็กน้อย เข้ากันได้ดีกับเบียร์
- ไข่ม้วนซุปดาชิ (Dashi Tamagoyaki) : เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิต ของทางร้านอิซากายะก็ว่าได้ เมนูนี่ มีลักษณธคล้ายไข่ม้วนของญี่ปุ่นทั่วไป แต่นำมาย่าง ซึ่งความหวานจากไข่นั้น เกิดจากการปรุงรสด้วยน้ำตาล และ ดาชิ
- ยากิโทริ (Yakitori): เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นประเภทไม้เสียบ ที่ได้รับความนิยมในการรับประทานคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเมนูยากิโทริ ก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เนื้อไก่ส่วนต่างๆ (สะโพก, ปีก, อก), เครื่องในไก่, ลิ้นไก่ รวมไปถึง ผักเสียบไม้ ที่มีชื่อเรียกว่า คุชิยากิ (Kushiyaki)
- เบียร์ญี่ปุ่นอาซาฮิ (Asahi) : แน่นอนว่าเมื่อมาทานร้านอิซากายะ จะไม่ดื่มเบียร์คงจะไม่ได้ ซึ่งเบียร์ที่ได้รับความนิยม และ เป็นเบียร์มาตรฐานที่ทุกร้านอาหารญี่ปุ่นอิซากายะต้องมีแน่ๆ หนีไม่พ้นเบียร์ Asahi เบียร์ รสชาติหอม หวาน ขมปลาย ซี่งเป็นเบียร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น
5 เมนูอาหารญี่ปุ่นเพื่อสุขภาพ ที่ทำให้ประชากรญี่ปุ่นอายุยืนที่สุดในโลก
เป็นที่ทราบกันดีว่า ประชากรประเทศญี่ปุ่นจนั้น มีอายุเฉลี่ยยาวนานที่สุดในโลก และ ได้ครองแชมป์ มาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี แล้ว แม้ว่าสภาพสังคม และ ความกดดันในการใช้ชีวิตจะสูงกว่าประเทศอื่นๆ แต่ผู้คนกลับมีสุขภาพที่แข็งแรง
อาหารการกิน และ เมนูอาหารญี่ปุ่นนั้น เป็นปัจจัยสำคัญต่อสุขภาพของคนญี่ปุ่นเป็นอย่างยิ่ง โดยทางด้านผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารชาวอังกฤษท่านหนึ่งได้ทำการวิจัย และ พบว่าวัตถุดิบในเมนูอาหารญี่ปุ่น เป็นส่วนสำคัญ ที่ส่งเสริมสุขภาพของประชากรญี่ปุ่นทั่วประเทศให้ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ เพราะอาหารญี่ปุ่นประกอบไปด้วยวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น ปลาทะเลน้ำลึก ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตนั้น ซึ่งอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงระบบประสาท และ ลดระดับคอเลสเตอรอล อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคไขมันในเส้นเลือด และ โรคหัวใจอีกด้วย
โดยเมนูอาหารญี่ปุ่นเพื่อสุขภาพ ที่ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานกันนั้น มีดังนี้
1. ถั่วนัตโตะ (Natto)
ซึ่งถั่วนัตโตะ เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นเพื่อสุขภาพที่ชาวญี่ปุ่นมักนิยมรับประทานเป็นอาหารเช้ากันตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งเมนูถั่วนัตโตะ นั้น เกิดจากการหมักถั่วเหลือง กับเชื้อแบคทีเรีย Bacillus Subtilis ทำให้เกิดการสลายของโปรตีน ซึ่งสร้างสรรพคุณมากมาย โดยมีสารที่ชื่อว่า “Nattokinase” ที่จะช่วยลดกรดในไขมัน เสริมสร้างวิตามิน K2, ลดไกรตีนเซอไรด์ และ ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกสำหรับผู้หญิงที่หมดประจำเดือนด้วยนั่นเอง
2. ซุปมิโสะ (Miso Soup)
