“ไปเที่ยวมาเลเซียดีไหม” “มาเลเซียมีที่เที่ยวอะไรน่าสนใจ” “มาเลเซียน่าไปไหม” “เที่ยวมาเลเซียเมืองอะไรดี” เชื่อว่าคำถามเหล่านี้ เป็นคำถามที่ผู้อ่านคงเคยได้ยินกันมาบ้าง หรือ บ้างก็เป็นคำถามที่คิดไม่ตกอยู่ในตอนนี้ เพราะต้องยอมรับเลยว่า การท่องเที่ยวมาเลเซียในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้น ได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย ณ เวลาที่เขียนในช่วงกลางปี 2023 นี่ นักท่องเที่ยวได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศมาเลเซียแล้วกว่า 13 ล้านคน ซึ่งทางการมาเลเซียก็ได้คาดการว่าในช่วงสิ้นปี จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวมาเลเซียทั้งสิ้นเป็นจำนวนกว่า 18 ล้านคน ซึ่งจะเป็นจำนวนที่เกิดกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่จำนวน 16.1 ล้านคนแน่นอน
ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประเทศมาเลเซีย กลายเป็นประเทศที่ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาวตะวันตกให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งนั้น เป็นเพราะว่า หากพูดถึงประเทศในเขต SouthEast Asia ที่มาพร้อมกับความ Rich ในเชิงวัฒนธรรม, มากด้วยทัศนียภาพทางธรรมชาติที่สวยงาม, บ้านเมืองรักษาไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมโบราณ แต่ยังคงผสมผสานกับความทันสมัยได้อย่างลงตัว และ มีค่าครองชีพที่ไม่แพง เมื่อเทียบกับประเทศในทวีปเอเชียประเทศอื่นๆ “มาเลเซีย” หรือ “เที่ยวมาเลเซีย” คือ คำตอบอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน
วันนี้ Artralux บริษัทนำเที่ยวชั้นนำของไทย จึงมาพร้อมกับรายชื่อสถานที่ท่องเที่ยวมาเลเซีย 10 แห่งทั่วทั้งประเทศมาเลเซียมาฝาก ซึ่งทั้ง 10 ที่เที่ยวมาเลเซียด้านล่างนี้ เราได้ครอบคลุมทุกพื้นในประเทศ ไม่เพียงแต่ในเขตเมืองหลวง อย่างเที่ยวมาเลเซีย กัวลาลัมเปอร์ หรือ ในเมืองที่ได้รับความนิยมอย่างเมืองปินัง และ เมืองมาะละกา แต่ทาง Artralux ได้คัดสรรที่เที่ยวมาเลเซียที่มาพร้อมกับความหลากหลายในสไตล์การท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้ใช้เวลาท่องเที่ยวในประเทศมาเลเซียแห่งนี้ให้คุ่มค้าที่สุด
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
10 รายชื่อ สุดยอดที่เที่ยวมาเลเซียห้ามพลาด!
“Malaysia is the Melting Pot of Culture” เป็นคำนิยามที่นักท่องเที่ยวชาวตะวันตกท่านหนึ่งได้จำกัดความถึงประสบการณ์ที่ได้รับจากการเดินทางมาท่องเที่ยวมาเลเซีย ซึ่งหากคุณได้มีโอกาสศึกษาประเทศมาเลเซีย หรือ ได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศมาเลเซียแล้ว จะทราบดีว่าประโยคนี้ ไม่ได้ไกลจากความจริงเลยแม้แต่น้อย ประเทศมาเลเซีย เป็นประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรม SouthEast Aisa อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีความหลากหลาย ไม่ว่าในทางวัฒนธรรม ศาสนา รวมไปจนถึงเชื้อชาติของประชากรผู้อยู่อาศัย โดยประเทศมาเลเซียสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ชาติพันธุ์ ได้แก่ มลายู จีน และ อินเดีย ด้วยเหตุนี้ สถานที่ท่องเที่ยวมาเลเซีย จึงได้สะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างชัดเจน ถือเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ประเทศมาเลเซีย แตกต่างจากประเทศอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง
ซึ่งหากมาท่องเที่ยวมาเลเซีย 10 สถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ คือที่เที่ยวที่คุณไม่ควรพลาด
1. มัสยิดชาห์อลัมบลู (Shah Alam Blue Mosque)
เป็นที่ทราบกันดีว่าประชากรของประเทศมาเลเซียกว่าครึ่งนั้น นับถือ ศาสนาอิสลาม ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่สถานที่ท่องเที่ยวมาเลเซียที่ได้รับความนิยมบางแห่งนั้น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนา ซึ่งหนึ่งในที่เที่ยวทางศาสนา ที่มาพร้อมกับความสวยงามทางสถาปัตยกรรมที่พลาดไม่ได้เลย หากได้เดินทางมาเที่ยวมาเลเซีย กัวลาลัมเปอร์นั้น คือที่ มัสยิดชาห์อลัมบลู (Shah Alam Blue Mosque) ซึ่งเป็นมัสยิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศมาเลเซีย และ ใหญ่เป็นอันดับสองในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความเก่าแก่ ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ 1982 – 1988 โดยในอดีต มัสยิดแห่งนี้ เคยเป็นมัสยิดที่สูงที่สุดในโลก ก่อนที่จะมีการก่อสร้างมัสยิดของประเทศโมรอคโกขึ้นในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม มัสยิดแห่งนี้ ยังคงมีความกว้างใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งสามารถรองรับผู้เดินทางมาสักการบูชาเทพได้ถึง 24,000 ต่อครั้งเลยทีเดียว ซึ่งจุดเด่นของมัสยิดแกห่งนี้ คือ โดมสีฟ้า ลวดลายตาข่ายสลับกับสีขาว ดูเด่น และ สะอาดตา ซึ่งมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมแบบมาเลเซียพื้นบ้าน ผสมผสาน กับความโมเดิร์นได้อย่างสวยงาม
2. ตึกแฝดปิโตรนาส (Petronas Twin Tower)
มาถึงที่เที่ยวมาเลเซีย กัวลาลัมเปอร์ อีกหนึ่งแห่ง ที่ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดแลนด์มาร์กของประเทศมาเลเซีย ที่หากไม่มาเยี่ยมชมถือว่ามาไม่ถึงประเทศมาเลเซียนั้น หนีไม่พ้น “ตึกแฝดปิโตรนาส (Petronas Twin Tower)” ซึ่งเป็นตึกแฝดที่มีความสูงมากที่สุดในโลก ด้วยความสูงกว่า 88 ชั้น เหนือระดับพื้นดินกว่า 451.9 เมตรนั่นเอง นอกจากความสูงเหยียดฟ้าสุดอลังการของตึกแห่งนี้แล้ว สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมายังตึกแฝดแห่งนี้นั้น คือ กิจกรรมอันหลากหลายภายในตึก ทั้งนี้เพราะว่าตึกแห่งนี้ เป็นทั้งที่ตั้งของห้างสรรพสินค้า, ร้านอาหาร, สำนักงาน, โรงแรม, และ อาร์ตแกลลอรี นั่นเอง นอกจากนี้กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวพลาดไม่ได้เลยนั้น คือ การขึ้นลิฟต์แก้วความเร็วสูงไปยังชั้น 41 และ 42 ซึ่งเป็นชั้นที่ตั้งของ SkyBridge หรือ สะพานข้ามตึกแฝดในตำนาน จากนั้นต่อกันกับที่ชั้น 86 (Observation Deck) ซึ่งเป็นชั้นที่นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมกับวิวเมืองกัวลาลัมเปอร์แบบพาโนรามา 3 เรียกได้ว่า คุ้มค่า ตื่นตาตื่นใจแน่นอน!
3. ปีนัง ฮิลล์ (Penang Hill)
สำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรม เมืองท่องเที่ยวมาเลเซียที่ไม่ควรพลาดเลยนั้น คือ เมืองปีนัง (Penang) เพราะบอกเลยว่านอกจากที่เมืองปีนังจะชื่อเสียงในเรื่องของความหลากหลายทางวัฒนธรรม และ บ้านเมืองอันเก่าแก่ที่ยังคงสถาปัตยกรรมโบราณสุดฮิบ ซึ่งเป็นมุมถ่ายรูปสุดโปรดของนักท่องเที่ยวแล้ว เมืองปีนังแห่งนี้ ยังมาพร้อมกับทัศนียภาพทางธรรมชาติที่งดงามเหนือคำบรรยาย โดยที่เที่ยวที่พลาดไม่ได้ของเมืองปีนัง คือ ปีนัง ฮิลล์ (Penang Hill) หรือ ที่ชาวมาเลเซียเรียกกันว่า บูกิต เบนดีรา (Bukit Bendera) ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า 823 เมตร จึงทำให้ด้านบนมีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี นอกจากนี้หากคุณโชคดีอาจจะมองเห็นหมอกที่ปกคลุมทั้งเมืองปีนังอย่างสวยงามอีกด้วย
ซึ่งด้วยความที่เทือกเขาแห่งนี้อยู่สูงมากๆ นักท่องเที่ยวจึงจำเป็นต้องเดินทางไปยังเทือกเขาด้วยรถไฟ Penang Hill Funicular Railway ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นอุโมงค์รถไฟที่มีความชันมากที่สุดในโลก เมื่อขึ้นไปถึงด้านบน นักท่องเที่ยวจะพบกับสวนดอกไม้ สวนนก เส้นทางศึกษาทางธรรมชาติที่จะพาคุณเข้าไปในป่าดิบชื้น พร้อมกับ Skywalk ให้คุณเดินชมวิวเมืองปีนังจากที่สูงแบบ 360 องศานั่นเอง
4. สรีตอาร์ท Penang Street Art
มาถึงที่เที่ยวมาเลเซียขวัญใจคนชอบถ่ายรูป หรือ สายอาร์ตกันบ้าง กับที่ Penang Street Art ซึ่งเป็นสรีตอาร์ท ตั้งอยู่ในใจกลางถนน Lebuh Armenian ในเมืองจอร์จทาวน์ (George Town) เมืองหลวงของรัฐปีนัง (Penang) ด้วยความที่เมืองปีนัง เป็นเมืองท่าสำคัญของประเทศมาเลเซีย อีกทั้งยังเป็นพื้นที่อาณานิคมของหลายเชื้อชาติในสมัยก่อน ทำให้เมืองปีนังมาพร้อมกับวัฒนธรรม ศิลปะ และ วิถีชีวิตของชาวบ้านที่ผสมผสานหลากหลายเชื้อชาติ โดยพื้นที่เมืองปีนังที่สะท้อนความเป็นอยู่ และ วัฒนธรรมของชาวบ้านได้ดีที่สุด คือในเขตเมืองจอร์จทาวน์ (George Town) ซึ่งแม้ว่าพื้นที่แห่งนี้จะเป็นพื้นที่ขนาดเล็กที่สุดเป็นอันดับ 2 ของเมืองมาเลเซีย แต่ที่แห่งนี้ อัดแน่นไปด้วย สถาปัตยกรรม อาคารบ้านเรือนแบบชิโน-โปรตุกีส และ อาหารการกินที่มีความเป็นเอกลักษณ์
นอกจากนี้ ไฮไลท์ของเมืองที่ดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้มากที่สุด หนีไม่พ้น ภาพวาดจิตกรรมตามผนังเมือง ที่มีการนำเอาของใช้จริงมาตกแต่งเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นจักรยาน มอเตอร์ไซค์ และ รถเข็นขายของ เป็นต้น ถือว่าเป็น Iluustration Art ที่สวยงาม ควรค่าแก่การมาเยี่ยมชมเอามากๆ
5. LEGOLAND Malaysia
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวมาเลเซีย ที่รับรองว่าถูกใจเที่ยวได้ทั้งผู้ใหญ่ และ เด็ก ถูกใจนักท่องเที่ยวที่มากันครอบครัวอย่างแน่นอน คงจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก LEGOLAND Malaysia หรือ เมืองแห่งเลโก้ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองนูซาจายา (Nusajaya) รัฐยะโฮ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งที่นี้ นอกจากจะเป็นสถานที่ตั้งโชว์เลโก้เมืองจำลองทั่วโลก ที่เสมือนจริงมากๆ แล้ว สถานที่แห่งนี้ยังเป็นสวนสนุกที่มาในธีมเลโก้ขนาดใหญ่ กินพื้นที่กว่า 200 ไร่ แห่งแรกของโลกอีกด้วย ซึ่งภายในสวนสนุก จะประกอบไปด้วยโซนทั้งหมด 8 โซน
- The Beginning : เป็นโซนขายตั๋ว และ ของฝาก ซึ่งคอแฟนๆ เลโก้ห้ามพลาด เพราะที่แห่งนี้เอง เป็นสถานที่ที่คุณจะได้เจอกับเลโก้แบบใหม่ล่สสุด ที่หาไม่ได้จากที่ไหนมาก่อน
- LEGO® Technic : โซนเครื่องเล่น แบบ Action Pack mี่ให้คุณได้ท้าทายความกล้าของตัวเอง ด้วยเครื่องเล่นสุดหวาดเสี้ยว แต่น่ารักกับสีสันเลโก้ที่สวยงาม
- LEGO® CITY : โซนที่คุณจะได้ท่องโลกเลโก้ กับการนั่งรถไฟเลโก้ชมสวนสนุกอย่างเพลิดเพลิน
- LEGO® Kingdoms: โซนที่ให้คุณได้สายความฝันให้เป็นความจริง กับอาณาจักรเลโก้ ปราสาท และ เครื่องเล่น ที่สามารถเข้าไปเล่น และ สัมผัสได้จริงๆ
- MINILAND : โซนที่เป็นศูนย์กลางสวนสนุก จัดแสดงเลโก้จำลองสถานที่ท่องเที่ยว ที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญจากทั่วโลก
- Land of Adventure : โซนที่คุณจะได้เข้าไปผจญภัยในดินแดนอียิปต์จำลอง และตื่นตาตื่นใจไปกับเลโกไดโนเสายักษ์
- LEGOLAND® Water Park : โซนสวนน้ำที่มาในธีมเลโก้ อัดแน่นไปด้วยเครื่องเล่นกว่า 20 ชนิด
- LEGOLAND® SEA LIFE Aquarium : อควาเรียมธีมเลโก้ ที่มาพร้อมกับสายพันธุ์สัตว์ทะเลกว่า 120 สายพันธุ์ รวมสัตว์ทะเล กว่า 13,000 ตัว
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
6. ถ้ำบาตู (Batu Caves)
กลับมากันกับที่เที่ยวมาเลเซีย กัวลาลัมเปอร์ กันกับอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองรองลงมาจากตึกแฝดปิโตรนาส (Petronas Twin Tower) ก็ว่าได้ กับถ้ำบาตู (Batu Caves) ซึ่งเป็นถ้ำหินปูนอันศักดิ์สิทธิของชาวฮินดู มีอายุเก่าแก่ สร้างมานานกว่า 400 ล้านปี ซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงบริเวณถ้ำ สิ่งที่ตั้งเด่นสง่าอยู่หน้าบริเวณถ้ำนั้น คือ รูปปั้นพระขันธกุมาร องค์สีทองหรือตามความเชื่อของศาสนาฮินดูแล้ว ท่านคือ พระมูรุกัน (Lord Murugan) ซึ่งท่านเป็นโอรสองค์ที่สองของพระศิวะและพระแม่อุมาเทวี และเป็นน้องของพระพิฆเนศนั่นเอง โดยรูปปั้นของพระขันธกุมารองค์ดังกล่าว มีความสูงกว่า 42.7 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นรูปปั้นที่มีความสูงที่สุดในโลกนั่นเอง
อีกหนึ่งไฮไลท์ของถ้ำบาตูนั้น คือ บันไดหลากสี ที่มีจำนวนขั้นถึง 272 ขั้น และ มีความชันมาก เพื่อนำพานักท่องเที่ยวขึ้นไปยังถ้ำบาตู ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของของวัด และ เทพฮินดูอีกหลายองค์ ซึ่งเหตุผลที่ทางฮินดูต้องขึ้นไปสร้างวัดในถ้ำที่มีความสูงมากขนาดนั้น เป็นเพราะ พวกเขาเชื้อว่ายิ่งสูงเท่าไร ยิ่งใกล้สวรรค์มากเท่านั้น
7. วัดเก๊กลกสี่ (Kek Lok Si)
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่เที่ยวมาเลเซียที่สายมูห้ามพลาด คือ วัดเก๊กลกสี่ (Kek Lok Si) ซึ่งเป็นวัดจีนพุทธ นิกายมหายาน ในเมืองปีนังที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งลักษณะเด่นของวัดนี้ คือ สถาปัตยกรรมที่ผสมผสานศิลปะถึง 3 ชาติ ได้แก่ จีน ไทย และ พม่า โดยตัวฐานของวัดนั้น จะมาพร้อมกับสถาปัตยกรรมแบบจีน ตัวเจดีย์วัดมาในแบบไทย และ ยอดเจดีย์มาในรูปแบบพม่า
ตัววัดตั้งอยู่ที่เนินเขา Air Itam เขตจอร์จทาวน์ เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย ซึ่งในอดีตเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้มีฮวงจุ้ยที่ดีเหมาะแก่การสร้างวัด โดยพื้นที่วัดมีความกว้างใหญ่กินพื้นที่กว่า 120,000 ตารางเมตร เมื่อขึ้นยังยังยอดเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของวัด นอกจากการสักการะบูชาพระพุทธรูป และ เจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ที่มีความสูงกว่า 30.2 เมตรแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถมองเห็นวิวเมืองจอร์จทาวน์ ได้แบบ 360 องศาอีกด้วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวมาเลเซียที่ไม่ควรพลาด นอกจากนี้ทั่วทั้งวัดยังตกแต่งด้วยโคมไฟสีแดง ซึ่งประดับประดาอยู่ทั่วทั้งวัด ทำให้วัดมีสีสัน ตัดกับธรรมชาติที่เขียวที่โอบล้อมตัววัดได้อย่างสวยงามมากเลยทีเดียว
8. เกาะสิปาดัน (Sipadan Island)
เกาะสิปาดัน หรือที่นักเที่ยวเรียกกันว่ามัลดีฟส์แห่งเอเชียนั้น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวมาเลเซียที่เรียกได้ว่าเป็น HIdden Gem หรือ เพชรน้ำวานของประเทศมาเลเซียก็ว่าได้ ซึ่งนักท่องเที่ยวคนไหนที่อยากสัมผัสปรากฏการณ์น้ำทะเลฟ้าเทอร์ควอยซ์ และ เพลิดเพลินไปกับการดำน้ำชมปะการัง แต่ไม่อยากเดินทางไปถึงมัลดีฟส์ บอกเลยว่า เที่ยวมาเลเซีย ณ เกาะสิปาดัน คือ คำตอบ โดยเกาะสิปาดังนั้นเป็นเกาะในมหาสมุทร ห่างจากทางตอนใต้ของเมือง Semporna รัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย ประมาณ 35 กิโลเมตร ซึ่งความมหัศจรรย์ของเกาะแห่งนี้คือ เกาะสิปาดังนั้น เป็นเกาะที่โผล่ขึ้นมาจากท้องทะเลเพียงแค่ 600 เมตรเท่านั้น ทั้งนี้เนื่องจากเกาะแห่งนี้ เป็นที่อนุรักษ์ทางธรรมชาติที่สำคัญของประเทศมาเลเซีย ทำให้ทางการมาเลเซียได้จำกัดนักท่องเที่ยวให้สามารถเดินทางไปดำน้ำ และ ท่องเที่ยวชมความสวยงามของเกาะได้เพียงแค่ 120 คนต่อวันเท่านั้น
ซึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมเมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวที่เกาะแห่งนี้ คือการดำน้ำ ชมปะการัง เพราะบริเวณรอบๆ พื้นที่เกาะนั้น มีสัตว์ทะเลน้อยใหญ่จำนวนมากกว่า 3,000 สปีชีส์ ไม่ว่าจะเป็น ฉลามหัวค้อน, ฉลามวาฬ, ปลา Silver Jack, ปลานกแก้ว, ปลาทูน่า, เต่าทะเล และ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเกาะแห่งนี้ เป็นสถานที่อนุรักษ์ทางธรรมชาติ จึงไม่อนุญาตให้สร้างรีสอร์ตได้ ดังนั้น นักท่องเที่ยวจึงนิยมพักที่เกาะใกล้เคียง เช่น เกาะมาบูล (Mabul) เกาะคาปาไล (Kapalai) เกาะมาตากิง (Mataking) และ เกาะปอมปอม (Pom Pom)
9. จตุรัสเมอร์เดก้า (Merdeka Square)
หากพูดถึงที่เที่ยวมาเลเซียแล้วไม่พูดถึง “จตุรัสเมอร์เดก้า (Merdeka Square)” ก็คงเหมือนจะมาไม่ถึง เพราะที่แห่งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นที่เที่ยวซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลงของประเทศมาเลเซีย ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมของกลุ่มอาคารที่งดงามราวกับถูกหยุดเวลาไว้ตั้งแต่อดีตแล้ว ที่แห่งนี้ ยังเป็นสถานที่สำคัญของประวัติศาสตร์ชาติมาเลเซียอีกด้วย
“จตุรัสเมอร์เดก้า (Merdeka Square)” หรือที่ชาวมาเลเซียเรียกกันว่า “Dataran Merdeka” นั้น เป็นเสมือนอนุสรณ์สถานแห่งอิสรภาพของประเทศมาเลเซีย ซึ่งจัตุรัสแห่งนี้ ถูกก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นสั
ญลักษณ์แห่งอิสรภาพของประเทศมาเลเซียเมื่อครั้งที่ประเทศมาเลเซียได้รับเอกราชคืนจากประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 1957 โดยสิ่งที่เป็นความภาคภูมิใจของชาวมาเลเซีย ณ ที่แห่งนี้ คือเสาธงที่เชิดธงมาเลเซียขึ้นสูงกว่า 95 เมตร ซึ่งเป็นความสูงของเสาธงที่สูงที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้
นอกจากนี้ ในบริเวณตรงข้ามสนามหญ้าขนาดใหญ่ และ รอบๆ จัตุรัส ยังมีกลุ่มอาคารที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลอันงดงามมากมาย โดยอาคารที่โดดเด่นที่สุดนั้น ได้แก่อาคารสุลต่าน อับดุล ซาหมัด (Sultan Abdul Samad) ที่มีความเก่าแก่ร่วม 120 ปี มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างศิลปะ อินเดีย อาหรับ และ มาเลเซียได้อย่างลงตัว
10. ภูเขาคินาบาลู (Mount Kinabalu)
มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวมาเลเซียที่สุดท้ายที่รับรองว่าถูกใจสายผจญภัยกันอย่างแน่นอน กับภูเขาคินาบาลู (Mount Kinabalu) ซึ่งความงดงามนั้น บอกเลยว่าสมต่ำแหน่งมรดกโลกแห่งแรกของประเทศมาเลเซียอย่างแน่นอน ยอดเขาคินาบาลู ตั้งอยู่บนเกาะบอเนียว รัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย มีความสูงเหนือรัดับน้ำทะเลกว่า 4,095 เมตร ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของกลุ่มยอดเขาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นอีกหนึ่งเส้นทางเดินเขา หรือ Hiking ที่ค่อนข้างท้าทาย เพราะนักท่องเที่ยวต้องเดินปีนเขาขึ้นไปด้วยความชันที่มไม่ต่ำกว่า 45 องศา เป็นเวลานานกว่า 3-8 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่แค่ใครก็ขึ้นไปปีนได้ทั้งนั้นนะคะ นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องรีบจองแพ็คเกจปีนเขากับทางเอเจ้นซึ่งมีหลายเจ้า แต่ทางการมาเลเซียจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปปีนเขาแค่ 185 คนต่อวันเท่านั้น ซึ่งบอกเลยว่าวิว และ ทัศนียภาพ ทั้งในระหว่างทางการปีนเขา และ บนยอดสูงสุดนั้น คุ้มค่าแน่นอน
คำถามยอดฮิตก่อนเดินทางไปท่องเที่ยวมาเลเซีย
นักท่องเที่ยวท่านไหนที่กำลังวางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวมาเลเซีย 2567 อยู่ แต่ยังมีข้อมูลไม่แน่น กังวลในเรื่องของงบประมาณ การเดินทางในประเทศ และ ช่วงเวลาที่ดีสุดสำหรับการท่องเที่ยวมาเลเซีย 2567 วันนี้ ทาง Artralux เราได้รวบรวมคำถามยอดฮิต เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนไปเที่ยวมาเลเซียมาฝาก ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น เราไปดูพร้อมๆ กันเลย!
Q.1 : เที่ยวมาเลเซียเดือนไหนดี
ประเทศมาเลเซียมีสภาพอากาศ และ ฤดูกาลที่คล้ายคลึงกับประเทศไทย ซึ่งจะมีลักษณะร้อนชื้น และ มีลมมรสุมบ้างในบางครั้ง สำหรับฤดูกาลของประเทศมาเลเซีย จะมีแค่ 2 ฤดูกาลเท่านั้น นั่นเอง ฤดูร้อน แห้ง (Dry Season) และ ฤดูฝน (Rainy Season) ซึ่งอุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศมาเลเซียตลอดทั้งปี อยู่ที่ประมาณ 30 องศาเซลเซียส และ ระดับความชื้นของประเทศนั้น เกิดกว่า 80%
สำหรับคำถามที่ว่าเที่ยวมาเลเซียเดือนไหนดี เดือนที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเลเซียนั้น คือ ในช่วงระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนตุลาคม ซึ่งจะเป็นช่วงที่ประเทศมาเลเซียจะมีอากาศแห้ง มีระดับความชื้นต่ำ และ ไม่มีฝน นอกจากนี้ยังเป็นช่วงที่ท้องฟ้าแจ่มใส ทำให้การท่องเที่ยวมาเลเซียนั้น ง่ายขึ้น
Q.2 : เที่ยวมาเลเซีย รถไฟ ยากไหม มีรถไฟอะไรบ้าง
ประเทศมาเลเซีย เป็นประเทศที่เดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟค่อนข้างง่าย เนื่องจากประเทศมาเลเซีย มีระบบขนส่งสาธารณะประเภทรถไฟที่ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ โดย สามารถแบ่งประเภทรถไฟออกได้เป็น 4 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ รถไฟขับในเมืองประเภท Metro , รถไฟชานเมือง Commuter , รถไฟทางไกล (Intercity หรือ Long Distance) , และ รถไฟความเร็วสูง (High Speed Train)
Q.3 : เที่ยวมาเลเซีย งบเท่าไร
ด้วยความที่ประเทศมาเลเซียที่ค่าครองชีพที่ไม่ต่างจากประเทศไทยมากนัก อยู่ที่ 1 MYR เท่ากับ 7.5 บาทไทย นอกจากนี้ ค่าอาหารแต่ละมื้อนั้น ไม่ต่ำกว่า 100-200 บาทต่อท่าน และ ค่าเดินทางด้วยรถไฟ เริ่มต้นเพียงแค่ท่านละ 50 บาทเท่านั้น ดังนั้น การเดินทางไปเที่ยวมาเลเซีย 3-4 วันนั้น นักท่องเที่ยวควรเตรียมงบประมาณไปท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน และ ค่าที่พัก)
นักท่องเที่ยวคนไหนที่กำลังสนใจเดินทางไปท่องเที่ยวมาเลเซีย แต่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นจากตรงไหน วางแผนท่องเที่ยวอย่างไรเพื่อให้คุ้มค่ากับการท่องเที่ยวในระยะเวลาสั้นๆ มากที่สุด หรือ ต้องจองตั๋วเครื่องบิน หรือ รถไฟไปมาเลเซีย อย่างไรให้ได้ราคาที่ประหยัด นั่งสบายตลอดการเดินทาง สามารถปรึกษาให้ทีมผู้เชี่ยวชาญของ Artralux จัดสรรโปรแกรมเที่ยวมาเลเซียให้คุณได้ ที่สำคัญโปรแกรมท่องเที่ยวของเรา เป็นโปรแกรมแบบส่วนตัว ไม่จอยกับใคร นอกจากนี้นักท่องเที่ยวของเรายังสามารถ Request ขอเส้นทาง แลนด์มาร์ก รวมไปจนถึงระดับโรงแรมได้ตามอย่างที่ต้องการ สนใจใช้บริการจัดโปรแกรมเที่ยวมาเลเซีย ติดต่อเราเลย!
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
