ประเทศไอซ์แลนด์ไม่ได้มีดีแค่วิวทิวทัศน์อันสวยงามเท่านั้น แต่ประเทศแห่งนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารที่มีความอร่อยและเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครอีกด้วย โดย “อาหารไอซ์แลนด์” นั้นมีประวัติศาสตร์มายาวนานตั้งแต่ยุคไวกิ้งเมื่อพันกว่าปีก่อน ผสมผสานกับวัฒนธรรมจากประเทศเพื่อนบ้านตามกาลเวลา จนมาถึงยุคปัจจุบันอาหารไอซ์แลนด์ก็ได้ถูกปรับปรุงออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบจนเป็นที่ถูกปากสำหรับเหล่านักท่องเที่ยว หากคุณได้มีโอกาสมาเที่ยวไอซ์แลนด์แล้วบอกเลยว่าต้องหาโอกาสทานอาหารท้องถิ่นของไอซ์แลนด์ให้ได้ รับรองว่ารสชาติไม่เหมือนอาหารยุโรปจากชาติใด ๆ แน่นอน
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
อาหารไอซ์แลนด์นั้นมีรากฐานมาจากอาหารสแกนดิเนเวีย โดยส่วนมากจะปรุงจากวัตถุดิบเนื้อแกะ นม และชีส เนื่องจากสภาพภูมิประเทศบนเกาะไอซ์แลนด์นั้นเหมาะกับการทำฟาร์มแกะเป็นอย่างมาก วัตถุดิบที่ได้ก็คือนมและเนื้อของแกะซึ่งจะนำมาทำอาหาร ส่วนขนแกะก็จะถูกนำมาทำเครื่องนุ่งห่ม เนื้อแกะมักจะถูกปรุงอาหารคู่กับขนมปังและผักต่าง ๆ เช่น แตงกวา มะเขือเทศ หัวไชเท้า มันฝรั่ง กะหล่ำปลี ส่วนการปรุงอาหารก็จะเป็นวิธีการย่าง การอบ การรมควัน ไปจนถึงกรรมวิธีถนอมอาหารอย่างการหมักดอง เป็นต้น
นอกจากเนื้อแกะแล้ว เนื้อปลาก็ยังเป็นอาหารที่พบได้บ่อยทั่วเกาะไอซ์แลนด์ เพราะไอซ์แลนด์เป็นเกาะจึงมีชาวเมืองมากมายที่ประกอบอาชีพประมง ซึ่งทะเลแถบไอซ์แลนด์นั้นมีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมากทำให้จับปลาได้หลากหลายประเภท เมื่อวัตถุดิบชั้นดีมีความสดใหม่ได้รับการปรุงอย่างสร้างสรรค์ก็ทำให้มีรสชาติอร่อยขึ้นเป็นทวีคูณ ทำทุกวันนี้อาหารซีฟู้ดของไอซ์แลนด์นั้นมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เห็นได้จากเชฟชาวไอซ์แลนด์ชั้นนำหลายคนสร้างชื่อเสียงจากการทำอาหารซีฟู้ดท้องถิ่นไอซ์แลนด์นั่นเอง
1. Skyr โยเกิร์ตไอซ์แลนด์
เริ่มต้นกันที่ Skyr (สกียร์) เมนูอาหารไอซ์แลนด์ท้องถิ่นที่นิยมในหมู่ชาวไอซ์แลนด์มาเป็นเวลานาน เมนูนี้ผลิตมาจากนมที่ได้รับการเพาะเลี้ยงแบบท้องถิ่นในไอซ์แลนด์ โดยจะเป็นการกรองนมออกมาเป็นชีสเนื้อนุ่มละเอียดมีรูปลักษณ์และรสชาติเหมือนกรีกโยเกิร์ตแต่จะเข้มข้นกว่า มีรสเปรี้ยวนำและมีรสหวานตามมาเล็กน้อย
สกียร์เป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากมีโปรตีนและแคลเซียมสูงแต่มีไขมันต่ำ โดยสกียร์ 100 กรัม มีโปรตีนประมาณ 13 กรัม คาร์โบไฮเดรต 4 กรัม และไขมัน 0.2 เท่านั้น สกียร์มักจะเสิร์ฟให้ทานแบบเย็น ๆ ซึ่งเป็นแบบดั้งเดิม ไปจนถึงการเป็นเครื่องเคียงประกอบเมนูอาหารอื่น ๆ เช่น สมูทตี้ ไอศครีม เค้ก เป็นต้น ทุกวันนี้ Skyr ได้มีการประยุกต์รสชาติใหม่ ๆ เพิ่มเติมไป อย่างเช่น กลิ่นวานิลลา กลิ่นกาแฟ และกลิ่นผลไม้รวม ซึ่งคุณสามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าสะดวกซื้อหรือร้านอาหารไอซ์แลนด์ทั่วไป
2. Hangikjöt เนื้อแกะรมควัน
อย่างที่ได้กล่าวไปว่าประเทศไอซ์แลนด์นั้นนิยมเลี้ยงแกะเป็นหลัก เนื้อแกะจึงเป็นอาหารประเภทเนื้อจานหลักของประเทศไอซ์แลนด์ เมื่อประกอบกับการถนอมอาหารที่เป็นของถนัดของชาวไอซ์แลนด์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงเกิดเมนูเนื้อแกะรมควันขึ้นมานั่นเอง การเสิร์ฟเมนู Hangikjöt นั้น มักจะนำเนื้อแกะที่ผ่านการรมควันแล้วไปต้มให้สุกพอประมาณ จากนั้นจะหั่นสไลด์เป็นชิ้น ๆ จัดเรียงใส่จานพร้อมกับมันฝรั่ง ซอสเบชาเมล ถั่วลันเตา กะหล่ำปลีแดง และถั่วเขียว โดยอาจจะเสิร์ฟแบบจานร้อนหรือเย็นก็ได้ตามความชอบ หรืออาจจะหั่นบาง ๆ ทานคู่กับขนมปังก็ได้เช่นกัน
การทำอาหารไอซ์แลนด์เมนูเนื้อแกะรมควัน Hangikjöt นั้นสามารถมานำเนื้อแกะส่วนใดมาทำก็ได้ แต่มักจะใช้ขาหลังมาทำ เนื่องจากเนื้อส่วนนี้จะมีความนุ่มและมีไขมันแทรกตัวอยู่ในปริมาณพอดี ส่วนการทำเนื้อแกะรมควันนั้นจะเป็นการนำเนื้อส่วนต่าง ๆ มามัดกับเชือกแล้วนำไปแขวนไว้เพื่อรมควัน ซึ่งชื่อของ Hangikjöt นั้นก็แปลตรงตัวว่าเนื้อแขวนนั่นเอง เนื้อแกะรมควันมักนิยมทานกันในช่วงงานเทศกาลต่าง ๆ เช่นวันคริสต์มาส โดยร้านค้าในเมืองจะขายเนื้อแกะรมควันมากมายในช่วงนี้
3. Hardfiskur เนื้อปลาตากแห้ง
การประมง เป็นอาชีพอันเก่าแก่ที่ชาวไอซ์แลนด์หากินมาเป็นเวลานาน ในเมื่อปลาเป็นอาหารหลักยอดนิยม การนำปลามาตากแห้งเพื่อถนอมอาหารจึงเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ทำสืบเนื่องกันมาแต่โบราณ เมนู Hardfiskur เนื้อปลาตากแห้งจึงถือกำเนิดขึ้นมาและได้รับความนิยมอย่างยิ่งในหมู่ชาวไอซ์แลนด์ เมนูอาหารไอซ์แลนด์นี้มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายเพราะมีวิตามินและแคลเซียมสูง ช่วยเสริมสร้างกระดูก ซึ่งเมนูนี้หาทานได้ง่าย ทานสะดวก อิ่มได้ในเวลารวดเร็ว และราคาถูก หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปในไอซ์แลนด์
การทำปลาตากแห้งนั้นมักจะใช้ปลาขนาดเล็กที่หาได้จากน่านน้ำมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ซึ่งมักจะเป็น ปลาค็อด ปลาดุกทะเล และปลาแฮดด็อก วิธีการทำปลาตากแห้งแบบไอซ์แลนด์ก็คือนำปลาเหล่านี้มาแขวนไว้ตามหน้าผาหรือคานไม้ในที่ที่มีลมแรง ซึ่งลมจะช่วยไล่แมลงวันและทำให้เนื้อปลาแห้งเป็นขุย ส่วนการทานเมนูปลาตากแห้ง สามารถทานแบบเปล่า ๆ ก็ได้ หรือจะนำมาทาเนยแล้วนำมาทานแบบอาหารทานเล่นก็ได้เช่นกัน ซึ่งชาวไอซ์แลนด์มักจะทานเป็นขนมขบเคี้ยวขณะเดินทาง ทำงาน ตอนชมภาพยนตร์ เป็นต้น นอกจากนี้ Hardfiskur ยังสามารถนำมาปรุงรสในน้ำซุป สตู หรือนำมาผสมกับเมนูอาหารไอซ์แลนด์อื่น ๆ ก็ได้เช่นกัน
4. Plokkfiskur สตูเนื้อปลา
เป็นเมนูอาหารไอซ์แลนด์ท้องถิ่นง่าย ๆ ที่ทำกันมาอย่างยาวนานและเป็นเมนูประจำครัวเรือนของหลาย ๆ บ้าน จุดเริ่มต้นของเมนูนี้คือการนำอาหารที่เหลือจากมื้อก่อนมาปรุงใหม่ให้น่าทานสำหรับมื้อปัจจุบัน เมนู Plokkfiskur ทำจากปลาค็อด ปลาแซลมอน หรือปลาแฮดด็อก โดยนำไปบด ปรุงรสด้วย ซอสเบชาเมล นม หัวหอม และมันฝรั่งเข้าด้วยกัน อาจเพิ่มส่วนประกอบอื่น ๆ เพิ่มเติมเพื่อเสริมความอร่อยได้ เช่น เบคอน กุ้ง พริกไทยดำ หรืออื่น ๆ แล้วแต่ชอบ เมนูนี้มักจะทานคู่กับขนมปังไรย์ ซึ่งจะมีรสชาติเข้ากันเป็นอย่างดี
Plokkfiskur เป็นเมนูที่ให้พลังงานสูง ทำได้ง่ายเพราะใช้วัตถุดิบท้องถิ่นที่จัดหาสะดวก เมื่อทานเมนูนี้ตอนปรุงเสร็จใหม่ ๆ แล้วจะทำให้รู้สึกอบอุ่นและสบายร่างกาย เหมาะสำหรับการทานในช่วงฤดูหนาว คุณสามารถลองทานเมนูนี้ได้จากร้านอาหารท้องถิ่นไอซ์แลนด์ทั่วไป หากใครอยากลองทานเมนูอาหารไอซ์แลนด์แบบพื้น ๆ และทานง่าย ก็แนะนำให้ลองสตูเนื้อปลานี้เลย
5. Humar ล็อบสเตอร์ไอซ์แลนด์
ขอนำเสนอเมนูอาหารไอซ์แลนด์ประเภทซีฟู้ดกันอีกอย่างกับ Humar หรือก็คือกุ้งล็อบสเตอร์ไอซ์แลนด์นั่นเอง กุ้งชนิดนี้จะเป็นกุ้งล็อบสเตอร์ขนาดเล็กขนาดพอ ๆ กับกุ้งก้ามกรามบ้านเรา พบได้ทั่วทะเลแอตแลนติกเหนือ มีเนื้อแน่นตรงบริเวณหาง Humar นับเป็นอาหารยอดนิยมสำหรับเหล่านักท่องเที่ยวโดยจะถูกทำเป็นเมนูต่าง ๆ ตามภัตตาคารระดับหรู
ล็อบสเตอร์ไอซ์แลนด์ Humar นำมาประกอบอาหารได้หลายอย่างเช่น นำไปทอด ย่าง อบ การนำมาเป็นท้อปปิ้งในหน้าพิซซ่า รวมไปถึงนำมาทำเมนูยอดฮิตอย่าง humarsúpa ซุปล็อบสเตอร์ รสเข้มข้น ปรุงรสด้วยน้ำซุปผักและผงกะหรี่ โรยหน้าเพิ่มความสวยงามด้วยครีมและกุยช่ายฝรั่ง
หากใครที่อยากลิ้มลอง Humar ในเมนูต่าง ๆ คุณสามารถหาทานได้ตามภัตตาคารในกรุงเรคยาวิก และร้านอาหารในเมืองเฮิฟน์ เนื่องจากเมืองนี้มีชื่อเสียงในด้านล็อบสเตอร์ มีเมนูจากกุ้งให้คุณลองชิมมากมาย ตั้งแต่พิซซ่าล็อบสเตอร์ไปจนถึงล็อบสเตอร์ย่างเสิร์ฟพร้อมด้วยเนยและกระเทียม
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
6. Pylsur เรคยาวิกฮอทด็อก
Pylsur มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า Reykjavik’s Hot Dog หรือ เรคยาวิกฮอทด็อก เนื่องจากฮอทด็อกชื่อดังเมนูนี้มีต้นกำเนิดมาจากกรุงเรคยาวิกที่เป็นเมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ ฮอทด็อกที่นี่ทำมาจากเนื้อวัว ผสมกับเนื้อแกะ และเนื้อหมู ทานควบคู่ไปกับท้อปปิ้งประเภทต่าง ๆ เช่น หอมทอด รีมูเลดครีม และมัสตาร์ด เหมาะกับการทานเล่นให้พออิ่ม จึงเป็นเมนูยอดฮิตสำหรับทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยว
ร้าน Pylsur ชื่อดังที่ได้รับความนิยมที่สุดในเมืองนี้ก็คือ Bæjarins Beztu เป็นร้านแผงลอยขายฮอทด็อกที่อยู่ในกรุงเรคยาวิกมาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1937 มีลูกค้าต่อคิวซื้อกันมากมาย โดยเฉพาะในเวลากลางคืนที่คนหาเมนูเบา ๆ ทานหลังมื้อเย็น หากคุณเดินเที่ยวชมเมืองจนหิว แล้วอยากหาเมนูอาหารไอซ์แลนด์ที่ทานง่าย ๆ รสชาติอร่อยสไตล์พื้นบ้านไอซ์แลนด์ในราคาคุ้มค่า และนำให้แวะมาร้านนี้เลย รับรองว่าต้องชอบแน่นอน
7. Rúgbrauð ขนมปังไรย์ไอซ์แลนด์
เป็นขนมปังที่มักทานคู่กับเมนูอาหารไอซ์แลนด์ประเภทอื่น ๆ แต่เดิมนั้นขนมปังประเภทนี้จะถูกนำมาใส่ในถังไม้หรือหม้อแล้วนำไปฝังไว้แถวบริเวณพ่อน้ำพุร้อน เพื่อให้ความร้อนจากพื้นทำการอบขนมปังจนสุก ด้วยเหตุนี้ Rúgbrauð จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าขนมปังไรย์น้ำพุร้อนนั่นเอง ทำให้รูปลักษณ์ของขนมปังออกมาเป็นสีเข้ม ขอบบาง เนื้อแน่น รสชาติหวาน สามารถเก็บไว้ได้นาน แม้สำหรับยุคปัจจุบันนี้การทำขนมปังจะถูกปรับเปลี่ยนไปอบในเตาไฟฟ้าแล้วตาม แต่รสชาติความอร่อยนั้นก็ยังคงเหมือนแบบเดิมไว้แทบทุกประการ
Rúgbrauð มักจะถูกนำไปเสิร์ฟคู่กับเมนูเนื้อแกะรมควัน ปลาเฮอริ่งดอง และเมนูจานอื่น ๆ ตามสมควร หรือจะนำมาทาเนยแล้วนำมาทานเฉย ๆ เป็นของว่างก็ได้เช่นกัน
8. Kleinur โดนัทเกลียว
ขอเปลี่ยนมาแนะนำเมนูของหวานกันบ้าง โดยเมนูที่เราอยากขอแนะนำก็คือ Kleinur หรือโดนัทเกลียวที่มีรูปทรงสุดแปลกตา หากใครชอบทานโดนัทเป็นประจำอยู่แล้วต้องกดไลค์เมนูนี้แน่นอน แต่เดิม Kleinur นั้นจะเป็นขนมที่มอบเป็นรางวัลให้กับผู้ที่เดินป่าพิชิตรอบเกาะ และทานได้แค่ในช่วงงานเทศกาล แต่ด้วยความนิยมที่มากขึ้นจึงมีการทำจำหน่ายอย่างแพร่หลายและหาทานได้ง่ายขึ้นในทุกช่วงเวลา
Kleinur จะเป็นโดนัทที่มีรูปร่างแปลกกว่าโดนัทอื่น ๆ คือจะเป็นแท่งเกลียวบิด เพิ่มรสชาติด้วยการเติมลูกจันทน์เทศและกระวานเข้าไป ปิดท้ายด้วยการโรยน้ำตาลเพิ่มความหวานเล็กน้อย ผิวโดนัทด้านนอกจะมีความกรอบแต่พอกัดไปจะพบกับความนุ่มของเนื้อใน เหมาะกับเป็นอาหารหวานปิดท้ายหลังจากที่ทานอาหารไอซ์แลนด์เมนูคาวมาก่อน
9. Hákarl ฉลามหมักซอส
ความหลากหลายของซีฟู้ดประเทศไอซ์แลนด์นั้นไม่ได้มีแต่เพียงปลาทั่วไป แต่ฉลามเขาก็จับมากินกันด้วย! แต่ว่าจะอร่อยกว่าหูฉลามในบ้านเราไหม คุณเองต้องลองพิสูจน์ดู
Hákarl หรือเนื้อฉลามหมักนั้นเป็นอาหารไอซ์แลนด์ที่ได้รับความนิยมจากคนท้องถิ่นมาเป็นเวลานาน โดยจะเป็นการนำฉลามกรีนแลนด์หรือฉลามสายพันธุ์อื่น ๆ มาทำการหมักด้วยซอสสูตรเฉพาะ และนำมาแขวนไว้ทิ้งให้แห้งประมาณ 4 – 5 เดือน แล้วจึงนำมาปรุงอาหาร สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาการถนอมอาหารของชาวไอซ์แลนด์ในสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้เมนูฉลามหมักนั้นจะมีกลิ่นคาวปลาอย่างรุนแรงผสม ๆ กับกลิ่นแอมโมเนีย แต่ก็มีรสชาติอร่อยถูกปากชาวไอซ์แลนด์ ดังนั้นเราจึงเตือนทุกท่านหากจะลองเมนูนี้ให้ทำใจเรื่องกลิ่นก่อนรับประทาน
Hákarl หรือปลาฉลามหมัก นั้นเป็นเมนูที่หาทานได้ง่ายตามร้านอาหารไอซ์แลนด์ทั่วไป สามารถสั่งมาทานได้ตลอดปี ส่วนใหญ่มักจะนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำมาเสิร์ฟแบบพอดีคำ หากทานควบคู่ไปกับเหล้า brennivín จะทำให้รสชาติดีขึ้น
10. Svið หัวแกะต้ม
อย่างที่กล่าวไปว่าอาหารไอซ์แลนด์นั้นมักทำมาจากเนื้อแกะ เราจะเห็นแกะถูกนำมาปรุงอาหารมากมายเช่น เนื้อแกะย่าง เนื้อแกะรมควัน ซุปเนื้อแกะ แต่ขอบอกเลยว่ามันธรรมดาเกินไป! ในเมื่อคุณมาเที่ยวไอซ์แลนด์ทั้งทีต้องลองทานเมนูหายากกันหน่อย จึงขอปิดท้ายอาหารไอซ์แลนด์กับเมนูเปิบพิสดารอย่าง Svið หรือหัวแกะต้ม ซึ่งต้องบอกเลยว่าเมนูนี่เป็นอาหารจานเด็ดที่ชาวไอซ์แลนด์นิยมกินกันอย่างแพร่หลาย
สำหรับเมนูหัวแกะต้มนี้จะมีขั้นตอนการทำก็คือนำหัวแกะทั้งหัวมาผ่าครึ่ง นำสมองออกจากหัวและนำขนโดยรอบออก จากนั้นนำมารมควันแล้วนำไปต้มประมาณ 2-3 ชั่วโมง เสิร์ฟพร้อมกับผักต่างๆ เช่น หัวผักกาดบดหรือมันฝรั่ง สำหรับรสชาตินั้นจะแปรผันไปตามส่วนที่คุณลองกิน โดยเนื้อรอบหัวก็จะมีรสชาติคล้ายเนื้อแกะทั่วไป แต่ส่วนลูกตาและลิ้นก็จะให้รสชาติแปลกไปอีกอย่างเมนูนี้จะทานได้ในช่วงเวลาเฉพาะอย่างช่วงการเฉลิมฉลองช่วงกลางฤดูหนาวประมาณกลางเดือนมกราคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์
สำหรับเมนูอาหารไอซ์แลนด์ที่ยกมานี้เป็นเพียงเมนูไฮไลท์ส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอาหารไอซ์แลนด์อีกมากมายที่รอให้คุณไปลองทานด้วยตัวเอง และถ้าคุณมีแผนจะเดินทางไปเที่ยวไอซ์แลนด์เมื่อใดก็เรียกใช้บริการจาก Artralux ได้เลย ซึ่งเราเป็นผู้บริการจัดแผนการท่องเที่ยวแบบส่วนตัว ให้คุณเที่ยวไอซ์แลนด์ในสไตล์ luxury ที่เหนือชั้นกว่าใคร มีรถเช่าพร้อมคนขับคอยรับส่งคุณถึงที่ พร้อมเดินทางเช็กอินสถานที่เที่ยวไอซ์แลนด์ครบตามที่คุณต้องการ นอกจากนี้ที่ไอซ์แลนด์ยังมีร้านอาหารหรือภัตตาคารชั้นนำมากมายที่จะเสิร์ฟอาหารท้องถิ่นไอซ์แลนด์ให้กับคุณ หากสนใจอยากทานอาหารไอซ์แลนด์ในร้านไหน เราก็มีบริการจองที่นั่งร้านอาหารให้กับคุณด้วย
สนใจติดต่อ Artralux ที่ 02-047-0083 หรือ ผ่านช่องทางไลน์ Line: @Artralux (มี @ นำหน้า)
📞 | 02-047-0083
💬 | (Line) https://bit.ly/3I9BJ42
แอดไลน์เพื่อวางแผนการท่องเที่ยว