ซุปมิโสะ เป็นเครื่องเคียงของเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมหลายอย่าง แต่รู้หรือไหมว่า เจ้าตัวซุปมิโสะนี่แหละ คือ แหล่งโภชนาการชั้นเยี่ยม และ เป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นเพื่อสุขภาพที่คนญี่ปุ่นรู้กันดี ทั้งนี้เนื่องจาก ตัวซุปทำมาจากถั่วเหลืองหมัก และ มีสารสกัดจากเนื้อสัตว์จำนวนมาก ซึ่งอุดมไปด้วยกรดอะมิโนกว่า 17 ชนิด ดังนั้น การรับประทานซุปมิโสะ ควบคู่กับเมนูอาหารญี่ปุ่น จึงเป็นทางเลือกที่คนญี่ปุ่นเลือกนั่นเอง
3. น้ำชาเขียว (Green Tea)
เครื่องดื่มชาเขียว ถือว่าเป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิต ซึ่งคนญี่ปุ่นนิยมดื่มกัน ตลอดทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นหลังอาหาร ดื่มคู่กับขนมของว่าง หรือ ดื่มแทนน้ำเปล่า ซึ่งน้ำชาเขียว ที่มีประโยชน์นั้น ต้องเป็นน้ำชาเขียวที่ไม่หวาน หรือ ผสมน้ำตาล ซึ่งชาเขียวนั้น ประกอบไปด้วยสาร สารคลอโรฟิลล์ (Chlorophyll) ซึ่งสามารถช่วยกรองสิ่งตกค้างในร่างกาย พร้อมทั้งสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงได้อย่างดี นอกจากนี้ ยังมีสารคาเฟอีน ที่แตกต่างจากคาเฟอีนในกาแฟ ซึ่งสามารถช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย ต่อต้านอนุมูลอิสระ และ ยังช่วยลดความอ้วนได้อีกด้วย
4. โซบะ (Soba)
เชื่อหรือไม่ว่าเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตอย่างโซบะนั้น เป็นอาหารลดความอ้วนยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้เนื่องมาจากที่เส้นโซบะนั้น มีแคลอรี่น้อยกว่าข้าวขาวอย่างมาก นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยโปรตีนมากมาย โดยเมนูโซบะ 1 เซ็ต มีปริมาณแคลอรี่เท่ากับ 130 แคลอรี่ ในขณะที่ข้าว 1 มื้อให้พลังงานแคลอรี่มากถึง 218 แคลอรี่เลยทีเดียว
นอกจากนี้ เส้นโซบะ ยังมีสารที่ชื่อว่า รูติน ซึ่งมีส่วนช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง ช่วยเร่งการดูดซึมของวิตามินซี และ ช่วยลดการเกิดของริ้วรอยได้อีกด้วย
5. ข้าวหน้าปลาไหล (Unagi Don)
เมนูข้าวหน้าปลาไหล เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตสำหรับชาวญี่ปุ่น สำหรับบำรุงร่างกายในฤดูร้อน ในยามเหนื่อยล้า เพราะปลาไหลนั้น อุดมไปด้วยวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายถึง 3 เท่าตัว นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยแคลเซียม และ แร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งในส่วนของหลังปลาไหลนั้น ยังสามารถช่วยเคลือบเยื้อบุกระเพาะอาหาร และ ลำไส้ได้อีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ เมนูข้าวหน้าปลาไหล จึงกลายเป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นเพื่อสุขภาพของคนในครอบครัว ซึ่งสามารรับประทานดันได้ทั้งครอบครัวนั่นเอง
สำหรับนักทอ่งเที่ยวท่านไหนที่สนใจเดินทางไปลิ้มลองอาหารญี่ปุ่นยอดนิยม ที่ประเทศญี่ปุ่นถึงที่ ทาง Artralux ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวต่างประเทศ มาพร้อมกับบริการออกแบบโปรแกรมการท่องเที่ยว ซึ่งเราสามารถรังสรรค์โปรแกรมท่องเที่ยวที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้เดินทางได้อย่างไร้ขีดจำกัด เพราะไม่ว่าคุณจะอยากไปเที่ยวที่ไหน พักโรงแรมระดับอะไร หรือ อยากชิ้มเมนูอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตประเภทไหน เราสามารถพาคุณเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นได้อย่างที่ต้องการแน่นอน
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว